Home / แฟนตาซี / ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ / ตอนที่66 อ่านหนังสือไม่ออกแต่ส่งของขวัญเป็น

Share

ตอนที่66 อ่านหนังสือไม่ออกแต่ส่งของขวัญเป็น

last update Last Updated: 2025-01-26 13:33:40

หนิงหมี่ศิษย์เทพของหย่งฟางไม่รู้หนังสือเลยสักตัว นักพรตสาวจึงส่งโทรศัพท์แล้วเปิดแอปโต่วอิน หาครูสอนภาษาจีนระดับชั้นประถมปีที่หนึ่งที่กำลังไลฟ์สด ให้เทพธิดาน้อยเรียนออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน จากนั้นก็ค้นหาสมุดกับดินสอไว้ให้จดบันทึก นี่คงเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้รู้หนังสือได้

ในขณะที่หย่งฟางกำลังตั้งใจสวดมนต์ เพื่อส่งวิญญาณลูกแมว เธอก็หยิบลูกแก้วสีเทาจากครอบครัวตระกูลฉู่ขึ้นมาให้ฟังบทสวดไปด้วย หวังว่าลูกแก้วนั้นจะจางสีลงบ้าง แต่ลูกแก้วไม่พอใจและกระโดดดิ้นพล่าน "เจ้ากล้า ‘ส่งวิญญาณ’ ของข้าไม่มั่วๆ พร้อมเจ้าแมวนี่เหรอ! ข้าไม่ต้องการ! ข้าต้องการให้เป็นพิธีเฉพาะของข้าเท่านั้น!"

หย่งฟางขมวดคิ้ว "เธอคิดว่าตัวเองเป็นเทพผู้สูงส่งหรือยังไง? ฟังไปซะ!"

ลูกแก้วบินวนไปรอบๆ ไม่ยอ มจนกระทั่งไปเห็นว่าวัดแห่งนี้มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามา มันบินตรงไปหาหนิงหมี่เพราะสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณอ่อนเยาว์ ทั้งเทพน้อยและลูกแก้ววิญญาณ จ้องมองกันอย่างสนใจ

หนิงหมี่ถามด้วยความอยากรู้ “อาจารย์ ลูกแก้วนี้คือ…?”

ลูกแก้วส่งเสียง “เจ้าเป็นใคร? ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้า”

หนิงหมี่ยิ้ม “ข้าพึ่งมาวันนี้เอง ข้าเป็นศิษย์ของอาจารย์”

“เจ้ามองอ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่67 เจอผู้ต้องหา

    เช้าวันอาทิตย์ ท้องฟ้าเหนือวัดเสวียนเว่ย เต็มไปด้วยเมฆปกคลุมแสงแดดไปกว่าครึ่ง ที่ลานกลางมีโต๊ะเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตัว วางอุปกรณ์เขียนหนังสือ กระดาษ และตำรามากมาย หนิงหนี่หยิบพู่กันขนาดเล็ก ที่มีขนแหลมจากแท่นวางพู่กันไม้หอม ยื่นให้กับอาจารย์หย่ง ก่อนจะบดหมึกในถ้วยบดทองคำ และนั่งลงบนม้านั่งเล็กๆ ข้างหย่งฟาง แล้วเริ่มเขียนตัวอักษรเสียงสระในสมุดบันทึกการฝึกเขียนที่นักพรตสาวซื้อให้ เรียงสระไปทีละบรรทัดเทพธิดาน้อยในชุดเสื้อคลุมเต๋าสะอาดเอี่ยม ผมของเธอถูกรวบขึ้นมวยด้วยปิ่นไม้เรียบง่าย ดูสงบเสงี่ยม ไม่มีภาพลักษณ์เทพตัวน้อยที่เอาแต่ใจเหมือนตอนแรกๆ อีกแล้ว เพียงแต่ปิ่นไม้อันนั้นคืออันสุดท้าย หย่งฟางมีปิ่นไม้ทั้งหมดห้าอัน แต่หนิงหนี่ใช้ไปแล้วอันหนึ่งหายไปอีกอัน จนอันสุดท้ายก็ตกเป็นของเธอจนได้ในลานของศาลเจ้า นักพรตหญิงหย่งฟาง ปล่อยผมยาวสีดำสนิทดุจหมึกลงมาเหมือนน้ำตก สะท้อนผิวที่ขาวละเอียดของเธอ ทำให้ใบหน้าที่เย็นชาแต่งดงาม ดูโดดเด่นดุจดอกชาในหุบเขา ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หย่งฟางปรับการทำงานและสังเกตดูพฤติกรรมของลูกศิษย์ทุกคน เมื่อตัดสินใจรับคนทั้งห้าเข้าสำนักแล้ว เธอก็ต้องใส่ใจให้มากขึ้น หลังเลิกง

