EP. 10“เป็นอะไร” ฉันถามอีกรอบเมื่อเห็นเขาจอดรถหน้าคลินิกแห่งหนึ่งที่รักษาโรคทั่วไป“เธอไงเป็น” เขาหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วหันมาบอกฉันอีกรอบ “ลงไป”“เตยไม่ได้เป็นอะไร”“เป็นเมียฉันไง ไปฉีดยาคุม” พูดได้หน้าตายมาก ทำไมฉันต้องฉีดด้วย ไอ้บ้านี่“พี่เป็นบ้าเหรอ”“ฉันไม่อยากใช้ถุงแล้ว ถ้าเธอไม่ฉีด ฉันแตกในห้ามโวยวายนะ” เขาพูดจบก็ทำท่าจะสตาร์ทรถอีกรอบเอาอย่างไรดีฉัน ต้องฉีดไหม ฉันจะหนีเขาไม่พ้นแล้วจริง ๆ หรือ ทำไมฉันต้องยอมเขาด้วยล่ะ ฉันปฏิเสธเขาได้อยู่แล้วแต่ทุกครั้งก็ไม่เคยทำได้นะเตย...“พี่ทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนที่นอนด้วยเลยไหม” ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วถามเขา ตอนนี้ฉันลังเลทั้งที่ตอนแรกคิดว่าจะไม่ยอมฉีดยาแน่ เราไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ใช่หรือ ทำแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร“ไม่”“เตยกลัวโรคนะ”“ฉันป้องกันตลอดแต่ฉันจะไม่ใช้ถุงกับเธอแล้ว มันเปลือง ขี้เกียจใส่” เป็นคำพูดที่คนพูดไม่ได้รู้สึกกระดากอายเลยแม้แต่น้อย ต่างกับฉันที่ใบหน้าร้อนรุ่มไปหมดแล้วตอนนี้“ทำอย่างกับจะจริงจัง เดี๋ยวก็ไปกับคนนั้นคนนี้อีก เตยจะฉีดเพื่ออะไร เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย” ฉันพูดออกไปแบบนั้นแต่ตอนนี้กลับสองจิตสองใจอยู่ด
EP. 11“อย่านะ !”“คุย” พูดจบเขากดรับสาย เสียงของยัยคะนิ้งก็ดังขึ้นมา(ยัยเตย ฉันชักจะสงสัยละว่าพี่คิวแอบคุยกับใครในหอแก)“...” พี่คิวเหยียดยิ้มพร้อมกับหัวเราะในลำคอแต่สีหน้าของเขาไม่พอใจเท่าไร(แกได้ยินไหมวะ !) พอฉันไม่ตอบยัยคะนิ้งก็ทำเสียงแหลมขึ้นมา“อื้อ !” ฉันพยายามจะไม่ส่งเสียงแต่ไอ้พี่คิวมันดันแกล้งใส่มาเต็มแรง แล้วยังก้มลงมาซุกหน้าดูดหน้าอกฉันอีก “แกเลิกสนใจผู้ชายคนนี้เถอะ เชื่อฉัน มันเลว ! โอ๊ย !”“เลวยังไงก็ผัวเธอนะ พูดถึงผัวดี ๆ หน่อย” เขากระซิบแนบหูอีกข้างของฉันที่อยู่คนละฝั่งกับโทรศัพท์มือถือซึ่งเขาจับมันไว้อยู่(เป็นอะไรของแกยัยเตย แล้วพี่คิวไปเลวให้แกเห็นตอนไหน) ตอนนี้ไง เลวมากด้วย กัดมาได้ไงตอนนี้ หัวไหล่ฉันมันเป็นรอยแล้วแน่ ๆ“...” ฉันได้แต่เงียบเพราะไม่รู้จะใช้เหตุผลไหนคุยกับยัยคะนิ้งดี “ฉันยุ่งอยู่ ค่อยคุยได้ไหม”(ฉันไปหาแกได้ป้ะ จะไปแอบดูว่าพี่เขาไปหาใคร) ยัยคะนิ้งมันอาการหนักแล้วนะ“ฉันไม่ได้อยู่หอ แค่นี้ก่อนนะ” พูดจบฉันก็พยายามจะดึงมือถือมาจากพี่คิวแต่เขาไม่ให้ จึงต้องพูดเสียงลอดไรฟันออกมา “เอามือถือเตยมา”“เพื่อนเธอยังไม่อยากวางเลยนะ” เขาพูดกระซิบข้างหูอีกรอบ แล
