ทางด้านยอดนรีเมื่อหลบหน้าเขาเข้ามาในห้องน้ำก็จ้องหน้าแดงก่ำของตัวเองอยู่ในห้องน้ำอย่างขัดเขินกับความใจกล้าบ้าบิ่นของตน บวกกับคำท้าทายแกมให้กำลังใจของจารณที่บอกกับเธอว่า สมัยนี้ผู้หญิงไม่ต้องรอให้ผู้ชายเป็นฝ่ายเริ่มหรอก หากมั่นใจว่าคนนี้คือใช่ คือคนที่เลือกก็รุกเสียเอง เปิดหน้าลุยเลยขืนชักช้าจะเสียโอกาสดีๆ ไป เพราะคนอย่างเจคอปนั้นเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ ผู้หญิงที่ไหนก็อยากได้เขาอยากครอบครองเป็นเจ้าของเขา และแน่นว่า เธอไม่มีวันยอมให้ใครมาฉกเขาไปจากมือแน่นอน เจคอปจะต้องเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้นชะนีหน้าไหนก็อย่าบังอาจมาแย่ง...
“แต่จำไว้อย่างนะยอด อย่าไว้ใจใครบนเกาะนี้..โดยเฉพาะคนในคฤหาสน์ หรือแม้แต่คนที่เหมือนไม่มีอะไรให้ต้องกลัว..”
แล้วยอดนรีก็อดที่จะนึกถึงคำพูดของจารณก่อนจะแยกจากกันไม่ได้ คำพูดนั้นหนักแน่นจริงจังและแฝงไว้ด้วยความห่วงใย จริงใจ...
“รวมทั้งพี่จิมด้วยหรือคะ”
“ใช่..” เขาตอบจริงจัง
“เพราะบางครั้ง คนเราก็อาจจะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการก็ได้ และนั่นล่ะคือสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด..”
“พี่จิม..”
“จำไว้นะ อย่าลืม ระวังตัวให้ดีๆ และรีบทำตามฝันซะ..” ไม่วายที่เขาจะย้ำให้เธอทำในสิ่งที่ตัวเองวาดฝันและต้องการ
“มันคืออะไรกันนะ พี่จิมพูดแปลกๆ มันต้องมีอะไรสิน่า”
หญิงสาวบ่นงึมงำกับตัวเองก่อนจะสลัดศีรษะแรงๆ แล้วหยุดคิดฟุ้งซ่าน รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปรับประทานอาหารรวมกับทุกคน...
ยอดนรีเดินออกมาจากห้องในเวลาโพล้เพล้ แสงตะวันยามเย็นลอดผ่านกระจกที่ประดับตกแต่งบานหน้าต่างดูหรูหรางดงามราวภาพวาด หญิงสาวเดินไปที่ระเบียงเพื่อพิศมองความงดงามนี้อย่างอดใจไม่ไหว จึงไม่ได้เห็นว่ามีสายตาที่มาดร้ายจ้องมองตนอยู่
ร่างระหงกำลังชื่นชมอยู่กับบรรยากาศแสนสวยทว่าเงียบสงัด เพราะในช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีสาวใช้เดินเพ่นพ่านหรือทำงานบนตึก เนื่องจากนี่คือช่วงเวลาเลิกงานของพวกเขานั่นเอง ดังนั้นบนตึกใหญ่ของคฤหาสน์ คนที่จะมีสิทธิ์เดินไปมาได้คือ ผู้ที่อาศัยอยู่บนตึกเท่านั้น นั่นก็คือ มีตัวเธอเอง เจคอป จารณ นางจารุวรรณ นายจรัญและคุณยาย อ้อ.. แล้วเพิ่มเติมมาอีกสองคน คือคนเฝ้าหน้าห้องของคุณยาย ซึ่งเป็นคนของเจคอป และสองคือคนที่เธอรู้จักดี เพราะเป็นลูกน้องฝีมือดีของชายหนุ่ม ชื่อ แม็ค และ เอกรัตน์ ซึ่งสองคนนั้นจะประจำการอยู่ที่บริเวณปีกตึกฝั่งห้องของคุณยายเท่านั้น และพักห้องติดกับคุณยาย และตั้งแต่มีสองคนนี้มาช่วยดูแลและเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้คุณยาย เจคอปดูจะผ่อนคลายและเครียดน้อยลง
ยอดนรีจับราวระเบียงกว้างไว้แล้วเงยหน้ามองฟ้าสีส้มทองพร้อมทั้งสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึกๆ ดวงตางามหลับพริ้ม จึงไม่ได้เห็นว่ามีเงาตะคลุ่มๆ เงาหนึ่งเดินมาข้างหลังอย่างเงียบกริบ ฝีเท้าเบาแสนเบาจนเธอซึ่งเป็นคนที่ประสาทสัมผัสทางด้านการได้ยินดีมาก ยังไม่ทันรู้สึกตัว
“อุ๊ย.. ว้าย..กรี๊ดดดด..”
