ตอนที่ 26 เมื่อศึกบนเตียงจบลงไปก็ทำเอาทั้งสองคนแทบจะหมดแรงโดยเฉพาะทานตะวัน เพราะเธอแทบจะลุกไม่ขึ้นจากการถูกคนเอาแต่ใจรังแกครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าเขาจะยอมให้เธอได้พักก็ทำเอาเธอแทบจะหมดสติ “ตะวัน…ตื่นได้แล้ว” ธาราธรปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนเกือบจะเย็นแล้ว แต่เธอก็ยังนอนอยู่แบบนั้นเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง “ตื่นไปอาบน้ำได้แล้ว...ฉันหิว เราจะได้ออกไปหาอะไรทานกันข้างนอก” “อื้อ…ตะวันจะนอน…ลุกไม่ไหวค่ะ” “ถ้าเธอไม่ไป ฉันจะกินเธอแทนข้าว!” เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตากลมโตก็เบิกโพลงขึ้นมาทันที ทำไมเขาถึงเอาแต่บังคับเธออยู่ได้นะ เธอได้แต่นึกค่อนขอดเขาในใจ “แต่ตะวันลุกไม่ไหวนี่คะ ถ้าคุณเขื่อนหิวก็ไปกินคนเดียวสิคะ ท้องไม่ได้ติดกันสักหน่อยทำไมต้องบังคับให้ตะวันไปด้วย!” “เธอแน่ใจหรอว่าท้องเธอกับฉันไม่ได้ติดกันน่ะ หื้มมม??”น้ำเสียงยียวนเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายเจ้าเล่ห์ที่มองมาทางเธออย่างกวนประสาท “อย่ามามองแบบนี้นะ คนโรคจิต!” คนตัวโตอดขำไม่ได้กับท่าทางตลกๆของเธอที่ดูเหมือนจะระแวงในตัวเขา ทำให้ธาราธรฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างชอบใจให้กั
ตอนที่27 ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้ว หลังจากคุณนายดารินทร์บอกกับโซเฟียว่าธาราธรเดินทางกลับฝรั่งเศสไปแล้ว หญิงสาวจึงได้แต่ยืนงงในดงไร่องุ่น ว่าทำไมธาราธรถึงกลับไปฝรั่งเศสโดยไม่บอกเธอเลยสักคำ คิดจะไปก็ไปเอาเสียดื้อๆจนเธอเองต้องรีบเก็บเสื้อผ้าและข้าวของบินไปฝรั่งเศสตามชายหนุ่มไปทันที แต่เมื่อมาถึงที่หมายแล้วเธอก็รีบมาหาธาราธรที่ห้องพักแต่เธอกลับไม่เจอแม้แต่เงาของเขา เขาไม่ได้กลับมาที่ฝรั่งเศส แต่เขาจะโกหกทุกคนเพื่ออะไรกัน และวันนี้เธอตั้งใจจะกลับไปที่เมืองไทยอีกครั้ง เพราะมันยังค้างคาอยู่ในใจว่าชายหนุ่มที่เธอหมายปองหายไปไหนกันแน่ ที่สำคัญธาราธรหายไปในช่วงเวลาที่เด็กกำพร้าในบ้านซึ่งก็คือทานตะวันย้ายออกไปอยู่หอพัก และนั่นยิ่งทำให้เธออยู่ไม่สุข อยากจะรู้นักว่าธาราธรกับเด็กกำพร้าคนนั้นมันจะมีอะไรเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า “โซเฟียจะต้องรู้ให้ได้ว่าเขื่อนหายไปไหน” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังและแววตาของเธอมีแต่ความชิงชัง เพราะเธอรู้สึกว่าทานตะวันและธาราธรกำลังปิดบังอะไรทุกคนอยู่ ที่สำคัญเธอจะแพ้ยัยเด็กกำพร้านั่นไม่ได้เด็ดขาด เธอมาก่อนจะให้ยัย
