Share

ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

last update Last Updated: 2025-03-18 13:56:40

“ฮัลโหล? ว่าไง?”

“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”

“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”

ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เอง

หรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??

เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหล

ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี

ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดงหน้าในอีกไม่กี่นาทีที่จะถึงนี้ จึงหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องมากดโทรออก

"ฮัลโหล! เตรียมตัวในอีกห้านาที!" ชายหนุ่มพูดเพียงประโยคสั้นๆ ซึ่งปลายสายก็เข้าใจในทันทีโดยไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม เขาพูดจบก็โยนโทรศัพท์ไปบนเบาะข้างคนขับอย่างไม่ใส่ใจนัก 

เจ้าแห่งท้องถนนคันมหึมา พุ่งตัวแรงไปข้างหน้า ด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม หลังจากเปลี่ยนเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งจนเกือบเต็มเท้า พอได้จังหวะก็รีบหักซ้ายแซงขวาปาดหน้ารถคันอื่นๆ เพื่อรีบไปให้ถึงที่หมายให้ทันเวลา โดยไม่สนใจว่าพฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้ทุกชีวิตของผู้ขับขี่บนท้องถนน ต้องตกอยู่ในความสุ่มเสี่ยงหรือเปล่า

ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือ ที่วางไว้ที่ตักขึ้นมาดูสัญญาณจีพีเอสบนแผนที่อีกครั้ง และเห็นว่ารถเป้าหมายจอดอยู่คันหน้าสุดเพื่อรอสัญญาณไฟเขียว ในขณะที่ฝั่งของเขาสัญญาณไฟจราจรกำลังจะเปลี่ยนจากเตรียมหยุดสีเหลืองเป็นสีแดง

แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าไฟจราจรจะสีอะไรก็หยุดเขาไม่ได้แล้ว ความคิดที่จะแตะเบรคไม่มีอยู่ในหัว ตรงกันข้ามกลับเหยียบคันเร่งให้แล่นเร็วขึ้นไปอีก

น่าแปลกใจที่สีหน้าของเขา เต็มไปด้วยความรู้สึกชอบธรรมและความปรารถนาที่จะแก้แค้น เขารู้สึกว่าเขาเป็นฝ่ายถูก และคนในรถสมควรได้รับการลงโทษสำหรับการกระทำของพวกเขา 

จู่ๆ ดวงตาคมมีเสน่ห์ก็พราวระยับขึ้นมาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อ่านไม่ออก ก่อนที่จะหลับตาพริ้มแล้วคลี่ยิ้มละมุนออกมาบางๆ รอรับความรู้สึกพึงพอใจที่จะได้รับจากแรงกระแทกของการปะทะ ราวกับกำลังรอการบรรเลงบทเพลงของวงออเคสตร้าด้วยความสาสมใจ

โครมมมม!! 

เสียงโลหะบดกระจกแตก แรงกระแทกจากการชนผลักรถยนต์ให้ไปข้างหน้า แล้วเหวี่ยงมาทางด้านข้างของรถบรรทุกที่วิ่งเข้ามาชน ตัวรถหมุนคว้างไปหลายตลบจนมาหยุดที่เกาะกลางถนน ด้านหลังของตัวรถถูกดันยุบอัดกับเบาะหลัง ประตูด้านคนขับเสียหายอย่างหนักและเปิดไม่ออก กระจกด้านหน้าและด้านหลังแตกละเอียดกระจัดกระจายไปทั่ว เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย มีของเหลวรั่วไหลลงบนพื้นถนน ควันและไอน้ำพวยพุ่งออกมาจากกระโปรงหน้ารถ อยู่ในสภาพที่เกือบจะเรียกได้ว่าพังยับเยินจนไม่สามารถขับไปได้อีก

ชายหนุ่มชะลอรถดูผลงานของตัวเองจากกระจกมองข้างอยู่ชั่วครู่ แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องที่วางอยู่บนเบาะข้างคนขับมาโทรออกทันที

“เริ่มงานได้แล้ว!!” 

