Share

บทที่ 183

Author: จิ้งซิง
“อ๋องผู้สำเร็จราชการแทน?!”

ฉีเซิ่งที่ได้ยินเสียงและหันกลับมาก็สะดุ้งตกใจกับม้าตัวใหญ่ เมื่อเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเป็นเป่ยเฉินหยวนก็ยิ่งตกใจจนตัวสั่นไปทั้งตัว พลางอุทานด้วยความประหลาดใจ “ท่าน...ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”

เป่ยเฉินหยวนมองลงมาจากที่สูง หลุบตาลงเล็กน้อย “เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลย”

ฉีเซิ่งที่หนังศีรษะเกร็งแน่นยิ้มอย่างเก้อเขินทันทีพร้อมกับเอ่ยว่า “กระหม่อมมาที่นี่เพื่อมอบของขวัญวันเกิดให้กับธิดาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินว่าเป็น ‘ของขวัญวันเกิด’ เป่ยเฉินหยวนก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ

เขาเอ่ยอย่างเย็นชา “วันเกิดของอู๋โยวผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เจ้าเพิ่งมาให้ของขวัญวันเกิดตอนนี้หรือ?”

ความรู้สึกกดดันอย่างไม่อาจอธิบายบีบคั้นจนทำให้ฉีเซิ่งแทบจะยิ้มไม่ออกแล้ว เขาฝืนแสยะยิ้มมุมปากออกมา “ช้าไปหน่อย ดังนั้นของขวัญแสดงความยินดีชิ้นนี้ก็เป็นของขวัญขอโทษด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อก่อนเคยพูดจาล่วงเกินธิดาศักดิ์สิทธิ์ไปบ้าง ดังนั้นจึงได้ขอโอกาสชดเชยสักครั้งจากธิดาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”

เวินซื่ออ้าปากกำลังจะพูดแต่ก็เงียบไว้

ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่นางจำได้ว่าในงานเลี้ยงวันนั้น
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 184

    เขาไม่อยากให้เวินซื่อคิดว่าเขาเป็นคนสารเลวแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงต้องอดกลั้นไว้อย่างเต็มที่“วันนี้อากาศดูไม่ค่อยดีเลย เกรงว่าฝนกำลังจะตกแล้ว ท่านอยากเข้าไปก่อนหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนมองไปที่เสื้อคลุมสีฟ้าน้ำทะเลบาง ๆ บนตัวนาง อยากจะถอดเสื้อกันลมของตัวเองออกเพื่อคลุมให้นาง แต่สุดท้ายก็ปล่อยไปเวินซื่อส่ายหน้า ถามถึงจุดประสงค์ในการมาของเขาในวันนี้ “มาหาข้าให้สวดมนต์ให้ท่านฟังหรือ?”เมื่อสองวันก่อนมีเรื่องราวมากมาย ไม่ได้สวดมนต์ให้เป่ยเฉินหยวนฟังสักเท่าใด เวินซื่อค่อนข้างเป็นห่วงเขาเป่ยเฉินหยวนย่อมไม่พลาดความรู้สึกในดวงตาของนาง พลันรู้สึกสบายใจขึ้นมากเขายิ้มพลางส่ายหน้า “วันนี้ช่างเถอะ สองวันนี้สถานการณ์ถือว่าไม่เลว อีกสองวันค่อยมาหาท่านใหม่”วันนี้เขาไม่มีจุดประสงค์ใด ๆ แค่ต้องการเยี่ยมเวินซื่อเท่านั้นแต่ไม่คิดว่าพอมาถึงจะได้เห็นผู้ชายบางคนคอยเอาอกเอาใจอู๋โยวของเขาเจตนาเล็ก ๆ ในดวงตาของเจ้าเด็กนั่น เขาเป็นผู้ชายด้วยกันจะมองไม่ออกได้อย่างไร?เพียงแต่ฉีเซิ่งนั้นยังเด็ก เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็ยังประหม่า ดังนั้นเป่ยเฉินหยวนจึงมองเขาออก แต่เขากลับยังไม่รู้ความคิดของเป่ยเฉินหยวนไม่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 185

