“ตระกูลถัง...เฮ้อ ตระกูลถัง...”ทันใดนั้น ถังหว่านนึกถึงคำพูดที่หลงเซียวพูดกับเธอในตอนที่อยู่ชั้นใต้ดินเมื่อครู่นี้ขึ้นมากะทันหัน“ยังไงพวกหัวโบราณของตระกูลถังของเธอ ไม่มีทางกล้าแตกหักกับตระกูลหลงของเรา”“จุดอ่อนของตระกูลถังฉันตรวจสอบชัดเจนตั้งนานแล้ว”“ต่อให้วันนี้เธอตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีคนใส่ใจ”“พวกเขาอาจจะยังเฝ้าถิ่นฐานของตัวเองอยู่ เป็นกังวลที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตระกูลหลงจะแตกหักกับพวกเขาอยู่ละมั้ง?”นึกถึงตรงนี้ ถังหว่านถึงแม้จะยิ้มอยู่ แต่ในใจกลับโศกเศร้าถึงที่สุดคนตระกูลถังของเธอทำไมถึงเห็นแก่ประโยชน์ระยะสั้นแบบนี้?ยอมประนีประนอมเต็มที่ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจะบุกไปก็ไม่กล้าจะถอยหลังก็กลัว ผลลัพธ์สุดท้าย ก็ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูด้วยน้ำมือของตัวเองต่อให้ก่อนหน้านี้นิสัยที่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าของหลงยวนปรากฏออกมา หลินเฟิงออกหน้าช่วยเหลือ พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแม้แต่นิดและก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวในภายหลังคิดเพียงแค่ว่าอยู่รอดไปวันๆ“เศษสวะ”ถังหว่านด่าออกมาเสียงต่ำ“คุณว่าอะไรนะ?”ถังจวินคิดว่าตัวเองได้ยินผิด“ฉันพูดว่าพวกนายเป็นพวกเศษสว
“นาย ถังหว่าน ทุกคนที่อยู่ข้างกายของนาย ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป! ฉันสาบาน!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ที่ตรงไปตรงมาของหลงเซียวแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกโมโหอย่างมากเขาหันมองไปทางถังจวินและพูดตวาดว่า:“นายได้ยินแล้วยัง?! ถังจวิน หน่วยลับของพวกนายมีหน้าที่ปกป้องตระกูลถังไม่ใช่เหรอ?”“หลงเซียวคนนี้จะจัดการตระกูลถังของพวกนาย! ทำไมนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นอีก?! ในหัวสมองพวกนายใส่ขี้เลื่อยเอาไว้งั้นเหรอ?!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำด่าทอของหลินเฟิง ถังจวินก็มีสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง นี่คือความแค้นส่วนตัวของนายกับคุณหลงเซียว ถ้าหากนายอยากยืมมือเราฆ่าคน งั้นฉันก็พูดได้แค่ว่านายเดินหมากผิดแล้ว”“ไอ้เชี่ย!”หลินเฟิงโมโหที่ไร้ความสามารถ เขาแทบอยากจะมัดหน่วยลับของตระกูลถังเอาไว้ด้วยกันแล้วจุดไฟเผาให้หมดไป“คนอื่นเอามีดจ่อคอพวกนายแล้ว นายจะไม่ตอบโต้จริงๆ งั้นเหรอ? ต้องให้คนเขาแทงนายให้ตาย นายถึงจะรู้จักดิ้นรนงั้นเหรอ?!”หลินเฟิงพูดมาถึงขนาดนี้แล้วแต่ถังจวินก้ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน“คำสั่งแรกของหน่วยลับตระกูลถังในการดำเนินตามคำสั่งก็คือคำสั่งของคนระดับสูงของตระกูลถัง ไม่ใช่คนนอกอย่างนาย”ถังจวินมอ
