“เพราะเหตุนี้ ข้าก็เลยคิดที่จะแต่งตั้งเจ้าเป็นราชทูต ประทานดาบซ่างฟางให้เจ้าไปสืบราชการลับ กวาดต้อนพวกขุนนางทุจริตเหล่านี้! กำลังพรรคพวกของตู้หวินหยวนให้หมด เพื่อให้ใต้หล้ามีอนาคตที่สดใส! เมื่อถึงตอนนั้นที่บุกค้นบ้านและยึดทรัพย์ของตู้เหวินหยวน พวกเราสองคนก็หารครึ่งกัน”คำพูดของฮ่องเต้หวู่นั้น พูดได้อย่างชอบธรรมและจริงจังแต่หลี่หลงหลินเหมือนถูกโจมตีอย่างรุนแรงเสด็จพ่อ นี่ท่านประเมินข้าสูงเกินไปหรือไม่?ให้ข้าไปต่อกรกับพวกขุนนางที่มีอำนาจเหลือล้นอย่างนั้นหรือ?นี่อยากจะให้ข้าไปตายหรือไม่?อย่าว่าแต่ข้าเลยแม้แต่ท่าน ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของขุนนางเหล่านี้!ไหนจะดาบซ่างฟางอะไรนั่นอีก!มันจะมีประโยชน์อะไรกัน!ขุนนางพวกนั้นไม่ต้องใช้มีด แค่คำพูดจากปากไม่กี่คำก็ไม่รู้ว่าต้องมีชาวบ้านเท่าไหร่ที่หัวต้องหลุดจากบ่า!“เสด็จพ่อ...”หลี่หลงหลินจึงเอ่ยปฏิเสธ “ลูกแค่ฉลาดเล็กน้อยเท่านั้น! หน้าที่ผู้แทนพระองค์เช่นนี้ ลูกไม่มีความสามารถทำให้สำเร็จจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ แผ่นดินต้าเซี่ยเต็มไปด้วยความสามารถ พระองค์ลองพิจารณาดูคนอื่นก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “คนอื่นหรือ?
หลี่หลงหลินชูนิ้วของมาหนึ่งนิ้ว “เสด็จพ่อ! ท่านอยากให้ลูกเป็นผู้แทนพระองค์ตรวจสอบคดีฉ้อโกงเงินบำนาญ! ข้อแรกลูกอยากให้เสด็จพ่อทรงเงียบเอาไว้ ห้ามบอกใครเรื่องที่ลูกเป็นผู้แทนพระองค์!”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า “เช่นนั้นย่อมได้แน่นอน! ตราบใดที่เจ้ารับปาก ข้าเองก็จะปิดปากเงียบ! เช่นนี้ก็จะมีเพียงสวรรค์และนรกที่รู้ และมีเพียงเราสองพ่อลูกที่รู้กัน! แม้แต่เว่ยซวิน ข้าก็จะไม่บอกเขา”หลี่หลงหลินพูดต่อ “ข้อที่สอง เวลาที่ลูกตรวจสอบคดีนี้ ห้ามกำหนดเวลา”ฮ่องเต้หวู่ก็ตรัสด้วยความประหลาดใจ “ไม่กำหนดเวลา? ถ้าเช่นนั้นเจ้าอยากจะสืบเท่าไหร่ก็สืบเท่านั้นอย่างนั้นน่ะหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้า “หมายความเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ก็ส่ายหน้าอย่างจริงจัง “ไม่ได้! เจ้าจำเป็นต้องกำหนดเวลาให้ข้า ไม่อย่างนั้น ถ้าเจ้าจงใจยืดเวลาออกไป สืบจนเวลาเนิ่นนาน หรือว่าข้าจะสอบถามอะไรไม่ได้?”หลี่หลงหลินถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เสด็จพ่อลูกทำเพื่อราชสำนัก ทำเพื่อท่าน!ถ้าลูกตรวจสอบตู้เหวินหยวน เช่นนั้นมันต้องเกิดความวุ่นวายทั่วราชสำนักแน่!”“ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือพร้อมที่จะโจมตีเข้าเมืองหลวงได้ตลอดเวลา สถานการณ์ที่หัวเลี
