หลังจากที่เธออาเจียนเสร็จแล้ว ชายคนหนึ่งยื่นหน้ากากให้เธอเย่เจียนีรีบสวมหน้ากาก แต่ยังรู้สึกเหมือนได้กลิ่นเหม็น เธอรีบเอามือปิดจมูกและปากของเธอและเดินตามชายทั้งสองเข้าไปในอาคารร้างเย่เจียนีเข้าไปในอาคารร้างและอยู่ห่างจากกองขยะ เธอก็กล้าที่จะปล่อยมือที่ปิดปากออก และหันกลับไปสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบ ไม่มีใครอาศัยอยู่ใกล้ๆ ถ้าเกิดเรื่องร้ายกับเธอที่นี่ เธอจะตายไปพร้อมกับกลิ่นเหม็น ซึ่งนั่นจะทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นความคิดนั้นทำให้เย่เจียนีตัวสั่นด้วยความกลัวไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใคร เนื่องจากสองพี่น้องไห่ได้ล่วงเกินพวกเขา พวกเขาควรไปหาสองพี่น้องไห่ แล้วทำไมถึงตามหาเธอ?ตอนนี้เธอและพี่น้องตระกูลไห่แทบจะเป็นศัตรูกัน“คุณหนูเย่ ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันให้คนของฉันพาคุณมาที่นี่เพื่อหารือข้อตกลงเท่านั้น พวกเราสามารถร่วมมือกันเพื่อเอาคืนนายหญิงจ้านได้”เสียงผู้หญิงที่ไม่คุ้นเคยดังมาจากห้องหนึ่งบนชั้นหนึ่ง แต่ไม่มีใครปรากฏตัวเย่เจียนีไม่กล้าเข้าไปในห้องนั้นเช่นกัน เนื่องจากผู้ชายสองคนที่พาเธอมายังคงจ้องมองเธออยู่หลังจากฟังคำพูดของอีกฝ่าย เย่เจียนีถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เมื่อรู้ว่าคำพูดนั้นม
"โจวหยาง... โจวหยางยังเป็นเด็ก... นอกจากนี้ สิทธิ์การเลี้ยงดูเขาเป็นของไห่หลิง หงหลินแค่จ่ายค่าเลี้ยงดูเพียง15,000 บาททุกเดือน และเขาจะไม่ต้องจ่ายอีกหลังจากโจวหยางอายุครบ 18 ปี ในอนาคต หากโจวหยางต้องการซื้อบ้านหรือรถ เขาก็จะไม่ต้องจ่ายอีกต่อไป เขาจะไม่ต้องต่อสู้เพื่อทรัพย์สินของครอบครัว แม้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม""หัวใจของคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด มีแค่ความตายเท่านั้น ที่จะทำให้ไม่สามารถแย่งทรัพย์สินของครอบครัวกับลูกชายของคุณ"เย่เจียนี: "....แต่ฉันยังไม่มีลูกชาย แม้แต่ลูกสาวก็ยังไม่มี""คุณเป็นหมันเหรอ?"เย่เจียนีตกใจผู้หญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหัวเราะ “ดูเหมือนว่าแม้คุณหนูเย่จะมีศีลธรรมบกพร่อง แต่คุณก็ยังมีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่บ้าง ฉันแค่บอกแผนการของฉันกับคุณ ฉันไม่เคยบอกว่าอยากให้โจวหยางตาย”“ฉันตั้งใจจะใช้โจวหยางล่อไห่ถง ความสัมพันธ์ระหว่างน้ากับหลานแน่นแฟ้นมาก สำหรับโจวหยาง ฉันเชื่อว่าไห่ถงจะมาพบฉันตามลำพัง”สิ่งที่เธอต้องการจริงๆ คือให้ไห่ถงพบเธอตามลำพังเย่เจียนีถอนหายใจด้วยความโล่งอกเธอเก่งเรื่องการขโมยสามีของคนอื่น แต่เธอไม่มีความกล้าที่จะทำร้ายลูกของใคร"คุณร
