แชร์

บทที่ 372

ผู้แต่ง: เฟเธอร์ในลมอ่อน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ทำไมเขาถึงไม่มองไม่ออกเลยว่าในใจของเฉียวซุนยังคงรู้สึกต่อเขาอยู่ ก็แค่ส่วนใหญ่เธอเกลียดเขามากกว่าก็เท่านั้น ก็แค่เธอไม่อยากยอมรับก็เท่านั้น......

ถ้าเธอไม่รักเขาจริง ๆ เธอก็คงจะปล่อยให้เขาทำแบบนี้กับเธอหรอก

แต่แค่สิ่งเหล่านี้

เป็นเพียงสิ่งที่สามารถรับรู้ได้โดยที่ไม่ต้องพูดก็เท่านั้น!

......

พอกลับมานอนบนเตียงอีกครั้ง เฉียวซุนก็ยังคงนอนอยู่ข้าง ๆ เจ้าหนูลู่เหยียน

นานมากแล้วที่เธอไม่ได้นอนดี ๆ สักที

เธอรู้ด้วยว่าคืนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ค่อยเต็มใจที่จะยอมรับมันเท่าไหร่......ลู่เจ๋อไม่ได้พูดถึงมัน และเธอเองก็จะไม่ได้พูดออกมาเช่นกัน เธอคิดเอาไว้แล้วว่า ยังไงเธอก็จะจากไปอยู่ดี

เธอไม่ใช่สาวน้อยที่เธอเคยเป็นตั้งนานแล้ว

ระหว่างเธอกับลู่เจ๋อ มีทั้งความสุขและความเศร้ามากมายขั้นกลางเอาไว้อยู่ แค่ความสุขทางกายไม่กี่ครั้ง จะทำให้ทั้งคู่กลับมาคบกันได้ยังไง......

มือของเธอถูกจับเอาไว้......

เป็นลู่เจ๋อ

ภายใต้ความมืด เขาถามเธอด้วยเสียงที่แหบแห้ง “คุณกำลังคิดอะไรอยู่? ”

เฉียวซุนส่ายหัวเบา ๆ “ฉันไม่ได้คิดอะไร! นี่ก็ดึกมากแล้ว......คุณนอนเถอะ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 373

    เขาหันไปด้านข้าง แล้วมองไปที่ลู่เจ๋อ “ประธานลู่ครับ เป็นคุณผู้ชาย......คุณอยากจะพบเขาไหมครับ?”ใบหน้าของลู่เจ๋อไร้ความรู้สึก “นายหมายถึงลู่เหวินหลี่เหรอ? ”คนขับไม่กล้าพูดอะไรลู่เจ๋อลดหน้าต่างลง แล้วมองไปยังด้านข้างของรถ......จากนั้นเขาก็เห็นลู่เหวินหลี่ชายคนนั้นอายุมากกว่าที่เขาจำได้เล็กน้อย เขาจำได้ว่าตอนที่เขาจากไปในปีนั้น เขายังอายุไม่ถึง 40 ปี ซึ่งเป็นอายุที่ลงตัวที่สุดสำหรับผู้ชายมีแค่กระจกรถที่กั้นระหว่างพ่อลูกเท่านั้น แต่กลับเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันลู่เหวินหลี่มองไปที่ลูกชายของตัวเองเช้าวันนี้ ลู่เจ๋อจะต้องไปประชุมผู้ถือหุ้น เขาสวมชุดสูททำมือสุดหรูสไตล์อังกฤษ มีใบหน้าที่หล่อเหลา บนตัวของเขาได้สลัดทิ้งคราบของเด็กชายเมื่อตอนยังเป็นเด็กไปจนหมด สายตาของเขาเย็นชาอย่างมาก ราวกับกำลังมีคนแปลกหน้ามองมาที่ตัวเองอยู่มือของลู่เหวินหลี่เริ่มสั่นเขาอยากที่จะเรียกชื่อลู่เจ๋อ แต่ลู่เจ๋อกลับไม่เปิดโอกาสให้เขาเลย ลู่เจ๋อมองเขาอย่างเย็นชา แต่เสียงของเขาก็เย็นชายิ่งกว่า “ในเมื่อคุณเลือกที่จะจากไปแล้ว ทำไมคุณถึงยังกลับมาอยู่อีก? เป็นเพราะแก่แล้ว......เลยอยากได้คนเลี้ยงดูยามแก่

