“คุณซัน”
“เห็นข่าวหรือยัง”“เห็นแล้วค่ะ ฉัน…” ก่อนที่เบญจาจะได้พูดอะไรเดวิสก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน “ผมสั่งให้ทีมกฎหมายที่เมืองไทยช่วยตามสืบแล้วว่าใครปล่อยข่าวพวกนั้น รู้ตัวเมื่อไหร่ผมจะยื่นฟ้องให้” เชฟหนุ่มเอ่ยบอก ทันทีที่รู้เรื่องเขาก็รีบจัดการทุกอย่างทันที เพราะเรื่องแบบนี้ต้องจบให้เร็วเนื่องจากมันกระทบหลายฝ่ายโดยเฉพาะกับเบญจา “ทีมกฎหมาย” คนฟังกะพริบตาปริบๆ “คุณซันมีทีมกฎหมายที่เมืองไทยด้วยหรือคะ”“มีครับ นอกจากที่นี่ผมยังมีธุรกิจเล็กๆ ที่เมืองไทย ของคุณพ่อนะครับ” เบญจาไม่แน่ใจว่าเธอจะเชื่อคำว่าธุรกิจเล็กๆ ของเดวิสได้ไหม ถ้าเล็กจริงชายหนุ่มคงไม่ใช้คำว่าทีมกฎหมายหรอก“ขอบคุณนะคะ บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ฉันยังคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ว่าจะเริ่มต้นจัดการกับปัญหานี้ยังไง”“ค่อยๆ คิด ว่าแต่คนรักของคุณว่ายังไงบ้าง”“ฉันโทรหาเขาแล้ว แต่เขาไม่สบายเลยไม่อยากกวน”“ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอก ผมยินดี”“ค่ะ&rโรซี่ที่ยืนฟังทั้งคู่พูดคุยกันถึงกับถอนหายใจออกมาหนักๆ ทำไมลูกชายเธอถึงยังไม่ยอมพูดความในใจออกมาสักที หรือไม่ก็พูดยื้อให้เบญจาอยู่ด้วยกันที่นี่อีกสักหน่อย ทำไมถึงชอบได้ใจร้ายกับความรู้สึกของตัวเองแบบนั้นนะข่าวลือที่เกิดขึ้นกับหลานสาวถึงหูของนพพลเช่นกัน เพราะรู้ว่ามันไม่มีเรื่องไหนจริงนพพลจึงไม่ได้ร้อนอกร้อนใจกลับคิดว่าดีเสียอีก เพราะข่าวนี้อาจพิสูจน์ใจคนได้โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัวบางคนที่ทำร้ายเบญจาได้อย่างเลือดเย็นคืนก่อนเดินทางเบญจายังคงไปนั่งคุยกับเจ้าไก่ซิลค์กี้แต่คราวนี้เธอไม่กล้าแตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะกลัวเหตุการณ์ในคืนนั้นเกิดขึ้นซ้ำ เพียงแค่คิดถึงมันใจเธอก็เอาแต่เต้นโครมครามไม่หยุดรวมถึงความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนคนเป็นไข้นี่ก็ด้วย“เอากลับไปเลี้ยงที่ไทยด้วยไหม ผมยกให้”“อยากเอามันกลับไปด้วยอยู่เหมือนกัน แต่ฉันกลัวทำมันตายนะสิ”“งั้นผมจะเลี้ยงให้”“เลี้ยงดีๆ นะคะ อย่าจับมันลงหม้อตุ๋นเชียว”“ตัวเท่านี้ไม่น่าจะอิ่มท้องเท่าไหร่” เดวิสมองไปยังเป้าหมาย ซึ่งคำพูดของชายหนุ
งานรุ่งรักเริดนั่นคือกราฟชีวิตของเบญจาในเวลานี้ ทุกอย่างพุ่งถึงขีดสุดก็ว่าได้ คิวงานรีวิวสินค้าหรือพรีเซ็นเตอร์ยาวเป็นหางว่าวส่วนเรื่องหัวใจก็สีชมพูมาได้หลายเดือนแล้วเบญจาไม่ใช่ดารานักร้องหรือนางแบบแต่เธอเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่กำลังเป็นกระแส หยิบจับอะไรก็รุ่งและดวงพุ่งสุดๆ ไลฟ์สดแต่ละครั้งยอดคนดูก็หลักหมื่นปลายๆ ถึงแสนก็มี ของขวัญของสนับสนุนจากแฟนคลับก็ไม่เคยขาดสายถ้าให้สังเกตุทุกอย่างดีขึ้นตั้งแต่เธอเปิดตัวแฟนหนุ่มก็คงไม่ผิด