Share

บทที่ 188

Penulis: จิ้งซิง
ขณะที่เวินจื่อเฉินถูกขับออกจากอารามสุ่ยเยว่ ในอกยังมียาถุงหนึ่งซุกไว้

ขับลมเย็นและทาบาดแผลภายนอก

เวินจื่อเฉินกอดยาถุงนั้นไว้แน่น ขณะที่หันหลังกลับกำลังจะไปก็ได้ยินเสียงของเวินฉางอวิ้น

“น้องรอง!”

ไม่ได้พบกันหนึ่งวัน เวินฉางอวิ้นไม่นึกว่าน้องชายจะหมดสารรูปเช่นนี้

เขาคว้าร่มจากมือเด็กรับใช้มา แล้วรีบก้าวเข้าไปหาเวินจื่อเฉิน

หลังจากดึงน้องชายเข้ามาใต้ร่มแล้ว เวินฉางอวิ้นก็ตวาดอย่างโกรธจัด “สองวันที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? มีอะไรก็ปรึกษากับข้าดี ๆ ก่อนมิได้หรือ ดูสภาพเจ้าตอนนี้สิ ทั้งกระด้างกระเดื่องกับท่านพ่อ ทั้งหนีออกจากบ้าน หนีออกมาหนึ่งวันหนึ่งคืนโดยไม่เอาอะไรติดตัวมาเลย ไม่เข้าท่าเลยสักนิด! เจ้าคิดว่าตัวเองยังเป็นเด็กอายุสามขวบอยู่อีกหรือ?!”

“ไม่ใช่หนีออกจากบ้าน”

เวินจื่อเฉินแก้ไขคำพูดของเวินฉางอวิ้นให้ถูกต้องอย่างใจเย็น

“เลิกพูดจาเหลวไหลได้แล้ว”

เวินฉางอวิ้นเกลี้ยกล่อมปากเปียกปากแฉะด้วยความหวังดี “หรือว่าเจ้าอยากสละตำแหน่งคุณชายสามแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง แล้ววิ่งไปเป็นประชาชนคนธรรมดาข้างนอกจริง ๆ

“ประชาชนคนธรรมดามีอะไรไม่ดีหรือ?”

เวินจื่อเฉินหอบยาไว้ในอก เขายิ้มบาง ๆ “พี่ให
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (3)
goodnovel comment avatar
Kom Kom
สงสารพี่รองแล้ววว
goodnovel comment avatar
Sajeenun Ruangchai
อัพเดทเยอะๆ เช้าเย็นได้ไหมคะ
goodnovel comment avatar
WLFJ
แล้วจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงน้อง
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 189

    เขาเดินเท้าลงมาจากภูเขา ก่อนจะเลี้ยวไปยังหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เชิงดอยภูเขาหนานขึ้นอีกหน่อยใช้เสื้อผ้าสวยล้ำค่าราคาแพงแลกเปลี่ยนเสื้อป่านเนื้อหยาบสองชุดตลอดจนเงินตำลึงจำนวนหนึ่งหมู่บ้านนอกเขตเมืองหลวงจะว่าใหญ่ก็ไม่ใช่ เล็กก็ไม่เชิงบางคนที่ดูของเป็นย่อมยินดีที่จะแลกเปลี่ยนกับเขาเวินจื่อเฉินใช้เงินตำลึงซื้อที่ดินเล็ก ๆ ผืนหนึ่งที่เชิงดอยภูเขาหนาน จากนั้นก็เริ่มกำหนดเป้าหมายในการติดตามและปกป้องน้องสาวของเขาที่นี่……“เขายังวางแผนที่จะสร้างบ้านที่เชิงเขาจริงหรือ?”เมื่อเวินซื่อรู้ข่าวนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ถูกต้อง อาจารย์ก็พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่นึกว่าเขาจะเริ่มทำเช่นนี้เพื่อเจ้าจริง ๆ”ม่อโฉวซือไท่เอ่ยอย่างจนใจเวินซื่อเม้มริมฝีปากนางไม่ชอบที่จะได้ยินคำว่า ‘เพื่อนาง’ โดยเฉพาะเรื่องที่เวินจื่อเฉินออกจากจวนเจิ้นกั๋วกงนางไม่รู้ว่าเวินจื่อเฉินคิดอะไรอยู่กันแน่ นางเองก็ไม่ได้อยากรู้เช่นกันสรุปว่า ไม่ว่าเขาจะเสียใจทีหลังก็ดี หรือฉุกคิดขึ้นมาได้อย่างฉับพลันก็ตาม ก็อย่ามาดึงนางเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนางเดินมาถึงจุดนี้แล้ว ถ้าจู่ ๆ คนพวกนี้เกิดนึกเสียใจทีหลัง หรือเกิดความสำนึกขึ้นมา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 190

