แชร์

บทที่ 314

ผู้เขียน: จิ้งซิง
“ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าคุกเข่า”

เวินจื่อเฉินยื่นมือดันเขาออกไป

หากจะเทียบพลกำลัง พวกเขาสองพี่น้องเขาแรงมากกว่า

เวินจื่อเฉินหยิบขวานบนพื้นขึ้นมา เตรียมจัดการไม้แห้งท่อนหนึ่งที่เมื่อเช้าเพิ่งขนกลับมา

กระท่อมของเขาไม่แข็งแรงมากพอ จึงพักได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงคอยเก็บรวบรวมไม้ที่ซ่อมแซมบ้านได้ ไม้ท่อนนี้นำมาทำเสาเอกค้ำยันน่าจะเหมาะเจาะ

“ข้ากับน้องสี่มาหาท่านตั้งหลายครั้ง ทุกครั้งไม่ว่าพวกเราจะพูดอย่างไรท่านก็ไม่ไหวติงสักนิด ท่านไม่ได้กำลังรอให้พวกเราขอร้องท่านหรอกหรือ? !”

เวินจื่อเยวี่ยมองดูเขาในยามนี้ที่ทำงานเหมือนไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เขาก็รู้สึกหงุดหงิดทันที

เขาเหยียบลงไปบนไม้ท่อนนั้น อีกทั้งยื่นมือไปแย่งขวานด้ามนั้นจากมือเวินจื่อเฉิน

“หากวันนี้ท่านไม่ให้คำตอบพวกเรา ท่านก็อย่าหวังว่าจะได้จัดการไม้ท่อนนี้อย่างสงบ!”

“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าต้องการทำสิ่งใด ข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด ดังนั้นข้าคงให้คำตอบใดกับพวกเจ้าไม่ได้”

เวินจื่อเฉินมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกล่าวเสียงเรียบ

“เพราะฉะนั้นพวกเจ้าไปเถอะ คืนขวานมาให้ข้า ต่อไปไม่ต้องมารบกวนข้าอีกแล้ว ข้ายั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Lek Lekbb
ตอนใหม่มายัง
goodnovel comment avatar
Inukoya55 Inukoya55
ไหนบอกคนที่4ฉลาดสุด นี่มันโง่ขั้นสุดเลยป่าว แล้วน้องหกคนที่มาทีหลังพี่กลับรักจนหลงขนาดโดนวางยาก็หลง แถมด่าน้องสาวที่โตมาด้วยกันได้อย่างสนิทใจ คือเนื้อเรื่องบ้ามาก สรุปเรื่องนี้มีคนฉลาดบ้้างไหม
goodnovel comment avatar
สตอเบอร์รี่ ชีสเค้ก
วนไปวนมา ไม่ไปไหนสักที อ่านแล้วน่าเบื่อ พี่ชายคนที่ 3กับ4ก็โง่ ใช้แต่กำลัง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 315

    จวนเจิ้นกั๋วกงห้องหนังสือ“ท่านพ่อ พี่รองกลับมาแล้วขอรับ”เวินอวี้จือแจ้งเวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งวางพู่กันในมือลง แล้วกวาดมองเขาราบเรียบ “เขากลับมาเอง หรือว่าเจ้าเป็นคนพากลับมา?”“ลูกเป็นคนพากลับมาขอรับ”เวินอวี้จือหลุบตาลงเวินเฉวียนเซิ่งทำเสียงฮึดฮัดทันใดจากนั้นเขาลุกขึ้น “ไปเถอะ พ่อจะไปดูเขาสักหน่อย”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เวินเฉวียนเซิ่งมาเยือนห้องลับของเวินอวี้จือแต่เวินจื่อเยวี่ยและเวินจื่อเฉินสองพี่น้องฝาแฝดเพิ่งเคยเข้ามาครั้งแรกตั้งแต่พวกบ่าวค้นพบห้องลับนี้ภายในห้องของเวินอวี้จือ แม้เวินเฉวียนเซิ่งจะโกรธ แต่ไม่ได้สั่งให้เขาปิดตายห้องนี้ ภายหลังกลับบอกเวินอวี้จือเป็นการส่วนตัวว่าให้เขาศึกษายาพิษของตนเองต่อไปได้เพียงแต่ห้ามใช้กับคนในครอบครัวโดยพลการกระนั้นนึกไม่ถึงว่าผ่านไปเพียงไม่นาน คำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งกลับถูกทำลายโดยตัวเขาเอง“เจ้ารอง คิดว่าคำพูดต่างๆ เจ้าสามเจ้าสี่คงพูดกับเจ้าอย่างชัดเจนหมดแล้ว พ่อจะถามเจ้าเพียงคำเดียว เจ้าจะรับปากไปหาเวินซื่อหรือไม่?”เวินจื่อเฉินแตกต่างจากฝาแฝดเวินจื่อเยวี่ยที่ถูกถอนพิษผงเอ็นอ่อนไปตั้งแต่แรก ตอนนี้เขาถูกคนวางไว้บ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 316