ตอนที่ 28 ภูผาได้แต่ยืนมองตามรถรถยนต์คันหรูของธาราธรที่ขับออกไปจากร้านอาหาร เขามั่นใจแน่ๆว่านั่นคือเพื่อนของเขา อีกอย่างรถคันนั้นก็รุ่นเดียวกันสีเดียวกันกับรถของธาราธร แต่ที่สำคัญคือทำไมธาราธรถึงมาอยู่ที่นี่ได้ทั้งๆที่คุณนายดารินทร์บอกว่าธาราธรเพื่อนของเขาเดินทางไปฝรั่งเศสแล้ว ภูผาได้แต่สงสัยก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง และกดโทรออกไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของธาราธรแต่ก็โทรไม่ติด หลังจากกลับมาถึงคอนโดแล้ว ทานตะวันก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟาในห้องรับแขก ส่วนธาราธรเองก็นั่งจิบไวน์สูตรใหม่ของไร่ธาราธรที่เขาเอาติดรถมาด้วยอย่างสบายอารมณ์ ~ ติ๊ง~ เสียงแจ้งเตือนข้อความโทรศัพท์มือถือของทานตะวันดังขึ้นก่อนเธอจะกดเข้าไปอ่านทันที เจตน์ ~ น้องตะวันนอนหรือยังครับ ตะวัน ~ ยังค่ะ พี่เจตน์มีอะไรหรือป่าวคะ เจตน์ ~ ไม่มีอะไรครับ...แค่คิดถึง ตะวัน ~ ^^” เจตน์ ~ พี่โทรหาได้ไหมครับ อยากได้ยินเสียงก่อนนอน… “ไม่ได้!! บอกมันไป!” ธาราธรพูดขึ้นเสียงดังเมื่อเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงดูด้านหลังของเธอแ
ตอนที่ 29 หลังจากโซเฟียเดินทางมาถึงเมืองไทยหญิงสาวก็มุ่งตรงไปยังไร่ธาราธรทันที ตอนนี้จิตใจของเธอร้อนรุ่มดังเปลวเพลิงเพราะเธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าธาราธรหายไปไหนกันแน่ “สวัสดีค่ะคุณแม่” โซเฟียพูดทักทายขึ้นก่อนจะยกมือไหว้คุณนายดารินทร์ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟาภายในห้องรับแขก “อ้าวตายจริงแม่โซฟี! นี่หล่อนกลับมาที่นี่ทำไมอีก ลูกชายฉันยังไม่ได้กลับมาจากฝรั่งเศสหรอกนะยะ!” คุณนายดารินทร์พูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่ตัวเองไม่ค่อยจะชอบหน้าเธอเท่าไหร่นัก “ก็เพราะเขื่อนไม่ได้อยู่ที่ฝรั่งเศสยังไงละคะคุณแม่ โซเฟียถึงต้องกลับมาที่นี่” “นี่หล่อนหมายความว่ายังไง” คุณนายดารินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ อีกทั้งยังงุนงงและไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูด “เขื่อนไม่ได้ไปฝรั่งเศสอย่างที่บอกคุณแม่หรอกค่ะ เพราะเขื่อนโกหกคุณแม่และโกหกพวกเราทุกคน ส่วนเขื่อนจะไปที่ไหนนั้นคุณแม่ก็ลองคิดดูสิคะ จู่ๆเขื่อนก็หายไปและยังโกหกทุกคนอีกว่าไปฝรั่งเศส แบบนี้โซเฟียว่ามันชักจะยังไงๆแล้วนะคะ!” “แล้วตาเขื่อนจะโกหกฉันไปเพื่ออะไร ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นที่ลูกชายฉันเขาจะโ