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุ้มกันตระกูลหลง หลงเซียวก็โมโหจนจมูกเกือบบิดเบี้ยว เธอชี้ไปทางสมุนและนักเลงที่ใบหน้าโหดเหี้ยมที่ตามมาอยู่ด้านหลัง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:“นายดูพวกเขาสิ ท่าทางเหมือนคนไม่กล้าแตะต้องฉันงั้นเหรอ?”“ถ้าพวกนายกล้าไม่สนใจฉัน พวกนายรู้ถึงจุดจบแน่!”เมื่อเผชิญหน้ากับคำขู่ของหลงเซียว ผู้คุ้มกันคนนี้หน้าเสียเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ทั้งๆ ที่ตัวเองสามารถหนีไปได้ แต่กลับต้องพาตัวถ่วงอย่างหลงเซียวไปด้วย สุดท้ายก็ถูกล้อมเอาไว้แน่นอนว่า เขาก็ไม่กล้าทอดทิ้งหลงเซียวถ้าหากนักเลงพวกนี้กล้าฆ่าหลงเซียวจริงๆ งั้นที่ตัวเองทิ้งหลงเซียวไว้แล้วหนีไป ก็ถือว่าเป็นโทษประหารชีวิตไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้อย่างแน่นอนแต่…เมื่อมองดูสมุนกับนักเลงที่โผเข้ามาอย่างดุดันโดยรอบนั้น เขาคิดว่า ตัวเองไม่มีทางรอดไปได้ภายใต้การโจมตีของคนเหล่านี้แน่นอนดังนั้นก็ทำได้แค่ตัดสินใจตายก็ตายสิ ไม่ว่ายังไงก็ตายอยู่ดี!เขาล้วงอาวุธออกมาจะต่อต้าน แต่ก็ถูกสมุนและพวกนักเลงฟันจนเละเป็นเนื้อสับ“พวกนาย…พวกนายจะทำอะไร?!”ถังจวินและคนอื่นๆ ที่เดินไกลออกไปแล้วเห็นภาพที่วุ่นวายแบบนี้ ก็ขับรถกลับมาทันที“เรื่
“ตู้ไหว”หลินเฟิงมองตู้ไหวที่จะหนีไป จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ช่างเถอะ เอาเป็นว่า คุณไม่มีทางเสียใจภายหลังแน่นอน”“อืม หวังว่าเป็นงั้นนะครับ”ตู้ไหวมองไปทางหลินเฟิงแล้วเผยรอยยิ้มลำบากใจออกมา จากนั้นพาลูกน้องของตัวเองหนีจากทั้งหมดเหลือเพียงถังจวินที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และคนตระกูลหลงที่กลายเป็นซอสเนื้อ“หลินเฟิง คนเหล่านั้นเป็นใครกัน?!”“วันนี้นายจำเป็นต้องบอกกับฉัน!”ถังจวินโมโหจนมุ่งหน้าเข้ามา และดึงคอเสื้อของหลินเฟิงเค้นถามหลงเซียวตายแล้วถ้าหากไม่มีเหตุไม่คาดฝันอะไร หน่วยลับของตระกูลถังก็จะต้องตกเป็นผู้รับเคราะห์ในเวลาแบบนี้ไม่มีใครเชื่อว่านักเลงที่ผ่านมากลุ่มหนึ่งจู่ๆ เกิดความคิดจะฆ่าหลงเซียวของตระกูลหลงมีแต่จะเชื่อว่าเป็นฝีมือของหน่วยลับตระกูลถังนี่มันเป็นการจับถังจวินและหน่วยลับตระกูลถังคนอื่นๆ ขึ้นเตาเผาอย่างไม่ต้องสงสัยถึงเวลาคนชั้นสูงของตระกูลถังถามขึ้นมา พวกเขาอธิบายได้ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เห็นท่าทางลนลานของถังจวิน หลินเฟิงยิ้มอย่างสบายอกสบายใจ และส่ายหน้าพูดว่า:“เป็นสุนัขรับใช้จนติดนิสัยแล้วเหรอ?”“พวกนายคิดว่าใครก็เป็นเหมือนพวกนายงั้นเหรอ?”