ยอดนรีกรีดร้องเสียงหลงรู้สึกใจหล่นวูบเมื่อมีมือของใครบางคนผลักแผ่นหลังของตนอย่างแรงจนเธอแทบจะพลัดตกจากระเบียง แต่ดีว่าเธอคว้าราวระเบียงไว้มั่นและกระถางดอกไม้ที่ประดับเรียงรายอยู่บนชั้นที่ตกแต่งระเบียงอย่างสวยงามนั้น ตกแตกดังสนั่นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของเธอ
ยอดนรีหันขวับมามองว่าใครที่กล้าทำกับเธอแบบนี้ทันได้เห็นแผ่นหลังไวๆ ของร่างใครคนหนึ่งในชุดสีดำวิ่งหลบหายไปตรงมุมเสา เธอลุกขึ้นรีบวิ่งตามไปอย่างไม่คิดชีวิต ในขณะเดียวกันเจคอปกับเอกรัตน์ก็วิ่งมายังทิศทางที่พวกตนได้ยินเสียง และเขาก็ทันได้เห็นแผ่นหลังของยอดนรีที่วิ่งตามคนร้ายไปอยู่ไวๆ
“แกอยู่ที่นี่ ไม่ต้องตามไป”
เจคอปบอกแล้ววิ่งตามยอดนรีไปทันที เอกรัตน์นั้นเตรียมพร้อมและกวาดตามองรอบๆ ตัวอย่างระแวดระวังตามสัญชาตญาณ...
“ยอด..” เจคอปข้อมือของเธอเอาไว้ก่อนที่ยอดนรีจะวิ่งเตลิดไปมากกว่านี้ และเขาเห็นว่าทางที่เธอจะเตลิดไปนั้นคือ หน้าผา...
“พี่เจค..” ยอดนรีหันขวับมามองเขาหน้าตื่น
“เมื่อกี้..”
“พี่เห็นแล้ว..”
“เห็นหรือคะ เห็นคนร้ายแล้วใช่ไหม มันเป็นใครคะ”
“เปล่า.. ที่พี่เห็นก็คือยอดวิ่งเตลิดมาจนจะตกหน้าผา..”
เขาบอกด้วยสีหน้าตื่นตกใจทำให้ยอดนรีได้สติมองตามสายตาของเขา แล้วก็รีบถอยหลังมาสองสามก้าวสวมกอดเขาไว้แน่นตัวสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อไม่กี่ก้าวตรงหน้าเธอคือทางเดินของระเบียงที่ชำรุดและกำลังซ่อมแซมอยู่
แต่ว่า.. ป้ายที่เตือนว่ากำลังซ่อมแซมมันหายไป ยอดนรีมองตามพื้นทางเดินที่ขาดช่วงไปยังอีกด้านที่เธอเห็นว่าร่างเงาดำๆ นั้นวิ่งลับหายไปอย่างครุ่นคิด แต่เธอแน่ใจว่าสิ่งนั้นคือคน ไม่ใช่สิ่งเร้นลับแต่อย่างใด เหมือนว่าคนคนนั้นจงใจให้เธอคิดว่าเธอถูกโจมตีจากสิ่งเร้นลับ ที่เธอเชื่อเช่นนั้นก็เพราะว่าเธอคว้าผ้าที่มันใช้คลุมศีรษะได้น่ะสิ
“วิ่งมาทางนี้ทำไม รู้อยู่ไม่ใช่หรือว่าเขากำลังซ่อมทางเดิน”
เจคอปลูบหลังลูบไหล่เธออย่างปลอบโยน กิริยาของเขาอ่อนโยนนัก ยอดนรีใจพองฟูขึ้นมาหลังจากที่มันเหี่ยวแฟบไปเมื่อครู่ก่อน
“นี่ค่ะ..” เธอชูผ้าสีดำในมือให้เขาดู
“มีคนจะผลักยอดตกระเบียง ยอดวิ่งตามมาและคว้าบางอย่างจากมันได้..” แล้วเธอก็บอกเล่าในสิ่งที่เธอพบเจอและคิด
“นั่นแสดงว่า คนร้ายมันจ้องเราอยู่และหาโอกาสจะทำร้ายเรา”
“ใครน่าสงสัยสุดคะ”
หนุ่มสาวประคองกันกลับมาที่หน้าห้องของคุณยาย ซึ่งมีโซฟาตัวใหญ่ให้นั่งพักผ่อน และเพื่อมาดูอาการของคุณยายด้วย
“ตอนนี้ทุกคนน่าสงสัย”
“รวมเราทั้งสี่คนด้วยหรือคะ” หญิงสาวมองหน้าเขากับแม็คและเอกรัตน์
“สองคนนี้อยู่กับพี่ตอนที่ยอดร้องกรี๊ดแปดหลอดนั่น”
“โล่งอกไป นึกว่าจะต้องระแวงพี่แม็คกับพี่เอกเสียอีก” เอกรัตน์กับแม็คหัวเราะกับคำพูดของเธอและไม่ได้ถือสาอะไร
“มันคิดจะเอาชีวิตคุณยอดเลยนะครับคุณเจค”
“มันคิดจะเอาชีวิตทุกคนนั่นล่ะ แต่ฉันยังอยากจะแน่ใจอีกนิด อยากให้แน่ใจมากกว่านี้”
“พี่เจครู้หรือคะว่าใคร” หญิงสาวตาโต เจคอปทำมือจุ๊ปากทำให้เธอต้องหุบปากไว้แน่น
“ยัง..”