    Last Updated : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่68 จากแฟนกลายเป็นฆาตกร

    หวงอิงเสวี่ยกับแฟนหนุ่มเดินออกจากวิหารหลักแล้ว ที่หน้าประตูคือโต๊ะเขียนยันต์ของหย่งฟาง หวงอิงเสวี่ยมองแถวขอยันต์ที่ยาวเหยียด รู้สึกลังเลว่าจะขอสักแผ่นดีไหม เธอเพิ่งได้รับคำทำนายไม่เป็นมงคลมา ทำให้รู้สึกไม่ไว้ใจวัดเซวียนเว่ยเท่าไหร่นัก แต่เมื่อนึกถึงพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย ก็คิดว่าขอเครื่องรางป้องกันภัยไว้บ้าง เพื่อความสบายใจของพวกท่านก็คงดีหญิงสาวจึงดึงแขนเสื้อสีเหลืองของแฟนหนุ่มเบาๆ แล้วพูด “เราขอสักสี่แผ่นก็แล้วกัน เก็บไว้สองแผ่น อีกสองแผ่นแบ่งไปให้พ่อแม่ของพวกเราทั้งคู่ดีไหม?”กวนอันขมวดคิ้วพลางกลืนน้ำลายลงคอ ไม่รู้เพราะอะไรหลังจากไหว้เสร็จ เขากลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างประหลาด ปากคอแห้งผาก แต่เมื่อเห็นนักพรตหญิงเขียนยันต์ด้วยท่าทางตั้งใจ เขาก็ยอมทำตามความต้องการของแฟนสาว การได้ดูคนหน้าตาดีก็ทำให้รู้สึกสดชื่นไปได้เหมือนกัน ทั้งสองจึงยืนต่อแถวอย่างสงบหย่งฟางสังเกตเห็นและจงใจถ่วงเวลา เขียนยันต์ช้าๆ โดยไม่มีใครเร่ง พร้อมทั้งจับตาดูชายคนที่เธอกำลังเฝ้ามอง แต่ไม่นานนักแค่สองสามนาที กวนอันก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นความรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกเขาพยายามข่มใจ แต่สุดท้าย

    Last Updated : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่69 เพื่อนเก่า

    เย็นวันศุกร์เวลา 19.00 น. เมื่อ เหอจือ กลับมาถึงบ้านเช่าที่เธอแชร์อยู่ด้วยความรีบร้อน กดโทรศัพท์คุยกับแม่อย่างไม่พอใจ“แม่ ถ้าป่วยก็ไปหาหมอสิคะ จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”แม่ตอบกลับอย่างลังเล “ก็แค่ปวดบ่ากับหลัง แล้วก็ผิวแห้งน่ะ คงเพราะทำงานมากไป เดี๋ยวพักอีกสองวันแล้วทาโลชั่นหน่อยก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”เหอจือรู้สึกหมดเรี่ยวแรง เธออยู่ห่างจากบ้านเป็นพันไมล์ จึงไม่สามารถดูแลทุกเรื่องในครอบครัวได้ ทำให้รู้สึกผิดอยู่เสมอ แต่พอแม่โทรมาเล่าให้ฟังว่าตรงนั้นไม่สบาย ตรงนี้ไม่สบาย เธอส่งเงินให้แม่ไปหาหมอ แต่แม่กลับไม่ยอมไป บอกว่าไม่อยากเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์บางครั้งเหอจือเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จะให้กลับบ้านทุกครั้งที่แม่มีอาการปวดหัว เป็นไข้ ก็เป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเธอโอนเงินไปให้แม่อีกสองพันหยวน พร้อมบอกว่า “ค่ารักษาฉันให้แม่แล้วนะ จะไปหาหมอหรือไม่ไปก็แล้วแต่แม่เลย”ฝั่งแม่ถอนหายใจพลางบ่น “จือจือ การทำงานในเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เก็บเงินไว้ใช้บ้างเถอะ”เหอจือเริ่มไม่พอใจ “แม่คะ ฉันต้องทำงานต่อ แค่นี้ก่อนนะคะ” แล้วเธอก็ปิดหน้าจอโทรศัพท์ วางมันลงบนโซฟาปัจจุบันเหอจือทำงานเป็นนักออกแบบตั

    Last Updated : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่70 ให้ฉันกินสักคำ

