ในมือเซี่ยหลิงยังถือจานฝนหมึกอยู่ สายตามองดูทุกคนอย่างเฉยเมยปี้เถาซึ่งเป็นสาวใช้ของเหวินจิงจิงจะยอมปล่อยหร่วนหนิงอวี่ได้อย่างไรนางมองไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ที่เดิมและแกล้งทําเป็นโง่อย่างเกลียดชัง"คุณหญิงหร่วนเป็นผู้ทุบเจ้าค่ะ"หร่วนหนิงอวี่ก็ถูกนางใช้นิ้วชี้แบบนี้พูดจบ ปี้เถาก็คุกเข่าลงกับพื้น ฟ้องทันทีว่า "นายน้อยใหญ่เจ้าค่ะ เป็นคุณหญิงจงใจเอาจานฝนหมึกมาทุบคุณหญิงของข้า โชคดีที่คุณหญิงถูกหมึกข้างในสาดจนหน้าเปื้อนเท่านั้น ถ้า... ถ้าทุบคุณหญิงจริงๆ หน้าผากจะแตกแน่ๆเลยเจ้าค่ะ"หร่วนหนิงอวี่เห็นว่าสายตาของผู้ชายมองมาที่นาง ในดวงตาของเขานั้นมีความพิจารณา และความเย็นชาที่ไร้มนุษยธรรมเปลือกตาของนางกระตุกแรงแต่ตกลงมาที่นางแค่ชั่วครู่ อีกไม่นานเซี่ยหลิงก็มองข้ามนางไป สายตาของเขาตกลงไปที่ลูกพี่ลูกน้องอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆนางเหวินจิงจิงไม่ได้มองลูกพี่ลูกน้องที่สูงศักดิ์เกินบรรยายคนนี้ แต่เม้นริมฝีปากแน่นๆและก้มหัวลง ดวงตาที่แดงก่ำจ้องมองไปที่รองเท้าสีชมพูและสีขาวที่โผล่ออกมาใต้กระโปรงดวงตาของปี้เถามีน้ำตา และใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ"คุณหนูพูดกับคุณหญิงหร่วน ใครจะไปคิดว่าจู่ๆน
พอเซี่ยหลิงจากไป ทุกคนในสวนก็สูดหายใจเข้าลึกๆนายน้อยใหญ่... ดูเหมือนจะโกรธแล้วหร่วนหนิงอวี่กลับเอานิ้วชี้มาที่ตัวเองเขาตามหานางเหรอเมื่อได้ยินประโยคที่เซี่ยหลิงพูดก่อนจากไป เซี่ยอี้โม่ก็มองมาอย่างเยาะเย้ยอย่างรวดเร็วเยี่ยมมากเลย หร่วนหนิงอวี่ คราวนี้ไม่จําเป็นต้องให้นางลงมือเองแล้ว ลูกพี่ลูกน้องของนางจะสั่งสอนแทนนาง นางต้องดูว่าหร่วนหนิงอวี่จะหยิ่งผยองได้อย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยหลิงเหวินจิงจิงก็หยุดร้องไห้ หลังจากนางถูกปี้เถาพยุงขึ้นมาอย่างอ่อนแอ นางก็หลุบตาลงอย่างเงียบๆ เก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้ ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่เมื่อนึกถึงเซี่ยหลิง หร่วนหนิงอวี่ก็ขนลุกอย่างรวดเร็วในชาติที่แล้ว เรื่องที่นางก่อในตระกูลเซี่ยนั้นเยอะมาก ทุกครั้ง เซี่ยหลิงก็เรียกนางไปเช่นตอนนี้ลงโทษให้คุกเข่า ลงโทษให้ยืน ห้ามออกจากห้องไป ตบด้วยไม้บรรทัด คัดลอกพระคัมภีร์ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว ได้ส่งผลกระทบอันลึกซึ้งให้กับช่วงเวลาสั้นๆของวัยหนุ่มของนางหร่วนหนิงอวี่เกลียดจนขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่านางยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่เต็มใจมาก ชางซานก็เตือนด้วยเสียงต่ำว่า "คุณหญิงลูกพี่ลูกน้อง น
