เซี่ยงจื่อหลานถอดเสื้อคลุมบางออกช้า ๆ ลมหนาวพัดผ่าน ทำให้เสื้อคลุมของเธอถูกพัดปลิวไปเห็นเขายังไม่ขยับเขยื้อนเซี่ยงจื่อหลานกัดฟันและถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของตัวเองออกเธอที่ไม่เหลือเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวยืนสั่นอยู่ท่ามกลางลมหนาว แต่กลับไม่กล้าพูดจาหลินเฟิงในหัวกำลังครุ่นคิดถึงคำพูดของเธอ เมื่อเห็นเธอถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นเขากลับไม่มีความสนใจแม้แต่น้อยหลินเฟิงเคยเห็นผู้หญิงหน้าตาสวยในโลกนี้มากมาย ผู้หญิงประเภทอย่างเซี่ยงจื่อหลานไม่เข้าตาเขาจริง ๆเขาดึงเซี่ยงจื่อหลานกลับเข้าไปในห้องเซี่ยงจื่อหลานรู้สึกดีใจอย่างมาก หัวใจที่หวาดเสียวในที่สุดก็สบายใจลงได้แต่หลินเฟิงกลับกดเธอเข้ากับกำแพงโดยไม่เกรงใจ“พี่ชาย คุณหยาบคายเกินไปหน่อยแล้ว” เซี่ยงจื่อหลานสายตายั่วยวน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยนึกว่าเขาเป็นบุคคลเก่งกาจ แต่คิดไม่ถึงว่าจะบ้ากามแบบนี้ตัวเองแค่ยั่วยวนนิดหน่อย ก็ควบคุมเขาได้สำเร็จน่าเสียดายที่เธอกลับคิดมากไปเองหลินเฟิงยกมือกดจุดใหญ่ ๆ ตรงบริเวณหน้าอกแต่ละจุดสามครั้งเซี่ยงจื่อหลานรู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างมากในทันทีในตอนนี้หลินเฟิงก็ดึงมือกลับและปล่อยเซี่ยงจื่อหลานออก“อ๊ะ
หลินเฟิงส่ายหน้าด้วยความเหยียดหยาม “ตอนนี้คุณควรจะเตรียมตัวให้ดีหน่อยว่าจะขอโทษหลี่ฮุ่ยหรานอย่างไร ทำอย่างไรถึงทำให้หลี่ฮุ่ยหรานให้อภัยคุณได้”“แต่ไม่ใช่มาทำท่ายั่วยวนอยู่ตรงนี้”หลินเฟิงมองเธอด้วยความดูถูก จากนั้นเดินออกไปทันที“คุณ…ไอ้หมอนี่…โอ๊ย…”หลินเฟิงเพิ่งเดินออกจากประตู เซี่ยงจื่อหลานก็รู้สึกเจ็บหน้าอกเพิ่มขึ้นมาอีกทันทีเธอเจ็บจนเหงื่อออกเต็มตัวถึงขั้นที่ไม่มีแรงที่จะลุกยืนขึ้นเธอกัดฟันแน่น ใช้แรงทั้งหมดถึงได้หยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะมาได้ จากนั้นก็รีบโทรหาคุณพ่อของตัวเองผ่านไปครู่ใหญ่เซี่ยงตงเซิงพาไป๋จินเต๋อตามมาที่ไนท์บาร์พวกเขาเพิ่งเข้ามาในห้องทำงาน ก็เห็นลูกสาวของตัวเองนอนเปลือยอยู่บนพื้นคนทั้งสองของสำนักหนานเยว่ก็ไม่รู้เป็นตายร้ายดีเขาตกตะลึงอย่างมาก งานเลี้ยงวันเกิดลูกสาวของตัวเองทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้เขารีบเดินไปข้างกายเซี่ยงจื่อหลาน คลุมเสื้อผ้าให้เธอ “ลูก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”“ใครทำร้ายพวกลูกจนเป็นแบบนี้?”เซี่ยงจื่อหลานพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “หลิน…หลินเฟิง”“อะไรนะ? ไอ้เวรนี่อีกแล้วเหรอ?” เซี่ยงตงเซิงได้ยินชื่อของหลินเฟิงก็โกรธเป็นฟืน
