แชร์

บทที่ 558

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
หากหยุนเจิงรู้ว่าศัตรูมีน้อยเพียงนี้ ควาเป็นไปได้มากกว่าครึ่งคงใช้โอกาสนี้ฝึกทหาร

หยุนเจิงสามารถซุ่มโจมตีเป่ยหวนอีกครั้ง คาดการณ์ศัตรูล่วงหน้า ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำได้ทุกครั้ง

ต่อให้หยุนเจิงเทพเพียงใด นั่นก็ต้องดูว่าเป่ยหวนให้เขาโอกาสเขาหรือไม่!

หากเป่ยหวนยกทัพใหญ่มาซึ่งๆ หน้า แผนการใดก็ล้วนไร้สาระ!

ถึงเวลานั้น สุดท้ายก็ยังต้องสู้กันประชิดตัว!

ในใจตู้กุยหยวนรู้ดี อย่ามองว่าพวกเขารบชนะหลายครั้ง ปลิดชีพชาวเป่ยหวนไปไม่น้อย แต่กำลังรบซึ่งๆ หน้าของกองทัพพวกเขาไม่แข็งแกร่ง!

หากต่อสู้กับเผชิญหน้ากับทหารม้าเป่ยหวน พวกเขาเหล่านี้ไม่อาจสู้กับทหารม้าหนึ่งหมื่นของเป่ยหวนได้

เมื่อได้ฟังคำของตู้กุยหยวน อวี๋ซื่อจงอดไม่ได้ที่จะตกสู่ห้วงความคิด

“พี่ใหญ่ตู้พูดมีเหตุผลนัก!”

อวี๋ซื่อจงพยักหน้า “จริงอยู่ที่ว่าครั้งนี้ข้าไม่ได้ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์”

ตู้กุยหยวนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวใบหน้าเคร่งขรึม “พวกเราโชคดี พบกับองค์ชาย! องค์ชายคิดแทนพวกเรา พวกเราก็ต้องคิดแทนองค์ชายเช่นกัน!”

“อื้ม!”

อวี๋ซื่อจงพยักหน้าอย่างจริงใจ ขณะเดียวกันก็ถามด้วยความสงสัย “พี่ใหญ่ตู้ ท่านรู้หรือไม่ว่าความเคลื่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 559

    ทุกคนนิ่งไปอยู่นาน สุดท้ายก็ได้สติกลับมาอย่างยากเย็น“ห๊า?”หวังชี่มองหยุนเจิงด้วยความมึนงง ถามด้วยความอึ้ง “ท่านอ๋อง จะรายงานเช่นนี้จริงหรือ?”“จำเป็นต้องรายงานเช่นนี้!หยุนเจิงยิ้มมองหวังชี่ “มิฉะนั้น ทหารม้าลูกน้องของเจ้าจะย้ายมาให้ข้าได้เช่นไร? เจ้าวางใจ หลุมซ่อนทหารข้าล้วนขุดไว้ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว! ให้พวกเขาไปหลบในหลุมซ่อนทหารได้อย่างสบายใจ ข้าจะให้พวกเขากินดื่ม แล้วก็ให้เบี้ยหวัดพวกเขา!”เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีอย่างห้ามไม่อยู่ พากันมองหยุนเจิงด้วยความตกตะลึงหลุมซ่อนทหารของเขา เตรียมไว้เพื่อทหารม้าลูกน้องของหวังชี่?เขาคิดแผนการฮุบทหารม้าของหวังชี่ตั้งแต่เมื่อใด?เขามองการณ์ไกลไปแล้วกระมัง?หยุนเจิงไม่สนใจอาการตกตะลึงของทุกคน จากนั้นก็ออกคำสั่งต่อไปสั่งทหารม้าของหวังชี่ออกเดินทางข้ามคืน รีบเร่งเดินทางไปยังหลุมซ่อนทหารอีกอย่าง ทหารม้าห้าพันที่พวกเขาบอกว่าถูกหิมะกลืนกินไป ก็ต้องซ่อนไว้ชั่วคราวเช่นกันเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ต่อให้เว่ยเหวินจงไม่มาด้วยตัวเอง ก็ต้องส่งคนมาตรวจสอบอยู่ดีหากความลับถูกเปิดเผย เช่นนั้นก็ไม่ดีแล้วอีกอย่าง คนเหล่านั้นที