พอสิ้นเสียงสั่งการโทรศัพท์ก็ถูกโยนไปไว้ที่เดิม พร้อมกับรอยยิ้มของนักฆ่าผู้เลือดเย็นผุดขึ้นที่มุมปากข้างหนึ่ง ภายในใจนึกเสียดายที่ไม่ได้เห็นสีหน้าปวดร้าวของคนผู้นั้น ที่กำลังแสดงความเจ็บปวดทรมานเหมือนคนใกล้จะตายด้วยตาตัวเอง เขารอให้วันนี้มาถึงอย่างใจจดใจจ่อมาเป็นปีๆ แล้ว ถึงเวลาสิ้นสุดของการรอคอยอันยาวนานเสียที 

ชายหนุ่มเหลือบตามองเหตุการณ์ ที่กระจกมองข้างอีกครั้งด้วยความรู้สึกเฉยเมย และขาดความเห็นอกเห็นใจ ไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย ขับรถมุ่งหน้าต่อไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พริมโรสพยายามขยับตัวตามสัญชาตญาณ หลังจากที่รถหยุดหมุน เพื่อประเมินอาการบาดเจ็บของตัวเอง เธอรู้สึกปวดหัวและเจ็บบริเวณต้นคอ และยังรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก ไม่รู้เป็นเพราะว่าซี่โครงหักหรือมีอาการบาดเจ็บภายในอย่างอื่นกันแน่ 

ศีรษะที่กำลังแหงนหงาย กวาดสายตาเอียงจากด้านหนึ่ง ไปอีกด้านหนึ่งอย่างเชื่องช้า คล้ายการเคลื่อนไหวแบบสโลวโมชั่น อาจเป็นเพราะว่าเธอกำลังอยู่ในอาการช็อกและกำลังตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เลยทำให้ประสาทการรับรู้ดูสับสน และประมวลผลช้าไปหมด แต่ก็เหมือนรู้สึกว่าตัวเองตกลงมา นั่งคุดคู้อยู่ที่พื้นรถตรงซอกระหว่างเบาะหน้าและเบาะหลัง เนื่องจากท้ายรถอีกด้านยุบตัวแล้วดันเข้ามา ทำให้เหลือเพียงช่องที่กว้างเพียงสุดแขนของเธอเท่านั้น

พ่อล่ะ??

ความที่ห่วงบิดาทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวดีขึ้น และสามารถขยับเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถยกตัวขึ้นได้อยู่ดี จึงผงกศีรษะขึ้นแล้วก้มมองดูว่าตัวเองกำลังติดอะไรอยู่ จึงเห็นร่างของบิดา ห่อหุ้มเธอไว้ด้วยร่างกาย และแขนที่แข็งแรงราวกับปกป้องไข่ไว้ในหิน เสียสละตัวเอง เพื่อป้องกันลูกสาวจากแรงอัดกระแทก

จิตใจของหญิงสาว ขณะนี้เต็มไปด้วยความกลัวที่ไม่สามารถสลัดออกไปได้ ยกมืออันสั่นเทากดปลายนิ้วบริเวณข้างลำคอของบิดาเพื่อหาสัญญาณชีพ พยายามควบคุมอารมณ์และกลั้นน้ำตาไว้ขณะที่เลื่อนปลายนิ้วไปยังบริเวณอื่น กดหาการกระดอนขึ้นลงของเส้นเลือด ตามจังหวะการเต้นของหัวใจในบริเวณที่ใกล้เคียง แต่แล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ถึงแม้จะรู้สึกได้เพียงเบาบางและผิดจังหวะไปบ้าง แต่อย่างน้อยหัวใจเขาก็ยังเต้นอยู่

“พ่อ! พ่อคะ พ่อ! ลืมตาสิ!” มือเรียวเขย่าแขนบิดาอย่างระวัง ไม่กล้าขยับตัวเขามากไป  เพราะไม่รู้ว่าได้รับบาดเจ็บ หรือมีกระดูกหักตรงไหนหรือเปล่า 

“อือ..” เสียงที่แหบระโหยของเขาครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่เธอพยายามทรงตัวบิดาขึ้นเล็กน้อยอย่างยากลำบาก จึงได้เห็นบาดแผลและรอยฟกช้ำจ้ำเลือดที่ใบหน้าของเขา และส่วนนูนของโลหะที่ยุบตัวเข้ามากดด้านหลังเอาไว้

“พ่ออดทนไว้ก่อนนะ เกิดเหตุกลางสี่แยกแบบนี้พวกกู้ภัยคงได้รับแจ้งเหตุแล้วล่ะ!”