หลี่หลงหลินมองไปที่ฮ่องเต้หวู่ แล้วพูดต่อว่า “ความคิดของลูกไม่เพียงแต่สร้างทางรวยเท่านั้น! แต่ยังสามารถทำให้ทหารรักษาพระองค์ชนะอีกด้วย!”ฮ่องเต้หวู่ตะลึงงันในทันที มองหลี่หลงหลินด้วยความไม่เข้าใจ “ทั้งรวยแล้วก็ยังสามารถทำให้แนวหน้าได้รับชัยชนะอีกอย่างนั้นหรือ? สองเรื่องนี้มันคนละเรื่องเลยนะ! เจ้าพูดมา ว่ากิจการอะไรกันแน่”หลี่หลงหลินเอ่ยว่า “จางไป่เจิงคือแม่ทัพที่มีชื่อเสียง ทหารรักษาพระองค์ของเสด็จพ่อ เป็นทหารชั้นยอดในชั้นยอด มีจำนวนหนึ่งแสนนาย! แต่ว่าเหตุใดจางไป่เจิงถึงได้หลีกเลี่ยงไม่ยอมออกรบตลอด ได้แต่หดหัวอยู่ในกระดอง ให้เผ่าหมานเพียงไม่กี่หมื่นคนโจมตีเมือง สังหารและปล้นสะดมอย่างกำเริบ?”ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว “แม้ว่าข้าจะอยู่บนหลังม้าออกศึกมาตลอดชีวิต เคยเข้าร่วมสงครามมานับไม่ถ้วน แต่ว่าในสนามรบนั้นมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ข้าไม่ได้อยู่ในแนวหน้าก็บอกไม่ได้! แต่ว่าจางไป่เจิงจำเป็นน่าจะมีเหตุผลของเขา!”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เหตุผลนั้นง่ายมาก! เพราะว่าแม่ทัพจาง แผนการในการเอาชนะยังมีไม่พอ...”ฮ่องเต้หวู่มีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “เป็นไปไม่ได้! ทหารรักษาพระองค์ของข้า เผ่าหมาน
คำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ฮ่องเต้หวู่ตกใจ!นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก!จางไป่เจิงถ่วงเวลาไม่ยอมออกรบ ต่อสู้กับพวกเผ่าหมานจนสุดชีวิตประชาชนและกองทัพ เกิดเสียงก่นด่าขึ้นมาเรื่อยๆ มีหลายคนที่ทิ่มแทงเข้ากระดูกสันหลังของจางไป่เจิง บอกว่าเขากลัวสงคราม บอกว่าเขาเป็นคนขี้ขลาด!เสียงของชาวบ้าน จางไป่เจิงไม่สนใจเสียงของกองทัพ จางไป่เจิงสามารถยับยั้งไว้ได้แต่ในราชสำนักล่ะ?ฎีกาฟ้องร้องจางไป่เจิงก็เหมือนกับเกล็ดหิมะที่ทยอยกันมาอย่างไม่ขาดสายตอนนี้สามารถระงับฎีกาไม่ส่งออกไปได้ชั่วคราวแต่การทำเช่นนี้จะสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน?สิบวัน?ครึ่งเดือน?หรือหนึ่งเดือน?สักวันหนึ่ง ประชาชนก็ต้องลุกฮืออย่างโกรธเกรี้ยว ข้าก็คงไม่อาจระงับมันไว้ได้ ทำได้เพียงเชื่อฟังเจตนารมณ์ของเหล่าขุนนาง ออกพระราชกฤษฎีกาให้จางไป่เจิงออกไปทำสงคราม ไม่อย่างนั้นก็ต้องเรียกเขากลับมารายงานที่เมืองหลวง!การเปลี่ยนแม่ทัพ เป็นสิ่งต้องห้ามในการทหารทหารขาดเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย พวกเขาต้องรีบไปรับมือกับสงคราม สภาพอากาศก็ไม่เอื้ออำนวย!ถ้าเจอลมหิมะ เช่นนั้นจุดจบที่รอกองทัพรักษาพระองค์ทั้งแสนนายคือสิ่งใด?แน่นอนว่าต้อง
ยังอยากบริจาคเสื้อผ้าฝ้ายอีกหนึ่งแสนตัวหรือ?นั่นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านกำลังคนและวัสดุเท่าใดกัน? และจะต้องจ่ายเงินออกไปเป็นจำนวนเท่าใด?อย่างน้อยก็ต้องใช้เงินหลายแสนตำลึง!“ยามชาติมีภัยควรมีใจภักดี!”“เจ้าเก้า เจ้าช่างซื่อสัตย์จริงๆ!”ฮ่องเต้หวู่ตื่นเต้นอย่างยิ่ง จับสองมือของหลี่หลงหลินแน่น กล่าวทั้งน้ำตา “แต่เจ้ามีเงินมากขนาดนั้นหรือ?”