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 560

    ยามนี้ เวลานี้!ก่อนหน้านี้ เป่ยหวนคงไม่ยินยอมเสียหายมากเกินไป ถึงเอาแต่ไม่ยอมบุกมาซึ่งๆ หน้าแต่ตอนนี้ ความเสียหายของเป่ยหวนมหาศาลแล้ว!อีกทั้ง เส้นทางลอบโจมตีทั้งหมดของพวกเขาถูกปิดกั้นหากไม่โจมตีจากข้างหน้าอีก กองทัพใหญ่สี่หมื่นคนเป่ยหวนก็เท่ากับตายสูญเปล่าแล้ว!รอถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า กองทัพใหญ่ต้าเฉียนบุกเข้าไปในพื้นที่ เป่ยหวนม้าผอมขาดแคลนผู้คน จะเอาสิ่งใดขัดขวาง?เป่ยหวนจำเป็นต้องเอาชนะกองทหารมณฆลทางเหนือ จึงสามารถทำให้ต้าเฉียนไม่กล้าเคลื่อนทัพบุกในต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า นี่จะทำให้เป่ยหวนมีโอกาสอันมีค่าในการหายใจ!เวลาที่เหลือให้เป่ยหวน มีไม่มากแล้ว!หากเขาเป็นประมุของเป่ยหวน เขาจะรับสมัครคนหนุ่มชั่วคราว บุกโจมตีโดยไม่สนสิ่งใดเลย!ไม่มีเสบียงอาหาร แม้ว่าต้องฆ่าม้าศึกเป็นอาหาร การรบครั้งนี้จำเป็นต้องทำทันทีที่เป่ยหวนเคลื่อนทัพบุกโจมตี ใครยังมีจิตใจมาสนใจเขา!ผลักเขาไปข้างหลัง ก่อเรื่องให้พวกเขาอยู่ข้างหลัง ไม่เป็นประโยชน์กับต้าเฉียน! เมื่อได้ฟังการวิเคราะห์ของหยุนเจิง เสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินอดพยักหน้าไม่ได้ตอนนี้เป่ยหวนนอกจากบุกมาซึ่งหน้าแล้ว ดูเหมือนไม่ใช่วิธีที

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 561

    หยุนเจิงแบ่งกำลังแปดคนเป็นสี่กลุ่ม สองคนหนึ่งกลุ่มคนสี่กลุ่ม แบ่งกันไปสร้างหิมะถล่มบนภูเขาตามสถานที่ต่างๆหนึ่งกลุ่มที่กลับมาคือนักรบภูตสามและห้าพวกเขาอยู่สร้างหิมะถล่มบริเวณปากหุบเขามรณะ ใกล้กับที่พวกเขาตั้งค่ายพักแรม จึงกลับมาถึงเร็วที่สุดนักรบภูตห้าได้รับบาดเจ็บเหตุผลสำคัญคือตอนที่จุดชนวนห่อดินปืนประมาทกับอานุภาพของห่อดินปืนมากเกินไป วิ่งออกมาช้าเกินไป จึงได้รับบาดเจ็บจากแรงสะเทือนนักรบภูตสามยังอยู่ดี แค่เหนื่อยเกินไป ริมฝีปากมีรอยแห้งแตกหยุนเจิงสั่งให้หมอทหารรักษาอาการบาดเจ็บของนักรบภูตห้า จากนั้นก็สั่งให้คนนำน้ำแกงมาให้นักรบภูตสามหลายวันนี้พวกเขาล้วนอาศัยอาหารแห้งประทังชีวิต ตอนนี้คงอยากกินน้ำแกงร้อนๆหลังจากจัดหาที่พักให้นักรบภูตสามและห้าแล้ว หยุนเจิงสั่งตู้กุยหยวน “สั่งให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทุกคนระมัดระวัง ต้องป้องกันไม่ให้เข้าใจผิดทำร้ายคนของตัวเอง อย่าให้โอกาสคนเป่ยหวนมีโชคเช่นกัน!”เป่ยหวนนึกไม่ถึงว่าจะมีเป็นหลักหมื่นคน!ต่อให้ทั้งหมดถูกหิมะกลบฝังแล้ว ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนดวงแข็งเวลานี้แล้ว ไม่อาจประมาทจนเกิดความผิดพลาดคืนแห่งความเงียบงันเวลาฟ้าสว่าง ม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 562