ตอนที่9.“อำกันรึเปล่าคะเนี่ย”“ไม่.. แค่สงสัย แต่มันยังบอกไม่ได้ พูดไปจะเป็นการให้ร้าย เอาล่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ”“ใครจะกินลงเนี่ย เจอเรื่องเฉียดตายมา”“แต่ยอดก็ต้องกิน คืนนี้จะเผด็จศึกพี่ไม่หรือไง”เจคอปเอ่ยขึ้นขณะเดินจูงมือเธอไปยังห้องรับประทานอาหาร ยอดนรีหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อเขาพูดถึงสิ่งที่เธอหมายมาดเขาไว้ก่อนหน้า“พี่เจคน่ะ” เจคอปหัวเราะเบาๆ อย่างพอใจกับหน้าแดงๆ ของเธอ“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ อรได้ยินเสียงร้อง” อรชรวิ่งหน้าตื่นมาหาพวกเขา“ไม่มีอะไรหรอกอร แค่เรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยน่ะ” เจคอปตอบ“จริงหรือคะ แต่ว่าอรได้ยินเสียง..”“คือแบบนี้จ้ะอร เมื่อกี้มีคนจะทำร้ายยอดน่ะ” ยอดนรีโพล่งขึ้นมาโดยไม่สนใจสายตาห้ามปรามของเจคอป“ตายจริง จริงหรือคะ คุณยอดแน่ใจหรือคะว่าเป็นคน” อรชรหน้าตื่นหันซ้ายหันขวาด้วยท่าทางหวาดผวา“ทำไมหรือ ถ้าไม่ใช่คนจะเป็นอะไร” “ผีไงคะ.. ผีท่านเจ้าเกาะ..”“ผีหรือ..” ทั้งเจคอปกับยอดนรีพูดขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจระคนแปลกใจ ก่อนจะหันไปสบตากัน...“เอาล่ะๆ ช่างมันเถอะ ยอดไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เราไปกินข้าวกันเถอะ เออ.. อร.. เรื่องนี้อย่าบอกใครนะ เดี๋ยวทุกคนจะตกใจเปล่าๆ”“ค่
ตอนที่10.“ยอดจ๋า.. สวยเหลือเกินคนดีของพี่เจค”เจคอปครางกระเส่าในลำคอเมื่อทรวงอกอวบอิ่มกลมกลึงไหวสะท้านตามแรงหอบหายใจนั้น ส่งผลให้ปลายยอดสีชมพูอมแดงระเรื่อหดเกร็งเป็นไตไหวระริกท้าทายสายตา ลาดไหล่เนียนละมุนกับเรียวแขนเสลา เอวเล็กแบบบางที่แทบจะสามารถโอบรอบด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว หน้าท้องเนียนเรียบกับสะดือบุ๋มน่ารักและต่ำลงไปกว่านั้น ที่แม้ว่าจะมีชั้นในบางๆ กางกั้น แต่ก็ทำให้เขาลำคอแห้งผากขึ้นมาทันที ดวงตาคมพยายามมองเลยผ่านจุดนั้นไปเพื่อมองเรียวขาเพรียวได้รูป เธอมีขาที่สวย สวยกว่าผู้หญิงที่เขาเคยควงบางคนเสียอีก และเขาก็อดที่จะนึกถึงตอนที่มันเกี่ยวรอบเอวของเขา ในยามที่เขาพุ่งทะยานควบขับอยู่ในร่างสาวของเธอไม่ได้พระเจ้า... มันจะให้ความรู้สึกแสนวิเศษแค่ไหนนะ เจคอปคิดในใจอย่างหมายมาดว่า เวลานั้นจะต้องมาถึงในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน...“อย่าปิด ยอดจ๋า สวยมาก สวยที่สุด.. พี่เจคขอนะครับคนดี..”เจคอปครางเบาๆ พลางจับมือเล็กที่พยายามจะปิดทรวงสาวอวบอิ่มของตนจากสายตาคมด้วยอย่างเอียงอายออกช้าๆยอดนรีครางแผ่วพร่า อย่ายอมพ่ายแก้แก่แรงเสน่หา หญิงสาวอ่อนแรงเกินกว่าจะต้านทานแรงรั้งจากมือหนาของเขาได้ ทั้งแ
ตอนที่11.วันนี้ดูคุณยายอาการดีขึ้นมาก สามารถตอบสนองสิ่งรอบกายได้ดี เช่น สามารถเอียงคอ กลอกตามองตามวัตถุได้ดีขึ้น และยังออกเสียงได้บางคำแล้ว นับว่าสิ่งที่ยอดนรีเพียรพยายามเพื่อทำให้คุณยายหายดีขึ้นนั้นประสบความสำเร็จมากทีเดียว แต่เรื่องนี้มีเพียงเธอกับเขาเท่านั้นที่รู้ว่าอาการของคุณยายดีขึ้น“กินเสียทีสิคะ มองหน้ายอดอยู่ได้”“ก็กินไปมองหน้าเมียไปไงครับ”“พี่เจค..” หญิงสาวหน้าแดงก่ำ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า อดีตนายตำรวจหนุ่มมาดเข้มดุดัน ที่ก่อนหน้าจะมาลงเอยอย่างทุกวันนี้ เขากับเธอก็เรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาเลยก็ว่าได้ แม้ว่าเธอจะได้มาทำงานเป็นแม่บ้านให้เขา แต่เธอก็กวนประสาทและชวนเขาทะเลาะด้วยอยู่บ่อยๆ และทุกครั้งเจคอปก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เถียงเธอไม่เคยทัน และยังตามมุขเธอไม่ทันอีกต่างหาก สุดท้ายเขาเลยยกธงขาวยกให้เธอเป็นหนึ่งในบ้าน เขาเป็นเจ้านายผู้อาศัยบ้านของลูกจ้างอย่างเธออยู่“ตลกดีแท้ ฉันเป็นเจ้าของบ้าน จ่ายค่าจ้างให้เธอทุกเดือนแถมยังต้องซื้อข้าวของเข้าบ้าน แต่สถานะเหมือนผู้อาศัย เข้าบ้านมาแต่ละครั้ง เหมือนมาขออาศัยบ้านเธออยู่เลยนะ”เจคอปเคยพูดแบบนั้นกับเธอ เมื่อเข้าบ้านมาเขาจะต้อ
ตอนที่12.จนเมื่อปีที่แล้วที่สองพ่อลูกก็ถูกดึงตัวกลับไปทำงานบนฝั่งเพื่อดูแลงานบนแผ่นดินใหญ่ ก่อนหน้านี้นายสาโรจน์ต้องดูแลงานต่างๆ บนเกาะแทนผู้เป็นนายอย่างเคร่งครัด โดยไม่บิดพลิ้วแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะเคยเห็นแม่กับพ่อของตนติดสินบนต่อนายสาโรจน์มาหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่เคยสำเร็จ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองจงเกลียดจงชังนายสาโรจน์กับริสามากและนั่นมันก็เป็นจุดด่างพร้อยอย่างหนึ่งในชีวิตของเขา เพราะเขาได้เผลอกระทำในสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ในชีวิต...“ไปได้แล้วตาจิม และอย่าทำให้แม่ผิดหวังล่ะ ทำให้สำเร็จเหมือนคราวก่อนนะลูก”นางจารุวรรณยิ้มย่อง แต่ผู้เป็นลูกหน้าเจื่อนซีดลงก่อนจะหมุนตัวเดินตามเจคอปไปเงียบๆ“คิดว่าจะสำเร็จไหม ตั้งแต่คราวก่อน ตาจิมมันดูเปลี่ยนไปมากนะ” ผู้เป็นสามีหันมามองภรรยาเมื่อลับหลังลูกชายแล้ว“สำเร็จสิ ยังไงซะ มันก็ต้องทำตามที่เราต้องการอยู่แล้ว เพราะตาจิมมันคนใจอ่อนไงล่ะ ดังนั้นเราก็ต้องใช้ความใจอ่อนของเขาให้เกิดประโยชน์กับเรามากที่สุด”“แต่ตาจิมเป็นลูกเรานะจา เราทำแบบนี้กับลูกไม่เกินไปหน่อยเหรอ” สามีทำทีหยั่งเชิงดูที“นี่คุณจรัญ จะมาทำตัวเป็นพ่อผู้ประเสริฐตอนนี้ไม่ช้า
ตอนที่13.“มีอะไรให้รับใช้คะนายหญิง”“จัดการเก็บกวาดตรงนี้ซะ” เธอชี้มือไปที่ซากนก สาวใช้สองคนหน้าซีดแถบผวากอดกัน“อะไรกัน ก็แค่นกตาย รีบเก็บกวาดซะ ไม่มีอะไรหรอก” ยอดนรีบอกเรียบๆ“ค่ะๆ นายหญิง นังนุ่นไปหยิบไม้ถูกับไม้กวาดมา” สาวใช้รับคำแล้วรีบจัดการทันที“นุ่นกับแนนเอานกไปฝังนะ แล้วก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะมันไม่มีอะไร แค่นกตายตัวเดียวเท่านั้นเอง”พูดจบยอดนรีก็เดินกลับห้องของตัวเอง แต่เธอยังรู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคนจดจ้องมองตนอยู่ตลอดเวลาด้วยความไม่ประสงค์ดี แต่สิ่งที่เธอแสดงออกมาให้เห็นก็คือ อาการสงบนิ่งเหมือนไม่ได้หวาดวิตกใดๆ“พี่เจคคะ ยอดว่ามันแปลกๆ” เมื่ออยู่กันตามลำพังและสนิทสนมกันมากขึ้น เสมือนสามีภรรยากันจริงๆ แต่ตอนนี้เธอกับเขาก็เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วนี่นาทั้งนิตินัยและพฤตินัยด้วย..“ยังไง..”“ก็วันนี้...” แล้วเธอก็เล่าเรื่องราวที่ตนพบเจอให้กับชายหนุ่มฟัง“แถมตอนที่ยอดพาคุณยายไปเดินเล่นน่ะ เหมือนมีคนพยายามจะทำเหมือนว่ามีอะไรเรียกร้องความสนใจให้ยอดไปดูและทิ้งคุณยายไว้ แต่ยอดก็ให้พี่เอกไปดูแทนแต่ก็ไม่มีอะไร”“ยอดกลัวรึเปล่า..” เขาโอบกอดเธอไว้ ใช้นิ้วพันผมเธอเล่นอย่างเพลิดเพลิน
