ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เนมาร์เงยหน้าเสยผมชื้นเหงื่อที่ตกลงมาปรกหน้าผากลวกๆโดยมีก๋วยเตี๋ยวยังนั่งซบหอบหายใจอย่างเหนื่อยหอบอยู่บนตักด้วยอาการหมดแรง ใบหน้าคมคายหันมองตามเสียงออกไปด้านนอกฝั่งคนขับ ทำให้เห็นหน้าคนเคาะได้อย่างชัดเจนครั้งนี้ไม่ใช่ผู้คนทั่วไปแต่เป็นตำรวจจราจร"ดอลลีลงไปนั่งดีๆ" มือหนายกตัวเธอให้ลงไปนั่งเอียงพิงกับประตูรถทำให้ท่อนเอ็นใหญ่หลุดออกจากร่องสวาท ส่งผลให้สายธารน้ำรักไหลเยิ้มหยดลงมาเปอะเปื้อนหน้าขาแกร่งและข้างขาเรียว รวมทั้งกางเกงชั้นในของเธอ"งื้อ~ ฮันนี่มันเลอะกางเกงในหนูหมดแล้ว""เดี๋ยวค่อยแวะซื้อตัวใหม่ ใช้ทิชชูเปียกเช็ดไปก่อน" ไม่ว่าเปล่าเขาก็ขยับก้าวกลับไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับเหมือนเดิม ก่อนจะเอื้อมมือเปิดเก๊ะหน้ารถหยิบทิชชูเปียกออกมาเช็ดน้ำรักออกจากท่อนเอ็นและหน้าขา "อะไรคะ" คิ้วงามขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง เมื่อจู่ๆเขาก็ยื่นทิชชูมาให้โดยไม่พูดอะไร"เช็ดไงหรือจะให้ฉันเช็ดให้" "นะ..หนูเช็ดเอง" เธอรับมันมา พร้อมกับดึงออกมาเช็ดจนเสร็จสรรพ แล้วเงยหน้าหันไปมองเขา ก่อนจะเพ่งสายตาออกไปด้านนอกเมื่อรู้สึกเหมือนเห็นคนใส่ชุดตำรวจยืนเคาะกระจกอยู่แว
ครืด~ ครืด~โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มแผดเสียงร้องดังอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีน ขณะที่กำลังขับรถกลับคอนโดด้วยความเร็ว มือหนาล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทว่ากลับหยิบไม่ถนัดเลยปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น"ไม่รับเหรอคะ" เมื่อเห็นอีกคนยังขับรถนิ่งก๋วยเตี๋ยวจึงเอ่ยถามขึ้น"ฉันหยิบไม่ถนัดดอลลีหยิบให้หน่อยสิ" ว่าจบเนมาร์ก็เหยียดขา พร้อมเบี่ยงสะโพกเพียงนิดรออีกคนให้มาล้วงหยิบ ครั้นเห็นอย่างนั้นเธอก็เอื้อมมือเข้าไปล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงเขาขึ้นมายื่นให้เจ้าของ"นี่ค่ะ""ใครโทรมา" ดวงตาคมกริบปรายตามองคนข้างๆแว๊บหนึ่งอย่างไม่กระตือรือร้น ก่อนจะตวัดกลับมองเบื้องหน้าถนนต่อ "....." เธอยกโทรศัพท์มือถือขึ้นเพ่งสายตามองหน้าจอใส "พี่ทิมค่ะ" "กดรับแล้วเปิดโฟนให้หน่อย ฉันถือไม่ได้ขับรถอยู่"นิ้วโป้งเรียวสวยกดปุ่มรับสาย พร้อมเปิดลำโพงให้ตามคำขออย่างว่าง่ายทันทีที่เขาพูดจบประโยค แล้วยื่นมือถือไปใกล้ๆปากเจ้าของ(ฮัลโหลนาย) ยังไม่ทันที่เนมาร์จะได้พูดอะไรเสียงของคนปลายสายก็ดังขึ้นมาเสียก่อน"ว่า?"(นายอยู่ไหน)"กูจ้างให้มึงมายุ่งเรื่องส่วนตัวกูเหรอ มีอะไรก็รีบๆพูดมากูขับรถอยู่"(ผมจะบอกว่าเรื่องที่น