    “เท่านี้ก็ได้แล้วหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่มองดูอยู่ข้างกันถามอย่างสงสัย“ขณะนี้ยากำลังออกฤทธิ์ เพราะให้กินในปริมาณมาก คงต้องรออีกสักพัก อีกครึ่งชั่วยามก็เรียกให้เขาตื่นได้แล้ว”“งั้นก็ดี ข้าจะเฝ้าเขาเอง”เวินจื่อเยวี่ยหันมองเวินจื่อเฉินแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ท่านพ่อ ท่านกับน้องสี่ออกไปพักด้านนอกเถอะ อีกเดี๋ยวข้าค่อยไปเรียกพวกท่าน”“ได้ ถ้างั้นที่นี่ขอมอบให้เจ้า”เดิมทีเวินเฉวียนเซิ่งคิดจะเฝ้าดูด้วยตัวเองแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้สุขภาพของเขาไม่เป็นเหมือนก่อนนี้เมื่อเทียบกับเจ้าสี่ที่สุขภาพร่างกายอ่อนแอ เขาดีกว่าเล็กน้อยเท่านั้นหลังจากรอให้พวกเขาออกไปแล้ว ภายในห้องลับมีเพียงเวินจื่อเยวี่ยกับเวินจื่อเฉินที่อยู่บนแท่นหินเพียงสองคนเวินจื่อเฉินนั่งอยู่ด้านข้าง สายตาจ้องมองพี่ชายฝาแฝดที่ใบหน้าเหมือนเขามากเขาอดถอนหายใจไม่ได้ “พี่รอง ท่านดูท่านสิ ไฉนจึงต้องทำเช่นนี้”เขาให้โอกาสเวินจื่อเฉินหลายครั้งแล้วแต่เสียดายที่พี่รองไม่ยอมรับปากตอนนี้กลายเป็นเช่นนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่ายาของน้องสี่เป็นอย่างไรบ้างหวังเพียงผลข้างเคียงอย่างรุนแรงนักและอย่าทำร้ายร่างกายพี่รองผู้ป่วยผู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 317

    “ปัง! ปัง! ปัง!”“เวินซื่อ เวินซื่อ! เจ้าไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”นอกอารามสุ่ยเยว่ เวินจื่อเฉินทุบประตูใหญ่อย่างบ้าคลั่งความเคลื่อนไหวอึกทึกครึกโครม จนทำให้ผู้มีจิตศรัทธาที่เข้าออกอารามตกใจกันหมด“นี่เขาเป็นอะไรไป?”“นี่เกิดเรื่องใดขึ้น?”“เวินซื่อ? นั่นไม่ใช่นามของธิดาศักดิ์สิทธิ์ก่อนออกบวชหรือ? คนผู้นี้มาหาธิดาศักดิ์สิทธิ์หรือ?”“ดูเหมือนจะใช่ เอ๊ะ ช้าก่อน! ข้านึกออกแล้วว่าเขาคือใคร”“ใครหรือ?”“เขาคือคุณชายรองแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง อดีตพี่ชายคนรองของธิดาศักดิ์สิทธิ์”“เป็นเขาหรือ? แล้วทำไมเขาถึงทำท่าทางดุร้ายอย่างนั้น? ดูราวกับมาหาเรื่องธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างไรอย่างนั้น”“เฮ้อ พวกเจ้ายังไม่รู้...”ขณะนี้ผู้มีจิตศรัทธาในอารามสุ่ยเยว่ส่วนมากเป็นผู้มาจากต่างถิ่น แต่ก็มีชาวเมืองหลวงหลายคน หลังจากเห็นเหตุการณ์ จึงเล่าเรื่องราวก่อนหน้าที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงอย่างดุเดือดให้พวกเขาฟังอย่ากระตือรือร้นดังนั้นในไม่ช้า ผู้คนต่างรู้เรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและธิดาศักดิ์สิทธิ์ดังนั้นจึงมีคนไม่น้อยที่เมื่อหันกลับมามองเวินจื่อเฉินใหม่ สายตาล้วนเปลี่ยนไปแล้วเวินจื่อเฉินไม่สั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 318

