เซินเสี่ยวจวินถามอย่างประหลาดใจว่า "จริงเหรอ? หมิงหยวนฮวา การ์เด้นเป็นหมู่บ้านหรู ไม่คิดว่าจะมีคนขับโรลส์-รอยซ์อีก ทําไมคนที่ขับรถโรลส์-รอยซ์ไม่ไปอยู่ที่วิลล่าล่ะ""คุณจ้านบอกว่าอาจจะส่งลูกไปเรียนแถวๆ นี้ จึงเลือกซื้อห้องชุดที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น เพื่อที่สะดวกส่งลูกไปโรงเรียน ใครจะไปรู้ว่าที่บ้านเขามีวิลล่ากี่หลัง?"เสิ่นเสี่ยวจุนยิ้ม อาจจะใช่ ไปกันเถอะ พวกเราไปเดินเล่นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกัน เอ่อใช่ คุณยายจ้านบอกว่าจะมาไม่ใช่เหรอ?""ไม่มาล่ะ""ทำไมอ่ะ?""เจ้าของบ้านไม่ให้มามั้ง"เซินเสี่ยวจวิน “......”เจ้าของบ้านของเพื่อนไม่ใช่จ้านหยินเหรอ? นั่นคือหลานชายแท้ ๆ ของคุณยายจ้านนะ คุณยายอยากมาหาในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่หลานชายแท้ ๆ กลับไม่อนุญาต นี่... ช่างอกตัญญูจริงๆทั้งสองขึ้นรถของเซินเสี่ยวจวินและออกจากร้านกาแฟแอเวนิวจากนั้นไม่นาน ก็หยุดรถที่หน้าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลังจากเดินดูของทั่วห้างไปรอบหนึ่ง ทั้งสองคนก็ออกมาพร้อมกับถุงใบใหญ่และใบเล็กในเวลานี้ ไห่ถงก็คิดถึงการไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้ากับจ้านหยินมาก เมื่อมีเขาอยู่ ไม่ว่าเธอจะซื้อของมากมายแค่ไหน เขาก็สามารถช่วยเธอ
ไปที่หมู่บ้านไห่หลิงอยู่ทันทีที่ไห่ถงลงจากรถ ก็เห็นรถคุ้นตาคันหนึ่ง สีหน้าของเธอตึงทันที"เป็นอะไร?""รถของพี่สะใภ้คนนั้น มันจอดอยู่ที่นี่ บางทีเธออาจจะมาหาเรื่องพี่ฉันอีกแล้ว พี่สะใภ้เธอคนนั้นสุดยอดมาก สามารถได้แข่งกับญาติพี่น้องที่บ้านเกิดของฉันได้เลย"พอเซินเสี่ยวจวินฟัง ก็รีบพูดออกมา "พวกเรารีบขึ้นไปกันเถอะ ถ้าเธอรังแกพี่ไห่หลิง พวกเราสองคนจะร่วมมือกันเตะตูดเธอออกมา"ไห่ถงหิ้วของไว้ไปนานแล้วเซินเสี่ยวจวินรีบตามไปตระกูลโจวส่งคนมาแล้ว คนที่มาก็ยังเป็นแม่และลูกสาว โจวหงอิงพวกเขามาชักชวนให้ไห่หลิงไปรับโจวหงหลินกลับบ้านโจวหงหลินกลับไปอยู่กับพ่อแม่ แต่กินกลับไปกินข้าวที่บ้านพี่สาว เพราะพ่อแม่ไปดูแลหลานและทําอาหารที่บ้านพี่สาวยังดีที่บ้านพ่อแม่อยู่ใกล้กับบ้านพี่สาว หมู่บ้านเดียวกัน อยู่ตรงข้ามบ้านพี่สะใภ้โจวดูพ่อแม่ซื้อของดีดีมาให้น้องชายกินทุกวัน แม้ว่าครอบครัวของเธอก็สามารถซื้อตามได้ แต่ในใจเธอก็ยังอึดอัด รู้สึกว่าพ่อแม่ลําเอียง พอน้องชายกลับมา ก็เอาแต่ซื้ออาหารแพง ๆ มากมายมาให้น้องชายโชคดีที่โจวหงอิงเป็นผู้ดี ก็ยังรู้ว่ารู้จักกาลเทศะและจะไม่ระบายความไม่สบายใจออกมา