"ไอ้ทิมอยู่ไหน" เนมาร์เอ่ยถามลูกน้องที่ยืนเฝ้าหน้าประตูเมื่อมาถึงบ้าน ในตอนที่สองขาแกร่งก้าวผ่านบันไดขึ้นมาพร้อมกับแฟนสาว"รอนายอยู่ในห้องโถงครับ" ลูกน้องคนหนึ่งตอบกลับผู้เป็นนายเขาไม่ได้ถามอะไรต่อรีบดึงแฟนสาวเดินตรงไปยังห้องโถงทันที โดยที่เธอก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย ในใจรู้สึกหวั่นๆไม่รู้ว่าเขาจะฆ่าคนอีกไหม ไม่อยากให้เป็นบาปติดตัว เพราะเธอได้อโหสิกรรมไปหมดแล้วไม่อยากจองเวรปล่อยให้เวรกรรมเป็นคนทำโทษคนพวกนั้นเอง"มึงจับพวกกูมาทำไม กูยังไม่เคยไปทำอะไรให้มึงเลยนะแล้วกูก็ไม่รู้จักมึงด้วย ปล่อยกูนะเว้ย" เสียงเอะอะโวยวายดังก้องไปทั่วห้องโถงภายในชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ ดำดิ้นพล่านไปมาเสียดสีข้อมือหมายให้หลุดจากโซ่ที่ตรึงแขนทั้งสองข้างไว้ติดกันกับเพื่อนชายอีกคนด้วยความกลัว"หึ" ทิมเหยียดยิ้มเย้ยหยัน พลางพ่นควันบุหรี่ขาวคละคลุ้งออกจากปาก แขนแกร่งข้างหนึ่งพาดยาวบนพนักโซฟา "แน่ใจเหรอว่าไม่เคยทำ ลองนึกดีๆว่าเคยทำร้ายใครไว้เปล่า" "....." สิ้นสุดคำพูดของคนบนโซฟา ดำก็ทบทวนว่าตัวเองเคยทำอะไรใครไว้บ้างซึ่งมันนับไม่ทวนทั้งวัยรุ่น เด็ก คนแก่และผู้หญิง"ไอ้หมาหมู่กระจอกฉิบหาย แน่จริงก็ปล่อยพวกกูแล้วตัวๆดิว
ไอความเย็นของเครื่องปรับอากาศเป่าออกมารดผิวกายของก๋วยเตี๋ยวถี่ๆเมื่อคนที่เดินมาพร้อมกันเลื่อนเปิดบานประตู เท้าเล็กๆหยุดชะงักทำเอาคนข้างหน้าพานหยุดไปด้วย มือเล็กอีกข้างยกขึ้นมากุมก้อนเนื้อที่กำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่แนทเอี้ยวหน้ากลับมาเอ่ยถามด้วยความสงสัย"ลูกสาวเป็นอะไรหรือเปล่า หยุดเดินทำไมกลัวเหรอ" เด็กสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วค่อยๆผ่อนมันออกมาช้าๆปลดล็อกความประหม่าออกไปจากตัว ไหนๆก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาแล้วไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ยอมแพ้"เปล่าค่ะ""งั้นรีบเข้าไปกันเถอะ เดี๋ยวป๊าจะหงุดหงิด" หลังก๋วยเตี๋ยวพยักหน้ารับ แนทก็รีบดึงมือลูกสะใภ้ก้าวเดินผ่านบานประตูเข้าไป"อ้วนเข้ามาด้วยทำไม แด๊ดมีธุระส่วนตัวจะคุยกับเด็กคนนี้" เสียงทุ้มเข้มขรึมของคนบนโซฟาดังขึ้น ส่งผลให้เด็กสาวก้มหน้างุดยืนสั่นเกร็งอยู่ด้านหลังแม่ย่า เพราะถ้าท่านออกไปเธอบอกตามตรงเลยว่าไม่กล้าคุยกับผู้เป็นพ่อปู่สองต่อสอง ทั้งคู่มีนิสัยแตกต่างกันมากซึ่งไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้ ผู้เป็นภรรยานั้นดูใจดีอ่อนโยนอยู่ด้วยและอบอุ่น แต่ผู้เป็นสามีอยู่ในขั้นโหดเหี้ยม แววตาและสีหน้าเย็นชาน่ากลัวอย่า
