Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-02-23 11:57:09

เสิ่นซื่อที่กลับมาจากขุดผักป่ากับเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงกลับพบว่าลูกชายทั้งสองไม่อยู่ในบ้าน นางหาจนทั่วแล้วแต่หาลูกชายทั้งสองไม่พบ สวนหลังบ้านก็ไม่มี เมื่อไปดูในห้องเก็บฟืนถึงได้รู้ว่าตะกร้าสะพายหลังของลูกชายทั้งสองหายไป นี่ไม่เท่ากับว่าสองพี่น้องพากันขึ้นเขาไปหรือ

ลูกชายของนางยังไม่ทันได้หายดีก็ขึ้นเขาไปอีกแล้ว ด้วยความร้อนใจเสิ่นซื่อรีบออกไปตามหาทันที แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ก้าวขาออกไปพ้นประตูบ้านก็พบว่าสองพี่น้องจูงมือกันกลับมา และได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กหัวเราะคิกคักดังลอยมา เสิ่นซื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ

“เสี้ยวเอ๋อร์เจ้าพาน้องไปที่ใดมา ไม่ใช่ว่าแม่บอกให้เจ้าพักผ่อนหรือ เจ้ายังไม่หายดีด้วยซ้ำ เสียนเอ๋อร์เหตุใดเจ้าไม่ห้ามปรามพี่ชาย ไม่ใช่แม่บอกให้เจ้าอยู่ดูแลพี่ชายหรือ”

“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ข้าเป็นน้องชายเผื่อท่านแม่จะลืม ท่านพี่บอกว่าหายแล้ว อยากออกไปเดินเล่น พวกเราไม่ได้ไปไหนไกลเลยนะขอรับ ไปแค่ลำธารหลังบ้านเอง”

“เจ้าลูกคนนี้นี่ ไม่ใช่ว่าเจ้ารบเร้าให้พี่ใหญ่ของเจ้าพาออกไปหรอกนะ”

“ท่านแม่ขอรับ อย่าตำหนิน้องเลยขอรับ เป็นข้าเองที่ชวนน้องชายออกไป ข้าหายแล้วจริง ๆ ขอรับ ข้านอนมากเกินไปจนปวดหัวไปหมดเลยชวนน้องเล็กไปที่ลำธารหลังบ้านขอรับ”

“ใช่แล้วล่ะท่านแม่ ท่านดูสิพี่ใหญ่เก่งมากเลย พวกเราได้ของกินกลับมาเยอะแยะเลยขอรับ” หยางเสียนพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจในตัวพี่ชาย

“ท่านแม่เข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่าขอรับอย่ายืนอยู่ตรงนี้กันเลย”

“เสี้ยวเอ๋อร์ ลูกเก็บยอดหญ้าน้ำมาทำอันใดรึ มันกินไม่ได้หรอกนะลูก แล้วไหนจะหน่อไม้นี่อีก มันขมเสียขนาดนั้นมันไม่อร่อยหรอกนะลูก แม่ขอโทษพวกเจ้าพี่น้องที่แม่ไม่มีความสามารถมากกว่านี้นะลูก ทำให้พวกเจ้าต้องหิวโหยหลายต่อหลายครั้ง” เสิ่นซื่อเห็นสิ่งที่ลูกชายเก็บกลับมาก็น้ำตารื้นขึ้นมาทันที

“ท่านแม่ ยอดหญ้าน้ำพวกนี้กินได้ขอรับ ข้าเคยเห็นคนหมู่บ้านอื่นเก็บไปกินกัน มันมีชื่อว่าผักบุ้งขอรับ เพียงแค่ผักบุ้งชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในน้ำ เป็นคนละพันธุ์กับผักบุ้งที่เราปลูกขอรับ ส่วนหน่อไม้ข้าจะคิดหาวิธีกำจัดความขมของมันออกไปขอรับ”