เซี่ยอี้โม่ค่อยๆสงบลง เล็บเจาะลึกเข้าไปในฝ่ามือถ้าหร่วนหนิงอวี่รู้อะไรบางอย่างจริงๆ นางก็ไม่จําเป็นต้องมีชีวิตอยู่แล้วนางจะปล่อยให้นางตาย……หร่วนหนิงอวี่ไม่ได้สนใจการแสดงออกที่ซับซ้อนของเซี่ยอี้โม่ที่อยู่ข้างหลังนางเพิ่งเดินไปไม่กี่ก้าว หลังจากเซี่ยหลิงจากไป นางก็ได้ยินว่าชางซานกวาดสายตาไปรอบๆอย่างเย็นชาเสียงนั้นดังและเย็นชา"เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่นี่คือตระกูลเซี่ย แต่พวกเจ้าดูแลคุณหญิงทุกคนไม่ดี ทำให้ก่อกวนจนวุ่นวาย พวกเจ้าอยากโดนตบแล้วทิ้งออกจากตระกูลเซี่ยไปเหรอ""นายน้อยสั่งว่า ได้เกิดอะไรในหมู่คุณหญิง ต้องบอกให้ข้าฟังทั้งหมด ถ้ามีความลําเอียงใด แต่งตามใจชอบ ข้าว่าพวกเจ้าก็ไม่จําเป็นต้องรับใช้เจ้านายในตระกูลแล้ว"หร่วนหนิงอวี่ถอนสายตากลับและเดินต่อไปนางเดินอย่างช้ามากเพียงเพราะ... ไม่อยากเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ลึกลับและน่าเกรงขามที่อยู่ไม่ไกลนั้นจริงๆเมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นว่าชายในเสื้อคลุมยาวสีน้ำเงินเข้มนั้นนั่งอยู่ในศาลาริมทะเลสาบแล้วหร่วนหนิงอวี่เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ แต่แม้ว่านางจะถ่วงเวลาอย่างไร และไม่เต็มใจอย่างไร ในที่สุดนางก็มาถึงกลางทะเลสาบและเข้าไปในศาล
มีอยู่หลายครั้งเขาเคยพบหร่วนหนิงอวี่ทําสิ่งที่เลวร้ายไม่ว่าจะเป็นนางเรียกคนตีสาวใช้ที่แอบแจ้งข้อความให้พระสนมเจียงในวังจนพิการ สั่งคนทิ้งแมวที่กัดนางไปในน้ำ หรือนางให้ชุนลวี่ตบพระสนมซูซึ่งเป็นคนแรกในพระสนมทั้งสี่ในเวลานั้นด้วยตัวเอง ตบที่ละครั้งจะออกเลือด ทั้งหมดนี้ถูกสมุหราชเลขาธิการเซี่ยที่เดินผ่านสวนไปที่โถงเหวินยวนเจอแล้วในเวลานั้น เซี่ยหลิงเป็นข้าราชการชั้นสูงสุด มีอำนาจเหนือกว่าหลายหมื่นคน สาวใช้ที่ทรยศคนนั้นกระโจนเข้าไปกอดข้าของผู้ชายคนนั้นไว้ นางร้องไห้ด้วยเลือด "คุณชายเซี่ยเจ้าคะ คุณชายเจ้าคะ ขอให้ท่านช่วยชีวิตบ่าวด้วยเจ้าค่ะ"เมื่อเห็นว่านางใจกล้าอย่างนี้ คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆเซี่ยหลิงก็ให้คนช่วยลากนางออกไปหน้าอกของสาวใช้ถูกเตะอย่างแรง นางถึงถูกดึงออกไปเมื่อถูกลากไป บนหินถูกถูจนเกิดรอยเลือดยาวๆ ช่างน่าตกใจเลยเซี่ยหลิงถึงพบว่าร่างกายของสาวใช้คนนี้เต็มไปด้วยเลือดและแผล และขาซ้ายข้างนั้นปรากฏส่วนโค้งที่แข็งทื่อ มองปราดเดียวก็รู้ว่า...พิการแล้วเขาเงยหน้าขึ้น ก็ได้เห็นจักรพรรดินีหร่วนที่ล้อมรอบด้วยสาวใช้ในในลานพระราชวังที่หนาวเย็นเครื่องแบบพระราชวังที่เคร่งขรึมยังคงย
