ตอนที่ 32 หลังจากภูผากลับมาจากกรุงเทพก็เป็นเวลาสองอาทิตย์แล้ว เขาเอาแต่วุ่นๆอยู่กับงานภายในไร่เลยยังไม่มีโอกาสได้เข้ามาพบคุณนายดารินทร์ และวันนี้เขาเองตั้งใจจะเข้าไปพบคุณนายดารินทร์แม่ของธาราธรเพื่อนสนิทของเขา เพราะวันนั้นตัวภูผาเองมั่นใจว่าเจอธาราธรที่กรุงเทพจริงๆ แต่ทำไมคุณนายดารินทร์ถึงบอกว่าธาราธรเดินทางไปฝรั่งเศส ที่สำคัญเขาติดต่อธาราธรเพื่อนของเขาไม่ได้เลยสักช่องทาง “สวัสดีครับคุณแม่” “อ้าวตาภูสวัสดีจ้ะลูก ไปยังไงมายังไงวันนี้ถึงได้แวะมาที่นี่ได้” “ผมตั้งใจจะมาพบคุณแม่นี่แหละครับ” “มาพบแม่…มีธุระอะไรหรือเปล่าลูก” “ไอ้เขื่อนมันไปฝรั่งเศสจริงๆหรอครับคุณแม่” “จ้ะลูก เห็นบอกว่าจะไปเคลียร์ธุระเรื่องเรียนที่ยังจัดการไม่เสร็จที่โน่นน่ะ แล้วนี่ตั้งแต่ไปก็ไม่ยอมติดต่อมาหาแม่บ้างเลย อะไรของเขาก็ไม่รู้เจ้าลูกคนนี้ ไม่รู้จะยุ่งอะไรนักหนา นับวันก็ยิ่งทำตัวแปลกๆ” “อาทิตย์ก่อนผมไปพบลูกค้าที่กรุงเทพ ผมคิดว่าผมเห็นไอ้เขื่อนครับคุณแม่ ผมมั่นใจว่าต้องเป็นมันแน่ๆ แม้แต่รถที่ขับก็สีเดียวกันรุ่นเดียวกัน” “อะไรนะลูก ภูเจอตาเขื่อนท
ตอนที่ 33 เมื่อเจตนิพัทธ์เห็นทานตะวันนั่งหน้าแดงด้วยความอายเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ในขณะที่ริมฝีปากหนายังคงยกยิ้มชอบใจในความน่ารักของเธอ ไม่นานนักทั้งสองคนก็ทานอิ่มกันเจตนิพัทธ์จึงพาเด็กสาวเดินไปร้านไอศครีมต่อ ก่อนเสียงโทรศัพท์มือถือของทานตะวันจะดังขึ้นมาขัดจังหวะ ~ครืด ครืด ครืด~ ทานตะวันล้วงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าขึ้นมาดูว่าใครโทรเข้ามาก่อนหน้าจอจะปรากฏชื่อ ‘คุณเขื่อน’ เธอเลือกที่จะไม่รับสายของเขาก่อนจะเอาโทรศัพท์เก็บไว้ในกระเป๋าตามเดิมอย่างไม่สนใจ “ทำไมไม่รับสายล่ะครับ” เจตน์นิพัทธ์ถามขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กยืนมองโทรศัพท์อยู่สักพักก่อนเธอจะเก็บมันไว้ในกระเป๋าเช่นเดิม “เอ่อ…เบอร์แปลกๆค่ะ ตะวันเลยไม่รับ” เจตนิพัทธ์พยักหน้ารับก่อนจะหยิบเมนูไอศครีมให้คนตัวเล็กสั่ง ธาราธรแอบตามดูตามมองทานตะวันทุกฝีก้าว มือหนากำหมัดแน่นเพื่อพยายามข่มอารมณ์โมโหของตัวเองเอาไว้ พอเขาโทรหาเธอก็ไม่ยอมรับสายของเขาอีกทั้งก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ยอมเปิดอ่านข้อความของเขาอีก และนั่นยิ่งทำให้เขาโมโหหนักขึ้นกว่าเดิม “น้องตะวันครับ” “คะพี่เจ
