แชร์

ตอนที่64 ไม่ได้อ่อนแอนะ

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-26 13:33:20

หย่งฟางรู้สึกว่าเธอประมาทไป แม้จะยังไม่ได้ทำพิธีรับหนิงหมี่เป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ แต่หนิงหมี่ก็ไม่ใช่คนธรรมดา เธอเป็นเทพธิดาที่อยู่ในระดับเดียวกับเทพเจ้า ดังนั้นธูปที่จุดเพื่อเทพเจ้า หนิงหมี่สามารถตีความคำอธิษฐานได้หากต้องการ

หลังจากหย่งฟางตระหนักถึงจุดนี้ เธอก็รีบยกเลิก "การทำนายคำอธิฐานจากธูป" นี้อย่างรวดเร็ว จนแม้แต่เฒ่ากัวและพรรคพวกก็ยังไม่รู้เรื่อง แต่ตอนนี้วิหารเล็กๆ กลับแน่นไปด้วยผู้คนหลากอารมณ์ บ้างก็ร้องไห้ บ้างก็หัวเราะ บ้างก็ดูเหมือนสติไม่อยู่กับตัว บ้างก็เหมือนสูญเสียแสงในดวงตา ราวกับพบเจอความจริงที่ไม่น่ารับได้ ความลับดำมืดที่ถูกปิดบังมานานถูกเปิดเผยออกมา ทุกคนรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าหนีกลับ

ทำไมคนอื่นได้ฟังความลับของฉัน แต่ฉันกลับไม่ได้ฟังความลับของคนอื่นล่ะ?! จะยอมกันไปไม่ได้! ต่างคนต่างคิดในใจว่าจะถอยก็ไม่ได้ จะชนะก็ไม่มีทาง

“พ่อของหมิงจื้อ อย่าเพิ่งรีบ ฉันจะตีความคำอธิษฐานของแม่ของเสี่ยวคังก่อน”

“แม่ของเสี่ยวคัง ลูกสาวคนโตของคุณที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ กำลังมีรักในวัยเรียนกับลูกชายวัย 23 ของป้าโรงอาหารที่ยังไม่มีงานทำ สองแม่ลูกกำลังวางแผนให้ลูกสาวคุณไม่ต้อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่65 เทพธิดาไม่รู้หนังสือ

    [ฉันอธิษฐานกับศาลบรรพบุรุษ ขอให้สอบขับรถภาคปฏิบัติ (วิชาที่สอง) ผ่าน ท่านเซียนบอกว่าฉันเป็นคนที่พลังอ่อน เวลาเจอปัญหาก็จะตกใจจนสั่น บอกว่าถ้าฉันขับรถออกถนนน่ะ อาจจะกลายเป็นภัยต่อคนอื่น…ซึ่งก็เหมือนที่มีคนเคยทำนายไว้ไม่มีผิดเลยนะ แต่ท่านเซียนบรรพบุรุษให้กำลังใจมากกว่า บอกว่าฉันเกิดมาเพื่อมีชีวิตสุขสบาย แค่นั่งรถก็พอ ไม่ต้องลำบากขับเอง / ขำทั้งน้ำตา][ทำไมท่านเซียนบรรพบุรุษดีกับเธอขนาดนี้ ฉันโดนด่าจนร้องไห้ QAQ][ถึงคนนั้นที่อยู่ข้างบน: แล้วเป็นไงล่ะ ฟังบรรพบุรุษด่าแบบนี้ ชีวิตสงบขึ้นบ้างมั้ย?][สรุปเลย ฉันค้นพบว่าทั้งเทพเจ้าและเทพเซียนบรรพบุรุษที่วัดเสวียนเว่ย น่ะมีอารมณ์จริงๆ เกลียดความชั่วช้า ดังนั้นพวกที่คิดอะไรแปลกๆ แล้วยังกล้ามาขอพรตรงหน้า จะได้รับผลกรรมทันที]เสียงฮือฮาบนเว่ยป๋อ ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับคนในวัดเสวียนเว่ย หลังจากมื้ออาหารเสร็จ ห่าวจาวไฉล้างจาน จินเหยาไต้กับกุ่นกุ่นเปลี่ยนของบูชา เฒ่ากัวกับหนิงหมี่ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบ หย่งฟางเตรียมการสำหรับพิธีรับศิษย์อย่างเป็นทางการ อยู่หน้ากระถางธูปในลานกลางบ้านเมื่อทุกคนพร้อมแล้ว หย่งฟางก็เตรียมการเสร็จเช่นกัน เบื้องบนคือท้องฟ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่66 อ่านหนังสือไม่ออกแต่ส่งของขวัญเป็น

