เฉียวซุนยังคงลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาครู่หนึ่ง ลู่เจ๋อก็คว้านิ้วเรียวยาวของเธอ ไม่ให้เธอลูบเขาอีกเขาตรึงข้อมือบางของเธอกดลงบนหมอนสีขาวนวล เตรียมจะเพลิดเพลินไปกับเธอ แต่สะดุดตรงรอยสีชมพูอ่อนหลายที่ บนข้อมือของเฉียวซุนนั่นเป็นรอยแผลตอนที่เขาบังคับเธอครั้งสุดท้ายดวงตาสีดำของลู่เจ๋อรุนแรงจากนั้นเขาก็กดเธอแน่น ไม่หยาบคายกับเธออีก ปฏิบัติต่อเธออย่างอ่อนโยน ริมฝีปากบางๆของชายหนุ่มกดจูบอย่างละเมียดละไมตรงแผลเป็นของเธอ เสียงของเขาก็แหบห้าว “เจ็บไหม?”เฉียวซุนเบนหน้าหนีอย่างไม่สบายใจคืนนั้นที่โรงแรม ลู่เจ๋อจับเธอไว้ เหมือนกับที่เขากำลังปฏิบัติต่อผู้หญิงราคาถูกเหล่านั้น... เธอไม่ผูกใจเจ็บแต่ก็ปล่อยวางไม่ได้เธอทนต่อความโหดเหี้ยมของลู่เจ๋อได้แต่เธอทนความอ่อนโยนของเขาไม่ได้ ความอ่อนโยนแบบนี้ทำให้เธอนึกถึงตอนที่เธอเคยร้องขอความรักและความเมตตาจากเขาเหมือนขอทานมุมตาของเฉียวซุนชื้นและเขินอายทันใดนั้นเธอก็จับใบหน้าอันหล่อเหลาของลู่เจ๋อ แนบริมฝีปากอันอ่อนโยนของเธอ และจูบเขาเหมือนที่เขาเคยทำเธอกอดลู่เจ๋อแน่น เธอก็เสเพลเหมือนกับผู้หญิงที่เคยชินกับความสนุกลู่เจ๋อจับหลังคอของเธอ แ
หลินเซียวเศร้าจนแทบน้ำตาไหลเธอจับมือเฉียวซุนแน่น "ทำไมเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้? เป็นวัยหมดประจำเดือนเหรอ?"เดิมบรรยากาศน่าหดหู่ แต่เฉียวซุนหัวเราะตอนหลินเซียวพูดว่า "เป็นไปได้จริงๆ!"ทั้งสองคุยกันเยอะมากหลินเซียวมองไปที่เฉียวซุน ด้วยสีหน้าคาดเดาไม่ได้ "เมื่อคืนนี้หลีรุ่ยแอทมิด! กระดูกซี่โครงหัก ลู่จิ้นเซิงพาไปส่งที่โรงพยาบาล หลีชินเฉิงทนไม่ได้ที่หลีรุ่ยคิดแบบนั้นกับคุณ พี่ชายและน้องสาวทะเลาะกันที่โรงพยาบาล ต่อมานางหลีมาจัดการทีหลัง! ฉันเดาว่า ตอนนี้ตระกูลหลีคงจะวุ่นวายแน่”เฉียวซุนก้มศีรษะลงและคนกาแฟเบา ๆเสียงของเธอต่ำ “ฉันไม่ได้ยั่วยุเขา!”หลินเซียวรู้โดยธรรมชาติว่าเธอกังวลว่าหลีรุ่ยไม่ยอมแพ้แน่ๆ พูดตรงๆ หลีรุ่ยกลัวเฉียวซุนเพราะเธอเป็นภรรยาของลู่เจ๋อ ถ้าวันหนึ่งไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไป...หลินเซียวไม่กล้าคิด!เธอไม่ได้พูดถึงคำพูดที่น่าผิดหวังพวกนี้ ทั้งสองไม่ได้เจอกันมานาน หลินเซียวตะโกนว่าเธอจะไปซื้อชุดชั้นในเซ็กซี่ บอกว่ามีนางแบบสองสามคนล้อมรอบลู่จิ้นเซิง เธอต้องดูแลตัวเองดีๆ และปกป้องลู่จิ้นเซิงด้วยเฉียวซุนรู้ว่าเธอกำลังพูดขัดกับเจตจำนงของเธอที่จริงหลินเซียวไม่ได้รักลู่จ