ตอนที่ 34 ~ณ ห้องรับแขก~ “ทำไมทั้งสองคนนั้นถึงได้มากันช้าขนาดนี้นะ” “ใจเย็นๆค่ะคุณ เดี๋ยวก็คงมา” ท่านธีระที่รออยู่ในห้องรับแขกต่างเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจอยู่แบบนั้น ท่านธีระร้อนอกร้อนใจจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่เคยคิดเลยว่าลูกชายตัวเองจะเป็นคนต่ำช้าเลวทรามได้ขนาดนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้รู้สึกโมโห เมื่อธาราธรเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมๆกับทานตะวันที่ก้มหน้าก้มตาเดินมาตามหลัง ท่านธีระหันไปมองธาราธรด้วยความโกรธเคือง และเดินปรี่เข้าไปหาลูกชายด้วยอารมณ์เดือดดาลพร้อมกับง้างฝ่ามือหนักๆฟาดเข้าใบหน้าหล่อเหลาของธาราธรเต็มแรง เพี้ยะ เพี้ยะ!!!! “แกทำกับน้องแบบนี้ได้ยังไงกันห๊ะไอ้เขื่อน!! แกทำลงได้ยังไง!!!!” น้ำเสียงเข้มพูดขึ้นมาด้วยความโมโห อีกทั้งรู้สึกผิดหวังในตัวลูกชายเพียงคนเดียวเป็นอย่างมาก “……” “พ่อไม่เคยสั่งเคยสอนแกให้เป็นคนแบบนี้ แกทำเลวทรามต่ำช้าแบบนี้กับน้องได้ยังไง!!” “พะ พอได้แล้วค่ะคุณ อย่าทำอะไรลูกเลยนะคะ แค่นี้ลูกก็รู้สึกผิดแล้วค่ะ” คุณนายดารินทร์รีบเข้าไปห้ามผู้เป็นสามีที่ตอนนี้โมโหลู
ตอนที่ 35 ~ณ ไร่ธาราธร~ รถยนต์ของธาราธรได้วิ่งเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านศิรชลเมื่อถึงที่หมายแล้ว เจ้าของร่างเล็กรีบเปิดประตูลงจากรถก่อนจะก้าวขาเรียวสวยเดินฉับๆเข้าไปในบ้านทันทีโดยไม่แม้แต่จะรอคนตัวโต “มาถึงแล้วเหรอลูก” คุณนายดารินทร์ถามขึ้นเมื่อเห็นทานตะวันเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ดูรีบร้อน “ค่ะแม่ดา” “ทานอะไรมาหรือยังลูก” “ตะวันยังไม่หิวค่ะแม่ดา ตะวันเอาของขึ้นไปเก็บบนห้องก่อนนะคะ” พูดจบเพียงแค่นั้นเธอก็รีบเดินปรี่ขึ้นไปยังห้องนอนห้องเดิมของเธอทันที เพราะเธอไม่อยากจะเสียเวลาทะเลาะกับคนบ้าอำนาจอย่างธาราธร เพราะระหว่างทางเธอกับเขาก็แทบจะทะเลาะกันมาตลอดเส้นทางจนถึงไร่ “อ้าวตาเขื่อน ทานข้าวก่อนไหมลูก” คุณนายดารินทร์ถามขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามาไล่เลี่ยกันกับตะวันด้วยสีหน้าท่าทางที่มีแต่ความขุ่นเคือง “ไม่หิวครับแม่ ขอตัวก่อนนะครับผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับตะวัน” “ค่อยๆคุยกับน้องนะลูก อย่าหาเรื่องทะเลาะกัน!” “ครับ! ถ้าลูกสาวสุดที่รักของคุณแม่ไม่ดื้อกับผมก่อน!” “เอ้ะ เจ้าลูกคนนี้นี่!”
