Share

บทที่ 1045

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
เขาตกใจสะดุ้งโหยง รีบคว้ากระดานประตูขึ้นมาปิดร้านอย่างรวดเร็ว

“ท่านแม่!”

“ท่านพ่อหนีออกจากคุกมาแล้ว!”

“พวกเราเก็บข้าวของ เงินทองของมีค่า แล้วหนีไปเถิด...”

เจิ้งเทียนฉินยังเยาว์วัย ไม่เคยประสบเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ ใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษในชั่วพริบตา

มารดาของเขาก็ปาดน้ำตาไปพลางบ่นไปพลาง “ดูสิ! เรื่องวุ่นวายอะไรเช่นนี้? แต่เดิมพวกเราก็อยู่กันดีๆ เหตุใดจู่ๆ กลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?”

เจิ้งถูฮู่เกาศีรษะพลางเอ่ย “เจ้าลูกชาย เมียข้า เจ้าสองคนพูดอะไรกัน? ใครบอกว่าข้าหนีออกจากคุกมา? ข้าน่ะเดินออกจากคุกใหญ่กรมอาญาทางประตูใหญ่เชียวนะ!”

เมื่อได้ยินดังนั้น สองแม่ลูกกลับยิ่งแตกตื่นมากกว่าเดิม

เดินออกมาทางประตูใหญ่หรือ!?

หรือว่าภายในคุกเกิดการจลาจล? เหล่านักโทษลุกฮือขึ้นสังหารผู้คุม ก่อนจะแหกคุกออกมากันหมด!?

คุกใหญ่กรมอาญานั้นเคร่งครัดยิ่งนัก ไม่เพียงมีกองทหารคอยดูแล ยังมีองครักษ์เสื้อแพรประจำการอีกด้วย กล่าวได้ว่าปลอดภัยราวกำแพงเหล็ก!

ทว่าได้ยินมาว่าครานี้ในคุกมีนักโทษอยู่แน่นขนัด ถูกกักขังไว้นับหมื่นคน เกินขีดจำกัดที่คุกสามารถรองรับได้ไปมากโข!

เมื่อคนมากเกินควบคุม ข้อผิดพลาดก็ย่อมเก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1046

    เขาประจิมจดหมายนิรนามหลั่งไหลเข้ามาดั่งหิมะหนิงชิงโหวและเหล่าบัณฑิตหยิ่งยโสกำลังจัดการกับจดหมายเหล่านี้ จนแทบไม่มีเวลาพักแต่จดหมายมีมากเกินไปจริงๆถึงจะพยายามแล้ว พวกเขาก็ยังจัดการไม่ทันจนสุดท้าย หนิงชิงโหวต้องขอความช่วยเหลือจากหลี่หลงหลินแต่หลี่หลงหลินไม่ได้มา มีแต่ซูเฟิ่งหลิง ลั่วอวี้จู๋ และหลิ่วหรูเยียนที่เดินทางมายังเขาประจิม“รัชทายาทล่ะขอรับ?”หนิงชิงโหวไม่เห็นหลี่หลงหลิน ก็รู้สึกแปลกใจซูเฟิ่งหลิงมุ้ยปาก “เจ้าสุนัขนั่น โรคขี้เกียจกำเริบอีกแล้ว! ซ่อนตัวอยู่ในห้องของ ไม่ยอมออกมา ให้พวกเรามาช่วยแทน!”ตอนนี้ภาพลักษณ์ของหลี่หลงหลินในสายตาชาวบ้านสูงส่งราวกับเทพเจ้าอาจจะมีแค่ซูเฟิ่งหลิงที่กล้าเรียกเขาแบบนั้นนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของสามีภรรยา คนนอกไม่ควรเข้าไปยุ่งแต่หลิ่วหรูเยียนรู้สึกไม่สบายใจ จึงแย้งว่า “น้องหญิง เจ้าเข้าใจองค์รัชทายาทผิดแล้ว! เขาไม่ได้ขี้เกียจ แต่กำลังทำสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งอยู่ต่างหาก”ซูเฟิ่งหลิงรู้สึกหึงหวง “เรื่องสำคัญ? ข้าไม่เห็นรู้เลย? แล้วพี่สะใภ้สี่รู้ได้อย่างไร?”ใบหน้าสวยของหลิ่วหรูเยียนแดงก่ำ รีบแก้ตัว “องค์รัชทายาทขังตัวเองอยู่ในห้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1047