    ทั้งสามคนปีนขึ้นไปถึงวัดเสวียนเว่ยตอนบ่ายสองครึ่ง คิวของคนที่มาจุดธูปไหว้ยาวไปจนออกไปนอกอาราม เหมือนหางมังกร ยังไม่ทันได้เข้าไปก็ได้กลิ่นธูปหอมอบอวลลอยมา กลิ่นหอมละมุนช่วยให้จิตใจรู้สึกสงบผ่อนคลายทันทีเดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็ต้องต่อคิวไม่เว้นแม้กระทั่งวัด และดูเหมือนผู้คนที่นี่ดูชินเสียแล้ว ใบหน้าทุกคนเลยไม่มีแววความหงุดหงิด ไม่ส่งเสียงดัง ต่างพูดคุยเบาๆ กับเพื่อนว่ารอจะขอพรอะไรจากเทพเจ้าหลักของวัดและศาลบรรพบุรุษฉืออี๋กระซิบกับเหอจือ “ที่นี่ก็ฮิตมากนะ กลายเป็นวัดยอดฮิตไปแล้วใช่มั้ย…”มีร้านน้ำชาร้านหม้อไฟยอดฮิต แล้วทำไมจะมีอารามยอดฮิตไม่ได้ล่ะ? เจียวหยวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์หาหย่งฟาง ไม่นานก็เห็นเพื่อนสาวในชุดนักพรตเต๋าออกมาจากประตูต้อนรับพวกเธอ หย่งฟางรับถุงอาหารจากมือพวกเพื่อนคนละถุงแล้วพาเข้าไปในวัด พาเลี่ยงคิวผู้คนมายังห้องครัวเล็กๆ หย่งฟางวางอาหารทั้งหมดไว้บนเคาน์เตอร์ แล้วหยิบโยเกิร์ตในตู้เย็นออกมาสามขวด ยื่นให้พวกเพื่อนๆ พลางถาม “เหนื่อยไหม?”ฉืออี๋รีบส่ายหน้า “ภูเขาที่นี่น่ามหัศจรรย์มาก ทางขึ้นนี่เดินสบายไม่เวียนหัว ไม่เหนื่อยเลย ต่างกับภูเขาที่อื่นขึ้นแล้วมักจะหายใจไม่ทัน”เห

    Last Updated : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 71 วิญญาณงูมังกร

    ภายในห้องโถงด้านข้าง หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวหน่วนเหมือนคนหิวโซ คว้ากับข้าวอย่างบ้าคลั่ง กินข้าวไปสามชาม อาหารถูกกินไปกว่าสองในสาม เมื่อวางตะเกียบลง น้ำตาใสๆ ไหลรินออกมาสองสายฉืออี๋: ไม่ถึงกับต้องขนาดนั้นหรอกนะ?หย่งฟาง: อืม แปลกดีหลังจากหญิงสาวกินเสร็จ เธอลูบหนวดอันยาวที่ไม่มีอยู่จริง จากนั้นก็หลับตาลงศีรษะทิ่มลงบนโต๊ะอาหารอย่างแรง“ปัง!” เสียงดังและเธอก็นิ่งสนิทไป “เธอ...นี่เป็นเพราะกินจนหลับไปใช่ไหม?” ฉืออี๋งงงวยหย่งฟางไม่พูดอะไรสามวินาทีต่อมา หญิงสาวลืมตาขึ้นอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ ด้วยความงุนงงเธอแค่หมดสติไปเพราะน้ำตาลในเลือดต่ำ อยู่ๆ ก็มาโผล่ในห้องนี้ได้ยังไง ข้างๆ เธอมีหย่งฟางนั่งอยู่ด้วยเสี่ยวหน่วนพูดอย่างตะกุกตะกัก “ยะ...อาจารย์หย่งฟาง?! พวกคุณช่วยพาฉันมาพักงั้นเหรอ…”พูดจบเธอก็มองไปที่อาหารบนโต๊ะ และพบว่าข้างหน้าเธอมีชามข้าวเปล่าที่สะอาดหมดจด...หญิงลูบท้องที่อิ่มจนแน่น ถึงแม้ว่าจะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนหมดสติ แต่เหมือน...เหมือนจะเป็นเธอที่กินไปเองสินะ? เสี่ยวหน่วนไม่เข้าใจว่าตัวเองกินเข้าไปได้ยังไง สมองของเธอไม่สามารถประมวลผลเหตุการณ์ทั้งหมดได้หย่งฟางบอก “กินเส

    Last Updated : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่72 ครอบครัวเหอ