หลี่หลงหลินดูลำบากใจ “เรื่องเงินน่ากังวลจริง! แต่เพื่อต้าเซี่ย เพื่อเสด็จพ่อ ข้ายินดีจะรัดเข็มขัดตัวเอง[footnoteRef:1] ประหยัดเงินค่าอาหารอาภรณ์ ไม่ยอมให้เงินเล็ดลอดแม้แต่ระหว่างซี่ฟัน! ไม่ว่าจะยากเพียงใด ข้าก็มิใช่จะลำบาเท่าแนวหน้าขอรับ” [1: การทำให้ตัวเองลำบาก] ฮ่องเต้หวู่หลั่งน้ำตา เสียงสั่นระริก “เจ้าเก้า หากวันหนึ่งพวกเราเอาชนะพวกหม่านอี๋ทางเหนือได้ เจ้าย่อมมีความดีความชอบ! เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าต้องการสิ่งใด ข้าก็จะพระราชทานสิ่งนั้นให้!”“ต่อให้เจ้าจะต้องการเป็นรัชทายาท ข้าก็จะไม่ลังเลยกให้!”เวลานี้ ฮ่องเต้หวู่แสนจะสะเทือนใจ!ในบรรดาองค์ชายทั้งเก้า หลี่หลงหลินอาจไม่ใช่คนที่มีความสามารถมากที่สุดทว่า เขาเป็นคนที่จงรักภักดีและกตัญญูที
หลี่หลงหลินนำเข็มขัดและกระบี่ล้ำค่าเล่มนั้นออกจากพระราชวังต้องห้าม กลับไปยังตระกูลซูยามนี้ดึกสงัดแล้ว โคมไฟเริ่มจุดเรียงรายสมาชิกหญิงทุกคนในตระกูลซูรวมตัวกันที่ห้องโถง รอคอยอย่างใจจดใจจ่อซูเฟิ่งหลิงเป็นเหมือนมดบนหม้อตั้งไฟ เดินไปมาราวหนูติดจั่น พึมพำเบาๆ “เหตุใดถึงยังไม่กลับมาอีก? เจ้าเก้าหน้าเหม็นนี่ ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้วกระมัง?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูปลอบใจนาง “องค์ชายเก้ามีโชคชะตาเป็นของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น เขาเข้าวังไปพร้อมกับองค์ฮ่องเต้ ไม่ใช่ว่าไปสนามรบเสียหน่อย จะเกิดอะไรขึ้นได้?”ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วและพูดว่า “แต่ในความคิดของข้า เข้าวังที่ว่านั้นอันตรายยิ่งกว่าสนามรบเสียอีก!”เมื่อญาติผู้หญิงทุกคนได้ยินคำนี้ ก็พากันพยักหน้าเห็นด้วยติดตามกษัตริย์ดุจติดตามพยัคฆ์สถานที่ที่อันตรายที่สุดหาใช่สนามรบแต่เป็นวังหลวง เป็นราชสำนัก!กองทัพตระกูลซูก็เป็นตัวอย่างให้เห็น พวกเขาองอาจเทียมฟ้ายามลงสมรภูมิ แต่ทว่าเพราะคำวิจารณ์สาดเสียเทเสียของเหล่าขุนนาง รวมถึงการแก่งแย่งอำนาจของผู้สูงศักดิ์ กองทัพทั้งกองจึงแตกพ่ายอย่างไร้เหตุผลที่ชัดเจน...นี่แสดงให้เห็นว่า เหล่าขุนน้ำขุนนางที่มี
หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “เรียกข้าว่าพี่ชายคนดีสักคำสิ!”ซูเฟิ่งหลิงคิ้วกระตุก หมัดสีชมพูกำแน่น “เจ้าหาเรื่องตาย!”หลี่หลงหลินยกมุมปาก “อ้อ? อยู่ต่อหน้าทุกคนเลยอายเช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นเจ้าก็ติดหนี้ข้าเอาไว้ก่อน! ไม่อยู่กันตามลำพังเมื่อใดเจ้าค่อยใช้คืน!”ก่อนที่ซูเฟิ่งหลิงจะเสียใจ หลี่หลงหลินก็ยื่นดาบซ่างฟางไปให้ซูเฟิ่งหลิงอดทนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการล่อลวงของอาวุธวิเศษได้ หลังจากได้รับดาบซ่างฟางมา นางก็แทบรอไม่ไหว ชักมันออกมาจากฝักทันที!เวิ้ง...มังกรคำรามลั่น ขดตัวพัวพันรอบลำแสง!