    ฟังแล้วดูเหมือนง่ายแต่จริงๆ แล้วยากมากในอดีตจนถึงปัจจุบัน บัณฑิตในลัทธิขงจื๊อมีมากมายนับไม่ถ้วนแต่มีสักกี่คนที่ได้รับการยกย่องเป็นนักปราชญ์?นับได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น!ทำไมนักปราชญ์ถึงยากนัก?คุณธรรม คุณูปการ และคำสอน ติดอยู่ที่ขั้นตอนไหนกันแน่? การสร้างคุณธรรมไม่ยากสุภาพบุรุษอ่านคัมภีร์ปราชญ์ ฝึกฝนตนเองและหล่อเลี้ยงจิตใจ ก็ย่อมมีคนดีมีศีลธรรมอยู่แล้วการสร้างคุณูปการก็ไม่ยากต่อให้สร้างคุณูปการใหญ่ไม่ได้ สร้างคุณูปการเล็กน้อย เช่น แก้ไขปัญหาน้ำท่วม สร้างประโยชน์สุขให้แก่ชาวบ้านอย่างน้อยที่สุด การบูรณะซ่อมแซมสำนักศึกษา ก็ถือเป็นการสร้างคุณูปการสิ่งที่ยากที่สุดคือการสร้างคำสอนการสร้างคำสอนคือการเขียนตำรา เผยแพร่แนวคิดลัทธิขงจื๊อของตนบางคนอาจจะบอกว่า การเขียนหนังสือไม่ใช่เรื่องยากไม่ว่าจะเป็นฉินฮั่นหยาง หรือเสิ่นชิงโจว บัณฑิตเหล่านี้ ใครบ้างที่ไม่เคยเขียนหนังสือสักสองสามเล่มจนลูกศิษย์ยกย่องแทบจะเหาะขึ้นฟ้าไปแล้วทำไมพวกเขาเป็นแค่บัณฑิต ไม่ใช่นักปราชญ์?เหตุผลง่ายๆหนังสือที่พวกเขาเขียน ไม่ว่าสำนวนจะไพเราะเลิศเลอเพียงใด ก็เป็นการเพิ่มเติมจากสี่ตำราห้าคัมภีร์เ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1048

    เมื่อจดหมายนิรนามมีจำนวนมาก ย่อมต้องมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไปในบรรดาจดหมายเหล่านั้น มีจดหมายจำนวนมากที่เป็นเรื่องโกหก สร้างขึ้นเพื่อระบายความโกรธแค้นยังมีจดหมายอีกส่วนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นจดหมายจากบัณฑิตสำนักปราชญ์ ตั้งใจจะสร้างขึ้นให้เกิดความสับสนสิ่งที่ซูเฟิ่งหลิงต้องทำคือคัดเลือกจดหมายนิรนามที่สร้างขึ้นอย่างหยาบๆ เหล่านี้ออกฟังดูเหมือนง่ายแต่จริงๆ แล้วเหนื่อยมากหลังจากสามวัน ซูเฟิ่งหลิงก็ตาลาย ปวดหัว มองจดหมายแล้วแทบจะอาเจียนในที่สุดหลี่หลงหลินก็มาถึงเขาประจิมในที่สุด“เจ้าสุนัข!”“มาสักทีนะ!”“เจ้ามัวแต่ซ่อนตัว ปล่อยให้พวกเรายุ่งจนแทบตาย!”ซูเฟิ่งหลิงรีบเดินเข้าไปต้อนรับ ระบายความไม่พอใจแต่ในสายตาของหลี่หลงหลิน นางดูเหมือนกำลังออดอ้อนมากกว่า เขาจึงยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “อ้ายเฟย ลำบากเจ้าแล้ว! ถ้าอย่างนั้นจูบเจ้าสักครั้งเป็นรางวัลแล้วกัน!”ซูเฟิ่งหลิงตกใจสะดุ้งโหยง รีบหลบหนีราวกับเห็นผี ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย “พวกพี่สะใภ้กำลังมองอยู่นะ! เจ้าไม่อายหรือไง!”หลี่หลงหลินหันไปเห็นลั่วอวี้จู๋ หลิ่วหรูเยียน และคนอื่นๆ เห็นพวกนางมีท่าทางเหนื่อยล้าก็รู้สึกสงสาร

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1049

    นี่มันเหลวไหลสิ้นดี!ยิ่งกว่านั้นหลี่หลงหลินเป็นศัตรูกับเหล่าบัณฑิตทั่วหล้า ตั้งแต่แรกก็อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ต่อให้เขาเขียนผลงานที่ทำให้โลกตะลึงออกมา เหล่าบัณฑิตก็ไม่มีทางยอมรับ!สรุปแล้วคำพูดของหลี่หลงหลินนั้นเกินจริงไปมาก เป็นการคุยโวเสียยิ่งกว่าความเป็นจริงซูเฟิ่งหลิงยิ่งรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ราวกับแมวน้อยที่ถูกกระตุ้นให้คันจนทนไม่ไหว “ตกลงเจ้าเขียนอะไรไว้กันแน่ เอาออกมาให้ข้าดูหน่อยสิ! อย่าขี้เหนียวไปหน่อยเลย!” หลี่หลงหลินส่ายหน้า “ไม่ได้! ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ เดี๋ยวจะยุ่ง! แต่ข้าบอกเจ้าได้ว่าสิ่งที่ข้าเขียนชื่อว่าปรัชญาแห่งจิต การรู้และการกระทำต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน มุ่งสู่จิตสำนึกแห่งคุณธรรม!”อย่าว่าแต่หลี่หลงหลินที่เป็นองค์ชายเสเพลที่ไม่รู้หนังสือเลยต่อให้เป็นบัณฑิต หรือแม้แต่นักปราชญ์กลับชาติมาเกิดใช้เวลาสามวันเขียนตำราลัทธิขงจื๊อ แถมยังก่อตั้งสำนัก สร้างความรู้ใหม่ สืบทอดความรู้จากนักปราชญ์โบราณ มันช่างน่าตกตะลึงเกินไป!แต่เขาเป็นนักลอกเลียนวรรณกรรมเขียนเองไม่ได้ ก็ลอกไม่ได้หรือไง?ครั้งนี้สิ่งที่หลี่หลงหลินลอกมาคือปรัชญาแห่งจิตใจของหวังหยางหมิงแ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1050

    หากเช้าตรู่ได้รู้แจ้งในวิถีแห่งเต๋า แม้ตายตอนเย็นก็ไม่เสียดายเพียงแค่ “รู้แล้วลงมือทำ” สี่คำนี้ ก็ทำให้หนิงชิงโหวมองเห็นมุมหนึ่งของวิถีแห่งนักปราชญ์ ในชั่วพริบตาราวกับช่วงเวลาที่ความโกลาหลเพิ่งแยกออกจากกัน สายฟ้าแรกได้พลันฟาดลงมาฉีกกระชากความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์“รัชทายาท...”“การรู้แล้วลงมือทำ จะทำได้อย่างไร?”“ในปรัชญาแห่งจิตใจ มีคำอธิบายหรือไม่?”หนิงชิงโหวสูดหายใจเข้าลึกๆ ถามอย่างระมัดระวังความรู้ส่วนใหญ่ในโลกนี้ล้วนเป็นแบบแผนเช่นสี่ตำราห้าคัมภีร์ แก่นแท้อยู่ที่คำว่าเมตตา!แต่ทำไมต้องเมตตา?ในหนังสือไม่ได้บอกเจ้าต้องศึกษาเอง ค่อยๆ ทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งด้วยตัวเองอ่านหนังสือร้อยรอบ ความหมายก็จะปรากฏเองถ้าตระหนักรู้ไม่ได้ล่ะ?แบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากคนหัวทึบ ความสำเร็จในชีวิตมีจำกัด อย่างมากก็เป็นได้แค่ทงเซิงเท่านั้นเปรียบเสมือนว่าหลักธรรมในสี่ตำราห้าคัมภีร์ คือหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสองแต่ทำไมถึงเท่ากับสองในหนังสือไม่ได้บอก ต้องตระหนักรู้เองหากใครเข้าใจแจ่มแจ้ง ก็สามารถก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและรุ่งเรืองถึงขีดสุดบางคนตระหนักรู้ไม่ได้ ก็เสียเวลาไปตลอดชี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1051