เขายืนอยู่ที่นั่น หลุบตาและทำความเคารพต่อนางอย่างใจเย็น"กราบถวายบังคมขอรับท่านจักรพรรดินี"จากนั้น ดวงตาที่เย็นยะเยือกคู่นั้นก็มองตรงมาเหมือนเมื่อก่อนเขาขมวดคิ้วของเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ เกล็ดหิมะติดบนมุมเสื้อคลุมของคุณชายเซี่ย ท้องฟ้าเป็นสีขาวกันหมด ในโลกสีขาว มีเพียงเสื้อสีม่วงของเขาสะดุดตา แต่ใบหน้าของเขาสดใสและอารมณ์ที่สงบดูเหมือนจะกลมกลืนกับโลกนี้"ที่สาวใช้ทําผิดพลาด จะส่งให้ติดคุกทาสของกรมโทษ หรือโกนผมแล้วขับไล่ออกจากราชสํานักไป ทําไมท่านจักรพรรดินีถึงต้องฆ่าตาย""การทำชั่วมากเกินไปจะนำหายนะมา ฆ่าคนเยอะอย่างนี้ ท่านจักรพรรดินีไม่กลัวกรรมที่ตามมาหรือ"เซี่ยหลิงพูดอย่างเย็นชาและเคร่งขรึม ทุกประโยคต่างโจมตีคําพูดและการกระทําของนางในฐานะราชินีนางกับเขาเป็นศัตรูทางการเมืองแบบเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว และตอนนี้รุมประชาทัณฑ์สาวใช้ในวัง ทําให้ผู้ชายถือโอกาสในการโจมตีนางได้แล้วแต่นอกจากเหตุผลที่เป็นศัตรูแล้ว ที่สําคัญกว่านั้นก็คือ...นางเคยเป็นคุณหญิงลูกพี่ลูกน้องของตระกูลเซี่ยเป็นตระกูลใหญ่มาร้อยปี มีคุณธรรมเป็นที่เคารพนับถือ ครอบครัวของตระกูลเซี่ยต่างก็ไว้ตัว แม้ว่านางจะกลา
หร่วนหนิงอวี่ตอบสนองจากความทรงจําผู้ชายที่เพิ่งพูดว่านาง"โหดร้าย" ความเย็นชาบนใบหน้ายังคงไม่ได้ลดลงเขาเหลือบมองมาอย่างสูงส่ง โมเมนตัมที่สงบและยับยั้งแต่อันตรายและน่ากลัวนั้น ต้นแบบของสมุหราชเลขาธิการในวันหลังได้ถูกสร้างขึ้นแล้วหร่วนหนิงอวี่มองย้อนกลับไป เมื่อเห็นสีหน้าเช่นนี้ของเขา ราวกับว่าสูงส่งตลอดไป ทุกสิ่งในโลกดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อชายที่สุขุมคนนี้ไม่ได้ตลอด นางก็อดไม่ได้ที่จะโกรธจนกัดฟันเซี่ยสวนจี เขามีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนนางล่ะไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้วหรือชาตินี้ ในสายตาของเขา นางเป็นเพียงคุณหญิงลูกพี่ลูกน้องที่หลายใจ ได้ใหม่ก็ลืมเก่า นางไม่สอดคล้องกับการรับรู้ของเขาเกี่ยวกับผู้หญิงแบบดั้งเดิมที่ปฏิบัติตามมารยาท ในสายตาของเขา นางไม่สุภาพ และไม่รักนวลสงวนตัว รอแค่กลายเป็นหญิงตกอับหร่วนหนิงอวี่จําได้จนถึงตอนนี้ว่า ในชีวิตที่แล้วหลังจากนางเคยคบเสิ่นจิ่งยวี่ ท่านอ๋องฉีและคนอื่นๆ แต่ในที่สุดก็แต่งงานกับรัชทายาทอย่างไม่ลังเล เกิดความไปทั่วเมือง ตระกูลเซี่ยก็ตัดความสัมพันธ์กับนางไปและเซี่ยหลิงซึ่งตอนนั้นเป็นผู้ช่วยก็ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเคยมีลูกพี่ลูกน้องอย่างนางในงานเลี้ย
สำหรับผู้ใหญ่ เขาต้องเป็นหลานชายคนโตที่โดดเด่น สำหรับน้องๆ เขาเป็นพี่ชายคนโต ต้องทำเป็นแบบอย่างและเขาก็ทำได้จริงๆ เป็นต้นแบบของลูกหลานในครอบครัวน้องในตระกูลเขาเคยเห็นกันหมด แต่แค่ไม่เคยเห็น...