แชร์

บทที่ 1091

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-01 17:00:01
จนกระทั่งทหารที่ล้อมรอบพวกหยุนเจิงแยกย้ายกันไปแล้ว พวกฉินชีหู่ในที่สุดก็เดินเข้าไป

“น้องชาย เจ้าได้รับบาดเจ็บที่ใด?”

ฉินชีหู่เดินเข้าไปดึงหยุนเจิงมาตรวจสอบ

“เข้าห้องก่อนค่อยพูดกันเถอะ!”

หยุนเจิงหัวเราะ เรียนทุกคนเข้าไปในห้องด้วยกัน

ทันทีที่เข้าห้อง หยุนเจิงก็โค้งคำนับตู๋กูเช่อ

“องค์ชาย ท่านทำสิ่งใด?”

ตู๋กูเช่อตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาที่คาดคิดไม่ถึง รีบพยุงหยุนเจิงให้ยืนตัวตรง

“ข้าขอโทษแม่ทัพตู๋กูเช่อเพราะความใจแคบของข้า!”

หยุนเจิงเงยหน้าขึ้น “ข้าไม่ปิดบังแม่ทัพตู๋กูเช่อ ข้าแกล้งทำเป็นถูกลอบสังหารบาดเจ็บสาหัส มีการทดสอบแม่ทัพตู๋กูเช่อและผู้นำในกองทัพจริง วันนี้เป่ยหวนสงบสุข ไม่มีการรุกรานจากภายนอก ข้าควรกังวลศึกภายในแล้ว! มีที่ใดล่วงเกิน ขออภัยแม่ทัพตู๋กูเช่อด้วย”

หยุนเจิงบอกแรงจูงใจของตัวเองกับตู๋กูเช่อด้วยความจริงใจ

ต่อให้เขาไม่บอก เขาเชื่อตู๋กูเช่อก็เข้าใจ

“องค์ชายกล่าวหนักไปแล้ว”

ตู๋กูเช่อโบกมือปัด หัวเราะกล่าว “ข้าแม้ไม่ใช่คนมีความสามารถ แต่ก็เข้าใจเจตนาขององค์ชาย จริงอย่างที่องค์ชายกล่าว ไม่มีการรุกรานจากภายนอก ศึกภายในก็ควรปรับปรุงได้แล้ว! องค์ชายคือคนที่ฝ่าบาทแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1092

    “กำลังมา”อวี๋ซื่อจงตอบ “แต่ว่า พวกเขาพาทั้งครอบครัวมาด้วย คิดว่าเช่นไรก็ต้องครึ่งเดือนขึ้นไป ได้ยินว่า คนที่อพยพมา ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนชนเผ่าขององค์หญิงเจียเหยา”โดยพื้นฐานล้วนเป็นชนเผ่าของเจียเหยาหรือ?หยุนเจิงประหลาดใจเล็กน้อยแต่ว่า คิดสักรอบ หยุนเจิงก็เข้าใจแล้วหยุนเจิงนำวัวแพะของชนเผ่านางทั้งเป็นเติมยุทธปัจจัยแล้วชนเผ่าเหล่านั้นของนาง อยู่ที่ชนเผ่าอื่น เกรงว่าคนฝืนทนกินสักมื้อให้ไม่ให้อดตายไม่สู้อพยพมาที่ซั่วเป่ยเช่นนี้ ทั้งเป็นทางรอดให้ชนเผ่าของนาง แล้วยังทำให้ชาวเป่ยหวนเหล่านั้นเห็นว่านางไม่ได้เห็นแก่ตัววิธีเดียวได้ถึงสองต่อแต่ว่า ในเมื่อคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนของชนเผ่าเจียเหยา เขาก็ต้องระมัดระวังจั่วเสียนอ๋องโปหลวนตอนนั้นก็ฮุบเอาชนเผ่าที่อยู่ในทุ่งหญ้ามู่หม่าของฮูเจี๋ย ก่อให้เกิดไฟไหม้สวนหลังบ้านความผิดเช่นเดียวกัน เขาห้ามให้เกิดขึ้นซ้ำอีกคนเหล่านี้ ต้องตีให้แตกกระตาย ห้ามไม่ให้รวมตัวกัน!หยุนเจิงครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นก็สั่งอวี๋ซื่อจง “ข้าเอาตัวฟางหยุนซื่อคนทรยศมาอย่างถูกต้องเปิดเผย จัดการเช่นไร เจ้ากับแม่ทัพตู๋กูเช่อปรึกษากัน ข้าไม่ยุ่งแล้ว”“ขอบคุณอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1093