    ในวิดีโอเมื่อสักครู่คนธรรมดาย่อมมองไม่เห็น วิญญาณของงูใหญ่นั้นพันร่างของคุณแม่เหอ จากเอวไปจนถึงสะโพก หางของงูม้วนรัดขาทั้งสองข้าง และขยับไปมาอย่างช้าๆ หัวงูขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากใต้หมวกฟาง พ่นลิ้นสีแดงยาวออกมา และจ้องมองตรงไปยังหน้าจอ ที่มีเหอจือและหย่งฟาง นักพรตสาวไม่แสดงอาการอะไรและไม่สบตากับมันส่วนเหอจือมองไม่เห็นอะไร แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเมื่อได้ยินคำพูดของหย่งฟาง ทำให้ใจที่ค่อยๆ ผ่อนคลายกลับเต้นแรงขึ้นไปถึงคอ เธอเปิดปากเหมือนจะถามอะไรบางอย่าง แต่ความกลัวในจิตใต้สำนึก ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากรู้มากเกินไป เพราะเธออาจจะรับไม่ไหว ใช่แล้ว! ต่อให้รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกลับบ้าน และในระหว่างทางก็ยังมีหย่งฟางหลังจากพูดจบ หย่งฟางไม่ได้พูดถึงรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ผู้หญิงทั้งสามตกใจมากเกินไป เนื่องจากตอนนี้พวกเขากำลังขับรถอยู่ เมื่อถึงสถานีรถไฟความเร็วสูง เจียวหยวนและฉืออี๋ก็พาทั้งสองคนไปที่จุดเข้าประตูฉืออี๋พูดขึ้น “ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาสถานีรถไฟความเร็วสูงสองครั้งในวันเดียว”เหอจือถาม “พวกเธอมีแผนการอะไรต่อไปไหม?”ฉืออี๋แม้จะไม่ค่อยม

    Last Updated : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่73 เสี่ยวหลงหวัง

    พ่อกับแม่ของคุณเหอจือยังไม่เข้าใจสถานการณ์ จึงรีบเดินตามหย่งฟางออกมา นักพรตสาวก้าวไปหยุดที่ข้างตู้ทีวี วางมือลงบนโหลแก้วขนาด 5 ลิตร แล้วถามเสียงเรียบ“เหล้างูนี้ พวกคุณทำเองหรือซื้อมา หรือว่ามีใครให้มาคะ?”ภายในโหลแก้วนั้นเต็มไปด้วยของเหลวสีเหลืองขุ่น มองเห็นงูตัวหนึ่งถูกหั่นเป็นท่อนๆ แช่อยู่ในน้ำพร้อมสมุนไพรหลากชนิดคุณพ่อเหอตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก “ก็... ซื้อมาแหละ ตอนนั้นอาอี้ชอบบ่นปวดหลังกับปวดเอวบ่อยๆ หมอแผนจีนคนหนึ่งแนะนำให้ใช้น้ำเหล้าดองงูทาเพื่อบรรเทา แล้วพอดีเมื่อไม่กี่เดือนก่อน มีคนตีงูบนเขาหลังบ้าน เราเห็นก็เลยซื้อมา แล้วทำตามที่หมอสอนให้ดองกับสมุนไพร... มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับ?”หย่งฟางมองพวกเขาด้วยสายตาคมกริบ ก่อนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง“หลังจากที่ดองเหล้างู พวกคุณรู้สึกว่าผิวแห้ง หรือมีอาการคันบ้างไหมคะ?”คุณแม่เหอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า แล้วค่อยๆ ยกขากางเกงขึ้นเผยให้เห็นผิวหนังที่มีลักษณะผิดปกติ ขาของเธอมีเกล็ดบางๆ ซ้อนกันอยู่เหมือนเกล็ดงู เธอลูบเกล็ดนั้นเบาๆ ก่อนเริ่มเกา แต่แทนที่จะหลุดออกเป็นปกติ กลับมีเสียงดัง "แกร็กๆ" และเศษเกล็ดตกลงมาเป็นชิ้นเล็กๆ

    Last Updated : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่74 ธูปหอมดึงดูด

    วิญญาณงูขนาดมหึมาแหวกว่ายวนรอบตัวหย่งฟาง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหลมเยือกเย็นว่า "นักพรตน้อย เจ้าจะช่วยพวกมันจริงหรือ?"หย่งฟางเปลี่ยนมาสวมชุดธรรมดา ไม่ใช่ชุดทางการ เหมือนจงใจลดความเป็นทางการเพื่อเจรจา กลิ่นพลังวิญญาณที่อบอวลอยู่รอบตัวเธอดึงดูดความสนใจของงูมังกรยักษ์ วิญญาณของมันสัมผัสได้ถึงพลังที่เข้มข้นจนทำให้มันหยุดเคลื่อนไหวชั่วขณะ หย่งฟางยืนสงบนิ่งอยู่ใต้ร่างใหญ่นั้น ก่อนจะค่อยๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคงและสุภาพ"สามีภรรยาเหอทำผิดจริงก็จรง แต่ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคนลงมือปลิดชีวิตท่าน หากท่านงูมังกรน้อยเมตตา โปรดปล่อยพวกเขาไปเถิด"งูยักษ์ที่มีเขาสองเขา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเตรียมเข้าสู่ขั้นที่สูงขึ้นของการฝึกตนหัวเราะเย็นชา มันเลื้อยไปมาช้าๆ รอบตัวหย่งฟาง แล้วกล่าวเสียงกร้าว "ข้าถูกพวกมันหั่นร่างเป็นชิ้นๆ แช่ในโหลดอง! ข้าถูกพรากโอกาสในการเกิดใหม่และการฝึกตน! เจ้าคิดว่าเพียงคำขอโทษจะชดใช้ได้หรือ?"คำพูดของงูมังกรดังก้องในบ้าน พร้อมกับฟ้าผ่าและพายุฝนที่นอกบ้าน เสียงคำรามนั้นสะท้อนความโกรธแค้น จนทุกคนในครอบครัวเหอสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว แม่เหอทรุดลงร้องไห้ ส่วนพ่อเหอหน้าซีดจนแทบไม่มีแรงยืน