    รากฐานอันลึกล้ำของสำนักปราชญ์ ยังคงมีพลังในการโต้กลับ เมื่อใดก็ตามที่หลี่หลงหลินเผยช่องโหว่ สำนักปราชญ์ก็จะกัดไม่ปล่อยแน่นอน หนิงชิงโหวเอ่ยอย่างลำบากใจ: “แต่ว่าองค์รัชทายาท คดีที่จดหมายนิรนามเหล่านี้กล่าวหานั้น ล้วนเป็นเรื่องเก่าแก่ยาวนาน ไม่ใช่ว่าไม่อาจพิสูจน์ได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาและกำลังคนจำนวนมาก...” หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยยิ้ม: “คนธรรมดาทั่วไป ตรวจสอบคดีเหล่านี้ ย่อมยากลำบาก! แต่อย่าลืมไปว่า ยังมีองครักษ์เสื้อแพร! ท่านเอาจดหมายเหล่านี้มอบให้ข้า ให้องครักษ์เสื้อแพรไปตรวจสอบ!” “รับรองว่าก่อนวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนอ้าย จะต้องกระจ่างชัด” หนิงชิงโหวตาเป็นประกาย: “จริงด้วย ยังมีองครักษ์เสื้อแพร! ให้พวกเขาไปตรวจสอบ จะต้องได้ผลลัพธ์รวดเร็วแน่นอน” หลิ่วหรูเยียนถามด้วยดวงตาเป็นประกาย: “หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยฉบับต่อไป จะต้องเว้นหน้ากระดาษไว้ เพื่อตีพิมพ์เนื้อหาในจดหมายเหล่านี้หรือไม่?” หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ย เป็นดั่งกระบี่วิเศษ! ที่หลี่หลงหลินกล้าต่อกรกับสำนักปราชญ์ ก็เพราะอาศัยหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยนี้ มิฉะนั้น... หลี่หลงหลินไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของสำนักป

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1052

    กลองร้องทุกข์ กลองนี้คือกลองที่ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งต้าเซี่ยทรงประดิษฐานไว้หน้าประตูอู่เหมิน หากชาวบ้านได้รับความอยุติธรรม ก็สามารถมาตีกลองร้องทุกข์นี้ เพื่อเป็นการยื่นฎีกา ให้เรื่องราวไปถึงเบื้องพระยุคลบาทได้ ทว่า... นับตั้งแต่ก่อตั้งต้าเซี่ยมา จำนวนครั้งที่กลองร้องทุกข์ถูกตีนั้น แทบนับครั้งได้ และล้วนเกิดขึ้นในช่วงต้นของการก่อตั้งอาณาจักร ร้อยปีให้หลังมานี้ กลองร้องทุกข์ไม่เคยถูกตีแม้แต่ครั้งเดียว กลายเป็นเพียงของประดับ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? สาเหตุก็แสนง่ายดาย ทุกครั้งที่กลองร้องทุกข์ดังขึ้น หมายความว่ามีคดีใหญ่สะเทือนฟ้าดินอุบัติขึ้น ฮ่องเต้จะต้องเสด็จมาไต่สวนคดีนี้ด้วยพระองค์เอง ทั้งยังมีชาวบ้านและขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อแสดงถึงความยุติธรรม นั่นก็หมายความว่า... เมื่อใดก็ตามที่กลองร้องทุกข์ถูกตี ไม่รู้ว่าจะมีขุนนางกี่คนที่ต้องหัวหลุดจากบ่า เลือดนองแผ่นดิน ดังนั้น... เหล่าขุนนางจึงคิดหาวิธี โดยอ้างว่ากลองร้องทุกข์จะรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ไม่เพียงแต่ส่งคนไปเฝ้ากลอง ยังซ่อนไม้ตีกลองเอาไว้ นอกเหนือจากนี้ ไม่ว่าผู้ใด หากตีกลองร้องทุกข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1053

