สามเดือนต่อมา“ยังไม่นอนเหรอลูก”ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มประจักรจึงเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นลูกสาวนั่งอยู่ที่ห้องโถ่งของบ้าน“ยังค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้ม“ทำอะไรอยู่เหรอ” ผู้เป็นพ่อยังคงถามต่อ“มีนกำลังดูอยู่ค่ะว่าเตรียมของครบหรือเปล่า” อมีนาตอบผู้เป็นพ่อเพราะพรุ่งนี้เธอมีนัดที่โรงพยาบาล“ถ้าขาดเหลืออะไรก็โทรมาบอกพ่อได้นะ” ประจักรตั้งใจที่จะไปส่งและกลับมารออยู่ที่บ้านถึงแม้ในใจจะตื่นเต้นแค่ไหนก็ตาม“ค่ะ”“ถ้าเสร็จแล้วก็รีบไปนอนนะ พรุ่งนี้จะได้ไปแต่เช้า” คุณพ่อพูดย้ำกับลูกสาวอีกครั้ง“ค่ะพ่อ”อมีนาตรวจเช็คของภายในกระเป๋าซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อความมั่นใจว่าเธอเตรียมทุกอย่างครบแล้วจริงๆ แต่ความตื่นเต้นก็ทำให้เธอต้องเช็คแล้วเช็คอีกเพราะกลัวว่าจะลืมอะไรสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจและตื่นเต้น พรุ่งนี้แล้วสินะที่เธอจะได้เห็นหน้าลูกหลังจากที่เฝ้ารอมาตลอดทั้งเก้าเดือนเช้าวันต่อมาวันนี้เป็นวันที่อมีนาปิดร้านแต่เธอกลับตื่นเต้นและตื่นเช้ากว่าทุกวัน เพราะต้องไปแอดมิดผ่าคลอด เนื่อจากเธอท้องลูกแฝดและคุณหมอที่ดูแลก็ประเมินให้ผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูก“เป็นยังไงบ้างมีน”
หลังจากที่ออกจากห้องผ่าตัดอมีนาก็ถูกย้ายมาพักฟื้นอยู่ที่ห้องไอซียูเพื่อเฝ้าดูและติดตามอาการหลังผ่าคลอดอย่างใกล้ชิด ถึงจะเป็นโรงพยาลเล็กๆ ของรัฐบาล แต่เจ้าหน้าที่ก็ดูแลและให้คำแนะนำเป็นอย่างดีอมีนานอนมองซ้ายมองขวาร่างกายเริ่มรับรู้ถึงความเจ็บปวดหลังการผ่าได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อยาเริ่มหมดฤทธิ์ ความเจ็บปวดก็เริ่มรุนแรงมากขึ้นจนเธอทนไม่ไหวหญิงสาวยกมือขึ้นส่งสัญญาณเรียกพยาบาลที่อยู่ภายในห้องให้มาหา เมื่อความเจ็บปวดทวีคูณเพิ่มมากขึ้นจนเธอไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้อีก“มีอะไรหรือเปล่าคะ” พยาบาลภายในห้องไอซียูเดินเข้ามาถามทันที โดยที่ไม่ปล่อยให้คนไข้ต้องรอนาน“ปวดแผลค่ะ ปวดมากๆ เลย”อมีนาบอกพร้อมกับน้ำตา ตอนนี้เธอไม่สนเลยว่าคนอื่นจนมองเธอยังไง เธอรู้แค่ว่าเธอปวดแผลมากๆ ปวดจนทนไม่ไหว ไม่เหมือนกับในรีวิวผ่าคลอดที่เธออ่านมาเลย ที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าสบายไม่เจ็บ“เดี๋ยวจะฉีดยาแก้ปวดให้นะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้อาการก็จะดีขึ้น ต้องพยายามลุกและเดินให้เยอะๆ นะคะ” พยาบาลให้ความช่วยเหลือและแนะนำเป็นอย่างดี“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวนอนนิ่งด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณไม่นานพยาบาลก็เดินกลับมาพร้อมกับถาด