    Last Updated : 2025-01-26

Latest chapter

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่85 ใครเคาะประตู (จบเล่ม2)

    หอพักหญิง อาคาร 3A หน้าห้อง 702หลังจากหญิงสาวในห้อง 701 บอกว่า “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่” คำพูดนั้นทำเอาสาวๆ จากห้อง 602 กรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด ถ้าห้อง 702 ไม่มีใครอยู่ แล้วเสียงฝีเท้าเหล่านั้นมาจากไหน?เสียงกรีดร้องทำลายความเงียบของค่ำคืน ไฟทางเดินที่ควบคุมด้วยเซ็นเซอร์เสียงสว่างวาบขึ้นทีละชั้น เสียงโลหะขูดพื้นดังมาจากชั้นล่าง คุณป้าผู้ดูแลหอพักเปิดประตูห้องพัก รีบมองจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด แล้วกดลิฟต์ขึ้นมายังชั้น 7“เอะอะอะไรกัน! เสียงดังจนคนทั้งตึกได้ยิน!” เมื่อมาถึง คุณป้าผู้ดูแลตำหนิ ก่อนหันไปมองเด็กๆ “พวกเธอห้อง 602 ใช่ไหม? มาเดินเพ่นพ่านอะไรตอนนี้? ไม่รู้เหรอว่าห้ามออกจากห้องหลังไฟดับ?”หญิงสาวจากห้อง 701 รีบช่วยอธิบาย “พวกเธอบอกว่าได้ยินเสียงคนเดินในห้อง 702 เลยขึ้นมาดู...คุณป้า ห้อง 702 มีใครอยู่หรือเปล่าคะ?”คุณป้ามองพวกเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว”คำตอบนั้นทำให้สาวๆ จากห้อง 602 ใจหายวาบ หญิงสาวจากห้อง 701 เริ่มลังเลก่อนถามด้วยเสียงสั่น “ป้า... รุ่นพี่บอกว่าหอพักหญิงที่นี่มีผี เรื่องนั้นจริงหรือเปล่าคะ?”“พวกเธออย่าไปเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนั้น” คุณป้

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่84 หอพักหญิง

    "รับคำทำนายก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน" หย่งฟางเอ่ยขึ้นพลางมองแถวคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังมีผู้หญิงสี่คนเข้ามาถามคำทำนายทีละคน สองคนถามเรื่องการเรียน อีกสองคนถามเรื่องความรัก กุ่นกุ่นช่วยตอบคำทำนาย หย่งฟางไม่ได้พูดเสริมอะไร มีเพียงกระซิบเบาๆ "ทำนายได้ดีมาก จากนี้ลูกค้าอื่นๆ ให้คุณดูแลคนเดียวเลย ทำให้มั่นใจหน่อย อย่าพูดติดขัด ถ้าคิดว่าจะติดก็พูดคำสำคัญสั้นๆ ก็พอ"กุ่นกุ่นพยักหน้า เรื่องนี้เฒ่ากัวเคยสอนเขามาก่อนแล้ว แนะนำให้พูดแบบเว้นจังหวะบ้างเพื่อให้ดูเป็นปริศนาและน่าเกรงขาม จากนั้นหย่งฟางพาผู้หญิงสี่คนไปยังห้องน้ำชา ขอให้พวกเธอดื่มชากันคนละแก้ว"ฉันก็ไม่คิดว่าเราจะได้เป็นเพื่อนร่วมสถาบันกัน ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่เรียนที่วิทยาลัยศิลปะถานจิง ตอนฉันเห็นภาพวาดกับชื่อพี่ในห้องแสดงผลงาน" ฉู่เสี่ยวเฉียวพูดขึ้นรูมเมตของเธอพยักหน้า "ใช่เลย หย่ง...อาจารย์" ผู้หญิงคนนั้นลังเลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเรียกหย่งฟางว่าอะไรดี"ทำไมเธอถึงไม่มีรูปอยู่ในชั้นวางศิษย์เก่าที่โดดเด่นล่ะ?"หย่งฟางยิ้มก่อนตอบ "เคยเห็นใครทำงานด้านศาสตร์ลึกลับ แล้วไปเป็นศิษย์เก่าที่โดดเด่นบ้างไหม?"คำพูดนั้นทำให้ผู้หญิงทั้งหมดหัวเราะออกมา ข

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่83 ไม่รู้หนังสืออีกคน!