พริมโรสมองสำรวจไปรอบๆ อากาศในรถเต็มไปด้วยกลิ่นยางไหม้และน้ำมันเบนซิน เสียงไซเรนดังมาแต่ไกล คลอไปกับเสียงครวญครางของชายสองคนที่นั่งด้านหน้า ตามมาด้วยเสียงพูดคุยของหน่วยกู้ภัย เสียงวิทยุสื่อสารแทรกมาเป็นระยะๆ ดังไปทั่วในที่เกิดเหตุ ไฟกระพริบของรถฉุกเฉินสว่างวาบเป็นจังหวะลอดเข้ามาในซากเหล็กราวกับให้ความหวัง เธอหันมามองบิดาเมื่อได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นมาอย่างเหนื่อยอ่อน

“ร้องไห้ทำไม? ฉันยังไม่ตาย! แกควรดีใจที่มีโอกาสได้เห็นหน้าฉันเป็นครั้งสุดท้าย!” ปกติลูกสาวของเขาเป็นคนที่มีจิตใจที่เข้มแข็ง การที่เห็นหญิงสาวอ่อนแอในช่วงเวลานี้ ล้วนแล้วมีสาเหตุเกิดมาจากเขาทั้งนั้น เขามองลูกสาวที่มีความคิดและนิสัยเหมือนกันกับตนทุกกระเบียดนิ้วด้วยความรัก

“หยุดพูดคำที่น่าโมโหพวกนั้นไปเลย! ใครจะปล่อยให้พ่อเป็นอะไรไปได้ยังไง!! ถ้ารักหนูเป็นห่วงหนูจริง ก็อย่าปล่อยให้หนูต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว!”

เมื่อได้ยินคำพูดของบิดา ทำให้พริมโรสยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมามากกว่าเก่า คล้ายอยากจะปล่อยโฮออกมาเต็มแก่ แต่พยายามปกปิดความไม่มั่นคงทางจิตใจเอาไว้ด้วยคำพูดประชดประชันที่เจือด้วยเสียงสะอื้น แอบแฝงความรักความห่วงใยเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ทำให้บิดาเวทนาสงสารจับใจ นัยน์ตาหมองหม่นของเขาหลุบต่ำลง เพื่อซ่อนแววแห่งความสิ้นหวังเอาไว้

“หึ!..ไอ้ลูกโง่..โตจนมีหลัวแล้ว..ยังจะมากล่าวหาว่าฉัน..ทิ้งให้แกโดดเดี่ยวได้อีกเหรอ!!” เขายกมือขึ้นจับที่หน้าอกตัวเองเพราะรู้สึกเจ็บจนแทบจะพูดไม่ออก น้ำเสียงจึงขาดเป็นห้วงๆ แต่ก็ยังอยากจะพูด ก่อนที่จะไม่มีโอกาสให้พูดได้อีก

“ยังไงจิตใจมันก็เคว้งคว้างอยู่ดีล่ะ! หลัวก็ทดแทนพ่อไม่ได้หรอก! ห้ามทิ้งหนูไว้คนเดียวอย่างเด็ดขาด! ถ้าอยากจะไปเจอแม่ก็ต้องพาหนูไปด้วย!” 

มือเรียวดันร่างบิดาออกนิดหนึ่ง สอดนิ้วเข้าไปในอกเสื้อของตัวเอง แล้วคีบโทรศัพท์มือถือออกมาใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อด้านในแจ็คเก็ตที่บิดาสวมอยู่ เธอไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นอุบัติเหตุหรือการจงใจสร้างสถานการณ์ของใครหรือเปล่า และไม่รู้ว่าเหตุไม่คาดฝันจะเกิดซ้ำซ้อนขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยเธอก็อุ่นใจว่าจะมีคนตามหาบิดาและตัวเธอพบอย่างแน่นอน

“เก็บโทรศัพท์นี้ไว้ให้ดีนะคะ นายเตต้องหาพวกเราเจอแน่ๆ!”