    ฝนรอบนี้ไม่หนัก แค่ละอองฝนที่โปรยปรายลงมาพร้อมกับลมหนาวโปรยปรายลงมาบนตัวเวินจื่อเฉิน ทำให้เสื้อผ้าของเขาเปียกโชกทีละน้อย พัดหัวใจดวงนั้นของเขาให้เย็นเยียบ“พี่รอง ปีหนึ่งมีสี่ฤดู ผลิร้อนร่วงหนาว ท่ามกลางสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในหลากหลายฤดูกาลเช่นนี้ ท่านชอบสภาพอากาศแบบไหนมากที่สุด?”ท่ามกลางความมึนงงในหัวของเวินจื่อเฉิน ความทรงจำในวัยเด็กได้ผุดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุเวลานั้นในครอบครัวมีเพียงเวินซื่อเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวนางชอบเกาะติดข้างกายเหล่าพี่ชายเสมอ โดยเฉพาะกับเขาเสมือนผู้ติดตามตัวน้อย ทุกครั้งที่เขากลับบ้าน น้องสาวตัวน้อยจะเข้ามาวนเวียนรอบตัวเขาปากเล็ก ๆ ถามเจื้อยแจ้วไม่หยุด ราวกับมีคำพูดมากมายที่พูดไม่จบอย่างไรอย่างนั้นและในเวลานั้นเขาก็รักและเอ็นดูเวินซื่อน้องสาวคนนี้มาก ไม่ว่านางจะถามอะไร เขาก็จะตอบนางอย่างอดทน ไม่เคยแสดงอาการฉุนเฉียวเลย“แน่นอนว่าที่ชอบมากที่สุดก็คือวันที่อากาศแจ่มใส! ทุกครั้งที่อากาศแจ่มใสพี่รองกับข้าจะสามารถออกไปหาคนมาต่อยตีด้วยได้ ต่อยตีจนรู้สึกสบายไปทั้งตัว!”“ทั้ง ๆ ที่เหงื่อเหม็นเต็มตัวไปหมด พี่รองต่อยตีกลับมาจะมีกลิ่นเหม็น ๆ เสมอ!”

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 186

    ดังนั้นเวินซื่อจึงมีความคิดเกี่ยวกับยาพิษชนิดใหม่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วนางได้รวบรวมสมุนไพรกว่าสิบชนิดตามตำราพิษอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงแบ่งสัดส่วนทีละชนิดปั้นยาเม็ดสีดำมืดออกมาได้หนึ่งเม็ดอย่างรวดเร็วทันทีที่ทำเสร็จ เวินซื่อก็รีบหยิบยาเม็ดนั้นบรรจุใส่ขวดหยกขนาดเล็กของสิ่งนี้มีลักษณะเฉพาะที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับยาเชื่อฟังที่ได้รับการปรับปรุงก่อนหน้านี้นั่นก็คือยาเชื่อฟังไร้สีไร้กลิ่น ในขณะที่ยาเม็ดนี้มีรสชาติที่เข้มข้นมากและส่วนผสมที่เป็นพิษของมันนั้นไม่ได้อยู่ในเม็ดยา แต่อยู่ในกลิ่นหอมที่เข้มข้นเหล่านี้ทันทีที่เวินซื่อได้กลิ่นเพียงเล็กน้อย นางก็รู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองแปลก ๆ ไปราวกับท้องฟ้ากำลังจะถล่ม หม่นหมองขึ้นมาในทันทีโชคดีที่ยังอยู่ภายในมิติ เวินซื่อสังเกตเห็นว่ามีความผิดปกติก็รีบวิ่งไปที่ริมลำธารเล็ก ๆ แล้วพุ่งลงน้ำอย่างฉับพลัน“ตูม” เวินซื่อถูกน้ำในลำธารที่เปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณห่อหุ้มไว้หลังจากถูกชะล้างด้วยพลังวิญญาณ กลิ่นหอมที่ส่งผลต่ออารมณ์ของนางจึงถูกกำจัดออกไปอย่างหมดสิ้น“มีฤทธิ์ครอบงำจิตใจอย่างแท้จริง เวลาใช้ต้องระวังสักหน่อยแล้ว”ขณะที่เวินซื่อเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 187