    เจิ้งถูฮู่ดวงตาเป็นประกาย หัวเราะเสียงดัง: “ไม่มีประโยชน์หรือ? เจ้าจะไปรู้อะไร! พิธีสักการะฟ้าดิน ไม่มีประโยชน์อะไรจริงๆ แต่ตอนนี้มีคนตีกลองร้องทุกข์ ร้องฎีกา!” “เจ้ารู้กฎของกลองร้องทุกข์หรือไม่?” เจิ้งเทียนฉินส่ายหน้า สีหน้ามึนงง พูดตามตรง เขาไม่รู้จริงๆ ในสำนักศึกษา สอนแต่สี่ตำราห้าคัมภีร์ เรียงความของนักปราชญ์ ไม่สอนเรื่องพวกนี้เลย ที่จริง ตอนเด็กเจิ้งเทียนฉินก็เคยถามอาจารย์ว่า กลองร้องทุกข์มีไว้ทำอะไร ผลก็คือ อาจารย์สีหน้ามืดมน แล้วเอาไม้เรียวมาตีมือเขา การตีกลองร้องทุกข์ ในสายตาของสำนักปราชญ์ คือการที่ไพร่ก่อเรื่อง ในสำนักศึกษา สอนวิถีแห่งปราชญ์ ไม่ใช่สอนให้คนเป็นไพร่ เจิ้งถูฮู่ยิ้มพลางอธิบาย: “ตามกฎที่ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งต้าเซี่ยตั้งไว้! ไม่ว่าผู้ใด หากตีกลองร้องทุกข์ ร้องฎีกา ฮ่องเต้จะต้องเสด็จมาไต่สวนคดีนี้ด้วยพระองค์เอง!” “ยิ่งไปกว่านั้น ชาวบ้านมีสิทธิ์เข้าไปในพระราชวังต้องห้าม เพื่อชมการไต่สวน เป็นการแสดงถึงความยุติธรรม!” เจิ้งเทียนฉินตกตะลึง พระราชวังต้องห้าม สำหรับชาวบ้านทุกคนแล้ว เป็นสถานที่ลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ เขาก็เช่นกัน ตอนเด็ก เจิ้งเทียนฉ

Latest chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1260

    เช้าวันรุ่งขึ้นทะเลคราม ฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ไกลสุดสายตาเรือใหญ่ลำหนึ่งแล่นออกจากท่าเรือตงไห่อย่างโอ่อ่า ท่วงทีองอาจไม่ธรรมดาการออกทะเลครั้งนี้ หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่พาเหล่าพี่สะใภ้มาด้วยหลายคน แต่ยังคัดเลือกทหารยอดฝีมือของตระกูลซูมาเป็นพิเศษอีกสามร้อยนายซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ทอดสายตามองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ผืนน้ำจรดกับผืนฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ลมทะเลพัดผ่าน ผ้าคลุมสีแดงสดด้านหลังนางปลิวสะบัดพลิ้วไหว!หลี่หลงหลินบิดขี้เกียจ กระทืบเท้าลงบนดาดฟ้าเรือเบาๆเรือของเมืองตงไห่แข็งแรงกว่าที่ข้าคิดไว้มากตอนนี้หลี่หลงหลินทำได้เพียง มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไปก่อนแม้จะเทียบไม่ได้กับเรือประมงหมื่นตันในจินตนาการแต่แค่จับปลาหลายพันชั่งขึ้นมาก็ยังถือว่าสบายมากหลี่หลงหลินหยิบคันเบ็ดออกมานั่งลงข้างๆ ซูเฟิ่งหลิง ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงาม กล่าวเสียงขรึม "รัชทายาท ท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกมาจับปลา คงไม่ได้คิดจะใช้แค่คันเบ็ดนี่ตกปลาหรอกนะเพคะ?"เหล่าพี่สะใภ้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่ออยู่บ้างอาศัยเพียงคันเบ็ดคันเดียวของหลี่หลงหลิน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1259

