แชร์

บทที่ 1184

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-24 17:00:01
เมี่ยวอินยิ้ม “ให้ข้าตั้งครรภ์ คาดว่าคงเป็นเวลาที่ใต้หล้าสงบสุขแล้ว”

นางมีวิชาเหอหวนกง ขอแค่นางไม่อยากตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะทำซ้ำไปซ้ำมากับหยุนเจิงก็ไม่มีทางตั้งครรภ์

พวกเสิ่นลั่วเยี่ยนไม่วางใจหยุนเจิงที่รบอยู่แนวหน้า นางย่อมไม่วางใจเช่นกัน

ตราบใดที่หยุนเจิงรบอยู่แนวหน้า นางไม่มีทางตั้งครรภ์

นางต้องการคุ้มครองอยู่ข้างกายผู้ชายของพวกนาง

เสิ่นลั่วเยี่ยนนิ่งเงียบ หันไปมองหยุนเจิงด้วยความโกรธ “ครั้งนี้เจ้าต้องตีพวกโฉวฉื่อให้หนัก! ทำให้พวกเขาไม่กล้าปีหน้าทำศึกอีก!”

หากปีหน้าทำสงครามอีก นางก็สามารถชุดสวมเกราะเข้าสนามรบได้แล้ว

น่าเสียดาย หลายแคว้นพวกนี้ต้องหาเรื่องสู้กันปีนี้ให้ได้

ยังไปเคยประสบพบกับการทุบตีโหดร้ายของหยุนเจิง ไม่รู้จักเจ็บ!

เห็นท่าทางของเสิ่นลั่วเยี่ยน หยุนเจิงและเมี่ยวอิดอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

ขณะที่ทั้งสองคนหัวเราะกันอย่างเบิกบานใจ ด้านนอกมีเสียงตื่นตระหนกลอยเข้ามากะทันหัน “พระชายา ไม่ดีแล้ว...”

หยุนเจิงฟังออกว่าเป็นเสียงของซินเซิง

ซินเซิงตอนนี้เป็นบ่าวคนสำคัญของจวน ทุกคนรู้จักนางดี เยี่ยจื่อเองก็มีเจตนาอบรมนางให้เป็นผู้ดูแลบ้าน หลายครั้งนางล้วนติดตามอยู่ข้างกายเยี่ยจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1185

    เยี่ยจื่อตั้งครรภ์ สำหรับจวนอ๋องแล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดีใช้คำพูดของฮูหยินเสิ่น หยุนเจิงกำลังจะต้องนำทัพออกศึกอีกแล้ว เยี่ยจื่อตั้งครรภ์เวลานี้ นี่เป็นนิมิตหมายที่ดีแม้หยุนเจิงจะไม่งมงาน ทว่าภายในใจก็ดีใจอย่างมากเขาได้กลายเป็นพ่อคนอีกแล้ว!อีกทั้ง เยี่ยจื่อและเสิ่นลั่วเยี่ยนไม่เหมือนกันเสิ่นลั่วเยี่ยนคิดติดตามหยุนเจิงไปออกศึก ความจริงไม่อยากตั้งครรภ์ทว่าเยี่ยจื่ออยากมีลูกที่เป็นของพวกเขาสักคนมาโดยตลอดตอนนี้เยี่ยจื่อตั้งครรภ์แล้ว นางก็นับว่าสมปรารถนาแล้วด้วยความดีใจ หยุนเจิงสั่งให้คนเรียกเฉินปู้มาการหมดสติกะทันหันของเยี่ยจื่อครั้งนี้ เป็นเพราะทำงานหนักมากเกินไปเขาจำเป็นต้องลดภาระหน้าที่ให้กับเยี่ยจื่อ ให้เฉินปู้รับช่วงต่องานจากมือเยี่ยจื่อ ไม่อาจปล่อยให้เยี่ยจื่อทำงานหนักต่อไป“ไม่ได้ร้ายแรงเจ้าที่เจ้าคิด”เยี่ยจื่อพักผ่อนอยู่บนเตียง ปล่อยให้หยุนเจิงกุมมือนางตามใจชอบ “สองวันนี้ต้องปรับย้ายทรัพยากรณ์แต่ละอย่าง บวกกับแต่ละท้องที่ทำการเตรียมตัวเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง หลายเรื่องเหน็ดเหนื่อยมากมายมาพร้อมกัน ข้าจึง...”“เช่นนั้นก็ไม่ได้”หยุนเจิงตัดบทเยี่ยจื่ออย่างเอาแต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1186