    “เจ้าค่ะ”หลังจากที่ม่อโฉวซือไท่พยักหน้าตอบตกลง ก็ถามนางด้วยความลังเล“เจ้า...เจ้าจะไปดูเขาหน่อยหรือไม่?”ในขณะนี้เขายังอยู่ข้างนอกประตู รู้ว่าเขามีไข้ แต่ม่อโฉวซือไท่ก็ไม่ได้ให้คนเคลื่อนย้ายเขาเข้ามาทันทีเด็กเหล่านี้เป็นลูกของจื่อจวินไม่ผิดแน่ แต่จะพูดอย่างไร นางก็โปรดปรานศิษย์รักของนางมากกว่าอยู่ดีหากศิษย์ไม่ยอมตอบตกลง เดิมทีนางก็คิดที่จะปล่อยเลยตามเลย แต่ไม่นึกว่าศิษย์ของนางจะปล่อยวางได้เร็วขนาดนี้ถ้าเวินซื่อไม่ตกลงที่จะไปม่อโฉวซือไท่ย่อมไม่บังคับอยู่แล้วหลังจากส่งคนไปส่งจดหมายถึงจวนเจิ้นกั๋วกงในเมืองหลวง ม่อโฉวซือไท่ก็ให้คนเคลื่อนย้ายเวินจื่อเฉินเข้ามาในวิหารของอารามสุ่ยเยว่นางคิดว่าอันที่จริงอีกประเดี๋ยวก็จะมีคนมารับกลับไปอยู่แล้ว ปล่อยไว้ในวิหารจะสะดวกกว่าดังนั้นจึงเริ่มรักษาเวินจื่อเฉินที่นี่เลยแต่เมื่อนางทำให้ไข้สูงของเวินจื่อเฉินลดลงได้แล้ว ก็ไม่เห็นมีใครจากจวนเจิ้นกั๋วกงมาเลยสักคนในขณะที่ท้องฟ้าภายนอกค่อย ๆ มืดลง นางจะโยนเวินจื่อเฉินออกไปนอกประตูก็ไม่ได้ แต่จะปล่อยไว้ในวิหารตลอดก็ไม่ได้อีก ดังนั้นสุดท้ายก็จัดห้องใหม่ให้เขาได้พักฟื้นเวลาเที่ยงคืน ร่างผอม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 188

