แชร์

บทที่ 2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 11:55:43

สองพี่น้องเดินออกจากบ้านและไม่ลืมที่จะปิดประตูรั้วให้เรียบร้อย หยางเสียนเด็กน้อยวัย 6 ขวบเป็นเด็กร่าเริงและรู้ความ ถึงแม้ว่าครอบครัวจะยากจน อาหารการกินไม่พอ แต่เด็กน้อยเองไม่เคยงอแงเลยสักครั้ง กลับกัน ท่าทางของเจ้าหนูน้อยมีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยอยู่มาก อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่สอนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัยก็เป็นได้

ทั้งสองคนเดินลัดเลาะตามเส้นทางเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเท่าไหร่ เพราะลำธารสายนี้ไม่นับว่าใหญ่มาก ไม่เหมือนกับลำธารที่อยู่ทางฝั่งบ้านของท่านปู่ท่านย่า อีกทั้งบ้านของพวกเขาอยู่ถึงท้ายหมู่บ้านจึงทำให้ไม่ค่อยมีคนผ่านไป หยางเสี้ยวพาน้องชายเดินมุ่งหน้าไปทางลำธาร ระหว่างทางก็สอดส่ายสายตามองหาเผื่อว่าจะพบเจออะไรที่สามารถเอากลับไปกินได้ แต่เดินมาจนเกือบถึงลำธารแล้วก็ยังหาของที่กินได้ไม่พบเลยสักอย่าง ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าเมื่อถึงลำธารแล้วยังจะพอมีอะไรให้กินได้บ้าง

“พี่ใหญ่ ข้าคิดถึงท่านพ่อขอรับ หลายวันมานี่ท่านแม่เองก็มีสีหน้าทุกข์ใจ ยิ่งยามที่ท่านป่วยไข้นอนไม่ได้สติอยู่สองวัน ข้าเห็นท่านแม่แอบร้องไห้ในห้องครัวด้วยขอรับ”

“เป็นพี่ใหญ่ที่ไม่ดีเอง พี่ใหญ่อ่อนแอ ทำให้เจ้ากับท่านแม่ต้องเป็นห่วง พี่ใหญ่ขอโทษเจ้า ต่อไปนี้พี่ใหญ่สัญญาว่าจะไม่ล้มป่วยอีกแล้ว พี่ใหญ่จะหาของกินอร่อย ๆ ให้เจ้ากับท่านแม่ ท่านพ่อได้กิน”

“ดียิ่งขอรับ ข้าเองก็จะช่วยพี่ใหญ่ด้วยนะขอรับ”

“ตกลง รีบไปกันเถอะ จะได้รีบกลับ พี่ไม่รู้ว่าในลำธารจะมีปลาอยู่หรือไม่”

“ปลาหรือขอรับ ถ้าเป็นปลาย่อมต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าเราจะจับปลาได้ยังไง ปลาว่ายน้ำเร็วมาก ที่สำคัญนะพี่ใหญ่ ปลาในลำธารหลังบ้านของเราส่วนมากจะเป็นปลาที่ก้างเยอะมาก และก็มีกลิ่นคาวแรงด้วย หายากที่จะมีปลาตัวใหญ่และก้างน้อย ไม่เหมือนกับลำธารสายใหญ่ที่อยู่อีกฟากของหมู่บ้านที่นั่น น้ำลึกและมีปลาตัวใหญ่อยู่”

“พี่รู้ ชาวบ้านเลยไม่นิยมมาจับปลากันแถวบ้านเรา แต่ว่านะ พี่คิดว่าพี่มีวิธีจัดการกับปลาพวกนั้น เอาไว้พี่จะทำให้เจ้ากิน รับรองได้เลยเจ้าจะต้องชอบ”

“ตกลง ข้าจะรอกินนะขอรับ แต่ว่านั่นต้องหมายถึงเราต้องจับปลาให้ได้เสียก่อน”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”

สองพี่น้องเดินจับมือกันไปด้วยความสุข ถึงแม้ว่าครอบครัวจะยากจนข้นแค้นไปบ้างแต่ยังมีความสุขที่เรียบง่าย ความรักความผูกพันและความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจของคนภายในครอบครัว นับเป็นพื้นฐานสำคัญของสถาบันครอบครัว หยางเสี้ยวค่อนข้างพอใจครอบครัวเล็ก ๆ ที่ได้รับมาใหม่นี้มาก ถึงแม้ว่าจะยังไม่เคยเจอบิดาผู้ให้กำเนิดของร่างเดิมก็ตามที แต่ในความทรงจำของร่างเดิมนั้น หยางเทียนเป็นคนดี ขยัน ซื่อสัตย์ และรักครอบครัวมาก