    หนิงหมี่ศิษย์เทพของหย่งฟางไม่รู้หนังสือเลยสักตัว นักพรตสาวจึงส่งโทรศัพท์แล้วเปิดแอปโต่วอิน หาครูสอนภาษาจีนระดับชั้นประถมปีที่หนึ่งที่กำลังไลฟ์สด ให้เทพธิดาน้อยเรียนออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน จากนั้นก็ค้นหาสมุดกับดินสอไว้ให้จดบันทึก นี่คงเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้รู้หนังสือได้ในขณะที่หย่งฟางกำลังตั้งใจสวดมนต์ เพื่อส่งวิญญาณลูกแมว เธอก็หยิบลูกแก้วสีเทาจากครอบครัวตระกูลฉู่ขึ้นมาให้ฟังบทสวดไปด้วย หวังว่าลูกแก้วนั้นจะจางสีลงบ้าง แต่ลูกแก้วไม่พอใจและกระโดดดิ้นพล่าน "เจ้ากล้า ‘ส่งวิญญาณ’ ของข้าไม่มั่วๆ พร้อมเจ้าแมวนี่เหรอ! ข้าไม่ต้องการ! ข้าต้องการให้เป็นพิธีเฉพาะของข้าเท่านั้น!"หย่งฟางขมวดคิ้ว "เธอคิดว่าตัวเองเป็นเทพผู้สูงส่งหรือยังไง? ฟังไปซะ!"ลูกแก้วบินวนไปรอบๆ ไม่ยอ มจนกระทั่งไปเห็นว่าวัดแห่งนี้มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามา มันบินตรงไปหาหนิงหมี่เพราะสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณอ่อนเยาว์ ทั้งเทพน้อยและลูกแก้ววิญญาณ จ้องมองกันอย่างสนใจ หนิงหมี่ถามด้วยความอยากรู้ “อาจารย์ ลูกแก้วนี้คือ…?”ลูกแก้วส่งเสียง “เจ้าเป็นใคร? ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้า”หนิงหมี่ยิ้ม “ข้าพึ่งมาวันนี้เอง ข้าเป็นศิษย์ของอาจารย์”“เจ้ามองอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่67 เจอผู้ต้องหา

    เช้าวันอาทิตย์ ท้องฟ้าเหนือวัดเสวียนเว่ย เต็มไปด้วยเมฆปกคลุมแสงแดดไปกว่าครึ่ง ที่ลานกลางมีโต๊ะเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตัว วางอุปกรณ์เขียนหนังสือ กระดาษ และตำรามากมาย หนิงหนี่หยิบพู่กันขนาดเล็ก ที่มีขนแหลมจากแท่นวางพู่กันไม้หอม ยื่นให้กับอาจารย์หย่ง ก่อนจะบดหมึกในถ้วยบดทองคำ และนั่งลงบนม้านั่งเล็กๆ ข้างหย่งฟาง แล้วเริ่มเขียนตัวอักษรเสียงสระในสมุดบันทึกการฝึกเขียนที่นักพรตสาวซื้อให้ เรียงสระไปทีละบรรทัดเทพธิดาน้อยในชุดเสื้อคลุมเต๋าสะอาดเอี่ยม ผมของเธอถูกรวบขึ้นมวยด้วยปิ่นไม้เรียบง่าย ดูสงบเสงี่ยม ไม่มีภาพลักษณ์เทพตัวน้อยที่เอาแต่ใจเหมือนตอนแรกๆ อีกแล้ว เพียงแต่ปิ่นไม้อันนั้นคืออันสุดท้าย หย่งฟางมีปิ่นไม้ทั้งหมดห้าอัน แต่หนิงหนี่ใช้ไปแล้วอันหนึ่งหายไปอีกอัน จนอันสุดท้ายก็ตกเป็นของเธอจนได้ในลานของศาลเจ้า นักพรตหญิงหย่งฟาง ปล่อยผมยาวสีดำสนิทดุจหมึกลงมาเหมือนน้ำตก สะท้อนผิวที่ขาวละเอียดของเธอ ทำให้ใบหน้าที่เย็นชาแต่งดงาม ดูโดดเด่นดุจดอกชาในหุบเขา ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หย่งฟางปรับการทำงานและสังเกตดูพฤติกรรมของลูกศิษย์ทุกคน เมื่อตัดสินใจรับคนทั้งห้าเข้าสำนักแล้ว เธอก็ต้องใส่ใจให้มากขึ้น หลังเลิกง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่68 จากแฟนกลายเป็นฆาตกร