    ทั้งสองสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวนอกประตูใหญ่อารามสุ่ยเยว่ต่อไป“เวินจื่อเฉิน ท่านเป็นบ้าอะไร? กินยาผิดมาหรือ?”เวินซื่อไม่ได้อ้อมค้อมเหมือนศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่ จ้องเวินจื่อเฉินเยือกเย็น ด่ากลับไปอย่างไม่เกรงใจสักนิด“เจ้าว่าอะไรนะ?”เวินจื่อเฉินเบิกตาโตทันใด “เจ้าไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไร? ถึงได้กล้าพูดจากับข้าที่เป็นพี่รองเช่นนี้? !”“อ่อ ใช่สิ ตอนนี้เจ้ามีฝ่าบาทกับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนคอยหนุนหลัง แม้แต่จวนเจิ้นกั๋วกงก็ไม่อยู่ในสายตา นึกจะออกบวชก็ออกบวช ดูจากท่าทางของเจ้า คงไม่เห็นหัวพี่รองอย่างข้าแล้วสินะ? !”เวินซื่อรู้สึกว่าเขาแปลกประหลาดมากนางหรี่ตาทั้งคู่ลงเล็กน้อย “เวินจื่อเฉิน ตกลงท่านมาทำอะไรกันแน่?”“ที่ข้ามาไม่มีเรื่องอื่น แค่ขัดหูขัดตาท่าทางยโสโอหังของเจ้าในตอนนี้ ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ วันนี้หากเจ้าไม่ตามข้าไปพาน้องหกออกมาจากวังหลวง ข้าจะทำให้เจ้าไม่มีวันสงบสุข!”“เพียะ!”เวินซื่อตบฝ่ามือลงไปบนใบหน้าเวินจื่อเฉินอย่างไม่เกรงใจนางจ้องมองอีกฝ่ายเยือกเย็น “ดูท่าคงกินยาผิดมาจริงๆ เป็นอย่างไร ได้สติขึ้นมาบ้างหรือไม่?”เวินจื่อเฉินกุมใบหน้าตัวเอง แล้วหันมองเวินซ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1

    “หม่ำ ๆๆ”“กินสิ พี่หญิง เหตุใดท่านถึงไม่กินเล่า?” ภายในห้องลับที่มืดสลัว เวินซื่อบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่าง นอนคว่ำอยู่บนพื้นหายใจรวยริน โซ่เหล็กบนตัวนางส่งเสียงดังเคร้ง รัดคอและแขนขาของนางไว้ จนทำให้นางสลัดไม่หลุดเบื้องหน้าของนางมีดรุณีน้อยสวมชุดสีเหลืองอ่อนถืออาหารสุนัขไว้ในมือ หยอกล้อนางราวกับกำลังหยอกสุนัขก็มิปาน ส่วนดรุณีน้อยที่ยิ้มแย้มราวกับบุปผาผู้นี้คือน้องสาวของนาง...เวินเยวี่ยเวินเยวี่ยเอ่ยกับสาวใช้ที่อยู่ข้างหลังอย่างไม่พอใจว่า “ดูสิ พี่หญิงของข้าช่างไร้ประโยชน์เสียจริง แม้แต่สุนัขก็ยังเป็นให้ดีไม่ได้ คุณหนูอย่างข้าป้อนให้นางกินด้วยตัวเอง นางยังกล้าไม่กินอีกหรือ?” สาวใช้ก้าวเข้ามาเตะคนที่อยู่บนพื้นทันทีเตะจนคนร้องคราง สาวใช้ถึงค่อยเอ่ยเอาใจเวินเยวี่ยว่า “คุณหนูอย่าไปโต้เถียงกับนางเลยเจ้าค่ะ เกรงว่าสุนัขตัวนี้ยังคงคิดว่าตนเองเป็นบุตรสาวภรรยาเอกของจวนกั๋วกง”เวินเยวี่ยหัวเราะเยาะ “เวินซื่อนับว่าเป็นบุตรสาวภรรยาเอกของประเภทไหน? แม้แต่ท่านพ่อกับพวกท่านพี่ก็ไม่ยอมรับนางแล้ว การได้เป็นสุนัขก็นับว่าเป็นเกียรติที่คุณหนูอย่างข้ามอบให้นาง”“น่าเสียดายที่ไม่รู้จักเจียมตัว”