EP. 12เช้าวันต่อมาไม่รู้ว่าเมื่อคืนฉันเผลอหลับไปตอนไหน พอสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกพี่คิวก็มานอนอยู่ข้างฉันแล้ว เก็บคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไว้ให้ด้วย แถมยังกอดกันไว้อีกต่างหาก“เตย... เตย...” แรงเขย่าเบา ๆ ของใครบางคนพร้อมกับเสียงเรียกที่คุ้นหูทำให้ฉันต้องฝืนลืมตาตื่นขึ้นมานิด ๆ “เตยหอม... ตื่น”“อื้อ... เช้าอยู่เลย” ฉันหลับตาลงแล้วพูดกับเขา “อย่ามากวน ~”“ไปอาบน้ำเร็ว ตื่นเช้าวันเดียวเองนะ เมื่อวานก็บอกไปแล้ว” บอกตอนไหน ไม่เห็นจำได้เลย ฉันยังคงนอนนิ่งเพราะความง่วงงัน ให้ตายเถอะ เขากล้าปลุกฉันเวลานี้ได้อย่างไร ดูแล้วคงยังไม่ถึงหกโมงด้วยซ้ำ“เตย” พี่คิวเริ่มน้ำเสียงเปลี่ยนไปจากเดิมเมื่อฉันยังคงไม่ขยับเขยื้อน อะไรของเขากันนะ ทำไมชอบบังคับอยู่เรื่อยเลย แม้กระทั่งตอนจะหลับก็ยังบังคับให้ตื่นเกลียด เกลียด เกลียด !!พอเขาทำเสียงเข้มขู่แบบนั้นฉันจึงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นผู้ชายหน้าหล่อที่นั่งขมวดคิ้วมองมาอยู่ ตอนนี้เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วด้วย“อะไร...” “ลุกไปอาบน้ำ จะพาไปวัด” พูดจบเขาก็ดึงแขนของฉันให้ลุกขึ้น พอไม่ลุกเขาก็เปลี่ยนมาอุ้มแทน จากนั้นก็เดินลิ่วเข้าไปในห้องน้ำ จะโวยวายก็ไม่ได้ เ
EP. 13พอเรากินเสร็จก็แยกย้ายกลับหอ ถึงหอปุ๊บฉันก็กระโดดขึ้นเตียงทันทีหวังจะนอนต่อ“จะไปไหน” ฉันหันไปถามเมื่อเห็นเขาสะพายกระเป๋าตนเอง ไม่ใช่ว่าอยากรั้งหรอกนะ แต่เรื่องแม่เขาฉันยังไม่ลืมเลย จะทิ้งกันแบบนี้ได้อย่างไร“ไปส่งงานอาจารย์”“ไปด้วยดิ กลัวผี” ว่าแล้วฉันก็รีบลุกจากเตียงเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายของตนเองมายืนข้างเขา“...” พี่คิวทำหน้าเหมือนกำลังตกใจแล้วเขาก็ขำออกมา “พูดจริง ?”“อืม เอาสร้อยพี่คิวออกไปด้วย เตยกลัวแม่พี่”“อาการหนักแล้วนะเราอะ” เขาพูดแล้วเดินมาหยิบสร้อยคอล็อกเกตของตนเองไป“เดี๋ยวเตยไปหาเพื่อนดีกว่า ไม่ไปด้วยแล้ว”“ไปด้วยกันดิ ไปได้ วันเสาร์คนไม่เยอะ”“ไม่ไป เปลี่ยนใจแล้ว”“หลายใจว่ะ” สุดท้ายก็มาส่งฉันที่หอยัยเค้ก จากนั้นพี่คิวก็ไปส่งงานอาจารย์ เราแยกย้ายกันตรงนั้น และไม่ได้คุยหรือนัดอะไรกันอีกซึ่งหมายความว่าเขาอาจจะหายไปอีก เหมือนทุก ๆ ครั้งที่เรามาเจอกัน แล้วเขาก็หายไปอีกหลายวัน เป็นแบบนี้จะให้ฉันคิดว่าเขาจริงจังได้อย่างไรมันเหมือนคนมาหาความสุขชั่วคราวมากกว่า“เล่ามา ให้หมด” พอมาถึงห้องยัยเค้กมันก็ถามขึ้นมาทันที “...” ฉันถอนหายใจแล้วมองหน้ามันก่อนจะพูดกับเพื่อนอีก