"แม่ง..ทำไมแด๊ดเป็นคนแบบนี้วะ เด็กมันรักกันจะกีดกันเพื่อ? หนูบอกแล้วใช่ปะว่าเด็กคนนี้เป็นคนดี ดูก็รู้ว่าไม่ได้มาหวังอะไร หนูดูคนออกว่าเด็กคนไหนเสแสร้งคนไหนดี ยังไงหนูก็ไม่ยอมหรอกนะและไม่รับใครเป็นลูกสะใภ้ด้วยนอกจากคนนี้" "เดี๋ยว! ฉันยังคุยธุระด้วยไม่เสร็จ" แต่ยังไม่ทันที่ก๋วยเตี๋ยวจะก้าวพ้นประตูเสียงทุ้มเข้มก็เอ่ยขึ้น โดยไม่สนใจเสียงด่าทอของภรรยาที่โพล่งด่าตนเสียงดังลั่นอย่างเหลืออด เท้าเล็กจึงหยุดชะงักยืนนิ่งทันทีอยู่หลายนาที แล้วตัดสินใจค่อยๆหมุนตัวเดินกลับเข้าไปช้าๆระหว่างทางเด็กสาวก็ยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มนวลอีกครั้งเพราะมันไหลลงมาไม่หยุด ก่อนจะมาหยุดตรงหน้าเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ เธอสอดมือประสานกันไว้ด้านหน้าหลวมๆ พร้อมก้มหน้างุดรอให้อีกฝ่ายพูดธุระต่อ ทว่าคนตรงหน้ายังไม่ทันจะพูดอะไรอีกคนก็เอ่ยแทรกขึ้นก่อน"แด๊ดยังไม่พอใจใช่ปะจะคุยอะไรอีก ลูกสาวออกไปเถอะไม่ต้องสนใจคนบ้าอำนาจ แล้วก็ไม่ต้องเลิกกับตาเนด้วยม๊าอนุญาตให้คบกันใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขวาง นอกจากเสียว่าทั้งสองคนจะหมดรักกันเอง" ประโยคแรกหันไปตะคอกใส่สามีอย่างไม่พอใจพร้อมหยัดกายลุกขึ้นเดินไปลูบศีรษะลูกสะใภ้เบาๆด้วยความเอ็น
ชายหนุ่มเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดี พลางควงปลายกระบอกปืนเล่นไปด้วย ระหว่างทางสายตาเหลือบเห็นผู้เป็นพ่อกำลังก้าวขาขึ้นบันได เนมาร์เลยแนบปืนเก็บไว้ข้างเอว แล้วรีบสาวให้เร็วกว่าเดิมจนถึงตัวอีกฝ่าย แขนแกร่งยกขึ้นไปกอดคอท่านอย่างถือวิสาสะด้วยความว่องไวและสัญชาตญาณในการป้องกันตัว โน่จึงจับข้อมืออีกคนที่ไม่รู้ว่าใครไว้แน่นส่วนอีกมือโอบไหล่ ออกแรงดึงจนร่างนั้นโน้มตัวมาด้านหน้า พร้อมกับที่เขาก้มตัวลงแล้วลอดไปด้านหลังบิดแขนแกร่งให้ไขว้หลัง ยกเท้าถีบไปที่ข้อพับขาพร้อมใช้อีกมือกดไหล่ไว้อีกฝ่ายไม่ให้ลุกขึ้นมา ฟรึ่บ!"โอ๊ย! ป๊าผมเจ็บ" เนมาร์ร้องโอดครวญขึ้นเสียงหลงด้วยความเจ็บ แค่แหย่เล่นเองไม่คิดว่าอยู่ในบ้านผู้เป็นพ่อจะป้องกันตัวขนาดนี้เล่นเอาเขาปวดไปยันกระดูก"ไอ้เน" ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของลูกชายมือหนาก็คลายพันธนาการออกจากตัวอีกคนทันที ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อขึ้นมาเสียงดังด้วยความตกใจ"ก็ใช่อะดิ..โถ่แก่ขนาดนี้และแรงเยอะชะมัด" ต่อให้เจ็บแค่ไหนคนอย่างเนมาร์ก็ไม่มีความเข็ดหลาบ นี่ก็เป็นอีกรอบที่เขาแหย่ผู้เป็นพ่อ จริงๆหน้าของท่านไม่มีความแก่เลยสักนิด แถมเนื้อหนังยังไม่เหี่ยวย่นอีกต่างหาก ยังคร
หมับ!"ปล่อย" ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะเดินถึงประตูก็โดนแฟนสาวโผเข้ามากอดเอวสอบจากทางด้านหลังไว้แน่น มือหนาแกะแขนเรียวออกจากการรัดกุม ในตอนที่อีกคนซบหน้าเปื้อนน้ำตาลงบนแผ่นหลังแกร่ง"ฮึก..ฮันนี่อย่าไปนะคะ ป๊าไม่ได้ทำอะไรหนู""ไม่ได้ทำแล้วร้องไห้ทำไม""ป๊า..ฮึก..ยอมรับหนูแล้ว""....." เนมาร์ค่อยหมุนตัวกลับเข้าไปหาเธอ พลางขมวดคิ้วยุ่งด้วยความงุนงง อาการโมโหตอนนี้เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเย็นลงทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบ "ยอมรับอะไร?""