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 2

    พิธีปักปิ่นอันใด?พิธีปักปิ่นของยางผ่านไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?ความอัปยศที่ได้รับในพิธีปักปิ่นเวลานั้น นางยังคงได้จำได้จนถึงทุกวันนี้เสียงหัวเราะเยาะของแขกทั้งหลาย การเยาะเย้ยถากถางของพี่ชาย การถอนหมั้นของคู่หมั้น รวมไปถึงการตำหนิของบิดามารดา...นางเคยผ่านสถานการณ์เช่นนั้นมาแล้วครั้งหนึ่งทว่าตอนนี้ เหตุใดถึงเป็นพิธีปักปิ่นอีกเล่า? หรือว่าเวินเยวี่ยจะเล่นปาหี่ใหม่อะไรอีก อยากให้นางอับอายขายหน้าอีกครั้งแล้วค่อยส่งนางไปตายหรือ?!เวินซื่อหายใจถี่กระชั้นขึ้นในพริบตาแต่ในตอนที่นางกำลังจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ สายตาของนางกลับหยุดชะงักไปทันทีเดี๋ยวก่อน! นางเบิกตาโต จ้องมองมือสองข้างที่สมบูรณ์ไร้บาดแผลของตัวเอง แล้วก้มหน้ามองขาเท้าสองข้างของตัวเองทันที ใบหน้าค่อย ๆ ฉายแววเหมือนไม่อยากจะเชื่อมือและเท้าของนางถูกทำลายจนพิการไปแล้วไม่ใช่หรือ?เหตุใดตอนนี้กลับหายดีหมดแล้ว?นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?ควรรู้เอาไว้ว่าเอ็นมือเอ็นเท้าของนางถูกตัดจนขาดหมดแล้ว ไม่มีทางฟื้นฟูกลับมาได้อีก!เวินซื่อที่ตระหนักได้ถึงความผิดปกติจึงค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองห้องนี้อีกครั้งเป็นการตกแต่งทั้งหมดที่ค่อย ๆ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 3

    เด็กสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกแต่งหน้า ไม่มีสาวใช้ปรนนิบัติ ทำได้เพียงหวีผมให้ตัวเอง นางมองเขาแวบหนึ่งแล้วข่มกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ ร้องเรียกอย่างเฉยชาว่า “พี่รอง”เวินจื่อเฉินที่บุกเข้ามาถลึงตาใส่เวินซื่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหกใช่หรือไม่? เหตุใดจิตใจของเจ้าถึงชั่วร้ายเพียงนี้? รู้อยู่แก่ใจว่าวันนี้ก็เป็นพิธีปักปิ่นของน้องหก เจ้ายังจะทำลายชุดพิธีการของนางอีกหรือ!” ในขณะที่เวินจื่อเฉินซักถามเวินซื่อด้วยอารมณ์รุนแรง คนที่ทำให้เวินซื่อเกลียดชังเข้ากระดูกดำผู้นั้นก็โผล่ศีรษะออกมาจากด้านหลังเวินจื่อเฉินด้วยสีหน้าขอโทษ“พี่รอง อย่าพูดเลยเจ้าค่ะ ข้าอธิบายกับท่านแล้วไม่ใช่หรือ? พี่หญิงห้านางไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แค่ไม่ระวังเท่านั้นเอง”เวินเยวี่ยมีรูปร่างเพรียวบาง หน้าตาน่ารัก มักจะแสดงสีหน้าอ่อนแออยู่เสมอบวกกับนัยน์ตาที่มีน้ำเอ่อคลอดูขลาดกลัวเหมือนลูกกวาง ใครเห็นจะไม่เกิดความรู้สึกรักเอ็นดูได้?นางเองก็รู้ข้อดีของตนเองจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ว่าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงรู้สึกติดค้างนางเนื่องจากเวินเยวี่ยเพิ่งจะถูกคนของจวนเจิ้นกั๋วกงต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 4

    เวินซื่อที่โซเซจนไปชนกับมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็เม้มริมฝีปากแน่น ชาติที่แล้วนางเสียรู้ในน้ำมือของเวินเยวี่ยไปมากมายถึงเพียงนั้น ตอนนี้แค่เห็นเวินเยวี่ยทำท่าทางเช่นนี้ เวินซื่อก็รู้ว่านางจะเล่นตุกติกอะไรอีกแล้วนางหยิบชุดพิธีการที่ร่วงลงพื้นขึ้นมา“ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าข้าทำอะไรถึงทำให้น้องหกมีปฏิกิริยายกใหญ่เช่นนี้ ไม่สู้รบกวนน้องหกอธิบายให้ข้าเถิด”“เจ้าทำอะไรไว้เจ้ารู้อยู่แก่ใจ!”ไม่รอให้เวินเยวี่ยเอ่ยวาจา เวินจื่อเฉินก็ตวาดใส่นางเสียงดุดันก่อน แววตาของเวินซื่อเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆเมื่อก่อนนางยังดูไม่ออก ตอนนี้นางรู้สึกว่าเวินจื่อเฉินช่างตาบอดจริง ๆอยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา ใครทำอะไร ใครไม่ได้ทำอะไร เขามองไม่เห็นเองทั้งนั้นบางทีต่อให้เห็น เขาก็แค่เชื่อคำพูดของคนผู้เดียวเวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างอำมหิตแวบหนึ่งแล้วตบไหล่เวินเยวี่ยเบา ๆ ปลอบโยนด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “น้องหกไม่ต้องกลัวนะ มีเรื่องอะไรก็บอกกับพี่รอง ไม่ว่าอย่างไร พี่รองก็จะตัดสินแทนเจ้าเอง”ทั้งสองคนมีท่าทางแทบจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมากแต่เวินจื่อเฉินกลับเหมือนไม่สังเกตเห็นเลย เขาไม่เก็บงำเลยแม้แต่น้อย ดวงตาที่