ลู่เจ๋อน่าจะมาจากบริษัทชุดสูทสามส่วนสไตล์อังกฤษเมื่ออยู่บนตัวเขาแล้วดูดีมาก แต่รูปร่างหน้าตาเขาเผยให้เห็นเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของชายที่ประสบความสำเร็จสาวๆหลายคนแอบมองเขาอยู่ลู่เจ๋อเคยชินกับรูปลักษณ์ที่น่าชื่นชมเหล่านี้ เขาเดินตรงไปหาเฉียวซุน เงยหน้าขึ้นมองโปสเตอร์หนังขนาดใหญ่ "อยากดูเรื่องนี้ไหม?"เฉียวซุนบีบตั๋วหนังในมืออย่างเงียบๆเธอยิ้มและปฏิเสธ "แค่อยากซื้อโค้ก!"ดวงตาสีเข้มของลู่เจ๋อดูอ่อนโยนเขามองเธอเงียบๆ แล้วซื้อเครื่องดื่มให้เธอเอง เมื่อจ่ายเงิน เขาพูดอย่างตามใจว่า "เมื่อก่อนเหมือนคุณไม่ชอบดื่มสิ่งนี้"เฉียวซุนยิ้มเบาๆ “คนเรามันเปลี่ยนกันได้!”ลู่เจ๋อยื่นโค้กให้เธอแล้วยิ้ม “ไปดูหนังด้วยกันไหม?”นี่เป็นครั้งแรก ที่ลู่เจ๋อชวนออกเดท หากเฉียวซุนเคยไปที่นั่นมาก่อน เขาคงหลั่งน้ำตาด้วยความขอบคุณ และมีความสุขมากจนนอนไม่หลับเป็นเวลาสามวันสามคืนแต่ตอนนี้เธอขี้เกียจเกินกว่าจะจัดการกับมันแต่เธอก็รู้ด้วยว่า สามีของเธอกำจัดตัวยาก การปฏิเสธเขาต่อหน้าเป็นทางเลือกที่ไม่ฉลาดเฉียวซุนไม่ได้พูดอะไรเธอยื่นถุงในมือให้เขา บอกว่าจะไปซื้อตั๋ว แต่ลู่เจ๋อไม่ได้รับให้ดี... ดังนั้นถ
ลู่เจ๋อบีบคางเธอเบา ๆเขาไม่ได้คิดอะไรกับไป๋เซียวเซียว ไม่ว่ายังไง เขาแค่อยากช่วยเธอรักษาเพียงเพราะเรื่องในอดีต แล้วค่อยส่งเธอให้กับอาจารย์เว่ย......หลังจากนั้นทั้งสองก็จะได้ไม่มีหนี้ค้างต่อกันอีกแต่เขาไม่อยากอธิบายเรื่องพวกนี้กับคุณนายลู่แต่งงานกันมา 3 ปี เขาจะไม่รู้ความคิดของเฉียวซุนได้ยังไง?ตอนนี้เธอไม่สนใจเขาแล้ว!ไม่อย่างงั้นเธอจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ได้ไปดูหนังกับเขาทำไม.......ตอนนี้เฉียวซุนเกลียดเขาถึงขนาดที่ว่าหนังก็ไม่อยากไปดูกับเขาสิ่งดี ๆ ที่เธอมีให้เขาเมื่อก่อน ถูกหมาคาบไปกินแล้ว!......เพราะว่าอารมณ์ไม่ดี ลู่เจ๋อก็เลยจู้จี้จุกจิกเมื่อกลับบ้านมาโดยปกติเขายังคงใจกว้างกับคนรับใช้แต่ขณะรับประทานอาหารเย็นวันนี้ เขากลับพูดว่าอาหารไม่อร่อย......ทำให้คนรับใช้ตกใจแต่ก็ไม่สามารถเอ่ยอะไรได้เฉียวซุนรู้ดีว่าเขากำลังโกรธ เธอไม่อยากให้คนใช้ลำบากใจจึงพูดกับลู่เจ๋อว่า “ถ้าคุณไม่ชอบอาหารวันนี้ งั้นเดี๋ยวฉันไปทำให้ใหม่”ลู่เจ๋อไม่ได้ตอบกลับเขาพิงไปบนเก้าอี้ หยิบบุหรี่ขึ้นมา จากนั้นจึงพูดว่า “ก็ได้!”เฉียวซุนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องแล้วจึงลงมาทำอาหารคนรับใช้รู้สึกเก