โรงพยาบาลเมืองเจียงโจวจางซินนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ยาวที่ทางเดิน เธอเพิ่งโทรศัพท์หาจางกุ้ยหลานเสร็จหลี่ฮุ่ยหรานพ้นขีดอันตรายกำลังจะย้ายไปที่ห้องพักผู้ป่วยเธอจึงเดินวนไปวนมาอยู่ตรงที่ทางเดิน จู่ ๆ หลินเฟิงก็กลับมา จากนั้นเธอก็หันหลังจะวิ่งหนีไปหลินเฟิงเดินเข้าไปจับข้อมือของเธอเอาไว้ และดึงเธอเข้ามาในห้องทันที“ว้าย…ไอ้สกุลหลิน นายจะทำอะไร? ฉันเจ็บนะ”จางซินรีบตะโกนขึ้นหลินเฟิงใบหน้าเย็นชาถามขึ้น “พูดมา วันนี้งานวันเกิดที่ตระกูลเซี่ยงตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”“ฉัน…ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร? อย่ามาถามฉัน รอให้พี่ของฉันตื่นมา นายไปถามเธอเองสิ” จางซินหลบสายตาหลินเฟิงหรี่ตาลง จากนั้นก็เข้าไปบีบคอของเธอเอาไว้“ฉันจะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย”“อุ๊บ…ไอ้สกุลหลิน นายบ้าไปแล้วเหรอ นายกล้าลงมือกับฉันเหรอ?” จางซินตกตะลึงจนหน้าซีดคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะกำเริบเสิบสานขนาดนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเธอหายใจไม่ออกแต่สองมือกลับจับกระเป๋าของตัวเองเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยแม้แต่วินาทีเดียวหลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็เข้าไปแย่งกระเป๋ามาจากเธอจางซินเห็นแบบนี้ก็ไม่ให้อยู่แล้ว “นายจะทำอะไร? กล้าแย่งของของฉัน เอ
จางซินได้ยินประโยคนี้ทำให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเธอหันไปพูดร้องห่มร้องไห้กับหลินเฟิง“หลินเฟิง นาย..นายรีบช่วยฉันสิ…ฉันพูด ฉันพูดพอใจแล้วยัง?”หลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็เดินเข้าไป ขวางทางทั้งสองคนเอาไว้ “คนคนนี้ พวกนายพาตัวไปไม่ได้แล้วล่ะ”“แกแม่งเป็นใครวะ? กล้ามาขัดขวางคนของสำนักหนานเยว่?” ชายร่างกำยำหนึ่งในนั้นขมวดคิ้วแล้วพูดเหยียดหยามหลินเฟิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย “ฉันไม่สนว่าพวกนายเป็นใคร ตอนนี้ปล่อยคนซะ”“แม่งเอ๊ย” คนอีกคนหนึ่งปล่อยหมัดออกมาทันทีว่องไวเป็นอย่างมากและว่องไวกว่าหวงเทียนเช่อและเฟิงเหยนแต่อยู่ต่อหน้าหลินเฟิงยังไม่เพียงพออยู่ดีเขาเอียงหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยหมัดกระแทกไปตรงหน้าของเขาอย่างไวราวกับสายฟ้าอีกฝ่ายตกตะลึงทันที จากนั้นก็ล้มลงบนพื้น และสลบไสลไปเหมือนกับเด็กทารก อีกคนหนึ่งเห็นแบบนี้ก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสีเดิมอยากจะจับตัวจางซินไปหลินเฟิงก็จับข้อมือของเขาเอาไว้และออกแรงทันที“แกร่ก” ทั้งแขนบิดเบี้ยวจนผิดรูป“อ๊าก…แขนของฉัน…ไอ้เวร แกเป็นใครกันแน่?”“นายเป็นคนของสำนักหนานเยว่เหรอ?”ชายร่างกำยำกัดฟันพูด “พูดจาไร้สาระ รู้ว่าเราคือคนของสำนักหนานเยว่ยังจะ