    ขณะที่เวินจื่อเฉินถูกขับออกจากอารามสุ่ยเยว่ ในอกยังมียาถุงหนึ่งซุกไว้ขับลมเย็นและทาบาดแผลภายนอกเวินจื่อเฉินกอดยาถุงนั้นไว้แน่น ขณะที่หันหลังกลับกำลังจะไปก็ได้ยินเสียงของเวินฉางอวิ้น“น้องรอง!”ไม่ได้พบกันหนึ่งวัน เวินฉางอวิ้นไม่นึกว่าน้องชายจะหมดสารรูปเช่นนี้เขาคว้าร่มจากมือเด็กรับใช้มา แล้วรีบก้าวเข้าไปหาเวินจื่อเฉินหลังจากดึงน้องชายเข้ามาใต้ร่มแล้ว เวินฉางอวิ้นก็ตวาดอย่างโกรธจัด “สองวันที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? มีอะไรก็ปรึกษากับข้าดี ๆ ก่อนมิได้หรือ ดูสภาพเจ้าตอนนี้สิ ทั้งกระด้างกระเดื่องกับท่านพ่อ ทั้งหนีออกจากบ้าน หนีออกมาหนึ่งวันหนึ่งคืนโดยไม่เอาอะไรติดตัวมาเลย ไม่เข้าท่าเลยสักนิด! เจ้าคิดว่าตัวเองยังเป็นเด็กอายุสามขวบอยู่อีกหรือ?!”“ไม่ใช่หนีออกจากบ้าน”เวินจื่อเฉินแก้ไขคำพูดของเวินฉางอวิ้นให้ถูกต้องอย่างใจเย็น“เลิกพูดจาเหลวไหลได้แล้ว”เวินฉางอวิ้นเกลี้ยกล่อมปากเปียกปากแฉะด้วยความหวังดี “หรือว่าเจ้าอยากสละตำแหน่งคุณชายสามแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง แล้ววิ่งไปเป็นประชาชนคนธรรมดาข้างนอกจริง ๆ“ประชาชนคนธรรมดามีอะไรไม่ดีหรือ?”เวินจื่อเฉินหอบยาไว้ในอก เขายิ้มบาง ๆ “พี่ให

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 189

    เขาเดินเท้าลงมาจากภูเขา ก่อนจะเลี้ยวไปยังหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เชิงดอยภูเขาหนานขึ้นอีกหน่อยใช้เสื้อผ้าสวยล้ำค่าราคาแพงแลกเปลี่ยนเสื้อป่านเนื้อหยาบสองชุดตลอดจนเงินตำลึงจำนวนหนึ่งหมู่บ้านนอกเขตเมืองหลวงจะว่าใหญ่ก็ไม่ใช่ เล็กก็ไม่เชิงบางคนที่ดูของเป็นย่อมยินดีที่จะแลกเปลี่ยนกับเขาเวินจื่อเฉินใช้เงินตำลึงซื้อที่ดินเล็ก ๆ ผืนหนึ่งที่เชิงดอยภูเขาหนาน จากนั้นก็เริ่มกำหนดเป้าหมายในการติดตามและปกป้องน้องสาวของเขาที่นี่……“เขายังวางแผนที่จะสร้างบ้านที่เชิงเขาจริงหรือ?”เมื่อเวินซื่อรู้ข่าวนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ถูกต้อง อาจารย์ก็พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่นึกว่าเขาจะเริ่มทำเช่นนี้เพื่อเจ้าจริง ๆ”ม่อโฉวซือไท่เอ่ยอย่างจนใจเวินซื่อเม้มริมฝีปากนางไม่ชอบที่จะได้ยินคำว่า ‘เพื่อนาง’ โดยเฉพาะเรื่องที่เวินจื่อเฉินออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงนางไม่รู้ว่าเวินจื่อเฉินคิดอะไรอยู่กันแน่ นางเองก็ไม่ได้อยากรู้เช่นกันสรุปว่า ไม่ว่าเขาจะเสียใจทีหลังก็ดี หรือฉุกคิดขึ้นมาได้อย่างฉับพลันก็ตาม ก็อย่ามาดึงนางเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนางเดินมาถึงจุดนี้แล้ว ถ้าจู่ ๆ คนพวกนี้เกิดนึกเสียใจทีหลัง หรือเกิดความสำนึกขึ้นมา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 190