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 318

    ทั้งสองสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวนอกประตูใหญ่อารามสุ่ยเยว่ต่อไป“เวินจื่อเฉิน ท่านเป็นบ้าอะไร? กินยาผิดมาหรือ?”เวินซื่อไม่ได้อ้อมค้อมเหมือนศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่ จ้องเวินจื่อเฉินเยือกเย็น ด่ากลับไปอย่างไม่เกรงใจสักนิด“เจ้าว่าอะไรนะ?”เวินจื่อเฉินเบิกตาโตทันใด “เจ้าไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไร? ถึงได้กล้าพูดจากับข้าที่เป็นพี่รองเช่นนี้? !”“อ่อ ใช่สิ ตอนนี้เจ้ามีฝ่าบาทกับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนคอยหนุนหลัง แม้แต่จวนเจิ้นกั๋วกงก็ไม่อยู่ในสายตา นึกจะออกบวชก็ออกบวช ดูจากท่าทางของเจ้า คงไม่เห็นหัวพี่รองอย่างข้าแล้วสินะ? !”เวินซื่อรู้สึกว่าเขาแปลกประหลาดมากนางหรี่ตาทั้งคู่ลงเล็กน้อย “เวินจื่อเฉิน ตกลงท่านมาทำอะไรกันแน่?”“ที่ข้ามาไม่มีเรื่องอื่น แค่ขัดหูขัดตาท่าทางยโสโอหังของเจ้าในตอนนี้ ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ วันนี้หากเจ้าไม่ตามข้าไปพาน้องหกออกมาจากวังหลวง ข้าจะทำให้เจ้าไม่มีวันสงบสุข!”“เพียะ!”เวินซื่อตบฝ่ามือลงไปบนใบหน้าเวินจื่อเฉินอย่างไม่เกรงใจนางจ้องมองอีกฝ่ายเยือกเย็น “ดูท่าคงกินยาผิดมาจริงๆ เป็นอย่างไร ได้สติขึ้นมาบ้างหรือไม่?”เวินจื่อเฉินกุมใบหน้าตัวเอง แล้วหันมองเวินซ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 317

    “ปัง! ปัง! ปัง!”“เวินซื่อ เวินซื่อ! เจ้าไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”นอกอารามสุ่ยเยว่ เวินจื่อเฉินทุบประตูใหญ่อย่างบ้าคลั่งความเคลื่อนไหวอึกทึกครึกโครม จนทำให้ผู้มีจิตศรัทธาที่เข้าออกอารามตกใจกันหมด“นี่เขาเป็นอะไรไป?”“นี่เกิดเรื่องใดขึ้น?”“เวินซื่อ? นั่นไม่ใช่นามของธิดาศักดิ์สิทธิ์ก่อนออกบวชหรือ? คนผู้นี้มาหาธิดาศักดิ์สิทธิ์หรือ?”“ดูเหมือนจะใช่ เอ๊ะ ช้าก่อน! ข้านึกออกแล้วว่าเขาคือใคร”“ใครหรือ?”“เขาคือคุณชายรองแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง อดีตพี่ชายคนรองของธิดาศักดิ์สิทธิ์”“เป็นเขาหรือ? แล้วทำไมเขาถึงทำท่าทางดุร้ายอย่างนั้น? ดูราวกับมาหาเรื่องธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างไรอย่างนั้น”“เฮ้อ พวกเจ้ายังไม่รู้...”ขณะนี้ผู้มีจิตศรัทธาในอารามสุ่ยเยว่ส่วนมากเป็นผู้มาจากต่างถิ่น แต่ก็มีชาวเมืองหลวงหลายคน หลังจากเห็นเหตุการณ์ จึงเล่าเรื่องราวก่อนหน้าที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงอย่างดุเดือดให้พวกเขาฟังอย่ากระตือรือร้นดังนั้นในไม่ช้า ผู้คนต่างรู้เรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและธิดาศักดิ์สิทธิ์ดังนั้นจึงมีคนไม่น้อยที่เมื่อหันกลับมามองเวินจื่อเฉินใหม่ สายตาล้วนเปลี่ยนไปแล้วเวินจื่อเฉินไม่สั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 316