EP. 14พอตั้งสติได้ก็รีบดันตัวออกห่างพี่คิว ในมือยังคงจับมือถือของเขาไว้แน่น หัวใจเริ่มเต้นรัวไม่เป็นจังหวะราวกับเป็นพวกเมียน้อยที่กลัวโดนเมียหลวงจับได้“ห้ามเปิดนะ” ฉันรีบบอกออกไปเพราะกลัวว่าเขาจะเลื่อนกระจกลง ยัยคะนิ้งก็เอาแต่เคาะแล้วยืนยิ้มกริ่ม เพ่งมองเข้ามาในรถ แต่คงมองไม่เห็นเพราะรถของเขาติดฟิล์มดำหนาทึบนอกเสียจากว่า... มันจะขยับเข้ามาส่องดูใกล้ ๆ และมันก็ทำจริง ๆ“น่ารำคาญจังวะ” ได้ยินเขาบ่นออกมาอย่างรำคาญ คิ้วเข้มเริ่มขมวดเข้าหากันจนนูนและมีรอยย่นก๊อก ๆยัยนั่นยังคงเคาะกระจกไม่เลิก ดูแล้วรถเขาก็ราคาหลักล้านแน่ ๆ ถ้าเป็นคนหวงรถคงอยากกระทืบเต็มทน“ทะ... ทำไงดี” น้ำเสียงของฉันเริ่มติดขัดจนอีกคนหันมามองแล้วทำหน้าเครียดกว่าเดิม“...” พี่คิวเงียบ เขาถอนหายใจออกมาแรง ๆ แล้วหันมาบอกฉัน รั้งศีรษะของฉันให้ก้มลง “กลัวขนาดนั้นก็หลบ”“...” ฉันรีบโน้มตัวลงไปมุดหน้าอยู่บนตักของเขา ด้วยหัวใจเต้นรัวอย่างกับเด็กที่กำลังทำผิดแล้วกลัวการถูกทำโทษ ฝ่ามือเล็กเริ่มชุ่มเหงื่ออีกครั้งเมื่อพี่คิวเลื่อนกระจกลงแต่คงแค่นิดเดียวเขาวางแขนลงบนแผ่นหลังของฉันเอาไว้ ไม่รู้ว่าคะนิ้งจะมองเห็นไหม แต่เพราะตรงนี้เ
EP. 15เขาหัวเราะเบา ๆ จากนั้นก็เลื่อนตัวออกเล็กน้อย ขยับมือมาเชยคางฉันขึ้นจนตอนนี้สายตาของเราต้องมองสบกันพอดี“...” เขาไม่พูดอะไรสักอย่าง เอาแต่มองด้วยสายตาที่ทำให้ฉันหวั่นไหวในใจ ดวงตาคู่นี้ฉันเคยมองว่ามันดูไม่น่าไว้ใจ มันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันหวานหยาดเยิ้มเหลือเกิน“มะ... มองทำไม”“มองเมีย”“บอกว่าไม่ได้เป็น ไม่อยากเป็นด้วย” น้ำเสียงของฉันแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ยอมรับว่าตอนนี้ฉันหวั่นไหวกับเขาไปแล้ว รับรู้ทันทีว่าต่อจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น“ไม่อยากเป็นก็ต้องเป็นแล้ว เวลานี้”พี่คิวพูดยิ้ม ๆ แล้วขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ ประกบริมฝีปากทาบทับริมฝีปากอวบอิ่มของฉันทันที เขาแทรกลิ้นร้อนเข้าหาและตวัดฉกชิมความหวานอย่างชำนาญ ร่างกายของฉันเริ่มอ่อนปวกเปียกและไหลไปตามห้วงอารมณ์ที่เขากำลังมอบให้“อื้อ ~” ฉันร้องครางเมื่อรู้สึกถึงการถูกคุกคามเบื้องล่าง ฝ่ามือหนาสอดเข้าไปในกางเกงและแพนตี้สีเนื้อและลากผ่านรอยแยกที่เริ่มเปียกชื้น ก่อนจะบดขยี้กลีบกุหลาบด้วยปลายนิ้วของเขา “อ๊ะ พี่คิว...”“เธอเปียกแล้ว ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย” เขาบอกเสียงพร่าแล้วมองสบตากับฉันจากนั้นเสื้อผ้าของเราก็
EP. 16หลายชั่วโมงต่อมาสุดท้ายฉันก็ต้องโดนพี่คิวลากออกมาเที่ยวกับเขาจนได้ เหมือนเป็นการเปิดตัวอย่างนั้นละถ้าจำไม่ผิดเคยได้ยินคะนิ้งเล่าว่าเขาจะมีแก๊งเพื่อนสนิทที่สาว ๆ ไม่เคยได้ไปทำความรู้จัก แต่วันนี้เขาจะพาฉันไปหาเพื่อน ๆ ของเขากลุ่มนั้นทุกคนมีแฟนกันหมดแล้วยกเว้นพี่คิว เพราะฉันยังไม่ใช่แฟน !