ห้าปีต่อมาตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาไคล์ตัลให้ความสนใจกับงานมากขึ้น ไม่เที่ยว ไม่ปาร์ตี้ และไม่เข้าใกล้ผู้หญิงคนไหน ตั้งแต่เกิดเรื่องกับครอบครัวอมีนาในวันนั้น เขาก็สั่งให้ลูกน้องตามหาเธอตลอด ตามหาทุกวันแต่ก็ไม่มีใครเจอหรือพบข้อมูลอะไรส่วนเรื่องพะแพงที่เป็นต้นเหตุเขาก็ได้เซ็นใบหย่าเป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้ว่าไคล์ตัลจะโกรธแค้นแต่ทางครอบครัวก็ได้ขอร้องเอาไว้ เพราะพะแพงก็เป็นลูกสาวของนักการเมืองชื่อดังที่คอยช่วยเหลือด้านธุรกิจของครอบครัวไคล์ตัลในตอนนี้ชีวิตของไคล์ตัลมีแค่งาน เขาลงทุนเปิดโกดังสินค้าขนาดใหญ่ที่จังหวัดเล็กๆ เนื่องจากราคาที่ดินค่อนข้างถูก เขาจึงเลือกที่จะมาเปิดโกดังที่นี่ ถึงจะใช้เวลาเดินทางนานพอสมควรแต่เขาก็ไม่เปลี่ยนใจและเขายังไม่พร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านหลังใหญ่ชายหนุ่มมีโกดังสินค้าอยู่หลายที่เขาจะชอบเดินทางไปตรวจดูสินค้าด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลเขาก็ไปตรวจดูด้วยตัวเองทุกครั้ง“ผ่าน!” ร่างหนาหันไปบอกลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ไคล์ตัลใช้เวลาเกือบทั้งคืนเพื่อนั่งรถมาตรวจสินค้าที่เข้าใหม่ในตอนเช้า“ครับ” คชาก้มหัวรับคำสั่งก่อนจะสั่งลูกน้องให้นำสิน
ไคล์ตัลให้คนขับรถขับวนอยู่ภายในเมืองซึ่งจะเน้นย้ำเฉพาะสถานที่ที่เขาเจอผู้หญิงคนนั้นที่มีหน้าตาท่าทางคล้ายกับอมีนา หญิงสาวที่เขาตามหามาตลอดห้าปีนี่เป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่คุณชายมาเฟียรู้สึกมีความหวังและเขาก็มั่นใจว่าผู้หญิงที่เขาเห็นคืออมีนาจริงๆ และเขาไม่ได้ตาฝาดหรือคิดไปเองอย่างแน่นอน“ตอนนี้ก็จะเที่ยงแล้วคุณชายไปหาอะไรทานก่อนไหมครับ” คชาเสนอความคิดเห็นขึ้นมาหลังจากที่นั่งรออยู่บนรถมาหลายชั่วโมงและเจ้านายก็ยังไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เช้าแล้ว“….”มีเพียงความเงียบที่เป็นคำตอบ เพราะไคล์ตัลเอาแต่นั่งจ้องไปที่ประตูโรงเรียนที่เขาเจอหญิงสาวเมื่อเช้าอย่่างตั้งใจไม่ยอมละสายตามองไปทางไหนเลย หัวใจแกร่งได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเมื่อต้องมานั่งรอใครสักคน ในใจก็ได้แต่่ภาวนาขอให้เป็นอมีนาหญิงสาวที่เขาเฝ้ารอมาตลอด“คุณชายครับ” เมื่อไร้การตอบรับคชาจึงเรียกเจ้านายหนุ่มอีกครั้ง“มีอะไร” คุณชายมาเฟียถามกลับด้วยท่าทางหงุดหงิดเมื่อมีคนรบกวนในขณะที่เขากำลังตั้งใจรอ“คุณชายไปทานข้าวก่อนไหมครับหรือจะให้ผมสั่งมาทานบนรถจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรอ” คชาถามเจ้านายด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้จะไม่เชื่อในสิ่งที่เจ้า
