“เกมนี้เป็นของฉัน และฉันคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์สั่งการ”“มะ...ไม่นะ...” แพรพนัสร้องเสียงหลง รับรู้ถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามาจากกายที่ยังถูกแนบชิดที่ทำเอาเธอไม่กล้าจะหาย ใจเพราะกลัวโดนงูร้ายที่เริ่มเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตกัดเอาโอ้...พระเจ้า ใครก็ได้ช่วยลูกที เอาลูกไปจากไอ้บ้าหื่นกามนี่ที ศีรษะทุยส่ายแรงๆ พยายามดึงแขนออกจากการจับกุมแต่ก็ไม่ได้ผล ดวงตากลมโตเบิกกว้างขยับกายหนีจนสุดความสามารถ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็ยังคงอยู่ที่เดิมและกำลังถูกบุกรุกจากผู้ชายคนเดิม...ฉัตรจักร!“ไอ้บ้า...ปล่อยฉันซิโว้ย บอกให้ปล่อยไง ไอ้คนเลว ไอ้หน้ารังแกผู้หญิง...นายข่มขืนฉัน...” หญิงสาวพูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่ แต่ถึงตอนนี้โดนข่มขืนหรือไม่ก็ไม่ต่างกัน ยังไงเธอก็ถูกไอ้บ้าหน้าวอกนี่บังคับอยู่ดี“นายก็ได้ตามความต้องการไปแล้วนี่ ยังต้องการอะไรจากฉันอีก”“ต้องการเธอไงแม่ตัวแสบ และพูดใหม่ด้วยนะ เพราะฉัน...” ใบหน้าคมคร้ามซบซุกระหว่างสองเต้าสวย ริมฝีปากขบเม้มแรงๆ จนผิวกายบริเวณนั้นแดงช้ำ “ไม่ได้ข่มขืนเธอ เราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร”ใบหน้าขาวนวลง้องุ้ม ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากัน อยากเถียงใจแทบขาด แต่รู้ดี
“พี่เทพ...”“หลิน...” เทพกานต์เรียกเสียงนุ่ม ตอนแรกเขาไม่มั่นใจหรอก พอมาถึงแล้วจะได้การต้อนรับเป็นอย่างดีหรือเปล่า ด้วยเขาผิดนัดกับนลินหลายครั้งเหลือเกิน แต่เพียงแค่ประตูเปิดออกแล้วมีร่างโปร่งบางและนุ่มนิ่มหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นน้ำหอมที่เพียงแค่กลิ่น ไฟพิศวาสในกายก็ลุกโชนจนแทบขาดสติ ผลักร่างเล็กนอนบนพื้นและโจนจ้วงฝังความแข็งแกร่งพร้อมดื่มด่ำและซอกซอนหาความหวานจรุงใจอย่างหนักหน่วงดุดันชายหนุ่มยืนงงเหมือนกับคนโดนสะกดจิตและโดนหมัดฮุกเข้าเต็มปลายคาง จมูกโด่งสูดกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นสาบเนื้อสาวเข้าปอดเต็มๆ มือใหญ่ขยับไล้ไปบนกายนุ่ม ริมฝีปากหนาขบเม้มซุกไซ้ไปตามลำคอระหง จุมพิตร้อนผ่าวแนบผิวหน้าขาวหอมกรุ่นก่อนจะหยุดนิ่งบนเรียวปากอวบอิ่มนุ่มนลินรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ยอมปล่อยให้ความโหยหาที่มีอยู่ลึกๆ ในใจเป็นฝ่ายชนะ สองมือเล็กดันใบหน้าคมคร้ามออกห่าง วงหน้าสวยซีดเผือดแต่มีรอยยิ้มอย่างคนกำลังดีใจเป็นล้นพ้น ริมฝีปากแย้มออกจากกันจนแทบจะฉีกถึงใบหู มือเล็กเรียวยกขึ้นปาดน้ำบนพวงแก้มนุ่ม“พี่เทพ...หลินดีใจมากที่พี่มาหา...นึกว่าพี่จะโกรธจะเกลียดจนไม่เจอหน้ากันอีกแล้ว หลิน...ขอโทษ พี่อย่างโกรธอย่าทิ