“ทางนี้ๆ!! เหมือนว่าคนในรถยังไม่ตาย!” สองพ่อลูกยุติคำสนทนา เมื่อได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกของหน่วยกู้ภัยที่ดังอยู่ไม่ไกล

“เปิดประตูฝั่งนี้ไม่ได้เลย! ไปดูทางฝั่งข้างคนขับซิ!”

กึง!!  กึง!!  กึง!! ..  โครม!!

“เปิดได้แล้วๆ!” 

“เอาล่ะ! เก็บพวกมันให้หมดยกเว้นผู้หญิง! รีบเอาตัวออกมาแล้วเผ่นให้เร็วที่สุด!”

ฟิ้ว!! ฝุบ!!  .. ฟิ้ว!! ฝุบ!!

พริมโรสกับบิดาสบตากันโดยทันที  ซึ่งต่างก็รู้ด้วยความเชี่ยวชาญในอาวุธยุทโธปกรณ์ดีว่า นั่นเป็นเสียงของปืนที่ติดไซเลนเซอร์หรือท่อเก็บเสียง มือใหญ่แข็งแรงขยับเอื้อมมาบีบมือของลูกสาวไว้แน่นเมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น คล้ายกับเป็นการสั่งลากันครั้งสุดท้ายโดยไร้สุ้มเสียง

กึง!!  กึง!!  กึง!!  ..  โครม!!

ประตูด้านหลังที่เธอกำลังซุกตัวอยู่ ถูกกระชากให้เปิดออก กระบอกปืนยื่นมาตรงหน้าด้านข้าง ทั้งๆ ที่รู้ว่าเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอกำลังจะเกิดขึ้น แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง แม้ขยับตัวยังยากลำบาก น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจจึงหลั่งไหลออกมาอีก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ฟิ้ว!! ฝุบ!!

หญิงสาวอ้าปากค้าง ขณะเบิกตาโพลงมองหน้าอกของบิดาที่กระดอนเด้งขึ้นนิดหนึ่งตามความแรงของกระสุนปืนที่มากระทบร่าง เสื้อกลางอกของเขาเป็นรูพรุน มีควันจางๆ ลอยขึ้นมาตามขอบพร้อมกลิ่นไหม้เป็นวงสีดำ ก่อนที่พวกมันจะพยายามดึงตัวเธอขึ้นจากซอกแคบแต่ก็ไม่สามารถเอาออกไปได้เพราะติดกุญแจมือ 

ฟิ้ว!! เป๊ง!!

โซ่กุญแจมือถูกลูกตะกั่วตัดขาดในเม็ดเดียว ทำให้พวกมันลากร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของหญิงสาวออกไปได้ง่ายขึ้น ภาพแน่นิ่งไม่ไหวติงของบิดา หายลับไปจากสายตาที่กำลังตื่นตระหนกของเธอในทันที

……………………..

นัยน์ตาชอกช้ำของพริมโรสดูว่างเปล่าเลื่อนลอย   หัวใจของเธอปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ    ลมหายใจติดขัด   และขาดเป็นห้วงๆ ราวกับว่าความสูญเสียทั้งหมดในโลกกำลังกดทับถมอยู่บนอกของเธอ      จนไม่สามารถหายใจรับอากาศเข้าไปได้เพียงพอ      เธอไม่สามารถอดกลั้นทนรับความทรมานแบบนี้ได้อีก

