แม้ว่าจะเป็นคู่แต่งงานในนาม และการแต่งงานแบบลับๆ ลู่ตงหมิงก็คงไม่มีความสุขจ้านหยินฟังเพื่อนสองคนพูดแซวเล่น ก็ไม่พูดอะไรออกไป เพียงแค่กินอาหารของเขาต่อไปไม่ช้า เขาก็กินอิ่ม"ฉันจะไปนั่งที่ร้านกาแฟของคุณยายฉัน พวกนายค่อย ๆ กินกันไปนะ"วางตะเกียบลง หยิบกระดาษทิชชู่เช็ดคราบน้ํามันที่ปาก จ้านหยินก็ลุกขึ้นและกำลังจะเดินจากไป"พวกเราก็กินอิ่มแล้ว งั้นไปด้วยกันเหอะ"ลู่ตงหมิงและซูหนานก็วางตะเกียบลง และตามจ้านหยินไปที่ร้านร้านกาแฟแอเวนิวที่อยู่ข้าง ๆพวกบอดี้การ์ดกินอิ่มนานแล้ว เห็นว่านายน้อยของพวกเขากําลังจะลุกขึ้นจากไป พวกเขาลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ และคุ้มกันนายน้อยออกไปข้างนอกอย่างเงียบ ๆกลัวนายหญิงจะตกใจนายหญิงกำลังรับประทานอาหารกับนายน้อยตระกูลจาง นาย น้อยจางเคยพบกับนายน้อยของพวกเขามาก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถทำอึกทึกครึกโครมได้ ไม่เช่นนั้นตัวตนของนายน้อยจะถูกเปิดเผยลู่ตงหมิงเดินไปจากเงินซูหนานรอเขาจ่ายเงินเสร็จ จึงเดินออกไปกับเขา เดินไปพลางกระซิบว่า "ตงหมิง นายรู้สึกไหมว่าวันนี้จ้านหยินแปลก ๆ? ไม่สิ ตอนมาถึงเขาก็ยังเป็นปกติ สีหน้าไม่ได้เย็นชาขนาดนั้น"ทุกคนรู้กันดีว่าจ้านหยินเ
ไห่ถงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ จ้านหยินและเพื่อน ๆ ของเขาที่มาทานอาหารที่นี่เธอ เพื่อนของเธอและจางเหนียนเซิง กำลังพูดคุยกันขณะรับทานอาหารอยู่โดยใช้เวลานานหลังจากที่จางเหนียนเซิงได้รับโทรศัพท์ เขาก็ออกไปก่อน ไห่ถงพูดว่า: "ฉันกับพี่สาวเธอกินเสร็จแล้ว ดังนั้นฉันจะไปจ่ายบิลก่อน เหนียนเซียงมีเรื่องอะไรต้องจัดการ ก็ไปทำซะ ฉันกับพี่สาวเธอแ จะไปนั่งที่ร้านกาแฟข้างๆ”ครั้งก่อนที่มานัดบอดกับเพื่อน ไห่ถงก็ชอบความเงียบสงบของร้านกาแฟแอเวนิวแห่งนี้ถนนสายนี้คึกคักมากแลเจริญรุ่งเรืองมาก เจ้าของร้านกาแฟแอเวนิว ยอมทุ่มเงินและติดตั้งวัสดุกันเสียงข้าในร้าน เมื่อจเดินเข้าไปในร้านกาแฟ เสียงอึกทึกครึกโครมจากด้านนอกก็ไม่ส่งเสียงเข้ามาด้านในร้านกาแฟจางเหนียนเซิงคิดว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ขับรถมาด้วย อีกสักครู่จะสามารถไปส่งไห่ถงกลับบ้านได้ จึงพูดว่า "พี่จวิน พี่ไห่ถง งั้นผมไปก่อนนะ""โอเค ขับรถระวังนะ"เซินเสี่ยวจวินเตือนลูกพี่ลูกน้อง“พี่ รบกวนส่งพี่ไห่ถงกลับบ้านด้วยนะ”ไห่ถงมีรถยนต์ แต่เธอไม่ค่อยใช้ เพราะราคาน้ํามันแพง ตอนนี้เติมน้ํามันเต็มถังนึงต้องจ่ายหลายพันถ้าไม่ต้องใช้ เธอก็ไม่ต้องขับมันออกมาก