    ลั่วอวี้จู๋ก็ตกตะลึงไปเช่นกัน นางส่ายหน้าไม่หยุดกล่าวว่า “ไม่ได้ น้องหญิง เจ้าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ บัญชีมันไม่ได้คำนวณแบบนั้น! ตอนนี้ประชาชนหลายแสนคนในตงไห่กำลังรอเสบียงอาหารอยู่ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพียงแค่พึ่งพาการล่าสัตว์ อย่างไรก็ไม่พอ!”ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของเหล่าทหารกองทัพตระกูลซูทั้งหมด แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาความต้องการเสบียงอาหารของประชาชนตงไห่ทั้งหมดซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเรียวงาม “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะนำกองทัพตระกูลซูไปปล้นยุ้งฉางของพวกพ่อค้าเหล่านั้นเสียเลย! แบบนี้พวกเราก็จะมีเสบียงอาหารแล้วไม่ใช่รึ?”ลั่วอวี้จู๋ตกใจ รีบกล่าวว่า “น้องหญิง! เจ้าอย่าทำเรื่องเหลวไหล!”“เจ้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แล้วชื่อเสียงของกองทัพตระกูลซูจะทำอย่างไร! ชื่อเสียงอันดีงามที่ตระกูลซูผู้จงรักภักดีสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจะถูกทำลายในพริบตาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง ท่านย่าก็คงไม่อนุญาตให้เจ้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก พึมพำว่า “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง...”ตระกูลซูรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลจงรักภักดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อมโนธรรมใดๆ แม้กระทั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1258

    ตกเย็น จวนอ๋องตงไห่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าพี่สะใภ้รวมตัวกันอยู่ในห้อง ใบหน้างดงามซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ทุกคนต่างกลัดกลุ้มกับสถานการณ์ปัจจุบันของตงไห่ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี? ท่านสัญญาว่าจะทำให้ราษฎรตงไห่ทุกคนได้กินเนื้อสัตว์ภายในเจ็ดวัน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เนื้อเลย เกรงว่าแม้แต่การกินให้อิ่มท้องธรรมดาๆ ก็ยังยาก”เมื่อตอนเย็น ลั่วอวี้จู๋ได้ส่งคนไปสืบราคาเสบียงอาหารในตลาดแล้วและก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราษฎรตื่นตระหนก ราคาเสบียงอาหารก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในตลาดตงไห่ไม่มีข้าวสารขายในทันทีแล้ว หากต้องการซื้อทันทีก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ!เหล่าราษฎรต่างพากันส่งเสียงก่นด่าอย่างคับแค้น สถานการณ์เริ่มจะดำเนินไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้แล้วลั่วอวี้จู๋มองไปยังหลี่หลงหลิน ถอนหายใจกล่าวว่า “รัชทายาท ตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วนำเงินไปแลกเป็นเสบียงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”“แต่ข้าคำนวณดูแล้ว ต่อให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซู ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1257

    เหล่าราษฎรจ้องเขม็งไปยังหลี่หลงหลิน ต้องการคำอธิบายจากเขา หากไม่ได้ความในวันนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกรา!หลี่หลงหลินเชิดหน้าอกผาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปากท้องของราษฎรคือเรื่องสำคัญที่สุด ในเมื่อตงไห่เป็นดินแดนในอาณัติของข้า เช่นนั้นพวกท่านก็คือราษฎรของข้า หลี่หลงหลิน”“แม้จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ แต่ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องอดอยากหิวโหยเป็นอันขาด เรื่องเสบียงอาหารนั้นขอให้ราษฎรวางใจ ภายในเจ็ดวัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้กินอิ่มท้องอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงของหลี่หลงหลินทรงพลังอย่างยิ่ง ถ้อยคำดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเหล่าราษฎรผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา“ขี้โม้!”“พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อคำโอ้อวดของเขาเลย! ดูสิ ยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า! จะเอาข้าวที่ไหนมาให้พวกเรา!”“หากวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับพวกเรา แล้วอีกเจ็ดวันพวกเราจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใคร!”“ใช่แล้ว!”“หากวันนี้ไม่ยอมมอบเสบียงอาหารออกมา ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากยุ้งฉางนี้ไปได้!”ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าโบกแขนตะโกนปลุกระดมเหล่าราษฎร ผู้คนต่างขานรับเป็นเสียงเดี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1256