จะเป็นแฟนกันต้องขอเป็นแฟนก่อนสิถึงจะถูกต้อง บอกชอบสักครั้งก็ยังไม่เคย จะให้ฉันมโนว่าเขาชอบได้อย่างไร“พวกมันมากันหมดแล้ว” พี่คิวบอกแล้วเอื้อมมือมาจับมือฉันเดินผ่านโต๊ะที่มีคนนั่งอยู่ประปรายเข้าไปด้านใน “จับมือทำไม เตยไม่ใช่เด็กนะ” พูดไปงั้น แต่ฉันก็ยอมให้จับอยู่ดีและเขาก็ไม่ยอมปล่อยด้วยจนกระทั่งเรามาถึงโต๊ะที่จองไว้ก็เห็นเพื่อนของเขานั่งอยู่ครบแล้วเจ็ดคน“มึงควรมาคนแรกแต่นี่มึงมาคนสุดท้ายเลยไอ้xxx” ผู้ชายคนหนึ่งด่าพี่คิว พอเลื่อนสายตาไปมองคนที่นั่งข้าง ๆ เขาฉันก็ต้องทำตาโตขึ้นมา“ใบชา !”ใบชาคือเพื่อนคณะฉันแต่เราเรียนคนละสาขา ยัยนั่นเรียนการตลาดแต่ฉันเรียนการบัญชี เคยได้ยินแว่ว ๆ ว่าใบชามีแฟนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนพี่คิว“หวัดดีเตย” ยัยใบชายิ้มแล้วโบกมือให้ ทำไมไม่ตก
EP. 17“ทำอะไรของเธอวะ !” พี่คิวดึงตัวฉันไปด้านหลังแล้วผลักยัยนั่นจนตัวเซ เพื่อนของยัยคะนิ้งรีบเดินเข้ามาแล้วมองมาทางเราอย่างเอาเรื่อง“เป็นผู้ชายอะไรมาทำผู้หญิง ทุเรศ !”“กูกระทืบก็ได้นะถ้ามึงจะเอา” พี่คิวทำท่าจะก้าวเข้าไปหายัยพวกนั้น ขณะที่ยัยคะนิ้งก็ยืนนิ่ง น้ำตาคลอ กำหมัดขณะมองฉันอยู่ด้วยสีหน้าเกลียดชังคะนิ้งไม่ได้โกรธพี่คิวแต่เลือกที่จะโกรธฉัน คงเพราะมันคิดว่าฉันเป็นเพื่อนแต่ไปแย่งผู้ชายที่มันชอบ“พี่คิว” ฉันรีบดึงเสื้อเขาเอาไว้ แล้วเพื่อนพี่คิวก็เข้ามาช่วยดึงแขนเขาไป ไม่เคยเห็นเขาโมโหแบบนี้เลย “มึงทำแบบนี้ได้ไงอีเตย ! พึ่งรู้ว่าร่านชอบแย่ง ถึงว่า... บอกกูไม่ให้ยุ่งเพราะอยากได้เป็นของตัวเอง !” ที่ผ่านมาฉันรู้ว่ามันเป็นคนแรง ๆ ไม่คิดถึงจิตใจใคร แต่ก็ไม่เคยได้ยินมันพูดแบบนี้ด้วยฉันก็คนนะ มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน และไม่ใช่นางเอกแสนดีที่ต้องให้ใครมายืนด่าด้วย ! คำว่าเพื่อนฉันจะไม่เอามันมาคั่นกลางอีกแล้ว “กูไม่ได้แย่งของมึง ! และกูก็ไม่ได้มาทีหลังมึงด้วยคะนิ้ง” อย่างไรเสียฉันก็คงกลับไปเป็นเพื่อนกับมันไม่ได้อีกแล้วแน่ ๆ ก็ให้มันจบวันนี้ไปเลย จบเพราะเรื่องผู้ชาย...“ร่าน !”“มึงก็ร่าน
พิเศษใส่ไข่หลังจากที่คุยกันไว้ว่าเราจะไปเที่ยวในวันหยุดของพี่คิวแล้ว สถานที่ที่เราเลือกไปก็เป็นทะเล เป็นเกาะที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศโชคดีว่าวันที่เราเดินทางมาไม่ใช่วันหยุดของคนส่วนใหญ่ ทำให้ผู้คนบางตาและสงบมากกว่าที่คิดไว้ บวกกับเกาะแห่งนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ที่พักไม่แอะอัด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ตั้งใจมาพักผ่อนและหาที่เงียบสงบอยู่กันใต้หล้ากับไต้ฝุ่นเล่นทรายด้วยกัน มีอุปกรณ์ที่พ่อของพวกเขาขนมาให้มากมาย หลังจากจัดการกับลูกแล้วพี่คิวก็เดินมาหาฉันที่กำลังจัดแจงของกินเล่นซึ่งสั่งมาจากร้านใกล้ ๆ นี้“ถ่ายรูปไหม เดี๋ยวพี่ถ่ายให้”พี่คิวถามเพราะเห็นว่าฉันแต่งตัวเตรียมพร้อมมาเพื่อถ่ายรูปแล้ว