โจวหยางไม่ได้บอกว่าคิดถึงหรือไม่ แค่พูดว่า "พ่อไปทํางานๆ"เขาถูกแม่และน้าเลี้ยงมา สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพ่อก็คือเจอกันในวันหยุดสุดสัปดาห์แค่นั้น ปกติพอเขาตื่นขึ้นมา พ่อออกก็ไปทํางานนานแล้ว ตอนกลางคืนเมื่อเขาหลับไป พ่อก็ยังไม่กลับมาความรู้สึกของโจวหยางที่มีต่อพ่อนั้นไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่แม้ว่าพ่อจะอยู่บ้าน แต่ก็ไม่ค่อยเล่นกับเขา มั่วแต่เล่นมือถือ"ไห่หลิง เธอดูสิ หยางหยางไม่ได้เห็นหน้าพ่อมาหลายวันแล้ว ล้วนกลายเป็นความรู้สึกเฉยเมย แบบนี้ไม่ดีต่อการพัฒนาการของลูก การเติบโตของเด็กผู้ชายไม่สามารถขาดความรักของพ่อได้ หลายสิ่งหลายอย่างต้องให้พ่อมาสอนเขาว่าทําอย่างไร"เดิมทีแม่โจวคิดว่าหลานจะบอกว่าคิดถึงพ่อ ตนจึงสามารถชูเรื่องลูกไปพูดเรื่องให้ลูกสะใภ้ให้ก้มหน้ายอมทำเพื่อลูก แต่โดยไม่คิดถึงหลานคนเล็ก กลับบอกว่าไม่คิดถึงพ่อโชคดีที่สมองของเธอตอบสนองได้รวดเร็ว ยังสามารถพูดอ้างเรื่องหลานชายต่อได้ไห่หลิงกรอกตามองแม่สามี แล้วด้วยน้ําเสียงเย็นชา "แม้ว่าโจวหงหลินจะอยู่บ้าน พวกคุณเคยเห็นเขาเลี้ยงลูกไหม? ลูกเป็นของพวกเราสองคน มีแต่หนูที่ดูแลคนเดียวมาตลอด เขาไม่ดูแลก็ช่าง แม้แต่เล่นกับลูกก็ไม่เคย"
ไห่ถงวางของไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา จากนั้นจึงอุ้มโจวหยางขึ้นมา ถามอย่างอ่อนโยนว่า "หยางหยางกําลังกินโจ๊กอยู่เหรอ?"โจวหยางพยักหน้า "กำลังกินโจ๊กอยู่""กินอิ่มยังจ้ะ?"โจวหยางลูบท้องเล็ก ๆ ของเขา คิดและส่ายหัว เขารู้สึกว่าเขายังไม่ได้กิน ท้องเล็ก ๆ ของเขายังหิวอยู่เล็กน้อยไห่ถงยิ้ม นั่งลงหน้าโซฟา รับโจ๊กครึ่งชามนั้นจากพี่สาวมา "ให้น้าป้อนหยางหยางดีไหม?""ดี"เซินเสี่ยวจวินเรียกพี่ไห่หลิง และวางของไว้บนโต๊ะหน้าโซฟาด้วย ส่วนแม่และลูกสาวของตระกูลโจว เซินเสี่ยวจวินทำเพียงแค่พยักหน้าและถือว่าทักทายแล้วหลังจากน้องสาวช่วยป้อนข้าวลูกชายของเธอแล้ว ไห่หลิงก็หันไปพูดกับแม่สามีและพี่สะใภ้ว่า "หนูจะไม่ไปรับหงหลินกลับมา ถ้าเขาอยากจะกลับมาก็กลับมาเอง ไม่อยากกลับมาก็ฝากแม่และพี่ดูแลเขาต่อไปด้วย"เขาให้เธอคืนแม้กระทั่งค่าอาหาร สามีภรรยากลายเป็นความสัมพันธ์แบบเกรงใจแบบนี้ มันมีอะไรจะพูดอีกไหม?ไห่หลิงรู้ว่าตัวเองก็ผิดเธอผิดที่ไว้ใจโจวหงหลินมากเกินไปโจวหงอิงอยากจะพูดอะไรต่อีก ถูกแม่โจวห้ามไว้แม่โจวฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า "ได้ ฉันกลับไปเรียกหงหลินกลับมาเอง ไห่หลิง ถ้าหงหลินกลับมาแล้ว พวกเธอสามีภร
