ตอนกลางคืนเลขาฉินตกตะลึงอย่างมากเธอใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับมามีสติ และเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า ประธานลู่คะ มีเพียงญาติสายตรงของตระกูลลู่เท่านั้นที่สามารถใช้ห้องพิเศษได้ค่ะ ส่วนไป๋เซียวเซียว...ถ้าเฉียวซุนรู้ละก็ เธอจะไม่มีความสุขอย่างแน่นอนค่ะลู่เจ๋อกลับพูดว่า ทำตามที่ฉันบอกแน่นอนว่าเลขาฉินต้องทำตามที่เขาสั่ง แต่ก่อนที่จะวางสาย เลขาฉินก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า ประธานลู่คะ ฉันคิดว่าสักวันหนึ่งคุณจะต้องเสียใจเลขาฉินวางสายโทรศัพท์แล้วหายใจเข้าลึก ๆเธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมทั้งน้ำตา เธอรู้ดีที่สุดตั้งแต่ต้นจนจบ... เธอรู้ดีว่าเฉียวซุนกลับไปอยู่ข้างกายลู่เจ๋อได้อย่างไร เธอรู้ว่าลู่เจ๋อโหดร้ายกับเฉียวซุนขนาดไหน เขาทำให้เธอผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอเคยคิดว่าลู่เจ๋อรักเฉียวซุนแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ความรักในหัวใจของลู่เจ๋อมันอ่อนเกินไป…...เย็นวันรุ่งขึ้น หิมะยังคงตกอยู่เฉียวซุนออกมาจากศูนย์ดนตรีและเห็นรถของลู่เจ๋อจอดอยู่ด้านนอก เธอหยุดการก้าวเดินและปล่อยให้หิมะตกลงมาบนผมของเธอเธอรู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว หลินซวงได้ไปเซ็นสัญญากับลู่เจ๋อที่ลู่ซื่อกรุ๊ป และรับกา
การกลับมาที่คฤหาสน์อีกครั้งเปรียบเสมือนเธออยู่อีกโลกหนึ่งลู่เจ๋อจอดรถที่ประตูคฤหาสน์ พร้อมหันไปหยิบเสื้อคลุมของเฉียวซุนมาให้เธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง หิมะไม่ได้ตกหนักมาก ลงรถแล้วเดินไปด้วยกันเถอะเฉียวซุนกังวลเกี่ยวกับเซี่ยลี่ตัวน้อย มันจะหนาวไหมลู่เจ๋อหันไปมองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองไปที่เฉียวซุนแล้วพูดช้าๆ เดี๋ยวฉันอุ้มเอง เธอก็อย่าหึงล่ะเฉียวซุนสวมเสื้อคลุมแล้วเปิดประตูรถ ฉันไม่หึงหรอกลู่เจ๋อหัวเราะเบาๆ โน้มตัวไปอุ้มเซี่ยลี่ตัวน้อยแล้วลูบหัวของมันเขากระซิบ แม่โกรธแล้วเซี่ยลี่ตัวน้อยเห่าอยู่สองสามครั้งลู่เจ๋อสวมเสื้อคลุมแล้วลงจากรถโดยมีลูกสุนัขอยู่ในอ้อมแขน เขาปิดประตูรถด้วยหลังมือและก้าวเพียงไม่กี่ก้าวเพื่อตามเฉียวซุนให้ทัน และเดินเคียงข้างเธอ เซี่ยลี่ตัวน้อยนอนอยู่ในอ้อมแขนของพ่ออย่างเชื่อฟังหิมะตกลงมาอย่างแผ่วเบา...ครู่หนึ่งเฉียวซุนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวสุนัขตัวน้อยเบาๆแต่เธอก็ถูกจับมือไว้ในตอนที่กำลังจะดึงกลับมืออันอบอุ่นของชายหนุ่มจับเธอไว้อย่างง่ายดาย การสัมผัสที่แห้งและชื้นระหว่างปลายนิ้วทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างระหว่างทั้งคู่... จากนั้นเขาก็ส