ทั่วทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยแสงกระบี่และเจตนาฆ่า!ซูเฟิ่งหลิงถือกระบี่ไว้ในมือข้างหนึ่ง เริ่มเหวี่ยงกระบี่อย่างตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะเชยชม “กระบี่ดี กระบี่ดี! นี่ไม่ใช่กระบี่ธรรมดา นามว่าอะไรหรือ?”หลี่หลงหลินพูดอย่างใจเย็น “นี่คือกระบี่ของเสด็จพ่อ วิหคมังกรแห่งต้าเซี่ย!”สูด...ทันใดนั้น ทุกคนก็สูดอากาศเย็นเข้าปอดหลี่หลงหลินตกใจ ละล้ำละลักพูดว่า “วิหคมังกรแห่งต้าเซี่ย? กระบี่เทพปักษ์แคว้น วิหคมังกรแห่งต้าเซี่ย? ฮ่องเต้ถึงขั้นมอบกระบี่เทพปักษ์แคว้นให้ท่านจริงๆ หรือ? เหตุ
ฮูหยินผู้เฒ่าซูขมวดคิ้ว “หากฮ่องเต้กล่าวโทษลงมาเล่าจะทำอย่างไร? นางหนู คืนดาบซ่างฟางให้องค์ชายเก้าเสีย นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรรับมา! ระวังจะจุดไฟเผาตัวเอง นำหายนะมาสู่ตระกูลซู!”ซูเฟิ่งหลิงมอบวิหคมังกรแห่งต้าเซี่ยให้หลี่หลงหลินอย่างไม่เต็มใจนัก กลับไปให้หลี่ “เอาไป! กระบี่ร้ายๆ ของเจ้า ข้าไม่สนใจหรอก!”หลี่หลงหลินไม่รับกระบี่ พูดด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านกังวลเกินไปแล้วขอรับ! หากกลัวว่าฮ่องเต้จะตำหนิลงมา ก็เพียงแค่บอกว่าซูเฟิ่งหลิงเป็นองครักษ์ส่วนตัวของข้า ก็ได้แล้วไม่ใช่หรือขอรับ?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเลิกคิ้ว “องครักษ์ส่วนตัว นี่ก็นับเป็นวิธีได้! ยิ่งไปกว่านั้น ตู้เหวินยวนและพรรคพวกย่อมไม่ยอมแพ้ ต้องคอยคิดจะใช้วิธีที่ร้ายกาจจัดการท่านแน่นอน! การที่พวกเขาจะส่งนักฆ่ามาลอบสังหาร ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!”“แทนที่จะกังวลเรื่ององค์ชายเก้าอยู่ทั้งวัน”“ไม่สู้ให้นางหนูซูเฟิ่งหลิงคอยคุ้มครองความปลอดภัยของท่านจะดีกว่า!”“นี่เป็นวิธีขว้างหินหนึ่งก้อนฆ่านกสองตัวจริงๆ!”“กลัวแต่ก็แค่นางหนูซูเฟิ่งหลินจะรั้น ไม่ยอมเห็นด้วย...”หลี่หลงหลินมองไปที่ใบหน้างามของซูเฟิ่งหลิง และพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้
“เสด็จแม่” หลี่หลงหลินโค้งคำนับให้ฮองเฮาหลิน “ฟ้ามืดแล้ว พระองค์รีบกลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ฮองเฮาหลินพยักหน้าเล็กน้อย ทว่ายังคงลังเลที่จะเอ่ยปาก หลี่หลงหลินขึ้นรถม้าพร้อมกับคนในตระกูลซู เพื่อออกจากวังกลับไปยังจวนสกุลซู ภายในรถม้า แม่ทัพผู้เฒ่าซูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “รัชทายาท เหตุใดพระองค์ถึงทำเช่นนี้? กลุ่มข้าราชการเต็มใจที่จะสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ เหตุใดพระองค์จึงปฏิเสธ?” ฟึบ! ทันใดนั้น สายตาของซูเฟิ่งหลิงและพี่สะใภ้ทั้งสี่ก็จับจ้องไปที่หลี่หลงหลิน ในใจพวกนางรู้สึกสงสัยเช่นเดียวกับแม่ทัพผู้เฒ่าซู นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะรวบรวมกลุ่มข้าราชการไว้ในมือ เหตุใดหลี่หลงหลินถึงปฏิเสธ แถมยังพูดจาดูถูกจนทำให้กลุ่มข้าราชการขุ่นเคือง? หรือว่า... หลี่หลงหลินไม่เข้าใจ ว่าหากกลุ่มข้าราชการสวามิภักดิ์ด้วย เขาก็จะทรงครองตำแหน่งรัชทายาทได้อย่างมั่นคง ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ แผ่นดินต้าเซี่ยจะอยู่ในมือของเขา? หลี่หลงหลินสีหน้าเคร่งขรึม เขาแงนมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “แผ่นดินต้าเซี่ยนี้ ผุพังเกินเยียวยานานแล้ว ข้าจะเอาไปทำอะไร?” บรรดาหญิงสาว
ฮ่องเต้หวู่ปวดหัวแทบระเบิด สองมือกดขมับคลึงเค้น สมองแทบเหลวเป็นแป้งเปียก ฮ่องเต้หวู่จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากหลี่หลงหลินอย่างจนปัญญา: “เจ้าเก้า เจ้าว่าข้าควรทำเช่นไรดี?” หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย: “เสด็จพ่อ ใกล้ค่ำแล้ว วันนี้แยกย้ายกันเพียงเท่านี้เถิด! สุขภาพของท่านสำคัญยิ่งนัก รีบกลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้หวู่ชะงัก: “แยกย้ายกันเพียงเท่านี้? แล้วคดีทุจริตของซ่งชิงหลวนเล่าจะทำเช่นไร?” หลี่หลงหลินผายมือ: “ก็ทำตามที่ควรทำ ตอนนี้เสด็จพ่อมีหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ให้พวกเขาไปสืบสวนก็สิ้นเรื่อง! ควรจับก็จับ ควรตัดสินก็ตัดสิน ควรประหารก็ประหาร!” “การสอบคัดเลือกขุนนางเป็นเรื่องใหญ่ยิ่ง ครั้งนี้ต้องสืบสวนให้ถึงที่สุด!” ฮ่องเต้หวู่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในทันที เมื่อก่อนข้าพึ่งพาเหล่าขุนนางมากเกินไป จึงสูญเสียอำนาจในการตัดสินใจ ทำอะไรก็ต้องคอยระแวดระวัง กระทั่งถูกริดรอนอำนาจ เป็นฮ่องเต้เช่นนี้ ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก! แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ข้ามีหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาขุนนางพวกนี้อีกต่อไป! ข้าอยากจะสืบสวนอย่างไร ก็ทำได้ตามใจ! ดี! ฮ่องเต้หวู
ฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วจัดเดิมที เขาทรงคิดว่าซ่งชิงหลวนเป็นผู้มีปัญญามาก มีคุณธรรมสูงส่ง เป็นที่เคารพนับถือ คาดไม่ถึงเลยจริงๆหลายปีมานี้ ซ่งชิงหลวนสมคบกับตู้เหวินยวน ผูกขาดการสอบขุนนาง ทุจริต ฉ้อฉล ไม่รู้ว่ารีดไถทรัพย์สินจากราษฎรไปเท่าไหร่การคดโกงเงินทองนั้น จริงๆ แล้วฮ่องเต้หวู่ไม่ได้ใส่พระทัยขุนนางทั้งราชสำนัก มีใครบ้างที่ไม่รับสินบน?บัณฑิตร่ำเรียนมาสิบปี หวังจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็เพื่ออะไรกัน?เพื่อทำตามความฝันและปณิธานของตนเอง?เหลวไหล!ใครบ้างที่ไม่ทำเพื่อเงินทอง?ปัญหาคือ คนดีรักทรัพย์สิน ก็ควรได้มาโดยชอบธรรมหากซ่งชิงหลวนเพียงแค่ยักยอกค่าเล่าเรียนเล็กๆ น้อยๆ นั่นก็แล้วไป!เขากลับใช้การสอบขุนนางเป็นเครื่องมือ!ช่างเกินไปแล้ว!มิน่าเล่า ในราชสำนัก ขุนนางที่ไร้ความสามารถจึงมีมากขึ้นเรื่อยๆแต่ละคนถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ตีสามครั้งก็ยังไม่ปริปากให้ไปปกครองบ้านเมือง ก็ทำได้แย่มิน่าเล่า หนิงชิงโหว ผู้มีความรู้ความสามารถ ถึงได้สอบตกแม้ว่าภายหลัง หนิงชิงโหวจะสอบได้จอหงวน ก็ยังเลือกที่จะไปเป็นอาจารย์อยู่ที่เขาประจิม ไม่ยอมเข้ารับราชการแท้จริงแล้ว รากฐานของต้าเซี่ย