    ชัยชนะเช่นนี้ ต่อไปคงไม่มีอีกแล้ว!ไม่นาน ทุกคนอาจต้องเผชิญกับสงครามนองเลือดแล้ว!……กลางดึก เมืองติ้งเป่ยแม้จะเป็นเวลากลางดึกแล้ว เว่ยเหวินจงยังคงหลับตาไม่ลงส่งกองทัพไปสนับสนุนที่หุบเขามรณะทางนั้น คงไม่ทันกาลแล้วเวลาผ่านไปหนึ่งวันแล้ว คนที่ส่งไปตรวจสอบสถาณการณ์ที่หุบเขามรณะก็ยังไม่กลับมาในใจเขารู้ดี หากทหารชั้นยอดสี่หมื่นของเป่ยหวนยึดครองสู้ฉวีและซั่วฟางได้ กองทหารมณฑลทางเหนือก็ต้องเผชิญกับสงครามนองเลือดรุนแรงหัวของผู้บัญชาการกองทหารมณฑลทางเหนืออย่างเขา ล้วนไม่อาจรักษาไว้ได้ตลอดเวลา!ตอนที่เว่ยเหวินจงกำลังนั่งไม่ติด ทหารคนสนิทคนหนึ่งรีบร้อนวิ่งเข้ามา “รายงาน! ท่านแม่ทัพใหญ่ คนของพวกเรากลับมาแล้ว และยังพาทหารส่งสารกลับมาด้วยสองนาย!”เว่ยเหวินจงตั่วสั่นไปทั้งร่าง ร้อนใจกล่าว “เร็ว มาเข้ามา!”ไม่นาน หน่วยสอดแนมที่เว่ยเหวินจงส่งไปวิ่งเหยาะเข้ามาพร้อมกับทหารส่งสารสองคนเห็นด้านหลังทหารส่งสารทั้งสองคนปักธงแดงเอาไว้ เว่ยเหวินจงอดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อยปักธงสีแดง?เหตุใดจึงเป็นธงสีแดง?หรือว่า กองกำลังรักษาการของสู้ฉวีบวกกับกองกำลังของหยุนเจิง สามารถเอาชนะทหารชั้นยอดสี่ห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 563

    ท้องฟ้าเพิ่งสว่าง เว่ยเหวินจงนำทหารม้าที่หุบเขาแห่งความตายด้วยตนเองเช่นไรก็ตาม ตอนที่เขาเดินผ่านภูเขาลั่วเสีย กลับพบว่าบริเวณภูเขาลั่วเสียกำลังมีงานก่อสร้างเว่ยเหวินจงขมวดคิ้วเล็กน้อย ใครมาก่อสร้างอยู่ที่นี่?เว่ยเหวินจงยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ยิ่งดูยิ่งเหมือนค่ายทหาร!ตรงนั้นมีหอคอยยามอยู่จริงๆ?ค่ายทหาร!ต้องเป็นค่ายทหาร!ใครสร้างค่ายทหารอยู่ที่นี่?คิดไปคิดมา เว่ยเหวินจงพลันคิดถึงคนผู้หนึ่งหยุนเจิง!นอกจากหยุนเจิงแล้ว บริเวณโดยรอบไม่มีผู้ใดส่งคนมาสร้างค่ายทหารที่ภูเขาลั่วเสียอีกแล้ว“ไป ไปดูกัน!”เว่ยเหวินจงเรียกทหารคนสนิทไปดูค่ายทหารที่กำลังก่อสร้างทันทีไม่นาน การคาดเดาของเว่ยเหวินจงก็ได้รับการยืนยันแล้วเป็นหยุนเจิงจริงด้วย!ดีเสียจริง!หยุนเจิงตัวดี!นึกไม่ถึงจะกล้าสร้างค่ายทหารส่วนตัว!นี่เกือบจะเท่ากับการกบฏ!คราวนี้ จุดอ่อนของหยุนเจิงก็อยู่ในมือเขาแล้ว!เมื่อก่อนตอนที่อยู่ที่หุบผาชันช่องลม หยุนเจิงเหยียบเท้าเขา เขาไม่มีทางลืม!คราวนี้เขากุมจุดอ่อนของหยุนเจิงไว้แล้ว ดูว่าหยุนเจิงยังกล้ากำเริบเสิบสานอยู่อีกหรือไม่!หยุนเจิงมีผลงานติดต่อกันมากมาย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 564