เนื้อตัวเธอช่างดูบอบบางเธอรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ลู่เจ๋อก็กอดเธอไว้เบาๆ เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นเขาโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของเธอ พลางเอียงศีรษะแล้วจูบซับดวงตาที่เปียกชื้น พลางเอ่ยเสียงทุ้มต่ำที่แหบแห้ง บางเรื่อง ฉันก็คิดว่ามันจำเป็น คุณนายลู่ ฉันอยากทำให้เธอพอใจ ฉันอยากให้เธอมีความสุข...เธอบอกฉันสิว่าฉันต้องทำยังไง ตอนนี้เธออยากให้ฉันทำยังไงเขาพูดพลางสอดนิ้วประสานกับเธอ...เขาทั้งดูดีและดูเจ้าชู้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนต่อการรุกล้ำเช่นนี้ได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นเฉียวซุนรักเขามาตั้งหกปีแล้ว และเธอจะไม่โอนอ่อนไปตามคารมของเขาได้อย่างไรขณะที่ลู่เจ๋อจูบเธอเบาๆ เธอก็อดไม่ได้ที่จะยกตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อจูบตอบเขาแต่เขาก็ผละออกพร้อมกับยิ้มน้อยๆเฉียวซุนต้องการมัน เธอจึงหน้าแดงพร้อมทั้งเอื้อมมือไปโอบรอบคอเขา ลู่เจ๋อยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะก้มลงส่งบทจูบอันเร่าร้อนให้เธออย่างบ้าคลั่ง... เพื่อให้เธอพอใจบนผนังฉายเงาของคนสองคนที่มอบบทรักกันอย่างอบอุ่นมันเร่าร้อนไปทั้งคืน......ความรักระหว่างคนสองคนนั้นแตกต่างกันเสมอ ลู่เจ๋อสนุกกับมันหลายครั้งในหนึ่งคืนเช้าวันรุ่งขึ้น เฉียวซุนแต่งตัวอย่างเรียบร้อ
เฉียวซุนไปรับหลินเซียวที่โรงพยาบาลแต่เมื่อคนขับจอดรถ ประตูรถก็เปิดออกโดยคนด้านนอก เขาคือลู่จิ้นเซิง เขายืนอยู่บนหิมะบางๆ ดูเงียบเหงา มันทำให้เฉียวซุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นลู่จิ้นเซิง อีกครั้งเฉียวซุนก็รู้สึกสับสนมากเธอนั่งในรถเงียบๆ ในที่สุดก็เป็นลู่จิ้นเซิงที่พูดก่อน เฉียวซุน มาคุยกันหน่อยเถอะ…...เฉียวซุนนั่งอยู่ในร้านกาแฟริมถนน มองดูหิมะข้างนอกอย่างเงียบๆ ผ่านกระจกใส พลางคนกาแฟไปด้วยตามสัญชาตญาณเสียงของลู่จิ้นเซิง ดังขึ้นมาข้างหู หลินเซียวยังสบายดีไหมเฉียวซุนดึงสติกลับมา พลางมองไปที่ลู่จิ้นเซิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขายังคงแต่งตัวดีและมีรูปร่างหน้าตาไร้ที่ติ เพียงแต่เขายังคงถือกล่องบุหรี่ในมือทั้งๆ ที่ไม่สามารถสูบมันในร้านได้...เขาดูหงุดหงิดเล็กน้อยเธอเอาถุงส่วนผสมออก ก่อนจะจิบกาแฟเบาๆเธอไม่เงยหน้าขึ้นเลย ทำเพียงแค่เปิดปากจิบกาแฟเพียงเท่านั้นทุกครั้งที่ฉันดื่มกาแฟกับหลินเซียว เธอมักจะบอกว่ากาแฟขมเกินไปทำให้เธอไม่ชอบ แต่เธอก็ยังคงดื่มมันจนหมดแก้วทุกครั้ง ไม่ใช่เพราะว่ามันรสชาติดีแต่เพราะเธอจำเป็นต้องดื่มมัน... เธอบอกว่าเพราะมันคือเงินของเธอเมื่อก่อนเธอ