ยอมรับแบบม๊า..ฮึก" ดวงตากลมโตหลับตาลงช้าๆเมื่อคนตรงหน้าเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มให้ทั้งสองข้าง เธอไม่รู้ว่ามันต้องเรียกว่ายังไงรู้แค่ท่านยอมให้เธอกับเขาคบกันต่อ"ยอมรับเป็นลูกสะใภ้?" มือหนาประคองใบหน้าหวานให้แหงนขึ้นมาสบตา"ฮึก" เธอพยักหน้ารับ"ยอมรับแล้วดอลลีร้องไห้ทำไม" เขาไม่ได้รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เธอบอก ต่อให้ผู้เป็นพ่อไม่ยอมรับเขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะชีวิตคู่เขาต้องเป็นคนเลือกเองและเขาก็เลือกที่จะใช้มันร่วมกับเธอ"หนู..ฮึก..ดีใจ""หึ" เสียงหัวเราะในลำคอหนาดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ เนมาร์ยกยิ้มมุมปากอย่างนึกเอ็นดูแฟนสาว คนอะไรไม่รู้อ่อนไหวง่ายจริงๆ
@คอนโดต่อ"ติดต่อมันได้ยัง" ต่อเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงร้อนรน เนื่องจากเขาเป็นคนให้เดย์โทรไปหาเนมาร์เพื่อนรักอีกคนเพื่อจะนัดบอกเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตเหลือเนมาร์คนเดียวที่ยังไม่รู้และเชื่อว่าถ้ารู้ต้องดีใจไปกับเขาแน่ เผลอๆมีด่ากลับมาด้วยเพราะอิจฉา"ยังว่ะ..โทรไม่ติดเลย เดี๋ยวมันก็โทรกลับมาเองแหละ" ว่าแล้วเดย์ก็เอื้อมมือไปวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะกระจกข้างหน้าตน แล้วหยัดกายลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปในนาทีต่อมา"....." ซึ่งต่อก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มือหนาจับขาเรียวของแฟนสาวขึ้นมาวางบนหน้าตักเบาๆครืด~ ครืด~ผ่านไปไม่นานโทรศัพท์มือถือของเดย์ที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกก็แผดเสียงร้องดัง ทำให้ต่อที่นั่งนวดขาให้แฟนสาวอยู่บนโซฟาชะโงกหน้าไปมอง ก่อนจะตะโกนเรียกเพื่อนรักดังลั่น"ไอ้เดย์ไอ้เนโทรกลับมาแล้ว""ก็รับสิวะ..จะบอกเพื่อ? กูขี้อยู่" เดย์ที่นั่งปลดทุกข์อยู่ตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เพราะไม่ชอบให้ใครมากวนเวลาทำธุระส่วนตัวเมื่อได้ยินอย่างนั้นต่อก็รีบเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับสาย แต่ยังไม่ทันกดรับสายนั้นก็ถูกตัดไปเสียก่อน เขาจึงกดปลดล็อกรหัสแล้วต่อสายกลับไป(ฮัลโหล มีอะไร) รอสา
"ขากลับมาฮันนี่ได้แวะไปดูร้านดอกไม้ให้หนูรึเปล่า" ก๋วยเตี๋ยวเอ่ยถามสามีที่กำลังตักกับข้าวมาใส่ให้ในจานด้วยสีหน้ากังวล เป็นห่วงร้านไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง หลังๆพอท้องโตอย่างว่าเขาก็ไม่ให้ไปไหนทำอะไรเลย"วันนี้ไม่ได้แวะ ไม่ต้องห่วงหรอกมีผู้จัดการร้านดูแลอยู่ทั้งคน" ว่าจบเนมาร์ก็ตักข้าวใส่ปาก"ทำไมไม่แวะดูก่อนเล่า มันไม่เหมือนเราดูเองหรอกนะ" ใบหน้าหวานยู่ใส่อีกคนอย่างงอนๆ แล้วตักข้าวใส่ปากไม่พูดอะไรต่อดวงตาคมที่เหลือบมองอยู่รับรู้ถึงอาการของคนตรงหน้า เขาวางช้อนลงเบาๆด้วยความไม่เข้าใจว่าแค่เรื่องไม่แวะไปดูร้านถึงกับงอนกันเลยเหรอ ปกติก็แวะดูให้ทุกวันมันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรปกติดีทุกอย่าง"เป็นอะไร?""