ที่พี่คิวยอมให้ใส่ทูพีซตัวนี้มาก็เพราะว่านักท่องเที่ยวไม่มาก เวลานี้มันก็ไม่โป๊มากเพราะมีเสื้อคลุมตัวยาวบาง ๆ คลุมอยู่“ถ่ายสิ แต่งตัวมาขนาดนี้แล้ว”ฉันบอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปลื้องเสื้อคลุมตัวนั้นออกแล้วเดินนำสามีตนเองออกไปตรงบริเวณชายหาด เวลานี้แดดค่อนข้างแรง ฉันก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรนักเพราะปกติทำงานอยู่แต่ในห้อง ไม่ค่อยโดนแดดอย่างนี้“สวย ๆ นะ แบบรูปเดียวลงได้เลย”เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะถือกล้องไว้ในระ
ตอนพิเศษ 4หลายปีต่อมาเราตัดสินใจมีเด็ก ๆ ไว้เป็นเพื่อนยามเหงาสองคน จากนั้นก็ทำการปิดอู่ทันทีเพราะฉันกับพี่คิวคิดไว้แล้วว่าจะให้เขามีพี่น้องไว้คอยปรึกษากัน ทีแรกตั้งใจจะให้อายุห่างกันสักสามปีแต่คนที่สองดันมาไวกว่าที่คิดคนพี่ชื่อใต้หล้า คนน้องชื่อไต้ฝุ่น เป็นชื่อที่พี่คิวตั้งให้เขาทั้งคู่ เรามีลูกชายทั้งสองคนขณะที่ใบชากับพี่ฮ่องเต้นั้นมีลูกชายหนึ่งกับลูกสาวอีกคน คนโตชื่อน้องฮัท แก่กว่าใต้หล้าหนึ่งปี แต่คนน้องนั้นอายุเท่าไต้ฝุ่น ชื่อว่าน้องฮานึล ตอนนี้กำลังน่าหยิกเลยทีเดียว“คุณแม่ !!”เสียงของใต้หล้าดังขึ้นมาแต่ไกล เขาจูงมือน้องชายที่อายุได้เพียงสามขวบเดินเข้ามาด้วย แต่ใบหน้าบิดเบี้ยวเหมือนกำลังจะร้องไห้“น้องเป็นอะไรคับ”“ฮือ ~”ทันทีที่ฉันย่อตัวไปถามลูกชายเขาก็ปล่อยเสียงร้องไห้โฮทันที ก่อนจะโผตัวเข้ามากอดฉันราวกับอัดอั้นตันใจ“ฝุ่นจะแย่งรถของใต้ ก็เลยล้มเอง” ลูกชายวัยห้าขวบอธิบายเมื่อฉันหันไปมองเขาเพราะต้องการเหตุผล“ฝุ่นล้มเองเพราะซนใช่ไหมครับ” ฉันดันตัวลูกชายออกอย่างเบามือแล้วถามเขาด้วยความเป็นห่วง “เจ็บตรงไหนไหมเอ่ย”“ตงนี้ ~ ฮึก” เขาตอบเสียงสั่นเจือด้วยเสียงร้องไห้เบา ๆ“ไม่ร้อ
ตอนพิเศษ 3ฉันหัวเราะใส่พี่คิวอย่างนึกตลก คนที่เคยเก่งเรื่องอย่างว่าพอโดนแกล้งถึงกับหน้าเสีย จนฉันต้องยอมหยุดแกล้งแต่โดยดี“เตยล้อเล่น”“เดี๋ยวเถอะ ร้องจริงนะ” พี่คิวทำหน้าเครียดแต่มือก็อยู่ไม่สุข ลูบไล้ไปตามผิวกายของฉันทั่วร่างจนขนอ่อน ๆ ของฉันมันลุกชันจากสัมผัสนั้นฉันก็แกล้งเขาไปไม่จริงจัง ทั้งที่จริงสำหรับฉันแล้วพี่คิวคือที่สุด เพราะเขาคือคนแรกและคนเดียวของฉัน ไม่คิดอยากมีใครมาแทนที่อีกแล้ว“อื้อ !”ฝ่ามือเย็นเฉียบของเขาลูบลงที่ต้นขา ขยับมาที่ขาอ่อน ก่อนจะค่อย ๆ ขยับมาที่กลีบดอกไม้สีระเรื่อและใช้ปลายนิ้วนั้นลากผ่านเพื่อแหวกเข้าหารอยแยกที่ผลิแย้ม“แกล้งกันดีนัก” เขาทำเสียงแข็ง แทรกนิ้วเข้าไปในช่องทางรักที่เริ่มมีน้ำหวานระบายออกมาจากการถูกสัมผัสที่ปลุกเร้าหัวใจของฉันวาบหวาม ถึงแม้จะเป็นคนที่คุ้นเคยแต่มันไม่เคยชินกับการถูกรุกล้ำตรงส่วนนั้นเลยสักนิด เหมือนมันคือการเริ่มใหม่ ราวกับเป็นครั้งแรก“อ๊า... พี่คิวขา เตยเสียว” ฉันร้องกระเส่าไม่รู้ตัวเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวนั้นสอดแทรกและขยับเคลื่อนที่เข้าออกเนิบนาบ ปรนเปรอปลุกเร้ากลายเป็นความสยิวซ่านอย่างต่อเนื่องเขาใช้นิ้วกลางจ้วงแทงจนเกิดเป็น