“ท่านแม่ขอรับ พี่ใหญ่ยังจับปลาตัวใหญ่ได้ตั้ง 4 ตัว ท่านแม่ดูสิขอรับ เท่านี้เราก็มีเนื้อกินแล้ว” หยางเสียนพูดไปรื้อของในตะกร้าออกจนหมด เสิ่นซื่อมองลงไปในตะกร้าก็เห็นปลาตัวใหญ่ ขนาดน่าจะหนักถึงตัวละ 5 ชั่งอยู่ 4 ตัว

“นี่พวกเจ้าจับปลามาได้อย่างไรกัน ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าลงไปในลำธารใช่หรือไม่ ไม่ถูกสิปลาพวกนี้ว่ายน้ำเร็วมาก พวกลูกไม่รู้วิธีจับปลาเหตุใดถึงได้จับปลามาได้ ขนาดท่านพ่อของพวกเจ้า ยังไม่เคยจับปลาตัวใหญ่ขนาดนี้ได้เลยนะ”

“ท่านแม่ขอรับ พี่ใหญ่รู้วิธีดักปลาขอรับ ท่านแม่อย่าไปบอกใครเชียวล่ะ นี่เป็นความลับของพี่ใหญ่”

“เจ้าลูกคนนี้นี่ แม่รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรพูด เจ้าเห็นแม่เป็นเด็ก ๆ หรือยังไง เอาล่ะบอกความจริงแม่มาได้แล้ว”

“ท่านแม่ขอรับ พวกเราไม่ได้ลงไปในลำธารขอรับ เพียงแต่ข้าลองขุดหลุมดักปลาขึ้นมาตามที่ข้าบังเอิญได้ยินนายพรานต่างหมู่บ้านพูดกันตอนตามท่านพ่อไปขายสัตว์ป่าในเมืองขอรับ ข้าก็เลยลองทำตามที่ได้ยินมาเท่านั้น ปรากฏว่ามันได้ผล ต่อไปนี้พวกเราจะมีปลากินทุกวันขอรับ ท่านแม่ขอรับ เราแบ่งปลาไปให้บ้านท่านปู่ท่านย่า 2 ตัวได้หรือไม่ขอรับ ลุงใหญ่เองก็ไม่อยู่ ป้าสะใภ้เองก็เจ็บไข้อยู่ตลอดเวลา ท่านย่าเองก็อายุมากแล้ว จะได้ต้มน้ำแกงบำรุงร่างกาย”

“ได้สิ ทำไมถึงจะไม่ได้ล่ะ เช่นนั้นหน่อไม้กับผักบุ้งของลูกจะทำยังไงกับมัน”

“ท่านแม่ช่วยข้าปอกเปลือกหน่อไม้ จากนั้นนำไปต้ม ตอนต้มใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ต้มจนหน่อไม้สุกจากนั้นท่านแม่นำออกมาล้างน้ำและชิมดู ถ้ายังขมท่านแม่นำกลับไปต้มอีกครั้งขอรับ ข้าคิดว่าเท่านี้น่าจะได้แล้ว”

“ตกลงแม่จะลองดู วิธีนี้ลูกก็ได้ยินพวกนายพรานพูดกันอีกหรือ”

“ขอรับ” หยางเสี้ยวได้แต่แอบเอานิ้วไขว้กันอยู่ด้านหลัง เขาไม่ได้อยากจะโกหกสักหน่อย แต่มันจำเป็นเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว

สองพี่น้องเดินจับจูงมือกันไปบ้านของท่านปู่ หยางเสี้ยวสะพายตะกร้า ระหว่างที่เดินไปบ้านของท่านปู่นั้นเด็กชายรู้สึกได้ว่าหมู่บ้านลี่จวงแห่งนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ฐานะยากจนเสียส่วนใหญ่ มีเพียงหลานชายของหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้นที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือในตำบล ทั้งสองคนเดินมาได้ไม่นานก็มาถึงบ้านของท่านปู่ ถึงแม้ว่าบ้านของท่านปู่จะมีสภาพดีกว่าบ้านของเขาอยู่เล็กน้อย แต่รวม ๆ แล้วคือมันเก่าจวนเจียนจะพังลงมาเสียให้ได้ ไม่รู้ว่าด้วยสภาพบ้านแบบนี้พวกเขาจะผ่านฝนผ่านหนาวไปได้อย่างไร