    เมื่อได้รู้ว่าคนที่มาถ่ายทอดราชโองการใกล้ถึงแล้ว หยุนเจิงอดไม่ได้มีาจะยกยิ้มมุมปากได้!ทูตของฝ่าบาทมาได้ทันเวลาพอดี ทั้งยังสามารถส่งของขวัญชิ้นหนึ่งกลับไปให้ฝ่าบาทได้พวกหยุนเจิงเพิ่งเตรียตัวเสร็จ ทูตของฝ่าบาทก็มาถึงชายแดนกู้แล้วยังเป็นคนคุ้นเคย!หันจิ้น“คาราวะองค์ชายหก”หันจิ้นยังไม่ทันประกาศราชโองการ ก็ทำความเคารพหยุนเจิงก่อนอยู่ต่อหน้าหยุนเจิง เขาไม่กล้าวางท่วงท่าทูตของฝ่าบาทหยุนเจิงตุบตีเขาสักรอบ เขากลับไปบอกจักรพรรดิเหวิน คาดว่าคงโดนจักรพรรดิเหวินถีบอีกสักสองที“ผู้บัญชาการหันจิ้นเป็นทูตของฝ่าบาท ไม่ต้องพิธีรีตรอง”หยุนเจิงยิ้มเล็กน้อย ที่ลับตาคนหันจิ้นผู้นี้นับว่าพอใช้ได้ ไม่ได้วางมาดทูตของฝ่าบาทต่อหน้าเขาหันจิ้นลุกขึ้นยืนตรง จากนั้นก็มองหยุนเจิงด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “พวกข้าอยู่ระหว่างทางได้ฟังว่าองค์ชายเหมือนจะถูกลอบสังหารณ์ ไม่รู้เรื่องนี้...”“เรื่องนี้สายหน่อยค่อยว่ากันเถอะ!”หยุนเจิงโบกมือ จากนั้นก็กล่าว “ฝ่าบาทมีรับสั่งใด?”กล่าวถึงราชโองการของฝ่าบาท หันจิ้นรีบจัดแจงเสื้อผ้าตัวเอง จากนั้นก็รับราชโองการมาจากคนข้างกาย กล่าวเสียงสูง “องค์ชายหกหยุนเจิงและก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1094