    หวังชี่หัวใจขดเกร็ง รีบกล่าวด้วยความเกรงใจ “ล้วนเป็นผลงานของท่านอ๋อง ข้าไม่กล้าโลภในผลงาน! หากไม่ใช่ท่านอ๋องนำทัพมาสนับสนุน คนจำนวนน้อยของพวกเรา เกรงว่าคงทนไม่ได้ถึงเวลาครึ่งวันด้วยซ้ำ...”“ไม่ ไม่!”เว่ยเหวินจงว่ายหน้า “เป็นเจ้าที่พบแผนอุบายของเป่ยหวนก่อน! ผลงานครั้งนี้ต้องเป็นของเจ้า! ทางด้านท่านอ๋อง เจ้าไม่ต้องกลัว! ต่อให้เป็นฝ่าบาทมาเอง ผลงานครั้งนี้ก็เป็นเพียงของเจ้าเท่านั้น!”หวังชี่ชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ก้มคำนับกล่าว “ขอบคุณท่านแม่ทัพใหญ่!”เวลานี้ ความตื่นตระหนกตกใจก่อเกิดขึ้นในหัวใจของหวังชี่ก่อนหน้านี้หยุนเจิงเคยรับปากเขา จะมอบผลงานใหญ่ให้เขา เพียงพอให้เขาเลื่อนตำแหน่งสองสามขั้น!หยุนเจิงทำได้แล้ว!ความคิดของท่านอ๋องผู้นี้ลึกซึ้ง ลึกลับ ทำให้คนหวาดกลัวเว่ยเหวินจงโบกมือ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่เป็นสิ่งที่เจ้าควรได้! หากเจ้าไม่พบแผนอุบายของเป่ยหวนได้ทันเวลา ซั่วฟางคงอันตรายแล้ว!”หวังชี่กล่าวอย่างถ่อมตน “ข้าเพียงแค่โชคดีเท่านั้น เพียงแต่เสียดายทหารนับพันเหล่านั้น”“เรื่องนี้มันก็ช่วยไม่ได้”เว่ยเหวินจงส่ายหน้าถอนใจ จากนั้นก็กล่าว “เอาเช่นนี้ ตอนนี้เจ้าเป็นแม่ทั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 565

    ท่าทางแข็งกร้าวของหยุนเจิงทำให้พวกเสิ่นลั่วเยี่ยนไม่สบายใจค่ายทหารส่วนตัวถูกเว่ยเหวินจงพบเข้าแล้ว หยุนเจิงยังกล้าต่อปากต่อคำกับเว่ยเหวินจง?เขากลัวเว่ยเหวินจงจับเรื่องนี้ไว้ไม่ปล่อยใช่หรือไม่?หากพวกนางไม่รู้ว่าหยุนเจิงเป็นคนรอบครอบ พวกนางคงคิดว่าหยุนเจิงคนแค่คนโง่เขลาเท่านั้นเพียงแต่ ตอนนี้พวกนางไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องแข็งกร้าวกับเว่ยเหวินจงหรือว่า เพื่อเป็นการแว้งกัดเว่ยเหวินจงก่อนหนึ่งที?เว่ยเหวินจงนึกไม่ถึงว่าหยุนเจิงจะแว้งกัด กล่าวด้วยความโมโห “เหลวไหลไร้สาระ! ข้าถามอย่างเป็นกลาง เหตุใดจึงกล่าวหาว่าแก้แค้นส่วนตัว?”หยุนเจิงหรี่ตามอง ถามอย่างเยือกเย็น “เจ้าแน่ใจว่าไม่ได้แก้แค้นส่วนตัว?”“ข้าถามในใจไร้ความผิด!” เว่ยเหวินจงยืดอก สีหน้าไร้ความหวาดกลัวหยุนเจิงกระแอมไอ จากนั้นก็ส่ายหน้ากล่าว “หากเจ้าไม่ได้แก้แค้นส่วนตัว ข้าเตือนเจ้า อย่าเป็นผู้บัญชาการทหารของกองทหารมณฑลทางเหนือเลย กลับบ้านไปเลี้ยงหลานเถอะ!”เว่ยเหวินจงหรี่ดวงตา ยิ้มเย็นกล่าว “เช่นไร ท่านอ๋องคิดจะแย่งชิงอำนาจ?”“ข้าไม่มีความคิดนี้ แล้วก็ไม่มีความสามารถนี้!”หยุนเจิงส่ายหน้า ถามด้วยความเอือมระอา “เจ้าลองพู