“ท่านปู่ ท่านย่า พวกข้ามาแล้ว มีใครอยู่บ้างขอรับ ป้าสะใภ้อยู่บ้านหรือไม่ขอรับ” หยางเสียนยังคงเป็นเด็กน้อยร่าเริงที่ส่งเสียงดังเรียกหาคนในบ้าน

“เสียนเอ๋อร์เองหรอกหรือ เสี้ยวเอ๋อร์ก็มาด้วย หลานหายดีแล้วหรือ ถึงได้ออกมาข้างนอก” หานซื่อถามไถ่หลานชายด้วยความเป็นห่วง

“ท่านย่า ข้าหายดีแล้วขอรับ วันนี้ข้ากับน้องจับปลาได้เลยเอามาให้ท่านป้าสะใภ้ต้มน้ำแกงบำรุงให้ท่านปู่ท่านย่ากินขอรับ แล้วนี่ท่านปู่ไปที่ใดหรือขอรับ”

“ปู่ของเจ้าออกไปเก็บฟืนประเดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะ ส่วนป้าสะใภ้ของเจ้าไปซักผ้าอีกเดี๋ยวก็คงกลับมาแล้วล่ะ"

“เช่นนั้นข้าเอาปลาไปไว้ที่ห้องครัวนะขอรับท่านย่า”

“ไม่ต้อง ๆ ย่าเอาไปเองได้ เจ้ากับเสียนเอ๋อร์นั่งรอย่าที่นี่ล่ะ” หานซื่อยกตะกร้าเข้าไปในครัว หลังจากเอาใบไม้ที่ปิดอยู่ด้านบนออก ก็ต้องตกใจเพราะปลาที่หลานชายนำมาให้นั้นตัวใหญ่มากทีเดียว

“เสี้ยวเอ๋อร์ ครั้งหน้าไม่ต้องแบ่งปลามาให้ย่ามากขนาดนี้ หลานเอาไปขายให้บ้านตาเฒ่าฟู่กุ้ย จะได้มีเงินเอาไว้ใช้ในบ้าน”

“ท่านย่า นี่ถือเป็นความกตัญญูจากพวกเรานะขอรับ อีกอย่างข้ามีวิธีจับปลา แต่ว่าจะมากพอนำไปขายหรือไม่นั้นต้องดูอีกที แต่ข้าอยากให้ท่านย่าท่านปู่ ท่านป้าสะใภ้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของพวกเราร่างกายแข็งแรงมากกว่าขอรับ ถ้าหากร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยเราก็ไม่ต้องหาเงินเพื่อจ่ายค่ายาแบบนี้ดีกว่าขอรับ ท่านย่ากินน้ำแกงปลาให้สบายใจได้เลย พรุ่งนี้ข้าจะเอาปลามาให้อีกนะขอรับ ตอนนี้ข้ากับน้องกลับบ้านก่อนท่านแม่อยู่บ้านคนเดียว”

“เช่นนั้นก็กลับบ้านดี ๆ ล่ะ ขอบใจหลานมาก”

“ข้ากลับก่อนนะขอรับท่านย่า”

หลานชายทั้งสองกลับไปแล้ว หานซื่อได้แต่มองตามแผ่นหลังของเด็กทั้งสองคน นางมีลูกทั้งหมดสามคน ลูกชายสองคน ส่วนลูกสาวคนเล็กนั้นแต่งออกไปอยู่หมู่บ้านอื่นไม่รู้ว่าจะได้รับความลำบากใจจากแม่สามีบ้างหรือไม่ เพราะครอบครัวของนางยากจน สินเดิมเจ้าสาวไม่สามารถจัดหาได้มากมายนัก ถึงแม้ว่าลูกเขยจะเป็นคนดีมากคนหนึ่ง แต่หน้ามือก็มารดาหลังมือก็ภรรยาย่อมลำบากใจอยู่บ้าง