    เหอะ!เตรียมพร้อมได้อย่างเต็มที่ยิ่ง!ช่างวาดภาพในวังล้วนพามาด้วยแล้ว?“ก็ได้ ก็ได้!”หยุนเจิงขี้เกียจกล่าวมากมาย “ในเมื่อเป็นความต้องการของเสด็จพ่อ เช่นนั้นข้าก็จะสั่งให้คนพาช่างวาดภาพไปพบองค์หญิงเจียเหยา! พอดีเลย องค์หญิงเจียเหยามาอยู่ที่ชายแดนกู้ พวกเจ้าพักผ่อนสักหน่อย รอให้ช่างวาดภาพวาดภาพเหมือนของเจียเหยาเสร็จแล้ว ก็รีบกลับไปรายงานเถอะ!”“……”หันจิ้นหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “องค์ชาย พวกเราเร่งเดินทางมา แทบไม่ได้...”“ข้าไม่ได้ขับไล่พวกเจ้าไป!”หยุนเจิงหัวเราะส่ายหน้า “ที่สำคัญคือข้าต้องการให้พวกเจ้าช่วยข้านำศีรษะกลับไปมอบให้เสด็จพ่อ พวกเจ้าไม่รีบกลับไปรายงาน ศีรษะนี้ส่งถึงเมืองจักรพรรดิอาจเน่าเสียแล้ว...”ห๊า?ศีรษะ?หันจิ้นตัวชา มองหยุนเจิงด้วยใบหน้าโศกเศร้าส่ง...ส่งศีรษะอีกแล้ว?วิธีต่อสู้ของพวกเจ้าสองพ่อลูก อย่าทรมานพวกเราสิ!ครั้งก่อนเพื่อส่งศีรษะของพวกฮูเจี๋ยกลับไปให้ทันเวลา พวกเขาวิ่งกันจนร่างกายแทบทรุดโทรมแล้วเพิ่งพักได้ไม่นาน ต้องส่งศีรษะอีกแล้ว?เปลี่ยนคนส่งไม่ได้หรือ!หันจิ้นบ่นคร่ำครวญในใจต่อเนื่อง รู้อยู่แล้วว่าไม่ควรมาถ่ายทอดราชโองการที่ซั่วเป่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1095

    พวกหันจิ้นเพิ่งดื่มน้ำไปไม่กี่อึก หยุนเจิงก็พาพวกเสิ่นลั่วเยี่ยนเข้ามาไม่รอให้พวกหันจิ้นทำความเคารพ หยุนเจิงยกมือห้ามพวกเขา จากนั้นก็ถามด้วยร้อยยิ้มแย้ม “ผู้บัญชาการหัน ข้ามีเรื่องหนึ่งลืมบอกพวกเจ้าแล้ว”หันจิ้นในใจเกินลางสังหรณ์ไม่ดี ถามหยั่งเชิง “องค์ชายมีเรื่องใดต้องการสั่ง?”“ก่อนหน้านี้ข้าถูกลับสังหารไม่ใช่หรือ?”หยุนเจิงกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ “ข้าไต่สวนออกมาแล้ว มือสังหารพวกนั้น ล้วนป็นรัชทายาทส่งมา!”“ข้าแม้ไม่ถูกทำร้าย แต่ก็ไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทน!”“ข้าอยากให้ผู้บัญชาการหันจิ้นช่วยพามือสังหารสองคนกลับไป ข้าเรียบเรียงหนังสือสักฉบับ รบกวนผู้บัญชาการหันมอบให้เสด็จพ่อด้วย ข้าต้องการให้เสด็จพ่อช่วยคืนความเป็นธรรมแทนข้า...”เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง หานจิ้นแทบร้องไห้ออกมาแล้วมือสังหารเหล่านี้เป็นรัชทายาทส่งมา!เขาพามือสังหารกลับไป ไม่เท่ากับล่วงเกินรัชทายาทหรือ?หากมือสังหารตายระหว่างทาง เขาไม่เพียงสลัดไม่พ้นข้อหาคุ้มกันไม่ได้ ยังล่วงเกินองค์ชายหกด้วย!ดีไม่ดี เขายังถูกเข้าใจผิดกลายเป็นลูกสมุนของรัชทายาท!ให้ตายสินี่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายหรือ?เวลานี้ หันจิ้นอยากจะร้องไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1096

