อี้หมิงดีใจอย่างมากกับออเดอร์ลอตใหญ่ในครั้งนี้ แต่ก็ไม่ลืมที่จะแบ่งเงินจากการขายของในครั้งนี้ให้เฟิน เฟิน ด้วย"อ่ะ เฟิน เฟิน 20 อิแปะ วันนี้เราขายได้เยอะทีเดียว จะได้เยอะกว่านี้อีกถ้าไม่โดนอันธพาลมารักแก ฮึย!" อี้หมิงล้วงหยิบเงินออกจากถุงผ้าแล้วใส่มือให้เฟิน เฟิน"โห ให้ข้าเยอะจังพี่หมิงอี้""ไม่เยอะหรอกน่า อ่ะนี้ของอู๋ไป๋"อู๋ไป๋มองเงิน 15 อิแปะในมือตนอย่าง งง งวย หมิงอี้นางให้เขาทำไมกัน"ให้ข้าทำไมกันเล่าหมิงอี้ ข้ายังไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าเลยนะ""แหม๋ ข้าไม่ได้ให้ฟรี ๆ หรอกน่า" อี้หมิงตบไหล่อู๋ไป๋เบา ๆ"ข้ามีงานให้เจ้ากับเฟิน เฟิน ช่วยนิดหน่อยหนะ" อี้หมิงกอดบ่าทั้งสองแล้วเริ่มขอในสิ่งที่ตนต้องการ"อู๋ไป๋ข้าอยากได้น้ำมะพร้าวเยอะ ๆ เจ้านำมาได้เยอะเท่าไหร่ยิ่งดี ส่วนเฟิน เฟิน ข้าต้องการโอ่งเพิ่ม ต้องการผ้า กระบุงเพิ่มด้วย และอยากได้คนงานซัก 5 คนหนะ""โฮะ ขอถูกคนแล้ว เดี๋ยวข้าจัดให้""เฟิน เฟิน ก็เหมือนกัน เดี๋ยวจัดให้รับรองท่านจะได้ในสิ่งที่ขอทุกอย่างถ้ามาหาเฟิน เฟิน ฮ่า ฮ่า"ทั้งเฟิน เฟิน และอู๋ไป๋ต่างโอ้อวดสรรพคุณของตัวเองกันใหญ่ยามค่ำคืนอันสงบของแคว้นต้าหลี่ เรือนหลังใหญ่ของขุนนางและ
"คือ พวกข้ามาขอร้องให้ท่านหาทางช่วยพวกเราด้วยเถิด ได้โปรดเถอะท่านนายอำเภอ เดือดร้อนจริง ๆ ตอนนี้ข้าวในนาพวกข้าโดนแมลงเกาะกินต้นข้าวเต็มไปหมด ต้นข้าวทยอยยืนต้นตายลามไปจนเกือบหมดแล้ว" ชายคนหนึ่งเป็นตัวแทนพูดขึ้น~ใช่ ๆ เป็นแบบนี้มีแต่ตายกับตาย ข้าวเปลือกก็แพงขึ้นทุกวัน ๆ ใช่มั๊ยพวกเรา~~ใช่ ๆ เห็นด้วย ๆ เดือดร้อนมากจริง ๆ ~"อ่ะ ๆ เงียบ ๆ ใจเย็นๆ กันก่อนนะ ให้ข้าได้สืบสาวเรื่องราวก่อน รับรองข้าช่วยเต็มที่แน่ๆ ""ตอนไหนล่ะ พวกข้ารอไม่ไหวหรอกนะ ข้าวก็ตาย ข้าวสารก็แทบไม่เหลือแล้ว ราคาข้าวก็แพงขึ้นทุกวันๆ "~ใช่ ๆ ข้าแทบไม่เหลือข้าวจะกินอยู่แล้ว ท่านรีบๆ หาทางช่วยเถอะ ใช่ ๆ ~"อ่ะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะ "~เย็นไม่ไหวหรอก ข้าวตายจะหมดอยู่แล้ว ~เสียงประท้วงยังดังไม่หยุด ทำให้ไป๋เจี๊ยนเมื่อเห็นว่าชาวบ้านไม่ฟังตนจึงตะโกนเสียงดังขึ้นอย่างเหลืออด"ข้า!! บอกให้เงียบ!!!"ได้ผลชาวนาทั้งชายทั้งหญิงเงียบเสียงลงทันที แล้วยืนนิ่งรอฟังไป๋เจี้ยน"ข้าช่วยพวกเจ้าแน่ๆ บัดนี้ในวังหลวงทราบเรื่องโรคระบาดแล้ว กำลังหาบัณฑิตเก่ง ๆ และผู้ที่มีความสามารถมาช่วยกำจัดโรคร้ายนี้อยู่ แต่ตอนนี้ก็ยังกำจัดโรคระบาดนี้ยังไม่ได้ ขอเ