    [สุดยอดไปเลย หย่งฟางไปหาลูกศิษย์มาจากที่ไหนนะ ทั้งหนิงหมี่และหลงหยวนหยวนเ หมาะจะไปเป็นไอดอลทั้งกลุ่มหญิงและชายได้เลย][หย่งฟางเปิดบริษัทจัดการบันเทิงไปเลยเถอะ]ในที่สุด #เสวียนเว่ยเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ย) ก็กลายเป็นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ #วัดเสวียนเว่ย (#ศาสตร์ลึกลับของหย่งฟาง)เหล่าชาวเน็ตช่วยกันแบ่งตำแหน่งให้เสร็จสรรพแล้ว[#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ยCEO: หย่งฟาง อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง: หนิงหมี่ อันดับหนึ่งฝ่ายชาย: หลงหยวนหยวน][ส่วนอาจารย์อ้วน กับอีกสามคนก็เป็นผู้จัดการไปละกัน]เหล่าลูกศิษย์มนุษย์ที่คอยติดตามข่าวในโซเชียลเกี่ยวกับวัด: หือ?หยิบโทรศัพท์เก็บกลับไป มองดู ‘อันดับหนึ่งฝ่ายชาย’ และ ‘อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง’ตอนนี้เป็นช่วงหกโมงเย็น หลังจากทานอาหารเสร็จ สองคนนี้ก็สู้กันตั้งแต่ฝั่งตะวันออกไปจนถึงฝั่งตะวันตก เพื่อแย่งควันธูปกัน นี่กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ของอันดับหนึ่งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายที่ต้องทำทุกวันไปแล้วเพราะหย่งฟางแจกควันธูปอย่างเท่าเทียม ตอนแรกให้ทั้งคู่คนละสองแท่ง แต่หนิงหมี่ไม่พอใจ “ข้าทำงานตั้งขนาดนี้ ส่วนเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงได้เท่ากับข้า! ข้าไม่สน จ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่82 ได้ศิษย์เพิ่ม

    ณ จุดนี้ในวัดเสวียนเว่ยมีสมาชิกทั้งหมดแปดคนเจ้าของอาราม: หย่งฟางศิษย์: หนิงหมี่, เฒ่ากัว, ห่าวจาวไฉ, จินเหยาไต้ ,ไฉหยวนกุ่นกุ่นผู้พักชั่วคราว: วิญญาณลูกกลมสีเทาผู้ไม่ได้รับเชิญ: หลงหยวนหยวนทั้งแปดคนนี้ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตจากสี่ประเภท ได้แก่ คน เทพ วิญญาณ และปีศาจ"อาจารย์หย่ง คุณคิดจะเก็บสิ่งมีชีวิตทั้งหกไว้ที่นี่หรือ?" ห่าวจาวไฉโบกพัดกระดาษพร้อมถามหย่งฟางเผยยิ้มขมเล็กน้อย จะพูดอย่างไรดี? ตัวตนของหนิงหมี่กับหลงหยวนหยวนนั้น ไม่ใช่ว่าเธอเต็มใจรับเข้ามา คืนนี้พระจันทร์สีเงินส่องสว่างกลางท้องฟ้า หลังจากที่หย่งฟางไหว้เทพเจ้าวัดเสร็จ เธอก็เดินออกจากวิหารหลัก หนิงหมี่กับวิญญาณลูกบอลกลมสีเทา ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนในลาน กำลังตั้งใจเรียนวิชาภาษาชั้นประถมปีที่ 1 ที่ถ่ายทอดสด คราวนี้หย่งฟางเรียนรู้แล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ตั้งค่าใหม่ให้พวกเขาใช้ขณะเดียวกัน หลงหยวนหยวนที่โดนสองสาวรังเกียจ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนอีกฝั่ง เจ้าหนุ่มชุดดำไม่สนใจเลยที่ตนเองไม่ได้รับความชื่นชอบจากใคร แค่เอนตัวรับลมเย็นอย่างสบายใจ ด้านเฒ่ากัวกับคนอื่นๆ เตรียมไฟฉายและพร้อมจะลงจากภูเขากลับบ้าน"เดี

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่81 เสี่ยวหลงหวังจอมเจ้าเล่ห์