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 566

    “ท่านอ๋องพูดเกินไปแล้ว”เว่ยเหวินจงหัวเราะแห้ง “เรื่องคราวก่อน ข้ามีความผิดบกพร่องในหน้าที่! เตะนั่นถือว่าเป็นการขอโทษท่านอ๋อง ข้าไม่มีทางโกรธแค้นท่านอ๋องด้วยเรื่องนี้หรอก”“เจ้าจะพูดอย่างไรก็ตามใจ!” หยุนเจิงค่อยๆ นั่งลง “ตอนนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี จะออกไปสูดอากาศสักหน่อย หากเจ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็กลับไปเถอะ!”กล่าวจบ หยุนเจิงพลันโบกมือเรียกคนส่งแขกใบหน้าของเว่ยเหวินจงมีรังสีความโกรธวาบออกมา แล้วรีบส่ายศีรษะ “ข้ายังมีอีกเรื่องหนึ่ง”หยุนเจิงมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “ว่ามา! รีบพูดรีบไปซะ!”เว่ยเหวินจงชะงักเล็กน้อย พยายามระงับความโกรธในใจ แล้วฉีกยิ้มออกมาฝืนๆ “ข้าคิดว่า ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องฝึกซ้อมทหารม้าที่เขาลั่วเสีย”“เพราะเหตุใด?”หยุนเจิงเงยหน้าเล็กน้อย“เรื่องนี้ค่อยว่ากันภายหลัง!” เว่ยเหวินจงหัวเราะแห้ง “ทว่าบัดนี้สถานการณ์ของซั่วเป่ยค่อนข้างวุ่นวาย ข้าจะเล่าสถานการณ์ของซั่วเป่ยให้ท่านอ๋องฟังก่อน”เว่ยเหวินจงกล่าวพลางแค่นเสียงเย็นชาในใจหยุนเจิง แม้ว่าเจ้าจะมีคารมคมคาย แต่ข้าก็มีวิธีจัดการกับเจ้าได้!เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว เว่ยเหวินจก็เริ่มวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ตอนนี้ให้กับหยุ

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1414

    เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิเหวินทรงตัดสินพระทัยได้แล้ว หยุนลี่ถึงกับดีใจจนแทบกลั้นไว้ไม่อยู่ พยายามเก็บอาการตื่นเต้นไว้ หยุนลี่กล่าวขึ้นว่า “ขอเสด็จพ่อโปรดมีพระบัญชา ให้โจวเต้ากงนำกองกำลังเตรียมพร้อม และเมื่อเจ้าหกมาถึงหัวเมืองสี่ทิศ ให้เข้าควบคุมตัวเจ้าหกทันที! อีกทั้ง ขอพระบัญชาให้จ้าวจี้ทางตะวันตกเฉียงเหนือ นำทัพทหาร 30,000 นายที่ฝีมือเยี่ยม เข้าประจำการในหุบเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของหัวเมืองสี่ทิศอย่างลับๆ” เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนลี่ หัวใจของจักรพรรดิเหวินพลันเย็นเยือก เจ้าลูกทรพี! คิดจะระดมกองทัพจากตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อจัดการเจ้าหกอย่างนั้นหรือ? เขาคิดจะจุดชนวนสงครามกลางเมืองในต้าเฉียนหรืออย่างไร? “การระดมพลจากตะวันตกเฉียงเหนือในตอนนี้ เกรงว่าจะไม่ทันการ” จักรพรรดิเหวินทรงพยายามระงับพระอารมณ์ ก่อนตรัสว่า “กองกำลังจากตะวันตกเฉียงเหนือส่วนใหญ่เป็นทหารราบ ต่อให้รีบเร่งเดินทัพมา คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนครึ่ง” หยุนลี่ถึงกับพูดไม่ออก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยุนลี่จึงกล่าวต่อ “เช่นนั้น ขอพระบัญชาให้จ้าวจี้นำทัพทหารม้าชั้นยอดหนึ่งหมื่นนายมาแทนพ่ะย่ะค่ะ!

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1413

    “ลูก…ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ” หยุนลี่ตอบอย่างตะกุกตะกัก เขาไม่รู้จริงๆ ว่าหยุนเจิงมีกำลังทหารในมือมากเพียงใด คนที่เขาส่งไปซั่วเป่ยแทบไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องในกองทัพเลย “ข้าจะบอกเจ้าเอง!” จักรพรรดิเหวินทรงลูบพระนลาฏเบาๆ พระพักตร์เต็มไปด้วยความกังวล “น้องหกของเจ้ามีกำลังพลในมือมากกว่าสองแสนนาย และหากเขาต้องการ ก็สามารถรวบรวมทหารเพิ่มได้อีกหนึ่งแสนนายทันที! ยิ่งไปกว่านั้น กองทัพของชนเผ่าเป่ยหวนและเป่ยหมัวถัวยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา! ข้ากระทั่งสงสัยว่า หากเขาต้องการ เขาสามารถเรียกกองทัพห้าแสนนายมาได้ทันที!” “ห้า…ห้าแสน?” หยุนลี่อ้าปากค้าง แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน กองทัพห้าแสน? เจ้าหก เจ้าคนเลวนั่นสามารถเรียกกองทัพห้าแสนได้ตลอดเวลา? นี่…เป็นไปได้อย่างไร! เจ้าหกจะเลี้ยงกองทัพห้าแสนไหวหรือ? จักรพรรดิเหวินทรงถอนหายใจยาว “เจ้าต้องการนำเจ้าหกกลับเมืองหลวง ข้าไม่ขัดข้อง! แต่เจ้าต้องพิจารณาดู หากเจ้าไม่ประสบความสำเร็จ และยังทำให้เจ้าหก เจ้าลูกทรพีนั่นโกรธขึ้นมา เจ้าจะรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไร?” “นี่…” หยุนลี่ไม่รู้จะตอบคำถามของจักรพรรดิเหวินอย่าง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1412