“หลินจ๋า...สวยมากเลยคนดี พี่หิว...อยากกินตรงนี้มาก อนุญาตพี่เถอะนะคนดี...ที่รัก...ได้โปรด...” ชายหนุ่มอ้อนวอนเสียงนุ่มทุ้ม หิวกระหายจนตัวสั่น รู้ดีว่าถึงหญิงสาวไม่อนุญาต เขาก็จะต้องหาทางลิ้มรสสองผลไม้สวยนี้ให้จงได้“คุกเข่าขอร้องซิคะพี่เทพ แล้วหลินจะให้ในสิ่งที่พี่ต้องการ...” มือเล็กช้อนเต้าสวยจนนูนเด่นขึ้นมาด้วยความปลื้มปีติ ที่เทพกานต์ชอบส่วนนี้ของเธอ ปลายนิ้วยื่นไปช้อนคางหนาและสากระคายด้วยไรหนวดเคราที่ขึ้นจนเขียวครึ้ม“ว่าไงล่ะค่ะพี่เทพ คุกเข่าขอซิคะ หลินจะให้พี่ทานจนอิ่มหนำเลยคืนนี้และพรุ่งนี้ มะรืนและอีกหลายๆ วันที่เราจะมีกันและกัน...” ใบหน้านวลผ่องหันไปทางเตียงนอนใหญ่ที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง“นั้นไงคะ” ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ อย่างน่ารักน่าใคร่ แหวะ...เลี่ยนอยากอ้วกจริงๆ นี่ฉันพูดแบบนี้ไปได้ยังไงกันนะ โหย...อยากจะบ้าตายความทรงจำบางส่วนบอกกับเขา ดวงตากลมโตคู่นั้นคุ้นเหลือเกิน คุ้นตาคุ้นใจเหมือนกับเขาเพิ่งจะเคยเจอเมื่อไม่นานมานี้เอง และยังจะมีอดีตที่ผ่านมาเมื่อหลายปีก่อน แต่เทพกานต์ก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป เหลือไว้เพียงแค่ความกระหายอยากที่จะกลับไปเป็นเด็กชายตัวน้อย อ้อนวอนขอกินนมมารด
เทพกานต์อดสะดุ้งไม่ได้ เพราะแม้น้ำเสียงที่ได้ยินจะนุ่มหวาน แต่ลึกๆ แล้วแอบซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ คำพูดที่ไม่ใช่แค่คำเตือน แต่เธอพร้อมที่จะเอาคืนจนต้องเจ็บและจำไปตลอดชีวิต แต่เขาก็เลือกที่จะปัดทิ้งไป ในเมื่อตอนนี้มีอะไรอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าให้ทำ ริมฝีปากหนาอ้างับผลไม้ผลเล็กสีชมพูระเรื่ออย่างถวิลหาและโหยหิว“อุ๊ย!!” ปลายเล็บแหลมยาวจิกลงไปเต็มๆ แรง วาบหวิวและปั่นป่วนไปทั่วทั้งลำตัวจนอยากที่จะดันตัวหนีปากร้อนผ่าวที่กัดกินขบเม้มปลายยอดถันรัวเร็วถี่ยิบ จนเธอแทบจะหายใจไม่ทัน สองแขนแกร่งสอดรัดจนปทุมถันจมหายไปในอุ้งปากหนา สองขาเรียวยาวขยับเคลื่อนไหวหวังว่าจะช่วยผ่อนคลายความวาบหวามหวั่นไหวไปบ้าง แต่กลับยิ่งกระตุ้นไฟปรารถนาให้ลุกโชน เมื่อขาเรียวไปสัมผัสกับความร้อนผ่าวและแข็งแกร่งเทพกานต์อมยิ้มแก้มตุ่ย เพราะได้กลืนกินบัวเม็ดหวานจนเต็มอุ้งปาก ลิ้นสากระคายตวัดไล้วนรอบยอดปทุมถันสลับดุนดันดูดกลืนจนแทบจะได้ยินเสียงดังจ๊วบจ๊าบๆ นิ้วยาวลากไล้กดคลึงยอดบัวสล้างอีกฝั่ง ก่อนจะขยับปากย้ายไปจัดการด้วยความหลงใหลในรสชาติหวานละมุนนุ่มลิ้น ยิ่งชุดบางเบาเปียกชื้นก็ทำให้เขาร้อนรุ่มราวกับถูกไฟเผานลินขบกัดฟันบนริม
