ป้อมปราการ ก็ต้องทำให้เหมือนป้อมปราการแค่ทำจำลองเท่านั้น ไหนเลยต้องลำบากเช่นนั้น?“เหตุใดเจ้าตัดสินใจให้พวกเราสร้างป้อมปราการที่นั่น ทัพศัตรูจะเป็นฝ่ายบุกหรือ?”ฉินชีหู่ยังไม่เข้าใจ “ทัพศัตรูไม่บุกมา ถ่วงเวลากับพวกเรา พวกเราจะทำเช่นไรได้?”เมี่ยวอินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง คล้ายกับเห็นด้วยกับคำพูดของฉินชีหู่มาก“……”หยุนเจิงใบหน้าดำอึมครึมมองทั้งสองคน “ข้าอยากจะแยกสมองของพวกเจ้าสองคนออก แล้วนำสมองของตัวเองยัดเข้าไปจริงๆ!”ตอนนั้นที่เมืองจักรพรรดิ เมี่ยวอินคิดยากตามเขาไปเข้าร่วมการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้หนานย่วน ยังบอกว่านางเคยอ่านหนังสือการรบมาก่อนท่าทางเมี่ยวอินตอนนี้ ที่ใดเหมือนคนเคยอ่านหนังสือการรบคำถามง่ายดายเช่นนี้ นางก็พยักหน้าเห็นด้วย?เปลี่ยนเป็นอวี๋ซื่อจง ตู๋กูเช่อหรือพวกต่งกังพวกเขาคนใดคนหนึ่ง พวกเราสามารถเขาใจความหมายของเขาได้ในชั่วพริบตาคาดว่า แม้แต่เยี่ยจื่อยังสามารถเส้นทางคดเคี้ยวในเรื่องนี้ได้“เดิมทีก็เช่นอยู่แล้ว!”เมี่ยวอินถูกหยุนเจิงมองจนรู้สึกเก้อเขิน “ทัพศัตรูไม่เคลื่อนไหว เจ้าสามารถโยกย้ายทัพศัตรูไม่ได้?”“ข้าเดิมทีก็กำลังโยกย้ายพวกเขา!”หยุนเจิง
ความจริง เดิมทีแม่น้ำซัวเล่ยก็มีแหล่งน้ำทว่า หากต้องได้แหล่งน้ำของแม่น้ำซัวเลย ต้องหาสถานที่ขุดเจาะลงไป ไม่ได้สะสวดสบายเหมือนทะเลสาบเทพธิดายืนยันว่ามีแหล่งน้ำใกล้บริเวณนั้น หยุนเจิงดีใจมาก สั่งทหารคุ้มกันทันที “เจ้ารีบกลับไปถ่ายทอดคำสั่งของข้าให้จู่หลู่ สั่งจู่หลู่กบไประดมชาสเผ่าฟังคำสั่ง ชาย หญิง เด็ก ชราได้ทั้งหมด!”ทหารคุ้มกันชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ถามอย่างระมัดระวัง “ท่านอ๋อง หากหัวหน้าถามข้าน้อย เหตุใดต้องระดมชาวเผ่าเหล่านี้ ข้าน้อยควรตอบเช่นไร?”หยุนเจิงขี้เกียจอธิบาย ตอบโดยตรง “ข้าทดสอบเขาและเป่ยหมัวถัว!”“ขอรับ!”ทหารคุ้มกันไม่กล้าถามมากหยุนเจิงสั่งคนให้อาหารแห้งและม้าหนึ่งตัวกับทหารคุ้มกัน ให้ทหารคุ้มกันนำคำสั่งของเขาส่งถึงจู่หลู่โดยเร็วที่สุด“เจ้าไม่วางใจจู่หลู่?”ทหารคุ้มกันจากไปแล้ว เมี่ยวอินจึงเอ่ยปากถาม“นิดหน่อยกระมัง!”หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ “หากจู่หลู่นำถามการสร้างป้อมปราการที่แม่น้ำซัวเล่ยเผยแพร่ออกไป ทหารและเสบียงของพวกเรายังไปไม่ถึงตำแหน่ง ทัพศัตรูเกรงว่าคงบุกโจมตีมาแล้ว!”“มันก็จริง”เมี่ยวอินพยักหน้าเบาๆ ภายในใจรู้สึกเลื่อมใสหยุนเจิงละเอียดรอบครอบ