    หยุนเจิงเพิ่งสนทนากับทั้งสองคน คนในจวนก็มารายงาน เฉินปู้มาแล้ว“เช่นนั้นพวกเจ้าคุยกันไปก่อน ข้าไปพบเฉินปู้”หยุนเจิงลุกขึ้นยืนไม่นาน หยุนเจิงก็พบเฉินปู้“คาราวะท่านอ๋อง”เฉินปู้ทำความเคารพด้วยความนอบน้อมเฉินปู้มีความเย่อหยิ่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหยุนเจิง เขาไม่กล้าหยิ่งผยอง“ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าที่สวนดอกไม้ข้างหลังเถอะ!”หยุนเจิงเรียกเฉินปู้ แล้วเดินไปยังสวนดอกไม้ของหลังเฉินปู้รีบตามไปขณะที่กำลังเดิน จู่ๆ หยุนเจิงก็ถาม “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะหรือไม่?”คำถามที่มากะทันหันของหยุนเจิงทำให้เฉินปู้จับต้นชนปลายไม่ถูกหลังขบคิดชั่วครู่ เฉินปู้ตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ความสามารถของข้าน้อย ไม่อาจเทียบท่านอ๋อง แต่ข้าน้อยมั่นใจ ข้านับว่าเป็นอัฉริยะ”“ประจบประแจงได้ไม่เลว ต่อไปไม่ต้องประจบแล้ว”หยุนเจิงหันหน้ามองเฉินปู้เฉินปู้ส่ายหน้าเบาๆ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าน้อยไม่ได้ประจบประแจง ความสามารถของข้าน้อย ไม่อาจเทียบท่านอ๋องได้จริงๆ”หยุนเจิงยิ้มเรียบๆ จากนั้นก็ถาม “ให้เจ้ารับหน้าที่จัดส่ง กำกับดูแลเสบียงอาหารกองทัพหนึ่งแสนแนวหน้า เจ้ารับหน้าที่ได้หรือไม่?”“ได้!”เฉิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1187

    หลายวันต่อมา หยุนเจิงอยู่ที่ติ้งเป่ยตลอดนอกจากอยู่เป็นเพื่อผู้หญิงของเขาแล้ว เขาได้ทำการเตรียมพร้อมมากมายไม่ว่าด้านหน้าจะสู้กันเช่นไร ด้านหลังห้ามเกิดความวุ่นวายเด็ดขาดหลังจากย้ายจั่วเริ่นจากด่านเป่ยลู่แล้ว หยุนเจิงยังส่งผู้ช่วยสองคนไปเป็นผู้ช่วยเว่ยหยูกองทหารรักษาการณ์ของด่านเป่ยลู่น้อยไปกว่าเมื่อก่อนมาก ด่านเป่ยลู่จำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่าปล่อยให้ผู้ใดมีโอกาสยึดด่านเป่ยลู่ได้ระหว่างนั้น หยุนเจิงยังสั่งให้ช่างฝีมือในโรงตีเหล็กทำดวงตาพันลี้ออกมาหลายอัน สั่งคนส่งไปให้ตู๋กูเช่อสามอันหลายวันให้หลัง ทหารราบห้าพันคนของจั่วเริ่นได้เคลื่อนทัพมาถึงติ้งเป่ยแล้วสามารถถือโอกาสคุ้มกันขนส่งเสบียงบางส่วนจากติ้งเป่ย ลดแรงกดดันของการขนส่งเสบียงกองกำลังอื่นได้หลังจากกองกำลังจั่วเริ่นมาถึง ทุกคนล้วนรู้ดี ถึงเวลาที่หยุนเจิงต้องจากไปแล้วเช่นกันไม่มีการบอกลาที่เกิดกว่าเหตุ แล้วก็ไม่มีน้ำตามากมายหลังจากหยุนเจิงกอดเสิ่นลั่วเยี่ยนและเยี่ยจื่อ ก็ถอยไปด้านข้าง คาราวะบอกลาฮูหยินเสิ่นอย่างเคร่งครัด จากนั้นก็พลิกตัวขึ้นม้า นำทัพเดินทางไปยังชายแดนกู้เพิ่งออกเดินทางได้ไม่นาน หยุนเจิงก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1188

    เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง เมี่ยวอินอดยิ้มไม่ได้เจ้าหมอนี่ จับความคิดของจั่วเริ่นที่อย่างนำทัพเข้าร่วมรบได้แล้วแม้เขาไม่จำกัดเวลาจั่วเริ่น ทว่าจั่วเริ่นเพื่อที่จะเร่งเดินทางมาถึงค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนเพื่อเข้าร่วมศึกแล้ว ย่อมต้องเพิ่มความเร็วในการคุ้มกันขนส่งเสบียงสุดชีวิตจั่วเริ่นย่อมเข้าใจความหมายของหยุนเจิง รีบทุบอกรับประกัน “องค์ชายวางใจ ข้าต้องใช้อัตราความเร็วสูงสุดคุ้มกันขนส่งเสบียงไปถึงยังเขาห่านป่าหวนกลับ!”“ดี!”หยุนเจิงพยักหน้ายิ้มเล็กน้อย “เช่นนั้นเรื่องที่เหลือมอบให้เจ้าแล้ว!”หลังมอบหมายงานให้จั่วเริ่นเสร็จ หยุนเจินนำกองกำลังทหารองค์รักษ์ของตัวเองออกไป รีบเดินทางไปชายแดนกูหลังกลับถึงชายแดนกู้ หยุนเจิงเรียกต่งกังมาทันที ถามความคืบหน้าของคนที่เขาปรับปรุงหลายวันมานี้ ต่งกังได้ใช้นักเรียนหนึ่งร้อยคนนั้นเป็นโครงสร้างในการปรับปรุงทหารราบสี่พันคนทว่า เนื่องม้าศึกไม่เพียงพอและปัญหาสุขภาพของทหาร สี่พันคนนี้ล้วนเป็นทหารราบทั้งหมดอีกทั้ง อุปกรณ์ของพวกเขาไม่อาจเทียบกับทหารราบเกราะหนักหนึ่งหมื่นคนของหวังชี่ได้แต่ต่งกังเชื่อ กำลังรบของสี่พันคนนี้ไม่เลวเลยแม้ว่าพวกเขาจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1189