“แต่ถ้าพี่เทพให้สัญญา จะไม่ทอดทิ้งให้หลินต้องตรอมตรมอยู่กับความทุกข์ หลินยอมทุกอย่างเลยค่ะ” นลินตอบกลับน้ำเสียงหวานฉ่ำ จับมือใหญ่มาวางทาบบนหน้าท้องแบนราบพร้อมรอยยิ้มหวานๆ รอคอยคำตอบด้วยใจจดจ่อ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงและเร็วจนแทบจะทะลุออกมาจากทรวง“หลินยอมให้พี่เทพทำยังไงกับร่างนี้ได้ทั้งนั้น ขอเพียงพี่ให้สัญญา จะไม่ทอดทิ้งกัน หากหลินทำอะไรผิดก็จะไม่โกรธและยกโทษให้ด้วย”เทพกานต์ไม่เข้าใจ ทำไมนลินถึงได้พูดแบบนี้ แต่ในตอนนี้ไฟปรารถนาที่ห้อมล้อมรอบกายอยู่เป็นตัวบงการให้ปากและใจยอมทำทุกสิ่งที่หญิงสาวอ้อนวอน ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงไปประทับจุมพิตบนหน้าท้องแบนราบเรียบอย่างอ่อนโยน“ได้ซิที่รัก พี่เทพคนนี้จะไม่ทิ้งหลิน ไม่ว่าหลินจะทำอะไรให้โกรธให้ขุ่นเคืองและเจ็บตัวแค่ไหนก็จะไม่ถือโทษโกรธเคืองและเอาคืนครับที่รัก”“พี่เทพใจดีจังเลย เพราะอย่างนี้หลินถึงได้หลงรักพี่เทพม้ากมาก” สะโพกงามงอนขยับส่ายเบาๆ“งั้นหลินอนุญาตให้พี่เทพทำอย่างไรกับดอกไม้ดอกนี้ก็ได้ แต่...นิดเดียวก่อนนะคะ เพราะหลินมีอะไรให้พี่เทพเซอร์ไพรส์พี่เทพด้วยล่ะ รับรองได้ว่าพี่จะต้องชอบแน่นอนค่ะ”ตอนแรกที่หญิงสาวบอกว่าอนุญาตให้แตะต้องเพียงแค่นิ
นลินนอนหอบแรง แต่ลมหายใจรวยรินด้วยความเหนื่อยกับการเดินทางไปท่องเที่ยวบนสวรรค์ชั้นฟ้า แต่เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็เรียกคืนสติของตัวเองกลับมาเข้าที่เข้าทาง ถึงเวลาที่เธอจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเทพกานต์แล้วซินะ รอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มแตะแต้มบนวงหน้าขาวนวลสวย ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับมีเลศนัยซุกซ่อนอยู่“แหม...พี่เทพขา...จะรีบถอดเสื้อผ้าออกไปไหนกันล่ะคะ หลินบอกแล้วไง เดี๋ยวมีเซอร์ไพรส์”นิ้วเล็กยื่นไปช้อนปลายคางสากระคายด้วยไรหนวดและเคราที่ตอนนี้ขึ้นจนเขียวครึ้มบังคับด้วยแรงอันน้อยนิดที่มีให้ร่างหนาที่มีกางเกงหลุดลุ่ยค้างคาอยู่ระหว่างสะโพกเพรียวลุกขึ้นยืน เบี่ยงตัวเองหนีออกมาแล้วดันอกกว้างด้วยปลายนิ้วชี้ให้ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาที่ยังร้อนระอุไปด้วยเพลิงพิศวาส ด้วยรอยยิ้มฉ่ำหวาน เรียกร้องและเว้าวอนนิ้วเรียวลากเลื่อนไปบนกายกำยำและแข็งแกร่งเหมือนกับเหล็กกล้า แม้เทพกานต์จะไม่ใช่คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่เป็นแบบออกบ้างตามแต่เวลาจะมีนอกเหนือจากกีฬาในร่มหรือหลับนอนกับหญิงสาวบนเตียงนอนตั้งแต่หลังเที่ยงคืนไปจนถึงสายของอีกวัน และรู้จักเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์จึงทำให้ชายหนุ่มยังคงรักษา