นั่นจึงอดคิดไม่ได้ว่าอังกูรคือคนที่เข้ามาเพื่อเกื้อหนุนเธอ ชายหนุ่มเป็นถึงทายาทโรงแรมชื่อดังแถมรูปร่างหน้าตาก็หล่อเหลา เบญจาและอังกูรเจอกันครั้งแรกตอนที่หญิงสาวไปทำงานที่โรงแรมของครอบครัวเขา หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เจอกันบ่อยขึ้นก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคู่รักอย่างในปัจจุบัน “ขอบคุณนะคะที่มารับ”“ด้วยความยินดีครับ” เสียงทุ้มของอังกูรเอ่ยบอก ชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญคนรักสาวไปยังรถที่เวลานี้จอดติดเครื่องรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับก้าวเข้าไปเปิดประตูให้เธออีกด้วย ก่อนจะรีบอ้อมไปยังฝั่งคนขับแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งทันทีเช่นกัน “วันนี้เราจะไปกินข้าวที่ไหนกันดีคะ” น้ำเสียงสด
“ใช่ อร่อย แซ่บมาก รสชาติยำร้านนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ” ใช่ว่าจะมีเพียงเบญจาเท่านั้นที่ชอบ แสงจันทร์เองก็ชอบมากเช่นกัน ทุกครั้งที่มีโอกาสก็จะแวะไปกินจนกลายเป็นลูกค้าประจำไปแล้ว “เธอจะแต่งงานกับคุณหนึ่งเมื่อไหร่”แค่กๆ “เอ้า! ถามแค่นี้ถึงกับสำลักเลยเหรอ” แสงจันทร์หน้าตาเหลอหลาเพราะไม่คิดว่าคำถามง่ายๆ จะทำให้เพื่อนสำลักจนหน้าตาแดงก่ำไปหมดแล้ว “ยังไม่เคยคิดเรื่องนั้น” เบญจาบอกปัดก่อนจะไอออกมาอีกครั้งสองครั้ง “คิดได้แล้ว คนดีๆ แบบคุณหนึ่งเธอไม่ควรปล่อยให้หลุดมือไปนะ”“เรื่องแบบนี้มันตบมือข้างเดียวดังที่ไหน ต่อให้ฉันอยากแต่งงานแต่ถ้าคุณหนึ่งไม่อยากแต่งก็คงไปบังคับอะไรเขาไม่ได้” ที่เบญจาไม่กล้าคิดไกลเพราะความสัมพันธ์ของเธอกับอังกูรยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นก็คงไม่ผิด เพราะงานทำให้เธอกับเขาได้เจอกันจากนั้นชายหนุ่มก็เข้ามาทำความรู้จักหรืออีกอย่างก็คือจีบ “แล้วเธอจะคบไปเรื่อยๆ แบบนี้เหรอ”“ถ้าในตอนนี้ก็ต้องเป็นแบบนั้น อย่างที่ฉันเคยบอกไปนั่นแหละว่าทุกอย่างมันพึ่งเริ่มต้น ฉันขอทำทุกอย่างให้ดีที่สุดผลจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากัน”“ฉันเอาใจช่วย” แสงจันทร์ส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้เพื่อนรักซึ่งนั่นทำให้เ
เบญจาสะดุ้งตื่น ก่อนจะนอนคิดทบทวนความฝันที่พึ่งจบลง ทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงฝันว่าเธอกำลังเป็นเจ้าสาวและอยู่ในงานแต่งงานสุดโรแมนติกของตัวเอง ในฝันมีคุณปู่ แสงจันทร์รวมถึงแขกอีกจำนวนหนึ่งทุกคนต่างยิ้มแย้มกับวันสุดพิเศษของเธอ“หลิวครับ” “ค่ะ” เบญจาขานรับต่อคำเรียกนั้นก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมองด้านหลังของตัวเอง แต่ทำไมภาพใบหน้าเจ้าบ่าวมันถึงได้รางเลือนจนมองไม่ออกว่าเป็นใคร “หรือเพราะเรารู้สึกตัวก่อน