ตอนที่14.“กล้องวงจรปิดใช้ได้แล้วนะครับ..” เจคอปบอกทุกคนที่อยู่ภายในโต๊ะรับประทานอาหารในเช้าวันถัดมา นางจารุวรรณชะงักแล้วหันไปสบตากับสามีที่ก็เงยหน้ามองสบตานางเช่นกัน“อ้อ.. หรือจ๊ะ ก็ดีนะ ป้าน่ะกังวลอยู่ตั้งนานว่าตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นแล้ว ช่างก็เหมือนหายหัวไปเลย โทร. แจ้งไปที่บริษัทตั้งหลายหน บอกว่าส่งช่างมาแล้วๆ แต่ผ่านไปเป็นเดือนช่างก็ไม่โผล่หัวมาสักคน นี่หากเจคไม่มา เราก็อยู่กันอย่างหวาดระแวงแบบนี้” นางกล่าวขึ้นด้วยท่าทางที่แสดงออกว่าโล่งใจ“ขอบคุณนะครับพี่เจค” จารณเอ่ยขึ้น“ไม่ต้องขอบคุณหรอก พี่ทำเพื่อเราทุกคนนั่นล่ะ วันนี้จิมดูแลงานในออฟฟิศแทนพี่ได้ใช่ไหม พี่จะออกไปดูคนงานที่ฟาร์มหอยมุก มีเรื่องต้องเคลียร์”“ให้ผมไปช่วยไหม”“ไม่ต้องหรอก เรื่องนี้พี่จัดการได้ เราอยู่จัดการงานทางนี้เถอะ”เจคอปบอก จารณยักหน้าเนือยๆ ในใจของเขานั้นยังคงไม่พร้อมจะรับงานตรงนี้เลยแต่ก็ขัดไม่ได้“จริงๆ แล้วป้าสามารถช่วยงานตาจิมได้นะเจค ให้ป้าช่วยไหม ให้ป้าทำตำแหน่งเดิมก็ได้”ตำแหน่งเดิมของนางจารุวรรณก่อนแต่งงานกับนายจรัญคือ พนักงานบัญชี แต่สิ่งที่นางเคยก่อไว้นั้นทำให้เจคอปต้องยิ้มบางๆ“ไม่เป็นไรครับคุ
ตอนที่15.“เจ้าเกาะ คือฉันนี่ไง ไม่มีเจ้าเกาะที่ไหนอีก หากพวกนายจะพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเกาะนี้ ก็คือฉันที่เป็นเจ้าของเกาะ แล้วที่นี่ไม่เคยมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น เพราะปู่ย่าท่านปกปักรักษาที่นี่มาช้านานให้ลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุข และทายาททุกรุ่นของเกาะก็รักและดูแลที่นี่อย่างดี ชาวเกาะทุกคนต่างก็รับรู้และอยู่กันแบบสงบสุขเรื่อยมา ไม่เคยมีอะไรที่จะทำให้พวกเขาหวาดผวาหรือหวาดกลัว และหากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ก็คงจะมองเห็นคนชั่วบางคนที่พยายามจะทำลายความสงบสุขของคนบนเกาะ ฉันคิดว่าปู่ย่าเจ้าเกาะคงจะรู้ว่าใครที่คิดร้ายต่อพวกเรา และท่านคงกำลังบอกใบ้อยู่แน่ๆ ว่ามีคนไม่หวังดีต่อเกาะของเราว่าไหม สิน...”ปู่ย่าเจ้าเกาะ ที่ทุกคนพูดถึงนั้นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนบนเกาะเคารพนับถือ ซึ่งมีศาลขนาดใหญ่งดงามตั้งอยู่บนหน้าผา และมองเห็นจากที่ตรงนี้จะเห็นศาลปู่ย่าเจ้าเกาะจะเด่นเป็นสง่าอยู่บนหน้าผา ทุกปีจะมีการสักการะ กราบไว้บูชาด้วยอาหารหวานคาว ผลไม้และเครื่องดื่มต่างๆ ตลอดจนพิธีบวงสรวงฟ้อนรำบูชาถวายต่อปู่ย่าเจ้าเกาะ ซึ่งจะทำในวันที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี “ใช่.. เพราะบางทีอาจจะมีคนที่ไม่ใช่ทายาทที่แท้จริง
ตอนที่16.แก้มสาวแดงจัดเจคอปจึงโอบกอดเธอไว้จากด้านหลังหอมแก้มนวลหนักๆ อีกครั้ง แล้วเกยคางแกร่งกับบ่าบอบบาง แม้สาวเจ้าจะปัดป้องด้วยความขัดเขินก็ตามที“มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังคิดว่าเราเป็นผัวเมียกันเก๊ๆ อีกหรือไง”“ก็...”“สัญญานั่นพี่เผาทั้งตั้งแต่ก่อนมาที่เกาะอีกนะ รู้ไหม”“หา.. อะไรนะ” ยอดนรีเสียงสูงจะหันหน้ามามองก็เท่ากับหันแก้มมาให้เขาหอมโดยดี และเจคอปก็ชอบอกชอบใจ“ฟังไม่ผิดหรอก พี่จงใจให้มันเป็นแบบนี้ อยากได้ยอดมาเป็นเจ้าสาว เป็นเมียจริงๆ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือไม่ตั้งใจเลยนะ ทุกอย่างพี่ตั้งใจทำมัน..”“ทะ ทำไม..”“ก็.. พี่รักยอดไง”เขาบอกตรงๆ ง่ายๆ คำสารภาพรักที่บอกกันง่ายๆ แบบนี้เลย ยอดนรีผละตัวออกจากวงแขนแข็งแรงแล้วหันมาเผชิญหน้าแล้วเงยหน้ามองสบตาเขาตรงๆ“ว่าไงนะคะ..”“อะไรกัน กลายเป็นคนหูตึงไปแล้วหรือไงเนี่ย”“ไม่ต้องมาเฉไฉเลย ไหนพูดใหม่อีกทีสิคะ”ยอดนรีแสร้งทำเป็นขึงขังเมื่อเห็นสีหน้าขัดเขินของเจคอปที่เสมองท้องทะเล ใบหน้าคมเข้ม ดูจะมีสีเข้มมากขึ้นไปอีก และท่าทางของเขาก็ดูน่ารักดี เธอชอบ...“พี่เจค พูดอีกทีสิคะ พูดอีกทีๆ พูดอีกทีได้รึเปล่า..”คราวนี้เธอร้องเป็นเพลงเสียด้วย เจคอปหั