    แม้ความสูญเสียงของกองทหารมณฑลทางเหนือมีมาก แต่การคุกคามของเป่ยหวนขจัดออกไปแล้ว แผนการทหารชั้นยอดของหยุนจิงก็ประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้วหยุนเจิงแกว่งดาบใหญ่ ตัดทหารประจำการของกองทหารมณฑลทางเหนือออกถึงหนึ่งแสนสามพันคนภายในนั้น มีหน่วยรักษาการของด่านเป่ยลู่และทุกเมืองรวมกันแล้วห้าหมื่นคนทหารที่ใช้เป็นทหารประจำการ มีเพียงห้าหมื่นสามพันคนกองทหารโหลิตสามพันคน มีฉินชีหู่และหลู่ซิ่งบัญชาการที่เหลือห้าหมื่นคน แบ่งออกเป็นห้าส่วนภายในนั้นมี ทหารม้าสี่หมื่น ต่างก็เป็นหนึ่งคนต่อม้าสองตัว ผู้บัญชาการแบ่งเป็นอวี๋ซื่อจง ชวีจื้อ เฝิงอวี้ เติ่งเป่าทหารราบชุดเกราะหนักหนึ่งหมื่นคน หวังชี่เป็นแม่ทัพหลักเมื่อค่ายใหญ่ที่เขาห่านป่าหวนกลับเป็นรูปเป็นร่างแล้ว หวังชี่และอวี๋ซื่อจงก็ต้องนำกองทัพเข้าประจำการที่ค่ายใหญ่ที่เขาห่านป่าหวนกลับหยุนเจิงเป็นแม่ทัพหลักของกองทหารมณฑลทางเหนือ ตู๋กูเช่อเป็นรองแม่ทัพขณะเดียวกัน ทั้งสองคนรับหน้าที่เป็นเจ้าสำนักและรองเจ้าสำนักของสำนักศึกษาเตรียมทหารส่วนทหารที่ถูกปลด หยุนเจิงไม่ได้ให้พวกเขาเป็นทหารชาวนา แต่เสนอความคิดทหารที่ถูกปลดตั้งหมดปรับย้ายเป็นทหารกองห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1097

    เมืองจักรพรรดิหันจิ้งนำศีรษะของฟางหยุนซื่อกลับมา แล้วก็นำข่าวที่หยุนเจิงถูกลอบสังหาร จั่วเริ่นส่งทหารเข้าประชิดฟู่โจวกลับมาที่เมืองจักรพรรดิด้วยแต่ว่า หันจิ้งบอกเพียงแค่มือสังหารเหล่านั้นหยุนลี่เป็นคนส่งไปกับจักรพรรดิเหวินเท่านั้นความผิดปกติของกองทัพประจำการที่ด่านเป่ยลู่ จะทำให้พวกขุนนางในราชสำนักกระวนกระวายหยุนเจิงเพิ่งตีเป่ยหวนจนยอมจำนน ตอนนี้การทหารกำลังรุ่งโรจน์หากหยุนเจิงระดมกองทัพโจมตีฟู่โจวจริง ทหารประจำการหนึ่งแสนกว่านายของฟู่โจว ไม่มีทางปกป้องไว้ได้ทันทีที่หยุนเจิงบุกมายังเมืองจักรพรรดิ คนมากมายต้องซวยแล้วจักรพรรดิเหวินประทับอยู่บนบัลลังก์ พระพักตร์ดูไม่ออกว่าดีพระทัยหรือทางกริ้ว เพียงแค่กวาดสายพระเนตรมองขุนนางไม่หยุดเผชิญกับสายพระเนตรของจักรพรรดิเหวิน คนไม่น้อยเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นในใจ ไม่รู้จักรพรรดิเหวินทรงหมายความเช่นไร“เห้อ...”เนิ่นนาน จักรพรรดิเหวินค่อยๆ ถอนพระทัยออกมา โบกพระหัตถ์อย่างไร้เรี่ยวแรง “คนที่อยู่ขั้นสามขึ้นไปอยู่ก่อน คนที่เหลือ ออกไปให้หมด!”สิ้นเสียงรับสั่งของจักรพรรดิเหวิน คนที่ควรไปต่างก็พากันออกไปที่เหลือ ล้วนเป็นต่างก็เป็นขุนนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1098