    เวินซื่อไม่นึกว่าจู๋เยวี่ยจะมาปลอบประโลมนางคราวนี้นางเผยรอยยิ้มออกมาจากภายในใจ “ขอบคุณเจ้ามากจู๋เยวี่ย ข้าต้องการมาก”จู๋เยวี่ยติดตามนางไปที่ริมลำธารเล็ก ๆ ทั้งสองนั่งลงเงียบ ๆเวินซื่อมองดูลำธารเล็ก ๆ สายนั้น หลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน นางถึงเอ่ยขึ้นช้า ๆ“จู๋เยวี่ย เจ้าคือองครักษ์ลับที่ได้รับการฝึกฝนจากราชวงศ์ บางทีวันหนึ่งเจ้าอาจถูกโยกย้ายกลับไปคุ้มกันผู้อื่น แต่หากวันนั้นข้าพูดกับเจ้าว่า เจ้าอย่าไป ต่อไปให้คุ้มกันข้าเพียงผู้เดียว เจ้าจะรู้สึกว่าข้าเห็นแก่ตัวหรือไม่?”นางกลัวว่าจู๋เยวี่ยจะคิดมาก หลังจากตั้งคำถามแบบสมมติเสร็จแล้วก็รีบอธิบายว่า “ข้าไม่ได้จะไม่ให้เจ้าไปไหนจริง ๆ เพียงแต่วันนี้...”“ข้าหวังว่านั่นจะเป็นความจริง”แต่นางยังพูดไม่ทันจบ จู๋เยวี่ยก็เผยด้านที่แข็งกร้าวออกมาทันใด นางจับจ้องเวินซื่ออย่างแน่วแน่ “อู๋โยว ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นองครักษ์ลับที่ได้รับการฝึกฝนจากราชวงศ์ แต่ความเชื่อของพวกเราก็คือจงรักภักดีต่อนายเพียงคนเดียวไปชั่วชีวิต นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่ท่านมอบนามให้ข้า ท่านก็เป็นคนเดียวที่ข้าจะมอบความจงรักภักดีไปตลอดชีวิต และข้าจะปกป้องท่านเพียงคนเดียวตลอดไป”มุมป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 191