ตอนพิเศษ 2“ประจำเดือนมาไหม เดือนนี้รู้สึกว่าไม่วานให้ไปซื้อของ”“ไม่”“ขาดไปกี่วันแล้ว”พี่คิวตั้งคำถามที่ตอนนี้มันถือว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับเราสองคน ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ละก็ฉันคงได้อายหน้าร้อนแน่ ๆ ก็มีที่ไหนล่ะที่จะมาถามเรื่องแบบนี้กัน“ห้าวันแล้วค่ะ แต่ช่วงนี้เตยนอนไม่ค่อยหลับเลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะตรงนั้น”“ลองตรวจดูหรือยัง หืม” เสียงพี่คิวยังคงถามต่อ หลังจากที่เขาเพิ่งเลิกงานมา ไม่รู้ไปโดนอะไรเข้า วันนี้ถึงได้เซ้าซี้นัก“ยังเลย ที่ซื้อมาก็หมดแล้วค่ะ ตรวจบ่อย วันนี้ก็ลองตกแต่งรูปขายของทั้งวัน ลืมไปเลย”ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าตนเองเบื่อ ๆ เพราะอยู่บ้านคนเดียวไม่มีอะไรทำ เลยขอพี่คิวสั่งของจากร้านค้าต่างประเทศมาขาย ก่อนหน้านี้ลองสั่งมาน้อย ๆ ลงขายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ พอจับจุดได้ เจอตัวที่ขายดีเลยสั่งมาถ่ายรูปเอง ลงโพรโมตเพิ่มยอดขายได้มากเลยทีเดียว“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ทำแก้เบื่อ อย่าจริงจังจนเครียด” พี่คิวพูดแล้วเอื้อมมือมาลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน “เดี๋ยวพี่ไปซื้อ”เขาจริงจังกับการพยายามมีลูกมากถึงแม้ว่าจะแพ้พนันพี่ฮ่องเต้ เพราะใจจริงเราสองคนก็อยากมีเจ้าตัวน้อยไว้กอดเหมือนกัน หลังจากวั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่เราทั้งคู่ตัดสินใจว่าอยากมีเจ้าตัวน้อยไว้เชื่อมความสัมพันธ์ หลังจากวันนั้นเราก็เลือกโรงพยาบาลเพื่อคอยรับคำปรึกษาและคอยดูแลเราสองคนต้องเข้าตรวจสุขภาพและรับประทานยาบำรุงตามที่หมอสั่ง หลังจากนั้นก็ให้เป็นไปตามธรรมชาติ ผลตรวจที่ออกมาแน่นอนว่าเราสองคนยังสุขภาพสมบูรณ์และแข็งแรง ไม่มีโรคร้ายใด ๆ สามารถมีลูกได้“ลองโหลดแอปนี้มาแล้ว เขาบอกว่าดี” พี่คิวยื่นโทรศัพท์ของเขาที่หน้าจอกำลังแสดงแอปพลิเคชันหนึ่งซึ่งหน้าตาคล้ายปฏิทินวันนี้เป็นวันหยุดของพี่คิว วันที่เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันทั้งวัน แต่วันนี้คุณหมอก็ยังคงนัดตรวจร่างกายอีกครั้งเพื่อติดตามผลและตรวจร่างกายเพิ่ม“นับวันไข่ตก”“...” เขาไม่ตอบแต่ยิ้มกริ่มแล้วพยักหน้าเป็นคำตอบแทน“แม่นยังไงพี่คิว”“ก็ถ้าเราอึ๊บ ! กันช่วงที่เป็นสีชมพูโอกาสท้องก็มีเยอะมาก ๆ ไง” เขาพูดหน้าตาเฉยแต่ฉันกลับใบหน้าร้อนวาบ“ทุกวันเลยเหรอ เตยก็ตายพอดี ไม่ได้พัก” ฉันยัดโทรศัพท์ของเขากลับไปให้ก่อนจะหันหน้าหนีออกไปทางหน้าต่าง รอให้ความร้อนบนใบหน้ามันลดลงถึงหันกลับมามอง แต่พี่คิวก็ยังยิ้มอยู่“พี่ศึกษามาแล้วครับ ถ้าอยากได้ลูกที่เก่งและสมบูรณ์เราต้องพักวั