น้ำตาแห่งความเจ็บปวด   ทะลักไหลออกมาอย่างเงียบเชียบ แต่เป็นความเงียบ ที่ดังที่สุดบนใบหน้าที่กำลังแข็งชา และไร้ความรู้สึก  ญาติสนิทที่สุดเพียงคนเดียวในโลก    ได้ถูกพรากไปจากเธอแล้ว และไม่มีโอกาสที่จะได้พบกับเขาอีก  ความรู้สึกสูญเสียบีบรัดหัวใจเอาไว้ไม่ยอมปล่อย  เธอกำลังถูกอารมณ์ความเศร้าโศก กลืนกิน   จนเผลอกล่าวโทษบิดาอยู่ในใจ   ที่ทอดทิ้งให้เธอต้องต่อสู้กับความโหดร้ายในโลกนี้เพียงลำพัง

ชายที่สวมชุดกู้ภัยทั้งสามคนมองหน้ากัน      สลับกับหันมาดูหญิงสาว ที่นอนอยู่บนเปลสนาม ในสภาพที่ไม่ต่างไปจากศพ  เป็นระยะๆ 

รถแล่นมาได้สักพักก็จอดสนิท คนทั้งสามเปิดประตูลงไป ในขณะที่ชายร่างสูงใหญ่ก้าวขึ้นมานั่งแทนที่ ฝ่ามือใหญ่โบกมือผ่านหน้าเธอไปมาคล้ายต้องการจะเรียกสติ แล้วก้มลงมาจ้องแววตาที่ไร้ชีวิตจิตใจของเธอนิ่งนานอย่างไม่ยอมลดละ ทำให้นัยน์ตาที่กำลังมองเหม่อเลื่อนลอยแข็งกร้าวขึ้น เมื่อจับโฟกัสได้ว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้เป็นใคร เธอตวาดออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ราวกับเป็นศัตรูกันมานับร้อยชาติร้อยปี ซึ่งเขาไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อน

“ไอ้เลว! คนอย่างแกมันชั่วที่สุดในสามโลก!!”

……………………..

Silencer - อุปกรณ์ลดเสียงปืน หรือเรียกว่าท่อเก็บเสียง หรือลำกล้องเก็บเสียง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   บทนำ

    หวอออออออ!! บรึ้ม!!เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังยาวเพียงไม่กี่นาที ก็ถูกกลบด้วยเสียงระเบิด ที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เสียงกรีดร้องของผู้คน ที่กำลังอยู่ในอาการประสาทสั่นขวัญผวา สอดแทรกขึ้นมาด้วยเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดทรมานจนเกินจะรับไหวจากผู้เคราะห์ร้าย ที่แทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ ให้ร้องขอความช่วยเหลือได้อีกแล้ว บางเสียงแหบระโหยอยู่ภายใต้ร่างของผู้เสียชีวิตที่เต็มไปด้วยเลือดและซากปรักหักพังทับถมกันเป็นชั้นๆ อยู่ด้านบนอย่างสยดสยองนักข่าวคนหนึ่งที่รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ราวกับเป็นลูกรักของพระเจ้า ทั้งๆ ที่อยู่ไกล้จุดเกิดเหตุเพียงไม่กี่เมตร ด้วยความตกใจจนลนลานทำให้มือที่ล้วงเข้าไปในเข้าไปในกระเป๋าเป้สั่นเทาไปหมด ในใจลึกๆ กำลังกระวนกระวาย เพราะกลัวจะพลาดบันทึกเหตุการณ์ระทึกขวัญไม่ทัน แต่พอควานเจอโทรศัพท์มือถืออย่างที่ต้องการ แล้วก็หยิบออกมาบันทึกภาพเหตุการณ์ตรงหน้าทันทีอย่างไม่กลัวลูกหลง นัยน์ตาคมจับจ้องผ่านจอแอลซีดี ในขณะที่ขยับมือแพนกล้อง จับภาพนาทีระทึกของผู้คนที่กำลังวิ่งหนีเอาตัวรอดกันอย่างอลหม่าน บางคนถูกวิ่งชนจนล้มไม่พอ ยังโดนเหยียบย่ำซ