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 374

    แต่ตรงหัวของก้านทดสอบ มีเส้นสีแดงแค่ขีดเดียวเฉียวซุนตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ นั่งลงตรงขอบของชักโครก เธอรู้สึกรับไม่ได้......แต่เธอก็ยังคงต้องยอมรับความจริงข้อนี้อยู่ดีเธอยังไม่ท้อง!ซึ่งหมายความว่า เธอกับลู่เจ๋อเหลือเวลาอีกแค่สองเดือนเท่านั้น และสองเดือนต่อจากนี้เธอจะต้องมีลูกให้ได้เฉียวซุนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากเธออยู่ในห้องน้ำอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะออกไปลู่เจ๋อที่กำลังเล่นกับเจ้าหนูลู่เหยียน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ใบหน้าของเฉียวซุน เฝ้ารอฟังผลอยู่ทุกวินาที แต่เพราะตอนนี้เขาเองก็กลายเป็นพ่อคนแล้ว เลยมีบางคำที่ไม่เหมาะที่จะพูดต่อหน้าเด็กหลังจากที่เจ้าหนูลู่เหยียนหลับไปแล้ว ลู่เจ๋อก็ไปอาบน้ำ ตอนที่เขาเดินออกมา เฉียวซุนก็นั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งหวีผมยาวของเธออยู่ภายใต้แสงสีเหลืองสลัว ๆร่างกายของเธอผอมบาง และเธอดูไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งคลอดเลยหลู่เจ๋อเดินเข้าไป โน้มตัวลงบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วถามเธอเบา ๆ “คุณทดสอบดูแล้วเหรอ? ไม่ท้องใช่ไหม? ”เฉียวซุนพยักหน้า “อืม ฉันยังไม่ท้อง! ”เธอยังคงหวีผมยา

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 375

    ลู่เจ๋อบีบคางของเธอ แล้วป้อนลิ้นตัวเองเข้าไป ลูกกระเดือกก็ขยับ แล้วเสียงของเขาก็แหบแห้งและเซ็กซี่ “ที่นี่คือลานจอดรถใต้ดิน ที่นี่ก็เป็นเหมือนถนนรถแล่นส่วนตัวของผม ไม่มีใครผ่านมาทางนี้อยู่แล้ว...... แต่ถ้าคุณไม่ชอบ พวกเราก็ไปที่บริษัท ไม่ก็โรงแรม”เขาพูดออกมาอย่างง่ายดาย แต่ร่างกายของเขากลับแสดงออกมาในท่าทีที่สวนทางกับคำพูดเขาแทบจะทนรอไม่ไหว!กระทั่งเขาจับมือเธอเพื่อมาปลดเข็มขัดให้ตัวเอง ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อลูก แต่เพื่อความต้องการของพวกเขาเอง เป็นสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความปรารถนาทางร่างกายเหมือนกัน......เขาพูดข้างหูเธอว่า เขาคิดถึงเธอบ่อยมาก คิดถึงจนร่างกายของเขาเจ็บปวดแทบทนไม่ไหวเขาบอกว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขามักจะคิดถึงเธอในทุก ๆ คืน......คำพูดหลัง ๆ ของเขาฟังดูไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่ผู้ชายพูดเรื่องพวกนี้ออกมา ก็เหมือนเป็นการพูดเล้าโลม พูดออกมาตั้งหลายครั้งแล้วแท้ ๆ เขากลับรู้สึกว่าครั้งนี้เธอตอบสนองได้เร็วมาก ๆ“ลู่เจ๋อ...... ”เฉียวซุนกัดไหล่ของเขาผ่านเสื้อ ไม่ยอมให้เขาพูดอะไรอีก......เธอแต่งหน้าเบา ๆช่วงนี้เธอค่อนข้างชอบสีโทนร้อน สีส้มอิฐนั้นแอบแต้มไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 376

    แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี แม้ว่าเรื่องพวกนั้นจะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม แต่เธอจะลืมลูกที่เธอเคยตั้งท้องด้วยคนนั้นได้อย่างไร และเธอจะลืมได้อย่างไรว่าเคยสูญเสียเด็กคนนั้นไปอย่างน่าสังเวชแค่ไหน......น่าขันสิ้นดี ตอนนี้ลู่จิ้นเซิงและหนิงหลินกลับมีลูกด้วยกัน!เธอปล่อยวางไม่ได้......เฉียวซุนเองก็เห็นคู่รักอยู่ที่ประตูเช่นกัน เธอจับมือหลินเซียวอย่างอ่อนโยน และคอยปลอบโยนเธออย่างเงียบ ๆหนิงหลินเดินเข้ามา......บางทีช่วงนี้ลู่จิ้นเซิงอาจจะปฏิบัติกับเธอดีไม่น้อย ถึงได้ทำให้โรคประสาทแดกของเธอกำเริบกลับมาอีกแล้วหนิงหลินมองไปที่หลินเซียว เธอยังคงรังเกียจที่ในใจของสามีเธอยังคงมีผู้หญิงคนนี้อยู่ ดังนั้นเธอจึงพูดประชดออกไปว่า “ช่างบังเอิญจริง ๆ นะคะ คุณหลิน พวกเราพบกันอีกแล้ว! ”หลินเซียวจ้องไปที่เธอ เกลียดจนแทบจะแล่เนื้อเถือหนังของเธอออกมาเฉียวซุนนิ่งสงบกว่าเธอ เธอมองไปที่หนิงหลิน แล้วหัวเราะด้วยสีหน้าที่ดูราบเรียบ “การพบกันโดยบังเอิญก็ยังดีกว่าการเชิญมาไม่ใช่เหรอคะ! ดูท่าช่วงนี้คุณนายลู่จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขสักทีนะคะ”สีหน้าของหนิงหลินแข็งทื่อก่อนหน้านี้เธอทะเลาะกับจิ้นเซิงอย่างดุเดือด

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 377

    เขาหันหลังกลับและเดินจากไปหนิงหลินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงไล่ตามออกไป “ลู่จิ้นเซิง! ”เธอหาเขาพบตรงทางเดินหนีไฟลู่จิ้นเซิงยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงสุดทางเดิน พอเธอเดินไปหาเขา เธอก็เห็นว่าดวงตาของเขาแดงก่ำไปหมด......หนิงหลินตัวสั่นด้วยความโกรธ “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว คุณเลยเศร้าอย่างงั้นเหรอ? ลู่จิ้นเซิง พวกคุณแยกทางกันมาก็ตั้งหลายปีแล้วนะ ยังจะอาลัยอาวรณ์อะไรกันนักกันหนา? เธอทำเสน่ห์อะไรใส่คุณถึงได้ทำให้คุณลืมเธอไม่ลงอยู่แบบนี้กัน หรือว่าเธอเก่งเรื่องบนเตียงมากอย่างนั้นเลยรึไง? ”แรงตบเหวี่ยงเข้าไปที่หน้าของเธอ!หนิงหลินมองดูเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พ่นคำพูดออกมาราวกับคนบ้า “นี่คุณตีฉันเพราะเธอเหรอ? ลู่จิ้นเซิง ฉันท้องอยู่นะ! ”“เมล็ดพืชในท้องของเธอ ไม่ใช่เมล็ดพันธุ์ของฉัน! ”เสียงของลู่จิ้นเซิงเย็นชาขึ้นมาทันทีหนิงหลินตกตะลึง เธอพูดพึมพำออกมา “คุณบ้าไปแล้วเหรอ? ลู่จิ้นเซิง นี่คุณกำลังพูดบ้าอะไรออกมา? ”ลู่จิ้นเซิงหลับตาลงเขามองบุหรี่ที่อยู่ระหว่างนิ้วเรียวยาวของเขา แล้วหัวเราะออกมาด้วยสีหน้าที่ดูราบเรียบ “ฉันทำหมันไปตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว! เพร