    “เท่านี้ก็ได้แล้วหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่มองดูอยู่ข้างกันถามอย่างสงสัย“ขณะนี้ยากำลังออกฤทธิ์ เพราะให้กินในปริมาณมาก คงต้องรออีกสักพัก อีกครึ่งชั่วยามก็เรียกให้เขาตื่นได้แล้ว”“งั้นก็ดี ข้าจะเฝ้าเขาเอง”เวินจื่อเยวี่ยหันมองเวินจื่อเฉินแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ท่านพ่อ ท่านกับน้องสี่ออกไปพักด้านนอกเถอะ อีกเดี๋ยวข้าค่อยไปเรียกพวกท่าน”“ได้ ถ้างั้นที่นี่ขอมอบให้เจ้า”เดิมทีเวินเฉวียนเซิ่งคิดจะเฝ้าดูด้วยตัวเองแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้สุขภาพของเขาไม่เป็นเหมือนก่อนนี้เมื่อเทียบกับเจ้าสี่ที่สุขภาพร่างกายอ่อนแอ เขาดีกว่าเล็กน้อยเท่านั้นหลังจากรอให้พวกเขาออกไปแล้ว ภายในห้องลับมีเพียงเวินจื่อเยวี่ยกับเวินจื่อเฉินที่อยู่บนแท่นหินเพียงสองคนเวินจื่อเฉินนั่งอยู่ด้านข้าง สายตาจ้องมองพี่ชายฝาแฝดที่ใบหน้าเหมือนเขามากเขาอดถอนหายใจไม่ได้ “พี่รอง ท่านดูท่านสิ ไฉนจึงต้องทำเช่นนี้”เขาให้โอกาสเวินจื่อเฉินหลายครั้งแล้วแต่เสียดายที่พี่รองไม่ยอมรับปากตอนนี้กลายเป็นเช่นนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่ายาของน้องสี่เป็นอย่างไรบ้างหวังเพียงผลข้างเคียงอย่างรุนแรงนักและอย่าทำร้ายร่างกายพี่รองผู้ป่วยผู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 315

    จวนเจิ้นกั๋วกงห้องหนังสือ“ท่านพ่อ พี่รองกลับมาแล้วขอรับ”เวินอวี้จือแจ้งเวินเฉวียนเซิ่งเวินเฉวียนเซิ่งวางพู่กันในมือลง แล้วกวาดมองเขาราบเรียบ “เขากลับมาเอง หรือว่าเจ้าเป็นคนพากลับมา?”“ลูกเป็นคนพากลับมาขอรับ”เวินอวี้จือหลุบตาลงเวินเฉวียนเซิ่งทำเสียงฮึดฮัดทันใดจากนั้นเขาลุกขึ้น “ไปเถอะ พ่อจะไปดูเขาสักหน่อย”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เวินเฉวียนเซิ่งมาเยือนห้องลับของเวินอวี้จือแต่เวินจื่อเยวี่ยและเวินจื่อเฉินสองพี่น้องฝาแฝดเพิ่งเคยเข้ามาครั้งแรกตั้งแต่พวกบ่าวค้นพบห้องลับนี้ภายในห้องของเวินอวี้จือ แม้เวินเฉวียนเซิ่งจะโกรธ แต่ไม่ได้สั่งให้เขาปิดตายห้องนี้ ภายหลังกลับบอกเวินอวี้จือเป็นการส่วนตัวว่าให้เขาศึกษายาพิษของตนเองต่อไปได้เพียงแต่ห้ามใช้กับคนในครอบครัวโดยพลการกระนั้นนึกไม่ถึงว่าผ่านไปเพียงไม่นาน คำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งกลับถูกทำลายโดยตัวเขาเอง“เจ้ารอง คิดว่าคำพูดต่างๆ เจ้าสามเจ้าสี่คงพูดกับเจ้าอย่างชัดเจนหมดแล้ว พ่อจะถามเจ้าเพียงคำเดียว เจ้าจะรับปากไปหาเวินซื่อหรือไม่?”เวินจื่อเฉินแตกต่างจากฝาแฝดเวินจื่อเยวี่ยที่ถูกถอนพิษผงเอ็นอ่อนไปตั้งแต่แรก ตอนนี้เขาถูกคนวางไว้บ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 314