เขาในฐานะผู้นำตระกูลถัง จึงมองเป้าหมายของคนเหล่านี้ออกในฐานะผู้ทำการค้าที่แท้จริง คนเหล่านี้ไม่อยากเปิดศึกกับตระกูลหลง อยากจะปกป้องถิ่นฐานของตัวเองเอาไว้ถ้าหากจะเปิดศึก งั้นก็หวังว่าจะยื้อเวลาเอาไว้ให้ได้เต็มที่แต่ถังเจี้ยนหยวนรู้ว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็เป็นการยืนรอความตายชัดๆ แต่คนเหล่านี้หัวโบราณเกินไปยินยอมยืนรอความตาย ก็จะไม่ยอมขาดทุนนี่เป็นสันดานเลวที่มีเฉพาะผู้ทำการค้า“เอาล่ะ ถังจวิน นายออกไปเถอะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”ถังเจี้ยนหยวนโบกมือ บอกให้ถังจวินออกไปถังจวินทำความเคารพ และหันหลังเดินจากไป“เฮ้อ...”ถังเจี้ยนหยวนกลับมานั่งลงตรงตำแหน่งของผู้นำตระกูล จากนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวๆตระกูลหลงทำขนาดนี้แล้ว แต่ตระกูลถังยังคงแตกแยกกัน ทุกคนต่างหวาดกลัวตัวเองจะเสียหาย ดังนั้นไม่มีความคิดที่จะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อมาสู้รบกับตระกูลหลงด้วยซ้ำต้องรู้ไว้ว่าตระกูลถังในฐานะตระกูลการค้าสามารถกลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองจิงประเทศมังกรได้ เช่นนั้นเรื่องที่มีอิทธิพลก็ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่รูปแบบของตระกูลถังแตกต่างจากตระกูลอื่นๆ เป็นอย่างมาก
เมืองจิง คฤหาสน์ตระกูลหลงเวลานี้หลงยวนถือหนังสือคัมภีร์ไว้ในมือ พร้อมกับเดินท่องบทไปมานี่คือการลงโทษที่ผู้นำตระกูลหลงมอบให้กับเขาก่อนหน้านี้ และเขาจะต้องท่องคัมภีร์ห้าสิบเล่มให้ได้ จึงจะปล่อยให้เขาออกไปข้างนอกได้อีกครั้งหลงยวนก็ไม่โต้แย้งแม้แต่น้อย และอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวันเพื่อท่องหนังสือคัมภีร์“คุณชายหลงยวน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”ในเวลานี้ พ่อบ้านตระกูลหลงเข้ามาในห้องหนังสือด้วยท่าทางตื่นตระหนก“เกิดอะไรขึ้น?”หลงยวนจำเป็นต้องท่องให้เสร็จเรียบร้อยนั้น ถึงได้หันไปมองทางพ่อบ้านตระกูลหลงคนนั้นถึงแม้ว่าใบหน้าของพ่อบ้านตระกูลหลงจะเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่หลงยวนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ถึงขั้นที่ไม่สามารถอ่านความคิดจากใบหน้าของเขาได้เลย“คุณชายหลงหยวน เมื่อครู่พวกเราได้รับแจ้งจากตระกูลซือหม่าว่าคุณหนูหลงเซียวถูกฆ่าตายแล้ว!”“ที่เทียนจวิ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์จำกัด!”พ่อบ้านตระกูลหลงหน้าตาเศร้าเสียใจ“ถูกคนฆ่า?!”ในแววตาของหลงยวนมีความเย็นชาวาบผ่าน เขาจ้องมองไปที่พ่อบ้านตระกูลหลงและพูดว่า :“เล่าที่มาที่ไปทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยสิ”“คุณชายหลงยวน คือแบบนี้ครับ ก่อนหน้านี้คุณหนูห