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 1

    “เหตุระเบิดท่าอากาศยานนานาชาติเอวาเปเรซ สร้างความเสียหายให้แก่บริเวณรับสัมภาระ ของอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จากกล้องวงจรปิดได้จับภาพฝูงโดรนคามิกาเซที่บินร่อนอยู่เหนือท่าอากาศยานอยู่หลายนาที ก่อนที่จะร่อนลงสู่เป้าหมาย และจุดระเบิดขึ้นเหตุระเบิดดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสามสิบห้าราย และได้รับบาดเจ็บมากกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบราย จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่าได้มีผู้โดยสายหายไปจากรายชื่อห้าคน และหนึ่งในนั้นคือพระชนนีขององค์สุลต่าน ซึ่งแหล่งที่มาของการโจมตีดังกล่าวยังไม่ชัดเจน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงคาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ อาจเป็นผู้ทำสงครามโมเสลมจากสมาชิกอัลเคดาสาขาเปเรซ ถึงแม้ข้อมูลเหล่านั้นยังไม่ได้รับการยืนยันก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อการร้าย”เสียงในทีวี รายงานข่าวภาษาอาหรับ เกี่ยวกับสถานการณ์การระเบิดสนามบิน บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า และได้ลักพาตัวประกันไปด้วย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามข้อตกลง ตามมาด้วยข่าวการประท้วงที่หน้าสถานทูต เพื่อกดดันและเรียกร้องให้รัฐบาลและฝ่ายผู้ก่อการร้ายยุติสงครามกล

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 2 : First Kiss

    ติ๊ง!!ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นหนึ่ง ชายหนุ่มหันไปมองทันที เมื่อได้ยินเสียง เขาหายใจเข้าแรงแล้วสะดุดไปในทันที เมื่อเห็นหญิงสาวเอวบางร่างน้อย นัยน์ตากลมโต ใบหน้าคมหวาน ผมดำยาวสลวยสยายเต็มหลัง สวมชุดแม็กซี่เดรสสีขาวปักฉลุลายดอกไม้ตัวยาวจนถึงข้อเท้า แขนยาวสามส่วนเลียนแบบชุดอาบายะห์ แต่จะออกไปในสไตล์ตะวันตกมากกว่า ซึ่งเข้ากันได้ดีกับรองเท้าผ้าหุ้มส้นพิมพ์ลายดอกไม้วินเทจสีเทา กำลังเดินเข็นกระเป๋าเดินทางออกมาจากลิฟต์ รูปร่างหน้าตาของหญิงสาวโดดเด่นเสียจนดึงดูดสายตาของผู้คนทั้งชายและหญิง ที่นั่งอยู่ในล็อบบี้ให้มองมาอย่างสนใจใคร่รู้ ดวงตาคมกริบล้ำลึกของชายหนุ่ม กำลังถูกตรึงจนไม่อาจถอนสายตาไปมองที่อื่นได้ พูดอะไรไม่ออกอยู่ชั่วครู่ราวกับวิญญาณของเขาก็กำลังถูกดูดกลืนหายไปด้วยเสียอย่างนั้น ก่อนที่จะได้สติเมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ เขาจึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปทักทายด้วยหัวใจที่กำลังเต้นรัวแรง “มิสนรากร?” เขาทักขึ้นก่อน เพื่อยืนยันว่าใช่คนที่กำลังรออยู่หรือเปล่านัยน์ตากลมโตมองชายหนุ่ม ที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราจนดูครึ้มไปหมด แต่กลับรู้สึกสะดุดที่นัยน์ตายาวรีคู่นั้น ถึงแม้จะดูคมกริบดุดันในนาทีแรก