    ตอนนี้ค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับมีคนประจำการสองหมื่นนอกจากทหารม้าชั้นยอดสองหมื่นคนของอวี๋ซื่อจงและเติ่งเป่าแล้ว ก็ยังมีทหารราบเกราะเหล็กหนึ่งหมื่นที่หวังชี่บัญชาการนอกจากนี้แล้ว ยังมีเชลยศึกหนึ่งหมื่นคนเป็นกรรมกรจับกังอยู่ที่นี่ค่ายถาวรที่เขาห่านป่าหวนกลับเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วสนามฝึกซ้อม แท่นแม่ทัพ คลังเสบียง โรงม้าและอื่นๆ โดยพื้นฐานสร้างเสร็จแล้ว แต่นี่ไม่ใช่แค่ผลงานของเชลยศึกเหล่านั้น กองกำลังของอวี๋ซื่อจงและหวังชี่ที่ประจำการอยู่ที่นี่ก่อนหน้านี้ นอกจากการฝึกฝนประจำวันแล้ว ยังช่วยออกแรงไม่น้อย“บ้านพักทหารเล่า?”หยุนเจิงหัวหน้าถามอวี๋ซื่อจงที่อยู่ข้างกาย“คือว่า...”พูดถึงเรื่องบ้านพักทหาร อวี่ซื่อจงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนทันที “บ้านพักทหารยังไม่เคลื่นไหว ทำไม่ทันจริงๆ...”หยุนเจิงได้ฟังก็รู้แผนการของพวกอวี๋ซื่อจงเมื่อฤดูหนาวมาถึง คนสามารถไม่มีที่อยู่อาศัย แต่ม้าจำเป็นต้องมีที่อยู่อาศัยมนุษย์ ต่อให้ฤดูหนาวมาถึง หลบอยู่ในกระโจมก็สามารถหลบเลี่ยงลมหนาวจากหิมะได้แม้พวกเขาได้ม้าศึกมาจากเป่ยหวนไม่น้อย ทว่ากองทหารมณฑลทางเหนือก็ยังขาดแคลนม้าศึกอยู่ดีสำหรับม้าศึกเหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1190

    ตอนนั้นศัตรูคนสำคัญของพวกเขาคือเป่ยหวน ใครจะมีแก่ใจไปสนใจพวกโฉวฉื่อ แคว้นต้าเย่ว์ทุกคนเมื่อเข้ามาก็ล้อมอยู่ด้านข้างถาดทรายอวี๋ซื่อจงไม่รอช้า หยิบท่อนกระบองชี้ไปที่ถาดทรายแล้วเริ่มอธิบายอวี๋ซื่อจงและหวังชี่ล้วนเลือกคนประมาณห้าร้อยคนจากในกองกำลัง จัดตั้งเป็นกองทหารชั้นยอดที่แข็งแกร่งทรงพลังพวกเขาจะส่งคนแทรกซึมเข้าไปในดินแดนเพื่อสืบข่าวและสำรวจภูมิประเทศของแคว้นศัตรูโฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ทะเลาะกันเอิกเกริกด้วยท่าทางต้องการสู้ตายหลายวันก่อน ทั้งสองแคว้นยังเปิดฉากโจมตีหยั่งเชิงกัน แต่ก็ฟ้าร้องดัง ฝนตกปรอยรายละเอียดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พวกเขาเองก็ไม่รู้ชัดเจนเป็นไปได้มากว่าไม่มีการบาดเจ็บแต่เสียชีวิตเลยด้วยซ้ำการวินิจฉัยของอวี๋ซื่อจงและหยุนเจิงสอดคล้องกันมากโฉวฉื่ิอและแคว้นค้าเย่ว์กำลังเล่นละครกันจริง แต่พวกเขาไม่ได้ทำเพื่อระดมกำลังทหารออกจู่โจม เอาว่าทำเพื่อสร้างภาพว่าสองแคว้นทำศึกกัน หลอกล่อให้ต้าเฉียนเป็นฝ่ายบุกโจมตีเป่ยหมัวถัวทางตะวันตก โดยพื้นฐานแล้วเป็นพื้นที่ที่ราบสูงจุดตัดระหว่างโฉวฉื่อและเป่ยหมัวถัวนั้นเต็มไปด้วยภูเขาสูงต้าเฉียนคิดบุกเข้าโฉวฉื่อ แทบจะบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1191