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ห้องแต่งตัวในห้องนอนใหญ่เฉียวซุนกำลังรีดเสื้อผ้าให้ลู่เจ๋อและเลือกเนกไทที่ดีที่สุด เธอรู้ว่าวันนี้มีประชุมผู้ถือหุ้นที่เฉียวซื่อกรุ๊ป เธอตั้งใจเลือกเข็มกลัดเข้าชุดเพื่อความเหมาะสมทันใดนั้นกายบางก็ถูกกอดจากด้านหลังเฉียวซุนตกใจเล็กน้อย เพราะเมื่อวานเราทั้งคู่เมินเฉยต่อกัน เธอคิดว่าเขาคงเย็นชากับเธอไปสักพักลู่เจ๋อไม่ได้พูดถึงเรื่องตั๋วหนังอีกเขากอดเอวเรียวบางของภรรยาไว้แน่น หยิบเข็มกลัดขึ้นมาไว้ในมือ ใช้น้ำเสียงอบอุ่น “เมื่อก่อนที่คุณไม่อยู่ ทำอะไรก็ไม่สะดวกเลย!”เฉียวซุนยิ้มเบา ๆ “ฉันกลับมาแล้วนี่ไง”เธอพูดจบก็ถูกลู่เจ๋อจับให้หันกลับหลังมาเขาดันเธอไปติดกับตู้กระจก ยกเธอขึ้นเบา ๆ เฉียวซุนนั่งอยู่บนขาซ้ายของเขาครึ่งหนึ่ง......ชุดคลุมอาบน้ำถูกร่นขึ้น สามีของเธอกำลังเล่นกับร่างกายเธอเช้าขนาดนี้ ลู่เจ๋อช่างหน้าไม่อายจริง ๆลู่เจ๋อไม่ได้อยากทำจริง ๆ หรอก เขาใช้ประโยชน์จากการที่ถูกเธอเมินเฉยถาม “คนกลับมาแล้ว แล้วใจล่ะ?”เฉียวซุนคิดว่าเขากินยาผิดรึเปล่าความสัมพันธ์จืดชืดแบบนี้ จะถามหารักจากไหน?แต่เธอไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ ท้ายที่สุดเธอจะแบกรับความเห
ความคิดของเสิ่นชิงอาจจะโบราณหน่อยเธอพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดเสียงเบา “เสี่ยวซุน มีลูกเถอะ! จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอยู่แบบนี้”เฉียวซุนรู้ว่าเธอหวังดี กลัวว่าเธอจะถูกลู่เจ๋อเมินเฉย เฉียวซุนก็เคยหวังอยากมีลูกกับลู่เจ๋อเช่นกัน แต่ครั้งนี้ที่กลับไปหาเขา เธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นอีกแล้วเฉียวซุนยิ้มเล็กน้อย “อีก 2 ปี ค่อยว่ากันนะคะ!”เสิ่นชิงถอนหายใจเบา ๆ มองดูเฉียวซุนเดินออกไปหลังจากที่เฉียวซุนออกไปจากห้องผู้ป่วยแล้ว เธอก็เดินไปซื้อยาคุมกำเนิด ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า เดี๋ยวนี้เวลามีอะไรกับลู่เจ๋อ เขาเหมือนไม่ค่อยอยากใช้ถุงยาง บางครั้งฉีกซองแล้วก็ไม่อยากใช้ ไม่ยอมใช้มันกับเธอเธอไม่อยากท้องและเธอก็ต้องทานยาคุมเองหลังจากรับยาเสร็จ เมื่อออกไปเธอกลับไปเจอกลุ่มคนที่ไม่อยากเจอ......แม่ลูกตระกูลไป๋แม้ว่าภูมิหลังจะไม่ดีแต่เพราะว่าพวกเขารู้จักกับลู่เจ๋อ บุคลากรในโรงพยาบาลล้วนให้ความเคารพพวกเขา ดังนั้นไป๋เซียวเซียวและแม่ของเธอจึงทั้งทะนงตัวและหยิ่งผยองเมื่อเห็นเฉียวซุน คุณนายไป๋ก็เริ่มมีความขุ่นเคืองครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาล ลู่เจ๋อหลอกลูกสาวของเธออย่างชัดเจน เธอดีอกดีใจว่าลู