นลินนั่งบนลำขาเสลาแทรกระหว่างสองขาแข็งแกร่ง ใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มเคลือบไว้ด้วยน้ำผึ้งแหงนหงายขึ้น “หลินช่วยนะคะพี่เทพขา...” สองมือเล็กจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายใหญ่ อย่างพยายามให้ช้าที่สุดในความรู้สึกของหญิงสาว แต่กลับเร็วในความรู้สึกของอีกฝ่ายสะโพกสอบยกขึ้นเล็กน้อยให้ผ้าทั้งสองชิ้นหลุดออกจากกาย ยื่นมือมาจับรั้งคางมนและใบหน้าโน้มลงไป แต่นลินกลับเบือนหน้าหนีและแนบปากอิ่มบนกล้ามเนื้อหน้าท้องและเคลื่อนลงไปด้านล่างอย่างเชื่องช้า ก่อนหยุดชะงักเมื่อเจอกับกายแกร่งซึ่งกำลังขยายตัวจนบวมเป่งและชูชันโอ้อวดความงดงามนลินกลืนน้ำลายอย่างฝืดเคือง ทั้งหวาดกลัวและปรารถนาในสิ่งที่ได้เผยโฉมอยู่ตรงหน้า ประกายในดวงตาไหววูบอย่างไม่แน่ใจในสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ ถ้าเทพกานต์ทนไม่ไหว ปล้ำเธอขึ้นมาจริงๆ ร่างเล็กนี้ได้แหลกละเอียดเพราะความใหญ่อลังการของเขาล่ะ“ทำไมจ๊ะที่รัก กลัวหรือคนดี” เทพกานต์ถามเสียงแหบพร่า รีบจับมือนุ่มนิ่มวางบนความแข็งแกร่ง ที่เพียงถูกสัมผัสอย่างแนบชิด บดคลึงลูบไล้อย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลอย่างไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่ แต่ก็สร้างความปวดร้าวและเสียวซ่านให้ชายหนุ่มถึงกับร้องเสียงแหบพร่
“ไม่จริง ไม่ใช่พี่เทพ...ใคร...เป็นใคร...อย่าเข้ามานะ กลัวแล้ว อย่าทำอะไรนะ กลัวแล้ว ฮือๆ ” นลินพยายามดึงแขนออกจากการจับกุม แต่เมื่อไม่ได้ผลก็ใช้ฟันขาวสะอาดขบกัดไปบนบ่ากว้าง ก่อนสองขาเรียวกระทุ้งไปที่ลำตัวกว้างเต็มแรง จนชายหนุ่มกระเด็นออกไปและรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำขังตัวเอง พร้อมเสียงร้องสะอึกสะอื้นเหมือนกำลังจะขาดใจ“พี่เทพ...พี่เทพ...หลินขอโทษ...ฮือๆ ”เทพกานต์ถลาลุกขึ้นวิ่งตามไปแต่ก็ไม่ทัน “หลิน” เขาทุบประตูห้องน้ำดังปึงปังๆ “เปิดประตูซิหลิน ไม่ต้องกลัวนะพี่อยู่นี่แล้ว เรามาคุยกันนะคนดี พี่สัญญาจะไม่ให้อะไรหรือใครมาทำร้ายหลินได้อีกแล้วคนดี ออกมาหาพี่นะ”“ไม่...” หญิงสาวหวีดร้องเสียงดังลั่น“ไปนะ กลัว...กลัวแล้ว อย่าเข้ามา” ไล่ปีศาจร้ายที่ดังอยู่หน้าห้องน้ำให้ออกไปเสียงสั่น แต่ใบหน้าของคนที่เดินไปมองตัวเองในกระจกเงา พร้อมยกมือเช็ดร่องรอยที่เทพกานต์ทิ้งไว้ใบหน้าเปื้อนยิ้มในตาแวววาวด้วยความสะใจอยากจะหัวเราะให้ดังลั่น แต่ต้องอดทนเอาไว้ก่อน เพราะหากหลุดออกมานิดเดียว เทพกานต์จะต้องรู้ และเธอคงรับมือกับไอ้ตัวหื่นจัดไม่ไหว ถูกขยี้จนแหลกเหลวราวกับดอกไม้ริมทางแล้วจะต้องมานั่งเสียใจร้องไห้ฮือๆ ข