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 3

    พริมโรสรู้สึกหิวน้ำ จึงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย พยายามตั้งสติอยู่ชั่วครู่ โฟกัสไปรอบๆ ห้อง คิดอยู่ในใจว่าน่าจะเป็นบ้านของโฮสต์เลยคลายความระวังตัว ลุกขึ้นเดินจะไปเปิดประตู แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อสายตาไปปะทะกับร่างสูงที่นอนหลับสนิทเหยียดยาวอยู่บนโซฟาหญิงสาวระงับความไม่พอใจเอาไว้ หลังจากได้คิดว่าคงเป็นการแสดงบทบาทให้สมจริงของเขาอีกแล้ว เพื่อให้ข้อมูลสอดคล้องกันตั้งแต่เริ่มแรก เธอมองเขาด้วยสายตาเฉยเมย ก่อนที่จะเปิดประตูออกไปข้างนอก“มิสนรากร สวัสดีตอนเช้าค่ะ” พริมโรสคิดในใจว่าผู้หญิงหน้าตาเป็นมิตรคนนี้คงจะเป็นภรรยาเจ้าของบ้าน จึงยิ้มตอบอย่างอบอุ่น“สวัสดีตอนเช้าค่ะ มิสซิสซัลมาใช่ไหมคะ?”“ค่ะ ฉันชื่ออัลวานี ส่วนสามีฉันบาซิม” บาซิมซึ่งอยู่ไม่ไกล หันมายิ้มอย่างสุภาพ พริมโรสยิ้มตอบ แล้วผงกศีรษะนิดหนึ่ง“เรียกฉันว่าพริมก็ได้ค่ะ เอ่อ..พอดีหิวน้ำ อยากจะหาน้ำดื่มสักแก้ว”“อ๋อ ได้สิคะ น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นดีคะ?” อัลวานีกุลีกุจอหยิบแก้วใสทรงดอกทิวลิปมาวางตรงหน้าพร้อมจานรอง“อะไรก็ได้ค่ะ”“งั้นแนะนำให้เป็นชาดีกว่า ชาวเปเรซชอบดื่มชาค่ะ จะมีติดบ้านไว้เสมอ”“ได้ค่ะ ขอบคุณ” อัลวานีเดินกระฉับกระเฉงไป

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 4 : Second Kiss

    พริมโรสนอนหอบหายใจแรงอยู่กับพื้น ในขณะที่มือทั้งสองข้างถูกเขากดไว้ข้างตัว ขาทั้งสองข้างถูกทับไว้ด้วยขาของเขาจนยกแทบไม่ขึ้น“จะยอมได้หรือยัง? พยศเป็นม้าบ้าเลยนี่!”“คุณมันชอบเอาชนะผู้หญิง! หาความเป็นสุภาพบุรุษไม่มี!” หญิงสาวตะโกนตอบโต้ทั้งๆ ที่ยังหายใจหอบ“แล้วสุภาพสตรีที่ไหน เขาเล่นแรงกันแบบนี้ล่ะ! ถ้าสู้ไม่ได้อาจถึงขั้นพิการได้เลยนะ!”“ใครใช้ให้คุณมาทำรุ่มร่ามกับฉันล่ะ! คุณมันทุเรศ! ไอ้คนบ้า! ไอ้หน้ารังแกผู้หญิง!”“ถ้าไม่เลิกสบถใส่ผม คุณโดนดีแน่!”“กล้าดีก็ลองดู! ฉันจะอัดไอ้หนูคุณให้น่วมจนพิการเลย! ไอ้คน.. อื๊อ!”พริมโรสตกใจเพราะเขากดจุมพิตหนักหน่วงลงมาทั้งๆ ที่ยังพูดไม่จบ เป็นจุมพิตที่ต้องการจะลงโทษ มากกว่าจะอยู่ในอารมณ์พิศวาสเธอพยายามจะดิ้นหนี แต่ก็สู้แรงที่แข็งดังหินของเขาไม่ได้ จึงทำได้เพียงเบี่ยงศีรษะออก เป็นผลให้เขาไถลจุมพิตลงมาที่ข้างแก้ม แล้วไล้เลยมาถึงซอกคอ จู่ๆ แรงจุมพิตของเขาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วนเวียนซุกไซ้ไปมาอย่างหลงไหล เธอดิ้นขลุกขลักอยู่เป็นครู่ ทำได้แค่ดึงขาออกจากการพันธนาการได้เท่านั้นขณะที่เขากำลังไล้จุมพิตมาถึงแอ่งหลังใบหู ประตูห้องก็เปิดออก ทั้งสี่ชีวิตย