สองวันให้หลัง ด่านเทียนฉงอูต๋ากลับไปรายงานสถานการณ์ที่ด่านเทียนฉงตามความต้องการของหยุนเจิงสองวันนี้ หยุนเจิงฝึกอบรมเร่งด่วนให้อูต๋าโดยเฉพาะต้องเพิ่มคุณภาพทางจิตวิทยาให้อูต๋าแม้อูต๋าไม่ได้รายงานเถี่ยสงโดยตรง แต่เขาก็ต้องป้องกันเอาไว้หน่อย หลีกเลี่ยงไม่ให้อูต๋าอ้าปากก็เผยพิรุธแล้วทว่า หยุนเจิงประเมินอูต๋าสูงเกินไปแล้วหลังสนทนาสองสามประโยค เถี่ยถูลูกชายของเถี่ยสงสังเกตเห็นความตึงเครียดของอูต๋าเถี่ยถูขมวดคิ้วเล็กน้อย มองอูต๋าด้วยความสงสัย “ทางนั้นไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นจริงหรือ?”“ไม่...ไม่มี”ถูกเถี่ยถูถามเช่นนี้ อูต๋าที่มีผีในใจยิ่งตื่นเต้นกว่าเดิมเถี่ยถูดูออกว่าอูต๋าผิดปกติ ใบหน้าบึ้งตึง คำรามเสียงเกรี้ยวกราด “พูด เกิดเรื่องใดกันแน่? หากไม่บอกมาตามตรง จะให้เจ้าได้ทดลองโทษประหารชีวิตภายในค่ายทหาร!”เผชิญกับการซักไซ้ของเถี่ยถู สภาพจิตใจของอูต๋าพังทลายลงในพริบตา“ปึก...”อูต๋าคุกเข่าลงกับพื้นอย่างแรก ร้องไห้ทั้งน้ำตา “ข้าน้อยถูกบีบบังคับ ขอแม่ทัพไว้ชีวิตด้วย...”เถี่ยถูสายตาเย็นชา ใบหน้าบึ้งตึง “ขอแค่เจ้าบอกตามความจริง ข้ารับประกันชีวิตเจ้า!”สภาพจิตใจของอูต๋าย่ำแย่ห
หยุนเจิงเป็นใครนั่นคือองค์ชายหกแห่งต้าเฉียน!คือจิ้งเป่ยอ๋อง!ซั่วเป่ยเจี๋ยตู้สื่อ!เขาคือคนที่เป็นจิตวิญญาณของทั้งกองทหารมณฑลทางเหนือ!เพราะหยุนเจิงบัญชาการด้วยตัวเอง เป่ยหวนที่เผด็จการจึงถูกตีพ่ายแพ้จนล่าถอย ตอนนี้หลบอยู่ที่ทางตอนเหนือของทะเลทรายเหลืองแล้วและคนที่เป็นภัยคุกคามโฉวฉื่อมากที่สุด ก็คือหยุนเจิง!ขอแค่กำจัดหยุนเจิงได้ ต้องเป็นความดีความชอบยิ่งใหญ่เทียมฟ้าถึงเวลานั้น ถึงขั้นได้ตำแหน่งแม่ทัพอันดับหนึ่งของโฉวฉื่อลูกน้องทั้งหมดที่อยู่ภายใต้เถี่ยสง ก็จะได้รับรางวัลอย่างมากมายโอกาสเช่นนี้ หาได้ยากยิ่งเมื่อได้ฟังคำพูดของทั้งสองคน เถี่ยสงอดไม่ได้ที่จะจมสู่ความมคิดจู่โจมสังหารหยุนเจิงหรือ?เขาย่อมมีความคิดเช่นนี้ขอแค่จู่โจมสังหารหยุนเจิงได้ พวกเขาทั้งหมเดก็สามารถร่วมแรงกับกุ่ยฟางและแคว้นต้าเย่ว์ ฉวยโอกาสตอนกองทหารมณฑลทางเหนือไร้ผู้นำจัดการทำลายกองทหารมณฑลทางเหนือในคราวเดียว ทำลายภัยคุกตามจากกองทหารมณฑลทางเหนือ!ส่วนความดีความชอบในการจู่โจมสังหารหยุนเจิง แม้แต่คนโง่ก็ยังรู้เขาย่อมอยากได้ความดีความชอบนี้ทว่า เถี่ยสงลังเลอยู่นานสองนาน สุดท้ายก็ล้มเลิกความคิด