“พี่ใหญ่ถึงแล้ว น้ำใสจังเลย แต่ท่านแม่สั่งเอาไว้ห้ามลงเล่นน้ำถ้าหากไม่มีท่านพ่อมาด้วย เมื่อไหร่ท่านพ่อจะกลับมานะ ครั้งนี้ท่านลุงใหญ่ก็ไปด้วย ไม่รู้ว่าท่านพ่อกับท่านลุงจะล่าสัตว์ได้บ้างหรือเปล่านะ”

“ต้องได้อยู่แล้วสิ ท่านพ่อท่านลุงไปด้วยกันต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว จะว่าไปเขาอู๋หลงของพวกเราก็มีสัตว์ป่าอยู่มากมาย ทำไมชาวบ้านถึงไม่ขึ้นเขาอู๋หลงไปล่ากัน จะได้ไม่ต้องเดินทางไกลออกจากบ้านไปหลายวัน” หยางเสี้ยวพูดออกมาด้วยความไม่เข้าใจ

“ก็ไม่ใช่เพราะลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่ามีเสืออยู่ในเขาอู๋หลงไม่ใช่หรือไง ทำให้ชาวบ้านกลัวจนไม่กล้าขึ้นเขาไปล่าสัตว์ ทำได้แค่หาผักป่าที่เชิงเขาเท่านั้น” หยางเสียนพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด

“มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ เหตุใดพี่ไม่เห็นจำได้เลยล่ะ”

“มีสิ พี่ใหญ่ลืมไปแล้วน่ะสิ แต่ข้าว่านะ ลูกชายหัวหน้าหมู่บ้านอาจจะโกหกก็ได้ เพราะทุกครั้งข้าไม่เคยได้ยินท่านพ่อว่าลูกชายหัวหน้าหมู่บ้านรวมกลุ่มกับชาวบ้านไปล่าสัตว์สักที แต่เขากลับมีสัตว์ป่าไปขายในตำบลตลอดเลยนะพี่ใหญ่”

“ก็อาจจะเป็นได้ เรื่องนี้เอาไว้ค่อยว่ากันเถอะ ตอนนี้เดินดูรอบ ๆ แถวนี้ก่อนเผื่อว่าจะมีอะไรที่พอให้เอากลับไปได้บ้าง”

หยางเสี้ยวเดินเลาะไปตามริมลำธาร ในลำธารมีผักบุ้งที่กำลังชูยอดอวบอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากผักบุ้งแล้วยังมีบัวบก ผักกูด ผักเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สามารถกินได้ แต่ทว่าในมิติแห่งนี้ไม่มีผู้ใดรู้ว่าผักเหล่านี้กินได้ มิเช่นนั้นก็คงไม่เหลืออยู่มากมายถึงเพียงนี้ ในลำธารยังมีกุ้งฝอย ปลาตัวเล็ก ๆ ที่ลักษณะคล้ายกับปลาซิวแต่ลำตัวจะขาวใสและมีขนาดยาวกว่าเล็กน้อย หยางเสี้ยวมองเห็นปลาตะเพียนตัวใหญ่เท่าสองฝ่ามือของผู้ใหญ่ว่ายผ่านไปอยู่หลายตัว

จากความรู้ที่รับการบอกเล่ามาจากเพื่อนร่วมชั้นถึงวิธีการขุดหลุมกับดักเอาไว้สำหรับจับปลาในนิยายทะลุมิติที่เพื่อนร่วมชั้นได้อ่านและถ่ายทอดให้เขาฟังอย่างละเอียดถี่ยิบ หยางเสี้ยวไม่รู้ว่ามันจะใช้ได้ผลกับเหตุการณ์จริงตรงหน้าหรือไม่ เขาทำได้เพียงต้องลองทำดูเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีความเป็นไปได้

“น้องชาย พี่ใหญ่คิดวิธีหนึ่งได้ล่ะ พวกเราจะขุดหลุมกับดักเอาไว้สำหรับดักปลากัน”