เรื่องน่าอับอายของซ่งชิงหลวนเหล่านั้น ล้วนเป็นสิ่งที่นางกุขึ้นเองทั้งสิ้นหลักฐานของหลี่หลงหลินมาจากไหน?หรือว่าเพื่อช่วยนาง หลี่หลงหลินคิดจะปลอมแปลงหลักฐาน หลอกลวงเบื้องสูง?นี่... นี่ไม่ได้!การหลอกลวงเบื้องสูงเป็นความผิดมหันต์ต่อให้หลี่หลงหลินเป็นถึงรัชทายาท ก็ไม่อาจแบกรับไหว!ยิ่งไปกว่านั้น ฮ่องเต้หวู่กำลังทรงกริ้ว ถึงขั้นคิดจะถอดหลี่หลงหลินออกจากตำแหน่งรัชทายาทหลี่หลงหลินเสี่ยงอันตราย หากถูกฮ่องเต้หวู่จับได้ ก็คงจะถึงคราววิบัติ“องค์รัชทายาท”“อนาคตของท่านยังอีกยาวไกล เพื่อหญิงต่ำต้อยเช่นข้า เหตุใดต้องทำลายอนาคตตนเอง?”หลิ่วหรูเยียนน้ำตาไหลอาบแก้ม คิดจะเปิดเผยความจริงหลี่หลงหลินรีบส่งสัญญาณให้ซูเฟิ่งหลิง “เจ้าพาพี่สะใภ้สี่ไปด้านข้าง อย่าให้นางพูดอะไรเหลวไหล”ซูเฟิ่งหลิงจับแขนหลิ่วหรูเยียน “พี่สะใภ้สี่ ท่านอย่าพูดอะไรเลย! ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์รัชทายาทเถิด! มีเขาอยู่ ต้องไม่มีปัญหาแน่นอน”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า ถอยไปด้านข้างหลี่หลงหลินเห็นดังนั้น ก็ถอนหายใจยาวเกือบไปแล้ว!เกือบจะเกิดศึกภายใน ทำลายแผนการจนหมดสิ้นหลิ่วหรูเยียนยังขาดประสบการณ์ในเรื่องให
เมื่อมีหลี่เทียนฉี่เป็นหัวหอก เหล่าขุนนางก็ดาหน้าเข้ามาผสมโรง “ฝ่าบาท พระชายารัชทายาททำเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“กล้าขัดพระราชโองการอย่างเปิดเผย ช่างบังอาจยิ่งนัก!”“ซูเฟิ่งหลิงเป็นลูกหลานแม่ทัพ ไม่รู้ขนบธรรมเนียม รัชทายาท ท่านก็ไม่รู้หรืออย่างไร?”“ถูกแล้ว รัชทายาท! ท่านควรจะดูแลสตรีของท่านให้ดี! มิเช่นนั้นพูดมากไปก็จะเสียการ เป็นที่น่าอับอาย!”“หึๆ รัชทายาทขึ้นชื่อว่าเป็นคนกลัวเมีย เขาจะกล้าไปหือกับสตรีที่มุทะลุดุดันอย่างซูเฟิ่งหลิงหรือ? ไม่อยากอยู่แล้วหรือไร?”“คนหนึ่งกลัวเมีย อีกคนเป็นแม่เสือโคร่ง ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ!”“รัชทายาท ท่านจงดูแลแม่เสือโคร่งของท่านให้ดี อย่าปล่อยออกมาทำร้ายผู้อื่น”คำเยาะเย้ยถากถางถาโถมเข้ามาไม่หยุดซูเฟิ่งหลิงไม่สันทัดในการโต้เถียง ทั้งร้อนรนทั้งโกรธ น้ำตาคลอเบ้า แทบจะร้องไห้ออกมา “พวกเจ้า... พวกเจ้า...”“หุบปาก!”ในเวลานั้น เสียงตวาดดุจสายฟ้าฟาดก็ดังขึ้นในตำหนักฉางเล่อหลี่หลงหลินก้าวออกมา มือไพล่หลัง ท่าทางหยิ่งผยอง เอ่ยเสียงเย็น “รังแกผู้หญิง นับเป็นความสามารถอันใด? พวกท่านมีความสามารถ ก็มาโต้คารมกับข้าสักห้าร้อยยก แบบไม่มีกติกาก็ได้