ผู้ใดอย่างนางไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ชายมากมายเท่านั้น แต่ยังหนีไปกับนายน้อยเสิ่นด้วยเมื่อเห็นว่าหญิงสาวคุกเข่าอยู่ข้างหน้าเขา นางค่อยๆหลุบตาลง ใบหน้าที่ประณีตนั้นยังคงเผยให้เห็นความบ้าคลั่งและความหยิ่งผยองเล็กน้อย เซี่ยหลิงขมวดคิ้วลึกขึ้นในตระกูลมีลูกพี่ลูกน้องสองคน ก่อนหน้านี้เขามีความประทับใจต่อหร่วนหนิงอวี่ไม่มากนักเซี่ยหลิงเคยเห็นลูกพี่ลูกน้องคนนี้เมื่อก่อน นางมักจะสวมชุดเรียบง่ายยืนอยู่ข้างหลังสาวๆในตระกูลจากระยะไกล เมื่อเห็นเขา นางจะหดตัวและก้มหน้าลง แม้ว่านางจะมีความทะเยอทะยานในอดีต แต่ก็ไม่เคยไว้ตัวและบ้าคลั่งเหมือนวันนี้และความเย่อหยิ่งที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้เช่นนี้เขาเคยเห็นเฉพาะในลูกสาวของนายพล หรือเจ้าหญิงที่เกิดจากจักรพรรดิลูกสาวของนายพลและเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ พวกนางมีจุดหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือพวกนางไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงทั่วไป พวกนางมีความคิดบางอย่างที่คล้ายกับ "ผู้สืบทอด
หร่วนหนิงอวี่พูดจบ ศาลาก็เงียบลงนางจ้องมองที่พื้น ผ่านไปเวลานาน ก็ยังไม่ได้ยินเสียงใดๆจากผู้ชายข้างบนแม้ว่าสมุหราชเลขาธิการเซี่ยผู้วางแผนล่วงหน้าได้อย่างรอบคอบ และมีอํานาจบาตรใหญ่ในชาติที่แล้ว ก็ถอยกลับไปสิบปี แต่โมเมนตัมที่ลึกลับของเขาดูเหมือนจะไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่นั้นมานางอดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อที่หลัง และทําให้เสื้อผ้าเปียกเซี่ยหลิงกําลังมองนางอยู่ข้างในดูเหมือนจะมีความสังเกต ความประเมิน และแม้กระทั่งมี...ความสงสัยที่เห็นได้ยากหัวใจของหร่วนหนิงอวี่ตึงเครียดนางเงียบไปครู่หนึ่ง ปกปิดความกลัวในใจไว้ นางพูดอย่างสงบว่า "สําหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในสวน ที่เกิดอะไรขึ้น หรือข้ามีความแค้นอะไรกับเหวินจิงจิงนั้น ต่างไม่ใช่เรื่องของท่านพี่หรอก""ข้าสามารถสาบานกับพระเจ้าได้ การทุบคน ข้าคิดว่าข้าไม่ได้ทำผิด แม้ว่าจะมาใหม่อีกครั้ง ข้าก็ไม่เสียใจ"ในไม่ช้า เสียงของนางก็ชั่วร้ายขึ้นมาก"ข้าเกลียดแค่ว่าทําไมข้าถึงไม่ได้ทุบอย่างแม่นยำ ทุบให้นางตาย ทําให้นางเสียโฉมไป"ดวงตาของเซี่ยหลิงเย็นชาไปแล้วตอนแรกคิดว่านางจะได้รู้ผิดแล้วแก้ไข แต่ยังไงก็ไม่คิดว่านางเพิ่งยอมรับผิด อีกไม่นานก็พู
คุ้นเคยกับพฤติกรรมที่ไม่แยกถูกผิดของท่าน้าคนนี้ในชาติที่แล้ว หร่วนหนิงอวี่ก็ไม่แปลกใจแล้วผู้ใหญ่ไม่ได้ให้นางลุกขึ้น นางก็ได้แต่คุกเข่าแบบนี้การตำหนิของพวกท่านน้าในศาลบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยในวันนี้ นางไม่ได้กลัวแม้แต่น้อยสิ่งที่ทําให้นางกลัว...กลับเป็นฉากที่ผู้ชายสูงส่งถือเฆี่ยนมาลงโทษตามกฎเกณฑ์ตระกูลแทนในชาติที่แล้วเลยแค่คิดแบบนี้ หร่วนหนิงอวี่ก็รู้สึกว่ากัดริมฝีปากจนออกเลือดได้แล้วฟังคําพูดรุนแรงที่เข้าข้างของเซี่ยเฉิงหนิง มือของนางวางบนเข่า และก้มหน้าก้มตาเสมอ"ท่านน้าสอง ท่านน้าสามเจ้าค่ะ เรื่องหนีตามไปข้าจะยอมลูกลงโทษเอง""แต่เรื่องหนีตามไป...ไม่ใช่ความผิดของข้าคนเดียว"เมื่อหร่วนหนิงอวี่พูดจบ ก็ยกดวงตาที่เย็นชาเหมือนน้ำค้างแข็งขึ้น ข้างในสดใสมาก"ยิ่งไปกว่านั้น ข้าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับคุณชายเสิ่น จะพูดว่ามีความสัมพันธ์ได้อย่างไร"เซี่ยเฉิงหนิงตกตะลึง "เจ้าหมายความว่าอะไร"หร่วนหนิงอวี่ยืดตัวตรง เสียงเพราะเหมือนลูกปัดเล็กๆี่ตกลงบนจานหยก"วันนั้น เคยมีใครเห็นข้าออกจาบ้านไปและหนีตามไปหรือเปล่า""อีกอย่าง ใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าความสัมพันธ์ของข้ากับคุณชายเสิ่นไม่บริสุทธ
เซี่ยอี้โม่ เป็นลูกสาวของคุณนายเหอนะ ใครจะกล้าพูดล่ะเซี่ยเฉิงอันเห็นว่าคนทั้งห้องเงียบสงบ สายตาก็มองไปที่ด้านล่าง"ทำไม พูดไม่ได้เหรอ"สายตาของหร่วนหนิงอวี่ยังคงสงบแม้ว่าหลังจากที่นางได้เป็นราชินีในชาติที่แล้วเซี่ยเฉิงอันก็มีความขัดแย้งทางการเมืองกับนาง แต่ว่า...เซี่ยเฉิงอันกลับเป็นท่านน้าที่ถือว่าดีได้ ไม่ได้ใกล้ชิดขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ไร้ความปราณีนอกจากเซี่ยหลิงแล้ว เซี่ยอี้โม่กลัวลุงสองคนนี้มากที่สุดเมื่อได้ยินประโยคที่ไม่ชัดเจนของเซี่ยเฉิงอัน นางก็ก้มหัวลงและไม่มีอารมณ์ที่หยิ่งผยองอีกแล้วเหอโล่เหมยกลับดูสงบมากดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งของนางก็มองไปพวกคนรับใช้ที่เงียบกริบอยู๋รอบๆ "เกิดอะไรขึ้น เกิดเรื่องใหญ่อย่างนี้ในหมู่คุรหญิง จะไม่มีใครรู้เลยหรือ"เมื่อเห็นพวกเขายังคงหดตัว นางก็โกรธมาก"พวกทาสที่ต่ำต้อยอย่างพวกเจ้า ล้วนรับเงินเดือนแต่ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น"พอเหอโล่เหมยระบายอารมณ์เสร็จ ก็พูดกับแม่นมซูที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆด้วยความโกรธว่า "ยังตะลึงทําอะไรอยู่ รีบไปค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณหญิงสิ อี้โม่ได้ทําเรื่องแบบนี้กับสาวห้าจริงๆหรือเปล่า"แม่นมซูที่ถูกเรียกชื่อร
ที่คุณซานเซี่ยจะทำแบบนี้ หลังจากผ่านชาติที่แล้วมา หร่วนหนิงอวี่ก็ไม่แปลกใจแล้วนางรู้สึกเสมอว่า คุณชายใหญ่เซี่ยเฉิงหยางซึ่งเป็นท่านพ่อของเซี่ยหลิงเป็นข้าราชการขั้นสอง คุณชายสองเซี่ยเฉิงอันมีความรู้เป็นพิเศษ และเป็นกวีที่มีชื่อเสียงมากในยุคต้าหมิงในปัจจุบัน และหลานชายคนโตเซี่ยหลิงก็ยิ่งไม่ต้องพูดแล้วทายาทสายตรงของตระกูลเซี่ยรุ่นนี้ล้วนโดดเด่นมาก มีแต่เซี่ยเฉิงหนิงเท่านั้น...