ตอนที่ 36 ร่างเล็กบิดเร้าไปมาอยู่แบบนั้นเมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนอันร้ายกาจของคนตัวโตยังคงกระดกขึ้นลงไปมา ความสยิวที่วิ่งปราดไปทั่วร่างทำให้คนตัวเล็กกำผ้าปูที่นอนแน่น และแอ่นโค้งร่างกายส่วนล่างให้กับคนตัวโตที่ก้มๆเงยๆอยู่กับกลีบกุหลาบอย่างลืมตัว ทำให้ธาราธรกระตุกยิ้มมุมปากที่ทำให้เธอมีอารมณ์ไปกับเขามากมายขนาดนี้ “อื้อออ” ทานตะวันส่งเสียงครางอื้ออึงในลำคอ เธอไม่สามารถปฏิเสธไฟราคะที่ธาราธรจุดขึ้นได้เลยสักครั้ง ร่างกายของเธอมันตอบสนองเขาดีทุกอย่าง และตอนนี้เธอกำลังจะไม่ไหวแล้วเมื่อลิ้นสากของเขาเสียดสีกระดกขึ้นลงไปมากับปุ่มกระสัน ทานตะวันเด้งรับสะโพกกลมกลึงของเธอเพื่อตอบรับสัมผัสจากคนตัวโตที่เขามอบให้อย่างลืมตัว “มะ ไม่ไหวแล้ว ตะ ตะวันจะเสร็จ อ๊าาา…” ไม่นานร่างบางของคนตัวเล็กก็สั่นสะท้านและเกร็งกระตุกปลดปล่อยความสุขออกมาอย่างไม่สามารถยับยั้งได้ “หวาน...เธอหวานมากเด็กดี” ธาราธรจ้องมองกุหลาบสีชมพูที่กำลังปริ่มน้ำรักหวานฉ่ำออกมา เขายังคงดูดกลืนกินมันทุกหยาดหยดอย่างไม่นึกรังเกียจ ก่อนเขาจะลุกขึ้นมาและจับท่อนเอ็นขนาดใหญ่ที่แข็งชูชันจ่อไปยังร
ตอนที่ 37 ทั้งสองนอนโอบกอดกันอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเผลอหลับไปด้วยความเพลีย กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น หลังจากทานตะวันอาบน้ำเสร็จเธอก็เดินออกมาสวมใส่เสื้อผ้าในห้องแต่งตัว และทาครีมปกปิดรอยช้ำตามลำคอที่คนตัวโตทำเอาไว้ ก่อนเจ้าของร่างสูงใหญ่จะเดินเข้ามาโอบกอดเธอไว้หลวมๆจากทางด้านหลัง จมูกโด่งคมโน้มลงมาสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆตรงซอกคอขาวเนียนของเธออย่างไม่รู้เบื่อ “ถอยไปค่ะคุณเขื่อน ตะวันจะแต่งตัว” “วันนี้พี่จะคุยกับคุณพ่อคุณแม่ เรื่องงานแต่งงานของเรา” “ตะ แต่ตะวัน…” “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น!” “คุณเขื่อนอยากเห็นตะวันเจ็บมากเหรอคะที่ตะวันจะต้องแต่งงานกับคนที่เกลียดตะวันและไม่ได้รักตะวัน คุณเขื่อนแค่ต้องการจะเห็นตะวันเจ็บปวดแค่นั้นจริงๆเหรอ?” ธาราธรชะงักนิ่งไปสักพักกับคำพูดของเธอ…ใช่! เขาเคยพูดว่าเขาเกลียดเธอ ไม่ได้รักเธอ เขาแค่ต้องการให้เธอเจ็บปวด เขาแค่ต้องการให้เธอเป็นทุกข์ แต่ทำไมทุกๆอย่างที่เขาเคยพูดกลับเป็นเขาเองที่ต้องเป็นฝ่ายเจ็บปวด เพียงแค่เธอบอกว่าเธอไม่ได้รักเขา ไม่อยากจะแต่งงานกับเขา ก้อนเนื้อหน้าอกข้าง
ตอนที่ 38 “พี่อยากจะขอโอกาสจากตะวันให้พี่ได้แก้ตัวใหม่ได้ไหม?