    "อย่างพี่สาวเหอ ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนดีมากๆ ไม่เคยทำเรื่องไม่ดีเลย แถมครอบครัวก็ใจดี แม้ว่าเราจะพูดกันไม่นาน แต่ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกัน แต่อย่างที่บอก พราะเธอเป็นคนดี ฉันก็ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่""ส่วนเรื่องจางยู่เฟ่ย ตั้งแต่ฉันมาที่โลกมนุษย์ ฉันก็เริ่มรู้แล้วว่ามีคนที่ไม่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง หลายคนชอบหาทางลัด ถ้ามันเป็นทางที่ถูกต้องก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ค่อยเจอคนที่พยายามหาทางพึ่งพาคนอื่นแบบเธอ ทั้งที่เธอก็มีแขนขาครบ มีโอกาสมากมาย แต่กลับเหมือนมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง คิดแค่ว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชาย" หนิงหมี่พูดไปพร้อมกับทำท่าห่อไหล่เหมือนแมวน้อยที่กำลังครุ่นคิด"แต่พอคิดถึงเป่าฟู่กุ้ยและภรรยาของเขา ฉันก็รู้สึกว่าในโลกมนุษย์ก็ยังมีสิ่งดีๆ บ้างเหมือนกัน" หนิงหมี่พูดสรุปว่า "มนุษย์นี่ซับซ้อนจริงๆ ฉันไม่เข้าใจเลย"หลังจากที่ออกไปทำงานนอกสถานที่มาแค่สองวัน เทพธิดาน้อยก็ได้สัมผัสกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ พนักงานบนเครื่องบินเชิญพวกเธอไปยังห้องอาหาร หลังจากทานอาหารจนอิ่มหนำแล้ว หนิงหมี่ก็รู้สึกดีขึ้น"เป่าฟู่กุ้ยสุดยอดจริงๆ!" หนิงหมี่คิด "อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องนอนขดตัวอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่80 ใครรวยกว่ากัน

    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอนักพรตสาวตัวน้อย กลุ่มเฮ่ยไป่อู่ฉางก็รีบตื่นเต้นและวิ่งเข้าหาเธอ “หย่งน้อย เธอดูอ้วนขึ้นนะ!”“จะทักทายกันแบบสุภาพกว่านี้ไม่ได้หรือไงคะ?” หย่งฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์ยมทูตขาวผู้เป็นพี่สาว ยื่นมือไปหยิกแก้มเธอทันที “ฉันหมายถึงหน้าเธอดูมีเนื้อขึ้นนะ! เมื่อก่อนเธอผอมกว่านี้”หย่งฟางสะบัดมือของเธอออกเหมือนปัดแมลงวันยมทูตดำก็ทักขึ้นบ้าง “ถ้าจะให้สุภาพ ฉันก็ทำได้” จากนั้นเขาก็พูดต่อ “หย่งน้อย เราเสมือนญาติผู้ใหญ่เห็นเธอเติบโตมาตลอด เธอก็ไม่ได้มาเยี่ยมเราเลย เราคิดถึงเธอ…”ยมทูตขาวพูดเสริมทันที “…พวกเราอยากได้ธูปหอมบ้างน่ะ”นี่แหละคือวิธีทักทายของพวกเขา หย่งฟางไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ย่อตัวลงเปิดกระเป๋าเดินทาง แล้วหยิบธูปสองดอกออกมาหนิงหมี่เบิกตากว้าง “นั่นมันของฉันนะ!!” พูดจบก็พยายามจะแย่ง แต่หย่งฟางก็หลบมือไปจุดไฟ แล้วส่งให้ยมทูตขาวดำทันที“แค่นิดเดียว อย่าไปหวงนักเลย เด็กเล็กก็แบบนี้แหละ ชอบหวงของ”ยมทูตขาวดำกินควันธูปอย่างพอใจจนตาหรี่ลงเป่าฟู่กุ้ยมองยมทูตทั้งสองที่กำลังเคลิบเคลิ้ม…พวกเขาไม่ได้มารับเมียเขาไปโลกหลังความตายเหรอ? แล้วทำไมมานั่งกินของฝากที่บ้า