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 378

    อันที่จริงแล้ว เฉียวซุนจำลู่เหวินหลี่ได้ตอนที่เธอยังเด็ก ตระกูลเฉียวกับตระกูลลู่มักจะไปมาหาสู่กันอยู่บ่อย ๆ และเธอก็มักจะไปเยี่ยมตระกูลลู่กับพ่อแม่อยู่บ้างเป็นครั้งคราว ในความประทับใจของเธอ ลู่เหวินหลี่เป็นคนที่มีความอ่อนโยนมาโดยตลอดย้อนกลับไปในปีนั้น หากเขาไม่จากไป ลู่เจ๋อก็คงจะสุภาพกว่านี้ลู่เหวินหลี่เริ่มเปิดปากพูดก่อนตอนที่เขาพูด มันดูมีชีวิตชีวาเหมือนกับในความทรงจำไม่มีผิด “เสี่ยวซุน ฉันขอคุยกับหนูหน่อยได้ไหม? ”เฉียวซุนเปิดประตู แล้วลงจากรถ......ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่คุ้นเคยกันมากนัก แต่พวกเขาต่างก็เป็นเครือญาติเดียวกันแล้วลู่เหวินหลี่ไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้น เขาแค่ถามเกี่ยวกับลู่เจ๋อกับเจ้าหนูลู่เหยียน แล้วยังถามถึงคุณย่าอีกด้วยเฉียวซุนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างขมขื่น “คุณย่ารอคุณมาตลอดชีวิต เธอเอาแต่เรียกหาเหวินหลี่จนวินาทีสุดท้าย ต่อมาเธอคิดว่าลู่เจ๋อคือคุณ เธอถึงได้ยอมจากไปอย่างสงบ! หากคุณพอมีเวลา ก็ไปจุดธูปให้คุณย่าหน่อยเถอะค่ะ ชีวิตนี้ของเธอยากลำบากมาก”ลู่เหวินหลี่พยักหน้า “ได้ มันคงถึงเวลาที่จะต้องไปจุดธูปแล้ว! ”ในปีนั้น

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 379

    เธอหยิบเอกสารกลับมาเพื่ออ่านต่อ น้ำเสียงของเธอดูแผ่วเบา “นี่ไม่ใช่งานของพวกเขา ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเพิ่มภาระให้พวกเขาด้วย......พอผ่านไปนานวันเข้า เดี๋ยวก็จะมีการร้องเรียนเข้ามาอีก แล้วอีกอย่างนะ ลู่เจ๋อ คุณไม่ใช่คนที่ไม่เคยแยกแยะระหว่างเรื่องส่วนรวมกับเรื่องส่วนตัวมาก่อน”ท่าทางของเธอดูสงบนิ่งพอลู่เจ๋อมองก็รู้สึกใจเต้น หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ยิ้มแล้วถามกลับว่า “แล้วเมื่อก่อนผมเป็นคนแบบบไหนเหรอ? ”เฉียวซุนวางเอกสารลง “เมื่อก่อนคุณมันไม่ใช่คน! ”ลู่เจ๋อตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ก้มศีรษะลงเพื่อจูบเธอ แม้ว่าจะเป็นการจูบอย่างอ่อนโยน แต่เฉียวซุนก็ยังคงหยุดเขาเอาไว้ “เหยียนเหยียนเองก็ยังอยู่ด้วยนะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ทำต่อ แววตาของเขาค่อนข้างลึกซึ้ง “เธอกำลังตั้งใจเล่นมาก ผมจะไม่ทำให้เธอเห็นหรอก”เฉียวซุนไม่ได้สนใจเขาเธอยังคงอยู่ในท่าเดิม และอ่านเอกสารของเธอต่อไปลู่เจ๋อชอบบรรยากาศแบบนี้มาก เขาพยายามหาเรื่องมาชวนเธอคุย “เมื่อกี้ป้าเสิ่นเพิ่งทำเกี๊ยวให้ผมด้วย”เฉียวซุนก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นแต่อย่างใดภายใต้โคมไฟ ใบหน้าของเธอดูสว่างสดใส และน้ำเสียงของเธอก็ฟังดูราบเรียบ “เป็นเพราะตอ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 380