ซูหนานมองเห็นสายตาโง่ๆหรือว่าการที่บอสอวดต่อหน้าหลายครั้งว่ามีภรรยาแล้ว เป็นการแสดงจริงๆยังไงคุณยายจ้านก็ไม่สนใจเรื่องของบริษัทแล้ว ไม่ค่อยเข้าไปบริษัท ดังนั้นจ้านหยินไม่จําเป็นต้องแสดงต่อหน้าเธอสับสนมากช่างมันเถอะ นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวของจ้านหยิน จ้านหยินสามารถจัดการได้ พวกเขาที่เป็นเพื่อนและก็มีละครดีดีให้ดูอีก พวกเขาจึงย้ายม้านั่งหยิบเมล็ดแตงโมหนึ่งถุง และแทะเมล็ดแตงโมอยู่ข้าง ๆ เพื่อดูละครก็แค่นั้นไม่มีละครดีๆ ให้ดู ก็แค่กลับบ้านไปนอน2 ชั่วโมงต่อมาไห่ถงดูเวลา ตอนนี้บ่ายสามโมงแล้ว จึงพูดกับเพื่อนว่า "เสี่ยวจวิน พวกเรากลับไปกันเถอะ ฉันต้องไปที่บ้านพี่อีก""โอเค"เซินเสี่ยวจวินก็ดูเวลาเช่นกัน สําหรับเพื่อนบอกว่าจะกลับบ้าน เธอไม่มีปัญหา "เดี๋ยวเราไปซุปเปอร์มาร์เก็ตกันก่อน ฉันอยากจะซื้อผลไม้บ้าง ซื้อของเล่นอีกสองอัน ฉันก็จะอยากไปบ้านพี่สาวเธอด้วย ยังไม่อยากกลับบ้าน แค่นึกถึงหน้าบูดของแม่ ดังฉันก็ไม่อยากกลับไปแล้ว"ไห่ถงยิ้มแล้วพูดว่า " ใครบอกให้เธอลงไปกลิ้งบนพื้นในงานเลี้ยงของต้วนเจียล่ะ ทําหน้าตัวเองเสียหายเอง แถมทำหน้าคุณป้าเสียด้วย ถ้าคุณป้าไม่โกรธก็แปลกล่ะ"เซินเสี
เซินเสี่ยวจวินถามอย่างประหลาดใจว่า "จริงเหรอ? หมิงหยวนฮวา การ์เด้นเป็นหมู่บ้านหรู ไม่คิดว่าจะมีคนขับโรลส์-รอยซ์อีก ทําไมคนที่ขับรถโรลส์-รอยซ์ไม่ไปอยู่ที่วิลล่าล่ะ""คุณจ้านบอกว่าอาจจะส่งลูกไปเรียนแถวๆ นี้ จึงเลือกซื้อห้องชุดที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น เพื่อที่สะดวกส่งลูกไปโรงเรียน ใครจะไปรู้ว่าที่บ้านเขามีวิลล่ากี่หลัง?"เสิ่นเสี่ยวจุนยิ้ม อาจจะใช่ ไปกันเถอะ พวกเราไปเดินเล่นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกัน เอ่อใช่ คุณยายจ้านบอกว่าจะมาไม่ใช่เหรอ?""ไม่มาล่ะ""ทำไมอ่ะ?""เจ้าของบ้านไม่ให้มามั้ง"เซินเสี่ยวจวิน “......”เจ้าของบ้านของเพื่อนไม่ใช่จ้านหยินเหรอ? นั่นคือหลานชายแท้ ๆ ของคุณยายจ้านนะ คุณยายอยากมาหาในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่หลานชายแท้ ๆ กลับไม่อนุญาต นี่... ช่างอกตัญญูจริงๆทั้งสองขึ้นรถของเซินเสี่ยวจวินและออกจากร้านกาแฟแอเวนิวจากนั้นไม่นาน ก็หยุดรถที่หน้าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลังจากเดินดูของทั่วห้างไปรอบหนึ่ง ทั้งสองคนก็ออกมาพร้อมกับถุงใบใหญ่และใบเล็กในเวลานี้ ไห่ถงก็คิดถึงการไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้ากับจ้านหยินมาก เมื่อมีเขาอยู่ ไม่ว่าเธอจะซื้อของมากมายแค่ไหน เขาก็สามารถช่วยเธอ