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่79 ได้เวลาต้องไป

    เปาฟู่กุ้ยมองนักพรตสาวด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงลังเล "ผม...ผมจะได้เจอเธอจริงๆ เหรอ? ภรรยาของผมไม่ได้...ไปอยู่ที่ยมโลกแล้วหรอกเหรอ?""ภรรยาของคุณน่าจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา เพียงแต่ช่วงนี้เธอคอยเฝ้าดูจางยู่เฟ่ยอยู่ เพราะสงสัยว่าคนคนนั้นจะทำอะไรแปลกๆ เราเลยไม่เห็นวิญญาณเธออยู่ในบ้านคุณตั้งแต่แรก" หนิงหมี่อธิบาย"ผม...ผมอยากเจอเธอ!" เปาฟู่กุ้ยพูดด้วยความรู้สึกสดใสขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับได้รับพลังชีวิต ใบหน้าของเขาดูเปล่งปลั่งทันที ทันใดนั้นก็นึกถึงสภาพตัวเอง จึงรีบลูบหนวดเคราที่เพิ่งงอกยาวและกล่าวออกไป "เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวผมต้องจัดการตัวเองก่อน ภรรยาผมไม่ชอบที่ผมดูสกปรกแบบนี้"หลังจากพูดจบ เปาฟู่กุ้ยลากตัวที่ดูอ้วนกลมขึ้นไปชั้นบน เพราะอาการบวมจากยาต้านซึมเศร้า เมื่อเขากลับลงมาอีกครั้ง หย่งฟางและหนิงหมี่ ก็ได้เห็นเปาฟู่กุ้ยในลุคใหม่ที่สะอาดสะอ้าน เขาโกนหนวดโกนเคราจนเกลี้ยงเกลา สระผมจนหอมสะอาด ใบหน้ากลมอวบอิ่มดูสดใสขึ้นทันที เขาใส่สูทสากลและเนคไทเรียบร้อย สวมรองเท้าหนังแม้หน้าตาของเขาจะไม่หล่อเหลามากนัก โดยเฉพาะส่วนแก้มที่อ้วนดูเหมือนผู้ชายธรรมดา แต่ในลุคนี้เขากลับดูอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่78 คาถาสะท้อนกลับ

    หลังจากที่จางยู่เฟ่ยพ่นเลือดออกมา หมอกสีเทาที่วนเวียนอยู่ระหว่างคิ้วของเปาฟู่กุ้ย ก็พลันสลายหายไปทันที แม้ว่าจางยู่เฟ่ยจะมองไม่เห็นพลังงานลี้ลับเหล่านี้ แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อท่านประธานทำตามคำแนะนำของสาวน้อยข้างกายเถ้าแก่เปาเปิดตาขึ้น ยกมือออกหู และมองเลขาอีกครั้งด้วยสายตาที่กลับมาสดใส ปราศจากอาการลุ่มหลงผิดปกติใดๆ จางยู่เฟ่ยตกใจ รีบควานหาบางสิ่งในกระเป๋าของตัวเอง แต่กลับพบว่ามันหายไป“หาอันนี้อยู่หรือเปล่า?” น้ำเสียงเย็นชาแฝงความเหนือชั้นดังมาจากหย่งฟางเมื่อจางยู่เฟ่ยหันไปมอง ก็พบว่ากระดาษยันต์สามเหลี่ยมในมือของหย่งฟาง ถูกฉีกเป็นสองส่วนอย่างเรียบร้อยหนิงมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มขำ ส่วนหญิงสาวในชุดขาวร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับจางยู่เฟ่ย เธอยกนิ้วโป้งให้หนิงมี่ด้วยความชื่นชมใบหน้าของวิญญาณสาวผู้นี้ คือใบหน้าเดียวกันกับหญิงสาว ในภาพถ่ายที่พบในห้องใต้หลังคา ใช่แล้ว... ภรรยาของเปาฟู่กุ้ยยังไม่ได้ไปสู่สุคติ ช่วงนี้เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของสามี และหลังจากจับตามองเลขาส่วนตัว ก็พบว่าคู่กรณีใช้คาถามาควบคุมใจสามีของเธอเธอก็พบว่านักพรตสาวจากสำนั

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 77 คาถาชิงรัก

    เมื่อวางสายไปใบหน้าของเถ้าแก่เปาแสดงอาการหลงใหล ราวกับถูกบางสิ่งควบคุม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความคิดถึงอย่างท่วมท้น หย่งฟางรีบสวดคาถาเคลียร์จิตใจ ก่อนจะใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าผากของเขา ความอ่อนโยนที่เคยแสดงบนใบหน้าของเปาฟู่กุ้ย หยุดชะงักราวกับถูกหยุดเวลา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาเป็นปกติ แต่ยังคงมีท่าทางงุนงงหย่งฟางเปิดปากถาม "คนที่โทรหาคุณเมื่อกี้คือใคร?""คะ...คือ...เลขาของผม จางยู่เฟ่ย..." เปาฟู่กุ้ยมองหน้าหย่งฟางและหนิงหมี่ด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอครับ?" ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถจำความรู้สึกอ่อนโยน และความรักใคร่ที่เคยมีเมื่อครู่ได้เลยหนิงหมี่หันไปมองอาจารย์และกระซิบเบาๆ "คาถาชิงรัก"หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเปาฟู่กุ้ย "ตอนที่คุณโชคร้ายก่อนหน้านี้ มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณคุยกับเลขาของคุณเสร็จใช่ไหม?"เปาฟู่กุ้ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มจำได้ "เหมือนจะใช่ แต่ว่าช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยเจอโชคร้ายแล้วนะ"หย่งฟางอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบ "เพราะช่วงนี้คุณไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเธอเลย คาถาชิงรักคือการที่คุณถูกทำให้ตกหลุมรักคนที่ร่ายคาถานี้ ในตอนแรกคุณยังมีสติ คุณสาม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status