    พอได้กลับมากอดกันอีกครั้ง สิ่งต่าง ๆ รวมถึงคนเองก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว“พี่คะ! ”เฉียวซุนกอดเขาแน่น พลางส่งเสียงสะอื้นออกมา “ทำไมพี่ถึงออกมาได้ก่อนกำหนดล่ะคะ? ”ทางด้านของเสิ่นชิงเองก็ยืนปาดน้ำตา “วันเกิดของหนู ฉันก็เลยกลับมาเร็วหน่อย”ในใจของเฉียวซุนรู้ดี หากไม่ใช่เพราะลู่เจ๋อ เธอจะกลับมาก่อนได้อย่างไร เขาแค่ให้จะทำให้เธอประหลาดใจ......ดังนั้นเขาเลยออกจากสวนฉินแต่เช้าเธอไม่ได้พูดถึงลู่เจ๋อ เฉียวสือเยี่ยนเองก็เช่นกันเสิ่นชิงตั้งใจจุดไฟใส่เตาให้ในอดีต เฉียวสือเยี่ยนไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่เพื่อความสบายใจของเสิ่นชิง เขาเลยยอมเดินข้ามให้......หลังจากเดินข้ามแล้ว เสิ่นชิงก็จับมือของเขาเอาไว้ อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา “ในที่สุดก็ได้กลับมาแล้วนะ ในที่สุดป้าก็สามารถให้คำอธิบายแก่พ่อของเธอได้แล้ว! ”เฉียวสือเยี่ยนกอดเธอเพื่อปลอบใจ......หลังจากนั้นไม่นาน เสิ่นชิงก็รู้สึกตัว เธอปาดน้ำตาแล้วพูดว่า “ไปพบพ่อของเธอก่อนเถอะ! เขาคงคิดถึงเธอมากแน่ ๆ”ในใจของเฉียวสือเยี่ยนก็รู้สึกเปียกชื้นขึ้นมาในเวลานี้ เจ้าหนูลู่เหยียนก็วิ่งเข้ามา แล้วเรียกเขาว่าคุณลุงทันทีเฉียวสือเยี่ยนก้มลง และอ

บทล่าสุด

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 445

    ใบหน้าของเมิ่งเยียนซีดลงเธอก้มศีรษะลง นิ้วเรียวเล็กสีขาวของเขาแตะท้องตัวเองเบา ๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในนี้จะมีเด็กแล้วจริง ๆ แต่สามีของเธอกลับถามเธอ......ถามเธอว่าใครคือพ่อของเด็กนอกจากเขาแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้อีกกัน?ลูกของเหอโม่รึไง?ในอดีต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าเมิ่งเยียนจะเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเขาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นรูปถ่ายของเขาที่จูบกับผู้หญิงคนอื่น เธอรู้ดี......เขาไม่ได้รักเธอเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอเคยแอบตรวจสอบมาบ้างแล้วเหมือนกันเลขาของพี่ชายพยายามบอกเธออย่างคลุมเครือว่าอย่ายั่วยุเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร บอกว่าเขากับพี่ชายไม่ลงรอยกัน แต่เธอไม่ใช่แค่ยั่วยุเขา เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเธอถึงขั้นแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำเมิ่งเยียนไม่ได้อธิบายอะไรเธองอเรือนร่างเพรียวบางของเธอ และโค้งเอวลงเล็กน้อย ราวกับพยายามปกป้องทารกตัวน้อยในครรภ์ของเธอ เธอบ่นพึมพำกับเฉียวสือเยี่ยนว่า “คุณยังต้องการเด็กคนนี้อยู่ไหม? ”เป็นคำถามที่ยากจะให้คำตอบ......หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวสือเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา จึงทำให้เมิ่งเยียนเข้าใจได้ในท

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 444

    เมิ่งเยียนขดตัวอยู่ตรงมุมมุมหนึ่งหากเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอถึงขั้นกล้ามองมองตาเขา แล้วถามกลับ “คุณไม่รักฉัน! คุณมาขอฉันแต่งงานทำไม? ”อันที่จริงคำตอบนั้นง่ายมากหากต้องการแก้แค้น บางครั้งก็ควรที่จะบอกเรื่องจริงกับเธอ จากนั้นก็รอดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอแต่เฉียวสือเยี่ยนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น กลับกัน ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่า เขาใช้แรงที่มีดูดบุหรี่ที่เหลืออยู่จนหมดในคราวเดียว จากนั้นก็ดับบุหรี่ลง......ต่อมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านพักที่เปรียบเสมือนคุกหลังนั้น หลังจากที่เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในบ้านพัก...... เมิ่งเยียนตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอจึงปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแต่เฉียวสือเยี่ยนเป็นคนใจแข็งเขาอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเธอไปที่ห้องนอนหลักบนชั้นสอง เขาโยนเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วเริ่มลงโทษเธอ เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกบฏในใจเธอเขากดศักดิ์ศรีของเธอลงจนจมดินร่างกายของเธอเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 443