    หลังจากวนหนึ่งรอบ เป่ยเฉินหยวนจึงวางนางไว้บนพื้นอีกครั้งทั้งยังเลือกวางไว้บนก้อนหินขนาดใหญ่ที่เรียบ เพื่อให้นางสามารถยืนอย่างมั่นคงเวินซื่อที่ขวัญผวาโดยไม่ได้รับอันตรายใดตบหน้าอกตัวเองเพื่อให้หายตกใจ พร้อมกล่าวขอบคุณ “โชคดีที่มีท่านอ๋องอยู่ ไม่อย่างนั้นเมื่อครู่ข้าต้องเคราะห์ร้ายแน่ๆ เลย”เมื่อวานหลังจากฝนตกลงมาหนึ่งครั้ง ทำให้อากาศวันนี้เริ่มเย็นลงหากยามนี้นางตกน้ำ เกรงว่าคงต้องไม่สบายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เป่ยเฉินหยวนยกมือดีดหน้าผากนางเบาๆ “เมื่อครู่ใครใช้ให้ท่านไม่ระวังล่ะ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองยกไม่ไหว ยังตักน้ำมากขนาดนี้อีก”ครั้งนี้โชคดีที่มีเขาอยู่ เกิดครั้งหน้าเขาไม่อยู่ด้วยล่ะ?เวินซื่อจับหน้าผากตัวเอง ไม่กล้าบอกว่าเมื่อครู่ที่นางไม่ทันระวังความจริงเป็นเพราะเขา“เอาละ นำถังไม้มาให้ข้าเถอะ ท่านไปยืนดูอยู่ด้านข้างดีกว่า”เป่ยเฉินหยวนถลกแขนเสื้อและขากางเกงขึ้น จากนั้นไปยกถังไม้ขึ้นจากลำธาร ปล่อยให้เวินซื่อยืนอยู่ริมฝั่ง“หา? ให้ท่านทำหรือ? คงไม่เหมาะสมเท่าใดกระมัง?”เวินซื่อเบิกตาโต พร้อมกล่าวอย่างแปลกใจให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่สูงส่งช่วยตักน้ำให้นาง นี่ไม่ใช่แค่ไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 192

    อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้ยิ่งใหญ่ ยากนักที่จะตกอยู่อากัปกิริยาพูดติดอ่างเช่นนี้หากให้ผู้ใต้บัญชาเหล่านั้นของเขาเห็นเข้า คงตกใจจนลูกตาถลนออกจากเบ้าทว่าโชคดี เขาเผยท่าทางวางตัวไม่ถูกเช่นนี้ต่อหน้าอู๋โยวเท่านั้นเป่ยเฉินหยวนถือโอกาสนอนลงข้างกายเวินซื่อ ในใจรู้สึกดีงามอย่างประหลาดได้ฟังคนที่ชอบสวดมนต์ให้จิตใจเขาสงบอยู่ข้างกายอย่างตั้งใจ ความรู้สึกเช่นนี้ราวกับถูกคนรักกล่อมให้นอนหลับ ในที่สุดเป่ยเฉินหยวนที่รู้สึกหวานละไมก็ผ่อนคลายความคิดที่ตึงเครียด ค่อยๆ จมดิ่งสู่ในนั้นหลังจากลมหายใจของเป่ยเฉินหยวนเริ่มราบเรียบ เสียงสวดมนต์ของเวินซื่อเล็กลงเรื่อยๆ ผ่านไปทีละนิด จนสุดท้ายเหลือเพียงเสียงลำธารไหลผ่านและสัมผัสของสายลมที่พัดเอื่อยเวินซื่อที่รู้สึกง่วงนอนขึ้นมาอย่างประหลาดจึงขยี้ตาช่างเถอะ งีบสักครู่ดีกว่าอีกเดี๋ยวจู๋เยวี่ยกลับมาต้องเรียกนางแน่นอนเวินซื่อคิดเช่นนั้น จึงขยับตัวเล็กน้อย แล้วนอนลงไปเช่นกันระยะห่างเว้นจากเป่ยเฉินหยวนประมาณหนึ่งคนกั้น ไม่ใกล้ไม่ไกลหลังจากนางนอนหลับ มิติแห่งนี้ราวกับมีเพียงทั้งสองคนเท่านั้นเมื่อเป่ยเฉินหยวนตื่นขึ้น พลันเห็นภาพที่ทำให้แทบหยุดหา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 193