หลินซวงยิ้ม เสียงตอบรับดีมาก ตั๋วสำหรับการแสดงครั้งแรกในเมืองเอส ขายหมดแล้วเมื่อคืนนี้เฉียวซุนค่อนข้างประหลาดใจมากเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วพูดต่อ ออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าเลยไหมหลินซวงอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเธอเบาๆหลังจากวางสาย หลินเซียวก็ดีใจกับเธอมากเช่นกัน ฉันไม่เป็นไรแล้ว เธอไปจัดการเรื่องของเธอเถอะเฉียวซุน แล้วก็ฝากขอบคุณลู่เจ๋อด้วยนะเธอกอดเฉียวซุนอย่างอ่อนโยนและกระซิบ เขาดีกับเธอ ก็ใช้ชีวิตให้ดี ลืมเรื่องในอดีตไปเถอะเสียงของเฉียวซุนแหบแห้งเล็กน้อย ฉันรู้แล้วล่ะทั้งสองแยกจากกัน ก่อนจะมองหน้ากัน และยิ้มทั้งน้ำตาราวกับว่าพวกเขายังคงเป็นคนคนเดิมในตอนนั้น……เฉียวซุนลงไปชั้นล่างแล้วขึ้นรถคนขับเห็นว่าเธออารมณ์ดีจึงถามออกไป คุณนายครับ กลับคฤหาสน์เลยใช่ไหมเฉียวซุนเอนตัวพิงเบาะหลัง เธอใช้โทรศัพท์มือถือจองตั๋วเครื่องบินไปเมืองเอส เช้าวันพรุ่งนี้ และเธอยังส่งไลน์ไปหาลู่เจ๋ออีกด้วย วันนี้กลับมาเร็วๆนะ ฉันมีเรื่องจะบอกนายหลังจากที่เธอส่งข้อความไปก็เผยรอยยิ้มหวานๆ ออกมาเล็กน้อยคนขับรถถามอีกครั้งก่อนที่เธอจะรู้สึกตัวและพูดเบาๆ ไปที่เวิลด์ทาวเวอร์ ฉันจะซื้อของบางอย่
เฉียวซุนเงยหน้าขึ้นมาและมองเข้าไปในดวงตาของลู่เจ๋อดวงตาของเขามืดมัวกว่าตอนกลางคืน เธอมองเห็นไม่ชัดเจนว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หลังจากนั้นเขาก็ถามอย่างเบาๆ เธอเห็นแล้วเหรอเฉียวซุนชี้ไปที่สิ่งต่างๆบนพื้น ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ นายใช้จิตแพทย์ศึกษาฉันเพื่อรับมือกับฉันเหรอ ลู่เจ๋อ ฉันเป็นอะไรสำหรับนายกันแน่ ภรรยาหรือว่าของเล่นส่วนตัวล่ะ นายบอกว่านายชอบฉัน ความชอบของนายคือการเอาร่างกายไร้เสื้อผ้าของฉันไปวิเคราะห์ต่อหน้าจิตแพทย์ถึงสิบคนหรอกเหรอนายซื้อหมามาเพื่อเอาใจฉัน ฉันคิดว่านายจะเข้าใจฉันจริงๆ ที่แท้ก็เป็นเพราะผลจิตวิทยา หมาตัวนี้... ก็คงเป็นตัวช่วยของนายสินะเรื่องนั้นที่นายทำกับฉัน ที่แท้ก็คำนวณเอาไว้แล้วสินะ แม้แต่ตอนที่เรามีอะไรกัน ก็เขียนไว้ละเอียดขนาดนี้ลู่เจ๋อ นายทำให้ฉันไม่มีความเป็นส่วนตัว ไม่มีศักดิ์ศรี อันที่จริงนายไม่ได้ชอบฉันหรอก นายแค่อยากครอบครองฉัน ลู่เจ๋อ จริงๆ แล้วนายรักใครไม่เป็นด้วยซ้ำ…...หลังจากที่เฉียวซุนพูดจบ ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตาแย่จริงๆ มันแย่เอามากๆ เลยทุกครั้งที่เธอรวบรวมความกล้าที่จะไปจากเขา เขาจะคอยรั้งไม่ให้เธอไป เขาค่