“อ้าว...แกจะมายืนอึ้งบื้อใบ้กินอยู่ทำไมล่ะเจ้าเทพ แกเป็นคนทำให้เขาเป็นแบบนี้เองนะ”“ผม...ผมนี่หรือครับแม่เป็นคนทำ แม่เอาอะไรมาพูด” เทพกานต์โวยวายเสียยกใหญ่“หลินเป็นอะไรหรือคะท่านประธาน” รมย์นลินเริ่มที่จะอยากรู้ขึ้นมาบ้างแล้ว พร้อมความกังวลกับอาการที่เป็นอยู่ ทำงานก็ไม่ถนัดเท่าไหร่ คอยแต่จะวิงเวียนศีรษะและเหม็นโน่นนี่ตลอด แต่นั่นก็ยังไม่กับความรู้สึกของคนรักไม่ได้นอนกอดเธอเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาก็หม่นหมอง หน้าตาดำคล้ำ ขอบตาลึกโบ๋ จนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว ถ้าเกิดเป็นเดือนอย่างที่จิราพรพูดละก็...เทพกานต์ได้เป็นบ้าแน่“อยากรู้ก็ให้เทพพาไปตรวจซิ จะได้รับยามาทานด้วย อะไรที่ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็จะได้รู้ว่าไม่ควรทำ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง เธอยิ่งชอบบุกลุยตะบี้ตะบันไม่สนใจใครอยู่ด้วย หลังจากนี้คงจะได้ดูแลตัวเองมากขึ้น”รมย์นลินยิ่งมึนงงกับคำพูดของแม่สามี“แม่ครับ หลินเป็นอะไร แม่บอกมาเถอะครับถ้ารู้ อย่าให้เราสองคนต้องเป็นกังวลมากกว่านี้เลยนะครับ”เทพกานต์ส่งเสียงอ้อนวอน เขาเป็นห่วงรมย์นลินจนจะบ้าแล้ว แม่ยังจะพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องเล็ก
เช้ามาหุงหาอาหารใส่บาตร ทำความสะอาดบ้านจนสะอาดเอี่ยมอ่อง จัดการเรื่องราวในบ้านได้อย่างละเอียดและรอบคอบ ถึงขนาดว่านุจรีที่ไม่เคยเอ่ยปากชมใครยังยอมยกนิ้วให้ กลางวันก็ไปทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต บางวันข้าวตอนเที่ยงก็แทบจะไม่ตกถึงท้อง กว่าจะกลับบ้านได้ก็ค่ำมืดดึกดื่นแต่แม้จะเหนื่อยและเพลียขนาดไหนหญิงสาวก็ไม่เคยที่จะท้อแท้และหมดกำลังใจ บทบาทในการเป็นแจ๋วให้แม่เขาไม่เคยขาดตกบกพร่อง หน้าที่บนเตียงนอนเขาก็ยังเร่าร้อนเป็นไฟเช่นเดิม เพิ่งจะมีก็เกือบจะอาทิตย์กว่าๆ นี่แหละที่รมย์นลินกลับบ้าน พร้อมท่าทางอิดโรยเหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก่อนจะนอนก็มีอาการแปลกๆ อยากกินส้มเปรี้ยวจี๊ดขึ้นมาบ้างล่ะ อาเจียนจนหมดไส้หมดพุงบ้างล่ะ แต่ที่เขาโคตรจะหงุดหงิดและโกรธจนควันออกหูนั่นก็คือ...“เทพไปไกลๆ เลย ใช้น้ำหอมบ้าอะไรน่ะ เหม็นจะตายชัก”แขนใหญ่ยกขึ้นดมดอมอย่างงงๆ เพิ่งจะออกจากห้องน้ำแท้ๆ ตัวก็ยังไม่ได้เช็ด แป้งก็ยังไม่ได้ประ แล้วจะเอาเวลาไหนไปใช้น้ำหอมกันล่ะ“ฉันยังไม่ได้ใช้น้ำหอมเลยนะหลิน”“แล้วกลิ่นอะไรล่ะ เหม็นจะตาย ไปไกลๆ เลย”ไม่เพียงแค่พูดแต่สองมือเล็กยังผลักไสให้ออกจากห้องนอนด้วย โคตรจะหงุดหงิดและโม
“หลินเป็นห่วงกลัวแม่เหนื่อย เลยบังคับให้ผมพามาช่วยงานน่ะครับ ตอนนี้เธออยู่ข้างนอกครับ กำลังสั่งงานพนักงานอยู่” เทพกานต์ตอบใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างดีใจที่วันนี้แม่ถามถึงเมียรักที่อยู่ดีๆ ก็เป็นลมขึ้นมาท่ามกลางความตกใจของพนักงานซึ่งกำลังทำงานกันจนตัวเป็นเกลียว ตอนนั้นคนที่อยู่ด้วยก็ดันไม่ใช่เขาแต่เป็นมารดา กว่าเขาจะรู้ว่าหญิงสาวไม่สบายก็เป็นเวลาค่ำแล้วแม้ว่าเรื่องนั้นจะเกิดมาได้นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลาถึงหกเดือนแล้ว แต่เขายังคิดเหมือนกับเพิ่งจะเกิดขึ้นมาเมื่อวานนี้เอง มารดาโกรธและรับไม่ได้กับสิ่งที่รมย์นลินและเขาได้กระทำไว้ แม่ด่าเขาชนิดที่ว่าหูชาอย่างไม่เห็นเป็นลูก เพราะไม่เคยเลี้ยงให้เขาเป็นผู้ชายรังแกผู้หญิง เป็นคนเห็นแก่ได้และมักมาก แต่ก็อภัยเพราะลูกก็คือลูก แต่สำหรับรมย์นลินแม้จะทำตัวดีแค่ไหน แต่สิ่งที่เธอทำไว้ก็ไม่ได้รับการให้อภัยจากจิราพรอยู่ดีเขายังจำภาพที่หญิงสาวนั่งหน้าซีด ดวงตากลมโตหวานอมโศกเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมและสำนึกในความผิดที่ได้กระทำไว้“หลินกราบขอโทษท่านประธานนะคะที่ทำลายความรักความเอ็นดูและหวังดีที่มีให้ หวังว่าท่านประธานจะใจกว้าง ยอมยกโทษให้คนที่ทำผิดแล้วสำนึกได้ ยอมให
ร่างโปร่งบางลุกขึ้นวางมือบนมือใหญ่และนั่งลงบนตักกว้าง สองแขนโอบรอบลำคอแข็งแกร่งและหันหน้าไปหาชายหนุ่มอีกคนที่ทำอย่างเดียวกับเพื่อนรักของเธอ แต่ดูจะมากกว่า ด้วยสองมือใหญ่ที่รั้งสองแก้มนุ่มและดึงรั้งให้โน้มไปหาใบหน้าคมคร้ามที่รอรับจุมพิตเร่าร้อนและวาบหวาม เห็นแล้วก็ปั่นป่วนในช่องท้องจนต้องหันมามองเทพกานต์ตาปรอย นิ้วยาวใหญ่ยกขึ้นบีบจมูกเล็กโด่งเบาๆ “เอาไว้ค่อยจูบตอนที่เราอยู่กันสองต่อสองดีกว่าหลิน เดี๋ยวฉันระงับใจไม่ไหวยืมห้องเจ้าฉัตรรักเธอแล้วจะยุ่ง” “บ้าจริงเชียวเทพนี่ คนอะไรหน้าไม่อาย” มือเล็กยกขึ้นทุบอกกว้างเบาๆ กระไอร้อนไล่ขึ้นจากกึ่งกลางเรือนกายสู่สองพวงแก้มนุ่มอย่างรวดเร็ว “จะอายทำไม ก็คนมันรักมันคิดถึงนี่นา” “เมื่อกี้คุยอะไรกัน หน้าเครียดเชียว” รมย์นลินเอ่ยถามเสียงนุ่ม มองเทพกานต์สลับกับฉัตรจักรก่อนจะไล่ไปหาแพรพนัสที่นั่งเขินหน้าแดงจนต้องซุกใบหน้ากับลำคอกว้าง จากที่ยังมีความกังวลในวันที่ได้รู้ว่าแพรพนัสยอมอยู่กินกับฉัตรจักร แต่มาถึงวันนี้ ได้เห็นเพื่อนรักมีความสุข เธอก็พลอยดีใจด้วย หวังเพียงฉัตรจักรจะรักและมั่นคง เติมเต็มความรักให้กับแพรพนัสอย่างเต็มที่ สัญญาจากใจที่จะไม่เอ
“ตอบ...ตอบแล้ว” รมย์นลินรีบบอกโดยไว ริมฝีปากห่ออู้ สะโพกขยับส่ายตอบรับเสาเข็มที่ตอกลงมาช้าๆ เนิบนาบและมั่นคง “ฉัน...ฉันกับรินเราเป็นคนเดียวกัน” เพราะรู้ดีว่าบทลงโทษเธอคงไม่หยุดเพียงแค่เพลิงพิศวาสบทนี้แน่ ตอบช้าเท่าไหร่เธอก็จะยิ่งแย่ ตอบเร็วอาจจะดีหน่อยคงพอมีเวลาได้พักทำใจใบหน้าคมคร้ามแย้มยิ้มกว้างแทบจะฉีกถึงใบหู สะโพกสอบจุ่มจ้วงโถมเพลิงเสน่หาใส่กายนุ่มอย่างอ่อนโยนแต่ถี่รัว เพื่อให้รางวัลแก่คนน่ารักที่ยอมบอกความจริงเขามันพวกละโมบและโลภมาก ใจก็คงจะโลเลไม่น้อย ถึงได้ชอบอรินธวัชและรักรมย์นลิน ที่เมื่อรู้ว่าทั้งสองคนเป็นคนเดียวกัน...เป็นคนที่เขารักสุดใจอีกด้วย ที่ตอนนี้ความสุขโอบรอบจนรู้สึกเหมือนกับโลกทั้งโลกกลายเป็นสีชมพู แต่ก็ยังมีอีกสิ่งที่ยังต้องได้รู้และในเดี๋ยวนี้ด้วย“หลินจ๋า...รักฉันหรือเปล่าคนดี”“รัก...รักมาก รักที่สุด”ในเมื่อรัก...ทำไมถึงทำร้ายกัน ตอนนี้มาให้ความหวังแล้วยังจะทิ้งไปอีก เทพกานต์ก็ไม่ยอมให้ความอยากรู้ค้างคาอยู่นาน “รักฉันแล้วทำร้ายฉันทำไม”“ทั้งรัก ทั้งเกลียด ทั้งแค้น นายทำฉันเจ็บมากนะ ทำให้ฉันหมดอนาคต ทำให้ฉันช้ำใจ เกือบจะถูกคนข่มเหงอีก อย่างนี้แล้วนายจะให้ฉันเ