    ขณะนี้เวินซื่อประหม่ายิ่งกว่าเขาเสียอีกมุมปากฉีกแล้ว ยังบวมอีก!ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติเช่นนี้ หากต้องมาเสียโฉมเพราะนาง นั่นเป็นความผิดของนางชัดๆ !“ข้าจะไปเอายามาให้ท่านเดี๋ยวนี้ รีบทายาซะ อย่าให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นเด็ดขาด”เวินซื่อหันหลังเตรียมกลับไปที่เรือนเล็ก จู๋เยวี่ยปรากฏตัวขึ้นตรงหน้านางทันที“จู๋เยวี่ย? ในที่สุดเจ้าก็กลับมา ทำไมถึงไปนานขนาดนี้?”จู๋เยวี่ยรีบเดินมาตรงหน้าเวินซื่อ “อู๋โยว รีบตามข้ามา มีคนนอกมาเยือนอารามสุ่ยเยว่ เป็นคนจากในวัง”“คนจากในวังหรือ?”เวินซื่อเลิกคิ้ว หันมองเป่ยเฉินหยวนที่อยู่ด้านหลังพบว่าเป่ยเฉินหยวนกำลังขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ไม่รู้เรื่องนี้คงไปเอายาไม่ทันแล้วในไม่ช้าเวินซื่อก็กลับไปถึงอารามสุ่ยเยว่ เมื่อมาถึงนอกอารามเห็นม่อโฉวซือไท่รออยู่นอกประตูใหญ่ตามคาด และเสี่ยวเต๋อจื่อที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับรถม้าคันด้านหลังเขาที่เคยส่งนางมาอารามสุ่ยเยว่“บ่าวคารวะธิดาศักดิ์สิทธิ์”เมื่อเห็นเวินซื่อปรากฏตัว เสี่ยวเต๋อจื่อรีบเข้าไปทำความเคารพอย่างอ่อนน้อมเผชิญหน้ากับขันทีที่เป็นคนสนิทของฝ่าบาท แม้เขาจะทำความเคารพ เวินซื่อก็ไม่กล้ารับไว้ทั้ง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 194

    ขณะเดียวกันจวนเจิ้นกั๋วกงหลังเวินเยวี่ยถูกลงโทษโดยกฎประจำตระกูลฟาดแส้ไปห้าสิบที ก็หมดสติอย่างสิ้นเชิงแผ่นหลังเต็มไปด้วยเลือด ถูกฟาดจนเนื้อหนังปริแตก จนไม่กล้ามองดูสองวันมานี้ เวินเยวี่ยนอนร้องไห้เพราะความเจ็บปวดทั้งวันทั้งคืนทุกครั้งที่ใส่ยาทำให้นางเจ็บปวดจนอยากจะสับเวินซื่อที่อารามสุ่ยเยว่เป็นหมื่นชิ้น เพื่อให้อีกฝ่ายลิ้มรสความเจ็บปวดของตัวเองไม่ง่ายกว่าจะผ่านพ้นไปสองวัน เวินเยวี่ยที่นอนอยู่บนเตียงออกไปไหนไม่ได้ ได้ยินข่าวร้ายจากสาวใช้สาวใช้ที่มาใหม่ชื่อเซียงเหอ ส่วนหงอวี้หายตัวไปตั้งแต่สองวันก่อนผู้ที่ลงมือจัดการย่อมต้องเป็นเจิ้นกั๋วกงจวนเจิ้นกั๋วกงที่ใหญ่โตหากอยากให้สาวใช้สักคนหายไปอย่างเงียบเชียบ เป็นเรื่องที่ง่ายดายเหลือเกินทว่าฝีมือเช่นนี้ก็ทำให้เวินเยวี่ยรู้สึกหวาดกลัวเพราะนางรู้สึกว่าบิดากำลังตักเตือนนางไม่อย่างนั้นจะสังหารสาวใช้คนสนิทของนางโดยตรงได้อย่างไรเดิมทีเวินเยวี่ยตกใจจนสำรวมขึ้นบ้างแล้ว แต่หลังจากผ่านความทรมานสองวันมานี้ ความโกรธแค้นในใจเกิดขึ้นอีกครั้งโดยเฉพาะได้ยินข่าวจากเซียงเหอ ว่าพี่รองของนางเวินจื่อเฉินถึงกับตัดสัมพันธ์กับทุกคนในจวนเจิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 195