EP. 41เราซื้อบ้านอยู่ด้วยกันสองคนแถวชานเมือง แต่ไม่ได้ใกล้กับบริษัทที่พี่คิวทำงานเท่าไร นั่นเป็นเพราะเขาวางแผนจะลาออกในปลายปีนี้และออกมาทำบริษัทของตนเองโดยหุ้นกับเพื่อนสนิทอีกสามคนเรียกว่าแยกย้ายกันไปเก็บประสบการณ์และกลับมาสร้างฐานตนเองนั่นละ“พี่คิว...” ฉันกรอกเสียงใส่ปลายสายอย่างอ้อน ๆ เพราะจะวานให้เขาซื้อของสำคัญให้(ครับ ว่าไง)“กลับมาแล้วใช่ไหมคะ เตยจะฝากซื้อยา”(ได้ ยาอะไร)“ยาคุมไง เมื่อคืนบอกไปแล้วว่ามันหมด ขาดไปหนึ่งวันแล้วด้วย เดี๋ยวเตยส่งรูปให้นะ พี่คิวแค่ยื่นให้เภสัชดู” (ครับ)แล้วฉันก็จัดการถ่ายรูปกล่องยาคุมกำเนิดที่รับประทานประจำให้พี่คิวทางกล่องข้อความแอปพลิเคชันไลน์ ก่อนกลับมาเตรียมกับข้าวบนโต๊ะกินข้าวต่อ จะว่าไปแล้วการอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่มันก็เหงาพอสมควร จากที่ตอนแรกฉันคิดว่าจะหางานทำแต่พี่คิวไม่ยอม บอกว่าให้อยู่บ้านไปก่อนจะได้ดูแลสามีได้เต็มที่ และตอนที่เปิดบริษัทด้วยกันกับเพื่อนจะให้ฉันมีตำแหน่งเป็นคนทำบัญชีด้วยชีวิตที่ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝันแต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันโคตรน่าเบื่อเหลือเกิน หรือฉันควรจะหาน้องหมามาเลี้ยงสักตัวดีนะ“คิดถึง...” “อ๊ะ พี่คิว จานเกือบร
EP. 40หลายเดือนต่อมาเราใช้เวลาเตรียมงานแต่งงานไม่ถึงเดือนหลังจากที่ได้ฤกษ์เมื่อหลายเดือนก่อน เพราะฉันตั้งใจจะจัดแบบเรียบง่าย ชวนแค่เพื่อนและคนสนิทของเราทั้งสองฝ่ายราว ๆ ห้าสิบคนเท่านั้น เหตุผลหนึ่งคือไม่ต้องเหนื่อยอะไรมากมาย ทำบุญ ทำกับข้าวและสังสรรค์กันในหมู่เพื่อนและครอบครัว อีกอย่างคือไม่ต้องสิ้นเปลืองเพราะตั้งใจจะเก็บเงินไว้สร้างอนาคตต่อเมื่อเข้าพิธีแต่งงานแบบเรียบง่ายกันเสร็จเราก็มานั่งดื่มและกินของอร่อยฝีมือยายกันต่อ เพราะเพื่อนหลายคนอยู่ที่นี่กันจึงใช้บ้านหลังนี้จัดงานอีกอย่างพวกเพื่อน ๆ ก็ถือโอกาสมาเที่ยวกันด้วยเพราะช่วงนี้อากาศกำลังดีเลยทีเดียว“คิวต่อไปให้ไอ้เต้” พี่คิวพูดแล้วดันแก้วไปให้เพื่อนตนเอง“พูดอะไรของมึง จะให้มันจัดอีกรอบเหรอ” พี่ทศกัณฐ์เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ “เออ มึงจะให้กูหัวแตกเหรอถ้าต้องแต่งงานอีกรอบ” พี่ฮ่องเต้หัวเราะชอบใจก่อนจะหันไปมองใบชาที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการตักของกินอยู่อีกมุม “ก็งานแต่งมึงพวกกูไม่ได้ไป” พี่คิวพูดแล้วหัวเราะในลำคอ“ปล่อยผ่านกูไปแล้วกัน กดข้ามไปตอนกูมีลูกเลย” พี่ฮ่องเต้พูดแล้วยิ้มออกมา แววตาบ่งบอกถึงความสุข “มึงอ