    กล่าวจบ หยุนลี่แสดงท่าทางเด็ดขาดราวกับนาทีถัดไปก็จะเอาศีรษะกระแทกเสาในท้องพระโรงตายสวีสือฝู่มองหยุนลี่ด้วยความพอใจการสั่งสอนอย่างระมัดระวังของเขาในช่วงนี้ นับว่าเห็นผลบ้างแล้วหลังจากการแสดงท่าทีของหยุนลี่ เหล่าขุนนางขอร้องอีกครั้งมีบางคนจริงใจ มีบางคนเสแสร้งแต่ไม่ว่าเช่นไร เหล่าขุนนางต่างก็กล่าวด้วยความจริงใจ “เลิกโน้มน้าวได้แล้ว ข้าคิดจะสละราชสมบัติด้วยความจริงใจ!”จักรพรรดิเหวินส่ายพระพักตร์ ด้วยท่าทางเหม่อลอย “ความสามารถของเจ้าหก ทุกท่านต่างก็เห็นแล้ว! เจ้าหกหากยกทัพลงใต้ ทหารประจำการที่แห่งคนไม่สามารถต้านทานได้!”“ทันทีที่ราชสำนักเปิดศึกกับเจ้าหก ชนเผ่าโม่ซีและแคว้นอวี้เกรงว่าจะฉวยโอกาสปล้นตอนไฟไหม้”“ถึงเวลานั้น ต้าเฉียนเราต้องตกอยู่ในสงครามวุ่นวาย ราษฎรพลัดพรากถิ่นฐานสิ้นเนื้อประดาตัว คนอดอยากทุกหนแห่ง”“ข้าสละราชสมบัติตอนนี้ ในอนาคตยังเหลือชื่อเสียงดีงามไว้ในหน้าหนังสือประวัติศาสตร์”“หากรอจนถึงยามที่ใต้หล้าตกอยู่ในสงครามวุ่นวาย ก็คงจะมีชื่อทรราชในหนังสือประวัติศาสตร์ของคนรุ่นหลังแล้ว!”“ข้าเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อนแล้ว! พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ! เรื่องที่เหลือ พวกเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1099

    หยุนลี่ปวดหัวมากสวีสือฝู่ปวดหัวเช่นกันตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องจักรพรรดิเหวินจะสละหรือไม่สละราชสมบัติแล้ว!จักรพรรดิเหวินปิดประตูท้องพระโรงแล้ว เห็นได้ชัดว่าต้องการให้พวกเขาหารือกันหาทางออก!นำปัญหายากที่ควรจัดการหยุนเจิงเช่นไรโยนมาให้พวกเขาหากหารือกันออกมาไม่ได้ ทุกคนก็ต้องทนหิวอยู่ที่นี่!สถานการณ์ตรงหน้า ต่อสู้เป็นไปไม่ได้แน่นอนพวกเขากำลังลงดาบกับตระกูลผู้มีอำนาจและราชวงศ์เหล่านั้น เวลานี้ หากพวกเขาต้องเปิดศึกกับกองทหารมณฑลทางเหนือ ตระกูลผู้มีอำนาจและราชวงศ์เหล่านั้นก็จะกระโดดลงมาแทงเขาด้วยมีด!หากไม่สู้ ก็ต้องคิดหาวิธีปลอบขวัญกองทหารมณฑลทางเหนือวิธีที่ดีที่สุด ย่อมเป็นการผลักคนหนึ่งออกไปเป็นแพะรับบาปแต่สถานการณ์ตรงหน้า ผลักใครออกไปดี?ผลักหยุนลี่ออกไป ย่อมเป็นไปไม่ได้หรือบางที สาดน้ำโคลนสกปรกไปให้องค์ชายคนอื่น?ก็นับว่าเป็นวิธีหนึ่ง!ทั้งสามารถทำให้หยุนลี่ถอนตัวได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังสามารถขจัดภัยคุกคามจากองค์ชายคนอื่นที่มีต่อหยุนลี่แต่ตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ ไม่ว่าพวกเขาจะปรึกษากันเช่นไร สุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องให้จักรพรรดิเหวินตัดสินพระทัย!อีกทั้ง ผลักความผิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status