“ตกลงพี่ใหญ่ข้าจะช่วยท่านขุดเอง”

ไม่รอช้าหยางเสี้ยวลงมือขุดหลุมด้านข้างลำธารทันที หลังจากขุดหลุมขนาดความกว้าง ประมาณ 1 หมี่(1) ลึก 2 หมี่ จากนั้นเขาก็ขุดทางน้ำจากลำธารมายังหลุมที่ขุดเอาไว้และทางน้ำเล็ก ๆ เขาได้นำเอาดินโคลนในลำธารทาเอาไว้อีกด้วย จากนั้นก็ชวนน้องชายไปเดินหากิ่งไม้เพื่อวางปิดปากหลุม หลังจากเอากิ่งไม้วางเอาไว้เรียบร้อยดีแล้วขั้นตอนต่อไปก็นำใบไม้วางทับบนกิ่งไม้อีกทีเป็นอันเสร็จ

“พี่ใหญ่ วิธีนี้จะได้ผลจริง ๆ ใช่หรือไม่ขอรับ”

“พี่เองก็ไม่รู้ เราได้แต่ต้องรอดูแล้วล่ะ”

หลังจากจัดการหลุมกับดักเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยางเสี้ยวเดินไปเก็บผักบุ้งเพื่อที่จะนำไปทำอาหาร เมื่อหยางเสียนเห็นพี่ใหญ่ของตัวเองเด็ดยอดหญ้าน้ำขึ้นมาก็ถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะหญ้าน้ำเขาไม่เคยเห็นใครเก็บไปกินเลยสักครั้ง

“พี่ใหญ่ เก็บยอดหญ้าน้ำไปทำไมหรือขอรับ มันกินไม่ได้สักหน่อย หรือว่าพี่ใหญ่ลืมไปแล้วขอรับ”

“กินได้สิ ตอนนั้นพี่ใหญ่เคยเห็นคนต่างหมู่บ้านกิน เขาบอกว่ามันอร่อยมาก พี่ยังคิดว่าทำไมพวกเราไม่ลองเก็บไปลองกินดูล่ะ”

“คนต่างหมู่บ้านที่ไหนขอรับ"

“พี่ใหญ่เองก็ไม่รู้ พี่ใหญ่เคยเห็นตอนที่เข้าไปขายสัตว์ป่ากับท่านพ่อน่ะ ตอนนั้นน้องชายเพิ่งสองขวบเอง เรื่องมันก็นานมากแล้วจนพี่เองก็ลืมไป พอวันนี้มาเห็นเจ้านี่ยอดอวบพี่ถึงได้นึกได้น่ะ คนผู้นั้นเรียกยอดหญ้าน้ำว่าผักบุ้ง เพียงแต่เป็นชนิดที่เกิดและเติบโตในน้ำเท่านั้น ต่างจากผักบุ้งที่เราปลูกอยู่เล็กน้อย พี่ใหญ่รับรองว่ามันไม่มีพิษแน่นอน” นับว่าเป็นการโกหกครั้งแรกของหยางเสี้ยวเลยทีเดียว

“ถ้าพี่ใหญ่บอกว่ากินได้ก็ต้องกินได้ ข้าเชื่อพี่ใหญ่ขอรับ”

หลังจากช่วยกันเด็ดผักบุ้งได้พอสมควรแล้ว หยางเสี้ยวจูงมือน้องชายเดินเลียบลำธารไปจนถึงแนวป่าไผ่ ไม่รู้ว่าจะมีหน่อไม้หลงเหลือให้ขุดเอากลับไปกินบ้างหรือไม่ คงต้องได้แต่วัดดวงแล้ว

“เอ๋พี่ใหญ่ ท่านพาข้ามาทำไมที่ป่าไผ่ขอรับ”

“มาหาหน่อไม้น่ะสิ เจ้าช่วยพี่หาดูว่าตรงไหนมีหน่อไม้อยู่บ้าง เจ้าใช้ไม้อันนี้เขี่ยใบไผ่ออกหาดูว่ามีตรงไหนที่ดินมีรอยแตกเหมือนมีอะไรดันขึ้นมาจากข้างล่างแบบนี้ หากเจอแล้วเรียกพี่ใหญ่ พี่ใหญ่จะเป็นคนขุดหน่อไม้ใต้ดินขึ้นมาเอง”