…พี่ขอโทษที่พี่ทำตะวันเจ็บ พี่ขอโทษสำหรับทุกๆอย่างที่ทำไม่ดีกับตะวัน” “……” ทานตะวันไม่ได้ตอบ ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อคลอเบ้ามองหน้าคนใจร้ายที่คอยแต่จะทำร้ายเธอตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอปล่อยให้หยาดน้ำตาใสๆรินไหลลงมาอาบแก้มอยู่แบบนั้น ตอนนี้เธอกำลังสับสน เธอกำลังกลัวและระแวงไปหมด ไม่รู้ว่าคนอย่างเขาจะมาไม้ไหนกับเธอเพราะเดี๋ยวเขาก็ดีเดี๋ยวเขาก็ร้าย เธอกลัวว่าจะต้องมาเจ็บปวดเพราะคนแบบเขาอีก ใบหน้าคมโน้มลงมาจูบริมฝีปากของเธออีกครั้งอย่างแผ่วเบา ครั้งนี้เขาอ่อนโยนมากกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมาซึ่งคอยเอาแต่จะสร้างแต่ความเจ็บปวดให้เธอ เขาบดคลึงกลีบปากนุ่มช้าๆอย่างละเมียดละไม ริมฝีปากหนากดจูบอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอซ้ำๆอยู่แบบนั้น และมอบความอ่อนโยนให้เธอผ่านสัมผัสอันหนักหน่วงในรสจูบของเขา ก่อนจะพรมจูบและหอมเธอไปทั่วทั้งใบหน้า ธารารธรเลื่อนริมฝีปากลงไปซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นของเธอเบาๆ แล้ววกกลับมาจูบริมฝีปากเธออีกซ้ำๆอยู่แบบนั้นหลายครั้ง ราวกับจะให้สัมผัสที่อ่อนโยนของเขาบอกว่ารักเธอแทนคำพูดของเขา ~เช้าว
ตอนที่ 39 เมื่อทุกคนรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว คุณนายดารินทร์และท่านธีระก็เรียกให้ธาราธรและทานตะวันไปพบที่ห้องรับแขก เพื่อจะได้ปรึกษาหารือกันเรื่องงานแต่งงานที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด “ตกลงตะวันยอมแต่งงานกับพี่เขื่อนเขาแล้วใช่ไหมลูก” ท่านธีระถามขึ้นเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว “เอ่อ…ค่ะคุณพ่อ” “พ่อขอบคุณนะลูกที่หนูให้โอกาสลูกชายของพ่อได้ดูแลหนู” น้ำเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความห่วงใยเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เรื่องวันเวลาล่ะ ยังจะถือเอาฤกษ์สะดวกอยู่ไหมเขื่อน” ผู้เป็นพ่อหันไปถามลูกชายเพียงคนเดียวที่เอาแต่ยกยิ้มชอบใจขึ้นมาบ้าง “ผมตกลงกับน้องว่าภายในสามเดือนนี้ครับคุณพ่อ” “อืม ก็ยังดีกว่าภายในสองอาทิตย์เพราะนั่นมันก็เร็วเกินไป” “หลังจากนี้เขื่อนต้องดูแลน้องให้ดีๆนะลูก และที่สำคัญเขื่อนกับตะวันจะต้องแยกห้องนอนกันจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน ในระหว่างนี้เขื่อนต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับน้องเด็ดขาด!” คุณนายดารินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น “อะไรนะครับคุณแม่!! ผมไม่ทำแบบนั้นแน่ๆครับ!” “แค่สามเด
ตอนที่ 47 (จบบริบูรณ์) ~ 4 ปีผ่านไป ~ “โสนน้อยเรือนงามของลุงภูผาอยู่ไหนน๊า… ไหนใครเอ่ยบอกว่าอยากได้ชุดเจ้าหญิงเอลซ่า วันนี้ลุงภูผาได้มาตั้งสามชุดแน่ะสวยๆทั้งนั้นเลย” “ลุงภูผามาแล้ว…!!” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ ศุภรดา ศิรชล หรือน้องโสน (สะ-โหน) วัยสามขวบครึ่งรีบวิ่งแจ้นออกมาหาลุงภูผา ก่อนเขาจะก้มลงไปอุ้มสาวน้อยชูขึ้นมาแนบอกด้วยความรักและเอ็นดู “ไหนชุดเจ้าหญิงเอลซ่าของโสนล่ะคะลุงภูผา” “หื้ม…ต้องหอมแก้มลุงก่อนนะคะถึงจะได้เห็นชุดสวย” ฟอด