“ระหว่างตระกูลใหญ่ เรื่องที่ต้องห้ามมากที่สุดก็คือสร้างความแค้นเล็กๆ แล้วทำลายเรื่องสำคัญ เพิ่มช่องว่างและขัดขวางความสัมพันธ์”แววตาของหลงยวนลึกซึ้ง แล้วเอ่ยอย่างเย็นชาว่า :“แต่ผมไม่เหมือนกัน สิ่งที่ผมจะทำไม่ใช่มองหาความแค้นเล็กๆ แต่เป็นการสร้างหมากรุกขึ้นมา”“หากแผนของหลงเซียวสำเร็จ อย่างมากก็แค่ให้ตระกูลถังรู้สึกหวาดกลัวและออกจากเมืองจิงไป”เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของหลงยวน พ่อบ้านก็สับสนเล็กน้อย“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง หากไม่อยู่ในเมืองจิง แบบนั้นยังจะเรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิงได้อย่างไร?”“ผิดแล้ว”หลงยวนพูดอย่างเย็นชาว่า :“สิ่งที่เรียกว่าสี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง ไม่ได้เป็นเพียงอำนาจที่คุณเห็นแค่ภายนอกเท่านั้น”“ยกตัวอย่าง ตระกูลหลินที่แทบจะสูญหายไปแล้ว”“คฤหาสน์ที่เมืองจิงของตระกูลหลินที่ตั้งอยู่นั้นแทบจะรกร้าง มีใยแมงมุมอยู่เต็มไปหมด และไม่มีใครทำความสะอาด แต่คุณกล้าพูดไหมว่าตระกูลหลินไม่ใช่หนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวย?”“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไร้เดียงสาเกินไป”หลงยวนเงยหน้า สายตาแสดงความลุ่มลึกออกมา“สี่ตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองจิง เบื้องหลังของทุกตระกูลต่
“คุณชายหลง พวกเราควรจะทำยังไงกันดีครับ?”ชายชุดดำที่ราวกับหมอกควันสีดำยังคงถามต่อไป“ไม่ต้องตื่นตระหนก ดูว่าเขากลับมาทำอะไรที่เมืองจิง ใช่แล้ว เอาเรื่องนี้ไปเจ้งกับพ่อของฉันด้วย ให้เขาระวังตัวไว้”“เข้าใจแล้วครับ”ชายชุดดำพยักหน้า แล้วหายไปในหมอกควันสีดำเหมือนกับตอนที่ตัวเองปรากฏออกมา“ราชาหลินแห่งตอนใต้....ตาแก่คนนี้ คงไม่ได้ใกล้ตายแล้วหรอกนะ?”หลงยวนพึมพำกับตัวเอง“เขาจะตายก่อนไม่ได้นะ....”......ตอนเที่ยง คฤหาสน์ตระกูลถังหลินเฟิงที่กำลังตรวจดูรอยแผลบนใบหน้าของถังหว่าน หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาหลินเฟิงเตรียมขี้ผึ้งและผลลัพธ์ก็ดีอย่ามาก รอยแผลบนใบหน้าของถังหว่านแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่จะตกสะเก็ตอย่างชัดเจนแล้วหากทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆในไม่กี่วันก็จะหายขาด“หลินเฟิง คุณว่าต่อไปฉันจะต้องใช้ชีวิตทั้งใบหน้าแบบนี้ไหม?”ถังหว่านที่ยืนอยู่ด้านหน้ากระจก พร้อมกับมองด้านซ้ายและด้านขวา แม้ว่าน้ำเสียงจะผ่อนคลาย แต่หลินเฟิงกลับมองเห็นถึงความกังวลเล็กน้อยในแววตาของเธอ“พูดได้ยาก”คำพูดของหลินเฟิงทำให้ถังหว่านตัวแข็งทื่อแต่เมื่อเธอหันกลับมา กลับมองเห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายของหลินเฟิง
ดังนั้นเขาจึงชี้หลินเฟิงพูดด้วยความโมโหว่า:“หลินเฟิง นายนับประสาอะไร ตอนที่พวกเรานำของขวัญแต่ละชิ้นออกมาต่างก็มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบแท้ปลอม แจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนี้ของฉันจำเป็นของปลอมได้ยังไง?”“หรือว่านายคิดว่าตัวเองมีความเชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้ตรวจสอบที่คุณเผิงกวงฉี่พามา?”