    ไม่นาน มู่ซุ่นก็พาหยุนลี่เข้ามา “ลูกขอคารวะเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” ทันทีที่หยุนลี่เข้ามา เขาก็คำนับอย่างนอบน้อม จักรพรรดิเหวินทรงพยักหน้าให้หยุนลี่นั่งลง พลางตรัสยิ้มๆ ว่า “ครั้งหน้า หากมีธุระก็ให้มู่ซุ่นปลุกข้าเถิด อย่ายืนรออยู่ด้านนอกนานนัก” “เสด็จพ่อทรงเหนื่อยจากการเดินทาง ลูกยืนรออีกสักหน่อยก็ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ” “ตอนนี้เจ้าก็เริ่มเหมือนรัชทายาทแล้วล่ะ” จักรพรรดิเหวินทรงมองหยุนลี่ด้วยความพอพระทัย “พูดมาเถอะ เจ้าจะมีเรื่องอันใด? บอกมาให้จบก่อน แล้วข้าจะได้สั่งงานเจ้าบ้าง” “ขอเสด็จพ่อทรงบัญชาลูกก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” จักรพรรดิเหวินทรงนิ่งตรองเล็กน้อย ก่อนจะทรงโบกพระหัตถ์ให้มู่ซุ่นและนางกำนัลที่คอยรับใช้ในห้องออกไป เมื่อไม่มีผู้ใดเหลืออยู่ จักรพรรดิเหวินจึงตรัสว่า “ครั้งนี้ที่ข้าไปซั่วเป่ย ข้าตั้งใจไปดูมันเทศที่จางซูพูดถึง ข้าถามผู้คนหลายคนแล้ว และมั่นใจว่ามันเทศนั้นให้ผลผลิตสูงมาก! ข้าตั้งใจจะนำมันเทศนั้นเข้ามาปลูกในเขตใน แต่เจ้าหก เจ้าลูกทรพีนั่นกลับบอกว่าต้องมาคุยเรื่องนี้กับเจ้า…” ต้องมาคุยกับตนเอง? เปลือกตาของหยุนลี่กระตุกทันที เขารับรู้ได้ในทันทีว่า เจ้าหก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1411

    ในขณะที่หยุนเจิงกำลังยุ่งอยู่กับการอุทิศตนเพื่อสุขภาพของสตรีทั่วหล้า จักรพรรดิเหวินก็กลับมาถึงหัวเมืองสี่ทิศ มู่ซุ่นเดินทางกลับมาพร้อมกับจักรพรรดิเหวิน เมื่อหยุนลี่ทราบข่าว เขาก็นำคณะขุนนางมารับเสด็จทันที “จากราชสำนักมีใครส่งรายงานมาไหม?” จักรพรรดิเหวินทรงถามถึงเรื่องสำคัญทันทีที่เสด็จกลับมา “มีพ่ะย่ะค่ะ” หยุนลี่รีบรายงาน “เซียวว่านโฉวนำทัพไปช่วยเจียวลู่อ๋องซื่อจื่อปราบปรามกบฏสำเร็จแล้ว แต่พวกเขาช้าก้าวหนึ่ง กัวซื่อนำกองกำลังหลายพันคนหลบหนีไปยังเผ่าต่างๆ ทางหมอซี เจียวลู่อ๋องซื่อจื่อได้ถวายฎีกาต่อราชสำนัก ขอพระราชทานพระราชโองการแต่งตั้งให้เขาสืบตำแหน่งเจียวลู่อ๋อง…” หลังจากการปราบกบฏของกัวซื่อสำเร็จ หนานจ้าวและอวี้หนานในปีนี้ก็แสดงความจงรักภักดีได้ดีขึ้นมาก ทั้งสองแคว้นได้ส่งบรรณาการเข้ามา โดยจำนวนสิ่งของบรรณาการมากกว่าปีก่อนถึงสามส่วน ราชาหนานจ้าวยังได้กราบทูลขอส่งองค์ชายรัชทายาทมายังเมืองหลวงต้าเฉียนเพื่อศึกษาเล่าเรียน การฟื้นฟูหลังภัยพิบัติในทางใต้กำลังดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ เพียงแต่มีกลุ่มผู้ประสบภัยบางคนจุดไฟในหุบเขาเพื่อให้ความอบอุ่น จนเกิดไฟป่าครั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1410