ไปที่หมู่บ้านไห่หลิงอยู่ทันทีที่ไห่ถงลงจากรถ ก็เห็นรถคุ้นตาคันหนึ่ง สีหน้าของเธอตึงทันที"เป็นอะไร?""รถของพี่สะใภ้คนนั้น มันจอดอยู่ที่นี่ บางทีเธออาจจะมาหาเรื่องพี่ฉันอีกแล้ว พี่สะใภ้เธอคนนั้นสุดยอดมาก สามารถได้แข่งกับญาติพี่น้องที่บ้านเกิดของฉันได้เลย"พอเซินเสี่ยวจวินฟัง ก็รีบพูดออกมา "พวกเรารีบขึ้นไปกันเถอะ ถ้าเธอรังแกพี่ไห่หลิง พวกเราสองคนจะร่วมมือกันเตะตูดเธอออกมา"ไห่ถงหิ้วของไว้ไปนานแล้วเซินเสี่ยวจวินรีบตามไปตระกูลโจวส่งคนมาแล้ว คนที่มาก็ยังเป็นแม่และลูกสาว โจวหงอิงพวกเขามาชักชวนให้ไห่หลิงไปรับโจวหงหลินกลับบ้านโจวหงหลินกลับไปอยู่กับพ่อแม่ แต่กินกลับไปกินข้าวที่บ้านพี่สาว เพราะพ่อแม่ไปดูแลหลานและทําอาหารที่บ้านพี่สาวยังดีที่บ้านพ่อแม่อยู่ใกล้กับบ้านพี่สาว หมู่บ้านเดียวกัน อยู่ตรงข้ามบ้านพี่สะใภ้โจวดูพ่อแม่ซื้อของดีดีมาให้น้องชายกินทุกวัน แม้ว่าครอบครัวของเธอก็สามารถซื้อตามได้ แต่ในใจเธอก็ยังอึดอัด รู้สึกว่าพ่อแม่ลําเอียง พอน้องชายกลับมา ก็เอาแต่ซื้ออาหารแพง ๆ มากมายมาให้น้องชายโชคดีที่โจวหงอิงเป็นผู้ดี ก็ยังรู้ว่ารู้จักกาลเทศะและจะไม่ระบายความไม่สบายใจออกมา
โจวหยางไม่ได้บอกว่าคิดถึงหรือไม่ แค่พูดว่า "พ่อไปทํางานๆ"เขาถูกแม่และน้าเลี้ยงมา สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพ่อก็คือเจอกันในวันหยุดสุดสัปดาห์แค่นั้น ปกติพอเขาตื่นขึ้นมา พ่อออกก็ไปทํางานนานแล้ว ตอนกลางคืนเมื่อเขาหลับไป พ่อก็ยังไม่กลับมาความรู้สึกของโจวหยางที่มีต่อพ่อนั้นไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่แม้ว่าพ่อจะอยู่บ้าน แต่ก็ไม่ค่อยเล่นกับเขา มั่วแต่เล่นมือถือ"ไห่หลิง เธอดูสิ หยางหยางไม่ได้เห็นหน้าพ่อมาหลายวันแล้ว ล้วนกลายเป็นความรู้สึกเฉยเมย แบบนี้ไม่ดีต่อการพัฒนาการของลูก การเติบโตของเด็กผู้ชายไม่สามารถขาดความรักของพ่อได้ หลายสิ่งหลายอย่างต้องให้พ่อมาสอนเขาว่าทําอย่างไร"เดิมทีแม่โจวคิดว่าหลานจะบอกว่าคิดถึงพ่อ ตนจึงสามารถชูเรื่องลูกไปพูดเรื่องให้ลูกสะใภ้ให้ก้มหน้ายอมทำเพื่อลูก แต่โดยไม่คิดถึงหลานคนเล็ก กลับบอกว่าไม่คิดถึงพ่อโชคดีที่สมองของเธอตอบสนองได้รวดเร็ว ยังสามารถพูดอ้างเรื่องหลานชายต่อได้ไห่หลิงกรอกตามองแม่สามี แล้วด้วยน้ําเสียงเย็นชา "แม้ว่าโจวหงหลินจะอยู่บ้าน พวกคุณเคยเห็นเขาเลี้ยงลูกไหม? ลูกเป็นของพวกเราสองคน มีแต่หนูที่ดูแลคนเดียวมาตลอด เขาไม่ดูแลก็ช่าง แม้แต่เล่นกับลูกก็ไม่เคย"