“พี่ใหญ่ ปกติหน่อไม้ก็ไม่มีคนกินเพราะมันทั้งขมและไม่อร่อย แล้วพี่ใหญ่จะลำบากหาหน่อไม้ใต้ดินทำไมขอรับ พี่ใหญ่ดูด้านนั้นสิ หน่อไม้เยอะเลย”

“โอ้ จริงด้วย ตอนนี้ขุดกลับไปก่อนเดี๋ยวพี่ค่อยคิดหาวิธีทำให้มันหายขม หลังจากขุดหน่อไม้แล้วพวกเราค่อยกลับไปดูหลุมดักปลาดีหรือไม่”

“ดีขอรับ”

หลังจากที่ขุดหน่อไม้ที่ทั้งอวบอ้วนและมีขนาดใหญ่ได้ 4 หน่อ หยางเสี้ยวพาน้องชายเดินกลับมาเพื่อดูว่ามีปลาตกลงไปในหลุมที่เขาขุดเอาไว้หรือไม่ อีกอย่างพวกเขาสองพี่น้องออกจากบ้านมานานแล้ว กลัวว่ามารดาที่กลับมาจะหาพวกเขาไม่พบและเป็นห่วงเอาได้ เขาจึงไม่รั้งขุดหน่อไม้ต่อ เดินกลับมาจนถึงหลุมดักปลา หยางเสี้ยวยกกิ่งไม้ใบไม้ออกจากปากหลุมก็พบว่าในหลุมมีปลาตะเพียนขนาดใหญ่อยู่ 4 ตัว

“พี่ใหญ่ ปลาล่ะ ในหลุมมีปลาตัวใหญ่ตั้งสี่ตัว แล้วจะเอามันขึ้นมาได้ยังไง”

“เอาผักกับหน่อไม้ที่เราขุดมาออกจากตะกร้า แล้วส่งตะกร้ามาให้พี่ใหญ่เราจะใช้ตะกร้าตักมันขึ้นมา”

“ขอรับ”

หลังจากตักปลาขึ้นมาจนครบสี่ตัวแล้ว หยางเสี้ยวก็เอากิ่งไม้ใบไม้มาปิดปากหลุมเหมือนเดิม ตั้งใจเอาไว้ว่าพรุ่งนี้จะกลับมาดูใหม่ จากการพิสูจน์ทฤษฎีที่ได้ฟังมาจากเพื่อนร่วมเรียน หยางเสี้ยวนึกชื่นชมนักเขียนเจ้าของผลงานที่ได้มีการเขียนบรรยายเอาไว้ในนิยายอย่างละเอียด จนทำให้เขาสามารถสร้างหลุมดักปลานี้ได้สำเร็จ

จัดการกับหลุมดักปลาให้กับมาเป็นเหมือนเดิมเสร็จก็เอาผักและหน่อไม้ใส่เข้าไปในตะกร้า หยางเสี้ยวยกตะกร้าขึ้นสะพายหลัง จับจูงมือน้องชายกลับบ้านไปทันที บนใบหน้าผอมแห้งของหยางเสียนมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ในแววตายังมีความยินดีและตื่นเต้น อีกทั้งหยางเสี้ยวมองเห็นถึงความดีใจของน้องชาย อย่างน้อย ๆ ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากไปกว่านี้ อย่างน้อยวันนี้ก็หาอาหารได้พอกินไปมื้อหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้เขาคงต้องตามท่านแม่ขึ้นไปขุดผักป่า ไม่แน่ว่าบนภูเขาอู๋หลงอีกด้านอาจจะมีของที่สามารถนำมากินได้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 3

    เสิ่นซื่อที่กลับมาจากขุดผักป่ากับเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงกลับพบว่าลูกชายทั้งสองไม่อยู่ในบ้าน นางหาจนทั่วแล้วแต่หาลูกชายทั้งสองไม่พบ สวนหลังบ้านก็ไม่มี เมื่อไปดูในห้องเก็บฟืนถึงได้รู้ว่าตะกร้าสะพายหลังของลูกชายทั้งสองหายไป นี่ไม่เท่ากับว่าสองพี่น้องพากันขึ้นเขาไปหรือ ลูกชายของนางยังไม่ทันได้หายดีก็ขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 4