พวกหยุนเจิงอยู่ที่หุบเขารอหนึ่งวันสุดท้าย ก็รอไม่ถึงอูต๋าย้อนกลับมานักรบภูตเก้าที่สำรวจใกล้ด่านเทียนฉงส่งคนกลับมารายงาน ด่านเทียนฉงไม่มีความผิดปกติใด“ดูเหมือน อูต๋าเผยพิรุธแล้ว เถี่ยสงไม่มีทางส่งทหารมาจู่โจมสังหารพวกเรา”หยุนเจิงยิ้ม จากนั้นก็สั่งนักรบภูตสิบเอ็ดที่กลับมารายงาน “แจ้งพวกนักรบภูตเก้ากลับมาทันที เตรียมตัวล่าถอย!”รอนักรบภูตสิบเอ็ดรับคำสั่งจากไปแล้ว ฉินชีหู่ถามอย่างไม่ยอมแพ้ “พวกเรารออีกหน่อยดีหรือไม่?”“ไม่จำเป็นต้องรอแล้ว”หยุนเจิงส่ายหน้ากล่าว “หากเถี่ยสงจู่โจมฆ่าพวกเรา ก็ควรฉวยโอกาสไปนานแล้ว ไม่ใช่ไม่เคลื่อนไหวอยู่เช่นนี้! เจ้าคิดดูสิ อูต๋าไปตั้งนานไม่กลับมา หรือพวกเราไม่ควรสงสัยหรือ? แม้แต่พวกเราล้วนเดาได้แล้วว่าอูต๋าเผยพิรุธ ย่อมคาดเดาได้ว่าพวกเขาจะส่งคนจู่โจมสังหารพวกเรา! เถี่ยสงตอนนี้ไม่เคลื่อนไหว ก็เท่าบอกกับข้า เขามองแผนการข้าออกแล้ว”ฉินชีหู่ครุ่นคิด ดูเหมือนนี่จะมีเหตุผล“ให้ตายสิ เช่นนี้พวกเราไม่เสียเวลาไปสูญเปล่าหลายวันหรือ?”ฉินชีหู่มองทิศทางด่านเทียนฉงอย่างโหดร้าย “หากมีโอกาส ข้าต้องบุกด่านเทียนฉงแน่นอน ตัดหัวสุนัขเถี่ยสง!”“ไม่จำเป็นต้องโกรธ!”
สุดท้าย เป็นหยุนเจิงที่คิดมากเกินไป ไม่มีผู้ใดตามมาหลังออกจากหุบเขาไม่นาน พวกเขาก็รวมตัวกับทหารม้าห้าพันคนที่รออยู่ด้านหลังทหารม้าห้าพันคนนี้เฝิงอวี้นำทัพด้วยตัวเองหยุนเจิงสั่งคนเรียกเฝิงอวี้มา “ถอยทัพไปหนึ่งร้อยลี้ทันที!”“ขอรับ!”เฝิงอวี้รับคำสั่ง สั่งให้คนไปถ่ายทอดคำสั่งของหยุนเจิงเมี่ยวอินไม่เข้าใจ ถามด้วยความอยากได้รับการสั่งการ “เจ้าไม่ใช่ต้องการให้คนรักษาการณ์ที่นี่หรือ? เหตุใดจึงจะถอยกะทันหัน?”เดินทางไปๆ มาๆ เป็นการสิ้นเปลืองเสบียงอาหารบางส่วนโดยเสียเปล่าไม่ใช่หรือ?นางล้วนมองปัญหาออก หยุนเจิงย่อมต้องมองออกหยุนเจิงทำเช่นนี้ ย่อมมีเจตนาอื่นหยุนเจิงหัวเราะ อธิบาย “ถอยกลับก่อน ให้พวกเขากับกองทัพด้านหลังรวมตัวกันแล้ว ค่อยกลับมากดดันอีกครั้ง! ถือโอกาส ดูว่าสามารถหลอกเถี่ยสงได้หรือไม่!”“ยังจะหลอกเถี่ยสง?”ฉินชีหู่ตาโตขึ้นมา ถามด้วยความสนใจใคร่รู้ “มีวิธีหลอกใด?”“ไม่แน่ว่าจะสามารถหลอกได้ ก็แค่ลองเสี่ยงโชคเท่านั้น”หยุนเจิงยิ้มอธิบาย “พวกเราให้ทหารห้าพันคนถอยทัพก่อน ผ่านไปหลายวันค่อยมากดดัน คนของด่านเทียนฉงเมื่อรู้ข่าวว่าพวกเขาถูกกดดัน สามารถติดตามความเร็วในการเค