ฟอด!! “แก้มลุงภูผาหอมชื่นใจจังเลยค่ะ” “แหม๋…พอได้ยินเรื่องของฝากนี่รู้งานเลยนะลูก” ทานตะวันพูดขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวตัวน้อยกำลังออดอ้อนคุณลุงภูผา โสนติดลุงภูผาของเขามากเพราะมักจะคอยได้ของเล่น ของกิน และชุดสวยๆจากลุงภูผาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะอยากได้อะไรเธอก็มักจะออดอ้อน และภูผาเองก็มักจะตามใจหลานสาวตัวน้อยๆคนนี้เสมอจนโสนเองได้ใจจนเคยตัว และภูผาจึงกลายเป็นแขกคนสำคัญประจำบ้านศิรชลไปแล้ว “วันนี้พี่ภูอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันที่นี่นะคะ” “ครับ” ทานตะวันและภูผานั่งคุยกันภายในห้องรับแขก ส่วนคุณนายดารินทร์ ท่านธีระและขิมเดินท
ตอนที่ 46 …1 เดือนต่อมา… ~วันแต่งงาน~ ขบวนขันหมากตั้งขบวนร้องเพลงแห่เสียงดังขับขานมาตั้งแต่ด้านหน้าของไร่ธาราธร ทุกคนสนุกสนานครื้นเครงต่างร้องเพลงขับขานดังก้องไปทั่วท้องถนน วันนี้เป็นฤกษ์งามยามดีของคู่บ่าวสาวป้ายแดง ธาราธรเดินขบวนขันหมากตามประเพณีไทยเพื่อเข้าสู่พื้นที่ภายในไร่องุ่นอันกว้างขวางที่จัดเตรียมงานไว้อย่างอลังการ แขกเหรื่อในงานต่างเริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแขกผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดและกลุ่มเพื่อนๆของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงที่ทั้งสองเชิญมา เจนจิราและเจตนิพัทธ์ก็มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย แม้ตัวเจตนิพัทธ์เองจะอกหักและไม่ค่อยจะกินเส้นกับเจ้าบ่าวป้ายแดงสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังคงมาแสดงความยินดีกับคนที่ตัวเองแอบรักอย่างจริงใจ นอกจากนี้ยังมีภูผาที่มาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะตัดขาดความสัมพันธ์การเป็นเพื่อนระหว่างเขากับธาราธรไป อย่างน้อยตอนนี้เขาก็พอจะยอมรับความจริงได้บ้างแล้ว ในเมื่อทานตะวันและเพื่อนของเขารักกัน หากทั้งสองตัดสินใจที่จะแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเขาก็ควรจะยินดีกับทั้งสองคน วัน
ตอนที่ 45 ธาราธรเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่าคนตัวเล็กนอนอยู่บนเตียงนอน เขาเดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้าทานตะวันที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม “นอนอย่างกับคนไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลยนะยัยตัวแสบ” ธาราธรบ่นเบาๆคนเดียวก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากมนเกลี้ยงเกลาของเธอเบาๆอย่างรักใคร่หวงแหนก่อนจะเลื่อนริมฝีปากหนาลงมาประกบริมฝีปากอวบอิ่มของเธอเบาๆ เขาอดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบเธอ บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอทำของใส่หรือเปล่าเขาถึงได้หลงหัวปักหัวปำขนาดนี้ ธาราธรยังคงจูบริมฝีปากเธอเบาๆอย่างอ้อยอิ่งอยู่แบบนั้นจนคนตัวเล็กเริ่มรู้สึกตัว “อื้อ” “ตื่นแล้วหรอ” “พี่เขื่อน...