หร่วนหนิงอวี่รู้สึกว่าเขาไม่สมควรเป็นลูกหลานตระกูลเซี่ยจริงๆไร้ความสามารถ และไร้คุณธรรมด้วยเป็นลูกของตระกูลเซี่ย แต่แม้แต่หนึ่งในสิบของพี่ชายสองคนก็เอื้อมไม่ถึงในชาติที่แล้ว ที่เหอโล่เหมยพูดอะไรเขาก็ทําอย่างนั้น โดนใช้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงเซี่ยเฉิงหนิงจะให้นางแต่งกับคนอื่นหลายครั้ง เป้าหมายของการแต่งงานมีท่านอ๋องเก่าที่อายุเกิน 40 ปีในเมืองจิงเฉิง นายพลพ่อหม้ายที่โหดร้าย ภรรยาน้อยตายไปหลายคน แม้กระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณชายอีกสองคนไม่ได้อยู่ในตระกูล ที่บ้านมีแขกผู้มีเกียรติมาเยี่ยม อีกฝ่ายชอบนางที่มีหน้าตาดีโดยยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่คิดไม่ถึงว่าวันนั้นเซี่ยเฉิงหนิงจะให้นางที่เป็นหลานสาวมาเทเหล้าในงานเลี้ยงใ
ทุกคนต่างตกใจ และรีบไปขวางหร่วนหนิงอวี่ในขณะที่หัวของหร่วนหนิงอวี่จะชนกับเสา นางก็ถูกชุนลวี่กอดร่างไว้จากข้างหลังชุนลวี่พูดด้วยน้ำตา "คุณหญิงเจ้าคะ เจ้าไม่สามารถทำแบบนี้ได้นะเจ้าค่ะ"หร่วนหนิงอวี่กลับไม่ฟังใบหน้าของนางเปื้อนด้วยน้ำตา "เจ้าอย่าห้ามข้าเลย...ข้าไม่มีหน้าไปเผชิญหน้ากับพวกท่านน้าแล้ว เจ้าปล่อยให้ข้าไปตายเถอะ ให้ข้าไปขอขมาต่อหน้าบรรพบุรุษของตระกูลเซี่ยด้วยตัวเอง"พูดจบ ก็ทำท่าจะไปชนทำให้แม่นมและสาวใช้ในศาลตกใจ และไปห้ามอีกทุกคนต่างชักชวนว่า คุณหญิง อย่านะศาลบรรพบุรุษวุ่นวายเหมือนตลาดทันทีเมื่อเหอโล่เหมยเห็นฉากนี้ ใบหน้าก็มืดมนไปหมดแล้ว ทําไมนางไม่คาดคิดมาก่อนว่า หร่วนหนิงอวี่ที่โง่เขลาก่อนหน้านี้ ได้ฉลาดในครั้งนี้ และเริ่มแสร้งทําเป็นน่าสงสารและจะฆ่าตัวตายชีวิตสำคัญมาก แม้ว่านางจะหนีไปกับเสิ่นจิ่งยวี่ ความผิดนี้ก็จะไม่ถึงขั้นต้องตายตามที่คาดไว้ เซี่ยเฉิงหนิงที่โกรธจะอยู่ในอารมณ์หดหู่ใจทันที เขาก็ตกใจกับพฤติกรรมของหร่วนหนิงอวี่ที่ตั้งใจจะตาย กลัวว่านางจะชนตายต่อหน้าบรรพบุรุษทุกรุ่นของตระกูลเซี่ยจริงๆ ดังนั้นเปลือกตาของเขาก็กระตุกอย่างรุนแรง"พอแล้ว"เซี่
แม้อีกฝ่ายเป็นท่านพ่อของตัวเอง เซี่ยอี้โม่ก็ตกใจกับเสียงตำหนิที่ดังเหมือนฟ้าร้องของเขาไม่ได้เห็นว่าคุณชายสามโกรธขนาดนี้มานานแล้ว...คนรับใช้ที่เฝ้าอยู่ในศาลบรรพบุรุษก้มหน้าอย่างรู้กาลเทศะทันทีคําพูดของเหอโล่เหมย เรียกได้ว่าโหดร้ายที่สุด ขยายบาปของนางให้ใหญ่สุด ถ้าพูดเรื่องอื่นก็ไม่เป็นอะไร แต่สิ่งที่เหอโล่เหมยพูดเกี่ยวกับอาชีพการงานของคุณชายทุกคนเหอโล่เหมยนี่อยากฆ่านางตางชัดๆหร่วนหนิงอวี่ไม่แปลกใจแล้ว เหอโล่เหมยก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ตราบใดที่นางทําผิดพลาดอะไร ท่านน้าสะใภ้ของนางก็จะปรากฏตัวทันเวลา และพูดแทนนางในนามว่าห่วงใยนาง แต่จริงๆแล้วทุกคำพูดก็เป็นพิษ เป็นอันตรายถึงชีวิต มีแต่จะทําให้นางถูกลงโทษหนักขึ้นนางได้สัมผัสกับลูกไม้ของท่านน้าสะใภ้คนนี้มานานแล้ว เป็นคนปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ตอนที่นางเพิ่งมาถึงตระกูลเซี่ย นางยังคิดว่าคุณนายเหอจะปฏิบัติต่อนางอย่างจริงใจจนกระทั่งนางถูกคิดร้ายจนแทนเสียความบริสุทธิ์ไป นางถึงจะได้ลิ้มรสความเก่งของเหอโล่เหมยอย่างแท้จริงเพื่อไม่ให้นางส่งผลกระทบต่อเซี่ยอี้ซูที่จะเข้าร่วมการสอบขุนนาง เหอโล่เหมยอยากให้ลูกชายของพ่อบ้านเฉาข่มขืนนางโชคดีที