“รอให้หลี่ฮุ่ยหรานฟื้นมา ทางที่ดีเธออธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วย”หลินเฟิงถลึงตาใส่เธอจางซินกลืนน้ำลาย ในใจรู้สึกกระวนกระวายไม่กล้ามองตาหลินเฟิงด้วยซ้ำในตอนนี้เอง จางกุ้ยหลานกับหลี่เหวินเชาก็ตามมาที่โรงพยาบาลเห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่สลบไม่ได้สติ จางกุ้ยหลานก็ถึงกับตกตะลึง “แม่เจ้า นี่ใครกันแน่ที่ทำร้ายจนฮุ่ยหรานของพวกเราเป็นแบบนี้?”จางซินพูดขึ้นทันที “เป็น…คุณหนูของตระกูลเซี่ยง”“คุณหนูตระกูลเซี่ยง?” จางกุ้ยหลานสีหน้างุนงง“มันเรื่องอะไรกัน? พวกเราไม่เคยล่วงเกินตระกูลเซี่ยงมาก่อนนะ! คุณหนูตระกูลเซี่ยงทำไมถึงได้ทำร้ายหลี่ฮุ่ยหรานล่ะ?”“จริงด้วย…ในนี้ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า?” หลี่เหวินเชารีบพูดขึ้นจางกุ้ยหลานมองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ด้านข้าง “หลินเฟิง เป็นแกไอ้สารเลวที่หาเรื่องคุณหนูตระกูลเซี่ยงใช่ไหม?”หลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าจางกุ้ยหลานจะโยนความผิดมาที่เขาในทันทีเขาพูดเยาะหยัน “เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับฉันทั้งนั้น เป็นสวีเชาที่เหยียบเรือสองแคม”“สร้อยคอมูลค่าหนึ่งร้อยล้านบาทที่มอบให้หลี่ฮุ่ยหราน สร้อยเส้นนั้นเป็นของที่เซี่ยงจื่อหลานมอบให้สวีเชา”“แกพูด
“หือ…”จ้าวเทียนหวาพูดขึ้นในทันที “คุณชายหลิน หวงเทียนเช่อคนนี้เป็นลูกชายของท่านผู้นำสำนักหนานเยว่ ผมคิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงกับต้องฆ่าเขาหรอกนะครับ?”“ฆ่า? ฉันไม่ได้ฆ่าเขา แค่ถีบเขาไปครั้งเดียว หมอนั่นน่าจะยังมีลมหายใจอยู่จ้าวเทียนหวากลับงุนงง“นี่ไม่เหมือนกับข่าวที่ได้รับมาเลยนะ ท่านผู้นำสำนักหนานเยว่บอกว่าคุณฆ่าลูกชายของเขา”“ไม่ว่าอย่างไรหวงเทียนเช่อก็เป็นผู้นำน้อย เขาคงไม่ถึงกับเอาเรื่องนี้มาล้อเล่นนะครับ”หลินเฟิงขมวดคิ้วทันที เขามั่นใจอย่างมาก ตัวเองไม่ได้ฆ่าหวงเทียนเช่อบ้าบออะไรนั่นแน่นอนแรงที่เขาถีบออกไปมีมากแค่ไหน เขารู้ดี“เดาว่าน่าจะเป็นคนของตระกูลเซี่ยงฆ่าล่ะมั้ง”“ตอนนี้ได้ผูกความแค้นแล้ว คุณชายหลินวางแผนจะทำอย่างไรครับ?” จ้าวเทียนหวาถามขึ้น“ให้เซี่ยงจื่อหลานไปขอโทษหลี่ฮุ่ยหราน ไม่อย่างนั้น ล่มตระกูลเซี่ยงทั้งตระกูล” หลินเฟิงพูดอย่างไม่เกรงใจ“ได้ครับ”จ้าวเทียนหวาพยักหน้าติดต่อกัน สำหรับการตัดสินใจทุกอย่างของหลินเฟิงเขาก็ยกมือทั้งสองข้างแสดงความเห็นด้วยในเมื่อหลินเฟิงสั่งแล้ว งั้นตัวเขาเองก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทุกเมื่อขณะเดียวกัน ภายในวิลล่าตระกูลเ