    หวงอิงเสวี่ยกับแฟนหนุ่มเดินออกจากวิหารหลักแล้ว ที่หน้าประตูคือโต๊ะเขียนยันต์ของหย่งฟาง หวงอิงเสวี่ยมองแถวขอยันต์ที่ยาวเหยียด รู้สึกลังเลว่าจะขอสักแผ่นดีไหม เธอเพิ่งได้รับคำทำนายไม่เป็นมงคลมา ทำให้รู้สึกไม่ไว้ใจวัดเซวียนเว่ยเท่าไหร่นัก แต่เมื่อนึกถึงพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย ก็คิดว่าขอเครื่องรางป้องกันภัยไว้บ้าง เพื่อความสบายใจของพวกท่านก็คงดีหญิงสาวจึงดึงแขนเสื้อสีเหลืองของแฟนหนุ่มเบาๆ แล้วพูด “เราขอสักสี่แผ่นก็แล้วกัน เก็บไว้สองแผ่น อีกสองแผ่นแบ่งไปให้พ่อแม่ของพวกเราทั้งคู่ดีไหม?”กวนอันขมวดคิ้วพลางกลืนน้ำลายลงคอ ไม่รู้เพราะอะไรหลังจากไหว้เสร็จ เขากลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างประหลาด ปากคอแห้งผาก แต่เมื่อเห็นนักพรตหญิงเขียนยันต์ด้วยท่าทางตั้งใจ เขาก็ยอมทำตามความต้องการของแฟนสาว การได้ดูคนหน้าตาดีก็ทำให้รู้สึกสดชื่นไปได้เหมือนกัน ทั้งสองจึงยืนต่อแถวอย่างสงบหย่งฟางสังเกตเห็นและจงใจถ่วงเวลา เขียนยันต์ช้าๆ โดยไม่มีใครเร่ง พร้อมทั้งจับตาดูชายคนที่เธอกำลังเฝ้ามอง แต่ไม่นานนักแค่สองสามนาที กวนอันก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นความรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกเขาพยายามข่มใจ แต่สุดท้าย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่69 เพื่อนเก่า

    เย็นวันศุกร์เวลา 19.00 น. เมื่อ เหอจือ กลับมาถึงบ้านเช่าที่เธอแชร์อยู่ด้วยความรีบร้อน กดโทรศัพท์คุยกับแม่อย่างไม่พอใจ“แม่ ถ้าป่วยก็ไปหาหมอสิคะ จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”แม่ตอบกลับอย่างลังเล “ก็แค่ปวดบ่ากับหลัง แล้วก็ผิวแห้งน่ะ คงเพราะทำงานมากไป เดี๋ยวพักอีกสองวันแล้วทาโลชั่นหน่อยก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”เหอจือรู้สึกหมดเรี่ยวแรง เธออยู่ห่างจากบ้านเป็นพันไมล์ จึงไม่สามารถดูแลทุกเรื่องในครอบครัวได้ ทำให้รู้สึกผิดอยู่เสมอ แต่พอแม่โทรมาเล่าให้ฟังว่าตรงนั้นไม่สบาย ตรงนี้ไม่สบาย เธอส่งเงินให้แม่ไปหาหมอ แต่แม่กลับไม่ยอมไป บอกว่าไม่อยากเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์บางครั้งเหอจือเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จะให้กลับบ้านทุกครั้งที่แม่มีอาการปวดหัว เป็นไข้ ก็เป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเธอโอนเงินไปให้แม่อีกสองพันหยวน พร้อมบอกว่า “ค่ารักษาฉันให้แม่แล้วนะ จะไปหาหมอหรือไม่ไปก็แล้วแต่แม่เลย”ฝั่งแม่ถอนหายใจพลางบ่น “จือจือ การทำงานในเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เก็บเงินไว้ใช้บ้างเถอะ”เหอจือเริ่มไม่พอใจ “แม่คะ ฉันต้องทำงานต่อ แค่นี้ก่อนนะคะ” แล้วเธอก็ปิดหน้าจอโทรศัพท์ วางมันลงบนโซฟาปัจจุบันเหอจือทำงานเป็นนักออกแบบตั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่70 ให้ฉันกินสักคำ