ภาพหน้าคุณหนึ่งเลยไม่ค่อยชัด” เบญจาส่ายหน้าแรงๆ พร้อมกับนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเตียง เธอพยายามจะนอนต่อเพราะอยากฝันเห็นหน้าอังกูรในลุคเจ้าบ่าวให้ชัดกว่านี้ ทว่าสุดท้ายก็ทำไม่ได้ ยิ่งคิดถึงความฝันหัวใจของเธอก็ชัดจะเต้นไม่เป็นส่ำ แม้ความรักครั้งนี้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่อะไรๆ อาจไม่แน่นอน แต่เบญจาก็ทุ่มหัวใจลงไปอย่างไม่มีกั๊ก เธอเชื่อว่าความรักครั้งนี้เหมือนพรหมลิขิตเพราะทุกอย่างราบรื่นจนโลกทั้งใบเป็นสีชมพูด้วยนิสัย การศึกษา ฐานะหรือทุกอย่างที่เป็นอังกูรล้วนทำให้เบญจาประทับใจ เพราะแบบนั้นเธอจึงอดที่จะวาดฝันไปถึงเรื่องงานแต่งงาน เรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีแอบคิดแอบจินตนาการกันบ้างแต่บางวันเบญจาก็ยอมรั
“ขอข้าวเพิ่มอีกนิดค่ะป้ามาลัย”“ได้ค่ะคุณหนูของป้า” มาลัยทอดมองเบญจาด้วยความเอ็นดูแล้วตักข้าวเพิ่มให้ตามคำขอ เพราะตอนที่เบญจายังเล็กๆ นั้นเธอก็เป็นแม่นมช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่ยังแบเบาะ “จะกินแล้วนะคะ” แม้ปากบอกว่าจะกินแล้วแต่สิ่งแรกที่เบญจาทำคือการตักกับข้าวใส่จานให้นพพลก่อน ซึ่งเบญจาทำแบบนี้ทุกครั้งไม่เคยขาด นั่นทำให้หัวใจของคนแก่อิ่มเอมจนเกือบจะอิ่มข้าว เมื่อเห็นปู่เริ่มกินเบญจาก็ตักอาหารใส่จานตัวเองบ้าง เมนูแรกที่เธอตักคือน้ำชุบกุ้งหยำที่แค่ตักกลิ่นหอมของกะปิก็ทำให้ท้องร้อง ตามด้วยผัดสดๆ ที่ต้องกินคู่กันยิ่งเพิ่มความอร่อย รสชาติของอาหารทำให้แววตาของเบญจาเป็นประกายนั่นทำให้แม่ครัวยิ้มแก้มปริ จบจากอาหารคาวก็ตามด้วยผลไม้สดๆ ที่ไปตัดมาหลังบ้านเมื่อครู่ ทั้งสองย้ายที่นั่งจากห้องรับประทานอาหารมาเป็นมุมนั่งเล่นที่มีต้นมะกอกโอลีฟยักษ์โดดเด่นอยู่ตรงกลาง ข้างๆ คือบ่อปลาคราฟสีสวยตัวอ้วน“ปีนี้หลานปู่อายุครบยี่สิบห้าแล้วใช่ไหม”“ค่ะ ปีนี้หลิวเบญเพสพอดี” เบญจเพสของคนอื่นอาจเจอเรื่องร้ายๆ แต่สำหรับเบญจาแล้วกลับตรงกันข้าม งานดีความรักรุ่งคือปีเบญจเพสของเธอ “ความรักกับคุณหนึ่งเป็นยังไงบ้าง”“ดีค่
นพพลเหมือนจะเดาใจเบญจาออกว่าต้องถามแบบนี้ จึงหยิบแฟ้มที่ในนั้นมีรูปและข้อมูลส่วนตัวของว่าที่เจ้าบ่าวออกมายื่นให้เบญจา ทันทีที่รับมาเธอก็รีบเปิดดูแต่เพราะความรีบร้อนที่มีมากเกินไปจึงทำให้รูปใบหนึ่งหล่นออกมาจากแฟ้ม เบญจาก้มลงไปหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาถือไว้ในมือแล้วเพ่งสายตามองอยู่นาน ก่อนจะวางรูปใบนั้นลงบนโต๊ะหนักๆ อย่างไม่สบอารมณ์แล้วอ่านข้อมูลส่วนตัวของอีกฝ่ายชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น อายุ เรียนจบจากที่ไหน ชอบหรือไม่ชอบอะไรและที่สำคัญไปกว่านั้นคือที่อยู่ เบญจาจำอย่างหลังได้จนขึ้นใจก่อนจะลุกพรวดขึ้น“ซันไม่ได้อยู่เมืองไทยหรอกนะ” นพพลเอ่ยขึ้นราวกับเข้ามานั่งอยู่ในความคิดของหลานสาว“แล้วเขาอยู่ที่ไหนคะ”“สหรัฐอเมริกา”“ในแฟ้มนี่มีที่อยู่ของเขาไหม” ขณะถามเบญจาก็ขยับมือที่ยังคงถือแฟ้มข้อมูลของผู้ชายที่ชื่อว่าเดวิส ชื่อที่เธอไม่คุ้นหูและแม้จะเห็นแค่รูปก็ไม่ชอบหน้าได้ในทันที “อืม อยู่หน้าสุดท้าย”“โอเค” เบญจาเป่าลมออกปากหนักๆ เพื่อควบคุมอารมณ์ ยุบหนอพองหนอทั้งๆ ที่ใจร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟ “เรื่องพวกนี้มันใหญ่มากจริงๆ ค่ะ หลิวอยากขอเวลาคิดทบทวนหน่อยนะคะคุณปู่” “ได้สิ เดี๋ยวปู่ยื้อเวลาฝ่ายนั้นให้”“ข
“คุณหนึ่งคะ”“ครับ”“จอดรถแล้วคุยกันก่อนได้ไหมคะ พอดีว่าฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะบอก” สีหน้ารวมถึงน้ำเสียงที่แฝงความกังวลใจของเบญจาเวลานี้พลอยทำให้อังกูรรู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วยหรือครอบครัวเขาทำให้เธออึดอัดใจชายหนุ่มจึงรีบหักพวงมาลัยรถเข้าจอดริมถนน ซึ่งอีกไม่กี่สิบเมตรก็ถึงทางเข้าหมู่บ้านของเบญจาแล้วเพราะแบบนั้นตรงนี้จึงไม่ได้เปลี่ยวอะไร “คุณหลิวมีอะไรหรือเปล่าครับ หรือไม่สบายใจเรื่องวันนี้”“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ คุณกับคุณลุงคุณป้าทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นใจมากจนไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก แต่เพราะแบบนั้นฉันจึงคิดว่าไม่ควรปิดบังเรื่องบางอย่างกับคุณ”“เรื่องอะไรครับ คุณหลิวบอกผมมาได้เลย” สำหรับอังกูรแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรเขาก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเบญจาเสมอ “คือว่าฉัน...ที่มีคู่หมั้นแล้วค่ะ” อังกูรช็อกกับประโยคที่ได้ยินจนนั่งนิ่งไปทันที ก่อนที่เบญจาจะรีบอธิบายถึงที่มาที่ไปว่าเพราะอะไรจู่ๆ เธอถึงมีคู่หมั้นโผล่มา รวมถึงเธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเมื่อครั้งไปเจอคุณปู่ที่วังน้ำเขียวเช่นกัน“หลิวไม่ได้เต็มใจหมั้นรวมถึงไม่ได้อยากแต่งงานกับใครทั้งนั้นเพราะตอนนี้ในหัวใจหลิวมีเพียงคุณ” คำตอบที่เต็มไปด้วยคว
“เอางั้นเลย”“เอางั้นสิ แล้วงานที่นี่จะทำไงอะ”“คงต้องงดไลฟ์ไปก่อนสักระยะ แต่จะปล่อยคอนเทนต์ทุกวันตามเดิมนั่นแหละ”“แต่ฉันว่าต่อให้เธองดไลฟ์เป็นปีๆ ขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วงหรอก ในเมื่อยอดขายหลังบ้านปังออกขนาดนั้น” จะว่าไปลึกๆ แล้วแสงจันทร์ก็อิจฉาเบญจา เพราะไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะหยิบจับอะไรก็ประสบความสำเร็จเกือบทุกอย่าง อย่างว่าเบญจามีแรงสนับสนุนจากครอบครัวจะทำอะไรก็ไม่ต้องกลัวขาดทุนหรือล้มเหลว “สาธุขอให้สมพรปาก”“ส่วนเรื่องคุณหนึ่งหลิวไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะคอยจับตามองเขาให้ทุกฝีก้าว