เช้าวันต่อมาอมีนาตื่นเช้าตามปกติเพื่อมาทำอาหารให้ลูกๆ ทานก่อนไปโรงเรียน พอทำอาหารเสร็จหน้าที่ต่อมาของเธอก็คือการปลุกลูกๆ ให้ตื่น“มิรา มาร์เวลครับ ถึงเวลาตื่นนอนแล้วค่ะ” อมีนาปลุกลูกแฝดด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าจะปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่นกันเลย“ขอนอนต่ออีกนิดได้ไหมคะ” มิราพูดขึ้นมาฝนขณะที่นอนหลับตาอยู่“ไม่ได้ค่ะ สายแล้วต้องไปอาบน้ำแปรงฟัน แล้วก็ทานข้าวก่อนไปโรงเรียนค่ะ” คุณแม่คนสวยบอกลูกๆ อย่างมีเหตุผล เพราะเธอสอนลูกๆ มาตลอดไม่ว่าจะทำอะไรทุกอย่างต้องมีเหตุผลเสมอ“ค่ะ” มิรางัวเงียตอบก่อนจะลุกขึ้นนั่ง“พี่มาร์เวลตื่นได้แล้วค่ะ” จากนั้นก็หันไปปลุกพี่ชายที่นอนหลับสบายไม่ยอมตื่น เพราะเป็นหน้าที่ของคนที่ตื่นก่อนต้องปลุกคนที่ยังไม่ตื่น“โอเคๆ” มาร์เวลงัวเงียตอบก่อนจะลุกขึ้นนั่งข้างๆ น้องสาวอมีนามองลูกๆ ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เธอโชคดีที่สอนเด็กๆ ให้นอนและตื่นเป็นเวลามาตั้งแต่เด็ก ถึงจะต้องเข้ามาปลุกเด็กๆ เอง ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณแม่อย่างเธอ เพียงแค่เธอเข้ามาปลุกเด็กๆ ก็รู้เวลาและหน้าที่ของตัวเองแล้วสองแฝดลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องน้ำ อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ทำทุกอย่างตามที่คุณแม่เค
“ขอบคุณนะคะ แต่ไม่จำเป็น!”“ทำไมจะไม่จำเป็น ในเมื่อเด็กทั้งสองคนก็เป็นลูกผมเหมือนกัน” ไคล์ตัลรีบเดินตามมาที่รถ“คุณพูดเรื่องอะไรคะ” ใบหน้าสวยเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย พร้อมทั้งแสดงท่าทางไม่รู้เรื่องอะไรในสิ่งที่เขาพูดออกมา“ก็เด็กสองคนนี้เป็นลูกผม” ไคล์ตัลยังคงยืนยันคำตอบเดิมด้วยความมั่นใจ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปตรวจอะไรที่โรงพยาบาลทั้งนั้น เพราะหน้าตาเด็กทั้งสองคนเหมือนเขาอย่างชัดเจน“ขอโทษนะคะ เด็กสองคนนี้เป็นลูกของฉันค่ะ” อมีนาไม่ยอมให้ใครมาแย่งลูกไปจากเธออย่างแน่นอนและถ้าหากว่าเขารักเธอจริงห้าปีที่แล้วเขาต้องดูแลปกป้องเธอให้ดีกว่านี้ ไม่ปล่อยให้เธอโดนทำร้ายจนต้องสูญเสียคนในครอบครัวไปแบบนี้หรอกถึงแม้จะรักเขามากแค่ไหนแต่ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ทำให้เธอได้เรียนรู้และเข้มแข็งมากขึ้น ในชีวิตของเธอไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับลูกๆ อีกแล้ว“แต่ผมเป็น…” คุณชายมาเฟียพูดยังไม่ทันจบก็โดนอีกฝ่ายพูดแทรกขึ้นมาก่อนจนทำให้เขาต้องหยุดพูด“ขอโทษนะคะพอดีฉันมีงานต้องทำ ขอตัวก่อนนะคะ” อมีนารีบพาลูกๆ ขึ้นรถ แต่ก็โดนชายหนุ่มยืนขวางทางเอาไว้ไม่ยอมให้เธอไป“แต่ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” ไคล์ตัลอยากจะคุยกับเธอให้รู
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาชีวิตที่ปกติสุขของอมีนาก็เริ่มวนกลับมาเจอเรื่องราวเดิมๆ อีกครั้ง เมื่อคุณชายมาเฟียมาปรากฏตัวที่บ้านของเธอในช่วงเวลาวันหยุด“ใครอะแก” สาวสวยนั่งรอเมนูที่เธออยู่หน้าก็หันไปเจอชายหนุ่มที่ทั้งหล่อทั้งดูจนใครๆ ต่างก็หันมอง“นั่นน่ะสิหล่อมากเลย” เพื่อนอีกคนก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย นานๆ จะเจอผู้ชายหล่อๆ ราวกับพระเอกในซีรีส์เสียงลูกค้าพูดคุยกันอยู่หน้าร้านในขณะที่อมีนากำลังชงน้ำให้ลูกค้าอยู่ แต่หูของเธอดันไปได้ยินบทสนทนาของลูกค้าพอดีตึกตัก! ตึกตัก!