ตอนที่46.อวสาน“ยอด ท้อง แล้วค่ะ เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน”“หา… จริงเหรอยอด ไชไย้ๆๆๆ พี่เจคจะได้เป็นพ่อคนแล้ว”เจคอปกระโดดตัวลอย แล้วโอบกอดร่างอวบอิ่มของเมียรักแน่นอย่างสุดแสนจะดีใจ ทั้งหอมแก้มซ้ายขวาอย่างสุดแสนรัก“เห็นไหมล่ะว่า ยอดน่ะเป็นสะใภ้ที่แสนดีแค่ไหน”“ครับเชื่อครับ เราไปบอกคุณยายกันเถอะ”“ค่ะ…” ยอดนรียิ้มกว้างแล้วจะเดินเคียงข้างไปกับเขา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจคอปหยุดเดินเสียดื้อๆ“มีอะไรคะ” หญิงสาวขมวดคิ้ว“ไม่ได้สิ เดี๋ยวยอดเหนื่อย พี่อุ้มดีกว่า”“บ้าพี่เจค ยอดไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ยอดเดินเองได้ไปกันเถอะ ““ไม่เอา พี่จะอุ้ม” คราวนี้คนที่อยากจะอุ้มเมียรักทำท่างอแงเหมือนเด็กๆ แต่มันไม่ได้ดูน่ารักสักนิดเลย“เอางี้ ให้ยอดขี่หลังดีกว่า”“ได้ครับที่รัก มาเลย”เจ
ตอนที่45.“จ้าจาจ๋า” น้องเจมส์ชูแขนมาหานางจารุวรรณอย่างคุ้นเคยมากขึ้น และดูท่าจะติดคุณย่าเสียแล้ว“มาให้ย่าอุ้มหน่อยคนเก่ง” นางรับร่างของน้องเจมส์มาแล้วหอมแก้มยุ้ยๆ นั้นอย่างมันเขี้ยวและรักใคร่“ให้ป้ายอดอุ้มบ้างสิครับ”“ยอดอุ้มๆๆ” แล้วน้องเจมส์ก็โผมาหายอดนรีอย่างยินดี“ยอดฉวย..” น้องเจมส์เอ่ยขึ้นพร้มทั้งหอมแก้มยอดนรีอีกด้วย ยอดนรีกับริสาหัวเราะกับท่าทางแก่แดดของพ่อหนูน้อย“เจ้าตัวแสบนี่ประจบไปเรื่อย”“แววเจ้าชู้ออกแบบนี้ ได้พ่อมาเต็มๆ ใช่ไหมคะ” ริสาเอ่ยยิ้มๆ ล้อเลียนสามี“แหม.. ริสาก็ จิมเลิกเจ้าชู้ตั้งแต่เจอริสาแล้ว”“ขอให้จริงเถอะค่ะ เพราะถ้ามีวอกแวกสักนิดเจอดีแน่..”“ไม่กล้าหรอกจิมครับรักริสาคนเดียวและจะรักตลอดไป” จารณเข้ามาโอบกอดร่างบอบบางของภรรยาอย่างเอาใจ“พี่เจคก็เหมือนกันนะคะ ถ้าแอบวอกแวกนอกใจยอดล่ะก็..”ยอดนรีทำท่าเอานิ้วปาดคอและทำ
ตอนที่44.กว่าสิบปีที่ใช้ชีวิตร่วมกับนายจรัญก็ไม่ค่อยได้มาวอแวกับนาง และก็ต่างคนต่างอยู่ จนเมื่อเกิดเรื่องที่คุณยายพลัดตกบันได ซึ่งมีนายจรัญเป็นผู้เห็นเหตุการณ์และนางก็อยู่จุดที่เกิดเหตุพอดี ทำให้นางระแวงและกลัวว่าจะมีคนรู้เรื่องจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อกลบเกลื่อนความผิดนั้น ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ แต่นายจรัญกลับมาทำทีพูดให้นางระแวงและหลงคล้อยตาม ว่าจะต้องจัดฉากสร้างเรื่องบิดเบือน เพื่อไม่ให้ใครสงสัยตนโดยหารู้ไม่ว่านั่นคือแผนการที่นายจรัญกับนางอรุณีวางแผนไว้ “ยอดบอกแล้วว่าคุณป้าน่ะ แกก็คนดีคนหนึ่ง” ยอดนรีบอกสามียิ้มๆ“แต่ก็เกือบจะเสียคนเพราะโลภมาก”“นั่นเพราะความคิดชั่ววูบนะคะ แต่พี่จิมก็รักแม่ของเขามาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ขอร้องให้พี่เจคให้โอกาสแม่ของเขาหรอกค่ะ อีกอย่างพวกเขาก็น่าสงสารนะคะ สูญเสียคนในครอบครัวโดยที่ไม่รู้เลยมาเป็นสิบปี”“นั่นสินะ นั่นล่ะพี่ถึงเห็นใจจิมกับคุณป้า เลยอยากให้โอกาสแกแก้ตัว แต่ถ้าหากว่ายอดกล่อมไม่สำเร็จ พี่ก็คงไม่ใจร้า