    “จากสถานการณ์ตอนนี้ การบุกโจมตีจากแม่น้ำซัวเล่ย เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย”หยุนเจิงตอบ “แต่ว่า ข้ากำลังคิดมาตลอด สามารถโจมตีด่านเทียนฉงได้หรือไม่!”แผนการก่อนหน้านี้ของเขาคือบุกโจมตีจากแม่น้ำซัวเล่ยแต่หากคิดแผนการที่ดีในการยึดด่านเทียนฉงได้ การบุกโจมตีด่านเทียนฉง เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดหากเปิดประตูใหญ่ของโฉวฉื่อได้แล้ว กำลังทหารด้านหลังของโฉวฉือว่างเปล่า ก็จำเป็นต้องถอนทัพจากชายแดนกลับมาช่วยเหลือถึงขั้นบอกได้ว่า ขอแค่ตีทะลวงด่านเทียนฉง โฉวฉื่อจะล่มสลายก็ไม่ไกลแล้วเมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง อวี๋ซื่อจงและหวังชี่อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันแล้วยิ้มสุดท้าย องค์ชายกับพวกเขาก็เหมือนกัน มีความคิดอยากตีด่านเทียนฉงแต่ความคิดจะตีด่านเทียนฉง ปัญหาก็กลับไปอยู่ที่จะตีทะลวงด่านเทียนฉงได้เช่นไรใช้กำลังบุกโจมตีด่านอย่างด่านเทียนฉง ไม่ว่าเป็นพวกเขาหรือหยุนเจิง ล้วนไม่อยากทำคนที่ปกป้องด่านเทียนฉงก็คือแม่ทัพใหญ่เถี่ยสงของโฉวฉื่อสำหรับเถี่ยสง พวกเขาไม่เข้าใจมากนักรู้เพียงว่าแม่ทัพท่านนี้ชำนาญในการปกป้องเมืองพวกเขาคนชีวิตคนไปกองไว้ ล้วนไม่อาจยึดด่านเทียนฉงได้ตอนที่พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1192

    นี่ก็เหมือนการต่อสู้ของฮว๋าเซี่ยสมัยโบราณไม่ทันไรก็มีกองทัพหนึ่งแสนในนามอย่างง่ายดายทว่ากองกำลังที่สามารถทำศึกได้จริงๆ โดยปกติแล้วล้วนไม่ถึงครึ่ง“องค์ชาย โฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ไม่อาจดูถูกได้”เวลานี้ เติ่งเป่าเอ่ยปากเตือนขึ้นมากะทันหัน“เหตุใดกล่าวเช่นนี้?”หยุนเจิงถามด้วยความสนใจเติ่งเป่าสีหน้าจริงจัง “ตัดการใช้ทหารกับเป่ยหมัวถัวก่อนหน้านี้ออก โฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์ไม่เกิดเรื่องทำศึกมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว ทั้งสองแคว้นแม้จะเล็ก แต่น่าจะมีทรัพย์สมบัติเก็บสะสมอยู่บ้าง”“ใช่แล้ว”หวังชี่พยักหน้าเห็นด้วย “เมื่อก่อนเป่ยหวนแข็งแกร่ง ฉวนหรงและเป่ยหมัวถัวล้วนอาศัยพึ่งพาเป่ยหวน สองแคว้นต่อให้มีใจ ก็ไม่กล้าใช้ทหารกับเป่ยหมัวถัวและฉวนหรงโดยง่าย ส่วนศักยภาพของชนเผ่าโม่ซีและกุ้งฟางที่อยู่ด้านข้างพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่า พวกเขาทำได้เพียงบำรุงสุขภาพและสะสมกำลัง รอเวลาที่เหมาะสม”หยุนเจิงครุ่นคิด พยักหน้าเบาๆ “มันก็จริง”อื้ม ดูเหมือนเขาดูถูกศัตรูไปหน่อยแล้วไม่ว่าศักยภาพสองแคว้นเป็นเช่นไร ในเมื่อตัดสินใจส่งทหารแล้ว เช่นนั้นก็ต้องทุ่มสุดตัวหยุนเจิงปรับสภาพจิตใจ จากนั้นก็จ้องถาดทรายตร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status