หลินซื่อกลับมาจากซักผ้าเห็นแม่สามียืนเหม่ออยู่หน้าบ้าน ไม่รู้ว่าในใจนางคิดอะไรอยู่ดูแล้วท่าทางทุกข์ใจไม่น้อย นางเองก็ร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่คลอดลูกคนเล็ก ทำให้ไม่สามารถทำงานหนัก ๆ ได้เหมือนเดิม ภาระทั้งหลายจึงตกอยู่ที่แม่สามี

“ท่านแม่ ทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้เจ้าคะ แล้วนี้ เด็ก ๆ ยังไม่กลับจากตัดหญ้าให้หมูหรือเจ้าคะ”

“อ่อ ข้าออกมาส่งเสี้ยวเอ๋อร์กับเสียนเอ๋อร์น่ะ พวกเจ้าใหญ่กับน้อง ๆ ยังไม่กลับมาหรอก เจ้ารีบไปตากผ้าเถอะ ประเดี๋ยวแม่จะไปทำกับข้าวรอพ่อเจ้า วันนี้เสี้ยวเอ๋อร์กับเสียนเอ๋อร์เอาปลามาให้ตัวใหญ่เลยล่ะ”

“ปลาหรือเจ้าคะ ปลาจากที่ใดกัน” หลินซื่อถามออกมาด้วยความตกใจ หยางเสี้ยวอายุน้อยกว่าลูกชายของนางถึง 2 ปี

“เห็นบอกว่าจับมาจากลำธารหลังบ้าน เลยแบ่งมาให้พวกเราต้มน้ำแกงบำรุงร่างกาย”

“เจ้าค่ะ”

หญิงต่างวัยทั้งสองคนแยกกันทำงาน หลินซื่อนำผ้าที่ซักขึ้นตากเสร็จพอดี พ่อสามีก็แบกฟืนกลับมาพร้อมด้วยลูกชายทั้งสามคนของนาง หยางเซวียน อายุ 10 ขวบพี่เป็นใหญ่ หยางชิง อายุ 8 ขวบเท่ากับหยางเสี้ยว หยางอิน อายุ 6 ขวบเท่ากับหยางเสียน

“โอ๊ะ ท่านย่าทำอันใดกินหอมมาก ท้องข้าร้องประท้วงแล้ว” หยางอินตัวน้อยวิ่งเข้ามาในลานบ้านพร้อมกับตะโกนออกมา

“น้องสาม เก็บความตะกละเอาไว้บางเถอะ” หยางชิง

“พี่ใหญ่พี่รองว่าข้า” หยางอินฟ้องพี่ชาย

“พอได้แล้วพวกเจ้าสองคน เอาผักป่าพวกนี้ไปให้หมูก่อนจะได้ล้างมือมากินข้าว เซวียนเอ๋อร์หลานพาน้องเอาผักป่าพวกนี้ไปที่เล้าหมูก่อนแล้วค่อยมากินข้าว อย่านานล่ะ”

“ขอรับท่านปู่”

หยางไห่นำฟืนที่หามาได้วันนี้ไปเก็บไว้ในห้องเก็บฟืน จากนั้นก็รีบไปล้างมือเพื่อเตรียมกินมื้อกลางวันที่ล่าช้ามานาน เพราะวันนี้พวกเขาปู่หลานออกไปหาฟืนและตัดหญ้าเพื่อนำมาเลี้ยงหมูไกลกว่าเดิม ทำให้เสียเวลาไปกลับนานกว่าปกติ

“ยายเฒ่าข้ากลับมาแล้ว วันนี้เจ้าทำอันใดกิน ข้าได้กลิ่นเหมือนน้ำแกงปลา”