ไห่ถงวางของไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา จากนั้นจึงอุ้มโจวหยางขึ้นมา ถามอย่างอ่อนโยนว่า "หยางหยางกําลังกินโจ๊กอยู่เหรอ?"โจวหยางพยักหน้า "กำลังกินโจ๊กอยู่""กินอิ่มยังจ้ะ?"โจวหยางลูบท้องเล็ก ๆ ของเขา คิดและส่ายหัว เขารู้สึกว่าเขายังไม่ได้กิน ท้องเล็ก ๆ ของเขายังหิวอยู่เล็กน้อยไห่ถงยิ้ม นั่งลงหน้าโซฟา รับโจ๊กครึ่งชามนั้นจากพี่สาวมา "ให้น้าป้อนหยางหยางดีไหม?""ดี"เซินเสี่ยวจวินเรียกพี่ไห่หลิง และวางของไว้บนโต๊ะหน้าโซฟาด้วย ส่วนแม่และลูกสาวของตระกูลโจว เซินเสี่ยวจวินทำเพียงแค่พยักหน้าและถือว่าทักทายแล้วหลังจากน้องสาวช่วยป้อนข้าวลูกชายของเธอแล้ว ไห่หลิงก็หันไปพูดกับแม่สามีและพี่สะใภ้ว่า "หนูจะไม่ไปรับหงหลินกลับมา ถ้าเขาอยากจะกลับมาก็กลับมาเอง ไม่อยากกลับมาก็ฝากแม่และพี่ดูแลเขาต่อไปด้วย"เขาให้เธอคืนแม้กระทั่งค่าอาหาร สามีภรรยากลายเป็นความสัมพันธ์แบบเกรงใจแบบนี้ มันมีอะไรจะพูดอีกไหม?ไห่หลิงรู้ว่าตัวเองก็ผิดเธอผิดที่ไว้ใจโจวหงหลินมากเกินไปโจวหงอิงอยากจะพูดอะไรต่อีก ถูกแม่โจวห้ามไว้แม่โจวฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า "ได้ ฉันกลับไปเรียกหงหลินกลับมาเอง ไห่หลิง ถ้าหงหลินกลับมาแล้ว พวกเธอสามีภร
โดนไห่หลิงระเบิดอารมณ์แบบนี้ แม่โจวอ้าปากอยากพูดอะไรแต่พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้วระบบ AA ของลูกชายและลูกสะใภ้เป็นสิ่งที่เธอแนะนํา และเธอก็รู้ว่าแม้ว่าจะไม่มีระบบ AA เงินของลูกชายก็ไม่ได้ให้กับลูกสะใภ้แน่"แม่ พวกเราไปกันเถอะ"โจวหงอิงไม่พอใจกับความคิดของไห่หลิง ไม่ยอมให้แม่พูดต่อ จึงดึงแม่ไป ก่อนจากไป เหลือบมองสิ่งที่ไห่ถงและเซินเสี่ยวจวินเอามาหลังจากอ่อนลงแล้ว โจวหงอิงก็พูดกับแม่ว่า "แม่ แม่บอกว่าสามีที่แต่งงานแล้วของไห่ถงทํางานอยู่ในเครือธุรกิจใหญ่ เงินเดือนเยอะมากใช่ไหม? ตั้งแต่ไห่ถงแต่งงานกับเขา ทุกครั้งที่มาก็ถือถุงใบเล็กใหญ่มา เมื่อกี้หนูเหลือบมองไปรอบ ๆ ผลไม้ที่เธอซื้อมานั้นมีแต่แพงมากๆ""ทุเรียนเอย เชอร์รี่เอย ของพวกนี้แพงหมด ทุเรียนลูกหนึ่งต้อง 1000 บาท เชอร์รี่ราคาหลายร้อยต่อโล"แม่โจวบอกว่า "แกลองนึกถึงรายได้ของน้องแก สามีของไห่ถงยังทํางานอยู่ในกลุ่มจ้านซื่อ น้องชายบอกว่ากลุ่มจ้านซื่อเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของกวนเฉิง คนที่เข้าไปได้ก็เป็นชนชั้นสูงในหมู่ชนชั้นสูง""น้องแกยังบอกว่าด้วยความสามารถของเขาอาจไม่สามารถเข้าทํางานในเครือจ้านซื่อได้ เห็นได้ชัดว่าสามีของไห่ถงม