ผ่านไปไม่นานอี้เฟินก็ให้คนงานชายกลิ้งโอ่งที่ล้างทำความสะอาดเสร็จแล้วมาให้อี้หมิง"ระวังๆ ค่อย ๆ กลิ้ง อย่างนั้นแหละ อ่ะวางตรงนี้ๆ พี่หมิงอี้โอ่งได้แล้วจ๊ะ""ดีเลยข้าจะผสมน้ำหมักแล้วนะ" อี้หมิงพับแขนเสื้อของนางขึ้น ใช้ปิ่นรวบปักผมเป็นมวยเรียบร้อย ส่วนนิ้วมือเรียวเกี่ยวเอาปอยผมที่ตกลงมาคลอเคลียที่ใบหน้างามเกี่ยวทัดไว้ที่ใบหู'สาธุ ทีกงขอให้น้ำหมักของหนูสำเร็จทีเถอะ' อี้หมิงภาวนาเอาฤกษ์เอาชัยในใจ"มา! มาเริ่มกัน"อี้หมิงเริ่มจากการเทน้ำตาลทรายแดงลงไปก่อน จากนั้นใช้กระบวยตักน้ำมะพร้าวเทลงไป ตามด้วยน้ำส้มสายชู และเทเหล้าลงไปผสม มือเรียวจับไม้พายคนผสมให้ส่วนผสมที่ใส่ลงไปเข้ากัน เมื่อเห็นว่าเข้ากันดีแล้วอี้หมิงจึงใส่พริกไทยที่ผ่านการโขลกละเอียดเรียบร้อยแล้วลงไปเป็นส่วนผสมสุดท้าย คนผสมให้เข้ากันอีกรอบ แล้วปิดฝาโอ่งไว้"เสร็จแล้วเหลือรอแค่เวลาแล้วหล่ะ"อี้หมิงปัดมือไปมาเมื่อการผสมน้ำหมักจบลง ทีนี้ก็แค่รอให้ครบ 7 วันแล้วมาดูกันว่าน้ำหมักนี้ของเธอจะใช้ได้รึไม่"หมิงอี้เสร็จแล้วหรอ" อู๋ไป๋ยื่นหน้าเข้าไปมองใกล้ ๆ "เสร็จแล้วหล่ะ" เมื่อหมักน้ำหมักเสร็จเรียบร้อย อี้หมิงก็เดินไปดูอุปกรณ์ที่จะเตรียมเ
~!ฝ่าบาท~กง กง ขันขีใกล้ชิตฮ่องเต้วิ่งกุลีกุจอตรวเข้ามาหาพระองค์ที่กำลังชมความงามของดอกบัวที่กำลังอวดกันเบ่งบานทั่วทั้งสระกลางตำหนักอี๋เหอ"อ้าวกงกง เจ้ารีบร้อนมาเข้ามาเช่นนี้มีเรื่องอันใดกันเล่า""ทูลฝ่าบาท ตอนนี้นายอำเภอและขุนนางฝ่ายบุ๋นเข้ามาขอเข้าเฝ้าด่วน โรคระบาดตอนนี้ควบคุมไม่ได้แล้วพะยะค่ะ""เป็นเช่นนั้ไปนรึ! ไป ไป เห็นทีครานี้แคว้นเราจะไม่สงบอีกต่อไปสินะ""ฝ่าบาทค่อย ๆ เดินเพคะ ระวัง ๆ เพคะ" "ไปตามไท่จื่อมาด้วย ให้มาหารือด้วยกัน""พะยะค่ะ""เป่าหนิง เจ้าจงเร่งไปตามไท่จื่อมาเร็วเข้า"กงกงเมื่อได้รับคำสั่งก็รีบสั่งเป่าหนิงรองขันทีให้รีบไปยังตำหนักบูรพาของรัชทายาททันทีไม่นานก็ปรากฏร่างองอาจของรัชทายาทหนุ่มเดินอย่างองอาจ เข้ามาแล้วนั่งประจำที่ข้างฮ่องเต้ผู้เป็นบิดา "เฉินอ๋องล่ะ""องค์ชายไม่อยู่ตำหนักพะยะค่ะ นางกำนัลรายงานว่าออกไปธุระนอกเมือง"กงกงรายงานก้มหน้างุด เหงื่อเม็ดเล็กๆ มีผุดซึมขึ้นที่หน้าแต่ก็ไม่กล้ายกผ้าขึ้นมาเช็ด"ดีจริง ๆ เฉินอ๋อง ยามข้าต้องการตัวกลับหายไปทำธุระนอกเมือง! เอ้า ว่ามาพวกเจ้ามีเรื่องอันใด""เรียนฝ่าบาท สองสามวันมานี้จวนของกระหม่อมมีชาวเมืองมาตีกลองร้
"พี่หมิงอี้ท่านยิ้มอะไรกัน""ไม่มีอะไร ๆ ฮ่า ฮ่า " อี้หมิงที่ชอบใจกับเรตติ้งของตัวเองก็ยังหลุดหัวเราะออกมาไม่หยุด "อ่ะนี่! เงินเจ้า แหม๋ สาวน้อยเจ้าช่างเป็นที่ชมชอบของชายเมืองหลี่จริงเชียวดูสิ วุ่นวายข้าต้องออกไปจัดการอีกแล้ว"ฟางหนิงอวี๋วางเงินลงบนฝ่ามือบางแล้วพูดเสียงสะบัดหยอกเย้าอี้หมิงอย่างหมั่นไส้ในความนิยมของนาง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตั้งแต่เด็กสาวมาเต้นระบำให้ร้านนาง