    ร้านอาหารสุดหรู แจกันฝรั่งเศสสีน้ำเงิน เชิงเทียนเงินสเตอร์ลิงเมิ่งเยียนจ้องมองดูหนังสือพิมพ์อยู่นานมากทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา เป็นคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา [สวัสดีนักเรียนเมิ่ง! ผมชื่อว่าเหอโม่ ผมอยากรู้จักคุณ ได้ไหม? ] ประโยคประโยคนั้น เมิ่งเยียนจ้องมองอยู่พักใหญ่จู่ ๆ เธอก็อยากรู้ว่าการที่ได้รับความรักที่แท้จริงมันรู้สึกยังไง จากนั้นเธอก็หน้ามืดตามัวตอบออกไปว่า [ตกลง]......สามวันต่อมา คนรับใช้ในคฤหาสน์ก็โทรหาเฉียวสือเยี่ยน บอกว่าหลังจากที่คุณนายเลิกเรียน ก็มักจะขึ้นรถบัสกลับบ้านเสมอคำพูดของคนรับใช้เหมือนมีนัยบางอย่างอยู่ด้วย “คุณนายอารมณ์ดีมากเลยค่ะ”เฉียวสือเยี่ยนพูดอย่างใจเย็น “รู้แล้ว! ”หลังจากที่เขาวางสายโทรศัพท์ เขาก็โน้มตัวไปกดโฟนอินภายในทันที “เลขาจิน มานี่หน่อย”สักพัก เลขาจินคนสวยก็เดินเข้ามา “ประธานเฉียวคะ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ? ”เฉียวสือเยี่ยนเอนหลังพิงเก้าอี้ เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีดำที่หวีเรียบร้อย แล้วมองขึ้นไปที่แสงไฟด้านบน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปตรวจสอบตารางเรียนวันนี้ของคุณนายที”เลขาจินยิ้ม “ได้ค่ะ ประธานเฉียว”เธอจัดการไ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 442

    เขามองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเธอยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอไม่สามารถเก็บซ่อนหรือควบคุมอะไรได้......แค่ครั้งเดียวเขาก็แทบจะครอบครองทุกอย่างที่มีในตัวเธอ แต่เฉียวสือเยี่ยนกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเรื่องพวกนี้มากที่สุด แค่นี้มันจะไปพอได้ยังไง?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย!หลังจากที่ทำกับเธอไปจนถึงตอนสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ยุ่งเหยิงไปหมด เมิ่งเยียนก็เหนื่อยหอบจนหมดสติไป......เฉียวสือเยี่ยนก้มศีรษะลง และจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาเธอช่างน่าสังเวชจริง ๆสักพัก เขาก็เช็ดเธอด้วยเสื้อเชิ้ตของเขา จากนั้นก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอนชั้นสอง แน่นอนว่าเขาจะไม่ช่วยเธออาบน้ำ แล้วก็ไม่มีความรักระหว่างสามีภรรยาอะไรแบบนั้นด้วยเช่นกันเขาห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายหลังจากที่ได้ระบายออกไป เขาก็ไม่ได้มีความคะนึงหาอยู่เลยแม้แต่น้อยพอเมิ่งเยียนตื่นขึ้นมา เฉียวสือเยี่ยนก็แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก......เธอลุกขึ้นจากเตียงทันที และถามเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปอีกแล้วเหรอ? ”เฉียวสือเยี่ยนบีบแก้มเธอเบา ๆ ด้