เปล่า" “…..” ชายหนุ่มหยัดกายลุกขึ้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่ปกติของภรรยา เท้าใหญ่เดินวนไปหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ แต่อีกคนกลับขยับเก้าอี้หนีไปพร้อมจานข้าวครั้นเห็นแบบนั้นเขาถึงกับถอนหายใจพรืดใหญ่ มือหนาเอื้อมไปจับแขนเรียวแล้วลูบมันเบาๆเชิงง้อ ทว่าก็ถูกเธอปัดทิ้งอย่างไม่ไยดีแถมไม่มองหน้าเขาอีกต่างหาก เป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดชะมัดถ้าไม่ติดว่าท้องนะเขาจับง้อบนเตียงไปแล้ว"ปากบอกว่าเปล่า แต่การกระทำขอ
หลายเดือนต่อมา.."เมียกูอยู่ไหน" เนมาร์ซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษาเอ่ยถามลูกน้องที่เฝ้าหน้าประตู ขณะก้าวลงมาจากรถลีมูซีนคันหรูพร้อมในมือหิ้วถุงของกินเยอะแยะ"เรียนอยู่ในห้องนั่งเล่นครับ" ลูกน้องคนหนึ่งว่า พลางเดินมารับของจากมือผู้เป็นนายไปถือแทน"เอาไปให้แม่บ้านจัดใส่จาน แล้วเอาเข้าไปให้เมียกูด้วย" เขาออกคำสั่งลูกน้องเสียงเรียบ"....." คนถูกสั่งยกถุงในมือขึ้นมาหมุนดูด้วยความอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็ไม่เห็นหรอกเพราะมันอยู่ในกล่อง ก่อนจะเอ่ยแซวเจ้านายเมื่อเห็นว่าเอาใจใส่ภรรยาดี "ซื้อมาซะเยอะแยะเชียว นายหญิงจะกินหมดไหมครับเนี่ย""มันกงการอะไรของมึง ใช้ให้ไปทำอะไรก็ไป เดี๋ยวกูให้ป๊าหักเงินเดือนซะเลยหนิ" "ขอโทษครับ" ครั้นได้ยินอย่างนั้นทศก็รีบโค้งตัวลงกล่าวขอโทษผู้เป็นนาย แล้วหมุนตัวเดินขึ้นบันไดเข้าไปในบ้านทำตามคำสั่งทันทีเนมาร์ส่ายหน้าเบาๆก้าวเดินตามหลังลูกน้องตรงดิ่งไปหาภรรยาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทว่าเพียงแค่ครึ่งทางก็ต้องหยุดฝีเท้าจากอารมณ์ดีๆแปรเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียว เมื่อสายตาคู่คมมองไปเห็นก๋วยเตี๋ยวเดินพยุงท้องโตๆออกมาจากห้องนั่งเล่น โดยมีซามิและคุณครูค่อยช่วยประคองกันคนละฝั่งไม่ห่าง"ดอลลีห
"เตี๋ยว" ควีนเรียกภรรยาของผู้เป็นน้าเสียงหวานทันทีที่เดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น โดยมีเนมาร์ถือขวดนมกับผ้าอ้อมเดินตามหลังมา"เรียกหาแต่เตี๋ยวนะไม่เรียกยายบ้างเลย น่าน้อยใจจัง" แนทที่นั่งอยู่ด้วยทำหน้ามุ่ยแกล้งน้อยใจหลานสาว พอเห็นอย่างนั้นควีนก็รีบเดินเตาะแตะเข้าไปกอดขาผู้เป็นยาย แล้วซบหน้าลงไปเชิงเป็นการง้อ"โอ๋นยายม่ายย้องน๊า น้อนกวีนเยียกแย้ว (โอ๋ยายไม่ร้องนะ น้องควีนเรียกแล้ว)" ความไร้เดียงสาของเจ้าตัวน้อยเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากยายและน้าๆ"ใครว่ายายร้องกันล่ะ แค่น้อยใจเฉยๆหรอก" ไม่ว่าเปล่าแนทโน้มตัวลงอุ้มหลานสาวขึ้นมานั่งบนตัก พร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่แรงๆหลายๆที ก่อนหันไปถามลูกชาย"เป็นไงตาเน! ได้ข่าวว่าล้างก้นให้น้องควีนเหรอ""อ้วกแตกดิม๊ารอไร เหม็นฉิบหาย" ว่าแล้วเนมาร์ก็หย่อนกายนั่งลง ไม่ยักรู้ว่าอุจจาระเด็กจะเหม็นขนาดนี้นึกว่าควายตาย“ฮ่าๆๆๆ” แนทกับก๋วยเตี๋ยวหัวเราะร่า ต่างจากควีนที่นั่งกอดอกจ้องหน้าเขาเขม็งอย่างไม่ชอบใจเวลาใครว่า"ฝึกไว้เวลาลูกคลอดจะได้ทำเป็น" เป็นก๋วยเตี๋ยวที่นั่งเงียบอยู่นานย้ำคำพูดของเขาไม่หยุด เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้"ใช่! ฝึกไว้เพราะตอนลูกคลอดออกมาตาเนต้องเ
แง้ว~ แง้ว~เนเตี๋ยวที่เพิ่งเดินมาชะโงกหน้ามองการกระทำของพ่อแม่อยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ ก่อนจะร้องเรียกขึ้นด้วยความสงสัยจนทั้งสองคนหันหน้าไปมองทางต้นเสียงนั้นพร้อมกัน"เนเตี๋ยว" เด็กสาวเอ่ยเรียกชื่อสัตว์เลี้ยงของตนซึ่งเปรียบเสมือนลูกแท้ๆ มือเล็กคลายพันธนาการออกจากศีรษะแกร่งแล้วเบี่ยงตัวเดินไปอุ้มมันมาหอมฟอดใหญ่เนมาร์ดีดตัวลุกขึ้นเดินตามแฟนสาวมาลูบหัวมันเบาๆอย่างเป็นมิตร จากไม่ชอบกลายเป็นความผูกพันทำให้เขารู้สึกรักมัน"ดอลลีอยู่กับลูกไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา" เขาว่า"จะไปไหนเหรอคะ""ไปเอาน้องควีนมาหัดเลี้ยงนะ""หัดเลี้ยง?" ใบหน้าหวานหันขวับไปมองคนข้างๆด้วยความแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความเป็นพ่อคนสูงขนาดนี้"อืม ฝึกไว้ก่อนเวลาลูกคลอดจะได้ทำเป็น" พอรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพ่อคนมันต้องเตรียมตัวกันหน่อย มัวแต่รอให้คลอดออกมาก่อนมันก็ไม่ใช่ ทุกอย่างต้องมีการเตรียมพร้อมว่าควรรับมือกับเด็กน้อยยังไง"ไหวเหรอ""สบาย" ว่าจบเนมาร์ก็เดินออกไปครึ่งชั่วโมงผ่านไป.. ระหว่างที่กำลังเล่นกับหลานสาวอยู่นั้นกลิ่นเหม็นตุๆแปลกๆก็ลอยมา เนมาร์หันหน้าไปมองก๋วยเตี๋ยวที่นั่งลูบหัวเจ้าตัวน้อยอยู่อีกฝั่งมีการ
ด้วยความกลัวภรรยาจะล้มชายหนุ่มจึงวางถุงอุปกรณ์ลงรีบเข้าไปประคองเธอไว้อย่างแนบชิด ใบหน้าจิ้มลิ้มเหลือบมองเล็กน้อย ไม่วายที่จะยิ้มออกมากับความน่ารักเอาใจใส่ของสามีไม่เคยลดลงเลย ยังเสมอต้นเสมอปลายอยู่ตลอดแถมยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวันไม่นานมือเล็กก็ยื่นออกมาพร้อมกับถ้วยพลาสติกที่มีปัสสาวะอยู่ในนั้น เด็กสาวส่งมันไปให้คนข้างๆเพื่อทำการนำไปตรวจ"นี่ค่ะ" ซึ่งเขาก็รับไปวางลงบนขอบอ่างล้างมือทั้งที่อีกมือยังประคองตัวเธออยู่ ก่อนจะหันกลับมาหยิบสายฉีดชำระส่งให้เธอก๋วยเตี๋ยวหยิบมันมาฉีดล้างทำความสะอาดกลีบเนื้อของตน พอมันสะอาดดีเธอก็ส่งคืนไปให้เขาเก็บที่ แล้วหยัดกายลุกขึ้นก้าวลงจากโถชักโครกโดยมีเขาพยุงช่วยไม่ห่างเป็นอะไรที่เว่อร์วังที่สุดแต่ก็น่ารักดีมือหนาคลายพันธนาการออกจากตัวเด็กสาว เอื้อมไปกดชักโครกพร้อมปิดฝาลง หันมามองภรรยาดวงแววตาอ่อนโยน"ดอลลีมานั่งรอตรงนี้ก่อน" ว่าแล้วเนมาร์ก็เลื่อนริมฝีปากเข้ามาจุมพิตลงบนขมับบางฟอดใหญ่"ขอยืนดูด้วยไม่ได้เหรอคะ" ก๋วยเตี๋ยวกะพริบตาปริบๆออดอ้อน ท่าทางไร้เดียงสาของเธอเรียกรอยยิ้มน่ารักจากสามี ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เนมาร์ยอมให้เธอยืนดูเพราะกลัวว่าท่าทางยื
แกร๊ก|"นาย!" เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นตามด้วยเสียงตะโกนของใครบางคนจากทางหน้าประตู พร้อมกับเสียงฝีเท้าสาวเข้ามาในห้องนอนอย่างถือวิสาสะ ทำเนมาร์ที่กำลังนอนหลับกอดภรรยาอยู่สะดุ้งตื่น รีบเอื้อมมือไปคว้าขวดน้ำบนโต๊ะโคมไฟข้างเตียงเขวี้ยงใส่เจ้าของเสียงนั้นทันทีพรึ่บ! ดีนะทิมรับมันเอาไว้ได้ไม่งั้นดังก้องไปทั่วห้องแน่ ก่อนสายตาจะเหลือบเห็นนายหญิงกำลังนอนหลับอยู่ สองขาแกร่งเดินตรงไปหาเจ้านายที่เตียงนอนวางขวดน้ำลงบนโต๊ะดังเดิม"จะแหกปากหาพ่อมึงเหรอ แล้วกูบอกกี่ครั้งและเวลาเข้ามาให้เคาะประตู มือไม่มีรึไง" เนมาร์ตะคอกใส่ลูกน้องคนสนิทเบาๆ แล้วค่อยๆดึงแขนข้างหนึ่งที่ภรรยาใช้หนุนนอนออกมาดันตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของเธอ ซึ่งเพิ่งหลับไปได้ไม่กี่นาที"ผมไม่รู้ว่านายหญิงหลับอยู่""ไหนของที่ใช้ให้ไปซื้อ" ทันทีที่เขาพูดจบทิมก็ยื่นถุงที่ตรวจครรภ์มาให้ มือหนารับมันมาเปิดดูมีอยู่หลายยี่ห้อเป็นสิบๆอันตามที่ต้องการเป๊ะ "ขอบใจ" "นายต้องการอะไรอีกไหม""ไม่และ มึงจะไปไหนก็ไป" สิ้นสุดคำพูดของเจ้านาย ทิมก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไปเนมาร์หยัดกายลุกขึ้น พร้อมกับถือถุงที่ตรวจค
วันต่อมา..อุ๊บ~ โอ๊กกกกกก~ก๋วยเตี๋ยวกับคลีนที่เดินขึ้นบันไดมาพร้อมกันหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงอาเจียนของใครคนหนึ่งดังเล็ดลอดออกมาจากห้องนอนในช่วงสาย ขณะในมือของทั้งสอนคนอุ้มแมวของตัวเองอยู่หลังเพิ่งพาไปอาบน้ำตัดขนที่ร้านมาด้วยกันตอนแรกคลีนไม่มีแมวหรอกหลังจากมาเล่นของก๋วยเตี๋ยว เธอก็อยากได้ขึ้นมาเลยให้สามีพาไปซื้อตัวเท่าๆกันเลยแถมยังตัวผู้เหมือนกันอีก ไม่อยากเอาตัวเมียมาเพราะเดี๋ยวมันเป็นเมนส์ขี้เกียจทำความสะอาด"หื้อ~ นั่นเสียงคนอ้วกหนิดังมาจากห้องก๋วยเตี๋ยวอะ อย่าบอกนะว่าเป็นนะ.." คลีนเอ่ยบอกอย่างสงสัย ทว่ายังพูดไม่ทันจบก๋วยเตี๋ยวก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องตัวเองทันทีด้วยความเป็นห่วงสามีอึก~ แหวะ~"ฮันนี่!" ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกระตุกวูบทันทีที่วิ่งมาถึงห้องน้ำแล้วเห็นเนมาร์โกงคออาเจียนอย่างหนักไม่ต่างจากครั้งแรก เธอวางเนเตี๋ยวลงแล้วรีบเดินเข้าไปลูบหลังให้เบาๆ "ทำไมอ้วกอีกแล้ว" ก่อนหน้านี้อาการเริ่มดีขึ้นแล้วเชียวแต่ไม่รู้ทำไมถึงเป็นขึ้นมาอีก เพราะความดื้อรั้นของเขาแท้ๆ ถ้าไปหาหมออย่างที่เธอบอกคงไม่ต้องมาทรมานแบบนี้"อึก..ก็ป๊านั่นแหละจู่ๆเดินเข้ามากอดคอ""กอดคอ?" คิ้วงามเลิกขึ้นเล็กน้