ถ้าชะนีนางไหนเสนอตัวเข้าใกล้เขาแม้แต่ปลายเล็บ ฉันจะตบให้”“พูดเหมือนว่าง ลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองเป็นแอร์สาวสายการบินชื่อดังนะ บินไปโน่นไปนี่ตลอด”“หมายถึงถ้าว่างนะ” แสงจันทร์ยิ้มแห้งเพราะตอนนี้งานของเธอยุ่งจริงๆ“อือ ขอบใจนะเอย”“ไม่เป็นไร ฉันอวยพรขอให้เธอถอนหมั้นกับผู้ชายคนนั้นได้สำเร็จเร็วๆ แล้วกลับมาตอบตกลงแต่งงานกับคนอังกูร” เมื่อได้ฟังคำอวยพรดีๆ จากแสงจันทร์ เบญจาก็พยักหน้ารับรัวๆ แล้วสวมกอดเพื่อนสนิท ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องฝ่าอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้คืนนั้นเบญจาจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมออกเดินทาง เพราะมั่นใจว่าจ
โรซี่ที่ยืนฟังทั้งคู่พูดคุยกันถึงกับถอนหายใจออกมาหนักๆ ทำไมลูกชายเธอถึงยังไม่ยอมพูดความในใจออกมาสักที หรือไม่ก็พูดยื้อให้เบญจาอยู่ด้วยกันที่นี่อีกสักหน่อย ทำไมถึงชอบได้ใจร้ายกับความรู้สึกของตัวเองแบบนั้นนะข่าวลือที่เกิดขึ้นกับหลานสาวถึงหูของนพพลเช่นกัน เพราะรู้ว่ามันไม่มีเรื่องไหนจริงนพพลจึงไม่ได้ร้อนอกร้อนใจกลับคิดว่าดีเสียอีก เพราะข่าวนี้อาจพิสูจน์ใจคนได้โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัวบางคนที่ทำร้ายเบญจาได้อย่างเลือดเย็นคืนก่อนเดินทางเบญจายังคงไปนั่งคุยกับเจ้าไก่ซิลค์กี้แต่คราวนี้เธอไม่กล้าแตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะกลัวเหตุการณ์ในคืนนั้นเกิดขึ้นซ้ำ เพียงแค่คิดถึงมันใจเธอก็เอาแต่เต้นโครมครามไม่หยุดรวมถึงความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนคนเป็นไข้นี่ก็ด้วย“เอากลับไปเลี้ยงที่ไทยด้วยไหม ผมยกให้”“อยากเอามันกลับไปด้วยอยู่เหมือนกัน แต่ฉันกลัวทำมันตายนะสิ”“งั้นผมจะเลี้ยงให้”“เลี้ยงดีๆ นะคะ อย่าจับมันลงหม้อตุ๋นเชียว”“ตัวเท่านี้ไม่น่าจะอิ่มท้องเท่าไหร่” เดวิสมองไปยังเป้าหมาย ซึ่งคำพูดของชายหนุ
“คุณซัน”“เห็นข่าวหรือยัง”“เห็นแล้วค่ะ ฉัน…” ก่อนที่เบญจาจะได้พูดอะไรเดวิสก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“ผมสั่งให้ทีมกฎหมายที่เมืองไทยช่วยตามสืบแล้วว่าใครปล่อยข่าวพวกนั้น รู้ตัวเมื่อไหร่ผมจะยื่นฟ้องให้” เชฟหนุ่มเอ่ยบอก ทันทีที่รู้เรื่องเขาก็รีบจัดการทุกอย่างทันที เพราะเรื่องแบบนี้ต้องจบให้เร็วเนื่องจากมันกระทบหลายฝ่ายโดยเฉพาะกับเบญจา“ทีมกฎหมาย” คนฟังกะพริบตาปริบๆ “คุณซันมีทีมกฎหมายที่เมืองไทยด้วยหรือคะ”“มีครับ นอกจากที่นี่ผมยังมีธุรกิจเล็กๆ ที่เมืองไทย ของคุณพ่อนะครับ” เบญจาไม่แน่ใจว่าเธอจะเชื่อคำว่าธุรกิจเล็กๆ ของเดวิสได้ไหม ถ้าเล็กจริงชายหนุ่มคงไม่ใช้คำว่าทีมกฎหมายหรอก“ขอบคุณนะคะ บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ฉันยังคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ว่าจะเริ่มต้นจัดการกับปัญหานี้ยังไง”“ค่อยๆ คิด ว่าแต่คนรักของคุณว่ายังไงบ้าง”“ฉันโทรหาเขาแล้ว แต่เขาไม่สบายเลยไม่อยากกวน”“ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอก ผมยินดี”“ค่ะ&r