“หลินเฟิง ถึงแม้นายจะพึ่งพาตระกูลถัง พวกเราสองตระกูลจุดยืนต่างกัน แต่นายก็เลวทรามเกินไปหน่อยไหม?”เซี่ยงตงเซิงอดกลั้นความโมโหแล้วพูดขึ้น “ทำร้ายคนของตระกูลเซี่ยงอย่างโจ่งแจ้ง แถมยังข่มขืนลูกสาวของฉัน และนายก็ผนึกจุดลูกสาวของฉัน? ตอนนี้ลูกสาวของฉันเหมือนตายทั้งเป็น”“เลวทราม? ผมเลวทรามอย่างไรก็คงไม่เลวเท่าคุณหรอก?”หลินเฟิงขมวดคิ้วแล้วพูดเสียงเย็นชา “ฆ่าอาจารย์เหลียงอย่างโจ่งแจ้ง ยังมีหน้ามาว่าผมอีก?”“อีกอย่างอย่าเอาความผิดมาโยนใส่ผม ผมข่มขืนลูกสาวของคุณ? ความสวยน้อยนิดของเธอ ผมไม่เห็นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ”“นาย...”เซี่ยงตงเซิงโมโหจนกัดฟันเสียงดังกรอด แทบอยากจะถลกหนังหลินเฟิงแต่ทำอย่างไรได้ชีวิตของลูกสาวตัวเองยังอยู่ในมือของหลินเฟิง เขาจึงทำได้แค่อดทนไว้“เอาล่ะ ฉันไม่อยากพูดไร้สาระกับนาย พวกเราจุดยืนต่างกันถกเถียงกันก็ไม่ได้ผลอะไรออกมา”เซี่ยงตงเซิงรีบพูดขัดจังหวะ “ระหว่างฉันกับนายเดิมทีก็ไม่มีความแค้นต่อกันอยู่แล้ว”“นายรีบแก้จุดให้ลูกสาวของฉัน ตั้งแต่นี้ต่อไปพวกเราต่างไม่ล้ำเส้นกัน”“หึหึ...”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ “คุณคิดได้ง่ายเชียวนะ”“เมื่อก่อนไม่มีความแค้น แต่ตอนนี้พ
เซี่ยงตงเซิงพูดขึ้นทันที “ถ้าหากท่านผู้นำหวงออกไปลงมือด้วยตัวเองจะต้องจับไอ้เวรนี่ได้แน่นอนครับ”ในตอนนี้หวงเฮ่อลุกขึ้นช้า ๆ “ตอนนี้ผมต้องการข้อมูลทั้งหมดของไอ้หมอนี่ รวมทั้งภูมิหลังของหมอนี่”เซี่ยงตงเซิงสั่งให้ไป๋จินเต๋อไปเอามาทันทีไม่นานนักก็นำข้อมูลทั้งหมดออกมาบนเอกสารแสดงข้อมูลว่า หลินเฟิงไม่มีพ่อไม่มีแม่ เติบโตมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อสามปีก่อนแต่งงานเข้าตระกูลหลี่...หลายปีมานี้มีชีวิตเรียบง่ายอย่างมากหวงเฮ่อพลิกดูผ่าน ๆ ก็พูดขึ้น “ไอ้หมอนี่มีความสามารถขนาดนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน”เซี่ยงตงเซิงก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ผมก็คิดแบบนั้นครับ ดูท่ามีคนตั้งใจลบบางอย่างออกไป”“หึ ไม่ว่ามันมีที่มาจากไหน กล้าฆ่าลูกชายของฉัน ไม่ว่ามันเป็นใคร ฉันก็จะสับมันให้เละ” หวงเฮ่อคำรามด้วยความโมโหดวงตาคู่หนึ่งยังกวาดมองไปทางเซี่ยงตงเซิงกับไป๋จินเต๋อเซี่ยงตงเซิงสัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บทันทีในตอนนี้หวงเฮ่อพูดขึ้น “พวกตระกูลหลี่คงไม่ต้องให้ผมลงมือจัดการหรอกนะ?”“ท่านผู้นำหวงวางใจได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนังแพศยาตระกูลหลี่คนนั้น พวกเราไม่มีทางปล่อยตระกูลหลี่ไปอยู่แล้ว”เซี