    เช้าวันต่อมาหยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ข้อดีของการทะลุมิติมาในโลกคู่ขนานแห่งนี้ก็คือ ที่นี่มีทั้งท่านแม่ที่หน้าตาเหมือนคุณแม่ในโลกเดิมทุกอย่าง รวมถึงลักษณะนิสัยด้วย ตอนนี้หยางเสี้ยวมีความมั่นใจว่าท่านพ่อเองก็คงจะมีหน้าตาเหมือนกับคุณพ่อของเขาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นลูกคนเดียวโดดเดี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 5

    หยางเสี้ยวที่เดินมุ่งหน้าไปตรวจดูกับดักที่เขาวางเอาไว้ด้วยความเร่งรีบ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะไม่พบของกินอย่างอื่นอีกนอกจากผักป่ากับเห็ดหูหนูดำ แต่ในใจลึก ๆ เด็กน้อยหวังว่าจะมีไก่ฟ้าหรือกระต่ายป่ามาติดกับดักที่เขาวางเอาไว้บ้าง อย่างน้อย ๆ จะได้นำไปทำอาหารบำรุงร่างกาย เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่กิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 6

    ชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันเข้าป่าล่าสัตว์พวกเขาเข้าป่ามาหลายวันแล้วแต่เดิมสมควรจะกลับออกจากป่าได้แล้ว เพียงแต่ว่าการเข้าป่ามาครั้งนี้ยังล่าสัตว์ใหญ่อย่างหมูป่าไม่ได้เลยสักตัว หากยังไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปไม่นับว่ามาเสียเที่ยวหรอกหรือ เพราะความเป็นอยู่ของครอบครัวล้วนยากจน การรวมกลุ่มเข้าป่าล่าสัตว์ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 7

    วันนี้เพราะมีหยางเชวียนมาด้วยทำให้หยางเสี้ยวกำลังตัดสินใจว่าจะไปที่ภูเขาอู๋หลงดีหรือไม่ เพราะการที่เขาเข้าป่าลึกไปทุกวันนั้นเขาไม่ได้บอกให้ใครรู้ ทุกคนเข้าใจว่าเขาไปขุดผักป่าและวางกับดักที่ภูเขาซิ่วสือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของภูเขาอู๋หลง แต่หลังจากคิดไตร่ตรองรอบคอบแล้ว หยางเสี้ยวคิดว่าตัวเองสมควรจะพูดจา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 8

    หยางเสี้ยวยังคงเดินหน้าเข้าไปในภูเขาอู๋หลงต่อไปเรื่อย ๆ หยางเชวียนเองก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเท่ากับตอนแรกที่ยังไม่ได้เข้ามา ตอนนี้ในตะกร้าของเขามีผักป่าอยู่มากมาย หยางเสี้ยวบอกกับเขาว่าอย่าเก็บผักป่าไปมากนัก ให้เหลือพื้นที่ในตะกร้าเอาไว้ใส่ผลไม้ด้วย หากว่าไม่พบผลไม้อย่างอื่นค่อยเก็บผักป่าใส่ให้เต็ม“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 9

    เสิ่นซื่อมองแผ่นหลังของลูกหลานเดินออกจากบ้านไปพร้อมตะกร้าใบเล็กที่ใส่กระต่ายเอาไว้ กระต่ายตัวอ้วนน้ำหนักน่าจะประมาณสี่หรือห้าชั่ง หยางเชวียนแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยของป่า นอกจากนี้ยังมีไก่ฟ้ากับกระต่ายป่าอย่างละตัว ทั้งสองคนใช้เวลาไม่นานก็เดินมาถึงบ้านลุงฟู่กุ้ย หยางเสี้ยวต้องการขายกระต่ายตัวนี้ก่อน ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 10

    เสิ่นซื่อได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กร้องเอะอะเรียกนางกับบุตรชายคนโตเสียงดัง ในที่สุดสามีของนางก็กลับมาได้เสียที ความกังวลใจที่มีตลอดหลายวันมานี้ ก็สามารถวางลงได้แล้ว หยางเสี้ยวเองก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ท่านพ่อที่ไม่เคยได้พบหน้ากันผู้นี้ จะมีหน้าตาเหมือนพ่ออาทิตย์ของเขาหรือไม่สองแม่ลูกรีบเดินออกไปยังลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23

บทล่าสุด

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 311

    “อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 310

    หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 309

    “พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 308

    เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 307

    “ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 306

    หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 305

    “พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 304

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    บทที่ 303

    ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status