    ทั้งสามคนปีนขึ้นไปถึงวัดเสวียนเว่ยตอนบ่ายสองครึ่ง คิวของคนที่มาจุดธูปไหว้ยาวไปจนออกไปนอกอาราม เหมือนหางมังกร ยังไม่ทันได้เข้าไปก็ได้กลิ่นธูปหอมอบอวลลอยมา กลิ่นหอมละมุนช่วยให้จิตใจรู้สึกสงบผ่อนคลายทันทีเดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็ต้องต่อคิวไม่เว้นแม้กระทั่งวัด และดูเหมือนผู้คนที่นี่ดูชินเสียแล้ว ใบหน้าทุกคนเลยไม่มีแววความหงุดหงิด ไม่ส่งเสียงดัง ต่างพูดคุยเบาๆ กับเพื่อนว่ารอจะขอพรอะไรจากเทพเจ้าหลักของวัดและศาลบรรพบุรุษฉืออี๋กระซิบกับเหอจือ “ที่นี่ก็ฮิตมากนะ กลายเป็นวัดยอดฮิตไปแล้วใช่มั้ย…”มีร้านน้ำชาร้านหม้อไฟยอดฮิต แล้วทำไมจะมีอารามยอดฮิตไม่ได้ล่ะ? เจียวหยวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์หาหย่งฟาง ไม่นานก็เห็นเพื่อนสาวในชุดนักพรตเต๋าออกมาจากประตูต้อนรับพวกเธอ หย่งฟางรับถุงอาหารจากมือพวกเพื่อนคนละถุงแล้วพาเข้าไปในวัด พาเลี่ยงคิวผู้คนมายังห้องครัวเล็กๆ หย่งฟางวางอาหารทั้งหมดไว้บนเคาน์เตอร์ แล้วหยิบโยเกิร์ตในตู้เย็นออกมาสามขวด ยื่นให้พวกเพื่อนๆ พลางถาม “เหนื่อยไหม?”ฉืออี๋รีบส่ายหน้า “ภูเขาที่นี่น่ามหัศจรรย์มาก ทางขึ้นนี่เดินสบายไม่เวียนหัว ไม่เหนื่อยเลย ต่างกับภูเขาที่อื่นขึ้นแล้วมักจะหายใจไม่ทัน”เห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 71 วิญญาณงูมังกร

    ภายในห้องโถงด้านข้าง หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวหน่วนเหมือนคนหิวโซ คว้ากับข้าวอย่างบ้าคลั่ง กินข้าวไปสามชาม อาหารถูกกินไปกว่าสองในสาม เมื่อวางตะเกียบลง น้ำตาใสๆ ไหลรินออกมาสองสายฉืออี๋: ไม่ถึงกับต้องขนาดนั้นหรอกนะ?หย่งฟาง: อืม แปลกดีหลังจากหญิงสาวกินเสร็จ เธอลูบหนวดอันยาวที่ไม่มีอยู่จริง จากนั้นก็หลับตาลงศีรษะทิ่มลงบนโต๊ะอาหารอย่างแรง“ปัง!” เสียงดังและเธอก็นิ่งสนิทไป “เธอ...นี่เป็นเพราะกินจนหลับไปใช่ไหม?” ฉืออี๋งงงวยหย่งฟางไม่พูดอะไรสามวินาทีต่อมา หญิงสาวลืมตาขึ้นอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ ด้วยความงุนงงเธอแค่หมดสติไปเพราะน้ำตาลในเลือดต่ำ อยู่ๆ ก็มาโผล่ในห้องนี้ได้ยังไง ข้างๆ เธอมีหย่งฟางนั่งอยู่ด้วยเสี่ยวหน่วนพูดอย่างตะกุกตะกัก “ยะ...อาจารย์หย่งฟาง?! พวกคุณช่วยพาฉันมาพักงั้นเหรอ…”พูดจบเธอก็มองไปที่อาหารบนโต๊ะ และพบว่าข้างหน้าเธอมีชามข้าวเปล่าที่สะอาดหมดจด...หญิงลูบท้องที่อิ่มจนแน่น ถึงแม้ว่าจะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนหมดสติ แต่เหมือน...เหมือนจะเป็นเธอที่กินไปเองสินะ? เสี่ยวหน่วนไม่เข้าใจว่าตัวเองกินเข้าไปได้ยังไง สมองของเธอไม่สามารถประมวลผลเหตุการณ์ทั้งหมดได้หย่งฟางบอก “กินเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่72 ครอบครัวเหอ

    ในวิดีโอเมื่อสักครู่คนธรรมดาย่อมมองไม่เห็น วิญญาณของงูใหญ่นั้นพันร่างของคุณแม่เหอ จากเอวไปจนถึงสะโพก หางของงูม้วนรัดขาทั้งสองข้าง และขยับไปมาอย่างช้าๆ หัวงูขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากใต้หมวกฟาง พ่นลิ้นสีแดงยาวออกมา และจ้องมองตรงไปยังหน้าจอ ที่มีเหอจือและหย่งฟาง นักพรตสาวไม่แสดงอาการอะไรและไม่สบตากับมันส่วนเหอจือมองไม่เห็นอะไร แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเมื่อได้ยินคำพูดของหย่งฟาง ทำให้ใจที่ค่อยๆ ผ่อนคลายกลับเต้นแรงขึ้นไปถึงคอ เธอเปิดปากเหมือนจะถามอะไรบางอย่าง แต่ความกลัวในจิตใต้สำนึก ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากรู้มากเกินไป เพราะเธออาจจะรับไม่ไหว ใช่แล้ว! ต่อให้รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกลับบ้าน และในระหว่างทางก็ยังมีหย่งฟางหลังจากพูดจบ หย่งฟางไม่ได้พูดถึงรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ผู้หญิงทั้งสามตกใจมากเกินไป เนื่องจากตอนนี้พวกเขากำลังขับรถอยู่ เมื่อถึงสถานีรถไฟความเร็วสูง เจียวหยวนและฉืออี๋ก็พาทั้งสองคนไปที่จุดเข้าประตูฉืออี๋พูดขึ้น “ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาสถานีรถไฟความเร็วสูงสองครั้งในวันเดียว”เหอจือถาม “พวกเธอมีแผนการอะไรต่อไปไหม?”ฉืออี๋แม้จะไม่ค่อยม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่85 ใครเคาะประตู (จบเล่ม2)