กำไรของร้านก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามากินดื่มในร้านของนางจำนวนมากและยิ่งไม่ต้องพูดถึงวันที่มีสาวน้อยตรงหน้ามาแสดงเต้นระบำทำเอาร้านนางแทบแตกเลยทีเดียว "พ่อบ้านจาง เร็วเข้า ๆ นั่น ๆ ปีนโต๊ะร้านข้าแล้ว เร็วๆ""อะเอ่อ นายท่านทั้งหลายๆ ใจเย็น ๆนะ สาวงามของข้าเต้นระบำได้เพียงวันละรอบเท่านั้นจ๊ะ พวกท่านใจเย็นๆ นะอ่ะ อ่ะ ลงจากโต๊ะข้าก่อนนายท่าน"~ทำไมกัน ข้ายินดีจ่าย จะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามา!~~ข้าด้วย ข้าด้วย~"เอ่อ ใจเย็นๆ นะนายท่าน ท่านรอรอบหน้าเถอะนะ ไม่งั้นถ้าท่านยังเป็นเช่นนี้นางจะไม่มาเต้นระบำให้พวกท่านดูอีกเป็นแน่ นางค่อนข้างขี้กลัวเสียงดังนะ!" ฟางหนิงอวี๋ใช้พัดสวยป้องกระซิบพูดปดกับชายหนุ่มในร้าน ~จริงหรอ
~กึก กึก กึก กึก ตึก กึก กึก กึก~~เสียงอะไรกันแต่เช้า เฮ้ยย!~~โห! นั่นทหารวังหนิ กำลังไปไหนกันหนะ~~เกิดศึกสงครามรึ เฮ้ย ข้าต้องเก็บของ ๆ เกิดศึกๆ~~นี่ๆ! หยุด! ศึกสงครามอะไรกัน ปากอัปมงคลจริงเชียว พวกเจ้าดูสิ ! ไม่มีคนไหนถือดาบเลยซักคน~~แฮะๆ จริงด้วย แล้วไม่ใช่ศึกสงครามแล้วจะเดินทัพไปที่ใดกันเล่า~ "หมิงอี้ ๆ มาดูนี่ๆ ตื่นมาดูนี่เร็ว" อี้เฟินรีบมาปลุกบุตรสาวให้ลุกขึ้นไปดูเหล่าทัพทหารที่กำลังเดินผ่านหมู่บ้านไป"อื้อ ดูอะไรรึ" อี้หมิงที่ยังสะลึมสะลือ หย่อนขาลงจากเตียงแล้วก้าวตามมารดาทั้งที่เปลือกตายังลืมไม่เต็มที่"เฮ้ย! ทหาร ทหารจริงๆ ทหาร!" อี้หมิงเมื่อลืมตาเห็นเหล่าทหารที่ใส่เกาะเดินขบวนอย่างพร้อมเพรียงเป็นแถวยาวมุ่งหน้าออกจากเมืองก็ตาโตทันที เหมือนในละครที่ดูเลยอ่ะ โห!"ใช่ๆ ทหารๆ " เฟิน เฟิน ที่ออกมาดูที่หน้าบ้านเช่นกันเดินเข้ามาหาอี้หมิง"พวกเขาไปไหนกัน มีสงครามหรอ" อี้หมิงหันไปถามมารดาอย่างใคร่รู้"ข้าว่าไม่น่าใช่นะ ดูแต่ละนายสิ ไม่มีหอกดาบเลย" ~ข้าได้ยินมาว่าไท่จื่อ เกณฑ์กำลังทหารของพระองค์มาช่วยไล่พวกเจ้าแมลงร้ายที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้หนะ ขอบคุณเทียนกงที่ส่งผู้มีบุญมาเกิดใ
อี้หมิง และเฟิน เฟิน รวมถึงอู๋ไป๋ก็ไม่พลาดที่จะไปดูการไล่แมลงขององค์รัชทายาทเช่นกัน ~คุณหนูๆ เดินช้าๆ เดี๋ยวได้หกล้มหรอกเจ้าค่ะ~~ก็ข้ารีบไปหาไท่จื่อหนิ เจ้าก็เร็ว ๆ เข้าสิ~ เสียงพูดคุยของสองนายบ่าวดังขึ้นขณะที่กำลังเดินฝ่าเหล่าชาวบ้านเพื่อตรงเข้าไปหาองค์รัชทายาทที่นั่งอยู่ในซุ้มที่ทำขึ้นชั่วคราวเพื่อดูผลงานของตน "ถวายพระพรฝ่าบาท หลี่เม่ยวันนี้จะมาขอชื่มชมผลงานของฝ่าบาทด้วยเพคะ""อืม!" เฉิงอี้ครางรับในลำคอ สายตาคมยังทอดมองเหล่าทหารที่เริ่มลงไปในแปลงข้าวพร้อมถือที่จับแมลงที่ทำจากผ้าคนละอันตั้งเรียงแถวหน้ากระดานเพื่อรอคำสั่งให้ลงมือจากจางหยาง "น่าสนใจดีแฮะ ฮ่า ฮ่า" อี้หมิงอุทานออกมาเมื่อเห็นท่าทีของเหล่าทหารเสียงหัวเราะของอี้หมิง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ไป เริ่มหันมามองแล้วต่อว่าเธอ~นางเป็นบ้าไปแล้วรึกะไร ยืนหัวเราะอยู่ได้~เฟิน เฟิน เมื่อได้ยินก็กระตุกแขนอี้หมิงให้เลิกหัวเราะซักที "พี่หมิงอี้ หยุดหัวเราะได้แล้ว ประเดี๋ยวทั้งหัวข้าและพี่ได้หลุดออกจากบ่ากันพอดี" เฟิน เฟิน ที่มองเห็นเหล่าทหารองครักษ์เริ่มหันมาจับจ้องที่พวกตนก็รีบกระซิบอี้หมิงทันทีเฮือก! อี้หมิงหันไปมองตามสายตาเฟิน เ
~เปร่ง เปร่ง ตุบ ตุบ เปร่ง เปร่ง~ เสียนค้อนเหล็กตีกระทบเข้ากับแท่งเหล็กสีแดงที่วางพาดอยู่ ทั้งสามคนยืนมองเข้าไปในร้านตีดาบอย่างขลาดกลัว ในร้านมองเข้าไปมีแต่เหล่าชายฉกรรจ์ทั้งนั้น ~เปร่ง เปร่ง ตุบ ตุบ เปร่ง เปร่ง~"ท่าน ท่าน พี่ชาย พี่ชาย"'อึก! อี้หมิงกลืนน้ำลายกับกล้ามหน้าอกและกล้ามท้องที่บัดนี้มีเหงื่อไหลตามร่องลอนกล้ามลงมา ใบหน้าหล่อเหลามีเหงื่อผุดขึ้นจนผมเปียกลู่ลงมาปิดหน้าคมคาย หล่อมาก นี่เป็นดาราได้เลยนะเนี่ย อี้หมิงคิดในใจ อร้าย! หยุดคิดอี้หมิง'~เปร่ง เปร่ง เปร่ง~ ชายตรงหน้ายังก้มเงื้อมค้อนเหล็กต่อไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกจากร่างบางซักนิด"ไอ้บ้า หยุดก่อน"อี้หมิงเมื่อเห็นว่าเรียกยังไงชายตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีที่สนใจตนก็ตะโดฝกนขึ้นตุบ!"เฮ้ย" อี้หมิงกระโดดหลบค้อนเหล็กที่ถูกโยนลงพื้นเมื่อครู่ได้ผลชายหน้าตาหล่อเหลาที่เปลือยอกล่ำๆหน้าตาดูไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป และหน้าตาดูคุ้น ๆ ตาของอี้หมิงหยุดตีเหล็ก และทิ้งค้อนเหล็กลงพื้นก่อนที่จะมองหน้าเธอด้วยสายตาหงุดหงิดแล้วเดินอาด ๆ หายลับเข้าไปด้านหลังจางหยางเมื่อเห็นหญิงสาวก็จำนางได้ทันที หญิงงามชุดขาวที่ขายผักที่ท้ายตลาด นางมาทำอะไรที่นี
"หน่วยราดตะเวนเงาของเรารายงานว่า ถ้ำนอกเมืองที่ชายป่าติดวัดฉงเซิ้ง มีข้าวเปลือกน่าจะหลายร้อยตันทีเดียวซ่อนอยู่ภายในถ้ำ ปากถ้ำมีกลุ่มคนเฝ้าอยู่ตลอดเวลา"~ปึก!~ เสียงมือตบโต๊ะอย่างแค้นใจของเฉิงอี้ดังลั่น"ข้านึกอยู่แล้วเชียว มันเป็นใคร""ตอนนี้ข้าให้ทหารเงาเราสืบอยู่ คาดว่าไม่นานน่าจะพบว่ามันเป็นใคร""เรื่องนี้เห็นทีจะช้าไม่ได้ เป็นเช่นนางว่าบัดนี้ชาวเมืองเดือดร้อน ราคาข้าวสูงขึ้นทุกวัน เราต้องชิงลงมือก่อนที่พวกมันจะปล่อยข้าวทั้งหมดออกมาขาย""เจ้ามีแผนการรึ"เฉิงอี้นิ่งเงียบไปซักพักแล้วจึงนั่งลงที่ตั่งโต๊ะ ก่อนจะเอ่ยบอกจางหยางถึงแผนการที่วางไว้ในใจ"งานนี้เห็นทีหนามหยอกต้องเอาหนามบ่งแล้วล่ะ"เฉิงอี้กอดอกอย่างใช้ความคิด "จางหยางเจ้าให้คนสนิทเราไปปล่อยข่าวว่ามีพ่อค้าต่างเมือง แคว้นแถบทะเลทราย ต้องการข้าวจำนวนมาก มีเท่าไหร่รับซื้อหมดและยินดีให้ราคาสูงกว่าท้องตลาด เจ้าทำยังไงก็ได้ให้คนของเราปั่นราคาข้าวให้สูงขึ้นไปอีก""ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าจะเร่งให้พวกมันนำข้าวทั้งหมดออกมาขายให้เร็วขึ้นใช่รึไม่""ใช่! และเจ้าจงไปเตรียมข้าวในคลังส่วนหนึ่งไว้""ได้ ข้าจะเร่งไปจัดการให้""เจ้าประวิงเวลาไว้ซักสอ
เมื่อเห็นชายตรงหน้ายังเงียบ อี้หมิงจึงปฏิบัติการเกลี้ยกล่อมทันที ตอนนี้อยากได้เครื่องพ่น อยากขายน้ำหมัก อยากได้เงินเยอะๆ แต่ก็กลัวๆ เอาว่ะลองซักตั้ง!"ตอนนี้เจ้าทำอะไรมากไม่ได้แล้วล่ะ แมลงมันระบาดไปทั่วแล้ว เพราะงั้นเจ้าต้องเร่งทำถังพ่นนี้ให้กับข้า จะได้รีบช่วยชาวบ้านผ่อนหนักให้เป็นเบาได้"เงียบ! เฉิงอี้ยังคงเงียบรอฟังเสียงเจื้อยแจ้วของหญิงตรงหน้าต่อไป"อีกอย่างตอนนี้ข้าวแพงมากเจ้าก็เห็น ประชาชนเดือดร้อน บางคนแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้ออยู่แล้ว ถ้าเรากำจัดโรคระบาดนี้ได้นะ ราคาน่าจะลดลงมากโขทีเดียว"เฉิงอี้ค่อย ๆ คิดตาม ยังไงชาวเมืองหลี่ประชาชนของเขาต่างสำคัญอันดับหนึ่ง ข้อนี้เขาเกือบลืมนึกไป ต่อให้หญิงสาวตรงหน้าเป็นคนทำ แต่ตอนนี้คงตามน้ำไปก่อน เมื่อนางยับยั้งโรคระบาดนี้ได้ค่อยสังหารนางก็ยังไม่สาย "หึ"นึกแล้วใบหน้าหล่อเหลาของเฉิงอี้พลันแสยะยิ้มออกมา~พรึบ!~คิดได้ดังนั้นเฉิงอี้ก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ประตู"ตามมาสิ!" เยส! ปิดดิว! อี้หมิงอุทานในใจ"เดี๋ยว! มาแก้มัดให้ข้าก่อน!" อี้หมิงรีบตะโกนไล่หลัง~แอด~ "ปึก!" เมื่อประตูถูกเปิดจากด้านในทำให้จางหยางที่กำลังแอบฟังโดยแนบหูกลับประตูเสียห
"เจ้าต้องการอะไร!" อี้เฉินกอดอก กวาดสายตาดุจพญาเหยี่ยวมองมาที่ร่างบางที่นั่งอยู่"ข้าอยากได้ถังพ่นยา""จะเอาไปทำอะไร""ขะ ข้า จะเอาไปพ่นน้ำหมักหนะ จะไปพ่นฆ่าเจ้าแมลงที่ระบาดอยู่ตอนนี้ไง" ชายตรงหน้าทำให้อี้หมิงพูดตะกุกตะกัก น่าแปลกที่ชายคนนี้มีรังสีบางอย่างที่ไม่เหมือนคนทั่วไป รึเธอคิดไปเองกันนะ"เล่าต่อสิ" เฉิงอี้เริ่มสนใจในสิ่งที่นางเล่า"คือข้าขอพู่กันกับกระดาษ" อี้หมิงเรียกร้องขอกระดาษกับพู่กันเพื่อจะวาดสิ่งที่ตนต้องการ เฉิงอี้ยิ่งสนใจในตัวนางมากยิ่งขึ้น นางรู้หนังสือรึ น่าสนใจดีแฮะ!