เมื่อพูดคำเหล่านี้ออกมา มันก็ใช้ได้ผลอย่างมากสีหน้าของลูกศิษย์ตระกูลเฝิงทั้งหมดต่างก็แสดงความหวาดกลัวออกมานิสัยของผู้นำ พวกเขารู้ดีที่สุดหากทำให้ผู้นำสามารถพูดแบบนี้ออกมาได้ งั้นก็แสดงว่าความแข็งแกร่งของหลินเฟิงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอนเมื่อนึกถึงการท้าทายแบบเด็ก ๆก่อนหน้านี้ที่พวกเขาล้อมหลินเฟิงเอาไว้ ทั้งยังท้าทายเขา หลาย ๆคนก็ถึงกับเหงื่อตกเลยทีเดียว“ไปกันเถอะ พาเฝิงหลีกลับไป”“ครับ”ในที่สุดเหล่าลูกศิษย์ตระกูลเฝิงก็ยอมรับ พวกเขาจึงตระหนักได้ในตอนนี้ว่า หลินเฟิงมีความหมายต่อตระกูลเฝิงของพวกเขามากแค่ไหน......“หยินหลิง ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงจะคิดยังไง หลินเฟิงก็ไม่ได้สนใจตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาสนใจ ก็คือ หยินหลิงเมื่อหยินหลิงเห็นหลินเฟิงหันกลับมา พร้อมกับพูดด้วยท่าทางที่ซับซ้อนเล็กน้อยว่า : “พี่หลินเฟิง ฉันขโมยชีพจรมังกรของพี่หรานฮุ่ยกับพี่ถังหว่านมา พี่ไม่ตำหนิฉันใช่ไหม?”“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?”หลินเฟิงกอดเธอไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับพูดขึ้นเบา ๆว่า :“สาวน้อยอย่างเธอเอาชีพจรมังกรมาล่อพลังงานให้ฉัน แล้วฉันจะไม่รู้ได
“พี่รอง หรือว่าพี่ใหญ่จะผิดสัญญา? ต้อง...ต้องการจะขัดแย้งกับสำนักร้อยพิษใช่ไหม?”เฝิงหลีรู้สึกตัวด้วยท่าทางที่หวาดกลัว“งั้นหลานชาย อวี้อู่ ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลยนะสิ!”เมื่อเห็นว่าเขายังคงพูดเรื่องอวี้อู่ออกมา เฝิงเอ้อก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที จึงหันกลับไปตบหน้าเฝิงหลีอย่างแรง“ไอ้สารเลว แกยังมีหน้ามาพูดถึงอวี้อู่อีกงั้นเหรอ?!”“หากไม่ใช่เพราะไอ้สารเลวอย่างแกที่วางยาพิษซ้ำสอง เรื่องมันจะมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?!”“อะไรนะ?!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฝิงหลีที่พยายามคลานขึ้นมาจากพื้นก็ตกตะลึง“พวก...พวกพี่รู้ได้ยังไง?”เขาคิดว่าตัวเองทำอย่างลับ ๆแล้ว แต่ทำไมคนเหล่านี้ถึงได้รู้ล่ะ?“ดีจริง ที่แท้ก็คือแกนี่เอง!”เฝิงเอ้อพูดเพียงแค่นี้ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเฝิงหลีจะสารภาพออกมาเองจริง ๆ เมื่อมองแบบนี้ หลินเฟิงก็พูดถูกแล้ว เหมาะสมแล้วที่เขาเป็นถึงอาจารย์หมอ!เมื่อเห็นเฝิงหลีไร้ยางอายขนาดนี้ เฝิงเอ้อก็โกรธจนหัวเราะออกมา“หมอเทวดาหลิน คนนี้จะจัดการอย่างไรดี?!”เขามองไปที่หลินเฟิงด้วยความเคารพ เห็นได้ชัดว่าพร้อมที่จะมอบสิทธิ์ในการจัดการเฝิงหลีให้กับหลินเฟิงแล้ว“ฉันได้ปิดจุดฝังเข็มไว้เ