    หอพักหญิง อาคาร 3A หน้าห้อง 702หลังจากหญิงสาวในห้อง 701 บอกว่า “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่” คำพูดนั้นทำเอาสาวๆ จากห้อง 602 กรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด ถ้าห้อง 702 ไม่มีใครอยู่ แล้วเสียงฝีเท้าเหล่านั้นมาจากไหน?เสียงกรีดร้องทำลายความเงียบของค่ำคืน ไฟทางเดินที่ควบคุมด้วยเซ็นเซอร์เสียงสว่างวาบขึ้นทีละชั้น เสียงโลหะขูดพื้นดังมาจากชั้นล่าง คุณป้าผู้ดูแลหอพักเปิดประตูห้องพัก รีบมองจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด แล้วกดลิฟต์ขึ้นมายังชั้น 7“เอะอะอะไรกัน! เสียงดังจนคนทั้งตึกได้ยิน!” เมื่อมาถึง คุณป้าผู้ดูแลตำหนิ ก่อนหันไปมองเด็กๆ “พวกเธอห้อง 602 ใช่ไหม? มาเดินเพ่นพ่านอะไรตอนนี้? ไม่รู้เหรอว่าห้ามออกจากห้องหลังไฟดับ?”หญิงสาวจากห้อง 701 รีบช่วยอธิบาย “พวกเธอบอกว่าได้ยินเสียงคนเดินในห้อง 702 เลยขึ้นมาดู...คุณป้า ห้อง 702 มีใครอยู่หรือเปล่าคะ?”คุณป้ามองพวกเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว”คำตอบนั้นทำให้สาวๆ จากห้อง 602 ใจหายวาบ หญิงสาวจากห้อง 701 เริ่มลังเลก่อนถามด้วยเสียงสั่น “ป้า... รุ่นพี่บอกว่าหอพักหญิงที่นี่มีผี เรื่องนั้นจริงหรือเปล่าคะ?”“พวกเธออย่าไปเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนั้น” คุณป้

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่84 หอพักหญิง

    "รับคำทำนายก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน" หย่งฟางเอ่ยขึ้นพลางมองแถวคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังมีผู้หญิงสี่คนเข้ามาถามคำทำนายทีละคน สองคนถามเรื่องการเรียน อีกสองคนถามเรื่องความรัก กุ่นกุ่นช่วยตอบคำทำนาย หย่งฟางไม่ได้พูดเสริมอะไร มีเพียงกระซิบเบาๆ "ทำนายได้ดีมาก จากนี้ลูกค้าอื่นๆ ให้คุณดูแลคนเดียวเลย ทำให้มั่นใจหน่อย อย่าพูดติดขัด ถ้าคิดว่าจะติดก็พูดคำสำคัญสั้นๆ ก็พอ"กุ่นกุ่นพยักหน้า เรื่องนี้เฒ่ากัวเคยสอนเขามาก่อนแล้ว แนะนำให้พูดแบบเว้นจังหวะบ้างเพื่อให้ดูเป็นปริศนาและน่าเกรงขาม จากนั้นหย่งฟางพาผู้หญิงสี่คนไปยังห้องน้ำชา ขอให้พวกเธอดื่มชากันคนละแก้ว"ฉันก็ไม่คิดว่าเราจะได้เป็นเพื่อนร่วมสถาบันกัน ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่เรียนที่วิทยาลัยศิลปะถานจิง ตอนฉันเห็นภาพวาดกับชื่อพี่ในห้องแสดงผลงาน" ฉู่เสี่ยวเฉียวพูดขึ้นรูมเมตของเธอพยักหน้า "ใช่เลย หย่ง...อาจารย์" ผู้หญิงคนนั้นลังเลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเรียกหย่งฟางว่าอะไรดี"ทำไมเธอถึงไม่มีรูปอยู่ในชั้นวางศิษย์เก่าที่โดดเด่นล่ะ?"หย่งฟางยิ้มก่อนตอบ "เคยเห็นใครทำงานด้านศาสตร์ลึกลับ แล้วไปเป็นศิษย์เก่าที่โดดเด่นบ้างไหม?"คำพูดนั้นทำให้ผู้หญิงทั้งหมดหัวเราะออกมา ข

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่83 ไม่รู้หนังสืออีกคน!