หัวใจดวงน้อยเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมานอกอกเมื่อเห็นชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขายาวสีดำ ซึ่งดูแตกต่างจากเวลาที่เขาใส่ชุดทำงานเป็นอย่างมาก นานมากแล้วที่เธอไม่ได้เห็นเขาแต่งตัวสบายๆ แบบนี้ถึงจะใส่เสื้อยืดแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อและดูดีลดน้อยลง จะมีผู้ชายสักกี่คนที่แต่งตัวง่ายๆ สบายๆ แต่ยังหล่อได้แบบเขาอีก“รับน้ำอะไรคะ” อมีนาพยายามตั้งสติจะได้ไม่หลงไปกับความหล่อของเขาแล้วถามไปตามปกติตามแบบฉบับแม่ค้าขายน้ำปั่น“มีน้ำอะไรบ้างครับ” คุณชายมาเฟียถามขึ้นมาพร้อมกับมองเข้าไปภายในบ้านหลังเล็กเผื่อว่าจะเจอเด็กๆ เล่นอยู่ข้างใน“มีเมนูตา
หนึ่งเดือนต่อมาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนคุณชายก็ยังคงมาหาอมีนาที่บ้านทุกวันและทุกครั้งที่มาก็จะมีของเล่นเด็กติดไม้ติดมือมาด้วยทุกครั้งถึงแม้บางวันไคล์ตัลจะติดงานหรือว่ามีธุระด่วนทำให้เขาไม่ได้มาง้อเธอ เขาก็จะสั่งให้ลูกน้องซื้ออาหารดีๆ และของเล่นแพงๆ มาส่งที่บ้าน ซึ่งแน่นอนว่าคนขี้เกรงใจแบบอมีนาต้องรับเอาไว้อย่างแน่นอน เพราะเธอรู้ดีว่ามันเป็นหน้าที่ ถ้าเธอปฏิเสธไม่รับของคนที่มาส่งอาจจะเดือดร้อนก็ได้ สุดท้ายเธอก็ต้องจำใจยอมรับของเอาไว้ ถึงจะไม่เต็มใจรับเอาไว้ก็ตาม“มาส่งของครับ” พนักงานส่งของคนเดิมมายืนรอที่หน้าบ้าน“เอ่อ…” หญิงสาวแสดงท่าทางอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูก เมื่อได้เห็นพนักงานส่งของคนเดิม“รับไว้เถอะครับ ถือว่าช่วยผม” พนักงานส่งของทำหน้าเศร้าขอร้องเพราะมันคือหน้าที่“เฮ้อ~ วันนี้มาส่งอะไรคะ?” เมื่อปฏิเสธไม่ได้หญิงสาวจึงเลือกที่จะถามกลับ“เยอะเหมือนเดิมครับ” พนักส่งของไม่รู้จะตอบยังไง เพราะของที่มาส่งนั้นเยอะแยะไปหมดมีแทบจะทุกอย่างตั้งแต่ของใช้ไปจนถึงของเล่น“ขอบคุณนะคะ” อมีนากล่าวขอบคุณตามมารยาทก่อนจะเปิดดูของที่อยู่ภายในกล่อง“วันนี้คุณน้าส่งอะไรมาให้คะ” มิราถามขึ้นมาด้วยความตื่น
อมีนานั่งเงียบอยู่สักพักเพื่อคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น บางทีเธอก็มีส่วนผิดที่แกล้งพูดให้เขาอยากรู้ จนเขาต้องรีบขับรถมาหาเธอแบบนี้และในครั้งนี้เธอก็มีส่วนผิดไปด้วย จะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ได้“มีนมีเรื่องอะไรจะบอกพี่เหรอครับ”หลังจากที่นั่งเงียบและรอให้หญิงสาวใจเย็นลงสักพัก เขาจึงเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้งเพื่อว่าเธอจะยอมบอกหญิงสาวไม่ตอบอะไรมีเพียงความเงียบที่เป็นสิ่งปกคลุมบรรยากาศภายในห้อง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นเดินไปหยิบอะไรบางอย่างออกมา“มีนมีของจะให้ค่ะ”มือบางยื่นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ถูกห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสีน้ำเงิน