หลายวันต่อมา ทุกหน่วยถึงแล้วหยุนเจิงระดมแม่ทัพทุกหน่วยงานประชุมกันที่ชายแดนต้าเฉียนและเป่ยหมัวถัวเป็นอันดับแรกจู่หลู่หัวหน้าเป่ยหมัวถัวก็ถูกเรียกมาด้วยภายในกระโจมใหญ่ หยุนเจิงและแม่ทัพทุกหน่วยยังไม่ได้นั่งกลางกระโจมใหญ่ เป็นถาดทรายที่หยุนเจิงทำด้วยความเร่งรีบง่ายๆไม่มีการกล่าวมากความ หยุนเจิงตรงเข้าประเด็น แจ้งนโยบายเชิงกลยุทธ์ของเขาให้ทุกหน่วยทราบอย่างชัดเจน“ฮ่าๆ องค์ชานแผนการนี้ดี!”“คราวนี้ พวกเราเท่ากับโยนปัญหายากไปให้ทัพศัตรูแล้ว!”“เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าทัพศัตรูจะโจมตีหรือไม่ สำหรับพวกเราแล้วล้วนเป็นประโยชน์!”“ยึดตามแผนการขององค์ชาย พวกเราก็เท่ากับกลับมาเป็นฝ่ายกุมอำนาจในการต่อสู้ครั้งนี้อีกครั้ง”“เป็นองค์ชายที่สายตามองการณ์ไกล พวกเราคนมากมาย กลับไม่มีสักคนคิดถึงจุดนี้...”เมื่อฟังแผนการของหยุนเจิงจบ ทุกคนต่างตบมือร้องว่าดี จากนั้นก็ถือโอกาสประจบหยุนเจิงมองขาดเรื่องนับพันหมื่น ยกเว้นเพียงประจบสอพลอแม้หยุนเจิงจะไม่มีมาดใด แล้วก็ไม่ต้องการให้ใครมาประจบสอพลอ แต่ได้รับการประจบสอพลอบ้างก็ไม่ได้เลวร้ายอีกทั้ง แผนการนี้ยอดเยี่ยมจริงๆรอจนศัตรูได้รับข่าวพวกเขาส
เมืองที่ประชากรสี่แสนกว่าคน หากอยู่ที่ต้าเฉียนก็นับว่าเป็นเมืองใหญ่ นับประสาสิ่งใดกับโฉวฉื่อหลายปีผ่านมา ไม่ว่าระบอบการปกครองของโฉวฉื่อจะเปลี่ยนแปลงเช่นไร เมืองอวี้เฟิงเป็นเมืองหลวงไม่เคยเปลี่ยนแปลงลึกเข้าไปในพระราชวัง หยวนซู่กษัตริย์โฉวฉื่อกำลังฟังรายงานจากขันทีเหยาชั่วเทวะรูปสำแดงฤทธิ์!เมืองทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอวี้เฟิง ปรากฏเทวะรูปองค์หนึ่งขึ้นเทวะรูปองค์นั้นทุกวันจะงอกขึ้นมาหนึ่งนิ้ว อัศจรรย์มากตอนนี้ ถึงขั้นคนจำนวนไม่น้อยในเมืองอวี้เฟิงไปกราบไว้เทวะรูปที่สำแดงฤทธิ์ทางนั้นตามการงอกที่สูงขึ้นของเทวะรูปนั้น คำทำนายบนเทวะรูปก็เลื่องลือออกมาสำหรับคำทำนายประโยคนี้ มีการตีความจากชาวบ้านมากมายทว่า เนื่องจากชาวบ้านโดยพื้นฐานแล้วไม่รู้ว่าโฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์กำลังแสดงละครกัน ดังนั้นคนมากมายจึงตีความหมายคำทำนายนี้ว่าโฉวฉื่อสุดท้ายจะเอาชนะแคว้นต้าเย่ว์ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านมากมายในแคว้นโฉวฉื่อถึงขั้นฉลองชัยชนะล่วงหน้า“เกล็ดทองคำในบ่อน้ำ พบพานวายุเมฆาแปรเปลี่ยนเป็นมังกร...”หยวนซู่พึมพำเบาๆ ลิ้มรสชาตของประโยคนี้อย่างละเอียด หันไปมองซาติงที่อยู่ข้างกาย “ราชครู เจ้าว่าป
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่