    [สุดยอดไปเลย หย่งฟางไปหาลูกศิษย์มาจากที่ไหนนะ ทั้งหนิงหมี่และหลงหยวนหยวนเ หมาะจะไปเป็นไอดอลทั้งกลุ่มหญิงและชายได้เลย][หย่งฟางเปิดบริษัทจัดการบันเทิงไปเลยเถอะ]ในที่สุด #เสวียนเว่ยเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ย) ก็กลายเป็นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ #วัดเสวียนเว่ย (#ศาสตร์ลึกลับของหย่งฟาง)เหล่าชาวเน็ตช่วยกันแบ่งตำแหน่งให้เสร็จสรรพแล้ว[#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ยCEO: หย่งฟาง อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง: หนิงหมี่ อันดับหนึ่งฝ่ายชาย: หลงหยวนหยวน][ส่วนอาจารย์อ้วน กับอีกสามคนก็เป็นผู้จัดการไปละกัน]เหล่าลูกศิษย์มนุษย์ที่คอยติดตามข่าวในโซเชียลเกี่ยวกับวัด: หือ?หยิบโทรศัพท์เก็บกลับไป มองดู ‘อันดับหนึ่งฝ่ายชาย’ และ ‘อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง’ตอนนี้เป็นช่วงหกโมงเย็น หลังจากทานอาหารเสร็จ สองคนนี้ก็สู้กันตั้งแต่ฝั่งตะวันออกไปจนถึงฝั่งตะวันตก เพื่อแย่งควันธูปกัน นี่กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ของอันดับหนึ่งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายที่ต้องทำทุกวันไปแล้วเพราะหย่งฟางแจกควันธูปอย่างเท่าเทียม ตอนแรกให้ทั้งคู่คนละสองแท่ง แต่หนิงหมี่ไม่พอใจ “ข้าทำงานตั้งขนาดนี้ ส่วนเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงได้เท่ากับข้า! ข้าไม่สน จ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่82 ได้ศิษย์เพิ่ม

    ณ จุดนี้ในวัดเสวียนเว่ยมีสมาชิกทั้งหมดแปดคนเจ้าของอาราม: หย่งฟางศิษย์: หนิงหมี่, เฒ่ากัว, ห่าวจาวไฉ, จินเหยาไต้ ,ไฉหยวนกุ่นกุ่นผู้พักชั่วคราว: วิญญาณลูกกลมสีเทาผู้ไม่ได้รับเชิญ: หลงหยวนหยวนทั้งแปดคนนี้ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตจากสี่ประเภท ได้แก่ คน เทพ วิญญาณ และปีศาจ"อาจารย์หย่ง คุณคิดจะเก็บสิ่งมีชีวิตทั้งหกไว้ที่นี่หรือ?" ห่าวจาวไฉโบกพัดกระดาษพร้อมถามหย่งฟางเผยยิ้มขมเล็กน้อย จะพูดอย่างไรดี? ตัวตนของหนิงหมี่กับหลงหยวนหยวนนั้น ไม่ใช่ว่าเธอเต็มใจรับเข้ามา คืนนี้พระจันทร์สีเงินส่องสว่างกลางท้องฟ้า หลังจากที่หย่งฟางไหว้เทพเจ้าวัดเสร็จ เธอก็เดินออกจากวิหารหลัก หนิงหมี่กับวิญญาณลูกบอลกลมสีเทา ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนในลาน กำลังตั้งใจเรียนวิชาภาษาชั้นประถมปีที่ 1 ที่ถ่ายทอดสด คราวนี้หย่งฟางเรียนรู้แล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ตั้งค่าใหม่ให้พวกเขาใช้ขณะเดียวกัน หลงหยวนหยวนที่โดนสองสาวรังเกียจ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนอีกฝั่ง เจ้าหนุ่มชุดดำไม่สนใจเลยที่ตนเองไม่ได้รับความชื่นชอบจากใคร แค่เอนตัวรับลมเย็นอย่างสบายใจ ด้านเฒ่ากัวกับคนอื่นๆ เตรียมไฟฉายและพร้อมจะลงจากภูเขากลับบ้าน"เดี

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่81 เสี่ยวหลงหวังจอมเจ้าเล่ห์