ตอนที่ 30 ทานตะวันและเจนจิราเดินลงมาที่ด้านหน้าตึกคณะที่เธอเรียนอยู่เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว ก่อนจะเหลือบไปเห็นธาราธรยืนกอดอกพิงรถรอเธออยู่ก่อนแล้วด้วยใบหน้าบึ้งตึงราวกับคนที่กำลังโมโหให้กับอะไรสักอย่าง “ตะวัน…ทำไมคุณเขื่อนเขาถึงได้ทำหน้าตาเหมือนโกรธใครมาเป็นสิบชาติแบบนั้นล่ะ” เจนจิราสะกิดถามทานตะวันเบาๆเมื่อเห็นธาราธรยืนทำหน้าตาถมึงทึงไม่สบอารมณ์อยู่ “เขาก็เป็นแบบนี้แหละ แล้วนี่ก็ไม่รู้ว่าวันนี้จะหาเรื่องอะไรตะวันอีก” “ท่าทางน่ากลัวแบบนี้ก็ตัวใครตัวมันแล้วกันนะตะวัน...ไปล่ะ บ๊ายบาย!” เจนจิราพูดจบก็ได้แยกจากตะวันทันที ส่วนเธอก็ได้แต่ยืนทำใจอยู่สักพักก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาคนหน้ายักษ์ “ชักช้า! น่ารำคาญ!” น้ำเสียงห้วนๆเอ่ยขึ้นแต่เธอไม่ได้ตอบโต้อะไร ก่อนจะถอนหายใจเบาๆอย่างเซ็งๆ “จะยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะ ขึ้นรถสิ!” ธาราธรตะคอกขึ้นอีกครั้งก่อนคนตัวเล็กจะเดินไปขึ้นรถตามคำสั่ง เขาขับกระชากรถออกไปทันทีด้วยความเร็วตามอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่น เมื่อมาถึงคอนโดเขาก็เอาแต่กระฟึดกระฟาดวางของทำโน่นทำนี่เสียงดังตึงตังเหมือนคนอารมณ์ไม่ดี ทานต
ตอนที่ 31 ธาราธรไปเตรียมน้ำเย็นใส่ชามใบเล็กพร้อมกับผ้าผืนเล็กเพื่อจะมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับเธอเผื่อไข้จะได้ลด “ปลดกระดุมเสื้อออกสิฉันจะเช็ดตัวให้” “มะ ไม่เป็นไรค่ะ ตะวันเช็ดเองได้ค่ะคุณเขื่อน” “ฉันบอกจะเช็ดให้ ฉันก็จะเช็ดให้!” “แต่ว่า...” “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น มานี่มาฉันถอดเอง” เขาเอื้อมมือไปแกะกระดุมเสื้อของเธอออกทีละเม็ดๆ โดยที่คนตัวเล็กพยายามจะปฏิเสธด้วยความอาย แต่มีหรือคนเอาแต่ใจอย่างเขาจะยอม ทานตะวันเลยต้องจำใจให้เขากระทำตามใจตัวเองอย่างเลี่ยงหลบไม่ได้ “เธอจะอายทำไมกัน ร่างกายของเธอฉันเห็นมาหมดทุกส่วนแล้ว!” “คุณเขื่อน!!” “ก็มันจริงไหมล่ะ” เขาพูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย ผิดกับอีกคนที่อายจนหน้าแดงลามไปจนถึงใบหู หลังจากถอดชุดนอนเธอออกแล้วธาราธรก็บรรจงเช็ดตัวให้กับเธออย่างเบามือ แต่เขาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นปทุมคู่งามอันใหญ่โตเกินอายุของเธอที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เขาเช็ดวนๆอยู่กับที่ตรงบริเวณหน้าอกเธออยู่หลายรอบ จนคนตัวเล็กที่อายอยู่ก่อนแล้วกลับต้องรู้สึกอายมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาเอาแต่จ
ตอนที่ 32 หลังจากภูผากลับมาจากกรุงเทพก็เป็นเวลาสองอาทิตย์แล้ว เขาเอาแต่วุ่นๆอยู่กับงานภายในไร่เลยยังไม่มีโอกาสได้เข้ามาพบคุณนายดารินทร์ และวันนี้เขาเองตั้งใจจะเข้าไปพบคุณนายดารินทร์แม่ของธาราธรเพื่อนสนิทของเขา เพราะวันนั้นตัวภูผาเองมั่นใจว่าเจอธาราธรที่กรุงเทพจริงๆ แต่ทำไมคุณนายดารินทร์ถึงบอกว่าธาราธรเดินทางไปฝรั่งเศส ที่สำคัญเขาติดต่อธาราธรเพื่อนของเขาไม่ได้เลยสักช่องทาง “สวัสดีครับคุณแม่” “อ้าวตาภูสวัสดีจ้ะลูก