เข้ามาทำไมคะ” “พี่เอาไอ้นี่มาให้ตะวันตรวจน่ะ” ธาราธรยื่นที่ตรวจครรภ์ให้กับทานตะวันก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานให้กับเธอ “นี่มัน...ที่ตรวจครรภ์นี่คะ!” “ใช่ครับพี่อยากให้ตะวันลองตรวจดู!!” “ตรวจทำไมเหรอคะ?” “คุณแม่บอกว่าอาการที่ตะวันเป็นอยู่ตอนนี้ เหมือนตอนที่คุณแม่...ท้อง” “ทะ ท้องเหรอคะ” “อื้ม” “แล้วถ้าตะวัน ทะ ท้องขึ้นมาจริงๆ ตะวันจะเลี้ยงลูกได้ไหมคะ ตะวันจะ
ตอนที่ 44 ~ 2เดือนผ่านไป~ หลังจากเหตุการณ์วันนั้นที่ห้องอาหารของโรงแรมดัง อาทิตย์ต่อมาโซเฟียก็เข้ามาหาธาราธรที่ไร่องุ่นแต่ครอบครัวของธาราธรไม่มีใครต้อนรับเธอ โดยเฉพาะคุณนายดารินทร์ที่ขัดขวางทุกอย่าง เพราะไม่อยากให้โซเฟียเข้ามามีบทบาทในชีวิตของลูกชายอีก จึงจำเป็นจะต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะผู้หญิงอย่างโซเฟียอาจจะมาสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตคู่ของธาราธรและทานตะวันที่ซึ่งกำลังจะแต่งงานกันในเดือนหน้านี้ คุณนายดารินทร์เลยสั่งให้คนงานในไร่ห้ามโซเฟียเข้ามาภายในไร่ธาราธรเด็ดขาด ถ้าใครปล่อยให้เข้ามาได้โทษคือไล่ออกสถานเดียว ทางด้านโซเฟียเองเมื่อรู้ว่าธาราธรกำลังจะแต่งงานกับทานตะวัน และตัวเธอเองแทบจะมองไม่เห็นทางไหนเลยสักทางที่จะสามารถแย่งเอาชายหนุ่มกลับมาได้ เพราะตอนนี้หัวใจของธาราธรมีให้กับผู้หญิงที่ชื่อทานตะวันเพียงแค่คนเดียว โซเฟียเลยเลือกที่จะยอมถอยออกมาดีกว่าที่จะดันทุรัง ช่วงนี้ภายในไร่ธาราธรกำลังยุ่งๆเรื่องเตรียมงานแต่ง ทั้งตัวธาราธรและทานตะวันเองก็วุ่นวายกับการเลือกชุดเลือกการ์ดแต่งงานและถ่ายพรีเวดดิ้ง เพราะงานแต่งงานของเจ้าของไร่องุ่นที่กว้างขวางที่สุด
ตอนที่ 43 โซเฟียยอมลุกออกมานั่งที่โต๊ะของตัวเองแต่ก็ยังไม่วายคอยเฝ้ามองดูคนสองคนที่กระหนุงกระหนิงกันเป็นพิเศษจนเธอรู้สึกหมั่นไส้ จากที่ไม่ค่อยชอบทานตะวันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเกลียดเด็กคนนี้มากกว่าเข้าไปอีก ธาราธรเองก็ดูเปลี่ยนไปเยอะมาก และที่เขาเปลี่ยนไปก็คงจะเป็นเพราะเด็กสาวคนนี้ ไหนจะท่าทางที่ดูเอาอกเอาใจเด็กสาวนั่นอีก คงจะหลงเด็กคนนี้ไม่เบาเลยสินะ โซเฟียได้แต่คิดในใจอย่างหมั่นไส้ “คงจะแอบแซ่บกันแล้วล่ะสิ!” โซเฟียพูดขึ้นเบาๆคนเดียวอย่างเหยียดๆ ธาราธรคอยตักอาหารจานโน้นทีจานนี้ทีให้กับคนตัวเล็กอย่างเอาใจ ตอนนี้หน้าตาที่ดูเรียบเฉยจนดูเย็นชาของเธอมองจากดาวอังคารเขาดูออกว่าเธอกำลังโกรธเขา จากที่จะพาเธอออกมาหาอะไรทานกันข้างนอกเหมือนกับคู่รักทั่วๆไป แต่กลับต้องมาเจอกับบุคคลที่ไม่อยากจะเจอเลยพลอยทำให้เสียบรรยากาศไปหมด “ตะวันอิ่มแล้วค่ะ” มือเรียวสวยรวบช้อนก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มโดยไม่ยอมมองหรือสบตากับคนตรงหน้า และเธอก็ไม่สนใจเขา “ทำไมอิ่มเร็วจังเพิ่งทานไปนิดเดียวเอง” “ตะวันทานไม่ลงค่ะ” “ตะวันโกรธอะไรพี่หรือเปล่า?