ตอนที่43.หัวใจที่เคยแข็งกระด้างและเต็มไปด้วยไฟร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในอกของนางก็พลันเย็นยะเยือก เมื่อเห็นใบหน้าของพ่อหนูน้อยที่เดินเตาะแตะเข้ามาในห้องนั่งเล่น น้ำตาที่แห้งเหือดไปก่อนหน้านั้นก็ไหลออกมาอาบแก้มอีกครั้ง โดยไม่รู้ตัว...“สวัสดีค่ะคุณยาย คุณ เอ่อ คุณ.. จารุวรรณ..”ริสาไหว้ผู้สูงวัยกว่าทั้งสอง ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับจารณอย่างอ่อนหวาน และพ่อหนูน้อยเมื่อเห็นจารณก็ยิ้มแป้นอวดฟันซี่เล็กๆ อย่างดีอกดีใจ“ป้อๆ ป้อจ๋า.. ถึง คิด ถึง..”“พ่อก็คิดถึงน้องเจมส์ครับ”น้องเจมส์ หรือเด็กชาย รณภพ ลูกของเขากับริสา อดีตผู้ช่วยฝีมือดีของคุณยายจำปูนที่ถูกนางจารุวรรณวางแผนบีบให้ออกไปจากเกาะ แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้มีเด็กชายรณภพในวันนี้...“ธุจ้าคุณย่าจาจ๋าสิครับ”“ตุ๊จ้าจา” น้องเจมส์ยกมือป้อมๆ ขึ้นสวัสดีคุณย่าด้วยท่าทางตื่นเต้นยิ้มแย้ม แล้วพ่อหนูน้อยก็เอียงคอมองอย่างสงสัย“จ
ตอนที่42.“ฉันสัญญาว่าจะดูแลหนูอรให้ดี สัญญา..”นายทัศนัยเงยหน้ามองหลานสาวที่เพิ่งรู้ว่ามีตัวตนด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความรักและคำมั่นสัญญา ว่าจะรักและดูแลทายาทของหญิงที่เขาเคยชอบมากจนถึงขั้นเกือบจะรัก และได้ทอดทิ้งไปเพราะความรักสนุก และไม่อยากจะมีภาระผูกพันในวันวาน แต่นับจากนี้ชายวัยใกล้ฝั่งก็บอกตัวเองว่าจะชดเชยทุกอย่างให้กับหลานสาวคนนี้อย่างดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้อรชรจะต้องมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอนเขาสัญญา...“ไปอยู่กับตานะหนูอร..”“ค่ะคุณตา”อรชรตอบรับด้วยรอยยิ้ม สองตาหลานกอดกันด้วยความรักที่ก่อเกิดขึ้นในใจได้ไม่ยาก และอรชรก็รอคอยวันที่เธอจะได้มีญาติที่แท้จริงสักคนมานานแสนนาน...คุณยายจำปูนมองสองตาหลานด้วยความสุข...“อรไปนะคะพี่เจค พี่ยอด..” อรชรบอกลาเจคอปกับยอดนรีอีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่จะต้องจากไปแล้วจริงๆ ก็อดใจหายไม่ได้ แม้จะอาลัยอาวรณ์เจคอป
ตอนที่41.การตายของนางจำปาทำให้คุณยายจำปูนรู้สึกเวทนาไม่น้อย และนางก็ไม่อยากให้นางอรุณีหรือทัศนีย์ ต้องมีจุดจบเช่นเดียวกับแม่ของนาง อย่างน้อยๆ คำสั่งเสียของสามีที่รักที่เคยได้บอกไว้ว่า สงสารสองแม่ลูกคู่นี้ที่พบเจอแต่เรื่องราวเลวร้ายและตกทุกข์ได้ยาก อยากให้นางช่วยเหลือและชี้ทางที่ดีให้กับหลาน คุณยายเห็นแล้วว่า ญาติผู้พี่เป็นอย่างไร ดังนั้นนางจึงทำใจละวางความแค้นที่มีต่อนางอรุณีลงและให้อภัย เพื่อเป็นทาน เพื่อให้ตัวเองไม่ต้องผูกบ่วงเวรกรรมต่อกันอีก แม้นางจะสูญเสียลูกชาย แม้ว่านายจรัญไม่เอาไหนนัก เพราะชอบทำตัวเหมือนคนไม่เอาถ่าน แต่นายจรัญก็เป็นลูกที่ดี อย่างน้อยๆ เขาก็รักลูกเมียไม่เคยไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย แม้จะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญชอบเที่ยวเตร่ แต่การทำงานก็ไม่เคยมีปัญหา แต่ก็นั่นล่ะ.. นายจรัญผู้เป็นลูกชายนั้นอายุสั้นนัก จากไปเสียตั้งแต่ยังหนุ่มโดยที่ไม่มีใครรู้เลย และนางก็ได้นายจรัญตัวปลอมมาอยู่ข้างกายหลายปีทุกคนล้วนมีข้อดีข้อเลว เป็นส่วนผสมของมนุษย์ที่อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่นี่ล่ะคือมนุษย์ เมื่อคุณยายจำปูน