“จมูกดีจริงนะตาเฒ่า ข้าก็ทำน้ำแกงปลาน่ะสิ เสี้ยวเอ๋อร์กับเสียนเอ๋อร์เอาปลามาให้ตัวใหญ่เชียวล่ะ”

“หลานไปเอาปลามาจากไหน”

“เห็นบอกว่าจับมาจากลำธารหลังบ้าน”

“จริงรึ เสี้ยวเอ๋อร์จับเองเลยรึ”

“เอ๊ะ ตาเฒ่านี่ เสี้ยวเอ๋อร์บอกว่าจับเองก็จับเองสิ เจ้าไม่เชื่อในตัวหลานหรือ”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ข้าเพียงแต่คิดว่าปลาว่ายน้ำเร็วมาก เสี้ยวเอ๋อร์อาจจะมีวิธีจับปลาก็เป็นได้ หากว่าข้าจะไปถามหลานเจ้าว่าจะเป็นการเห็นแก่ตัวหรือไม่”

“เจ้าไม่ต้องไปถามหลาน หากหลานอยากบอกหลานจะบอกเอง อย่าทำให้หลานลำบากใจ เสี้ยวเอ๋อร์ยังบอกว่าหากจับปลาได้อีกจะเอามาให้ เจ้ารอกินก็พออย่าไปสร้างความอึดอัดใจให้หลาน”

“ข้าเข้าใจแล้ว”

หยางเสี้ยวกลับมาถึงบ้านเสิ่นซื่อก็ต้มหน่อไม้สุกพอดี เมื่อชิมดูแล้วไม่หลงเหลือรสขมอีก มีเพียงรสหวานเท่านั้น เสิ่นซื่อดีใจจนน้ำตาไหล นางตั้งใจว่าจะไปขุดหน่อไม้แล้วนำมาต้มตากแดดเพื่อเก็บไว้เป็นเสบียง หลังจากจัดการหน่อไม้เสร็จแล้ว หยางเสี้ยวล้างผักบุ้งมาส่งให้ที่ห้องครัว เสิ่นซื่อผัดผักบุ้งใส่เพียงเกลือนิดหน่อยเท่านั้น และผัดหน่อไม้ตามคำแนะนำของลูกชายอีกหนึ่งจาน อาหารวันนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์กว่าวันไหน ๆ มีผัดหน่อไม้ ผัดผักบุ้ง น้ำแกงปลา อาหารธรรมดาแต่ดูหรูหราสำหรับครอบครัวชาวบ้านจน ๆ

“เสียดายที่ท่านพ่อยังไม่กลับมา ไม่เช่นนั้นท่านพ่อก็จะได้กินน้ำแกงปลาแล้ว” หยางเสียน
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 4

    เช้าวันต่อมาหยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ข้อดีของการทะลุมิติมาในโลกคู่ขนานแห่งนี้ก็คือ ที่นี่มีทั้งท่านแม่ที่หน้าตาเหมือนคุณแม่ในโลกเดิมทุกอย่าง รวมถึงลักษณะนิสัยด้วย ตอนนี้หยางเสี้ยวมีความมั่นใจว่าท่านพ่อเองก็คงจะมีหน้าตาเหมือนกับคุณพ่อของเขาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นลูกคนเดียวโดดเดี่

    Last Updated : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 5

    หยางเสี้ยวที่เดินมุ่งหน้าไปตรวจดูกับดักที่เขาวางเอาไว้ด้วยความเร่งรีบ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะไม่พบของกินอย่างอื่นอีกนอกจากผักป่ากับเห็ดหูหนูดำ แต่ในใจลึก ๆ เด็กน้อยหวังว่าจะมีไก่ฟ้าหรือกระต่ายป่ามาติดกับดักที่เขาวางเอาไว้บ้าง อย่างน้อย ๆ จะได้นำไปทำอาหารบำรุงร่างกาย เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่กิ

