Share

บทที่ 100

Aвтор: จิ้งซิง
ในฐานะบุตรสาวแห่งภรรยาเอกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง เวินซื่อย่อมรู้จักของเหล่านี้อยู่แล้ว

และนางไม่เพียงแต่รู้จักเท่านั้น แต่เมื่อก่อนยังเคยใช้บ่อย ๆ อีกด้วย

เพราะหลังจากที่มารดาล่วงลับไป จวนเจิ้นกั๋วกงก็มีนางเป็นบุตรสาวคนเดียว ดังนั้นในเวลานั้นเมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้รับสิ่งใดมาก็ตาม ก็จะมอบให้กับนางโดยตรง

แต่ต่อมาเมื่อมีเวินเยวี่ยเข้ามาในสกุลเวิน

เวินเยวี่ยแค่เอ่ยคำเดียวว่าชอบ ปริมาณยาหยกหิมะที่ส่งมาที่ห้องนางก็ลดลงจากสามขวด สองขวด หนึ่งขวด จนสุดท้ายก็ไม่เคยได้รับมันอีกเลย

ในเวลานั้นเวินซื่อที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็วิ่งไปหาเวินเฉวียนเซิ่งโดยตรง

เพื่อถามบิดาของตนว่า ทำไมถึงมอบยาหยกหิมะแก่เวินเยวี่ย แต่นางกลับไม่มีสักขวดเลย?

เวลานั้น ‘บิดาแสนดี’ พูดว่าอย่างไรนะ?

เวินซื่อลองนึกดูสักครู่

ใช่แล้ว ตอนนั้นเขาขมวดคิ้วพร้อมกับพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เพราะนางเป็นน้องสาวของเจ้า นางต้องลำบากลำบนมากมายตั้งแต่เด็ก เจ้าเป็นพี่สาวจะยอมเอื้อเฟื้อหน่อยไม่ได้หรือ?”

ด้วยคำว่า ‘พี่สาว’ นำหน้า เวินซื่อจึงต้องยอมแม้ว่าในใจจะรู้สึกคับข้องเพียงใดก็ตาม

นางในเวลานั้นยังมีความคิดอย่างไร้เดียงสา...

ช่างมันเถอะ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава
Комментарии (11)
goodnovel comment avatar
WLFJ
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะคะ
goodnovel comment avatar
หญิงอุ๊ ลัดดาวัลย์
เศร้าาาเลย กำลังสนุก
goodnovel comment avatar
WLFJ
รออัพเนื้อเรื่องต่อนะคะ
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Related chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 101

    “ซือไท่หมายความว่าเช่นไร?”เป่ยเฉินหยวนแสร้งทำไม่เข้าใจ แล้วย้อนถามม่อโฉวซือไท่ กล่าว “อมิตตาพุทธ” แล้วหลุบตาเอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องน่าจะเข้าใจความหมายของข้า อารามสุ่ยเยว่เป็นพื้นที่แห่งพระพุทธศาสนา เหล่าเด็กที่มาออกบวชที่นี่ล้วนต้องตัดขาดจากโลกีย์ ผัสสะทั้งหกหมดจด อู๋โยวเองย่อมต้องเป็นเช่นนั้น”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเรียบเฉย “ความหมายของซือไท่ เห็นว่าข้ารบกวนการบำเพ็ญของอู๋โยวหรือ?”ม่อโฉวซือไท่ไม่ปฏิเสธความเงียบสงัดแผ่ซ่านออกมาจากทั้งสองผ่านไปสักครู่ เป่ยเฉินหยวนจึงเอ่ยเชื่องช้า “ข้ามีความสงสัยมาโดยตลอด เรื่องนี้คิดว่าซือไท่น่าจะทราบดี พอดีวันนี้ซือไท่อยู่ที่นี่ด้วย ขอซือไท่โปรดคลายความสงสัยให้ข้าด้วย”ม่อโฉวซือไท่ไม่ปฏิเสธเขา “เชิญท่านอ๋องกล่าวมาได้เลย”“ข้าเคยอ่านเจอในหนังสือกล่าวไว้ พระพุทธองค์โปรดผู้มีบุญสัมพันธ์ เช่นนั้นท่านคิดว่าคนอย่างข้าพระพุทธองค์จะโปรดหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนยกมือขวาที่ถือกระบี่มาตลอดขึ้นเขามองดูมือข้างนั้น กระดูกมือเรียวยาว แต่กลับเต็มไปด้วยรอยแผลเช่นเดียวกันกับบาดแผลบนตัวเขาเหล่านั้นที่ปกปิดอยู่ใต้ร่มผ้า บิดเบี้ยวและน่าเกลียดเขากำมือแน่นขึ้น บรรยาก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 102