    “ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าคุกเข่า”เวินจื่อเฉินยื่นมือดันเขาออกไปหากจะเทียบพลกำลัง พวกเขาสองพี่น้องเขาแรงมากกว่าเวินจื่อเฉินหยิบขวานบนพื้นขึ้นมา เตรียมจัดการไม้แห้งท่อนหนึ่งที่เมื่อเช้าเพิ่งขนกลับมากระท่อมของเขาไม่แข็งแรงมากพอ จึงพักได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นดังนั้นเขาจึงคอยเก็บรวบรวมไม้ที่ซ่อมแซมบ้านได้ ไม้ท่อนนี้นำมาทำเสาเอกค้ำยันน่าจะเหมาะเจาะ“ข้ากับน้องสี่มาหาท่านตั้งหลายครั้ง ทุกครั้งไม่ว่าพวกเราจะพูดอย่างไรท่านก็ไม่ไหวติงสักนิด ท่านไม่ได้กำลังรอให้พวกเราขอร้องท่านหรอกหรือ? !”เวินจื่อเยวี่ยมองดูเขาในยามนี้ที่ทำงานเหมือนไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เขาก็รู้สึกหงุดหงิดทันทีเขาเหยียบลงไปบนไม้ท่อนนั้น อีกทั้งยื่นมือไปแย่งขวานด้ามนั้นจากมือเวินจื่อเฉิน“หากวันนี้ท่านไม่ให้คำตอบพวกเรา ท่านก็อย่าหวังว่าจะได้จัดการไม้ท่อนนี้อย่างสงบ!”“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าต้องการทำสิ่งใด ข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด ดังนั้นข้าคงให้คำตอบใดกับพวกเจ้าไม่ได้”เวินจื่อเฉินมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกล่าวเสียงเรียบ“เพราะฉะนั้นพวกเจ้าไปเถอะ คืนขวานมาให้ข้า ต่อไปไม่ต้องมารบกวนข้าอีกแล้ว ข้ายั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 313

    “ศิษย์น้องหญิงเล็กหลังเสร็จสิ้นเรื่องในวิหารใหญ่ ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่รีบนำขนมห่อนั้นมาหาเวินซื่อทันที“รีบเปิดดูสิว่าวันนี้นำสิ่งใดมาให้เจ้า!”ตอนศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่มาถึง เวินซื่อกำลังเก็บกวาดแปลงสมุนไพรภายในเรือนของนางหลังย้ายสือหูผิวเหล็กที่ปลูกก่อนหน้าออกไป ทำให้มีพื้นที่ว่างจากนั้นได้ย้ายสมุนไพรหายากอีกชนิดหนึ่งออกมาจากมิติ แล้วนำมาปลูกในแปลงสมุนไพรผืนเล็กเนื่องจากดินที่อยู่ภายในยังมีพลังวิญญาณหลงเหลืออยู่ เวินซื่อไม่อยากสิ้นเปลือง ดังนั้นครั้งนี้จึงย้ายสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่เพาะปลูกค่อนข้างยากออกมาอาศัยความพิเศษที่มีใบขนาดใหญ่ของสมุนไพรชนิดนั้น จึงแอบปลูกหญ้าฝรั่นไว้สองต้นในแปลงสมุนไพรตอนศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่มาถึง เวินซื่อกำลังแอบปลูกหนึ่งในต้นนั้นพอดีเมื่อเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้เวินซื่อตกใจจนมือสั่น จนเกือบจะฝังหญ้าฝรั่นต้นนั้นลงไปทั้งต้นแต่เมื่อลองคิดดูอีกที คนภายนอกแทบไม่รู้เลยว่าต้นหญ้าฝรั่นหน้าตาเป็นอย่างไร นางจะกลัวทำไม?ดังนั้นเวินซื่อจึงปลูกอย่างใจเย็นต่อไปพร้อมกับตอบศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่ไปด้วย “นำสิ่งใดมาให้หรือ? อาจารย์สั่งให้ศิษย์พี่หญิงนำมาให้ข้าหรือ?

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 312

    ก่อนจากไป เขาหันมองเวินจื่อเฉินแล้วทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ “พี่รอง คำพูดของพวกเราในวันนี้ท่านลองคิดให้ดีเถอะ พวกเราจะมาหาท่านอีก”เวินจื่อเฉินหน้าบึ้งทันทีรอให้พวกเขาจากไปแล้ว เวินจื่อเฉินโกรธราวกับไฟสุมทรวง แล้วรีบทำงานของวันนี้ให้เสร็จหลังจากได้รับค่าแรง วันรุ่งขึ้นเขาเข้าเมืองหลวงไปซื้อขนมแต่เช้าตรู่ แม้จะไม่ใช่ของภัตตาคารติ่งเซิ่ง แต่ก็เป็นของเจ้าเก่าแก่ที่กลิ่นหอมกรุ่นจากนั้นเขานำขนมไว้ในอก แล้วรีบเดินทางกลับไปที่ภูเขาหนานอาศัยที่เวลายังเช้าอยู่ เดินทางมาอารามสุ่ยเยว่อีกครั้งวันนี้ประตูใหญ่ของอารามสุ่ยเยว่เปิดกว้าง เพื่อต้อนรับผู้มีจิตศรัทธาที่มากราบไหว้แต่เวินจื่อเยวี่ยยังไม่ได้เข้าไปโดยตรง เขายืนอยู่นอกประตูแล้วเคาะประตู“ก๊อก ก๊อก”แต่น่าเสียดายที่ผู้มีจิตศรัทธาเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซือไท่และพวกแม่ชีที่อยู่ด้านในไม่มีเวลาสนใจเขาเวินจื่อเฉินจึงทำได้เพียงถือขนมรออยู่ข้างนอกตลอดเมื่อรอก็รอจนกระทั่งฟ้าใกล้มืดในที่สุดศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่จึงหาเวลาว่าง ปลีกตัวออกมาเรียกเขา“ศิษย์น้องหญิงเล็กบอกให้โยมไม่ต้องมาแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมวันนี้ถึงมาอีก?”ศิษย์พี่หญิงอู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 311