“พี่รอง ช่วยผมด้วย พี่รอง ช่วยผมเร็ว ๆสิ!”เฝิงหลีเห็นเฝิงเอ้อก็เหมือนกับเห็นผู้ช่วยชีวิต ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปหาพี่รองของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วชี้ไปที่หลินเฟิงพร้อมกับพูดด้วยเสียงที่สั่นเทิ้มว่า :“มัน....ทำขาของผมหักไปทั้งสองข้างเลย พี่รอง ช่วยผมแก้แค้นด้วยนะ ผมจะฆ่ามัน ไม่สิ ผมอยากจะเฉือนเนื้อของมันออกมาที่นิด ๆ”“ผมอยากจะให้มันตายโดยที่ไม่มีที่ฝังศพ!”เสียงคำรามลั่นของเฝิงหลี ไม่ได้รับการยอมรับจากเฝิงเอ้อเมื่อเหล่าลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงที่กำลังลงมาจากรถที่อยู่ด้านข้างมองเห็นฉากนี้เข้า ทันใดนั้นดวงตาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ก่อนจะถลึงตามองไปทางหลินเฟิงด้วยความโกรธ“หลินเฟิง แกกล้ามากนะที่กล้ามาตัดขาคุณท่านสามตระกูลเฝิงของพวกเรา”“ใช่แล้ว วันนี้อย่าคิดว่าแกจะออกไปได้ครบสามสิบสองส่วนเลย!”“ตระกูลเฝิงของพวกเราจะไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”ดูเหมือนว่าเฝิงชางเพียงแค่ให้คนเหล่านี้มาขัดขวางเฝิงหลีเท่านั้น แต่ไม่ได้บอกกับพวกเขาว่าหลินเฟิงเป็นคนที่ตระกูลเฝิงไม่สามารถล่วงเกินได้แต่ถึงแม้จะบอกไป คนเหล่านี้ก็มีท่าทางที่ดูถูกหลินเฟิงอยู่ดีในเมื่อพวกเขาไม่เคยได้เห็นวิธีการของหลินเฟิงมาก่อนเลย“
“เชี่ย เชี่ยเอ๊ย!”เฝิงหลีตกใจจนหน้าซีดเซียว ในปากก็ด่าคำหยาบต่างๆ นานา ร่างกายก็ถอยหลังไม่หยุดเป็นเพราะผู้ชายตรงหน้าที่เดินเข้ามาหาเขา ไม่เหมือนกับคนด้วยซ้ำเหมือนกับสัตว์ดุร้ายยุคดึกดำบรรพ์ที่อยู่บนภูเขาสูง ส่งเสียงคำรามสะเทือนเลือนลั่นออกมาส่วนหลินเฟิงก็เห็นหยินหลิงที่กระโปรงเลิกขึ้นถึงขาอ่อนตั้งแต่ไกลๆ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเฝิงหลีคนนี้คิดจะทำอะไรเขาเดินไปจุดที่อยู่ใกล้กับเฝิงหลี จู่ๆ ก็คำรามออกมาด้วยความเดือดดาล“อ๊าก อ๊าก!”เฝิงหลีกลับตกใจจนอะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน ยกเท้าวิ่งเผ่นแนบ“คิดหนีงั้นเหรอ? สายไปแล้ว!”หลินเฟิงโบกมือ ขณะที่เฝิงหลีวิ่งอย่างสุดกำลังอยู่นั้น กลับพบว่าขาทั้งสองข้างของเขาออกแรงยังไงก็ไม่มีกำลังส่วนร่างกายของเขาก็ล้มลง ไม่สามารถควบคุมได้“นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฝิงหลีก้มหน้ามองคนทั้งคนตกใจจนสติแทบแตกทันทีเป็นเพราะว่าตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเขา ถูกฟันขาดออกจากหัวเข่าอย่างเรียบเนียนโดยพลังชี่แท้ที่หลินเฟิงส่งออกไปเขาล้มลงอย่างควบคุมไม่ได้ หันหลังไปเห็นขาทั้งสองข้างที่ยังตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิม“อ๊าก อ๊ากกกกกกกกก!”