อย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายชั่วคราวนั้นคุ้มค่ากับความสงบสุขในชีวิตที่เหลือ"ถงถง คุณทำงานหนักมาก"จ้านหยินจูบหน้าผากของเธอ รู้สึกสงสารเธอที่ทำเพื่อเขามากมาย“มันยังเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ฉันชาร์จพลัง สิ่งที่ฉันเรียนรู้ตอนนี้จะมีประโยชน์กับฉันไปตลอดชีวิต”ไห่ถงหาวอีกครั้งเธอตื่นเช้าเกินไปในตอนเช้าและตอนนี้ก็เหนื่อยมาก"คุณต้องกลับไปที่บริษัทในช่วงบ่ายนี้ เวลาของคุณมีค่ามากกว่าของเราเยอะ"เขาเสียสละครึ่งเวลามาวัน เพื่อเรื่องพี่สาวเธอ ซึ่งเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญถ้าเขาไม่รักเธออย่างสุดหัวใจ เขาคงไม่เต็มใจที่จะเสียสละเช่นนี้ไห่ถงเงยหน้าขึ้นมองจ้านหยิน เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าหล่อเหลาของเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ "ที่รัก ฉันทำอะไรมาถึงได้แต่งงานกับคุณ ไปต้องห่วงนะ ตั้งแต่ที่คุณฝากชีวิตไว้กับฉัน ฉันจะไม่มีวันทำให้คุณผิดหวัง ฉันจะปฏิบัติกับคุณอย่างดีตลอดชีวิต""พี่ฉันคอยจู้จี้ให้ฉันเป็นทำดีกับคุณเสมอ ยิ่งกว่านั้น ราวกับว่ากลัวว่าฉันจะทำร้ายคุณ บางครั้งฉันก็รู้สึกอิจฉา คิดว่าพี่สาวใส่ใจคุณมากกว่าฉันที่เป็นน้องสาวของเธอเสียอีก"จ้านหยินจับมือเธอขณะที่มันสัมผัสใบหน้าของเขาและพูดอย่า
ไห่ถงกลับมาที่ร้านหนังสือตอนบ่ายสองครึ่งจ้านหยินเป็นคนไปส่งเธอเอง“วันนี้ฉันต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้า”ก่อนที่ไห่ถงจะลงจากรถ จ้านหยินก็พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและใจเย็นตามปกติของเขาไห่ถงหันมามองเขาและถามโดยสัญชาตญาณ: “ตอนบ่ายคุณจะออกจากออฟฟิศกี่โมง ดื่มให้น้อยลงตอนมื้อเย็น และอย่าดื่มตอนท้องว่าง มันจะเมาง่ายกว่าและไม่ดีต่อสุขภาพ”“ฉันกินยามาสามวันแล้ว ฉันจะไม่ปวดท้องอีก”ไห่ถงตอบอย่างรวดเร็ว "แม้ว่ากระเพาะของคุณจะสบายดี แต่คุณก็ยังต้องดูแลมัน ฉันจะนำบางอย่างมาให้คุณกินก่อนออกจากออฟฟิศ คุณต้องกินบางอย่างก่อนไปทานอาหารเย็น แต่ยังไงก็ตาม พยายามอย่าดื่มมากเกินไป ดีที่สุดคืออย่าดื่มเลย""ก็ได้ ฉันจะฟังคุณ แล้วคุณค่อยเอาอาหารมาให้ฉันก่อนที่ฉันจะทำงานเสร็จ แล้วฉันจะรอคุณ"จ้านหยินพูด ดวงตาสีดำของเขาเป็นประกายสดใสในขณะที่เขามองไปที่ไห่ถงไห่ถงเข้าใจความหมายของเขาในทันทีและหันกลับไปจูบใบหน้าของเขา หลังจากจูบแล้ว เธอก็บีบใบหน้าของเขาเล่นๆ เมื่อจ้านหยินจะทำอะไร เธอก็ไถลตัวลงจากรถเหมือนปลาไหล ทำให้จ้านหยินไม่สามารถจับเธอได้จ้านหยินพูดบางอย่างกับเธอ แต่เธอไม่ได้ยิน ที่จริงแล้ว จ้านหยินไม่ไ