พรึบ! ตึก! กระดาษและแท่นหมึกพร้อมพู่กันโดนมือหนาคว้ามาวางลงตรงด้านหน้าหญิงสาว อี้หมิงไม่รอช้าลงมือใช้พู่กันขีดเขียน วาดไปมาทันทีภาพหญิงสาวร่างบอบบาง ใบหน้ารูปไข่เรียวเล็ก ผิวขาวต่างจากหญิงชาวบ้านทั่วไปแม้สวมใส่ชุดเก่า ๆ ธรรมดากลับบดบังความงามที่ซ่อนอยู่ของหญิงตรงหน้าไม่ได้ นี่ข้าชมนางรึ! หึ! ไม่มีทาง! เฉิงอี้สบัดศรีษะไปมาเบาๆ อย่างนึกขันตัวเอง"อ่ะ เสร็จแล้วล่ะ" อี้หมิงเลื่อนกระดาษไปตรงหน้าให้ชายหนุ่มได้ดูอะไรล่ะเนี่ย หน้าตาประหลาดจริง! "นี่คือ..หน้าตาประหลาดจริง" เฉิงอี้มองหน้านวลอย่างฉงน"ถังพ่น
~เปร่ง เปร่ง ตุบ ตุบ เปร่ง เปร่ง~ เสียนค้อนเหล็กตีกระทบเข้ากับแท่งเหล็กสีแดงที่วางพาดอยู่ ทั้งสามคนยืนมองเข้าไปในร้านตีดาบอย่างขลาดกลัว ในร้านมองเข้าไปมีแต่เหล่าชายฉกรรจ์ทั้งนั้น ~เปร่ง เปร่ง ตุบ ตุบ เปร่ง เปร่ง~"ท่าน ท่าน พี่ชาย พี่ชาย"'อึก! อี้หมิงกลืนน้ำลายกับกล้ามหน้าอกและกล้ามท้องที่บัดนี้มีเหงื่อไหลตามร่องลอนกล้ามลงมา ใบหน้าหล่อเหลามีเหงื่อผุดขึ้นจนผมเปียกลู่ลงมาปิดหน้าคมคาย หล่อมาก นี่เป็นดาราได้เลยนะเนี่ย อี้หมิงคิดในใจ อร้าย! หยุดคิดอี้หมิง'~เปร่ง เปร่ง เปร่ง~ ชายตรงหน้ายังก้มเงื้อมค้อนเหล็กต่อไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกจากร่างบางซักนิด"ไอ้บ้า หยุดก่อน"อี้หมิงเมื่อเห็นว่าเรียกยังไงชายตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีที่สนใจตนก็ตะโดฝกนขึ้นตุบ!"เฮ้ย" อี้หมิงกระโดดหลบค้อนเหล็กที่ถูกโยนลงพื้นเมื่อครู่ได้ผลชายหน้าตาหล่อเหลาที่เปลือยอกล่ำๆหน้าตาดูไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป และหน้าตาดูคุ้น ๆ ตาของอี้หมิงหยุดตีเหล็ก และทิ้งค้อนเหล็กลงพื้นก่อนที่จะมองหน้าเธอด้วยสายตาหงุดหงิดแล้วเดินอาด ๆ หายลับเข้าไปด้านหลังจางหยางเมื่อเห็นหญิงสาวก็จำนางได้ทันที หญิงงามชุดขาวที่ขายผักที่ท้ายตลาด นางมาทำอะไรที่นี
อี้หมิง และเฟิน เฟิน รวมถึงอู๋ไป๋ก็ไม่พลาดที่จะไปดูการไล่แมลงขององค์รัชทายาทเช่นกัน ~คุณหนูๆ เดินช้าๆ เดี๋ยวได้หกล้มหรอกเจ้าค่ะ~~ก็ข้ารีบไปหาไท่จื่อหนิ เจ้าก็เร็ว ๆ เข้าสิ~ เสียงพูดคุยของสองนายบ่าวดังขึ้นขณะที่กำลังเดินฝ่าเหล่าชาวบ้านเพื่อตรงเข้าไปหาองค์รัชทายาทที่นั่งอยู่ในซุ้มที่ทำขึ้นชั่วคราวเพื่อดูผลงานของตน "ถวายพระพรฝ่าบาท หลี่เม่ยวันนี้จะมาขอชื่มชมผลงานของฝ่าบาทด้วยเพคะ""อืม!" เฉิงอี้ครางรับในลำคอ สายตาคมยังทอดมองเหล่าทหารที่เริ่มลงไปในแปลงข้าวพร้อมถือที่จับแมลงที่ทำจากผ้าคนละอันตั้งเรียงแถวหน้ากระดานเพื่อรอคำสั่งให้ลงมือจากจางหยาง "น่าสนใจดีแฮะ ฮ่า ฮ่า" อี้หมิงอุทานออกมาเมื่อเห็นท่าทีของเหล่าทหารเสียงหัวเราะของอี้หมิง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ไป เริ่มหันมามองแล้วต่อว่าเธอ~นางเป็นบ้าไปแล้วรึกะไร ยืนหัวเราะอยู่ได้~เฟิน เฟิน เมื่อได้ยินก็กระตุกแขนอี้หมิงให้เลิกหัวเราะซักที "พี่หมิงอี้ หยุดหัวเราะได้แล้ว ประเดี๋ยวทั้งหัวข้าและพี่ได้หลุดออกจากบ่ากันพอดี" เฟิน เฟิน ที่มองเห็นเหล่าทหารองครักษ์เริ่มหันมาจับจ้องที่พวกตนก็รีบกระซิบอี้หมิงทันทีเฮือก! อี้หมิงหันไปมองตามสายตาเฟิน เ