“หึ”ชายชราที่ท่าทางเด็ดเดี่ยวนั่งอยู่ตรงแถวหน้า ส่งเสียงไม่พอใจออกมาเขาก็คือผู้ตรวสอบที่เผิงกวงฉี่เชิญมา เขาเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งหัวตงสมบัติล้ำค่าทุกชิ้น ก่อนจะขึ้นเวทีก็จะต้องผ่านมือของเขาก่อนอีกทั้งให้ราคาประมาณคร่าวๆหลินเฟิงแสดงความคัดค้านต่อหน้าทุกคน ถือเป็นการหักหน้าเขาชัดๆ“ไอ้หนุ่ม ฉันคือโปมู่แห่งเมืองเหยียนจิ้น จังหวัดปินโจ นนอกเรียกฉันว่าอาจารย์โป แจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนั้นฉันเพิ่งดูเมื่อครู่นี้ ไม่มีทางเป็นของปลอมแน่นอน!”“ถ้าหากนายตั้งใจทำตัวเด่นดึงดูดความสนใจ งั้นฉันพูดได้แค่ว่านายเลือกคนผิดแล้ว!”“อะไรนะ? อาจารย์โปงั้นเหรอ?”“ไม่เสียแรงที่เป็นคุณเผิงกวงฉี่ แม้แต่อาจารย์โปก็ยังเชิญมาได้!”ได้ยินคำพูดของชายชราผู้เด็ดเดี่ยวสวมชุดขาว แขกที่อยู่ในงานก็เผยสีหน้าตกตะลึงออก
“อะไรนะ? แจกันหยกบริสุทธิ์ของสมัยประวัติศาสตร์?!”“ตระกูลถังเมื่อออกหน้าก็ใหญ่โตหรูหราจริงๆ เลยนะ!”“ของชิ้นนี้คงราคาเกินห้าร้อยล้านสินะ?!”ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังหึ่งอยู่โดยรอบ ถังฮั่วก็พูดเสียงดังอย่างลำพองใจว่า:“ของขวัญชิ้นนี้ ผมถังฮั่วแห่งตระกูลฮั่ว เป็นตัวแทนของตระกูลถังสาขาย่อยเมืองหนิงโจว ขอให้ท่านเผิงกวงฉี่ได้รับพรจากพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิมผู้ทรงมีเมตตา ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่น ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง!”“ดีดีดี ขอบคุณที่เปลืองแรง”เผิงกวงฉี่ยิ้มบาง พยักหน้าติดต่อกันตระกูลถังกับเขามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกัน และก็เป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาถึงแม้ครั้งนี้คนของต้นตระกูลถังจะไม่ได้มา แต่ตระกูลย่อยมาถึง และมอบของขวัญที่ล้ำค่าให้ ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วมิตรภาพแบบนี้ เขาจดจำไว้ในใจอยู่แล้วแจกันหยกบริสุทธิ์ชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ฉินโบราณ ตระกูลถังไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลใจบุญอันดับหนึ่งของประเทศมังกร สมบัติล้ำค่าระดับนี้ก็ยังยอมเอาออกมาได้”“ตระกูลถังใจกว้างจริงๆ!”ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาที่ด้านล่างเวที ถังฮั่วใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติยินดี
“คุณเผิงกวงฉี่ถูกคนทำให้ด่างพร้อยต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ แถมญาติสายตรงของลูกน้องยังถูกทำร้าย”“เขาไม่อยากออกหน้า เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้!”“ถึงเวลานั้น…”ไม่รอให้ถังฮั่วพูดจบ ผู้อำนวยการเจียงปรบมือและหัวเราะพูดว่า:“หลินเฟิงคนนั้นต้องตายแน่ ความแค้นของลูกชายผม ก็สามารถแก้แค้นได้ในทันที“ถูกต้อง!”ถังฮั่วพยักหน้า ลำพองใจอย่างมากสถานการณ์อับจนแบบนี้ ไอ้หมอนั่นยังจะมีวิธีอะไรหลุดพ้นไปได้?ต่อให้เขาเก่งกาจแค่ไหน ยังจะเป็นศัตรูกับเผิงกวงฉี่ เศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงได้งั้นเหรอ?เส้นสายและทรัพย์สินของเผิงกวงฉี่มีมากมายจ้างคนมาไม่กี่คน ก็สามารถทำให้หลินเฟิงตายโดยไม่มีที่ฝังศพได้แล้วทั้งสองคนวางแผนแบบนี้ สายตาเคร่งขรึมก็กวาดมองไปที่ตัวหลินเฟิงไม่หยุดหลินเฟิงสัมผัสได้อยู่แล้วแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาสนใจอะไรมากขนาดนั้น เพราะหยกจิ้งจอกชิ้นนั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาได้รับความเสียหายอาจเป็นที่ห้องน้ำเมื่อครู่นี้ตอนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนนั้นลงมือจึงไปกระแทกโดนเอาเป็นว่า รอยแตกที่มีบนหยกจิ้งจอกเป็นเดิมทียิ่งอยู่ยิ่งกว้างขึ้น ถ้าหากหยกโมโรถูกนำออกมาล่วงหน้า เช่นนั้นปร
“ทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่งานประมูลการกุศลของผมเผิงกวงฉี่”“ถือว่าผมเพิ่งหายจากการป่วยหนัก จึงเลือกเวลา แสดงความขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ห่วงใยผมเผิง กวงฉี่”ไม่นานนักเผิงกวงฉี่ปรากฏตัวบนบันไดตรงชั้นสองของโรงแรมเขาสีหน้าแดงระเรื่อ ดูราศีดี เวลาเดินไม่ต้องให้คนประคอง เอวและหลังก็สามารถยืดตรงได้“หึหึ”สัมผัสได้ถึงสายตาของทุกคน เผิงกวงฉี่เดินลงจากบันไดช้าๆ และยิ้มพูดว่า:“เพราะว่าคนที่อยากมาเจอผมมาก อีกทั้งแต่ละคนต่างนำของขวัญต่างๆ มาให้ ดังนั้นผมคิดว่า จัดการประมูลการกุศลซะเลย”“ด้านหนึ่ง สามารถยืมสิ่งของของท่านมาแสดงน้ำใจไมตรี ยืมมือของทุกท่าน สนับสนุนการกุศล ถือว่าเป็นการทำเรื่องดี”“อีกด้านหนึ่ง ก็ถือว่าเปิดโอกาสครั้งใหญ่ ให้ทุกท่านได้รวมตัวกัน ไม่แน่อาจมีโอกาสได้ร่วมมือกันหรือทำเงินด้วยกันก็ได้”“ฮ่าฮ่าฮ่า…”หลังจากที่เผิงกวงฉี่พูดจบ ภายในห้องโถงมีเสียงปรบมือดังไปทั่วไม่เสียงแรงที่เป็นเผิงกวงฉี่คำพูดท่อนเดียวก็รัดกุมอย่างมากยืมของขวัญจากผู้อื่นที่มาเยี่ยมเขา ทำการกุศล ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมากมอบของขวัญให้คนอื่นด้วยเหตุผลที่เหมาะสมถึงขั้นที่ยังถือโอกาสจัดการชุมนุ
“หลินเฟิง ฉันไม่อยากถามว่าลูกชายของฉันทำผิด หรือว่าเป็นความผิดของนาย”“ในเมื่อฉันเป็นพ่อของเจียงปิน จะตีสุนัขก็ยังต้องดูเจ้าของ ผมจะมองดูลูกชายของตัวเองถูกคนทำให้พิการไม่ได้ แถมยังประนีประนอมกับคนร้าย”“ในเมื่อฉันสู้นายไม่ไหว งั้นก็มีคนที่สู้กับนายได้!”เจียงจี้ถงส่งเสียงไม่พอใจและพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“ฉันจะนำเรื่องนี้ไปบอกคุณเผิงกวงฉี่!”“ด้วยมิตรภาพอันยาวนานของฉันกับคุณเผิง หลินเฟิง นายไม่สู้ถือโอกาสทำลายท่อนล่างของตัวเองอย่างว่าง่าย จากนั้นก็กลับบ้านกับฉั คุกเข่าขอโทษลูกชายของฉัน!”