เหตุผลที่นางมุ่งเป้าไปที่หร่วนหนิงอวี่ นอกจากเพราะลูกชายแล้ว...ยังมีเหตุผลสําคัญอีกประการหนึ่งคือ เมื่อหร่วนหนิงอวี่เพิ่งมาถึงตระกูลเซี่ยในเมื่อปีที่แล้ว ใบหน้าที่โดดเด่นเช่นนี้ก็ได้สร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองจิงเฉิงทันที ถ้าไม่ใช่ตอนนี้นางยังเด็กอยู่ สถานะของผู้งามงามอันดับหนึ่งในเมืองจิงเฉิงก็กลัวว่าจะเสียไปตราบใดที่มีหร่วนหนิงอวี่อยู่ คนอื่นๆก็มองไม่เห็นเซี่ยอี้โม่ที่โดดเด่นในตระกูลเซี่ย และยิ่งมองไม่เห็นผู้หญิงคนอื่นในตระกูลมองดูหน้านางเหอโล่เหมยด่าในใจว่า โชคร้ายจริงๆเมื่อเห็นหร่วนหนิงอวี่ เซี่ยเฉิงอันในที่นั่งหลักยังคงดื่มชาอยู่ สีหน้าของเซี่ยเฉิงหนิงดูแย่มาก แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดชั่วขณะหนึ่งท้ายที่สุดแล้วอีกฝ่ายก็เป็นหลานสาวของเขา เขาเป็นผู้ใหญ่ชาย ไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงเงียบไปก่อนเหอโล่เหมยสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อหันไปมองหร่วนหนิงอวี่ ดูเหมือนได้พบโลกใหม่ จงใจส่งเสียงประหลาดใจ"ถ้าข้ามองไม่ผิด นี่เป็นเสื้อผ้าที่คุณหญิงใส่ในวันที่หนีไปจากเมืองกับนายน้อยเสิ่นใช่ไหม"ตามที่คาดไว้ สีหน้าของเซี่ยเฉิงหนิงดูแย่ขึ้นทันทีเมื่อเขามองไป ดวงตาของเขาก็โกรธจนเบิกกว้าง"หร่วนหน
ที่ศาลบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยคุณนายสามเหอโล่เหมยกําลังกอดเซี่ยอี้โม่ และร้องไห้ด้วยป้องหน้าโดยผ้าเช็ดหน้าคุณชายเซี่ยเฉิงหนิงยืนอยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วแน่นมาก แต่ไม่พูดอะไรสักคำเหอโล่เหมยขึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง แล้วร้องไห้เสียงดังมากขึ้นในไม่ช้า"ตอนนั้นที่ท่านแม่ยืนยันจะรับหลานสาวคนนี้มาเลี้ยงที่ตระกูล ข้าก็ไม่ยอม ตอนที่นางมาถึงตระกูลเซี่ยเป็นครั้งแรก ข้าไปต้อนรับที่ประตู แวบแรกที่เห็นหน้านาง ในใจข้าก็ตกตะลึง""หน้าตายั่วยวนขนาดนี้...พูดให้สุภาพหน่อย ก็เป็นลูกสาวที่เกิดจากตระกูลเล็กๆ ถ้าคนอื่นพูดอย่างหยาบคายหน่อย มันจะแตกต่างจากผู้หญิงตุ้งติ้งที่ต่ำต้อยตรงไหน"ยังไงหร่วนหนิงอวี่ก็เป็นญาติของพวกเขา นับประสาอะไรกับท่านแม่ของนาง นางหลิ่วมีพระคุณช่วยชีวิตแม่นายเซี่ยเซี่ยเฉิงหนิงเปลี่ยนหน้าเล็กน้อย "รีบหุบปากเถอะ อย่างน้อยนางก็เป็นหลานสาวของเจ้า"ผู้หญิงต่ำต้อยคนนั้น ก็คู่ควรที่จะเป็นญาติกับลูกสาวของผู้ที่ร่ำรวยที่สุดของยุคต้าหมิงได้หรือเหอโล่เหมยทำหน้าบึ้ง อยากโต้แย้งโดยไม่รู้ตัว แต่เห็นว่าเซี่ยเฉิงอันนั่งดื่มชาอยู่ที่นั่งหลัก เลยอัดอั้นคําพูดกลับไปคุณหญิงหร่วนก็เลี้ยงไว้ที่ลานบ้านของเ