    เหล่าราษฎรที่อยู่ด้านนอกยุ้งฉางต่างชูกำปั้นตะโกนก้อง เสียงดังสะท้อนไปทั่วฟ้า “แจกจ่ายเสบียง! แจกจ่ายเสบียง!”ข่าวราคาเสบียงอาหารในเมืองตงไห่พุ่งสูงขึ้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ราษฎรต่างตื่นตระหนกหวาดกลัว จึงนัดหมายกันมารวมตัวที่หน้ายุ้งฉางเพื่อเรียกร้องขอเสบียง ก่อเกิดเป็นพลังมหาศาลหากไม่ใช่เพราะเหล่าทหารที่คอยขัดขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้เหล่าราษฎรคงบุกเข้าไปในยุ้งฉางแล้วลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “รัชทายาท เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ยังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารถึงที่สุด แต่ความโกรธแค้นของราษฎรก็รุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว หากมีวันใดที่เสบียงหมดลงจริงๆ...”ใบหน้างามของลั่วอวี้จู๋ซีดขาว ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ นางไม่อาจจินตนาการถึงภาพนั้นได้ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนอกยุ้งฉางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารยามเริ่มชักดาบประจำกายออกมา แต่สำหรับเหล่าราษฎรแล้ว หากไม่มีเสบียงให้กิน ในภายภาคหน้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว!ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงามเล็กน้อย แววตาหงส์ฉายประกายดุดัน “รัชทายาท หากปล่อยให้พวกเขาอาละวาดต่อไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องแน่เพค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1255

    ลั่วอวี้จู๋เดินเข้ามาก่อนสองก้าว กล่าวว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้แม้จะจัดการกับพวกพ่อค้าเศรษฐี แต่ก็ยังต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ราษฎรอาจตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อพวกเราได้”หลี่หลงหลินเพียงแค่แย้มยิ้มบางเบาซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถือเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของต้าเซี่ย ข้างในย่อมต้องมีเสบียงเก็บไว้แน่นอน ตอนนี้สามารถนำเสบียงในยุ้งฉางออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎร เพื่อให้พวกเขาคลายกังวลได้แล้วเพคะ”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพคะ องค์รัชทายาท ทำให้ราษฎรคลายกังวลลงก่อน แล้วค่อยว่ากันถึงแผนขั้นต่อไป”หลี่หลงหลินส่ายหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ไม่ต้องเสียแรงเปล่าแล้ว ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถูกขนย้ายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เมล็ดเดียว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุ้งฉางเปล่าๆ เท่านั้น”ทั้งสองคนตกตะลึง“เป็นไปได้อย่างไร? ยุ้งฉางนั้นเป็นเสบียงช่วยชีวิตที่ราชสำนักเก็บไว้ เพื่อรับประกันว่าราษฎรจะไม่อดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ จะมีคนกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ มาคิดการใหญ่กับมันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลี่หลงหลินหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1254

    ตำหนักอ๋องตงไห่หลี่หลงหลินเดินออกจากห้องก็พบกับลั่วอวี้จู๋และซูเฟิ่งหลิงที่รีบร้อนเข้ามาพอดีลั่วอวี้จู๋มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ!”หลี่หลงหลินหาว กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ ไม่ต้องรีบร้อน มีอะไรค่อยๆ พูด”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ากับน้องหญิงกำลังดูแลร้านค้าของตระกูลซูในตงไห่ที่ถนน ได้ยินเถ้าแก่บอกว่า ตอนนี้ราคาธัญพืชในตงไห่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเดียวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”“เรื่องผิดปกติย่อมมีเบื้องหลัง ดังนั้นจึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท”ปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดราคาธัญพืชเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร หากราคาธัญพืชผิดปกติ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตอบว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นปีแห่งภัยพิบัติอยู่แล้ว เกิดภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี บ้านเรือนของราษฎรแทบไม่มีเสบียงสำรอง ต้องอาศัยการซื้อธัญพืชประทังชีวิตทั้งสิ้น”“แต่ตอนนี้ถ้าหากราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น แล้วราษฎรในตงไห่เหล่านี้จะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1253