เบญจารีบลุกขึ้นจากกองฟาง แต่เพราะรีบร้อนมากไปรวมถึงอาการเมาที่ยังคงมีสุดท้ายเธอก็เซถลาจนเกือบล้ม ยังดีที่เดวิสเข้ามาช่วยพยุงไว้ได้ทัน จากนั้นเขาก็พาเธอกลับเข้าบ้านแล้วแยกย้ายพักผ่อนทั้งคู่ต่างทิ้งตัวลงนอนบนเตียง แม้จะง่วงแม้จะอยากหลับแต่พวกเขากลับเอาแต่นอนมองเพดานห้องตัวเองอยู่แบบนั้น เบญจาพลิกตัวไปมาในขณะที่เดวิสนอนยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก หัวใจของทั้งคู่เต้นไม่เป็นส่ำบ่งบอกว่าจูบที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ฉาบฉวยหรืออยากให้จบเพียงแค่นั้น“ไม่ได้ๆ เราไม่ได้คิดอะไรกับเขา ไม่ได้คิด” เบญจาส่ายหน้าแรงๆ ไล่ความคิดแสนฟุ้งซ่านให้ออกไปจากหัว ก่อนจะคว้าผ้าห่มนวมขึ้นมาคลุมโปงขณะที่เธอกำลังสับสนอยู่นั้นจู่ๆ ก็เกิดข่าวลือขึ้นที่เมืองไทย เพราะการที่เธอหายหน้าหายตาไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแถมตลอดเวลาเกือบหนึ่งเดือนมานี้ก็ไม่เคยไลฟ์สด จึงมีคนกุข่าวขึ้นว่าเธอท้องกับผู้มีอิทธิพลและตอนนี้ก็กำลังหนีอายไปคลอดลูกอยู่ที่ต่างประเทศยิ่งข่าวในโลกออนไลน์ที่รับข่าวสารเพียงสั้นๆ จากนั้นก็กดแชร์ต่อๆ ไปอย่างสนุกมือยิ่งเหมือนลมที่พัดข่าวลือของเบญจาให้กระจายไปเร็วขึ้น แม้ข่าวจะเกิดขึ้นเม
“ครับ เพราะทุกๆ ปีเราจะมีงานสังสรรค์เพื่อพูดคุยว่าปีนั้นๆ เราปลูกอะไรบ้างหรืออะไรที่ปลูกแล้วดีหรือมีปัญหาก็เอาความรู้เหล่านั้นมาแชร์กัน”“ว้าว! ดีจัง” ในความคิดของเบญจามิตรภาพของคนทำฟาร์มที่นี่ช่างน่าทึ่ง แม้ผู้คนจะไม่ได้เฟรนลี่เหมือนเมืองไทยแต่พวกเขาก็พร้อมจะช่วยเหลืออีกฝ่ายเสมอ ที่รู้เพราะเธอสัมผัสมันมาแล้วด้วยตัวเองปริมาณไวน์ในขวดของเบญจาค่อยๆ ลดน้อยลง นั่นเพราะเธอเองก็มีเรื่องให้ฉลอง หญิงสาวนั่งดื่มไวน์อย่างมีความสุขแม้จะกังวลเรื่องปู่แต่เมื่อเห็นคลิปที่เดวิสอัดให้ท่านก็คงเข้าใจคนหนึ่งฉลองให้เรื่องดีๆ ตรงกันข้ามกับอีกคนที่กำลังฉลองให้เรื่องแย่ๆ ทว่าปริมาณไวน์ในขวดของเบญจากลับหายไปมากกว่าของเดวิสเสียอีก เพราะยิ่งมีความสุขเธอก็ยิ่งดื่มรู้ตัวอีกทีไวน์ก็หมดขวดเสียแล้ว“เอ้! ทำไมหมดแล้วละ” น้ำเสียงของคนเริ่มเมาเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับหลับตาส่องเข้าไปในขวดไวน์ คำพูดของเธอทำให้เดวิสหันมามองแล้วส่ายหน้าให้“กลับเข้าบ้านกันดีกว่า”&