    พวกนางบำเพ็ญอยู่ที่อารามสุ่ยเยว่อย่างลำบากอาหารอย่างพวกขนมเหล่านี้ ในยามปกติหากินได้ยากมากหลังจากได้รับอนุญาตจากม่อโฉวซือไท่ เวินซื่อรีบนำขนมหลายห่อนั้นไปหาพวกศิษย์พี่หญิงทันทีตอนที่กลับมาอีกครั้ง ในมือเหลือเพียงครึ่งห่อเท่านั้นเวินซื่อวิ่งกลับมาอย่างดีใจ แต่เพิ่งเห็นเป่ยเฉินหยวนจู่ ๆ นึกถึงบางอย่าง “โอ๊ย...”ดูเหมือนลืมเก็บไว้ให้ท่านอ๋องแล้ว...เป่ยเฉินหยวนแค่มองก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไร เขากำลังจะบอกว่าตัวเองไม่กินของพวกนี้ ให้เวินซื่อเก็บไว้กินเองแต่เมื่อคำพูดมาจ่ออยู่ที่ปาก เขาก็เปลี่ยนคำพูดพร้อมเลิกคิ้ว “ทำอย่างไรดี เหลือแค่นี้เองหรือ ข้ายังไม่ได้กินสักชิ้นเลย”เมื่อได้ยินดังนั้น เวินซื่อยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นขนมที่ท่านอ๋องเป็นคนซื้อมา นางดีใจไปชั่วขณะก็เลยคิดแต่จะแบ่งให้พวกศิษย์พี่หญิง กลับลืมเก็บไว้ให้ท่านอ๋องเวินซื่อทำหน้ากระอักกระอ่วนแล้วยื่นขนมครึ่งห่อให้เขา “ยังมีอีกนิด ท่านอ๋องกินหรือไม่?”“กินแน่นอน”เป่ยเฉินหยวนจ้องมองใบหน้าแดงระเรื่อของนาง ยื่นมือไปหยิบขนมออกมาจากห่อกระดาษไขเพียงหนึ่งชิ้น“แต่ข้าไม่ได้ชอบกินมากนัก ที่เหลือท่านเก็บไว้กินเองเถอะ”เวินซื่อป