ตอนที่40.“ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอนะนี.. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้รู้ไว้ว่าฉันรักเธอกับลูกเสมอ จะไม่ทอดทิ้งเธอให้โดดเดี่ยวแน่นอน...”ยิ่งนายจรัญพูดนางอรุณีก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น อรชรเห็นเช่นนั้นก็เข้าไปกอดผู้เป็นแม่อีกคน สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันร้องได้ด้วยความเศร้าเสียใจและผิดหวังกับความจริงที่ปรากฎอยู่ตรงหน้ายอดนรีกับเจคอปมองสบตากันด้วยความรู้สึกที่เวทนาสงสารสามคนพ่อแม่ลูกตรงหน้ายิ่งนัก เธอขยับเข้าไปใกล้แล้วกุมมือใหญ่ของเขาไว้ เจคอปบีบมือบางในอุ้งมือหนาของตนเบาๆ อย่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน...“เรื่องทั้งหมดนั้นเพราะฉันเอง.. ฉันคนเดียวที่ผิด” คุณทัศนัยเอ่ยขึ้น ดวงตาแดงก่ำมีน้ำตาคลอหน่วย“หากฉันไม่เห็นแก่ตัวและยอมมารับผิดชอบจำปากับลูกเสียตั้งแต่ตอนนั้นทุกอย่างคงไม่เลยเถิดมาจนเป็นแบบนี้”“ใช่.. เพราะคุณคนเดียว เพราะคุณ.. คุณทำลายอนาคตของผู้หญิงถึงสามคน ที่สำคัญคุณท
ตอนที่39.“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพี่จำปาพูดอะไรกับเธอบ้าง แต่ที่ฉันพูดไปก็คือความจริง และเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด อย่างน้อยๆ พี่จำปาก็มีศักดิ์เป็นพี่ ฉันจึงยอมให้พี่จำปามาเสมอ อยากจะชดเชยอะไรหลายๆ อย่างให้ ตอนที่ลำบาก อยากได้เงินเท่าไหร่ก็ไม่เคยขัด ฉันกับพี่จักรหยิบยื่นให้พี่จำปาเสมอ แต่เหมือนพี่จำปาจะไม่ได้คิดอะไรเลย และไม่เคยพอใจในสิ่งที่ได้ นอกจากใช้ชีวิตเสเพลรักสนุกไปวันๆ ฉันเคยไปขอเธอมาเลี้ยง เพราะเห็นพฤติกรรมแย่ๆ ของพี่จำปา แต่เขาก็ไม่ยอม และบอกว่าหากฉันอยากได้เธอมาเลี้ยงฉันจะต้องให้พี่จักรรับพี่จำปากลับเกาะในฐานะเมียใหญ่ และให้ฉันเป็นเมียรอง ข้อเสนอที่เห็นแก่ตัวและเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งของพี่จำปากทำให้พวกเราเอือมระอา และเลิกไปวุ่นวายกับพี่จำปา แต่แทนที่พี่จำปาจะปรับปรุงตัวหรือยอมรับความเป็นจริง กลับสร้างเรื่องให้พวกเราด้วยการบอกใครๆ ว่าฉันเป็นเมียน้อย เป็นคนที่แย่งคนรักของพี่สาว เธอคงไม่รู้ว่าแม่ของเธอนั้นมีวีรกรรมร้ายกาจแค่ไหน แต่ถ้าเธอจะคิดสักนิดเธอจะรู้ว่าแม่ของเธอนั้นร้ายกาจ และใช้เธอเป็นเครื่องมือต่อรองกับ
ตอนที่38.“ฉันรู้ และรู้มานานแล้วว่าพวกเธอเป็นใคร ฉันพยายามให้โอกาสพวกเธอมาเสมอ หลายต่อหลายครั้งที่ฉันมองผ่าน ทำเป็นไม่สนใจ และให้โอกาสพวกเธอมาตลอด จนโอกาสสุดท้ายที่ฉันหยิบยื่นให้พวกเธอ แล้วพวกเธอไม่ใส่ใจมัน... และนี่ก็จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายอีกครั้งที่ฉันจะหยิบยื่นมันให้พวกเธอ และมันจะเป็นครั้งสุดท้าย... สุดท้ายจริงๆ จะไม่มีโอกาสดีๆ แบบนี้ให้พวกเธออีกแล้ว”คุณยายจำปูนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แววตาคมกล้าเด็ดเดี่ยว จนคนมองเสียวสันหลัง“เข้ามาสิอรชร จะได้ไม่มีอะไรติดค้างใจกันอีกจนทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตในภายภาคหน้า”นางอรุณีกับนายอำนาจหันขวับไปมองตามสายตาของคุณยายก็พบว่าอรชรเดินเข้ามาพร้อมๆ กับคนของเจคอปที่ประกบซ้ายขวา“อร.. ลูกไปอยู่ไหนมา ไหนบอกว่า..”“จริงรึเปล่าคะแม่ ที่พวกเขาบอก”อรชรไม่ตอบคำถามของมารดา แต่ถามกลับไป นางอรุณีได้แต่อึ้ง อึกอักพูดไม่ออก แล้วหันกลับไปมองคุณยายจำปูนที่เลิกคิ้วมองเหมือนจะเป็นการบอกนัยๆ ว่าให้นางเป็นค