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 441

    หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวซุนก็พูดขึ้นว่า “พี่คะ นี่พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”เธอไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเฉียวสือเยี่ยนเองก็ตกตะลึงเช่นกันในเวลานี้ เขาพักอยู่ที่คฤหาสน์สุดหรูในเมืองเซียง คฤหาสน์ทั้งหลังตกแต่งด้วยงาช้างและของตกแต่งที่ทำมาจากทองคำ แลดูฟุ่มเฟือยเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นบ้านสีทองที่เฉียวสือเยี่ยนมีไว้เพื่อเก็บซ่อนของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้เมิ่งเยียน น้องสาวของเมิ่งเยียนหุยในตอนที่เมิ่งเยียนอายุได้ 20 ปี เธอก็ได้กลายเป็นคุณนายไปแล้ว หลังจากแต่งงาน เธอก็ถูกเฉียวสือเยี่ยนจัดแจงให้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ทุก ๆ วันเธอจะนั่งรถสุดหรูส่วนตัวไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ พอเลิกเรียน เธอก็จะละทิ้งการเข้าสังคมทั้งหมด และกลับมาที่บ้านพักแห่งนี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งปี ข้างกายเธอก็ไม่มีเพื่อนเหลืออยู่อีกเลย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกตัดแขนขาออก และกลายเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาเท่านั้นเขาแทบไม่อยากจะให้เธอเรียนรู้อะไรเลยเขายิ่งไม่ต้องการให้เธอทำงานบ้าน และไม่ต้องการให้เธอเรียนรู้อะไรจากคุณนายคั่วเลยด้วยซ้ำ เขาแค่อยากเป็นคนเลี้ยงดูเธอ เธอต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้กลายเป็นคนที่นอกจากเ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 440

    เฉียวซุนเต็มใจที่จะให้อภัย แต่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้......ในช่วงกลางดึก ลู่เจ๋อลงมายังชั้นล่างจางหยวนยังคงอยู่ที่นั่นเธอเพิ่งทำสิ่งที่น่าละอาย และด้วยความรู้สึกผิด ทันทีที่เธอเห็นลู่เจ๋อกำลังลงมา เธอก็เริ่มพูดใส่ร้ายทันที “ประธานลู่คะ คุณเฉียวล้ำเส้นเกินไปแล้วนะคะ เรื่องในคฤหาสน์เดิมทีเธอไม่ควรเข้ามายุ่งเลยด้วยซ้ำ”“ไม่งั้นจะให้ใครจัดการ? ”เสียงของลู่เจ๋อดูเย็นชา เขามองดูหมอสาวที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาต้องการที่จะไล่เฉียวไป แต่เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่คลุมเครือกับผู้ดูแลสาวคนนี้เลย และเขาก็ไม่เคยบอกใบ้ให้ท่าอะไรกับเธอด้วยจางหยวนตกตะลึงลู่เจ๋อบอกเธอไปตรง ๆ ว่าเขาจะใช้เส้นสายของเขาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถเป็นหมอได้อีกต่อไป“นอกจากนี้...... ”ลู่เจ๋อพูดออกไปด้วยความเย็นชา “ออกจากเมือง B ภายในสองวัน! อย่าคิดที่จะหลีกเลี่ยง ผมจะให้คนไปเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณ และส่งคุณไปยังเมืองซีเป่ย......ต่อไป พวกเขาจะคอยจับตาดูคุณเอาไว้! ”“ตอนที่คุณกินข้าว พวกเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ”“ตอนคุณนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็จะคอยดูแลคุณ”“หมอจาง

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 439

    ลู่เจ๋อไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามหาคำตอบอยู่แล้ว พวกเขาทำได้แค่อดทนอยู่ใต้แสงไฟ รอคอยการมาถึงของเสิ่นชิง......ตกกลางดึก ก็มีเสียงรถดังขึ้นตรงลานหน้าบ้าน เสิ่นชิงมาถึงห้องนอนหลักชั้นสองอย่างรวดเร็วพอเห็นว่าเธอมาถึง เฉียวซุนก็พอที่จะหายใจได้ด้วยความโล่งอก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยเสียงต่ำ “ป้าเสิ่น”“พาป้าไปดูเด็ก ๆ หน่อย”เสิ่นชิงดูสงบมาก เธออุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาแล้วตบเบา ๆ จากนั้นก็ตรวจเช็คอุณหภูมิ เธอพูดกับเจ้าหนูลู่เหยียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา......เจ้าหนูลู่เหยียนยังคงตกอยู่ในฝันร้ายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องไห้และเรียกหาคุณยาย จากนั้นก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ป้าจางนั่นทำให้หนูตกใจ เธอบอกว่าพ่อปฏิบัติกับแม่ไม่ดี บอกว่าพ่อส่งแม่ไปขังไว้ที่บ้านพักรักษา เธอบอกว่าพ่อไม่ต้องการแม่อีกต่อไป และกำลังจะหาภรรยาใหม่...... ”หัวใจของเสิ่นชิงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเธอเอ็นดูเจ้าหนูลู่เหยียนเอามาก ๆ เธอยิ่งเอ็นดูเฉียวซุน ใจของเธอแทบจะแตกสลาย แต่เธอยังคงเอาหน้าแนบชิดกับใบหน้าของเจ้าหนูลู่เหยียน และปลอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรัก “สิ่งเหล่านั้นก็