โดนไห่หลิงระเบิดอารมณ์แบบนี้ แม่โจวอ้าปากอยากพูดอะไรแต่พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้วระบบ AA ของลูกชายและลูกสะใภ้เป็นสิ่งที่เธอแนะนํา และเธอก็รู้ว่าแม้ว่าจะไม่มีระบบ AA เงินของลูกชายก็ไม่ได้ให้กับลูกสะใภ้แน่"แม่ พวกเราไปกันเถอะ"โจวหงอิงไม่พอใจกับความคิดของไห่หลิง ไม่ยอมให้แม่พูดต่อ จึงดึงแม่ไป ก่อนจากไป เหลือบมองสิ่งที่ไห่ถงและเซินเสี่ยวจวินเอามาหลังจากอ่อนลงแล้ว โจวหงอิงก็พูดกับแม่ว่า "แม่ แม่บอกว่าสามีที่แต่งงานแล้วของไห่ถงทํางานอยู่ในเครือธุรกิจใหญ่ เงินเดือนเยอะมากใช่ไหม? ตั้งแต่ไห่ถงแต่งงานกับเขา ทุกครั้งที่มาก็ถือถุงใบเล็กใหญ่มา เมื่อกี้หนูเหลือบมองไปรอบ ๆ ผลไม้ที่เธอซื้อมานั้นมีแต่แพงมากๆ""ทุเรียนเอย เชอร์รี่เอย ของพวกนี้แพงหมด ทุเรียนลูกหนึ่งต้อง 1000 บาท เชอร์รี่ราคาหลายร้อยต่อโล"แม่โจวบอกว่า "แกลองนึกถึงรายได้ของน้องแก สามีของไห่ถงยังทํางานอยู่ในกลุ่มจ้านซื่อ น้องชายบอกว่ากลุ่มจ้านซื่อเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของกวนเฉิง คนที่เข้าไปได้ก็เป็นชนชั้นสูงในหมู่ชนชั้นสูง""น้องแกยังบอกว่าด้วยความสามารถของเขาอาจไม่สามารถเข้าทํางานในเครือจ้านซื่อได้ เห็นได้ชัดว่าสามีของไห่ถงม
"ฉันยังกังวลอยู่อีกนิดหนึ่ง ตอนนี้หงหลินเชื่อฟังเย่เจียนีมาก สาวน้อยนั่นเป็นผีขึ้นมา ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับหงหลิน ยิ่งคนที่ไม่ได้ก็ยิ่งอยากได้ เธอทําให้ความต้องการของหงหลินสูงขึ้น""ถ้าคนสองคนแต่งงานกัน และเงินเดือนของหงหลินที่ส่งมา ชีวิตของเราก็จะลําบาก"พอโจวหงอิงนึกถึงน้องชายให้เบี้ยยังชีพพ่อแม่แต่ละเดือนอยู่ แล้วพ่อแม่ก็ใช้มันเพื่อดูแลครอบครัวของเธอแล้ว เธอก็ได้รับประโยชน์มากมาย แต่เธอไม่สามารถถูกน้องสะใภ้คนใหม่พรากสิ่งที่ดีแบบนี้ไปได้ ได้แต่พูดว่า "ช่างเถอะ นั่นเป็นเรื่องของหงหลินและไห่หลิง ปล่อยให้สามีภรรยาทรมานกันไปเถอะ""ตราบใดที่หงหลินสามารถปิดบังไห่หลิงได้ตลอด และไม่ถูกไห่หลิงจับได้ ฉันก็ขี้เกียจที่จะสนใจเรื่องยุ่งเหยิงของเขาแล้ว ผู้ชายไม่มีใครที่พึ่งพาได้และมีความสามารถเพียงเล็กน้อยแล้ว ข้างนอกก็มีสิ่งยั่วยุเยอะ"แม่โจวกลับรู้สึกว่าลูกชายมีความสามารถ และเป็นพ่อคนหมด ยังสามารถตกสาวสวยวัยใสได้ยังไงเธอก็เป็นลูกชาย ยังไงก็ไม่เสียเปรียบอะไรไห่หลิงรู้ว่าแม่สามีและพี่สะใภ้จะพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับเธอ แต่คิดไม่ออกว่าแม่และลูกสาวช่วยหงหลินนอกใจจากเธออีกหลังจากส่งแม่สามีและพี่ส