    "อย่างพี่สาวเหอ ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนดีมากๆ ไม่เคยทำเรื่องไม่ดีเลย แถมครอบครัวก็ใจดี แม้ว่าเราจะพูดกันไม่นาน แต่ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกัน แต่อย่างที่บอก พราะเธอเป็นคนดี ฉันก็ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่""ส่วนเรื่องจางยู่เฟ่ย ตั้งแต่ฉันมาที่โลกมนุษย์ ฉันก็เริ่มรู้แล้วว่ามีคนที่ไม่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง หลายคนชอบหาทางลัด ถ้ามันเป็นทางที่ถูกต้องก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ค่อยเจอคนที่พยายามหาทางพึ่งพาคนอื่นแบบเธอ ทั้งที่เธอก็มีแขนขาครบ มีโอกาสมากมาย แต่กลับเหมือนมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง คิดแค่ว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชาย" หนิงหมี่พูดไปพร้อมกับทำท่าห่อไหล่เหมือนแมวน้อยที่กำลังครุ่นคิด"แต่พอคิดถึงเป่าฟู่กุ้ยและภรรยาของเขา ฉันก็รู้สึกว่าในโลกมนุษย์ก็ยังมีสิ่งดีๆ บ้างเหมือนกัน" หนิงหมี่พูดสรุปว่า "มนุษย์นี่ซับซ้อนจริงๆ ฉันไม่เข้าใจเลย"หลังจากที่ออกไปทำงานนอกสถานที่มาแค่สองวัน เทพธิดาน้อยก็ได้สัมผัสกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ พนักงานบนเครื่องบินเชิญพวกเธอไปยังห้องอาหาร หลังจากทานอาหารจนอิ่มหนำแล้ว หนิงหมี่ก็รู้สึกดีขึ้น"เป่าฟู่กุ้ยสุดยอดจริงๆ!" หนิงหมี่คิด "อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องนอนขดตัวอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่80 ใครรวยกว่ากัน

    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอนักพรตสาวตัวน้อย กลุ่มเฮ่ยไป่อู่ฉางก็รีบตื่นเต้นและวิ่งเข้าหาเธอ “หย่งน้อย เธอดูอ้วนขึ้นนะ!”“จะทักทายกันแบบสุภาพกว่านี้ไม่ได้หรือไงคะ?” หย่งฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์ยมทูตขาวผู้เป็นพี่สาว ยื่นมือไปหยิกแก้มเธอทันที “ฉันหมายถึงหน้าเธอดูมีเนื้อขึ้นนะ! เมื่อก่อนเธอผอมกว่านี้”หย่งฟางสะบัดมือของเธอออกเหมือนปัดแมลงวันยมทูตดำก็ทักขึ้นบ้าง “ถ้าจะให้สุภาพ ฉันก็ทำได้” จากนั้นเขาก็พูดต่อ “หย่งน้อย เราเสมือนญาติผู้ใหญ่เห็นเธอเติบโตมาตลอด เธอก็ไม่ได้มาเยี่ยมเราเลย เราคิดถึงเธอ…”ยมทูตขาวพูดเสริมทันที “…พวกเราอยากได้ธูปหอมบ้างน่ะ”นี่แหละคือวิธีทักทายของพวกเขา หย่งฟางไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ย่อตัวลงเปิดกระเป๋าเดินทาง แล้วหยิบธูปสองดอกออกมาหนิงหมี่เบิกตากว้าง “นั่นมันของฉันนะ!!” พูดจบก็พยายามจะแย่ง แต่หย่งฟางก็หลบมือไปจุดไฟ แล้วส่งให้ยมทูตขาวดำทันที“แค่นิดเดียว อย่าไปหวงนักเลย เด็กเล็กก็แบบนี้แหละ ชอบหวงของ”ยมทูตขาวดำกินควันธูปอย่างพอใจจนตาหรี่ลงเป่าฟู่กุ้ยมองยมทูตทั้งสองที่กำลังเคลิบเคลิ้ม…พวกเขาไม่ได้มารับเมียเขาไปโลกหลังความตายเหรอ? แล้วทำไมมานั่งกินของฝากที่บ้า

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่79 ได้เวลาต้องไป

    เปาฟู่กุ้ยมองนักพรตสาวด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงลังเล "ผม...ผมจะได้เจอเธอจริงๆ เหรอ? ภรรยาของผมไม่ได้...ไปอยู่ที่ยมโลกแล้วหรอกเหรอ?""ภรรยาของคุณน่าจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา เพียงแต่ช่วงนี้เธอคอยเฝ้าดูจางยู่เฟ่ยอยู่ เพราะสงสัยว่าคนคนนั้นจะทำอะไรแปลกๆ เราเลยไม่เห็นวิญญาณเธออยู่ในบ้านคุณตั้งแต่แรก" หนิงหมี่อธิบาย"ผม...ผมอยากเจอเธอ!" เปาฟู่กุ้ยพูดด้วยความรู้สึกสดใสขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับได้รับพลังชีวิต ใบหน้าของเขาดูเปล่งปลั่งทันที ทันใดนั้นก็นึกถึงสภาพตัวเอง จึงรีบลูบหนวดเคราที่เพิ่งงอกยาวและกล่าวออกไป "เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวผมต้องจัดการตัวเองก่อน ภรรยาผมไม่ชอบที่ผมดูสกปรกแบบนี้"หลังจากพูดจบ เปาฟู่กุ้ยลากตัวที่ดูอ้วนกลมขึ้นไปชั้นบน เพราะอาการบวมจากยาต้านซึมเศร้า เมื่อเขากลับลงมาอีกครั้ง หย่งฟางและหนิงหมี่ ก็ได้เห็นเปาฟู่กุ้ยในลุคใหม่ที่สะอาดสะอ้าน เขาโกนหนวดโกนเคราจนเกลี้ยงเกลา สระผมจนหอมสะอาด ใบหน้ากลมอวบอิ่มดูสดใสขึ้นทันที เขาใส่สูทสากลและเนคไทเรียบร้อย สวมรองเท้าหนังแม้หน้าตาของเขาจะไม่หล่อเหลามากนัก โดยเฉพาะส่วนแก้มที่อ้วนดูเหมือนผู้ชายธรรมดา แต่ในลุคนี้เขากลับดูอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่78 คาถาสะท้อนกลับ