EP. 39เรามาถึงร้านกาแฟที่คุณแพรว ลูกค้าบริษัทของพี่คิวนัดเอาไว้เวลาเกือบเที่ยง ผู้หญิงคนนั้นมารออยู่ก่อนแล้วและพอเห็นพี่คิวเดินเข้ามาเธอก็ยิ้มร่า แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงทันทีเมื่อเห็นฉันเดินเข้าไปคล้องแขนเขาเอาไว้“พอดีเห็นว่าเป็นวันหยุด ผมเลยพาแฟนมาเที่ยวด้วย” พี่คิวพูดแล้วยิ้มบาง ๆ พอเป็นมารยาท “เตย นี่ลูกค้าที่พี่เล่าให้ฟัง”“สวัสดีค่ะคุณแพรว” ฉันยิ้มกว้างแล้วยกมือไหว้เป็นมารยาท เธอพยักหน้าแล้วยิ้มตอบแบบเสียอาการสักหน่อย“ค่ะ”“เตยนะคะ” คนที่นั่งตรงข้ามเงียบไปในทันที เธอยกกาแฟขึ้นมาจิบเหมือนกำลังทำตัวไม่ถูก ที่จริงเธอเป็นคนสวยในระดับหนึ่ง การแต่งตัวดูภูมิฐานแต่แววตาของเธอดูไม่เป็นมิตรกับฉันสักเท่าไร เป็นใครก็คงดูออกว่าไม่ชอบฉันและสาเหตุก็คงมาจากพี่คิว“เรื่องที่จะคุย เชิญพูดได้เลยครับ” พี่คิวพูดแล้วหยิบเอาไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาพร้อมปากกาเพื่อเตรียมจดสิ่งที่ลูกค้าต้องการ“ขอคุยเป็นการส่วนตัวได้ไหมคะ เพราะมันเป็นเรื่องงาน” คนตรงหน้าพูดแล้วเบือนหน้ามามองทางฉัน ก็แค่เรื่องงานติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในตึก คงไม่ต้องเป็นความลับขนาดนั้นมั้ง“ไม่เป็นไรหรอกครับ นี่แฟนผมไม่ใช่คนอื่น”“แต่มันเป็น
EP. 37“เคยมีคนบอกว่าจะไม่ให้ทำอะไรจนกว่าจะรู้สึกว่ารัก”ประโยคของคนตัวโตที่พูดอยู่เหนือศีรษะทำให้ฉันเบิกตากว้าง สมองกลั่นกรองเอาความทรงจำที่เคยพูดประโยคนั้นออกมา “ใครพูด” “หึ...” สิ้นเสียงหัวเราะของเขาความนุ่มชื้นก็แนบลงมาบนริมฝีปากของฉันโดยไม่ให้ได้ตั้งตัว ใบหน้าร้อนวูบ หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะทันที“อื้อ” สัมผัสอ่อนนุ่มขยับขมเม้มริมฝีปากของฉันอย่างหยอกเย้าแต่ก็รู้สึกเจ็บไม่หยอกจนต้องเผยอปากออกมา กลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้เรียวลิ้นแทรกเข้าฉกชิมความหวานภายในโพรงปากจนได้ กลิ่นมินต์เดียวกันถูกพ่นผ่านลมหายใจของเราทั้งคู่ไปมา รสจูบนุ่มนวลทว่าเร่าร้อนในคราเดียวกันส่งผลให้ร่างกายฉันอ่อนยวบและเผลอไผลจูบตอบเขาไปอย่างไม่รู้ตัว“แฮ่ก” ฉันรีบสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเมื่อเขาเปิดโอกาส ใบหน้าคมเลื่อนออกห่างแล้วยกยิ้มมุมปากแบบที่ชอบทำบ่อย ๆ ดวงตาคมเข้มที่ตอนนี้แพรวพราวเสียเหลือเกินกำลังจ้องลึกเข้ามายังนัยน์ตาของฉัน“วันนี้ไม่ใส่ชุดนอน” ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างกายก่อนสอดเข้ามาในเสื้อยืดตัวบาง ผ่านหน้าท้องแบนราบขึ้นมาจนถึงเนินเนื้อนุ่มที่ล้นบรา“อากาศแบบนี้ได้โดนยายด่าพอดี” น้ำเสียงที่ออกจากปากฉ