ภายนอกดูเรียบหรูแต่ขนาดกล่องกลับเล็กจนน่าแปลกใจใบหน้าหล่อมองกล่องที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัยและแปลกใจในเวลาเดียวกัน แต่ภายในใจเขาก็คิดไปด้วยว่าอะไรจะอยู่ในกล่อง“เปิดดูสิคะ” หญิงสาวเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้ม เธอนั่งมองชายหนุ่มที่กำลังแกะกล่องของขวัญอย่างตั้งใจ“มีนท้องใช่ไหม”ทันทีที่แกะออกและได้เห็นแท่งเล็กๆ ที่อยู่ด้านในไคล์ตัลก็เดาได้ทันทีว่าต้องใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้อย่างแน่นอน“ค่ะ พี่ไม่ตื่นเต้นเหรอคะ” หญิงสาวพยักหน้าตอบก่อนจะถามกลับด้วยความแปลกใจ“ไม่ตื่นเต้น แต่พี่
เช้าวันต่อมาเป็นอีกวันที่อมีนาตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบชายหนุ่มที่อยู่ข้างกาย มีเพียงกระดาษโน้ตใบเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียงนอนมือบางยื่นไปหยิบกระดาษมาอ่าน เพราะคิดว่าคงจะเป็นข้อความจากชายหนุ่มที่เขียนฝากไว้ให้เธออย่างแน่นอน‘วันนี้พี่มีงานด่วน แล้วจะรีบกลับมาหานะครับ’ทันทีที่อ่านจบใบหน้าสวยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาเคยบอกเธอเอาไว้ว่าถ้าหากเขามีงานด่วนเขาจะเขียนข้อความเอาไว้จะได้ไม่ต้องรบกวนเวลานอนพักผ่อนของเธอหญิงสาวเก็บกระดาษไว้ในลิ้นชักก่อนจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะลงไปเล่นกับไมเนอร์ลูกชายคนเล็กลงมาเล่นกับไมเนอร์ได้สักพักอมีนาก็ขอตัวออกมาซื้อของข้างนอก โดยที่มีคนขับรถพาออกมาเช่นเคย เพราะเป็นคำสั่งของคุณชายที่สั่งเอาไว้ว่าห้ามให้เธอออกไปไหนมาไหนคนเดียวเด็ดขาด“ให้ผมลงไปซื้อให้ไหมครับ” คนขับรถเอ่ยถามเหมือนกับทุกครั้งตามหน้าที่ เพราะข้างนอกอากาศค่อนข้างร้อนมาก“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธก่อนจะเดินลงจากรถและตรงไปยังร้านขายยาที่อยู่ไม่ไกล“ซื้อที่ตรวจครรภ์หน่อยค่ะ” อมีนาเอ่ยบอกสิ่งที่เธอต้องการอย่างไม่ลังเล“ค่ะ”เมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยหญิงสาวก็หยิบของใส่ในกระเป๋าส
ห้าวันต่อมาและแล้วก็มาถึงวันที่ทุกคนจะต้องเดินทางกลับ หลังจากที่การเดินทางถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก เพราะเด็กๆ ติดใจอยากอยู่ต่อ งอแงไม่ยอมกลับ แต่อมีนาก็พูดคุยกับลูกๆ ให้เข้าใจ จนในที่สุดเด็กๆ ก็ยอมกลับแต่โดยดีคฤหาสน์หลังใหญ่กำลังวุ่นวายและทำอาหารรอต้อนรับเจ้าของบ้านหลังจากที่ไปเที่ยวกันนานหลายวัน ก่อนจะเดินทางกลับคุณหญิงได้โทรบอกแม่บ้านจัดเตรียมอาหารไทยเอาไว้ทั้งคาวและหวาน เพราะรู้ดีว่าทุกคนนั้นคิดถึงอาหารไทยมากแค่ไหนเดินทางมาถึงบ้านในช่วงบ่ายเด็กๆ ก็นอนหลับสบายมาตลอดทาง แต่ทว่าหน้าที่ของคนเห็นแม่เมื่อมาถึงบ้านก็ต้องเก็บของออกจากกระเป๋าให้เรียบร้อย“ทำอะไรอยู่ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องนอน“มีนเก็บของอยู่ค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำเพื่อลูกๆ และสามี“เหนื่อยไหมครับ พักก่อนก็ได้นะ” ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง เพราะสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่เธอไม่จำเป็นต้องทำเองด้วยซ้ำ แค่เรียกแม่บ้านมาทำให้ก็จบแล้ว“นิดหน่อยค่ะ”“หิวไหมครับ”หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบช่วงนี้เธอกินข้าวไม่ค่อยอร่อย ส่วนใหญ่จะเน้นของทานเล่นมากกว่าอาหาร“วัน