อากาศในเดือนตุลาคมของเมืองกวนเฉิงยังร้อนจัด มีเพียงตอนเช้าและตอนเย็นเท่านั้นที่สามารถทําให้ผู้คนรู้สึกถึงความเย็นของปลายฤดูใบไม้ร่วงได้หลังจากไห่ถงตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและทําอาหารเช้าให้ครอบครัวพี่สาวทั้งสามคนแล้ว เธอก็หยิบทะเบียนบ้านและจากไปอย่างเงียบ ๆ"จากนี้ไปเราจะใช้ระบบAAกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพหรือค่าผ่อนรถและผ่อนบ้าน ทุกอย่างก็ต้องAAกัน! น้องสาวคุณมาอยู่ที่บ้านเรา ก็ต้องบอกให้เธอช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งด้วยแค่ให้เงินมา 10,000 บาทละเดือนเอาไปใช้อะไรได้? มันจะไปต่างอะไรกับมากินฟรีอยู่ฟรีล่ะ?"นี่คือสิ่งที่ไห่ถงได้ยินพี่เขยของเธอพูด ตอนที่พี่สาวและพี่เขยทะเลาะกันเมื่อคืนนี้เธอต้องย้ายออกจากบ้านของพี่แต่มีทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้พี่วางใจก็คือแต่งงานเธออยากจะรีบแต่งงานไปให้เร็ว แต่ว่าแม้แต่แฟนก็ยังไม่มี เธอจึงตัดสินใจรับคำขอของคุณยายจ้าน หญิงชราที่เธอได้ช่วยเหลือไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เธอจะแต่งงานกับหลานชายคนโตของคุณยายจ้านซึ่งชื่อจ้านหยินที่การแต่งงานเป็นเรื่องยากยี่สิบนาทีต่อไป ไห่ถงก็ลงจากรถหน้าประตูสํานักงานเขต"ไห่ถง"ทันทีที่ลงจากรถ ไห่ถงก็ได้ยินเสียงตะโก
"หากตัดสินใจแล้ว ฉันก็จะไม่เปลี่ยนใจค่ะ"ไห่ถงคิดไตร่ตรองอยู่สองสามวันก่อนตัดสินใจ และตอนนี้เธอตัดสินใจดีแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่คืนคำเมื่อจ้านหยินได้ยินเธอพูดแบบนั้น เขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกไปเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ แต่หยิบเอกสารของตัวเองออกมา แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่ไห่ถงก็หยิบเอกสารของตัวเองออกมาเช่นกันพวกเขาจดทะเบียนสมรสเสร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งกระบวนการใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาทีเมื่อไห่ถงรับทะเบียนสมรสมาจากเจ้าหน้าที่ จ้านหยินล้วงกุญแจที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้ไห่ถงพร้อมกับพูดว่า "บ้านที่ผมซื้อไว้อยู่ที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น ได้ยินคุณยายบอกว่าคุณเปิดร้านขายหนังสืออยู่ที่ประตูหน้าโรงเรียนมัธยมกวนเฉิง บ้านของผมไม่ไกลจากร้านขายหนังสือของคุณ ถ้านั่งรถเมล์ก็ใช้เวลาเพียงสิบกว่านาทีเท่านั้น""คุณมีใบขับขี่รถยนต์ไหมครับ? ถ้ามีใบขับขี่ผมสามารถจ่ายเงินดาวน์รถยนต์ให้ได้ครับ แต่คุณต้องผ่อนชำระงวดรถยนต์ทุกเดือน เมื่อมีรถยนต์แล้วคุณก็จะสะดวกในการเดินทางไปทำงานแล้วก็กลับบ้าน"“งานของผมยุ่งมาก ผมออกจากบ้านเช้าตรู่กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึก บางครั้งก็ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด
"คุณยายคะ หนูไม่เป็นไรแน่นอนค่ะ"ไห่ถงตอบกลับแบบปัดๆถึงแม้ว่าคุณยายจ้านจะดูแลเธอดี แต่ทว่าจ้านหยินเป็นหลานแท้ๆ เธอเป็นเพียงแค่หลานสะใภ้ หากเราทั้งคู่มีปัญหาขัดแย้งกันจริงๆ ครอบครัวจ้านจะเข้าข้างเธอหรือไม่?ไม่ใช่ว่าไห่ถงไม่เชื่อแต่อาจเหมือนกับพ่อแม่สามีของพี่สาวเธอก่อนแต่งงานพ่อแม่สามีดูแลพี่สาวดีมาก ดีมากจนทำให้ลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขาอิจฉาริษยาหลังจากแต่งงานพวกเขากลับกลายเป็นคนละคน ทุกครั้งที่พี่สาวกับสามีมีปัญหาขัดแข้งกัน แม่สามีจะตั้งใจกล่าวหาว่าเป็นเพราะพี่สาวทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดีสุดท้ายแล้วลูกชายยังไงก็คือลูกในไส้ของพวกเขา แต่ลูกสะใภ้ก็ยังเป็นคนนอกวันยันค่ำ"หลานทำงานไปก่อนนะ ยายไม่รบกวนล่ะ เดี๋ยวตอนเย็นยายจะเรียกอาหยินมารับหลานมาบ้านมากินข้าวเย็นด้วยกัน""คุณยายคะ หนูปิดร้านดึก น่าจะไม่สะดวกไปทานข้าวเย็นด้วยค่ะ แต่ถ้าเลื่อนเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์นี้แทนได้ไหมคะ?"เพราะว่าโรงเรียนจะหยุดสุดสัปดาห์ ร้านหนังสือของพวกเขาต้องพึ่งพาโรงเรียนในการทำรายได้ เมื่อโรงเรียนหยุด ธุรกิจของพวกเขาก็จะซบเซา แล้วบางครั้งอาจจะไม่เปิดร้านเลย เธอจึงมีเวลาว่าง"ได้จ้ะ"คุณยายจ้านพูดอย่างเห็น
"พี่คะ แบบนั้นไม่ได้นะ นั้นเป็นทรัพทย์สินของเขาก่อนแต่งงาน ฉันไม่ได้ออกเงินช่วยซื้อสักบาท แล้วจะให้เขาเพิ่มในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกันอีกได้อย่างไร เรื่องนี้เราจะไม่พูดกันอีกนะคะ"เมื่อได้รับใบทะเบียนสมรสมา จ้านหยินก็มอบกุญแจบ้านให้ ทำให้เธอสามารถย้ายเข้าบ้านนั้นได้ทันที ปัญหาเรื่องบ้านก็ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย แค่นี้ก็ดีมากแล้วเธอจะไม่ขอให้จ้านหยินเพิ่มชื่อเธอในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกัน ถ้าเขาต้องการเพิ่มชื่อของเธอในใบครอบครองทรัพย์สินเอง เธอก็จะไม่ปฏิเสธในฐานะสามีภรรยาที่ตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไห่หลิงแค่พูดแบบไปนั้น เพราะรู้ว่าน้องสาวพึ่งพาตนเองก่อนและไม่โลภมาก เธอจึงหยุดกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้หลังจากที่ถูกพี่สาวสอบถามทุกเรื่องแล้ว ไห่ถงจึงสามารถย้ายออกจากบ้านพี่สาวได้สำเร็จพี่สาวต้องการไปส่งเธอที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น แต่ทันใดนั้นหลานชายโจวหยางตื่นขึ้นพอดี เจ้าตัวเล็กตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้และมองหาแม่ของเขา"พี่คะ พี่ไปดูแลหยางหยางก่อน สัมภาระของฉันไม่เยอะ ฉันไปคนเดียวได้"ไห่หลิงต้องป้อนข้าวลูกชาย เมื่อป้อนข้าวเสร็จแล้วก็ต้องเตรียมอาหารกลางวันต่อ เพราะสามีตอนเที่ยง