    หลังจากที่จางยู่เฟ่ยพ่นเลือดออกมา หมอกสีเทาที่วนเวียนอยู่ระหว่างคิ้วของเปาฟู่กุ้ย ก็พลันสลายหายไปทันที แม้ว่าจางยู่เฟ่ยจะมองไม่เห็นพลังงานลี้ลับเหล่านี้ แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อท่านประธานทำตามคำแนะนำของสาวน้อยข้างกายเถ้าแก่เปาเปิดตาขึ้น ยกมือออกหู และมองเลขาอีกครั้งด้วยสายตาที่กลับมาสดใส ปราศจากอาการลุ่มหลงผิดปกติใดๆ จางยู่เฟ่ยตกใจ รีบควานหาบางสิ่งในกระเป๋าของตัวเอง แต่กลับพบว่ามันหายไป“หาอันนี้อยู่หรือเปล่า?” น้ำเสียงเย็นชาแฝงความเหนือชั้นดังมาจากหย่งฟางเมื่อจางยู่เฟ่ยหันไปมอง ก็พบว่ากระดาษยันต์สามเหลี่ยมในมือของหย่งฟาง ถูกฉีกเป็นสองส่วนอย่างเรียบร้อยหนิงมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มขำ ส่วนหญิงสาวในชุดขาวร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับจางยู่เฟ่ย เธอยกนิ้วโป้งให้หนิงมี่ด้วยความชื่นชมใบหน้าของวิญญาณสาวผู้นี้ คือใบหน้าเดียวกันกับหญิงสาว ในภาพถ่ายที่พบในห้องใต้หลังคา ใช่แล้ว... ภรรยาของเปาฟู่กุ้ยยังไม่ได้ไปสู่สุคติ ช่วงนี้เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของสามี และหลังจากจับตามองเลขาส่วนตัว ก็พบว่าคู่กรณีใช้คาถามาควบคุมใจสามีของเธอเธอก็พบว่านักพรตสาวจากสำนั

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 77 คาถาชิงรัก

    เมื่อวางสายไปใบหน้าของเถ้าแก่เปาแสดงอาการหลงใหล ราวกับถูกบางสิ่งควบคุม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความคิดถึงอย่างท่วมท้น หย่งฟางรีบสวดคาถาเคลียร์จิตใจ ก่อนจะใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าผากของเขา ความอ่อนโยนที่เคยแสดงบนใบหน้าของเปาฟู่กุ้ย หยุดชะงักราวกับถูกหยุดเวลา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาเป็นปกติ แต่ยังคงมีท่าทางงุนงงหย่งฟางเปิดปากถาม "คนที่โทรหาคุณเมื่อกี้คือใคร?""คะ...คือ...เลขาของผม จางยู่เฟ่ย..." เปาฟู่กุ้ยมองหน้าหย่งฟางและหนิงหมี่ด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอครับ?" ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถจำความรู้สึกอ่อนโยน และความรักใคร่ที่เคยมีเมื่อครู่ได้เลยหนิงหมี่หันไปมองอาจารย์และกระซิบเบาๆ "คาถาชิงรัก"หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเปาฟู่กุ้ย "ตอนที่คุณโชคร้ายก่อนหน้านี้ มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณคุยกับเลขาของคุณเสร็จใช่ไหม?"เปาฟู่กุ้ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มจำได้ "เหมือนจะใช่ แต่ว่าช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยเจอโชคร้ายแล้วนะ"หย่งฟางอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบ "เพราะช่วงนี้คุณไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเธอเลย คาถาชิงรักคือการที่คุณถูกทำให้ตกหลุมรักคนที่ร่ายคาถานี้ ในตอนแรกคุณยังมีสติ คุณสาม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status