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาการเดินทางไปทำงานต่างประเทศไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อสำหรับไคล์ตัลอีกต่อไป เพราะการทำงานเป็นแค่เพียงเรื่องเล็กน้อย แต่การได้พาลูกๆ และคนในครอบครัวเที่ยวนั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าทำงานเพียงไม่กี่วันแต่อยู่เที่ยวต่อเกือบหนึ่งอาทิตย์ นานๆ จะได้พาลูกมาเที่ยวก็ต้องอยู่เที่ยวนานๆ ให้คุ้มค่ามากที่สุด“สนุกไหมครับ” ไคล์ตัลหันไปถามลูกๆ ที่เดินตามหลัง หลังจากที่พาไปเที่ยวสวนสนุกที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก“สนุกครับ” มาร์เวลตอบเสียงดัง“สนุกมากเลยค่ะ” ตามด้วยเสียงของมิราที่ยิ้มกว้างมาแต่ไกล“วันนี้เที่ยวสวนสนุกมาทั้เรางวันแล้ว เรากลับบ้านพักกันก่อนดีกว่านะคะ”“ค่ะ รอไมเนอร์โตก่อนแล้วเราค่อยพาไมเนอร์มาเที่ยวสวนสนุกกันอีกนะคะ” มิราสนุกจนอยากจะมาเที่ยวอีกครั้ง แต่ก็ติดตรงที่ว่าอยู่ไกล คงต้องรอน้องโตก่อนค่อยมาเที่ยวด้วยกันคงจะสนุกมากแน่ๆ“ได้ครับ ไว้พ่อจะพามาอีกนะ” ไคล์ตัลตอบลูกสาว“ถ้าคุณพ่อไปทำงานต่างประเทศแบบนี้อีกชวนมิรากับมาร์เวลไปเป็นเพื่อนได้นะครับ” มาร์เวลรีบเสนอตัวเองกับน้องสาวขึ้นมาทันที วันนี้อากาศหนาวหิมะตก ไมเนอร์ยังเด็กก็เลยต้องรอพี่ๆ อยู่ที่บ้านพัก“ได้ครับ” ไคล์ตัลหัวเร
หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่ชายหนุ่มไม่ไปทำงานอยู่นานหลายเดือน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องไปทำงานอย่างหนักหน่วงกันแล้ว เนื่องจากบริษัทเติบโตไปในทางที่ดีมากขึ้นและมีคู่ค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ไคล์ตัลก็เลยต้องได้ออกงานและเดินทางไปพบปะและพูดคุยกับคู่ค้าใหม่ๆ อยู่บ่อยครั้ง“เลิกงานแล้วเหรอคะ” อมีนาเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด“ครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ“วันนี้งานเยอะเหรอคะหรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า” อมีนายังคงถามต่อเพราะสีหน้าและท่าทางของไคล์ตัลยังคงแสดงออกอย่างชัดเจนเหมือนกับว่าเขากำลังมีปัญหาอะไรบางอย่าง“เปล่าครับ” ไคล์ตัลปฏิเสธ“แล้วทำไมถึงทำหน้าเคร่งเครียดแบบนี้ด้วยคะ” หญิงสาวยื่นแก้วน้ำดื่มเย็นๆ มาให้ชายหนุ่มได้ดื่ม เพื่อจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง“พอดีมีงานที่ต่างประเทศที่พี่จะต้องไปเคลียร์ แต่พี่ไม่อยากไป” ร่างหน้าดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนจะตอบหญิงสาว“ทำไมถึงไม่อยากไปล่ะคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย เพราะถ้าเป็นเรื่องงานเขาไม่น่าจะมีปัญหาอะไร“ถ้าไปก็ต้องไปหลายวัน พี่ไม่อยากห่างลูก” ไคล์ตัลตอบเสียงเบาตั้งแต่มี