“ส่วนคุณ หนูที่ได้เปรียบ คิดว่าตัวเองควบคุมได้ทุกอย่าง แต่หนูก็คือหนู คุณไม่เหมาะสมที่จะยืนบนเวทีและได้รับความเคารพ”“แม่งเอ้ย!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฟิงหลีก็โกรธจนตัวสั่นไปหมดเขาจับหยินหลิงกดลงกับพื้น คลายเข็มขัดของตัวเองด้วยมือข้างหนึ่ง และคำรามว่า :“วันนี้ฉันจะทำให้คุณตายอยู่ข้างถนน แล้วมาดูกันว่าคุณจะกล้าดูถูกฉันอีกไหม!”“หึหึหึ....”หยินหลิงที่ถูกจับกุมอยู่ กลับหัวเราะเยาะขึ้นมาแทน"คุณคิดว่านี่จะทำให้ฉันยอมแพ้งั้นเหรอ?"“สิ่งนี้แค่เน้นย้ำถึงความไร้ความสามารถและความเลวทรามของคุณเท่านั้น รอให้กลุ่มพันธมิตรบู๊ตอบกงลับมา ก็จะหาพวกคุณเจอเอง”“เมื่อถึงเวลา คุณก็จะถูกสำนักร้อยพิษโยนออกไปเป็นอาหารปืนใหญ่ ช่างต่ำช้าและน่าสมเพชจริงๆ...”“แม่งเอ้ย!”เฟิงหลีไม่สามารถคลายเข็มขัดด้วยมือข้างเดียวได้ และเมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของหยินหลิง เขาก็ยิ่งโกรธและกระสับกระส่ายมากขึ้น จนถึงกับตะโกนเรียกคนขับรถที่อยู่ข้าง ๆ ให้เข้ามาช่วยจับหยินหลิงไว้"แต่ว่าคุณท่านสาม..."คนขับยังคงต้องการให้คำแนะนำสุดท้ายอีกแต่เฟิงหลีในเวลานี้ไม่ฟังใครอีกต่อไปแล้วดวงตาที่แดงก่ำ ทำให้คนขับกลืนคำพูดที่กำ
แน่นอนสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คื ความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวหยินหลิง ความลับที่หลอกล่อยอดฝีมือของประเทศมังกรทุกคนหากเธอตกอยู่ในมือของสำนักร้อยพิษแล้วสุดท้าย สำนักร้อยพิษก็จะได้เปรียบไปนี่เป็นสิ่งที่หยินหลิงไม่อยากเห็นแม้ว่าเธอจะตายก็ตาม“หึหึ ท่านหัวหน้า ฉันแนะนำว่า คุณอย่าคิดอะไรเลวร้ายเลยจะดีที่สุด ตอนนี้ในร่างกายจของคุณ ฉันได้วางยาตะขาบเลือดไว้แล้ว เพียงแค่ฉันไม่พอใจ”“ท่านหัวหน้าก็ได้เสียชีวิตไปซะแล้ว”เฟิงหลีข่มขู่ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ยื่นมือไปยกคางของหยินหลิงขึ้นพร้อมกับถอนหายใจและพูดว่า :“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับท่านหัวหน้า ท่านหัวหน้านั้นงดงามจริงๆ มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง”เมื่อได้ยินคำล้อเล่นพวกนี้ หยินหลิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาขณะที่มองไปทางเฟิงหลีด้วยความดูถูก ร่างกายก็หลีกเลี่ยงฝ่ามือของเฟิงหลีไปโดยไม่รู้ตัว“หืม?”ใบหน้าของเฟิงหลีเปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่าหยินหลิงยังคงไม่เชื่อฟังตัวเองหัวหน้าของกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่ปกติจะเข้าถึงได้ยากนั้น ตอนนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองแล้วความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขแต่เขาไม่คาดคิดว่า