“นาย...จะทำอะไร…เทพ”“แค่อยากรู้ เธอเอาสมองที่ไหนมาคิดเรื่องร้ายๆ พวกนี้”“จากความเจ้าเล่ห์ของนายและ...อ่านจากหนังสือเอา”“หืม...” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย “ฉันเจ้าเล่ห์ขนาดปลอมแปลงตัวเองเป็นผู้ชายหน้าหวานได้ด้วย”รมย์นลินกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ใจแกว่งๆ เมื่อคิดว่าเรื่องอรินธวัชแตกแล้ว แต่...เป็นไปได้ยังไงกันล่ะ “นายพูดเรื่องอะไรเทพ...ฉันไม่รู้เรื่อง” สะดุ้งเฮือกเมื่อเจอพิษนิ้วร้อนผ่าวที่จัดการร่ายมนตร์สวาทใส่ทรวงอกสล้าง“คำถามฉันไม่เห็นจะยากเลยนะหลิน...แค่บอกความจริงมา เธอกับอรินธวัชเป็นอะไรกัน ก็แค่นั้น มันยากนักหรือไง”คำถามง่ายๆ แต่ตอบยากสำหรับเธอนะสิ! ใช่! ก็โดนชุดใหญ่ ไม่ใช่ก็...ได้โดนบีบจนคอหมุนได้รอบกันล่ะแม้จะโดนศึกหนักเล่นงานสมองเลยทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่เพราะคิดไว้แล้ววันหนึ่งจะต้องเจอกับคำถามนี้ ใบหน้าสวยหวานจึงมีรอยยิ้มเล็กน้อยให้อีกฝ่ายได้กระชุ่มกระชวยและใจเต้นแรง“เรื่องแค่นี้เอง รินก็เป็นผู้ชายที่แปลงเพศแล้วไง ฉันกับรินเราเป็นเพื่อนกัน ทำไมล่ะ” หญิงสาวตอบกลับอย่างไม่รู้ไม่ชี้“แน่ใจน่ะว่าตอบฉันอย่างนี้...รมย์นลิน” เทพกานต์ถามพร้อมหัวเราะกลั้วคอ กายใหญ่เริ่มขยับเคลื
“แม่ตัวแสบเอ๊ย! ฉันน่าจะบีบคอเธอทิ้งจริงๆ นะนี่” เทพกานต์สบถด้วยความหงุดหงิด เขาน่าจะนึกได้ตั้งนานแล้ว แต่ดันปล่อยให้ความต้องการทางกายอยู่เหนือทุกสิ่ง โมโหแทบเป็นบ้าตอนที่สวรรค์ล่มกลางคัน เมื่อนลินแสร้งกลัว เพื่อเสือกไสเขาไปให้กับอรินธวัชที่ก็เสียบเข้ามาอย่างรู้เวลาเสียด้วยสิอะไรที่ทำให้น่าสงสัยน่ะหรือ ถ้าคืนนั้นให้เขาไปหาเลย ก็จะเตรียมตัวไม่ทัน จึงต้องหลอกให้ไปซื้อดอกไม้ แต่เอาเข้าจริงไม่เห็นอรินธวัชสนใจมอง อีกอย่างคือร่างโปร่งบางใต้ม่านน้ำ เพราะมัวหลงในกายขาวนวลเลยลืมกลิ่นเนื้อกายสาวหอมๆ เหมือนรมย์นลินเป็นที่สุด จึงไม่ทันจะสังเกต จับพิรุธไอ้ตัวแสบไม่ทัน“ไอ้จอมเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการเอ้ย!” สบถแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้มนับตั้งแต่วันที่รมย์นลินมาอยู่บนเตียงนอน อรินธวัชก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ดูสมเหตุสมผล ทำให้ค่อนข้างจะมั่นใจ...รมย์นลินและอรินธวัชคือคนเดียวกัน! ที่ยังไงคนที่จะยืนยันได้ก็คือ...“ฉันจะรีดเอาความจริงจากเธอยังไงดี...หลิน” ยากไม่ใช่เล่นอยู่นะ การต้องรีดเอาความจริงจากปากแม่ตัวแสบจอมเจ้าเล่ห์และช่างวางแผน แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องทำนิ้วยาวลูบไล้ปลายคางแกร่ง ใบหน้าเข้มขมวดเข้าหากันจนห
สะโพกสอบสะบัดไหวโยกซ้ายย้ายขวาล่อหลอกให้ตามติด แต่กลับใช้สองมือดึงรั้งให้รอรับส่วนสัดที่อัดแน่นเหมือนลิ่มเหล็กที่ตอกบนเสาเข็ม“นัสจ๋า...ที่รักมีความสุขไหม รักฉันหรือเปล่าคนดี”“รัก...รักนายที่สุดเลยฉัตร” แพรพนัสตอบกลับ ริมฝีปากอวบอิ่มขมเม้มลำคอกว้าง ระบบภายในกระชับเสาเข็มใหญ่ที่ตอกลงมาอย่างหนักหน่วง ถี่รัวเร็วและรุนแรงอย่างไม่ยอมแพ้กายใหญ่ก้าวเดินอีกครั้งไปหยุดตรงหน้ากระจกเงาบานใหญ่ มือปลดลำขาเสลาลงทีละข้างอย่างเชื่องช้าทั้งที่สะโพกยังขยับเคลื่อนไหวอยู่ สองร่างทาบทับแผ่นหลังเนียนนุ่มแนบชิดอกกว้าง สะโพกกลมกลึงบดเบียด กุหลาบดอกน้อยกลืนกินภมรใหญ่ ในขณะทรวงสล้างก็ตกอยู่ในการครอบครองของสองมือหนา“รักฉันซินัส รักฉันเลยคนดี”“จ้ะ...จ้ะ...” แพรพนัสตอบรับด้วยการขยับสะโพกรับการเคลื่อนไหวที่หนักหน่วงและถี่รัวเร็ว เกี่ยวก้อยสองกายก้าวผ่านดินแดนมนุษย์ขึ้นไปพำนักบนสุดขอบฟ้าสุขาวดีในฉับพลัน เสียงร้องทุ้มนุ่มและหวานเชื่อมแหบพร่าดังสอดประสานกับสองกายาที่แนบชิดจนเป็นเนื้อเดียวกัน สายธารร้อนผ่าวไหลล้นออกจากกายเล็กเปรอะเปื้อนลำขาเสลา แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจ มือเรียววางทับบนแขนแข็งแกร่งและส่งยิ้มหวานเ
แม้ไม่เข้าใจ เขาสั่งให้ทำอย่างนั้นทำไม แพรพนัสก็ยินยอมทำตามแต่โดยดี กายเล็กขยับเคลื่อนไปจนสองมือจับขอบหัวเตียงนอนได้ ท้องน้อยแบนราบเรียบขมวดเกร็ง เมื่อจุมพิตร้อนผ่าวเริ่มขยับเคลื่อนจากสองบัวตูมลงไปด้านล่างทีละน้อยๆ เรียวลิ้นอุ่นชื้นสอดแทรกตวัดไล้หยอกล้อกับช่องสะดือบุ๋ม“ฉัตร...” ร้องเรียกเสียงแหบพร่า รับรู้ว่าชั้นในตัวน้อยค่อยๆ ถูกเกี่ยวรูดออกจากกายลงไปกองร่วมกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ ที่หล่นไปก่อนหน้า พร้อมจุมพิตที่ประทับบนความนุ่มและอ่อนไหวไวต่อการสัมผัส ลมอุ่นๆ เป่ารดเส้นไหมนุ่มทำให้ได้รู้ เขากำลังจะทำอะไร แม้อยากจะห้ามปราม แต่กายและใจกลับรอคอยสองมือใหญ่ขยำนวดบั้นท้ายเต่งตึง พร้อมยกขึ้นสูงจนลอยเด่นเหนือใบหน้า กุหลาบดอกงามเคลื่อนไหวระริกตรงหน้า จนชายหนุ่มต้องปาดเลียริมฝีปากด้วยความกระหาย ริมฝีปากหนาร้อนขบไล่ขาหนีบเบาๆ ไล่วนตามต้นขาด้านในและซบนิ่งบนเนินเนื้อรังไหม สูดกลิ่นสาบกายสาวหอมกรุ่นที่โชยมาอย่างรุนแรง ปลายลิ้นสากระคายลากไล้วนเวียนรอบเกสรสีแดงสดสลับริมฝีปากอ้างับ“อืม...ฉัตร...อย่าทรมานฉันซิ...” แพรพนัสเว้าวอนเสียงหวานพร่า ส่ายสะโพกรับจุมพิตร้อนๆ ที่ทาบทับเคลื่อนไหวเหมือนผีเสื้อตัว