หลิ่วหรูเยียนเห็นขุนนางทั้งราชสำนัก แทบจะเทใจสนับสนุนองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ทั้งหมด พากันกล่าวโทษหลี่หลงหลินอย่างรุนแรง นางก็ตื่นตระหนก คิดว่าเคราะห์ใหญ่กำลังจะมาเยือนนางได้มอบชีวิตของตนให้แก่หลี่หลงหลินแล้ว ยินยอมที่จะตายแทนเขาดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้อหาใด หลิ่วหรูเยียนก็รับไว้ทั้งหมดโดยไม่ลังเล!“พี่สะใภ้สี่ เจ้า...”หลี่หลงหลินมองหลิ่วหรูเยียนด้วยความซาบซึ้งใจเขาก็คาดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะยอมสละได้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อเขา!ตัวเขาเป็นถึงรัชทายาท ข้อหาหมิ่นประมาทบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ก็มีโทษเพียงแค่ริบเบี้ยหวัดเท่านั้นแต่หลิ่วหรูเยียนเป็นเพียงสามัญชน ไม่มีอำนาจ ไม่มีบารมี ไม่มีผู้หนุนหลังหากนางต้องรับโทษนี้ มีหวังต้องหัวหลุดจากบ่าฮ่องเต้หวู่เลิกคิ้วขึ้น มองหลิ่วหรูเยียนด้วยความประหลาดใจ “เจ้าจะรับผิดแล้วหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่า โทษนี้ เจ้าคนเดียวไม่อาจรับไหว!”บนใบหน้างดงามของหลิ่วหรูเยียน ปรากฏรอยยิ้มที่งดงามปนเศร้า “ฝ่าบาท ไม่ว่าจะเป็นโทษทัณฑ์ใด หม่อมฉันก็ยินดีรับไว้ทั้งหมด!”“ช่างเป็นคนมีน้ำใจ...”ฮ่องเต้หวู่รำพึงในใจ “มิน่าเล่า เจ้าถึงได้แต่ง “ความฝันในหอแดง” ได้...”
ไม่ยอมรับ!ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกไป ทั่วทั้งท้องพระโรงก็ตกอยู่ในความเงียบงันราวกับป่าช้า!เหล่าขุนนางเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูของตนได้ยินฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วแน่น แววตาฉายแววขุ่นเคืองและผิดหวัง “เจ้าเก้า! เจ้าไม่เข้าใจความหวังดีของข้าอย่างนั้นหรือ? จำเป็นต้องมาขัดขวางข้าต่อหน้าธารกำนัล ในงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผาเช่นนี้?”เขาเป็นทั้งฮ่องเต้และบิดา ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด ก็ต้องรักษาไว้ซึ่งบารมี!พูดกันตามตรงไม่ว่าใครก็ต่างมองว่าฮ่องเต้หวู่ทรงลำเอียงเข้าข้างหลี่หลงหลินอย่างเห็นได้ชัด ถึงขั้นที่เรียกว่าทรงโปรดปรานก็ว่าได้!การลงโทษให้ริบเบี้ยหวัดเพียงสามเดือน ก็เป็นเงินแค่สามร้อยตำลึงโทษทัณฑ์นี้เบาบางยิ่งนักพูดง่ายๆ ก็คือทำเป็นพิธีไปเท่านั้นหลี่หลงหลินจะไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่ปลายก้อยแต่ฮ่องเต้หวู่ทรงทำเพื่อหลี่หลงหลินถึงเพียงนี้หลี่หลงหลินกลับยังคงไม่ยอมรับผิด!“แม้แต่โทษเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ก็ยังไม่ยอมรับอีกหรือ?”“เจ้าเก้า เจ้าทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก!”“ข้าหวังดีต่อเจ้า แต่เจ้ากลับไม่เห็นค่า!”ฮ่องเต้หวู่ถอนหายใจในใจความหวังดีของเขาถูกหล