    Last Updated : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 6

    ชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันเข้าป่าล่าสัตว์พวกเขาเข้าป่ามาหลายวันแล้วแต่เดิมสมควรจะกลับออกจากป่าได้แล้ว เพียงแต่ว่าการเข้าป่ามาครั้งนี้ยังล่าสัตว์ใหญ่อย่างหมูป่าไม่ได้เลยสักตัว หากยังไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปไม่นับว่ามาเสียเที่ยวหรอกหรือ เพราะความเป็นอยู่ของครอบครัวล้วนยากจน การรวมกลุ่มเข้าป่าล่าสัตว์ว

    Last Updated : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 7

    วันนี้เพราะมีหยางเชวียนมาด้วยทำให้หยางเสี้ยวกำลังตัดสินใจว่าจะไปที่ภูเขาอู๋หลงดีหรือไม่ เพราะการที่เขาเข้าป่าลึกไปทุกวันนั้นเขาไม่ได้บอกให้ใครรู้ ทุกคนเข้าใจว่าเขาไปขุดผักป่าและวางกับดักที่ภูเขาซิ่วสือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของภูเขาอู๋หลง แต่หลังจากคิดไตร่ตรองรอบคอบแล้ว หยางเสี้ยวคิดว่าตัวเองสมควรจะพูดจา

    Last Updated : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 8

    หยางเสี้ยวยังคงเดินหน้าเข้าไปในภูเขาอู๋หลงต่อไปเรื่อย ๆ หยางเชวียนเองก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเท่ากับตอนแรกที่ยังไม่ได้เข้ามา ตอนนี้ในตะกร้าของเขามีผักป่าอยู่มากมาย หยางเสี้ยวบอกกับเขาว่าอย่าเก็บผักป่าไปมากนัก ให้เหลือพื้นที่ในตะกร้าเอาไว้ใส่ผลไม้ด้วย หากว่าไม่พบผลไม้อย่างอื่นค่อยเก็บผักป่าใส่ให้เต็ม“

    Last Updated : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 9

    เสิ่นซื่อมองแผ่นหลังของลูกหลานเดินออกจากบ้านไปพร้อมตะกร้าใบเล็กที่ใส่กระต่ายเอาไว้ กระต่ายตัวอ้วนน้ำหนักน่าจะประมาณสี่หรือห้าชั่ง หยางเชวียนแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยของป่า นอกจากนี้ยังมีไก่ฟ้ากับกระต่ายป่าอย่างละตัว ทั้งสองคนใช้เวลาไม่นานก็เดินมาถึงบ้านลุงฟู่กุ้ย หยางเสี้ยวต้องการขายกระต่ายตัวนี้ก่อน ค

    Last Updated : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 10

    เสิ่นซื่อได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กร้องเอะอะเรียกนางกับบุตรชายคนโตเสียงดัง ในที่สุดสามีของนางก็กลับมาได้เสียที ความกังวลใจที่มีตลอดหลายวันมานี้ ก็สามารถวางลงได้แล้ว หยางเสี้ยวเองก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ท่านพ่อที่ไม่เคยได้พบหน้ากันผู้นี้ จะมีหน้าตาเหมือนพ่ออาทิตย์ของเขาหรือไม่สองแม่ลูกรีบเดินออกไปยังลา

    Last Updated : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 11

    เช้าวันต่อมาหยางเทียนแบกตะกร้าที่ใส่ผูเถาเอาไว้ออกจากบ้านไปตั้งแต่ยามเหม่า พร้อมด้วยหยางเทาผู้เป็นพี่ชาย เป้าหมายคือโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหล เช้านี้ทั้งสองคนจะนำเอาผูเถาที่ลูกชายเก็บกลับมาจากภูเขาอู๋หลงเข้าไปขาย ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ แต่หยางเสี้ยวบอกเอาไว้ว่าต้องขายได้แน่ ๆ เพียงแต่จะได้มากได้

    Last Updated : 2025-02-23

Latest chapter

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 311

    “อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 310

    หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 309

    “พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 308

    เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 307

    “ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 306

    หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 305

    “พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 304

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 303

    ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status