ต่างคนต่างเงียบอยู่ในลิฟต์ในที่สุดลู่เจ๋อก็เป็นคนเริ่มพูดขึ้นก่อน “ทำไมคุณถึงมารับยาเอง แถมยังเป็นยาคุมที่พัฒนาโดยบริษัทลู่......”เฉียวซุนหัวเราะ “ยาคุมที่ไหนก็เหมือนกัน”เธอมองเขาแล้วถามอย่างใจเย็น “ตามมาทำไม? คุณไม่ต้องไปดูแลคนรักของคุณเหรอ? ......ไป๋เซียวเซียวดูเหมือนต้องการคุณมากเลยนี่!”ดวงตาของลู่เจ๋อจ้องมองลึกเขาจ้องมองลอบสังเกตสีหน้าของเธอเป็นเวลานานที่เขาจัดเนกไทอยู่หน้ากระจก จากนั้นก็ปรับตำแหน่งเข็มกลัด เขาสบตาเธอแล้วถามเธออย่างใจร้อน “แล้วคุณล่ะคุณนายลู่ ไม่อยากให้ผมอยู่ด้วยเหรอ?”เฉียวซุนไม่ได้หลบสายตาเขาเธอมองนัยน์ตาเขา เอ่ยตอบอย่างเย็นชา “ฉันได้ชื่อว่าเป็นคุณนายลู่ก็พอแล้วล่ะ!”......พวกเขาแยกจากกันโดยยังรู้สึกขุ่นเคืองใจขณะที่ลู่เจ๋อกำลังขึ้นลิฟต์ เขามองตนเองในกระจก อดไม่ได้ที่จะดึงเข็มกลัดและเนกไทที่ตนชอบ......แถมยังไม่ระวังจนโดนเข็มกลัดทิ่มตอนนี้ในใจของเขามันแย่กว่าเดิมอีก!เลขาฉินเห็นใบหน้าไร้ชีวิตชีวาของเขา เดาได้ว่าต้องถูกเฉียวซุนปฏิเสธมาแน่ ๆ ทำให้เธอไม่กล้าแหย่เขา!จริง ๆ แล้วไป๋เซียวเซียวก็ดูเป็นคนฉลาดมีเพียงคุณนายไป๋ที่แสร้งทำเป็นฉลาด เมื่
“นวดขมับให้หน่อยสิ”ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆเฉียวซุนวางหนังสือลง จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้โกรธอะไรเขา เธอโน้มตัวลงไปนวดให้เขา เมื่อก่อนเธอเคยตั้งใจเรียนมันมาเพราะเห็นว่าเขาทำงานหนักแต่ทันทีที่สัมผัส คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย “ลู่เจ๋อ คุณไม่สบาย!”ลู่เจ๋อลืมตาขึ้นเพราะว่าป่วย ดวงตาของเขาจึงดูไม่สดใส......จู่ ๆ เขาก็ลูบเอวเธอช้า ๆ เหมือนอยากทำเรื่องอย่างว่ากับเธอเฉียวซุนจับมือเขาเอาไว้ไม่ให้ขยับลู่เจ๋อไม่ได้ป่วยง่าย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ป่วยจะอารมณ์ไม่ค่อยดี เมื่อก่อนเฉียวซุนยอมเขาตลอด......ไม่เพียงคอยดูแลเขา แถมยังให้เขาทำทุกอย่างที่ต้องการด้วยลู่เจ๋อกำลังไม่สบาย อีกทั้งยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทำให้เขาไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม ดวงตาสีดำจ้องมองเฉียวซุน “เป็นอะไร? ไม่อยากให้ผมทำเหรอ?”เฉียวซุนย้ายขึ้นมานั่งบนตักเขาเธอเอื้อมมือไปหยิบกล่องยา และวัดไข้ให้เขาทั้งแบบนั้นเขาไข้สูงถึง 39 องศา!เธอไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับคนป่วย “เดี๋ยวฉันไปเอายาและซุปร้อนมาให้นะ......ลู่เจ๋อ ตอนนี้ร่างกายของคุณไม่พร้อมจะทำเรื่องนั้นหรอก”ลู่เจ๋อกลับไม่หยุด เขายั่วยวนเธอไปด้วย มองดูเธอไปด้วยสายตา