ไปยังไงมายังไงวันนี้ถึงได้แวะมาที่นี่ได้” “ผมตั้งใจจะมาพบคุณแม่นี่แหละครับ” “มาพบแม่…มีธุระอะไรหรือเปล่าลูก” “ไอ้เขื่อนมันไปฝรั่งเศสจริงๆหรอครับคุณแม่” “จ้ะลูก เห็นบอกว่าจะไปเคลียร์ธุระเรื่องเรียนที่ยังจัดการไม่เสร็จที่โน่นน่ะ แล้วนี่ตั้งแต่ไปก็ไม่ยอมติดต่อมาหาแม่บ้างเลย อะไรของเขาก็ไม่รู้เจ้าลูกคนนี้ ไม่รู้จะยุ่งอะไรนักหนา นับวันก็ยิ่งทำตัวแปลกๆ” “อาทิตย์ก่อนผมไปพบลูกค้าที่กรุงเทพ ผมคิดว่าผมเห็นไอ้เขื่อนครับคุณแม่ ผมมั่นใจว่าต้องเป็นมันแน่ๆ แม้แต่รถที่ขับก็สีเดียวกันรุ่นเดียวกัน” “อะไรนะลูก ภูเจอตาเขื่อนท
ตอนที่ 33 เมื่อเจตนิพัทธ์เห็นทานตะวันนั่งหน้าแดงด้วยความอายเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ในขณะที่ริมฝีปากหนายังคงยกยิ้มชอบใจในความน่ารักของเธอ ไม่นานนักทั้งสองคนก็ทานอิ่มกันเจตนิพัทธ์จึงพาเด็กสาวเดินไปร้านไอศครีมต่อ ก่อนเสียงโทรศัพท์มือถือของทานตะวันจะดังขึ้นมาขัดจังหวะ ~ครืด ครืด ครืด~ ทานตะวันล้วงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าขึ้นมาดูว่าใครโทรเข้ามาก่อนหน้าจอจะปรากฏชื่อ ‘คุณเขื่อน’ เธอเลือกที่จะไม่รับสายของเขาก่อนจะเอาโทรศัพท์เก็บไว้ในกระเป๋าตามเดิมอย่างไม่สนใจ “ทำไมไม่รับสายล่ะครับ” เจตน์นิพัทธ์ถามขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กยืนมองโทรศัพท์อยู่สักพักก่อนเธอจะเก็บมันไว้ในกระเป๋าเช่นเดิม “เอ่อ…เบอร์แปลกๆค่ะ ตะวันเลยไม่รับ” เจตนิพัทธ์พยักหน้ารับก่อนจะหยิบเมนูไอศครีมให้คนตัวเล็กสั่ง ธาราธรแอบตามดูตามมองทานตะวันทุกฝีก้าว มือหนากำหมัดแน่นเพื่อพยายามข่มอารมณ์โมโหของตัวเองเอาไว้ พอเขาโทรหาเธอก็ไม่ยอมรับสายของเขาอีกทั้งก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ยอมเปิดอ่านข้อความของเขาอีก และนั่นยิ่งทำให้เขาโมโหหนักขึ้นกว่าเดิม “น้องตะวันครับ” “คะพี่เจ
ตอนที่ 47 (จบบริบูรณ์) ~ 4 ปีผ่านไป ~ “โสนน้อยเรือนงามของลุงภูผาอยู่ไหนน๊า… ไหนใครเอ่ยบอกว่าอยากได้ชุดเจ้าหญิงเอลซ่า วันนี้ลุงภูผาได้มาตั้งสามชุดแน่ะสวยๆทั้งนั้นเลย” “ลุงภูผามาแล้ว…!!” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ ศุภรดา ศิรชล หรือน้องโสน (สะ-โหน) วัยสามขวบครึ่งรีบวิ่งแจ้นออกมาหาลุงภูผา ก่อนเขาจะก้มลงไปอุ้มสาวน้อยชูขึ้นมาแนบอกด้วยความรักและเอ็นดู “ไหนชุดเจ้าหญิงเอลซ่าของโสนล่ะคะลุงภูผา” “หื้ม…ต้องหอมแก้มลุงก่อนนะคะถึงจะได้เห็นชุดสวย” ฟอด ฟอด!! “แก้มลุงภูผาหอมชื่นใจจังเลยค่ะ” “แหม๋…พอได้ยินเรื่องของฝากนี่รู้งานเลยนะลูก” ทานตะวันพูดขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวตัวน้อยกำลังออดอ้อนคุณลุงภูผา โสนติดลุงภูผาของเขามากเพราะมักจะคอยได้ของเล่น ของกิน และชุดสวยๆจากลุงภูผาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะอยากได้อะไรเธอก็มักจะออดอ้อน และภูผาเองก็มักจะตามใจหลานสาวตัวน้อยๆคนนี้เสมอจนโสนเองได้ใจจนเคยตัว และภูผาจึงกลายเป็นแขกคนสำคัญประจำบ้านศิรชลไปแล้ว “วันนี้พี่ภูอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันที่นี่นะคะ” “ครับ” ทานตะวันและภูผานั่งคุยกันภายในห้องรับแขก ส่วนคุณนายดารินทร์ ท่านธีระและขิมเดินท
ตอนที่ 46 …1 เดือนต่อมา… ~วันแต่งงาน~ ขบวนขันหมากตั้งขบวนร้องเพลงแห่เสียงดังขับขานมาตั้งแต่ด้านหน้าของไร่ธาราธร ทุกคนสนุกสนานครื้นเครงต่างร้องเพลงขับขานดังก้องไปทั่วท้องถนน วันนี้เป็นฤกษ์งามยามดีของคู่บ่าวสาวป้ายแดง ธาราธรเดินขบวนขันหมากตามประเพณีไทยเพื่อเข้าสู่พื้นที่ภายในไร่องุ่นอันกว้างขวางที่จัดเตรียมงานไว้อย่างอลังการ แขกเหรื่อในงานต่างเริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแขกผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดและกลุ่มเพื่อนๆของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงที่ทั้งสองเชิญมา เจนจิราและเจตนิพัทธ์ก็มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย แม้ตัวเจตนิพัทธ์เองจะอกหักและไม่ค่อยจะกินเส้นกับเจ้าบ่าวป้ายแดงสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังคงมาแสดงความยินดีกับคนที่ตัวเองแอบรักอย่างจริงใจ นอกจากนี้ยังมีภูผาที่มาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะตัดขาดความสัมพันธ์การเป็นเพื่อนระหว่างเขากับธาราธรไป อย่างน้อยตอนนี้เขาก็พอจะยอมรับความจริงได้บ้างแล้ว ในเมื่อทานตะวันและเพื่อนของเขารักกัน หากทั้งสองตัดสินใจที่จะแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเขาก็ควรจะยินดีกับทั้งสองคน วัน
ตอนที่ 45 ธาราธรเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่าคนตัวเล็กนอนอยู่บนเตียงนอน เขาเดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้าทานตะวันที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม “นอนอย่างกับคนไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลยนะยัยตัวแสบ” ธาราธรบ่นเบาๆคนเดียวก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากมนเกลี้ยงเกลาของเธอเบาๆอย่างรักใคร่หวงแหนก่อนจะเลื่อนริมฝีปากหนาลงมาประกบริมฝีปากอวบอิ่มของเธอเบาๆ เขาอดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบเธอ บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอทำของใส่หรือเปล่าเขาถึงได้หลงหัวปักหัวปำขนาดนี้ ธาราธรยังคงจูบริมฝีปากเธอเบาๆอย่างอ้อยอิ่งอยู่แบบนั้นจนคนตัวเล็กเริ่มรู้สึกตัว “อื้อ” “ตื่นแล้วหรอ” “พี่เขื่อน...เข้ามาทำไมคะ” “พี่เอาไอ้นี่มาให้ตะวันตรวจน่ะ” ธาราธรยื่นที่ตรวจครรภ์ให้กับทานตะวันก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานให้กับเธอ “นี่มัน...ที่ตรวจครรภ์นี่คะ!” “ใช่ครับพี่อยากให้ตะวันลองตรวจดู!!” “ตรวจทำไมเหรอคะ?” “คุณแม่บอกว่าอาการที่ตะวันเป็นอยู่ตอนนี้ เหมือนตอนที่คุณแม่...ท้อง” “ทะ ท้องเหรอคะ” “อื้ม” “แล้วถ้าตะวัน ทะ ท้องขึ้นมาจริงๆ ตะวันจะเลี้ยงลูกได้ไหมคะ ตะวันจะ