ตอนที่ 42 ธาราธรถอนตัวตนอันใหญ่โตของเขาออกจากร่องสวาทของเธอ ก่อนจะมองดูน้ำรักขาวขุ่นผลงานของตัวเองที่ไหลย้อนออกมาจากร่องรักของเธออย่างไม่วางตา เขาพอใจกับผลงานชิ้นเอกของตัวเองก่อนจะยกยิ้มมุมปาก สายตาคมกริบเหลือบมองไปเห็นใบหน้าหวานของเธอที่แดงซ่านด้วยความอายอย่างน่ารัก ก่อนคนตัวเล็กระรีบเบือนหน้าหนีไปด้วยความอับอาย “ไม่ต้องอายพี่หรอกเพราะร่างกายทุกส่วนของตะวัน…พี่เห็นมาหมดแล้ว” ‘บ้าจริง ทำไมหัวใจของเธอต้องเต้นแรง ร่างกายของเธอร้อนรุ่มทุกครั้งที่เขาสัมผัส อีกทั้งเธอยังไม่เคยที่จะปฏิเสธเขาได้เลย’ ทานตะวันได้แต่คิดในใจอย่างนึกอาย.. “ที่ผ่านมาตะวันเจ็บมากใช่ไหม?” “……” ทานตะวันไม่ตอบเธอทำได้แค่มองสบตาคนตัวโตที่ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ที่ผ่านมาตั้งแต่ตอนเธอยังเด็ก ตอนนั้นเธออายุ8ขวบ เขาเองอายุ18ปี อายุของเขากับเธอห่างกัน10ปี เขาคิดแค่ว่าเขาเกลียดเธอ เกลียดเด็กที่พ่อแม่รับมาอุปการะ เกลียดเพราะคิดว่าเธอจะมาเป็นภาระให้กับครอบครัว เกลียดเพราะกลัวเธอจะมาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากเขาและน้องสาวของเขา ทั้งที่เธอเองเป็นเด็กดี และน่ารัก
ตอนที่ 41 หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จสรรพแล้ว ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย ตะวันเองก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนเสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้น ก๊อก ก๊อก ก๊อก!! “ตะวันจ้ะ ตะวัน” ขิมเรียกตะวันอยู่หน้าห้อง สักพักเพียงไม่นานทานตะวันก็เดินออกมาเปิดประตู “พี่ขิมมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ตะวันมาดูหนังเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิจ้ะ คืนนี้ก็นอนเป็นเพื่อนพี่ด้วยเลย…พอดีพี่อยากดูหนังผีน่ะ แต่ไม่กล้าดูคนเดียว แหะแหะ” ขิมเอ่ยชวนขึ้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มแหยๆให้ตะวัน “ได้เลยค่ะ งั้นพี่ขิมรอตะวันแป้บนึงนะคะ เดี๋ยวตะวันเข้าไปเอาเสื้อคลุมก่อนค่ะ” “จ้า” หลังจากทานตะวันออกไปดูหนังผีเป็นเพื่อนขิมที่ห้องไม่นานนักธาราธรก็แอบเข้ามาในห้องของเธอ เขาตั้งใจไว้ว่ายังไงคืนนี้เขาจะจับเธอกินให้ได้ ไม่อย่างงั้นเขาคงนอนไม่หลับทั้งคืนแน่ๆ แต่สิ่งที่ตั้งใจไว้กลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เพียงแค่ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในห้องแต่กลับไม่พบคนตัวเล็ก ก่อนเขาจะหันไปเปิดไฟและเดินสำรวจดูทุกซอกทุกมุมแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของเธอ อารมณ์หงุดหงิดไม่พอใจเริ่มประเดประดังเข้ามาท