แต่ถึงอย่างนั้นเดวิสก็ยังคงลังเลที่จะบอกความรู้สึกแท้จริงว่าเขาคิดยังไงกับเบญจา ไม่ใช่ไม่อยากบอกแต่กลัวบอกไปแล้วจะทำให้เธอไม่สบายใจเพราะหญิงสาวเองก็ไม่ได้มีท่าทีหรือแสดงออกว่าคิดอะไรกับเขา เธอยังคงหนักแน่นเรื่องถอนหมั้นรวมถึงมั่นคงในความรักที่ต่ออังกูร นั่นทำให้เขารู้สึกอิจฉายิ่งใกล้ครบกำหนดเวลาที่เขายื้อเพื่อให้เบญจาอยู่ที่นี่มากเท่าไหร่ เวลาในแต่ละวันก็เหมือนจะยิ่งผ่านไปเร็วมากเท่านั้น แต่เบญจากลับไม่เคยรบเร้าให้เขาพูดอะไร เธอยังคงช่วยงานเขาตั้งแต่เช้าถึงเย็น แต่ที่เขาชอบมากที่สุดคือตอนที่เธออยู่กับมารดา“อีกไม่กี่วันเธอก็ต้องกลับเมืองไทยแล้วนะซัน” โรซี่กำชับลูกชายอีกครั้งซึ่งน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน นั่นเพราะตอนนี้เอกสารส่วนตัวที่หายไปของเบญจาได้ครบถ้วนหมดแล้ว รวมถึงตั๋วเครื่องบินก็มีพร้อมออกเดินทางเช่นเดียวกันคำพูดของแม่ทำให้เดวิสถอนหายใจออกมาหนักๆ เขาจะรั้งเธอให้อยู่ด้วยกันที่นี่ได้ยังไง มันไม่มีเหตุผลอะไรไปรั้งด้วยซ้ำ สุดท้ายก็เลือกที่จะทำให้ความต้องการแรกของเบญจาประสบผลสำเร็จเดวิสห
เดวิสพยายามสื่อด้วยแววตารวมถึงการทำว่าเขานั้นคิดยังไงกับเบญจา ทั้งทำของอร่อยๆ ให้เธอได้กิน รวมถึงสรรหาวัตถุดิบมาทำอาหารไทยให้เธอกินหลายครั้ง หากเป็นวันหยุดก็มักจะพาออกไปเที่ยวเพื่อให้เธอได้ถ่ายรูปถ่ายคลิปหรือพาไปหาที่เงียบๆ ให้เธอได้ทำงานหรือแม้กระทั่งคุยกับคนรักของเธอ แต่ดูเหมือนเขาจะสื่อไปไม่มากพอ เพราะจนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่รับรู้ นั่นทำให้โรซี่ต้องยื่นมือช่วยลูกชายตัวดีที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์อะไรทำนองนี้มากเท่าไหร่“เอ้…กลิ่นนี้” เบญจาทำจมูกฟุดๆ ฟิตๆ ดมกลิ่นบางอย่างในบ้าน กลิ่นนี้มันคือก้านไม้หอมที่เธอเป็นคนคิดและสั่งผลิตเองไม่ผิดแน่ ก่อนจะเดินหาที่มากระทั่งเห็นมันวางอยู่บนชั้นในห้องรับแขก“หอมว่าไหม”“ค่ะ”“ซันให้ป้ามานานแล้วแต่เพราะมันสวยป้าจะใช้ก็เสียดาย เลยเอาไปเก็บอยู่นาน” โรซี่ไม่ได้กล่าวเกินจริง ก้านไม้หอมแบรนด์ของเบญจานั้นสวยและหอมมากจริงๆ เธอเอาไปฝากเพื่อน ยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก“คุณซันให้คุณป้
“แต่ฉันกลัว ถ้าหลิวรู้แล้วโกรธขึ้นมา ฉันจะทำไง”“ผมจะขอโทษคุณหลิวเองครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณต้องลำบากใจ” เอ่ยจบก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นซึ่งแสงจันทร์ก็ซุกตัวอยู่กับแผงอกของชายหนุ่ม ราวกับว่าเธอคือลูกนกตัวเล็กๆ ที่ต้องการการปกป้องคุ้มภัยอังกูรปรนเปรอแสงจันทร์ด้วยของแบรนด์เนมอีกหลายอย่าง แม้ปากจะบอกว่าไม่อยากได้แต่ลับหลังก็ตาลุกวาวจนเนื้อเต้น ขนาดพึ่งมีอะไรกันเขายังเปย์หนักขนาดนี้ถ้าเธอท้องขึ้นมา เขาคงคุกเข่าขอแต่งงานแน่“ลูกจะปล่อยมือจากหลิวจริงๆ นะเหรอ” โรซี่เอ่ยถามลูกชายอย่างตรงไปตรงมา นั่นเพราะเธอพอจะมองเห็นอะไรในสายตาของเดวิส ต่อให้การหมั้นหมายจะเกิดขึ้นตั้งแต่ที่เดวิสยังไม่เกิด ทว่าพอรู้ลูกชายคนนี้ของเธอก็นิ่งและขอทำความรู้จักว่าที่เจ้าสาวเงียบๆทุกครั้งที่เบญจาไลฟ์สดหนึ่งในคนดูคือเดวิส เพียงแค่ลูกชายไม่ได้ใช้แอคเคาท์จริงเท่านั้น ที่รู้เพราะเธอเคยเห็นและเคยได้รับกล่องพัสดุที่ส่งมาจากเมืองไทย โดยของในนั้นล้วนเป็นสินค้าของเบญจาทั้งสิ้น แบบนั้นเรียกว่าตกหลุมรักได้หรือเปล่า ยิ่งรู้ว่าเบญจาจะบินมาถอนหมั้นเดวิสก