ตอนที่ 44 ~ 2เดือนผ่านไป~ หลังจากเหตุการณ์วันนั้นที่ห้องอาหารของโรงแรมดัง อาทิตย์ต่อมาโซเฟียก็เข้ามาหาธาราธรที่ไร่องุ่นแต่ครอบครัวของธาราธรไม่มีใครต้อนรับเธอ โดยเฉพาะคุณนายดารินทร์ที่ขัดขวางทุกอย่าง เพราะไม่อยากให้โซเฟียเข้ามามีบทบาทในชีวิตของลูกชายอีก จึงจำเป็นจะต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะผู้หญิงอย่างโซเฟียอาจจะมาสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตคู่ของธาราธรและทานตะวันที่ซึ่งกำลังจะแต่งงานกันในเดือนหน้านี้ คุณนายดารินทร์เลยสั่งให้คนงานในไร่ห้ามโซเฟียเข้ามาภายในไร่ธาราธรเด็ดขาด ถ้าใครปล่อยให้เข้ามาได้โทษคือไล่ออกสถานเดียว ทางด้านโซเฟียเองเมื่อรู้ว่าธาราธรกำลังจะแต่งงานกับทานตะวัน และตัวเธอเองแทบจะมองไม่เห็นทางไหนเลยสักทางที่จะสามารถแย่งเอาชายหนุ่มกลับมาได้ เพราะตอนนี้หัวใจของธาราธรมีให้กับผู้หญิงที่ชื่อทานตะวันเพียงแค่คนเดียว โซเฟียเลยเลือกที่จะยอมถอยออกมาดีกว่าที่จะดันทุรัง ช่วงนี้ภายในไร่ธาราธรกำลังยุ่งๆเรื่องเตรียมงานแต่ง ทั้งตัวธาราธรและทานตะวันเองก็วุ่นวายกับการเลือกชุดเลือกการ์ดแต่งงานและถ่ายพรีเวดดิ้ง เพราะงานแต่งงานของเจ้าของไร่องุ่นที่กว้างขวางที่สุด
ตอนที่ 43 โซเฟียยอมลุกออกมานั่งที่โต๊ะของตัวเองแต่ก็ยังไม่วายคอยเฝ้ามองดูคนสองคนที่กระหนุงกระหนิงกันเป็นพิเศษจนเธอรู้สึกหมั่นไส้ จากที่ไม่ค่อยชอบทานตะวันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเกลียดเด็กคนนี้มากกว่าเข้าไปอีก ธาราธรเองก็ดูเปลี่ยนไปเยอะมาก และที่เขาเปลี่ยนไปก็คงจะเป็นเพราะเด็กสาวคนนี้ ไหนจะท่าทางที่ดูเอาอกเอาใจเด็กสาวนั่นอีก คงจะหลงเด็กคนนี้ไม่เบาเลยสินะ โซเฟียได้แต่คิดในใจอย่างหมั่นไส้ “คงจะแอบแซ่บกันแล้วล่ะสิ!” โซเฟียพูดขึ้นเบาๆคนเดียวอย่างเหยียดๆ ธาราธรคอยตักอาหารจานโน้นทีจานนี้ทีให้กับคนตัวเล็กอย่างเอาใจ ตอนนี้หน้าตาที่ดูเรียบเฉยจนดูเย็นชาของเธอมองจากดาวอังคารเขาดูออกว่าเธอกำลังโกรธเขา จากที่จะพาเธอออกมาหาอะไรทานกันข้างนอกเหมือนกับคู่รักทั่วๆไป แต่กลับต้องมาเจอกับบุคคลที่ไม่อยากจะเจอเลยพลอยทำให้เสียบรรยากาศไปหมด “ตะวันอิ่มแล้วค่ะ” มือเรียวสวยรวบช้อนก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มโดยไม่ยอมมองหรือสบตากับคนตรงหน้า และเธอก็ไม่สนใจเขา “ทำไมอิ่มเร็วจังเพิ่งทานไปนิดเดียวเอง” “ตะวันทานไม่ลงค่ะ” “ตะวันโกรธอะไรพี่หรือเปล่า?