ตอนที่ 40 ภูผาเดินออกมาจากไร่องุ่นและขับรถกระชากออกไปอย่างรวดเร็วตามอารมณ์โมโหของตัวเองที่ถึงขีดสุด เขาโกรธที่ธาราธรเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวหักหลัง ตลอดเวลาคอยกันท่าเขากับตะวันมาตลอด ปากบอกว่าเกลียด ปากบอกว่าไม่ชอบ แต่สุดท้ายกลับกลืนน้ำลายตัวเอง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ธาราธรตัวเขาเองคงจะไม่เจ็บถึงขนาดนี้ “คุณเขื่อน ตะวันเดินเองได้ค่ะ” ทานตะวันพูดขึ้นเมื่อมือหนาของอีกคนบีบข้อมือของเธอกึ่งเดินกึ่งลากเข้ามาภายในบ้าน “ตาเขื่อนนั่นทำอะไรลูก แขนน้องแดงหมดแล้วนะ!” คุณนายดารินทร์พูดขึ้นเมื่อเห็นธาราธรดึงกระชากแขนทานตะวันเข้ามาในบ้าน “คุณแม่ก็ถามลูกสาวตัวดีของคุณแม่ดูสิ ว่าทำไมไปยืนกอดกันกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ผัวตัวเองแบบนั้น” “นี่มันเรื่องอะไรกันลูกตะวัน” “ไม่ใช่แบบนั้นนะคะแม่ดา ตะวันไม่ได้คิดอะไรกับพี่ภูนะคะ ตะวันคิดกับพี่ภูแค่พี่ชายเท่านั้น พี่ภูเขาแค่ขอกอดตะวันในฐานะน้องสาวเป็นครั้งสุดท้าย ตะวันก็เลย...” “ให้มันกอด เหอะ!” ธาราธรพูดแทรกขึ้นมาโดยที่พยายามข่มอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเองเอาไว้ เขาโกรธ เขาหึง เขาหวงทำไมเ
ตอนที่ 39 เมื่อทุกคนรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว คุณนายดารินทร์และท่านธีระก็เรียกให้ธาราธรและทานตะวันไปพบที่ห้องรับแขก เพื่อจะได้ปรึกษาหารือกันเรื่องงานแต่งงานที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด “ตกลงตะวันยอมแต่งงานกับพี่เขื่อนเขาแล้วใช่ไหมลูก” ท่านธีระถามขึ้นเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว “เอ่อ…ค่ะคุณพ่อ” “พ่อขอบคุณนะลูกที่หนูให้โอกาสลูกชายของพ่อได้ดูแลหนู” น้ำเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความห่วงใยเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เรื่องวันเวลาล่ะ ยังจะถือเอาฤกษ์สะดวกอยู่ไหมเขื่อน” ผู้เป็นพ่อหันไปถามลูกชายเพียงคนเดียวที่เอาแต่ยกยิ้มชอบใจขึ้นมาบ้าง “ผมตกลงกับน้องว่าภายในสามเดือนนี้ครับคุณพ่อ” “อืม ก็ยังดีกว่าภายในสองอาทิตย์เพราะนั่นมันก็เร็วเกินไป” “หลังจากนี้เขื่อนต้องดูแลน้องให้ดีๆนะลูก และที่สำคัญเขื่อนกับตะวันจะต้องแยกห้องนอนกันจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน ในระหว่างนี้เขื่อนต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับน้องเด็ดขาด!” คุณนายดารินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น “อะไรนะครับคุณแม่!! ผมไม่ทำแบบนั้นแน่ๆครับ!” “แค่สามเด