ไห่ถงตอบกลับแค่อืม "ฉันแค่เตือนพี่หน่อย เรื่องหางาน พี่ก็อย่ารีบร้อนเกินไป"เสิ่นเสี่ยวจุนก็พูดว่า "ค่อย ๆ หา หางานที่เหมาะกับตัวเอง หาไม่ได้จริง ๆ สามารถไปช่วยที่ร้านผมกับไห่ถงได้ ผมจะนับเงินเดือนให้พี่ หรือพี่ไห่หลิงต้องเปิดร้านเองไหม?"ไห่หลิงดูลูกชายเล่น และพูดตัดพ้อ "ฉันไม่มีเงินมากมายและไม่รู้ว่าจะเปิดร้านอะไร ตอนนี้ทำธุรกิจร้านค้าทางกายภาพนั้นยากที่จะทํา"ร้านหนังสือของน้องสาวเปิดอยู่หน้าโรงเรียนมัธยมกวนเฉิงพอดี ธุรกิจจึงจะดีขึ้นหน่อย ถ้าเปลี่ยนที่ก็อาจจะทําไม่ได้ร้านค้าเล็ก ๆ ที่หน้าโรงเรียนมัธยมกวนเฉิง ค่าเช่าร้านก็แพงมาก ไม่ใช่ว่าใครจะเช่าได้ ต้องมีเส้นสายถึงจะได้ ร้านไห่ถงนั้นเช่าโดยครอบครัวของเซินเสี่ยวจวินที่ออกหน้ามาช่วยเหลือ"พี่สาว ไม่งั้นฉันจะสอนพี่ถักไหมพรม พี่เปิดร้านค้าออนไลน์ได้ เพื่อให้สามารถหาเงินมาใช้ที่บ้านและดูแลหยางหยางได้ ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ของฉันตอนนี้ดีมาก สินค้ามากมายถูกจองและสั่งซื้อจํานวนมาก ฉันต้องยุ่งทุกวัน"เดือนนี้ร้านค้าออนไลน์ของเธอทําเงินได้มากกว่าร้านหนังสือ เดือนนี้อีก ร้านหนังสือยังต้องจองสื่อการศึกษาให้กับนักเรียนหลายชุดด้วย แต่ถึงอย่
ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว ยังมีเวลาเหลืออีกห้าเดือน ทั้งคู่ก็สามารถกลับมาเป็นโสดได้ครั้ง ต่างคนต่างแต่งงานและไม่เกี่ยวข้องกันอีกซูหนานและลู่ตงหมิงหันมามองหน้ากันลู่ตงหมิงพูดว่า "ผู้ชายตระกูลจ้านของพวกนายไม่สามารถหย่าได้ไม่ใช่หรือ?""ฉันเป็นข้อยกเว้น"จ้านหยินพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ: "การแต่งงานของฉันกับไห่ถง พวกนายก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าฉันจะหย่า คุณยายของฉันก็ไม่สามารถพูดอะไรกับฉันได้ คนอื่น ๆ ยิ่งไม่พูดถึงฉัน เข้าใจฉัน รู้สึกน้อยใจ"ใช่ เขาก็น้อยใจช่วยคุณยายตอบแทนบุญคุณ แต่งงานกับไห่ถงที่เขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อย หลังจากแต่งงานกัน เขาก็ยังใจกว้างและอดทนกับเธอ แต่แล้วเธอล่ะ?พูดอะไรไปบ้านของพี่สาว ปรากฏว่าไปกินข้าวกับจางเหนียนเซิงอีกนายน้อยตระกูลจ้านหึงหวงออกหน้า และปฏิเสธที่จะยอมรับได้มองข้ามการมีอยู่ของเซินเสี่ยวจวินไปอย่างสิ้นเชิง และมองข้ามว่าเซินเสี่ยวจวินและจางเนียนเซิงเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันซูหนานกับลู่ตงหมิง:“......”"ต่อไปอย่าเรียกเธอว่าภรรยาของบอส เธอยังไม่สมควร!" เสียงของจ้านหยินทุ้มต่ําและเย็นชา สีหน้าก็เย็นชาเช่นกันซูหนานเล่าว่า "สองวันก่อนยังใส่ชุดที่ภร