ตอนที่ 42 ธาราธรถอนตัวตนอันใหญ่โตของเขาออกจากร่องสวาทของเธอ ก่อนจะมองดูน้ำรักขาวขุ่นผลงานของตัวเองที่ไหลย้อนออกมาจากร่องรักของเธออย่างไม่วางตา เขาพอใจกับผลงานชิ้นเอกของตัวเองก่อนจะยกยิ้มมุมปาก สายตาคมกริบเหลือบมองไปเห็นใบหน้าหวานของเธอที่แดงซ่านด้วยความอายอย่างน่ารัก ก่อนคนตัวเล็กระรีบเบือนหน้าหนีไปด้วยความอับอาย “ไม่ต้องอายพี่หรอกเพราะร่างกายทุกส่วนของตะวัน…พี่เห็นมาหมดแล้ว” ‘บ้าจริง ทำไมหัวใจของเธอต้องเต้นแรง ร่างกายของเธอร้อนรุ่มทุกครั้งที่เขาสัมผัส อีกทั้งเธอยังไม่เคยที่จะปฏิเสธเขาได้เลย’ ทานตะวันได้แต่คิดในใจอย่างนึกอาย.. “ที่ผ่านมาตะวันเจ็บมากใช่ไหม?” “……” ทานตะวันไม่ตอบเธอทำได้แค่มองสบตาคนตัวโตที่ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ที่ผ่านมาตั้งแต่ตอนเธอยังเด็ก ตอนนั้นเธออายุ8ขวบ เขาเองอายุ18ปี อายุของเขากับเธอห่างกัน10ปี เขาคิดแค่ว่าเขาเกลียดเธอ เกลียดเด็กที่พ่อแม่รับมาอุปการะ เกลียดเพราะคิดว่าเธอจะมาเป็นภาระให้กับครอบครัว เกลียดเพราะกลัวเธอจะมาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากเขาและน้องสาวของเขา ทั้งที่เธอเองเป็นเด็กดี และน่ารัก
ตอนที่ 41 หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จสรรพแล้ว ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย ตะวันเองก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนเสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้น ก๊อก ก๊อก ก๊อก!! “ตะวันจ้ะ ตะวัน” ขิมเรียกตะวันอยู่หน้าห้อง สักพักเพียงไม่นานทานตะวันก็เดินออกมาเปิดประตู “พี่ขิมมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ตะวันมาดูหนังเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิจ้ะ คืนนี้ก็นอนเป็นเพื่อนพี่ด้วยเลย…พอดีพี่อยากดูหนังผีน่ะ แต่ไม่กล้าดูคนเดียว แหะแหะ” ขิมเอ่ยชวนขึ้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มแหยๆให้ตะวัน “ได้เลยค่ะ งั้นพี่ขิมรอตะวันแป้บนึงนะคะ เดี๋ยวตะวันเข้าไปเอาเสื้อคลุมก่อนค่ะ” “จ้า” หลังจากทานตะวันออกไปดูหนังผีเป็นเพื่อนขิมที่ห้องไม่นานนักธาราธรก็แอบเข้ามาในห้องของเธอ เขาตั้งใจไว้ว่ายังไงคืนนี้เขาจะจับเธอกินให้ได้ ไม่อย่างงั้นเขาคงนอนไม่หลับทั้งคืนแน่ๆ แต่สิ่งที่ตั้งใจไว้กลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เพียงแค่ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในห้องแต่กลับไม่พบคนตัวเล็ก ก่อนเขาจะหันไปเปิดไฟและเดินสำรวจดูทุกซอกทุกมุมแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของเธอ อารมณ์หงุดหงิดไม่พอใจเริ่มประเดประดังเข้ามาท