    เวินซื่อไม่นึกว่าจู๋เยวี่ยจะมาปลอบประโลมนางคราวนี้นางเผยรอยยิ้มออกมาจากภายในใจ “ขอบคุณเจ้ามากจู๋เยวี่ย ข้าต้องการมาก”จู๋เยวี่ยติดตามนางไปที่ริมลำธารเล็ก ๆ ทั้งสองนั่งลงเงียบ ๆเวินซื่อมองดูลำธารเล็ก ๆ สายนั้น หลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน นางถึงเอ่ยขึ้นช้า ๆ“จู๋เยวี่ย เจ้าคือองครักษ์ลับที่ได้รับการฝึกฝนจากราชวงศ์ บางทีวันหนึ่งเจ้าอาจถูกโยกย้ายกลับไปคุ้มกันผู้อื่น แต่หากวันนั้นข้าพูดกับเจ้าว่า เจ้าอย่าไป ต่อไปให้คุ้มกันข้าเพียงผู้เดียว เจ้าจะรู้สึกว่าข้าเห็นแก่ตัวหรือไม่?”นางกลัวว่าจู๋เยวี่ยจะคิดมาก หลังจากตั้งคำถามแบบสมมติเสร็จแล้วก็รีบอธิบายว่า “ข้าไม่ได้จะไม่ให้เจ้าไปไหนจริง ๆ เพียงแต่วันนี้...”“ข้าหวังว่านั่นจะเป็นความจริง”แต่นางยังพูดไม่ทันจบ จู๋เยวี่ยก็เผยด้านที่แข็งกร้าวออกมาทันใด นางจับจ้องเวินซื่ออย่างแน่วแน่ “อู๋โยว ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นองครักษ์ลับที่ได้รับการฝึกฝนจากราชวงศ์ แต่ความเชื่อของพวกเราก็คือจงรักภักดีต่อนายเพียงคนเดียวไปชั่วชีวิต นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่ท่านมอบนามให้ข้า ท่านก็เป็นคนเดียวที่ข้าจะมอบความจงรักภักดีไปตลอดชีวิต และข้าจะปกป้องท่านเพียงคนเดียวตลอดไป”มุมป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 191

    หลังจากวนหนึ่งรอบ เป่ยเฉินหยวนจึงวางนางไว้บนพื้นอีกครั้งทั้งยังเลือกวางไว้บนก้อนหินขนาดใหญ่ที่เรียบ เพื่อให้นางสามารถยืนอย่างมั่นคงเวินซื่อที่ขวัญผวาโดยไม่ได้รับอันตรายใดตบหน้าอกตัวเองเพื่อให้หายตกใจ พร้อมกล่าวขอบคุณ “โชคดีที่มีท่านอ๋องอยู่ ไม่อย่างนั้นเมื่อครู่ข้าต้องเคราะห์ร้ายแน่ๆ เลย”เมื่อวานหลังจากฝนตกลงมาหนึ่งครั้ง ทำให้อากาศวันนี้เริ่มเย็นลงหากยามนี้นางตกน้ำ เกรงว่าคงต้องไม่สบายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เป่ยเฉินหยวนยกมือดีดหน้าผากนางเบาๆ “เมื่อครู่ใครใช้ให้ท่านไม่ระวังล่ะ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองยกไม่ไหว ยังตักน้ำมากขนาดนี้อีก”ครั้งนี้โชคดีที่มีเขาอยู่ เกิดครั้งหน้าเขาไม่อยู่ด้วยล่ะ?เวินซื่อจับหน้าผากตัวเอง ไม่กล้าบอกว่าเมื่อครู่ที่นางไม่ทันระวังความจริงเป็นเพราะเขา“เอาละ นำถังไม้มาให้ข้าเถอะ ท่านไปยืนดูอยู่ด้านข้างดีกว่า”เป่ยเฉินหยวนถลกแขนเสื้อและขากางเกงขึ้น จากนั้นไปยกถังไม้ขึ้นจากลำธาร ปล่อยให้เวินซื่อยืนอยู่ริมฝั่ง“หา? ให้ท่านทำหรือ? คงไม่เหมาะสมเท่าใดกระมัง?”เวินซื่อเบิกตาโต พร้อมกล่าวอย่างแปลกใจให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่สูงส่งช่วยตักน้ำให้นาง นี่ไม่ใช่แค่ไ

Pinakabagong kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status