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 103

    ที่แท้เป็นเช่นนี้มิน่าก่อนหน้านี้ตอนตอบแทนบุญคุณเป่ยเฉินหยวน เขาแค่บอกให้นางสวดมนต์ให้เขาฟังหลาย ๆ ครั้งเท่านั้นหลังจากเข้าใจแล้วเวินซื่อรู้สึกโล่งอกอย่างสิ้นเชิง“ท่านอ๋องทำเพื่อบ้านเมืองเพื่อราษฎร มีผลงานมากมาย ยามนี้ต้องทุกข์ทรมาน พวกข้าสมควรช่วยท่านอ๋องแบ่งเบา”เวินซื่อยิ้มอย่างจริงใจ “หากเสียงสวดมนต์ของข้าทำให้ท่านรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ถือเป็นเกียรติของข้า”ราชวงศ์ต้าหมิงสามารถอยู่เย็นเป็นสุขเช่นนี้ได้ เรียกได้ว่าเป็นผลงานของท่านอ๋องเทพสงครามผู้นี้แน่นอนเมื่อขุนนางผู้มีคุณร้องขอ นางย่อมไม่อิดออดอีกทั้งเป็นเพียงคำขอร้องเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นนางรับปาก รอยยิ้มบนใบหน้าของเป่ยเฉินหยวนเบิกบานยิ่งกว่าเดิม“ต่อไปหากท่านทรมาน มาหาข้าได้ตลอดเวลา ไม่ต้องนำสิ่งใดมาให้ข้าก็มาหาได้”คราวนี้เวินซื่อนึกว่า ก่อนหน้านี้ที่เป่ยเฉินหยวนนำของมากมายมาให้นางเพราะต้องการซื้อตัวนางตอนนี้ในเมื่อนางรู้ความจริง ต่อไปคงรับไว้ไม่ได้อีกแล้วเรื่องนี้เป่ยเฉินหยวนไม่ปฏิเสธ เพียงเอ่ยเสียงเรียบ “ต่อไปค่อยว่ากัน”วันเวลาหลังจากนี้เมื่อมีเหตุผลที่ถูกต้องเป่ยเฉินหยวนขยันไปอารามสุ่ยเยว่มากกว่าเดิม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 104

    “เหอะ? พวกเราจวนจงหย่งโหวรังแกเจ้าหรือ?”เวินหย่าลี่ทำสีหน้าน่าขัน เอ่ยกับเวินซื่ออย่างไม่ยี่หระ “เวินซื่อ เจ้าอย่าเสแสร้งแกล้งทำอีกเลย ตกลงเจ้าขโมยสิ่งใดไปจากข้า เจ้ารู้อยู่แก่ใจดี ยังต้องให้ข้าเอ่ยปากเปิดโปงเจ้าด้วยตัวเองอีกหรือ?”“อย่ามาโยกโย้กับข้า”เวินซื่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่เกรงใจกันแม้แต่น้อย “ในเมื่อท่านคิดว่าข้าขโมยของมาจากจวนจงหย่งโหว เช่นนั้นก็พูดให้ชัดเจนต่อหน้าธารกำนัลไปเลย!”“ดี ดี เดิมทีข้ายังเห็นแก่พี่ใหญ่ไว้หน้าเจ้าบ้าง แต่ในเมื่อเจ้าไร้ยางอายขนาดนี้ เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรต้องกลัวเหมือนกัน”เวินหย่าลี่สั่งให้หัวหน้าสาวใช้เดินออกไปหัวหน้าสาวใช้ก้าวไปข้างหน้าหลายก้าว แล้วเอ่ยกับเวินซื่อและศิษย์พี่หญิงข้างกายนางอย่างเย่อหยิ่ง “หลายวันก่อนเจ้าอารามสุ่ยเยว่ม่อโฉวซือไท่ พร้อมด้วยธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงไปพบฮูหยินผู้เฒ่าที่จวนจงหย่งโหว แต่วันนั้นหลังจากพวกเจ้ากลับไป ยาหยกหิมะภายในห้องเก็บสมบัติของฮูหยินหายไปถึงสามขวด”เวินหย่าลี่ทำเสียงฮึดฮัดแล้วเอ่ยขึ้น “หลายวันนั้นนอกจากพวกเจ้า ไม่เคยมีใครไปเยือนจวนจงหย่งโหวอีกเลย หากพวกเจ้าไม่ได้ขโมยแล้วใครขโมยไป?”“ยาหยกหิมะหรือ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 105