    “แต่ทุกท่านกลับมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป นั่นคือโอกาสที่จะร่ำรวยมหาศาล”แววตาละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของหลู่จงหมิง“นั่นก็คือเสบียงอาหาร”พอหลู่จงหมิงกล่าวคำนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องก็เกิดเสียงฮือฮา พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่พ่อค้าร่ำรวยไม่อาจปิดบังความดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ “ท่านพระเชษฐภาดา ท่านหมายความว่าจะลงมือกับราคาธัญพืชหรือ?”หลู่จงหมิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถูกต้อง”ปัจจุบันต้าเซี่ยประสบภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี แม้แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างตงไห่ ยุ้งฉางก็ร่อยหรอเต็มทีแล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินนำกองทัพใหญ่มาปักหลักที่ตงไห่ ค่ากินอยู่ใช้สอยล้วนต้องเบิกจ่ายจากท้องพระคลังตงไห่แม้ว่ากบฏจะถูกปราบปรามจนสงบ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเสบียงอาหารให้กับตงไห่มากขึ้นเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น อาจมีสถานการณ์กบฏที่รุนแรงกว่าเกิดขึ้นได้อีกถึงตอนนั้น เสบียงอาหารของตงไห่ก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆของยิ่งน้อยยิ่งมีค่า ราคาธัญพืชย่อมต้องถูกปั่นสูงขึ้นปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดพ่อค้าร่ำรวยย่อมรู้หนทางสู่ความร่ำรวยด้วยการกักตุนธัญพืช ปั่นราคา แต่ไม่มีใครกล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1252

    จวนตระกูลหลู่คานแกะสลัก เสากรอบวาดลวดลาย วิจิตรตระการตา ทองเหลืองเรืองรอง หลู่จงหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองเหล่าพ่อค้าที่มาถึง “มากันครบแล้วหรือ?”เงียบสงั ดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกพ่อค้าเหล่านี้หูตาสว่าง รู้เรื่องที่พระเชษฐภาดาเจอในจวนอ๋องนานแล้ว ไม่กล้าราดน้ำมันบนกองไฟในจังหวะสำคัญนี้ พ่อค้าที่ปกติหยิ่งยโสโอหังต่างก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหลู่จงหมิง ไม่กล้าพูดมาก เกรงว่าจะล่วงเกินแม้หลู่จงหมิงจะเสียหน้าอย่างหนักในจวนอ๋อง แต่ก็ไม่ใช่คนที่พ่อค้าอย่างพวกเขาจะดูเบาได้พ่อบ้านจวนตระกูลหลู่เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา “นายท่าน ยังมีคนจากตระกูลซุนและตระกูลจ้าวที่ยังไม่มา ท่านจะว่าอย่างไร...”หลู่จงหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดว่า “ไม่มาก็ไม่ต้องมาแล้ว! กล้าดีอย่างไรไม่เห็นคำพูดของข้าผู้เป็นพระเชษฐภาดาอยู่ในสายตา”หลู่จงหมิงมองเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งที่อยู่ ณ ที่นั้น กล่าวเสียงเย็นชา “นับแต่นี้ไป ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ห้ามทำการค้าใดๆ กับสองตระกูลนี้ หากข้าพบเข้า... หึหึ!”แววตาอำมหิตวาบผ่านดวงตาของหลู่จงหมิงนี่คือเขาต้องการแสดงอำนาจ สร้างบารมี กู้หน้าตาที่เสียไปกลับคืนมาพ่อค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status