    แต่ที่น่าเสียดายคือ เจียเหยาไม่ใช่สตรีแบบนั้น! ทุกความยินยอมและการประนีประนอมของเจียเหยาต่อเขาล้วนเกิดจากสถานการณ์บีบบังคับ เยี่ยจื่อย่อมชื่นชมเจียเหยาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่หากเจียเหยาเป็นสตรีที่หลงใหลในความรักอย่างเดียว เยี่ยจื่ออาจไม่รู้สึกชื่นชมนาง และคงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ว่านางกับหยุนเจิงจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ "ไม่แน่หรอก" เยี่ยจื่อยิ้มบาง "เรื่องของความรัก ไม่มีใครในโลกนี้สามารถอธิบายได้ชัดเจน! เช่นเดียวกับข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งข้าจะไม่สนใจสายตาของผู้คนในแผ่นดิน และรักชายคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรธิดาแก่เขา..." "เรื่องของพวกเจ้ามันไม่เหมือนกัน" หยุนเจิงบีบเบาๆ ที่ตัวเยี่ยจื่อ "พอแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย! รีบลุกขึ้นเถิด ไม่เช่นนั้นพอคนในจวนมาเรียกเราไปกินข้าวเย็น เจ้าคงอายอีกแน่" "ก็เพราะเจ้านั่นแหละ!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นเยี่ยจื่อสวมชุดชั้นใน หยุนเจิงก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาอีก "ยังมองอยู่อีกหรือ?" เยี่ยจื่อปรายตามองหยุนเจิงด้วยความเข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1409

    เนื่องจากเยี่ยจื่อกำลังตั้งครรภ์ หยุนเจิงจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม พายุที่โหมกระหน่ำมีเสน่ห์ในแบบของมัน และสายฝนที่โปรยปรายก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ หลังจากหยุดยั้งความเร่าร้อน เยี่ยจื่อซบอยู่ในอ้อมอกของหยุนเจิงอย่างแมวน้อยเชื่องๆ "คืนนี้ข้าจะนอนที่ห้องของเจ้า" หยุนเจิงกอดร่างอ่อนนุ่มของเยี่ยจื่อไว้ ด้วยท่าทีที่ดูยังไม่พอใจ "อย่าเลย!" เยี่ยจื่อเอื้อมมือมาตบหน้าอกของหยุนเจิงเบาๆ "หากเจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องโดนเจ้ารังแกอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับลูก เราคงร้องไห้ไม่ออก เจ้าไปห้องเมี่ยวอินเถิด!" จากนิสัยของหยุนเจิง ต่อให้ใช้ปลายเท้าคิด นางก็รู้ว่าเขาต้องรังแกนางอีกสักหนึ่งหรือสองรอบหากเขาอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าช่วงตั้งครรภ์จะไม่ใช่ว่าจะใกล้ชิดกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยเกินไป "ลูกของข้าหยุนเจิง จะอ่อนแอขนาดนั้นได้อย่างไร?" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะวางมือลงบนหน้าท้องของเยี่ยจื่อโดยไม่รู้ตัว "เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิอย่างเขินอาย "เมื่อสองวันก่อน ลั่วเยี่ยนยังแอบมาบอกข้าเลยว่าเจ้าไปรังแกนางอีก จวนนี้มิใช่มีเพียงข้ากับลั่วเยี่ยนสองค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1408

    ชุดนี่มันชั้นแล้วชั้นเล่า ถอดออกแต่ละครั้งช่างเสียเวลาเสียจริง หยุนเจิงบ่นในใจพลางจัดการอยู่นาน กว่าจะถอดอาภรณ์ออกหมด แล้วรีบก้าวลงไปในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น "ดูท่าทางเจ้าสิ!" เยี่ยจื่อจ้องมองหยุนเจิงด้วยความเขินอาย พลางหัวเราะเบาๆ "หากคนอื่นมาเห็นเข้า คงคิดว่าเจ้าคือโจรขโมยดอกไม้จริงๆ!" "ต่อหน้าเจ้า ข้าก็เป็นโจรขโมยดอกไม้ดีๆ นี่เอง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง แล้วดึงเยี่ยจื่อเข้ามาในอ้อมกอด เกรงว่าเยี่ยจื่อจะหนาว หยุนเจิงจึงราดน้ำอุ่นลงบนตัวนาง แน่นอนว่า ระหว่างนี้มือเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิงก็ไม่วายลวนลามบนตัวเยี่ยจื่อ เยี่ยจื่อปล่อยให้หยุนเจิงทำตามใจ พลางยื่นนิ้วเรียวขาวลูบไล้รอยแผลเป็นที่เอวของเขา นางจำได้ว่ารอยแผลนี้เกิดขึ้นจากศึกที่หยุนเจิงสังหารฮูเจี๋ยฉานอวี่ นั่นน่าจะเป็นการบาดเจ็บที่หนักที่สุดของหยุนเจิงนับตั้งแต่คุมทัพมา โชคดีที่เป็นเพียงบาดแผล ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต ตอนนี้บาดแผลนั้นสมานแล้ว แต่รอยแผลเป็นยังคงปรากฏอย่างชัดเจน "ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป" เยี่ยจื่อก้มหน้าพลางพึมพำ "หากวันใดเจ้ามิได้เป็นเช่นนี้ คงเพราะเราชราและห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1407