    “เพราะนางออกบวชเป็นแม่ชีแล้วนะสิ ฝ่าบาทจึงเลือกนางไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องเลือกน้องหก!”หลังจากตะลึงไปหลายวินาที ในไม่ช้าเวินจื่อเยวี่ยก็ได้สติ จากนั้นทำหน้าตัดพ้อพร้อมกล่าว“หากไม่ใช่เพราะนาง น้องหกไม่มีทางถูกคัดเลือกเข้าวังแน่นอน!”“เพราะฉะนั้นนางต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ต้องพาน้องหกออกจากวัง อีกทั้งยังต้องให้ฝ่าบาทเก็บราชโองการกลับไป!”เวินจื่อเยวี่ยยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งดังท่าทางมั่นอกมั่นใจเต็มที่เช่นนั้น ทำราวกับเรื่องราวเป็นไปตามดังที่พวกเขาว่าอย่างไรอย่างนั้นในใจเวินจื่อเฉินตื่นตระหนกเดิมทีเขาไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่พวกเขาบอกแต่เมื่อนึกอย่างละเอียด ฝ่าบาทถูกใจเวินเยวี่ยกะทันหัน ซ้ำยังจะให้นางเข้าวังไปเป็นสนมเป็นเรื่องที่แปลกมากแม้ยามนี้เขาจะออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงไปแล้ว แต่เขารู้ดีว่าฝ่าบาทระแวงบิดาของพวกเขามากขนาดไหน ระแวงจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขามากขนาดไหน ดังนั้นเรื่องที่ให้เวินเยวี่ยเข้าวัง อีกทั้งแต่งตั้งนางเป็นสนมจึงเป็นเรื่องที่ประหลาดเกินไปทว่าตอนนี้เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าสี่พูด แล้วนึกโยงไปถึงข้อสงสัยหลายจุด ทุกอย่างดูเหมือนอธิบายชัดเจนแล้วเพราะอย่างไรท่านแม่ของพวกเข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 310

    ขวานในมือของเวินจื่อเฉินชะงักงันในทันใดไม่ใช่เพราะประโยคสุดท้ายของเวินอวี้จือแต่เป็นเพราะเขานึกขึ้นได้อย่างฉับพลัน หากเวินเยวี่ยได้ขึ้นเป็นสนมจริง ด้วยอุปนิสัยของนาง คงไม่มีวันปล่อยน้องสาวของเขาไปเด็ดขาดแม้ว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะยินดีให้ท้ายน้องสาวของเขา แต่การสนับสนุนเช่นนี้จะอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน?หากต่อไปฝ่าบาทก็ยืนอยู่ข้างเวินเยวี่ย อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่เป็นฝ่ายปกป้องราชสำนักอยู่แล้ว จะปกป้องน้องสาวของเขาต่อไปหรือไม่?เวินจื่อเฉินนึกถึงความเป็นไปได้นั้น ต่อให้มีความเป็นไปได้น้อยมาก ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าหากถึงเวลานั้นจริง ๆ เขาที่กลายเป็นสามัญชนแล้วจะปกป้องน้องสาวได้อย่างไรอีก?เวินจื่อเฉินก็รู้สึกหนาวสั่นทั้งตัวในทันใดเขาวางขวานลง แล้วหมุนตัวมองไปทางเวินอวี้จือ “ที่พวกเจ้าบอกว่าฝ่าบาทต้องการรับเวินเยวี่ยเข้าวังเป็นสนมนั้นเป็นเรื่องจริงหรือ?”“เป็นความจริงแน่นอน!”เวินจื่อเยวี่ยยืนขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “เรื่องนี้ฝ่าบาทตรัสเองในงานเลี้ยงใหญ่ในวันเหมายันด้วยพระองค์เอง ถึงกับให้นางอยู่ในวังเพื่อเรียนรู้กฎระเบียบ รอให้นางเรียนรู้กฎระเบียบเสร็จสิ้นแล้วจะแต่งตั้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status