“ผม...”หลินเฝิงโกรธอย่างมากจนอยากจะฆ่าเฝิงชางซะเดี๋ยวนี้แต่ไม่นานหลินเฝิงก็สงบสติอารมณ์ลงเขาดีดนิ้ว ก่อนที่พลังชี่แท้โปร่งใสจะถูกปล่อยเข้าสู่ร่างของเฝิงอวี้อู่หลินเฝิงก้าวออกไปและพูดอย่างเย็นชาว่า:“หากผมไม่ได้กลับมาก่อน คุณชายตระกูลเฝิงของพวกคุณก็อาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว”“หากเกิดอะไรขึ้นกับหยินหลิงที่นี่ ฉันจะให้ทุกคนในตระกูลเฝิงถูกฝังไปพร้อมกับเธอ! ได้ยินหรือเปล่า?!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฝิงชางก็ตัวสั่นอย่างมากหากเขาเคยดูถูกหลินเฝิงมาก่อน ตอนนี้เขาคงรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เกิดจากหลินเฝิงลองคิดดูสิชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ แน่นอนว่าเบื้องหลังเขาเบื้องหลังของเขาไม่ได้มีแค่หลี่ซื่อกรุ๊ปที่เป็นกองกำลังเล็ก ๆต้องมีอำนาจบางอย่างซ่อนอยู่ในประเทศมังกรอำนาจแบบนี้ไม่ควรไปยั่วยุให้มากนักเมื่อมองไปที่ร่างหลินเฝิงที่เดินจากไป เฝิงชางก็คิดได้หลายอย่างในใจทันทีเนื่องจากเป็นผู้นำตระกูลเฝิง เขาจึงรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาเลยในขณะนี้หากตอนแรกมันเป็นเพียงชีวิตของลูกชายเขาต่อมาเขาได้ไปยั่วยุสำนักร้อยพิษและเชิ
“เข็มเจ็ดสิบสองเล่มขจัดความชั่วร้าย!”หลินเฟิงก้มหน้าตวาดเสียงทุ้มต่ำ ดึงเข็มเงินที่ฝังอยู่บนตัวของเฝิงอวี้อู่ออก และตกลงบนพื้นเสียงดังติ๊งเข็มเงินเพิ่งจะออกจากตัวของเฝิงอวี้อู่ เฝิงอวี้อู่ก็ส่งเสียงร้องโอดครวญเสียงสูงจึงทำให้เฝิงชางที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างร้อนใจจนใบหน้ามีเหงื่อออกแต่เขาไม่เพียงไม่กล้ารบกวนหลินเฟิง ทำได้แค่มองตาปริบๆคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ก็ไม่ได้สนใจเฝิงอวี้อู่อีกแล้ว แต่หันหน้ามองไปทางหมอเทวดาเลี่ยวที่หมดสติอยู่เฝิงอวี้อู่พิษเข้าไขกระดูก หลินเฟิงต้องใช้กลอุบายจัดการเล็กน้อยแต่ทว่าทางด้านหมอเทวดาเลี่ยวง่ายกว่าเยอะเลยหลินเฟิงยกมือขึ้นโดยตรง ปล่อยพลังชี่แท้บริสุทธิ์เข้าไปที่หน้าผากของเขา และนำยาเม็ดสีเหลืองใส่เข้าปากของหมอเทวดาเลี่ยว“ไปเถอะ หามหมอเทวดาเลี่ยวไปพักในที่เย็นสบาย อีกเดี๋ยวเขาก็ได้สติแล้ว”คำพูดนี้ของหลินเฟิงพูดให้เฝิงเอ้อฟังเฝิงเอ้อชี้ตัวเอง และมีสีหน้างุนงง“ไปสิ! ฟังหมอเทวดาหลิน!”เฝิงชางตวาดน้องชายคนรองของตัวเองเสียงดัง แต่ทว่าเฝิงเอ้อรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ไม่กล้าเข้าไปสัมผัสหลินเฟิงมองออกถึงความเป็นกังวลของเขา เก
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได