เมื่อไห่ถงมาถึงร้าน บังเอิญเห็นซูหนานออกมาพอดีเขาโบกมือลาขณะที่เดินออกมา และเห็นได้ชัดว่าเขากำลังบอกลากับเซินเสี่ยวจวินตอนที่ไห่ถง ซูหนานก็ทักทายอย่างสุภาพไห่ถงยิ้มตอบกลับเพราะเธอไม่สนิทซูหนาน และรู้ฐานะที่แท้จริงของเขา จึงค่อนข้างเกรงใจซูหนานและไห่ถงไม่มีเรื่องพูดกัน เพราะนี่คือภรรยาของเพื่อน เมื่อเพื่อนของเขาไม่อยู่ เขาไม่ควรพูดคุยกับไห่ถงมากเกินไป“คุณหนูไห่ ผมกำลังเดินทางกลับบริษัท”“เชิญค่ะประธานซู”ซูหนานยิ้ม ขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วจากนั้นไห่ถงก็เข้าไปในร้านทันทีที่เข้าไปในร้าน เธอห็นดอกกุหลาบช่อใหญ่บนแคชเชียร์ชำระเงิน รวมทั้งหมดเก้าสิบเก้าดอก นอกจากดอกกุหลาบช่อใหญ่แล้ว ยังมีขนมอีกมากมายที่เซินเสี่ยวจวินชอบกิน ซึ่งถูกบรรจุในถุงใบใหญ่และวางไว้ที่แคชเชียร์นอกจากขนมและดอกกุหลาบแล้ว ซูหนานยังนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายชุดที่เซินเสี่ยวจวินมักใช้และชอบใช้อีกด้วยเซินเสี่ยวจวินนั่งอยู่ในแคชเชียร์และอุ้มหยางหยางไว้ แกะถุงขนมและแบ่งให้กับหยางหยาง เมื่อเธอเห็นไห่ถงเข้ามา เซินเสี่ยวจวินก็ยิ้มแล้วพูด "มีขนมน่ะ ประธานซูเอาขนมมาให้เยอะมาก แบบนี้พวกจะไม่เบื่อตอนเฝ้าร้าน""น
จากนั้นเธอถามเรื่องซูหนานกับซางเสี่ยวเฟยตรงๆ จึงได้รู้ว่า ถ้าซูหนานต้องการจัดการใครซักคนจริงๆ คนๆ นั้นจะมีชีวิตที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายซูหนานชอบที่จะค่อยๆ ดึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามีออก ปล่อยให้พวกเขาลิ้มรสความสิ้นหวังทีละน้อย ซึ่งเป็นการทรมานทางจิตใจอย่างรุนแรงดังนั้น เซินเสี่ยวจวินกังวล ว่าหากเธอปฏิเสธซูหนานแบบตรงๆ อาจจะทำให้เขาขุ่นเคือง และทำให้เขามุ่งเป้าไปที่จ้านหยิน“ลองดูก่อน ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะไม่ฝืนตัวเอง”แม้ว่าเซินเสี่ยวจวินจะกังวล แต่ก็จะไม่ฝืนตัวเองหากต้องทำอะไรที่ตัวเองไม่สบายใจ“ถงถง เมื่อคืนเธอไม่ได้บ้านตระกูลซางเหรอ? เมื่อพี่เธอพาหยางหยางมาที่นี่ ฉันก็ตกใจกับหน้าตาของเธอ”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของไห่ถงก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจข และเธอสาปแช่งตระกูลโจวไม่หยุดหย่อนถ้าไม่ใช่เพราะคนนิสัยแย่สองคนจากตระกูลโจวที่มาสร้างปัญหาให้กับพี่เธอ เธอกับจ้านหยินก็คงไม่ทะเลาะกันและจากนิสัยของจ้านหยินแล้ว ไม่เร็วก็ช้าพวกเขาต้องทะเลาะกันอยู่ดี ใครจะรู้ว่าพวกเขาต้องทะเลาะกันกี่ครั้ง เพื่อที่เข้าใจกันและหยุดสร้างปัญหาให้อีกฝ่าย“เสี่ยวจวิน ไปดื่มที่บาร์หลังเลิกงานคืนนี้กันน
หันกลับมา ไห่หลิงก็เดินกลับไปที่ออฟฟิศ เพื่อนร่วมงานของเธอยังคงพูดคุยกับคนอื่นๆ อย่างมีความสุขไห่หลิงเดินตรงไปที่โต๊ะเพื่อนร่วมงานคนนั้นจากนั้นเพื่อนร่วมงาน จึงรู้สึกตัวว่าไห่หลิงกลับมาแล้วเวลาพูดใส่ร้ายคนอื่นแล้วถูกจับได้ มันค่อนข้างน่าอาย หญิงสาวคนนั้นก็หน้าเสีย“เธอแอบรักประธานลู่หรือเปล่า?”ทันทีที่ไห่หลิงพูด ใบหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นสีแดง"ฉันไม่ได้ชอบ!"หญิงสาวปฏิเสธทันที“แล้วทำไมต้องแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับฉันและประธานลู่ล่ะ? ฉันได้ยินความหึงหวงจากน้ำเสียงของเธอ เธอแอบหลงรักประธานลู่อย่างซ่อนๆ อยู่ ดังนั้นคุณจึงมุ่งเป้าไปที่ฉัน”“ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ฉันก็ไม่สนใจประธานลู่สักนิด ฉันหย่ากับสามีที่นอกใจแล้ว จะให้เก็บไอ้เลวนั้นไว้ถึงตรุษจีนเหรอ? ตอนนี้ฉันหย่าแล้ว พวกเธอทุกคนก็เลยบอกว่าฉันอยากล่อลวงประธานลู่?”“ประธานลู่เป็นคนตรงไปตรงมา หากมีเรื่องส่วนตัวระหว่างฉันกับเขา ประธานลู่จะไม่ปิดบัง”ไห่หลิงมองอีกฝ่ายและพูดอย่างเย็นชา "ถ้าฉันได้ยินเธอพูดเรื่องไร้สาระอีกครั้งและปล่อยข่าวลือลับๆ ระวังฉันจะฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท!"หลังจากพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและจากไปใ
ลู่ตงหมิงพูดกับตัวเองว่า "ผมรู้ว่าเพราะผมจ้างคุณ ซึ่งทำให้คุณใช้ชีวิตรำบากที่บริษัท คุณไม่จำเป็นต้องสนใจว่าคนอื่นจะพูดอะไร แค่ทำหน้าที่ของคุณให้ดี”“ประธานลู่ ฉันต้องการลาออก”ดวงตาของหลู่ตงหมิงเบิกกว้าง: "ทำไมคุณถึงอยากลาออกล่ะ?"หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ไห่หลิงก็เงยหน้าขึ้นมองลู่ตงหมิงแล้วพูด:"เพราะตอนนั้น ฉันต้องการสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกค่ะ คนอื่นบอกว่าฉันใช้เส้นและเล็งเป้าไปมาที่ฉันอย่างลับๆ ฉันเลยทำได้แต่อดทนกับมันมาทั้งหมด ”“เพราะฉันต้องการงาน เพื่อช่วยให้ต่อสู้แย่งสิทธิ์การเลี้ยงดูหยางหยาง”“ตอนนี้คุณหย่าแล้ว และได้สิทธิ์การเลี้ยงดูลูกชาย คุณอยากจะลาออกงั้นเเหรอ? คุณยังไม่ผ่านช่วงทดลองงานด้วยซ้ำ” ลู่ตงหมิงพูดต่อ “คุณเป็นคนที่มีความสามารถ ส่วนการทำงานนั้นล้ำลึก และผมแน่ใจว่าคุณรู้เรื่องนั้นดี ปล่อยให้พวกเขาพูดในสิ่งที่พวกเขาต้องการ คุณแค่ทำตามหน้าที่ และไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวไปเพราะพวกเขา”“แต่พวกเขายังบอกด้วยว่า ฉันกำลังจ้องจะจับคุณอยู่ ฉันไม่อยากทำให้ชื่อเสียงของคุณเสื่อมเสีย”คนเยอะเรื่องที่ตามมาก็เยอะเช่นกันไห่หลิงเข้าใจดีครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและไ
“แล้วจะเอายังไงไง? ถ้าคุณต้องการเช่า เห็นว่าคุณเป็นพี่สะใภ้ของจ้านหยิน ผมจะคิดให้คุณในราคาที่เป็นมิตรภาพ ค่าเช่าถูกกว่าที่อื่นเล็กน้อยแต่อย่าเอาไปบอกใครล่ะ ทุกคนจะแห่มาหาผมเพื่อขอลดค่าเช่าและผมจะขาดทุน”ไห่หลิงรู้สึกดึงดูดใจมาก เธอเดินผ่านถนนสายนั้นทุกวัน ตอนไปและกลับจากที่ทำงาน และรู้ดีว่าถนนสายนี้คึกคักแค่ไหนร้านอาหารว่าง ร้านอาหารและแม้กระทั่งร้านขนมที่นั่นทำได้ดีมากเธอไม่รู้ว่าได้รู้สึกอิจฉาคนอื่นมากแค่ไหน ที่สามารถเช่าหน้าร้านบนถนนสายนั้นเพื่อเปิดร้านขายของได้ แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าร้านค้าเหล่านั้นจะเป็นของลู่ตงหมิง“ค่าเช่าเดือนละเท่าไรคะ?”"ร้านค้าใจกลางเมืองกวนเฉิง มีราคาค่าเช่าที่แพงกว่ามากเมื่อเทียบกับที่อื่น ร้านค้าที่มีพื้นเล็กที่สุดคือ 40 ตารางเมตร และร้านที่ใหญ่ที่สุดมีพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร คุณจะเปิดร้านอะไร?""ร้านอาหารเช้า"“ไม่ต้องใหญ่มาก ราคาอาหารเช้าก็ไม่สูงมากนัก เช่าหน้าร้านขนาด 40 หรือ 50 ตร.ม. แล้วผมจะถามคู่สามีภรรยาเก่าว่าร้านที่เพิ่งหมดสัญญาไปใหญ่แค่ไหน”“ค่าเช่าต่อเดือนสำหรับคุณคือ 40,000 บาท แต่คุณต้องเก็บเป็นความลับนะ ผมคิดเงินคนอื่นมากกว่า
“โจวหงหลิน นายไปทำให้ลูกค้าเคืองอะไรหรือเปล่า? นายทำอะไรลงไป?”โจวหงหลินเป็นตัวแทนบริษัทไปคุยธุรกิจ และทำให้บริษัทได้รับเงินมากมาย ยังทำงานร่วมบริษัท เว่ยฮาว อิเล็กทรอนิกส์ทันทีที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งทำงานมาหลายปีอีกด้วย และเขาเป็นพนักงานเก่าแก่ นั่นทำให้ประธานบริษัทไว้วางใจและพึ่งพาเขาเป็นอย่างมากในบรรดาผู้จัดการหลายคนในบริษัท โจวหงหลินนั้นเด็กที่สุดเนื่องจากผลกำไรมหาศาลที่เขาทำให้กับบริษัท โจวหงหลินจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการก่อนกำหนด แม้ว่าคนอื่นๆ ในทีมผู้บริหารจะอิจฉา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถพูดคัดค้านได้เจ้านายให้ความสำคัญกับโจวหงหลินมาก แม้ว่าเขาจะไม่ว่างไปร่วมงานเลี้ยงที่ได้รับเชิญมา เขาก็ยอมให้โจวหงหลินเข้าร่วมเป็นตัวแทนของบริษัท ซึ่งก็เป็นที่รู้จักมากขึ้น และส่งผลทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นโจวหงหลินก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเช่นกัน หลังจากเข้าร่วมงานเลี้ยง เขาก็ได้คำสั่งของบริษัทต่างๆ มามากมายแต่ตอนนี้ คำสั่งที่ลงนามโดยโจวหงหลินจะถูกยกเลิกหรือระงับความร่วมมือจ แม้ว่าลูกค้ารายอื่นจะเปลี่ยนใจเช่นกัน แต่ปัญหานี้ที่เห็นชัดๆ นั้นมาจากลูกค้าของโจวหงหลิน“ท่านครับ ผมไม่ได้
แม่โจวเสียใจที่รู้ว่า ไห่หลิงมีป้าที่แต่งงานเข้าตระกูลเศรษฐีเธอเสียใจที่ปล่อยให้ลูกชายของเธอหย่าถ้าลูกชายของเธอไม่หย่าร้าง เก็สามารถใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ เพื่อเข้าทำงานในชางซื่อกรุ๊ป รายได้ของเขาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกเขาอาจจะทำเงินได้เป็นหลายล้านต่อปีด้วยซ้ำเธอแนะนำให้ลูกชาย ไปตามง้อไห่หลิงอีกครั้งและแต่งงานกับเธอใหม่ แต่ลูกชายปฏิเสธเสียงแข็ง และเย่เจียนีก็ไม่พอใจเช่นกันแม่โจวไม่ได้แนะนำอย่างซึ่งๆ หน้าอีกต่อไป แต่วางแผนที่จะใช้หลานชายเป็นเครื่องมือเธอคิดว่าการให้ลูกชายไปรับหยางหยางมาบ่อยๆ ครั้ง นั้นจะส่งเขาไปให้เจอกับไห่หลิงบ่อยๆ ยังไงพวกเขารู้จักกันมาสิบสองปีแล้วและมีลูกชายคนหนึ่งเป็นห่วงคล้องใจ บางทีทั้งคู่อาจแต่งงานใหม่ได้หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว“แม่ ถ้าแม่คิดถึงหยางหยางก็แค่ขอให้พี่ขับรถไปที่ร้านของไห่ถง แม่ไม่จำเป็นต้องพาหยางหยางมา ถ้าแม่พาเขามาที่นี่ แม่จะไม่สามารถทำให้เขาสงบและทำให้เขากลัวอีก"โจวหงหลินรู้ว่าแม่ของเขากำลังคิดจะทำอะไรป้าของไห่หลิงนั้น คือคุณนายซาง ซึ่งนั้นก็ทำให้โจวหงหลินประหลาดใจเช่นกัน แต่เขาก็ไม่เสียใจที่หย่ากับไห่หลิงรักแท้ของเขาคือเย่
เพื่อจะได้ไม่ทำให้พี่สาวต้องกังวลเห็นว่าท่าทางของน้องสาวปกติดี ไห่หลิงก็รู้สึกโล่งใจและพูด: "จ้านหยินดีกับเธอมาก ฉันไม่คิดว่าเขาจะอารมณ์เสียกับเรื่องเล็กน้อยแบบนั้นหรอก หากเธอทั้งสองไม่ทะเลาะกัน ฉันก็โล่งใจ ”ไห่ถงพึมพำอยู่ในใจ: จ้านหยินมีปัญหากับเธอเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยนั้นล่ะตลอดทั้งวันเขาไม่สนใจเธอเธอไม่อยากออกหน้าก่อน เพื่อคืนดีเช่นกันไห่ถงไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดอะไรครั้งแรกที่เกิดสงครามเย็นเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก ครั้งที่แล้ว เมื่อเขาเห็นจางเหนียนเซิงสารภาพรักกับเธอ เธอก็ตื่นตระหนกและไล่ตามเขาไปที่บริษัท เพื่ออธิบายตอนนี้ เธอหัวใจอึดอัดมากอาจเป็นเพราะเธอรู้สึกจึงเจ็บปวด“ถงถง ฉันจะพาหยางหยางกลับบ้านก่อน ฉันตัดสินใจเปิดร้านแล้ว ฉันจะกลับไปวางแผน”“โอเค ให้ป้าเหลียงไปด้วยสิ เพื่อที่หยางหยางจะได้ไม่รบกวนพี่”ไห่หลิงไม่ได้ปฏิเสธของน้องสาวเธอในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย หยางหยางซุกซนมากและต้องการใครสักคนมาช่วยดูแลเขาจริงๆป้าเหลียงอยากอยู่ต่อเ พราะเธอได้ยินว่านายหญิงและคุณเซินวางแผนจะไปดื่มกันที่บาร์คืนนี้เธออยากรู้ว่านายหญิงจะไปบาร์ไหน แต่เพราะนายหญิงสั่งให้เธอกลับ