~กึก กึก กึก กึก ตึก กึก กึก กึก~~เสียงอะไรกันแต่เช้า เฮ้ยย!~~โห! นั่นทหารวังหนิ กำลังไปไหนกันหนะ~~เกิดศึกสงครามรึ เฮ้ย ข้าต้องเก็บของ ๆ เกิดศึกๆ~~นี่ๆ! หยุด! ศึกสงครามอะไรกัน ปากอัปมงคลจริงเชียว พวกเจ้าดูสิ ! ไม่มีคนไหนถือดาบเลยซักคน~~แฮะๆ จริงด้วย แล้วไม่ใช่ศึกสงครามแล้วจะเดินทัพไปที่ใดกันเล่า~ "หมิงอี้ ๆ มาดูนี่ๆ ตื่นมาดูนี่เร็ว" อี้เฟินรีบมาปลุกบุตรสาวให้ลุกขึ้นไปดูเหล่าทัพทหารที่กำลังเดินผ่านหมู่บ้านไป"อื้อ ดูอะไรรึ" อี้หมิงที่ยังสะลึมสะลือ หย่อนขาลงจากเตียงแล้วก้าวตามมารดาทั้งที่เปลือกตายังลืมไม่เต็มที่"เฮ้ย! ทหาร ทหารจริงๆ ทหาร!" อี้หมิงเมื่อลืมตาเห็นเหล่าทหารที่ใส่เกาะเดินขบวนอย่างพร้อมเพรียงเป็นแถวยาวมุ่งหน้าออกจากเมืองก็ตาโตทันที เหมือนในละครที่ดูเลยอ่ะ โห!"ใช่ๆ ทหารๆ " เฟิน เฟิน ที่ออกมาดูที่หน้าบ้านเช่นกันเดินเข้ามาหาอี้หมิง"พวกเขาไปไหนกัน มีสงครามหรอ" อี้หมิงหันไปถามมารดาอย่างใคร่รู้"ข้าว่าไม่น่าใช่นะ ดูแต่ละนายสิ ไม่มีหอกดาบเลย" ~ข้าได้ยินมาว่าไท่จื่อ เกณฑ์กำลังทหารของพระองค์มาช่วยไล่พวกเจ้าแมลงร้ายที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้หนะ ขอบคุณเทียนกงที่ส่งผู้มีบุญมาเกิดใ
"พี่หมิงอี้ท่านยิ้มอะไรกัน""ไม่มีอะไร ๆ ฮ่า ฮ่า " อี้หมิงที่ชอบใจกับเรตติ้งของตัวเองก็ยังหลุดหัวเราะออกมาไม่หยุด "อ่ะนี่! เงินเจ้า แหม๋ สาวน้อยเจ้าช่างเป็นที่ชมชอบของชายเมืองหลี่จริงเชียวดูสิ วุ่นวายข้าต้องออกไปจัดการอีกแล้ว"ฟางหนิงอวี๋วางเงินลงบนฝ่ามือบางแล้วพูดเสียงสะบัดหยอกเย้าอี้หมิงอย่างหมั่นไส้ในความนิยมของนาง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตั้งแต่เด็กสาวมาเต้นระบำให้ร้านนาง กำไรของร้านก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามากินดื่มในร้านของนางจำนวนมากและยิ่งไม่ต้องพูดถึงวันที่มีสาวน้อยตรงหน้ามาแสดงเต้นระบำทำเอาร้านนางแทบแตกเลยทีเดียว "พ่อบ้านจาง เร็วเข้า ๆ นั่น ๆ ปีนโต๊ะร้านข้าแล้ว เร็วๆ""อะเอ่อ นายท่านทั้งหลายๆ ใจเย็น ๆนะ สาวงามของข้าเต้นระบำได้เพียงวันละรอบเท่านั้นจ๊ะ พวกท่านใจเย็นๆ นะอ่ะ อ่ะ ลงจากโต๊ะข้าก่อนนายท่าน"~ทำไมกัน ข้ายินดีจ่าย จะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามา!~~ข้าด้วย ข้าด้วย~"เอ่อ ใจเย็นๆ นะนายท่าน ท่านรอรอบหน้าเถอะนะ ไม่งั้นถ้าท่านยังเป็นเช่นนี้นางจะไม่มาเต้นระบำให้พวกท่านดูอีกเป็นแน่ นางค่อนข้างขี้กลัวเสียงดังนะ!" ฟางหนิงอวี๋ใช้พัดสวยป้องกระซิบพูดปดกับชายหนุ่มในร้าน ~จริงหรอ