    หลังจากส่งสาวรับใช้หน้าประตูไปแล้ว หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที ก่อนจะผลักประตูเข้าไป "อิงเถา ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงใครผลักประตูเข้ามา" เสียงของเยี่ยจื่อดังมาจากหลังฉากกั้น "บ่าวก็เหมือนจะได้ยินเหมือนกัน บ่าวจะไปดูเจ้าค่ะ" อิงเถาตอบรับแล้วรีบวิ่งออกมาจากหลังฉากกั้น นางเพิ่งจะออกมาก็เห็นหยุนเจิงยืนอยู่ในห้อง เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่คนอื่นที่บังอาจบุกรุกเข้ามา อิงเถาถึงได้คลายความกังวลก่อนจะรีบคำนับ แต่ก่อนที่อิงเถาจะทันได้พูดอะไร หยุนเจิงก็ทำท่าทางให้เงียบ และโบกมือเบาๆ ส่งสัญญาณให้อิงเถาออกไป ดูเหมือนอิงเถาจะเดาได้ว่าหยุนเจิงตั้งใจจะทำอะไร ใบหน้าของนางพลันขึ้นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงปิดกลอนประตูจากด้านใน แล้วค่อยๆ ย่องไปทางหลังฉากกั้น "อิงเถา มีคนผลักประตูหรือไม่?" เยี่ยจื่อเอ่ยถาม ความคิดซุกซนของหยุนเจิงเริ่มเล่นงาน เดิมทีเขาตั้งใจจะจู่โจมเยี่ยจื่ออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว แต่คิดได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าจะทำให้นางตกใจจนเกิดเรื่องไม่คาดคิด จึงเอ่ยขึ้นว่า "มีสิ มีโจรขโมยดอกไม้คนหนึ่ง" เมื่อได้ยิน เยี่ยจื่อหน้าถ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1406

    หยุนเจิงกลับมาจากโรงงานผลิตอาวุธ เพียงแค่เดินมาถึงหน้าจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกวุ่นวายดังมาจากในจวน พอเข้าไปในจวนตามคาด เขาเห็นเหล่าเด็กซนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในลานหน้า ลูกชายสองคนกับลูกสาวหนึ่งคนของฉินชีหู่ รวมถึงลูกชายของอดีตรัชทายาท มาที่จวน และกำลังเล่นปาหิมะกับเสิ่นเนี่ยนฉือและฉีเหยียน เด็กๆ เหล่านั้นต่างสวมเสื้อผ้าหนาเตอะเหมือนหมี แม้จะล้มลงบนพื้นหิมะก็ไม่รู้สึกเจ็บ “คารวะฝ่าบาท!” เมื่อเห็นหยุนเจิงกลับมา อาจารย์ที่คอยดูแลเด็กๆ รีบเข้ามาคารวะ “พอเถอะ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอยู่ในจวนไม่ต้องเคร่งขนาดนั้น” หยุนเจิงโบกมือพลางถามว่า “พี่สะใภ้ตระกูลฉินมาที่นี่แล้วหรือ?” “เจ้าค่ะ” ซินเซิงยิ้มบางๆ ขณะช่วยปัดหิมะออกจากเสื้อหยุนเจิง พลางตอบว่า “ช่วงบ่ายฮูหยินฉินก็มากับเด็กๆ ตอนนี้คงเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าพระชายาอยู่” หยุนเจิงว่า “เช่นนั้นข้าไปดูสักหน่อย เจ้าเฝ้าเด็กๆ ไว้ อย่าให้พวกเขาเล่นจนเหงื่อออกมากนัก” “บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” ซินเซิงพยักหน้าเบาๆ หยุนเจิงมองดูเด็กซนที่กำลังเล่นอย่างบ้าคลั่ง และครุ่นคิดในใจว่าจะให้พวกเขาทำ “การบ้านช่วงปิดเทอม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status