เช้าวันต่อมาหลังจากกิจกรรมปั้มลูกคนสุดท้ายจบลงอมีนาก็หมดแรงและนอนหลับสบายจนลืมเวลาตื่น จนกระทั่งได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่เธอตั้งเอาไว้ในเวลาเก้าโมงเช้ามือบางยื่นไปหยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงดังรบกวนโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว“พี่ไคล์ตัล” หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มในขณะที่เธอนอนหลับตาอยู่และไม่รู้เลยว่าภายในห้องมีใครอยู่หรือเปล่า แต่ปกติในห้องนอนตอนเช้าก็มีแค่เธอกับเขาที่นอนด้วยกันทว่าในห้องกลับเงียบไร้เสียงตอบรับใดๆ อมีนาจึงลุกขึ้นนั่งและมองสำรวจรอบๆ ห้องนอนแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่ในห้อง“หายไปไหนนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ทำไมวันนี้เธอถึงได้นอนตื่นสายขนาดนี้นะ“สงสัยจะไปทำงานแล้วแน่เลย”อมีนาคิดไปในทางที่ดีเพราะเมื่อวานได้ยินชายหนุ่มบ่นว่าจะต้องไปทำงาน เธอรีบลุกจากเตียงนอนแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวทันทีเมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยอมีนาก็ลงมาหาลูกที่ห้องนั่งเล่น เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ไมเนอร์นั่งกำลังเล่นอยู่กับพี่เลี้ยง ส่วนมิราก
หนึ่งปีต่อมาบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ มีลูกๆ หลานๆ คอยเติมเต็มความสุขให้กันในครอบครัว“ไมเนอร์นอนหรือยังครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเบาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังกล่อมลูกนอนอยู่ แต่เอขก็ไม่มั่นใจว่าลูกหลับหรือยังเพราะมองไม่ค่อยถนัดชู่ววว~อมีนาส่งสัญญาณเพื่อให้อีกฝ่ายเงียบก่อน เพราะลูกกำลังจะเคลิ้มหลับถ้าหากมีเสียงดังรบกวนลูกอาจจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้คุณแม่คนสวยกล่อมลูกน้อยนอนจนหลับสนิทก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปหาชายหนุ่มที่ออกไปรออยู่ด้านนอกโชคดีที่อมีนาฝึกไมเนอร์ให้นอนและตื่นเป็นเวลา เธอพาลูกเข้านอนตอนสองทุ่ม ไมเนอร์ก็นอนยาวจนถึงเช้าได้อย่างสบาย ไม่ตื่นมางอแงกลางดึก“มีอะไรคะ” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนรออยู่“พี่มีของจะให้” มือหนาจูงมือหญิงสาวเข้าห้องนอนตัวเองทันทีใบหน้าสวยขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัยและแปลกใจในการกระทำของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรและยอมเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย“ชุดอะไรคะ”เมื่อเปิดดูของที่อยู่ในถุงแบรนด์เนมอมีนาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที ซึ่งเป็นชุดที่ดูไม่เหมือนชุดเลยสักนิด เนื้อผ้าก็บางโปร่งเวลาที่ใส่ก็คงจะเหมือนกับไม่ได้ใส่ เพราะถ้าใส