ตามด้วยเสียงตําหนิ พวกแม่นมที่อยู่ข้างนอกมองหน้ากัน ก็วางแผนที่จะยกแขนเสื้อขึ้น เบียดชุนลวี่ไปและบุกเข้าไปในห้องคุณนายสามได้ออกคำสั่งแล้วแม้ว่าคุณหญิงลูกพี่ลูกน้องจะตาย ศพนางก็ต้องถูกยกไปที่ศาลบรรพบุรุษตระกูลเซี่ยและคุณนายสามบอกแล้วว่าไม่จําเป็นต้องเกรงใจต่อคุณหญิงลูกพี่ลูกน้อง แม้ว่านางจะเชื่อฟัง ก็ต้องปล่อยให้นาง ถูก"จับ"กลับไปที่ศาลบรรพบุรุษอย่างอับอายต้องให้นางเสียหน้าในตระกูลเซี่ยอย่างสิ้นเชิงตอนนั้นเหอโล่เหมยนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แดงและยิ้มอย่างเย็นชาช่างกวนตีนเลย คุณหญิงลูกพี่ลูกน้องที่ต่ำต้อยที่แม้แต่ท่านแม่ก็ไม่มีคนหนึ่ง จะรังแกลูกสาวสุดที่รักของนางได้หรือแม่นมซูพวกนางกําลังวางแผนที่จะบุกเข้าไป จับหร่วนหนิงอวี่โดยไม่สนใจนาง และตบหน้านางอีกสองสามครั้งเพื่อแก้แค้นแทนเซี่ยอี้โม่ แล้วค่อยพากลับไปที่ศาลบรรพบุรุษทันใดนั้น ก็เห็นว่าคุณหญิงลูกพี่ลูกน้องที่เอวบาง หน้าสวยก็เดินออกมาจากห้องอย่างสงบ"พวกแม่นมสบายดีไหม"หญิงชราเหล่านี้ตกตะลึงอยู่พักหนึ่งเห็นว่าหญิงสาวยืนอยู่ที่ประตูด้วยรอยยิ้ม แต่ดวงตากลับเย็นชา "รีบดูคนรับใช้ที่ถูกเลี้ยงดูในหอของท่านน้าสะใภ้สามสิ พวกแม่น
"คุณหญิง..."ชุนลวี่ตกตะลึงเล็กน้อย ไม่คิดว่านางจะรังเกียงนายน้อยใหญ่โดยไม่มีเหตุผลขนาดนี้เมื่อเห็นว่านางนั่งอยู่ตรงนั้น และไม่พูดจาอีกไม่มีทางเลือก ชุนลวี่ก็พูดด้วยกัดฟันว่า "งั้นตอนนี้ข้ากลับไปหาเสื้อผ้าที่สะอาดมาให้คุณหญิงเจ้าค่ะ ถ้าคุณหญิงไม่รังเกียจ..."หร่วนหนิงอวี่กล่าวว่า "ไม่ต้องหรอก"นางวางถ้วยชาลง "ข้าใส่ชุดนี้ก็พอ"ชุนลวี่เบิกตากว้างคุณหญิงจะใส่ชุดนี้ไปที่ศาลบรรพบุรุษได้อย่างไร นี่จะยิ่งทําให้ตัวเองตกเป็นข่าวซุบซิบ และยิ่งยากที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองไม่ใช่หรือชุนลวี่ยังอยากจะชักชวนต่อ ในเวลานี้เอง ก็มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากลานชุนลวี่ออกไปดู ที่แท้มีแม่นมเข้ามาจากข้างนอกหลายคน เป็นคนรับใช้ของตระกูลมานานแล้ว เคยชินกับการทำงานหนัก แต่ละคนก็ตัวใหญ่ ต่อมาก็เพราะอายุมากกว่า และมีฐานะในพวกคนรับใช้ หน้าตาก็ดูใจร้ายขึ้นชุนลวี่หน้าซีดไปและแม่นมที่เป็นผู้นํานั้น เป็นมือขวาของคุณนายสามเลย แม้แต่พวกคุณหนูในตระกูลก็ต้องเคารพนางด้วยแม่นมซูยืนอยู่แถวหน้า พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า"พวกคุณชายให้พวกทาสอย่างพวกข้ามาเชิญคุณหนูลูกพี่ลูกน้องไปศาลบรรพบุรุษ""เชิ