"เดี๋ยวหนูขออนุญาตไปดูฮันนี่ก่อนนะคะ" ก๋วยเตี๋ยวเอ่ยขออนุญาตผู้ใหญ่ตามมารยาท แล้วรีบดันตัวลุกขึ้นจับชายกระโปรงวิ่งพรวดพราดออกไปทันทีไม่รอให้ทุกคนได้ตอบอะไร เห็นอาการแฟนหนุ่มแปลกไปอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้"อุ๊บ...โอ๊กกกกกก" ทันทีที่วิ่งมาถึงห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องนั่งเล่นมากนักก็เห็นเนมาร์โกงคออาเจียนอย่างหนัก สองมือกำขอบชักโครกแน่น เธอจึงรีบเดินเข้าไปลูบหลังช่วย"อึก..แหวะ""ฮันนี่ไหวเปล่าไปหาหมอไหม" เสียงใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มด้วยสีหน้ากังวลเป็นห่วง"....." เขายกมือขึ้นทำนิ้วโอเคบ่งบอกว่ายังไหว ก่อนจะก้มลงอาเจียนต่อพร้อมหยาดน้ำตาเอ่อออกมาคลอเบ้าอัตโนมัติครั้งแล้วครั้งเล่า มันเป็นอะไรที่โคตรทรมานมากเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยหนักกว่าตอนป่วยอีก"แต่หนูว่าอาการฮันนี่แปลกๆนะ ไปหาหน่อยเถอะ""อึก" มือหนากดชักโครกหลังจากไม่มีอะไรออกมาแล้ว ก่อนจะยกมันมาลูบหน้าตัวเองเบาๆพร้อมเบี่ยงตัวก้าวไปยังอ่างล้างหน้าที่อยู่ใกล้กัน"ถ้าฮันนี่ไม่ไหวเรายกเลิกงานไปก่อนก็ได้นะ" ว่าแล้วก๋วยเตี๋ยวก็ก้าวตามไปยืนข้างหลัง พลางเอื้อมมือไปดึงทิชชูตรงหน้าเขามายื่นให้ ขณะที่เนมาร์กำลังบ้วนปากอย
"....." สายตาคู่คมมองเจ้าของเสียงเรียกค้างด้วยความตะลึงก้อนเนื้อในอกแกร่งข้างซ้ายเต้นระรัวไม่เป็นส่ำ เธอสวยมากอย่างไม่เคยเห็นใครสวยได้เท่านี้มาก่อน ขนาดผู้เป็นแม่ที่ยืนรออยู่ข้างล่างว่าสวยแล้วแต่สู้แฟนสาวของเขาไม่ได้เลยไม่ทันไรก็ต้องละสายตามามองลูกน้องคนสนิทเขม็ง ซึ่งเขาใช้ให้มาดูว่าที่เจ้าสาวว่าแต่งตัวเสร็จหรือยังจะได้ขึ้นมารับแต่กลับหายไปนานหลายนาทีซะงั้น แถมยังได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นไปถึงข้างล่าง จนเขาต้องขึ้นมาดูด้วยความเป็นห่วงแฟนสาวแม้เสียงที่ได้ยินนั้นจะไม่ใช่เสียงเธอก็ตาม"กูใช้ให้ขึ้นมาดูเมียกูแต่มึงกลับมาตีกับเพื่อนเมียกู คือไรไอ้ทิม" เนมาร์เอ่ยถามด้วยท่าทางเอือมระอาเมื่อเหลือบเห็นสภาพผมซามิยุ่งเหยิงประกอบกับเสียงกรีดร้องมันเดาไม่อยาก ทิมก้มศีรษะรับผิดทุกอย่างเนื่องจากทำเกินคำสั่ง ในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวยกมือขึ้นเกาะแขนแฟนหนุ่มและซามิยืนทำหน้าตาสะใจ"ก็มันมาหาเรื่องผมก่อนนี่ครับ""ใครใช้ให้มาปากหมาใส่ก่อนล่ะวะ" ยังไม่ทันที่เนมาร์จะได้ถามอะไรต่อ ซามิก็โพล่งขึ้นแทรกเสียงแข็งอย่างไม่ยอมให้ฟ้องคนเดียวหรอก จะโดนก็ต้องโดนด้วยกันเนี่ยแหละ"ฉันปากหมาใส่ตอนไหน? พอเปิดประตูเข้ามาก็ม