“ไม่แน่นายอาจจะยังรักษาชีวิตต่ำๆ ของนายเอาไว้ได้”“ไม่อย่างนั้น…หึ”“ถูกต้อง เพียงแค่คุณเผิงกวงฉี่ลงมือ หลินเฟิง นายก็รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด”ถังฮั่วก็ยิ้มเยาะพูดขึ้นมาดูท่าถังฮั่วคนนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของเจียงจี้ถง เกาะติดเผิงกวงฉี่ถ้าหากเผิงกวงฉี่ลงมือจัดการหลินเฟิง งั้นหลินเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยมีแต่ถังฮั่วที่เป็นแบบนี้ด้วยเส้นสายและความมั่งคั่งของเผิงกวงฉี่ จะฆ่าหลินเฟิงให้ตาย นั่นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไม่ใช่เหรอ?ถึงเวลาเขาไม่ต้องลงมือ ก็สามารถเอาชีวิตของห
ในทางกลับกัน เขากลับถูกหลินเฟิงกดไว้กับเก้าอี้ไว้อย่างแรงการกดครั้งนี้ทำให้กระดูกทั่วทั้งตัวผู้อำนายการเจียงส่งเสียงดังกรอบแกรบออกมาทันที ราวกับว่าไม่สามารถรับน้ำหนักได้“อึก...”ผู้อำนวยการเจียงในเวลานี้ก็เหมือนกับภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิด แต่กลับถูกใครบางคนกดลงอย่างแรง จนใบหน้าแดงก่ำแล้วเลือกก็แทบจะพุ่งออกมาจากรูขุมขนในทันที“ผู้อำนวยการเจียง ไม่ต้องรีบร้อน รอให้ผมอธิบายให้คุณฟังว่าลูกชายของคุณนั้นทำอะไรลงไป มันก็ยังไม่สายเกินไปที่คุณจะโกรธ”หลินเฟิงยิ้มพร้อมกับตบที่ไหล่ของเขาเจียงจี้ถงในเวลานี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกอีกเลย เขาจ้องมองหลินเฟิงอย่างเอาเป็นเอาตาย และอยากจะรู้ว่าหลินเฟิงยังจะพูดอะไรออกมาอีก“ลูกชายของคุณนะ เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยนะ”หลินเฟิงทำเสียงจุ๊จุ๊ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ ของเจียงปินที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว ให้พ่อของเขาได้ฟังอีกครั้งก่อนที่จะได้พบกับน้องสาวของหลินเฟิงจากนั้นก็ใส่ร้ายหลินเฟิงต่อหน้าบรรดาบัณฑิต และคุยโวว่าคนใหญ่คนโตทั้งหมดเป็นเขาที่เรียกมาจากนั้นก็ถูกจางเต๋อหลินตบต่อหน้าทุกคนสุดท้ายก็โกรธมากจนกลับไปพาผู้คนมาใช้ความรุนแรงกั
หลินเฟิงแตะคางพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นในขณะที่กำลังทวนความจำ“หรือว่าจะเป็นแพทย์วัยกลางคนที่เคยคุยกับถังฮั่วก่อนหน้านี้หรือเปล่า?”หลินเฟิงยังไม่ทันจะคิดได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบอธิบายให้หลินเฟิงฟังว่าผู้อำนวยการเจียงมีลักษณะอย่างไรชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเหลี่ยมและสวมใส่สูทลายทางสีดำ.....หลินเฟิงตกตะลึงไปเล็กน้อย นี่ไม่ใช่แพทย์วัยกลางคนที่ตัวเองมองแล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกเหรอ?เพียงแต่....“เพราะอะไรเขาถึงต้องการขัดการฉัน? ฉันไปทำให้เขาโกรธงั้นเหรอ?”หลินเฟิงยังคงเอ่ยถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่อไปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกันเพื่อที่จะมีชีวิต เขาจึงบอกความจริงทุกอย่างให้หลินเฟิงได้ฟัง“หลังจากที่คุณชายถังฮั่วอธิบายก็รู้ว่าคุณก็คือหลินเฟิง คุณทำให้ลูกชายของผู้อำนวยการเจียงต้องสูญเสียร่างกายส่วนล่างไป เพราะอย่างนั้นผู้อำนวยการเจียงจึงอยากจะให้พวกเราแก้แค้นคุณ....”“พวกคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเผิงกวงฉี่ใช่ไหม? ทำไมต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วยล่ะ?”หลินเฟิงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้“ใช่...พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอด
ไม่มีอะไรที่จารึกอยู่ในความทรงจำได้ดียิ่งกว่าเป็นแผลเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีจิตใจชั่วร้าย แต่หลินเฟิงก็ไม่ได้หลบเลี่ยง ก่อนจะจ้องมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ในขณะที่ตัวเองกำลังจะถูกต่อยเข้าที่ใบหน้าถึงขั้นที่หลินเฟิงไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ในการป้องกันก็ตาม“แกร่ก!”เมื่อได้ยินเสียงแตก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนก็แสดงความภาคภูมิใจออกมาทันที ดูเหมือนว่ากระดูกจมูกของหลินเฟิงจะถูกหักน้ำมือของเขาเข้าซะแล้วแต่ไม่นาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะว่าเขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดแปล๊บ ๆขึ้นมาตรงบริเวณกระดูกนิ้วของตัวเองเมื่อรอให้เขาจ้องมองดู ก็พบว่าสิ่งที่หักนั้นไม่ใช่กระดูกจมูกของหลินเฟิง แต่กลับเป็นนิ้วทั้งสี่ของตัวเอง“อ้าก_____!”สิบนิ้วเชื่อมต่อกับหัวใจ และความเจ็บปวดที่พามานั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถรับได้ไหวยิ่งกว่านั้น การชกไปเต็มกำลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้ทำให้กระดูกนิ้วของตัวเองหักทั้งหมดในทันทีแรงสะเทือนสะท้อนกลับ ทำให้ข้อมือและแขนของเขาทั้งหมดกลายเป็นโคลนที่ไม่มีกระดูกมารองรับเจ้าห
“คุณชายถัง ฉันจะกล้าหลอกคุณได้ยังไง?”“ไอ้หมอนั่นพูดเรื่องไร้สาระ เพื่อที่จะทำให้คุณเสียสมาธิ คุณอย่าติดกับเขาล่ะ!”ได้ยินผู้หญิงคนนี้พูดมีเหตุผล แต่การแสดงออกของร่างกายก็เหมือนกับที่หลินเฟิงกล่าวไว้ ถังฮั่วระมัดระวังมากขึ้นจากั้นออกไปอย่างรวดเร็ว เขาแอบหาแพทย์แผนจีนวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมที่อยู่มาท่ามกลางกลุ่มคนอย่างลับๆ และถามเสียงเบาว่า:“ผู้อำนวยการเจียง คุณดูร่างกายของผม มีความผิดปกติจริงๆ ใช่ไหม?”หมอหน้าเหลี่ยมคนนี้ ก็คือผู้อำนวยการเจียงและโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อที่เขาทำงานอยู่ และก็เป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่เมืองเจิ้งเต๋อเขาสามารถมาร่วมงานประมูลในวันนี้ได้ก็เป็นเพราะโรงพยาบาลที่เขาสังกัดอยู่ เป็นหนึ่งในธุรกิจของเผิงกวงฉี่พูดได้ว่า ทั่วทั้งหัวตง เขาเป็นผู้ที่มีสถานะต่ำที่สุดในกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขามาร่วมงานได้ เป็นเพียงเพราะเผิงกวงฉี่บังเอิญเลือกเมืองเจิ้งเต๋อเป็นสถานที่จัดงานไม่อย่างนั้นเขาไม่มีสิทธิเข้าร่วมหรอกแต่ในเมืองเจิ้งเต๋อ ผู้อำนวยการเจียงก็ยังมีอำนาจอยู่บ้างเห็นคุณชายตระกูลถังขยับเข้ามาใกล้ ผู้อำนวยการเจียงรีบยิ้มให้ และยื