    คุณหนูรองจวนราชเลขาฝ่ายขวาคือบุตรอนุภรรยา นามว่าอันหลันซินเมื่อหลายปีก่อนตอนเวินซื่อจมน้ำนางเคยช่วยชีวิต นับจากนั้นเวินซื่อจึงถือว่าอันหลันซินเป็นสหาย กระทั่งแนะนำนางให้สหายรักของตนรู้จัก ซึ่งก็คือปราชญ์หญิงในรัชกาลปัจจุบันหลินเมี่ยวฉือเพราะมีบุญคุณในครั้งนั้น เวินซื่อและหลินเมี่ยวฉือจึงเป็นอันหลันซินเป็นคนกันเองมาโดยตลอดรู้ว่านางคือบุตรอนุภรรยา ไม่ได้รับความห่วงใยจากมารดาใหญ่ อีกทั้งถูกพี่น้องคนอื่นรังแก ทั้งสองจึงไปกู้หน้าให้นางถึงจวนด้วยตัวเองรู้ว่าเงินเดือนนางไม่พอใช้ ต้องใช้สอยอย่างประหยัด ดังนั้นไม่ว่าจะกินของดีที่ไหนก็ต้องเก็บไว้ให้นางหนึ่งส่วน มีที่ไหนน่าสนุกก็พานางไปด้วยรู้ว่าไม่มีใครจัดการเรื่องงานแต่งให้นาง เวินซื่อจึงขอร้องบิดา ไหว้วานฮูหยินเฒ่าที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ช่วยให้นางได้หมั้นหมายกับตระกูลที่ดีจนกระทั่งเมื่อครึ่งปีก่อน ไม่รู้เหตุใดท่าทีของอันหลันซินเปลี่ยนไปฉับพลัน นางนัดแนะเวินซื่อออกมาเที่ยวเพียงลำพัง ทว่ากลับผลักนางตกน้ำด้วยตัวเอง ซ้ำยังยืนมองให้นางจมลงไปในทะเลสาบหากไม่มีคนเดินผ่านมาพอดี แล้วได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของเวินซื่อ เกรงว่ายามนั้นนา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 196

    เวินเยวี่ยถลึงตาในพริบตา “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร! เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร!?”อันหลันซินแค่นหัวเราะ “ตอนนี้ข่าวลือแพร่ไปทั่วเมืองหลวงแล้ว เจ้าเวินเยวี่ยวางยาทำร้ายพี่ชาย ถูกเจิ้นกั๋วกงใช้กฎประจำตระกูลลงโทษฟาดแส้ห้าสิบครั้ง อีกทั้งยังถูกกักบริเวณสำนึกผิดอีกสามเดือนเชียว”“เจ้า!”ให้ตายสิ!ท่านพ่อมีคำสั่ง ไม่ให้ผู้ใดเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปแล้วมิใช่หรือ?หรือจะเป็นนังคนชั้นต่ำอย่างเวินซื่อ? !นางช่างชั่วช้าตามที่คาดการณ์ไว้!ถึงกับกล้าทำลายชื่อเสียงของนาง!น่าเสียดายที่เรื่องนี้เวินซื่อไม่ได้เป็นคนทำ ขณะนั้นมีคนอยู่ในเหตุการณ์มากมายเวินเฉวียนเซิ่งสั่งการคนในจวนได้ แต่กลับสั่งการเป่ยเฉินหยวนและคนที่เขาพามาด้วยไม่ได้เพียงสายตาของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ทหารใต้อาณัติเขาก็รู้ทันทีในวันหยุดพักราชการออกไปดื่มเหล้าจนปากสว่างไม่ได้หรือ?ออกไปทานอาหารข้างนอกแล้วตอนคุยกันเผลอพูดเสียงดังไม่ได้หรือ?อย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจ แค่เจตนาไม่ได้หรือ?หลังจากผ่านไปวันสองวัน จึงเป็นที่รู้กันไปทั่วเมืองหลวงตามที่คาดไว้แม้แต่ตอนท่านอ๋องมาฝึกพวกเขายังสีหน้าดูดีอย่างหาได้ยากกองทัพธงดำที่อยู่

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status