    ทั้งที่เป็นอาหญิงแท้ ๆ ของนางแต่กลับเกลียดชังนางถึงเพียงนี้ในใจเวินซื่อผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกครั้งคนในตระกูลเวินจะรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะทำร้ายนางได้อย่างแสนสาหัส“เดิมเจ้าก็เป็นคนใจคอโหดเหี้ยม ริษยาจนเป็นนิสัย จิตใจคับแคบอยู่แล้ว!”เวินหย่าลี่ชี้หน้านางพร้อมกับด่าทออย่างดูแคลนที่สุดโดยไม่ลังเล “เจ้าไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่เคารพพี่ชาย อีกทั้งยังใช้วิธีโหดเหี้ยมไปทำร้ายเวินเยวี่ยน้องสาวของเจ้า นังเด็กที่มีแม่ให้กำเนิดแต่ไม่มีแม่สั่งสอนอย่างเจ้า หากเดินไปสู่ทางผิดข้าเองก็ไม่สงสัยแม้แต่น้อย”“พูดจบหรือยัง?!”เวินซื่อเงยหน้ามองเวินหย่าลี่ด้วยความโมโห“มีแม่ให้กำเนิด แต่ไม่มีสั่งสอนหรือ?”ดวงตานางแดงก่ำ ลุกโชนไปด้วยไฟโทสะ “ถูกต้อง ข้ามีแม่ให้กำเนิดไม่มีแม่สั่งสอน แล้วท่านที่พูดกับลูกหลานด้วยคำพูดที่ร้ายกาจทำร้ายจิตใจ ท่านที่เป็นถึงฮูหยินจงหย่งโหว เป็นถึงคุณหนูใหญ่จวนเจิ้นกั๋วกงในอดีต ได้รับการสั่งสอนมาเช่นไรหรือ?”“หุบปาก! เจ้ายังกล้าต่อปากต่อคำกับข้าหรือ!”เวินหย่าลี่ลุกพรวดทันที ไฟโทสะที่ลุกโชนทำให้นางลืมสถานะระหว่างนางกับเวินซื่ออีกครั้ง จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปตามสัญชาตญาณ ยกมือหมาย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 106

    หลังจากเวินซื่อสะบัดเวินหย่าลี่ นางถูกสาวใช้ประคองเอาไว้ จากนั้นชี้นิ้วที่สั่นเทาไปหาเวินซื่อ “ดี ดี! เจ้าคอยดูเถอะ เรื่องนี้ข้าไม่ยอมจบง่าย ๆ แน่!” มาอย่างดุดัน กลับไปอย่างทุลักทุเลหลังเวินซื่อละสายตา พลันหันหลังกลับเข้าอารามทันทีทิ้งไว้เพียงฝูงชนกลุ่มหนึ่งที่ยังข้องใจไม่หาย“เพราะฉะนั้นแล้ว ตกลงธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงได้ขโมยยาหยกหิมะของจงหย่งโหวฮูหยินหรือไม่?”“นี่ยังต้องถามอีกหรือ บทสรุปชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”“จงหย่งโหวฮูหยินสงสัยว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ขโมยยาหยกหิมะของนางไป แต่นางก็ไม่มีหลักฐาน ส่วนธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดเผยจริงใจ ดังนั้นข้าคิดว่านางไม่ได้ขโมย”“จะว่าอย่างนั้นคงไม่ได้ ข้าว่าจงหย่งโหวฮูหยินเองก็มีเหตุผลให้สงสัย ก่อนออกบวชชื่อเสียงของธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่สู้ดีนัก ข้าคิดว่าหากนางต้องการแก้แค้นจงหย่งโหวฮูหยิน ก็ใช่ว่าจะทำเรื่องเช่นนี้ไม่ได้”“เจ้าโง่หรือ? หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ขโมยจริง นางยังกล้าบอกว่าจะไปกราบทูลต่อหน้าพระพักตร์หรือ?”“ทว่าก็ยังไม่ได้ไปกราบทูลไม่ใช่หรือ ไม่แน่อาจแค่ข่มขู่เท่านั้นล่ะ? อย่างไรข้าก็ไม่เชื่อคนนิสัยอย่างเวินซื่อหรอก”หลังจากฝูงชนที่อยู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 107