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 5

    “ยังไม่หายโกรธผมอีกรึ?” อิฟราอิมเดินตามมาทัน จึงรั้งแขนไว้ แล้วจับไหล่ให้หันมาเผชิญหน้า แต่หญิงสาวเบี่ยงตัวออก“ฉันดูลักษณะเหมือนคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนั้นหรือ?” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย ไร้ความรู้สึก“ไม่เอาน่า! เราเป็นทีมเดียวกันไม่ใช่หรือไง? โกรธกันข้ามวันมันไม่ดีต่อความสัมพันธ์นะ”“ผู้พันคะ! ฉันคิดว่าคุณจะอินกับบทบาทมากเกินไปหน่อยแล้ว ฉันจะขอบคุณมาก..ถ้าเราจะทำให้สถานที่นี้ปลอดจากยุงที่เกิดมาจากบทละครน้ำเน่าของคุณ! แค่นี้ฉันก็เบื่อจนถึงรังไข่แล้ว…อึ๊!”หญิงสาวตกใจไม่ทันป้องกันตัว เมื่อเขาดันตัวเธอติดผนัง จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอยกขึ้น แล้วรวบไว้ด้วยมือข้างเดียว ใช้มืออีกข้างปิดปากที่กำลังพร่ำบ่นไม่หยุด “ผมจะเลี้ยงอาหารที่แพงที่สุดในเมืองนี้เพื่อเป็นการไถ่โทษดีไหม?” ชายหนุ่มพยายามต่อรองพริมโรสได้ยินดังนั้นก็ชะงักขาที่กำลังจะยกตั้งขึ้นเพื่อทำการใหญ่ เขาปล่อยมือที่ปิดปากออก แต่ยังคงจับข้อมือสองข้างรั้งไว้“ก็..ก็ยุติธรรมดี แต่ไม่ใช่ว่าคนอย่างฉันจะเห็นแก่กิน หรือติดสินบนอะไรได้ง่ายๆ หรอกนะ อย่าเข้าใจผิด! แค่อยากเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมอาหารการกินของคนที่นี่ก็แค่นั้น!” อิฟราอิมเบ้ป

    Last Updated : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 6

    “ผู้พันคะ!” หญิงสาวทัก เมื่อเห็นเขานั่งชันศอกข้างหนึ่งค้ำประตู ปลายนิ้วเขี่ยริมฝีปากล่างไปมาอย่างใช้ความคิด เธอสังเกตเขามาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ออกรถมาจนถึงตอนนี้ “หืม?” เขาทำเสียงตอบในลำคอ แต่ไม่ได้หันมา ยังคงมองตรงทางข้างหน้านิ่งเธอมั่นใจว่าไม่ได้ไปขัดใจอะไรเขา จะให้ปลอมเป็นคู่หมั้นก็รับปาก ชุดนี้ก็เป็นเขาเองที่บอกว่าดีแล้ว แต่ก็มานิ่งเงียบแบบนี้ จนทำให้เธอเริ่มวิตก“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” “เปล่า! ไม่ได้เป็นอะไร! ผมกำลังคิดอะไรเพลินไปหน่อย คุณถามอะไรแล้วผมไม่ได้ตอบกลับหรือเปล่า?” หญิงสาวถอนใจ บางทีเขาอาจไม่สะดวกใจอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ เลยคิดจะเปลี่ยนเรื่องคุย“คุณได้ข้อมูลเรื่องพิกัดหรือยังคะ?”“เราจะไม่คุยเรื่องงานกันตอนนี้ที่รัก” พริมโรสเลิกคิ้ว เริ่มหงุดหงิดนิดๆ โน่นก็ไม่ได้! นี่ก็ไม่ได้! หมอนี่เป็นคนยังไงกันแน่!! เอาใจยากชะมัด!!เธอเริ่มไม่พอใจ จึงหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถ ยกแขนขึ้นกอดอก ยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างอย่างเจ้าอารมณ์เต็มที่ ทำให้ขอบซับในร่นลงมามากกว่าเดิม เผยให้เห็นท่อนขาเรียวสวยขาวนวลเนียนอยู่ภายใต้เนื้อผ้ารำไร ชายหนุ่มเห็นการเคลื่อนไหวอยู่ปลายหางตา จึงเหลือบมองอย่า

    Last Updated : 2025-03-16

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status