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 438

    จริง ๆ แล้วเขาก็ใส่ใจเรื่องนี้มาโดยตลอดผู้ชายคนไหนที่ไม่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างลู่เจ๋อเลย......เฉียวซุนจ้องมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ลดเปลือกตาลง......มีบางอย่างอยู่ในใจของเธอไม่เช่นนั้น คืนนี้เธอคงสามารถจับลู่เจ๋อให้อยู่หมัดได้ เดิมทีร่างกายของเขาก็มีความต้องการอยู่แล้ว บวกกับที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาตั้งหลายปี ก็แค่คืนนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น เลยไม่ได้รู้สึกอยากทำเท่าไหร่เธอยังคงนึกถึงสิ่งที่เมิ่งเยียนหุยเคยพูด และนึกถึงเรื่องที่พี่ชายตัวเองแต่งงานกับเมิ่งเยียน พอมีเรื่องพวกนี้เพิ่มเข้ามา มันกลับยังคงถูกกดเอาไว้ส่วนลึกในใจของเธออยู่เฉียวซุนรอลู่เจ๋ออยู่ตลอดแต่เธอก็ยังไม่เห็นลู่เจ๋อ กลับกัน เป็นป้าแม่บ้านที่วิ่งลงมาแทน น้ำเสียงของป้าแม่บ้านค่อนข้างลนลาน “คุณนายคะ เกิดเรื่องกับคุณหนูเหยียนเหยียนแล้วค่ะ จู่ ๆ คุณหนูก็ละเมอขึ้นมาอย่างรุนแรง! คุณผู้ชายเชิญให้คุณไปดูหน่อยค่ะ”“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ”เฉียวซุนพลางถาม พลางก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็วไปยังคฤหาสน์เธอเดินเร็วมาก ป้าแม่บ้านเองก็เดินตามเธอมาติด ๆ แล้วพูดขึ

  • ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม   บทที่ 437

    เฉียวซุนไม่อยากให้เขาเห็นเธอเบือนหน้ามองออกไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เปล่าค่ะ! ”เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ “คุณช่วยบอกให้ป้าแม่บ้านอุ้มลูกลงมาที ฉันไม่ขึ้นไปแล้วล่ะค่ะ”ลู่เจ๋อไม่ได้ขยับแต่อย่างใดภายใต้แสงจันทร์สลัว ดวงตาสีดำของเขาจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด โดยไม่ละสายตาจากเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงขั้นที่ถามเธอออกไปตรง ๆ “ร้องไห้มาก่อนแล้วเหรอ? ”“เปล่า! ”เฉียวซุนทนต่อสายตาแบบนี้ของเขาไม่ได้ เธอจึงรีบลงจากรถ “ฉันจะไปเรียกเอง”ทันทีที่เธอก้าวเท้าลง ก็ถูกใครบางคนคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ลู่เจ๋อจับเธอเอาไว้ได้ เขาจ้องมองเสื้อผ้าที่สวยงามและเซ็กซี่ของเธอท่ามกลางแสงจันทร์ และตรงข้อมือของเธอยังคงหลงเหลือรอยแดงจาง ๆ อยู่ด้วย......ด้วยความดื้อรั้น เขาจึงค่อย ๆ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาร่างกายของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อยพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก ลู่เจ๋อค่อย ๆ ใช้มือลูบไปบนใบหน้าของเธอ จากนั้นก็ปาดน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เขาถามขึ้นว่า “ที่ตัวสั่นขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องที่แอบเล่นชู้ หรือว่าเรื่องอื่นกันล่ะ? ”เธอนึกอะไรขึ้นมาได้เขาจับเอว

DMCA.com Protection Status