    เมื่อได้ยินคำพูดของเวินจื่อเฉิน บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัดสีหน้าของเวินเยวี่ยแข็งข้างไปชั่วขณะมือที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่น ในใจรู้สึกรำคาญเวินจื่อเฉินที่พูดโพล่งออกมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอย่างที่สุดทั้งที่คราวก่อนเจ้าโง่นี่ถูกนังแพศยาทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ทำไมตอนนี้จึงดูเหมือนสนใจนังแพศยานั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะ?หรือสมองของเวินจื่อเฉินมีปัญหา?คนอื่นยิ่งเกลียดเขา เขาก็ยิ่งอยากเสนอหน้าไปทำดีด้วยงั้นหรือ? !นอกจากเวินจื่อเฉิน เวินฉางอวิ้นที่อยู่ข้างกันตะลึงไปสักครู่จึงรู้สึกตัว“วันนี้เป็นวันที่หนึ่ง เป็นวันเกิดของน้องห้าจริง”ระหว่างที่พูดอย่างนั้น สีหน้าเวินฉางอวิ้นสับสน ในใจพลันเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาบ้างหากไม่ใช่น้องรองเอ่ยขึ้นกะทันหัน เขาเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วเวินจื่อเยวี่ยขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “จู่ ๆ พี่รองเอ่ยถึงนางทำไม? ตอนนี้นางไม่ใช่คนตระกูลเวินแล้ว จะเป็นวันเกิดของนางหรือไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา”เวินอวี้จือยกถ้วยน้ำชาของตัวเอง แล้วจิบหนึ่งคำ โดยไม่ได้พูดอะไรเวินฉางอวิ้นนึกถึงท่าทางเย็นชาที่เวินซื่อแสดงออกก่อนหน้านี้ อดหันไปมองผู้ที่นั่งตรงตำแหน่งประธานไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 108

    อย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจว่าพี่ใหญ่กับพี่รองคิดอะไรกันอยู่ยามนี้ทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นเอาใจใส่เวินซื่อมากทั้งที่ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่ไม่สนใจไม่ใส่ใจเวินซื่อแม้แต่น้อย พี่รองยิ่งลงไม้ลงมือกับเวินซื่อ ไม่มีใครดีกับนางสักคนตกลงพวกเขาเป็นอะไรไป?เพราะเวินซื่อให้พวกเขากินยาเสน่ห์ จนทำให้พวกเขาลืมไปว่าก่อนนี้เวินซื่อเป็นคนใจดำอำมหิตขนาดไหนงั้นหรือ?“พี่สาม อย่าพูดเช่นนี้ เกิดพี่หญิงห้าได้มายินคำพูดเช่นนี้ของท่าน นางจะเสียใจนะเจ้าคะ”เวินเยวี่ยที่ออกมาพร้อมกัน แม้ปากจะบอกให้เวินจื่อเยวี่ยอย่าพูดเช่นนี้ ทว่าในใจกลับพอใจมากโชคดีที่เวินจื่อเยวี่ยยังอยู่ในการควบคุมของนาง เพราะชายหนุ่มที่ดูเคร่งขรึมคนนี้ เป็นคนที่ดื้อดึงที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสี่คนเมื่อเขาปักใจว่าเวินซื่อคือคนที่ใจคอโหดเหี้ยม มันจะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะคำโน้มน้าวจากผู้อื่นเด็ดขาดดังนั้นหากเวินเยวี่ยอยากใช้เขาเล่นงานเวินซื่อ พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก“อย่าว่าแต่ตอนนี้นางไม่ได้ยิน ต่อให้นางยืนอยู่ตรงหน้าข้า ก็ไม่มีสิ่งใดที่ข้าเวินจื่อเยวี่ยไม่กล้าพูด”น้ำเสียงของเวินจื่อเยวี่ยใจร้ายมาก ทิ้งคำพูดนี้ไว้ก่อนสะบัดแขนเสื้อจา

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status