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองดีกว่า อีกอย่างฉันอยากอยู่คนเดียวด้วย หลังจากนี้เราอย่าเจอกันอีกเลยนะคะ” แสงจันทร์เอ่ยบอกเสียงสั่นเครือก่อนจะก้าวลงจากเตียงพร้อมกับคว้าเสื้อเชิ้ตของอังกูรขึ้นมาสวมปกปิดร่างกายเปลือยเปล่ามือข้างหนึ่งกุมสาบเสื้อเชิ้ตไว้ส่วนอีกข้างค่อยๆ รวบเสื้อผ้าของเธอที่เวลานี้ยังกองอยู่บนพื้นขึ้นมาถือไว้ จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำทันทีที่ประตูห้องน้ำปิดลงเธอก็ยิ้มออกมา ยิ้มทั้งๆ ที่น้ำตากำลังไหลอาบแก้ม การเล่นละครฉากสำคัญของเธอถือว่าสอบผ่านไม่มีที่ติส่วนอังกูรกลับยังคงนั่งนิ่ง สมองตื้อจนคิดหาทางแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นไม่ตก นั่นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่จะแก้ไขกันได้ง่ายๆ และก่อนที่เขาจะคิดหาทางออกได้ประตูห้องน้ำก็เปิดออก สีหน้าของแสงจันทร์เวลานี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด แม้จะขอไปส่งแต่เธอก็ยังคงยืนกรานจะกลับด้วยตัวเองเพราะแสงจันทร์เป็นคนคุมเกมเธอจึงวางหมากให้อังกูรเดินตาม เธอไม่โวยวายไม่เรียกร้องขอให้เขารับผิดชอบ ยิ่งเธอเฉยอังกูรก็ยิ่งร้อนรนถึงขนาดไม่เป็นอันทำงานและไม่ได้โทรศัพท์หาเบญจาอย่างทุกวัน จู่ๆ เขาก็หายไปบวกกับเบ
ต่อให้ฐานะครอบครัวจะสู้เบญจาไม่ได้แต่ในเรื่องความสวยแสงจันทร์มั่นใจว่าเธอนั้นกินขาด เพราะเธอเป็นถึงแอร์โฮสเตสของสายการบินชื่อดังแถมยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับทางสายการบินถึงสองปีซ้อน งานโฆษณาก็พอจะมีบ้างและในอนาคตอันใกล้เธอก็จะสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง“วันนี้คุณสวย” ทันทีที่เจอหน้ากันคำชมก็ดังมาจากอังกูรทันที“ขอบคุณค่ะ แต่อย่าชมกันแบบนี้ต่อหน้าหลิวนะคะ ฉันไม่อยากให้เพื่อนเข้าใจผิด”“ครับ” อังกูรยิ้มกริ่มออกมา เรื่องงานชายหนุ่มจัดการได้อย่างดีแต่เรื่องหัวใจกลับยังไม่ลุล่วง เพราะจนถึงตอนนี้เบญจาก็ยังไม่กลับ ยิ่งเธอกลับมาเร็วเท่าไหร่นั่นหมายความว่าการหมั้นหมายของเธอกับเดวิสได้ยุติลงแล้ว แต่นี่…แสงจันทร์อาศัยประโยชน์จากความระแวงของอังกูร เธอก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาในฐานะเพื่อนสนิทของเบญจาและค่อยๆ เปลี่ยนสถานะตัวเอง บางครั้งก็ยุยงสนับสนุนความคิดแง่ลบเพื่อทำให้ความมั่นคงของเขาสั่นคลอน ยิ่งอังกูรดื่มหนักขึ้นแบบนี้ด้วยแล้ว อะไรๆ ก็ดูเข้าทางแสงจันทร์ไปเสียหมด