ฮ่องเต้หวู่อ่านกลับไปกลับมาหลายรอบ ก็ยังไม่เข้าใจ “องค์ชายใหญ่ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”หลี่เทียนฉี่ก้มหน้าทูล “ทูลเสด็จพ่อ ในหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยฉบับนี้ เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้ว! บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งชิงหลวน เป็นแบบอย่างที่ดี ลูกศิษย์มากมาย มีคุณธรรมสูงส่ง!”“องค์รัชทายาทกลับเขียนลงในหนังสือพิมพ์ ใส่ร้ายป้ายสี ทำลายชื่อเสียงของบัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง!”“บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งอ่านแล้ว โกรธจนกระอักเลือด แทบสิ้นลม จนถึงตอนนี้ก็ยังอาการสาหัส!”“ขุนนางทั้งราชสำนัก เป็นพยานให้บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งได้”“เนื้อหาในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระสิ้นดี!”“ขอให้ฝ่าบาททรงประทานความเป็นธรรมแก่บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง และบัณฑิตทั้งแผ่นดินด้วย!”เมื่อสิ้นเสียงเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นต่างพากันยืนขึ้น แสดงความไม่พอใจ “ฝ่าบาท กระหม่อมทั้งหลายยินดีเป็นพยาน! เรื่องราวที่เขียนในหนังสือพิมพ์ ล้วนเป็นเรื่องโกหก พูดจาเหลวไหล!”“ใช่แล้ว ฝ่าบาท! บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง ไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน!”“หวังว่าฝ่าบาทจะทรงผดุงความยุติธรรม นำตัวผู้ปล่อยข่าวใส่ร้ายมาลงโทษ!”“หากบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ยังถูกใส่ร้ายป้าย
เทพธิดาบุปผา?หลี่เทียนฉี่ยืนโดดเดี่ยวอยู่ในสวนของตำหนักฉางเล่อ ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านนี่มันเรื่องอะไรกัน?เริ่มจากเครื่องทำความร้อนใต้พื้นและลางดี จากนั้นหลี่หลงหลินก็แต่งบทกวีห่วยๆ...เอาเถอะไม่ใช่บทกวีไร้ค่า แต่เป็นบทกวีอมตะที่วิจิตรงดงามเสด็จแม่ของเขา ฮองเฮาหลิน จู่ๆ ก็ถูกฮ่องเต้แต่งตั้งเป็นเทพธิดาบุปผา?ความรู้สึกถึงภยันตรายอันใหญ่หลวง ถาโถมเข้ามาดั่งคลื่นยักษ์ กลืนกินหลี่เทียนฉี่จนแทบจมหายไปในชั่วพริบตาโบราณว่า แม่มีคุณธรรมลูกจึงได้ดีในราชวงศ์ องค์ชายและพระมารดานั้นต่างต้องพึ่งพาอาศัย ส่งเสริมซึ่งกันและกันทำไมหลี่เทียนฉี่ถึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท?ไม่ใช่เพราะเขาเก่งกาจอะไรแต่เป็นเพราะว่า แม่ของเขาคือฮองเฮาหลู่!เขาคือโอรสองค์โตที่เกิดจากฮองเฮา!ดังนั้น เขาจึงเป็นองค์รัชทายาทโดยกำเนิด!บัดนี้ นางหลู่ถูกถอดถอน ถูกส่งไปยังตำหนักเย็นส่วนแม่ของหลี่หลงหลิน นางหลิน กลับได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา แถมยังกลายเป็นเทพธิดาบุปผาคราวนี้ตำแหน่งองค์รัชทายาทของหลี่หลงหลิน ก็มั่นคง ยากจะหาผู้ใดมาสั่นคลอน!“เจ้าเก้า...”“เจ้ามันเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก!”หลี่เทียน