เสื้อคลุมอาบน้ำถูกแหวกออกเรื่อยๆ ร่างกายของเธอเปล่งประกายและงดงามภายใต้โคมไฟอ่านหนังสือลู่เจ๋อจับเอวเรียวของเธอไว้แน่น และยังตบก้นของเธอดังๆ พร้อมยิ้มเบาๆ ฉันจะทำให้เธอรู้ตอนนี้ ว่าผู้หญิงที่เป็นของเล่นเป็นยังไงใบหน้าของเฉียวซุนซีดลง เธอไม่อาจหลีกหนีได้เธอถูกเขาจัดการภายใต้แสงไฟสว่างจ้า และถูกเขาทำรุนแรงใส่ ท่าทางพวกนั้นจากเขามันทำให้เธอเป็นยิ่งกว่าผู้หญิงราคาถูกแสงไฟสาดส่องไปยังสองร่างเธอปวดไปทั้งกาย แต่ก็ไม่เท่าหัวใจของเธอที่แตกสลาย เธอจับขอบโต๊ะทำงานไว้แน่น และใช้แรงทั้งหมดที่มีแบกรับความโกรธของลู่เจ๋อ...ของแข็งในมือมันทำให้เจ็บเมื่อเธอทนไม่ไหวอีกต่อไป เฉียวซุนก็หันศีรษะไปแล้วปล่อยมือ กระดุมข้อมือเล็กวางอยู่บนมือซ้ายที่เต็มไปด้วยเหงื่อของเธอ...แต่เดิมที่เคยเป็นเพชรแวววาว ตอนนี้กลับกลายเป็นสีแดงเล็กน้อยนั่นคือเลือดจากปลายนิ้วของเฉียวซุน…...ลมและหิมะข้างนอกค่อยๆ หยุดลงลู่เจ๋อผละออกจากเฉียวซุนในเวลาตีสองครึ่ง เขามองดูร่างกายที่น่าสงสารของเธอพร้อมกับจัดชุดของตนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเบอร์ของเลขาฉินลู่เจ๋อรับโทรศัพท์และพูดเบาๆ ผมกำลังไป เริ่มประชุมต่อตอนตีสา
คนรับใช้พบเฉียวซุนในช่วงสายช่วงกลางวันแสกๆไฟในห้องหนังสือยังคงเปิดอยู่ ร่างของเฉียวซุนนอนเหยียดบนโต๊ะไม้สีเข้ม บนตัวมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำสีดำเท่านั้น ร่องรอยต่างๆ บนร่างกายเธอแห้งเหือดไปหมดแล้วดวงตาที่ปิดสนิทและน้ำตาที่เหือดแห้งเธอนอนนิ่งๆ ใบหน้าของเธอแดงผิดปกติ และเมื่อสัมผัสก็พบว่าเธอมีไข้คนรับใช้ตกใจมาก คุณนายมีไข้ คนรับใช้ค่อนข้างมีอายุและมีประสบการณ์ เมื่อเธอเห็นสถานการณ์นี้เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรีบโทรหาลู่เจ๋อทันที แต่ไม่ว่าจะโทรสักกี่ครั้งก็ไม่มีใครรับสายขณะนี้ลู่เจ๋อกำลังประชุมอยู่กับผู้อำนวยการอาวุโสของบริษัทลู่ซื่อกรุ๊ปกำลังมีโปรเจกต์ใหญ่ ลู่เจ๋อกำลังเตรียมพัฒนา แต่ผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นกลับมองว่าเป็นแนวคิดที่เสี่ยงเกินไป จึงไม่เห็นด้วยเกือบครึ่ง...การประชุมใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมงคนรับใช้โทรหาเขาไม่ติด จึงต้องโทรหาคนขับอย่างไรก็ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีของคุณนายอยู่เสมอ คนรับใช้ทั้งสองจึงสวมเสื้อผ้าให้เฉียวซุนอย่างระมัดระวังและสวมเสื้อคลุมเพื่อให้ความอบอุ่น... ในระหว่างใส่เสื้อผ้าให้ พวกเธอแทบไม่กล้ามองเรือนร่างของคุณนาย พลางคิดว่าคุณชาย