~!ฝ่าบาท~กง กง ขันขีใกล้ชิตฮ่องเต้วิ่งกุลีกุจอตรวเข้ามาหาพระองค์ที่กำลังชมความงามของดอกบัวที่กำลังอวดกันเบ่งบานทั่วทั้งสระกลางตำหนักอี๋เหอ"อ้าวกงกง เจ้ารีบร้อนมาเข้ามาเช่นนี้มีเรื่องอันใดกันเล่า""ทูลฝ่าบาท ตอนนี้นายอำเภอและขุนนางฝ่ายบุ๋นเข้ามาขอเข้าเฝ้าด่วน โรคระบาดตอนนี้ควบคุมไม่ได้แล้วพะยะค่ะ""เป็นเช่นนั้ไปนรึ! ไป ไป เห็นทีครานี้แคว้นเราจะไม่สงบอีกต่อไปสินะ""ฝ่าบาทค่อย ๆ เดินเพคะ ระวัง ๆ เพคะ" "ไปตามไท่จื่อมาด้วย ให้มาหารือด้วยกัน""พะยะค่ะ""เป่าหนิง เจ้าจงเร่งไปตามไท่จื่อมาเร็วเข้า"กงกงเมื่อได้รับคำสั่งก็รีบสั่งเป่าหนิงรองขันทีให้รีบไปยังตำหนักบูรพาของรัชทายาททันทีไม่นานก็ปรากฏร่างองอาจของรัชทายาทหนุ่มเดินอย่างองอาจ เข้ามาแล้วนั่งประจำที่ข้างฮ่องเต้ผู้เป็นบิดา "เฉินอ๋องล่ะ""องค์ชายไม่อยู่ตำหนักพะยะค่ะ นางกำนัลรายงานว่าออกไปธุระนอกเมือง"กงกงรายงานก้มหน้างุด เหงื่อเม็ดเล็กๆ มีผุดซึมขึ้นที่หน้าแต่ก็ไม่กล้ายกผ้าขึ้นมาเช็ด"ดีจริง ๆ เฉินอ๋อง ยามข้าต้องการตัวกลับหายไปทำธุระนอกเมือง! เอ้า ว่ามาพวกเจ้ามีเรื่องอันใด""เรียนฝ่าบาท สองสามวันมานี้จวนของกระหม่อมมีชาวเมืองมาตีกลองร้
ผ่านไปไม่นานอี้เฟินก็ให้คนงานชายกลิ้งโอ่งที่ล้างทำความสะอาดเสร็จแล้วมาให้อี้หมิง"ระวังๆ ค่อย ๆ กลิ้ง อย่างนั้นแหละ อ่ะวางตรงนี้ๆ พี่หมิงอี้โอ่งได้แล้วจ๊ะ""ดีเลยข้าจะผสมน้ำหมักแล้วนะ" อี้หมิงพับแขนเสื้อของนางขึ้น ใช้ปิ่นรวบปักผมเป็นมวยเรียบร้อย ส่วนนิ้วมือเรียวเกี่ยวเอาปอยผมที่ตกลงมาคลอเคลียที่ใบหน้างามเกี่ยวทัดไว้ที่ใบหู'สาธุ ทีกงขอให้น้ำหมักของหนูสำเร็จทีเถอะ' อี้หมิงภาวนาเอาฤกษ์เอาชัยในใจ"มา! มาเริ่มกัน"อี้หมิงเริ่มจากการเทน้ำตาลทรายแดงลงไปก่อน จากนั้นใช้กระบวยตักน้ำมะพร้าวเทลงไป ตามด้วยน้ำส้มสายชู และเทเหล้าลงไปผสม มือเรียวจับไม้พายคนผสมให้ส่วนผสมที่ใส่ลงไปเข้ากัน เมื่อเห็นว่าเข้ากันดีแล้วอี้หมิงจึงใส่พริกไทยที่ผ่านการโขลกละเอียดเรียบร้อยแล้วลงไปเป็นส่วนผสมสุดท้าย คนผสมให้เข้ากันอีกรอบ แล้วปิดฝาโอ่งไว้"เสร็จแล้วเหลือรอแค่เวลาแล้วหล่ะ"อี้หมิงปัดมือไปมาเมื่อการผสมน้ำหมักจบลง ทีนี้ก็แค่รอให้ครบ 7 วันแล้วมาดูกันว่าน้ำหมักนี้ของเธอจะใช้ได้รึไม่"หมิงอี้เสร็จแล้วหรอ" อู๋ไป๋ยื่นหน้าเข้าไปมองใกล้ ๆ "เสร็จแล้วหล่ะ" เมื่อหมักน้ำหมักเสร็จเรียบร้อย อี้หมิงก็เดินไปดูอุปกรณ์ที่จะเตรียมเ