ตอนที่ 40 ภูผาเดินออกมาจากไร่องุ่นและขับรถกระชากออกไปอย่างรวดเร็วตามอารมณ์โมโหของตัวเองที่ถึงขีดสุด เขาโกรธที่ธาราธรเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวหักหลัง ตลอดเวลาคอยกันท่าเขากับตะวันมาตลอด ปากบอกว่าเกลียด ปากบอกว่าไม่ชอบ แต่สุดท้ายกลับกลืนน้ำลายตัวเอง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ธาราธรตัวเขาเองคงจะไม่เจ็บถึงขนาดนี้ “คุณเขื่อน ตะวันเดินเองได้ค่ะ” ทานตะวันพูดขึ้นเมื่อมือหนาของอีกคนบีบข้อมือของเธอกึ่งเดินกึ่งลากเข้ามาภายในบ้าน “ตาเขื่อนนั่นทำอะไรลูก แขนน้องแดงหมดแล้วนะ!” คุณนายดารินทร์พูดขึ้นเมื่อเห็นธาราธรดึงกระชากแขนทานตะวันเข้ามาในบ้าน “คุณแม่ก็ถามลูกสาวตัวดีของคุณแม่ดูสิ ว่าทำไมไปยืนกอดกันกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ผัวตัวเองแบบนั้น” “นี่มันเรื่องอะไรกันลูกตะวัน” “ไม่ใช่แบบนั้นนะคะแม่ดา ตะวันไม่ได้คิดอะไรกับพี่ภูนะคะ ตะวันคิดกับพี่ภูแค่พี่ชายเท่านั้น พี่ภูเขาแค่ขอกอดตะวันในฐานะน้องสาวเป็นครั้งสุดท้าย ตะวันก็เลย...” “ให้มันกอด เหอะ!” ธาราธรพูดแทรกขึ้นมาโดยที่พยายามข่มอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเองเอาไว้ เขาโกรธ เขาหึง เขาหวงทำไมเ
ตอนที่ 39 เมื่อทุกคนรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว คุณนายดารินทร์และท่านธีระก็เรียกให้ธาราธรและทานตะวันไปพบที่ห้องรับแขก เพื่อจะได้ปรึกษาหารือกันเรื่องงานแต่งงานที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด “ตกลงตะวันยอมแต่งงานกับพี่เขื่อนเขาแล้วใช่ไหมลูก” ท่านธีระถามขึ้นเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว “เอ่อ…ค่ะคุณพ่อ” “พ่อขอบคุณนะลูกที่หนูให้โอกาสลูกชายของพ่อได้ดูแลหนู” น้ำเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความห่วงใยเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เรื่องวันเวลาล่ะ ยังจะถือเอาฤกษ์สะดวกอยู่ไหมเขื่อน” ผู้เป็นพ่อหันไปถามลูกชายเพียงคนเดียวที่เอาแต่ยกยิ้มชอบใจขึ้นมาบ้าง “ผมตกลงกับน้องว่าภายในสามเดือนนี้ครับคุณพ่อ” “อืม ก็ยังดีกว่าภายในสองอาทิตย์เพราะนั่นมันก็เร็วเกินไป” “หลังจากนี้เขื่อนต้องดูแลน้องให้ดีๆนะลูก และที่สำคัญเขื่อนกับตะวันจะต้องแยกห้องนอนกันจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน ในระหว่างนี้เขื่อนต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับน้องเด็ดขาด!” คุณนายดารินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น “อะไรนะครับคุณแม่!! ผมไม่ทำแบบนั้นแน่ๆครับ!” “แค่สามเด