สองวันต่อมา“เก็บของเสร็จหรือยังลูก” คุณหญิงเดินเข้ามาถามเมื่อวันนี้อมีนาจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว“เสร็จแล้วครับ กำลังรอมีนเปลี่ยนชุดอยู่ครับ” ไตล์ตัลตอบคุณแม่ ไม่นานอมีนาก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเดรสยาวคลุมเข่า“งั้นแม่ลงไปรอข้างล่างนะ จะไปจ่ายค่าโรงพยาบาลให้” คุณหญิงบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกไป“คุณแม่ท่านใจดีกับมีนมากเลยนะคะ” อมีนาอดที่จะท้วงขึ้นมาไม่ได้และรู้สึกเกรงใจที่คุณหญิงทำทุกอย่างให้เธอขนาดนี้“ก็คุณแม่รักและเอ็นดูมีนไง” ไคล์ตัลกอดหญิงสาวแล้วช่วยพยุงเธอเดินมายังรถเข็นเนื่องจากแผลผ่าคลอดยังไม่ค่อยหายดีเท่าไหร่และอมีนาก็ยังรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ อยู่บ้าง เจ้าหน้าที่จึงมาช่วยเข็นรถให้เธอนั่ง“มีน…” เสียงใครบางคนเรียกอมีนาขึ้นมาในระหว่างที่มายืนรออยู่ที่หน้าห้องกุมารเวชกรรม“เพียงดาว” อมีนายิ้มกว้างออกมาเมื่อได้เห็นเพื่อนรักอย่างเพียงดาวหลังจากที่ไม่ได้เจอและไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปี“สวัสดีค่ะคุณชาย” เพียงดาวยกมือขึ้นไหว้อดีตเจ้านายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อนรัก“มาทำอะไรเหรอ” อมีนาถามเพื่อนรักด้วยความสงสัยเพราะตรงนี้เป็นตึกเด็กและเธอก็มายืนรอรับลูกชายกลับบ้าน“พาหลานมาหาหมอน่ะ
วันต่อมาหลังจากที่เมื่อวานทุกคนได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ก็ดีใจและตื่นเต้นกันใหญ่ ทำเอามิรากับมาร์เวลไม่อยากกลับบ้าน เพราะอยากจะเล่นกับน้องมากกว่า แต่ทุกคนก็ช่วยกันพูดให้เด็กๆ เข้าใจจนยอมกลับบ้านกันได้“ทำไมใส่ชุดนี้กันล่ะ” คุณตาถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเด็กๆ ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนทั้งๆ ที่วันนี้ไม่ใช่วันหยุด“มาร์เวลจะไปหาน้องครับ” มาร์เวลตอบขึ้นมาก่อนใคร“แต่วันนี้ต้องไปโรงเรียนนะครับ” คุณตาพยายามพูดด้วยเหตุผล“ไม่ไปครับ มาร์เวลอยากไปหาน้อง” มาร์เวลยังคงยืนยันคำตอบเดิม“มิราก็อยากไปหาน้องค่ะ” ตามมาด้วยเสียงของมิรา“งั้นเราไปหาน้องกันนะ ย่าไลน์บอกคุณครูให้แล้วว่าวันนี้มิรากับมาร์เวลไม่ไปโรงเรียน” คุณย่าพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี สรุปว่าวันนี้ทุกคนจะต้องไปที่โรงพยาบาลกันหมด“เย้ๆ ไปหาน้องกันครับ” มาร์เวลกับมิรากระโดดดีใจกันยกใหญ่ที่จะได้ไปหาน้องคุณตาได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับท่าทางของคุณย่ากับหลานๆ ที่ดูตามใจกันสุดๆ ไม่ว่าหลานจะพูดอะไรก็ตามใจทุกอย่างใช้เวลาไม่นานทุกคนก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาล ก่อนจะมุ่งตรงไปยังห้องวีไอพีที่เคยมาเมื่อวาน โดยที่มีมิรากับมาร์เวลเดินนำทางอยู่ตลอด“มาร์เวลกับมิรามาหาน้องแ