ณ ชานกลางกรุงเทพฯ มีบ้านไม้ทรงไทย 2 ชั้นหลังหนึ่ง ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ตารางวา แสดงว่าฐานะเจ้าของบ้านเป็นผู้มีอันจะกินแน่นอน
ภายในบริเวณบ้านมีสนามหญ้ากว้างขวาง และต้นไม้ใหญ่เล็กหลายต้น แต่ดูเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้าน เนื่องจากมีคนดูแลตลอด
ที่น่าแปลกคือ บ้านหลังนี้มีคนเข้าออกวันละหลายคน และไม่ค่อยซ้ำหน้ากัน... รถที่วิ่งเข้าออก ส่วนใหญ่เป็นรถหรู ราคาเป็นล้านขึ้นไป
ชาวบ้านแถวนั้นไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าของบ้าน เพราะเขาเป็นหมอเสน่ห์ชื่อดัง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยชรา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ผู้ชายก็มีบ้างเล็กน้อย
อาจารย์เรือง.. คือชื่อของหมอเสน่ห์ วัย 42 เจ้าของบ้านหลังนี้ ซึ่งเปิดเป็นสำนักหมอทำเสน่ห์.. มีลูกศิษย์ที่คอยปรนนิบัติใกล้ชิดสองคน คือไอ้หล่อ กับไอ้อ้วน รูปลักษณ์ทั้งสองก็สมกับชื่อ
ไอ้หล่อ หนุ่มวัย 24 หน้าหล่อสมชื่อ เป็นคนผิวขาว รูปร่างสูง แต่ค่อนข้างผอม มีกล้ามเล็กน้อยแต่พองาม มีหน้าที่คอยดูแลต้อนรับแขกของอาจารย์เรือง
ส่วนไอ้อ้วน หนุ่มวัย 21 ก็รูปร่างอ้วนทั้งอ้วนทั้งใหญ่ ผิวคล้ำ น้ำหนักประมาณร้อยโล ใบหน้าคมเข้มตามสไตล์หนุ่มใต้ มีหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดอาจารย์เรือง ตามแต่อาจารย์เรืองจะสั่ง
และยังมีลุงเข้มกับป้าแขก วัย 50 กว่าทั้งคู่ เป็นคู่ผัวตัวเมียกัน โดยลุงเข้มมีหน้าที่เป็นคนสวน ส่วนป้าแขกเป็นแม่บ้าน คอยทำอาหารและดูแลเรื่องความสะอาดภายในบ้าน
อาจารย์เรืองตั้งตนเป็นหมอเสน่ห์มานานกว่า 20 ปี ชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงหมอเสน่ห์ด้วยกัน เพราะสามารถทำให้ผู้ที่มาหาสมหวังไปแล้วหลายราย
ผู้ที่มาหาอาจารย์เรืองแล้วสมหวัง ก็บอกต่อกันไป ปากต่อปาก ทำให้อาจารย์เรืองมีฐานะดีมาก มีรายได้เข้าวันละเป็นพันเป็นหมื่น
ส่วนมากจะเป็นพวกที่ไม่สมหวังในความรัก หรือไม่ก็โดนผัวทิ้งไปมีคนอื่น พอไม่มีทางออก ก็ต้องพึ่งหมอเสน่ห์ชื่อดังอย่างอาจารย์เรือง เพราะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มาแล้วหลายราย
ไอ้หล่อเป็นคนรับโทรศัพท์สำหรับนัดผู้ที่จะมาหาอาจารย์เรือง เพราะมันพูดจาดี บุคลิคดี เป็นที่เชื่อใจของอาจารย์เรือง
“เฮ้ย ไอ้หล่อ วันนี้จะมีคนมาหาข้ากี่ราย”
ทุกๆเช้าอาจารย์เรืองจะถามคำนี้กับไอ้หล่อ
“วันนี้มีสองรายครับอาจารย์ มีคุณนายส้ม กับคุณแพร ผมนัดคุณนายส้มตอน 9 โมงเช้า และคุณแพรตอนบ่ายโมงครับ”
“เออดี..ได้ถามหรือเปล่า ว่าจะมาให้ข้าทำอะไร.. จะได้เตรียมพิธีถูก”
“ถามครับ ทำเสน่ห์ทั้งคู่ คุณนายส้มบอกสามีไม่ค่อยมีเวลาให้ สงสัยไปติดหญิงอื่น ส่วนคุณแพร ไปหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่สมหวังครับ”
ไอ้หล่อตอบนอบน้อม.. อาจารย์เรืองพยักหน้ารับรู้
ต่างคนต่างรู้หน้าที่ตัวเองดี อาจารย์เรืองเข้าห้องไปแต่งตัวให้สมเป็นหมอเสน่ห์ผู้เข้มขลังในวิชา.. ส่วนไอ้หล่อกับไอ้อ้วนเตรียมเครื่องพิธีทำเสน่ห์
9 โมงเช้า มีรถเบนซ์ใหม่เอี่ยมเข้ามาจอด คนขับรถลงมาเปิดประตูให้หญิงวัย 45 ผิวขาว รูปร่างดีสมวัย.. คุณนายส้มนั่นเอง เธอมาอาจารย์เรืองตามนัด
ไอ้หล่อลงมาต้อนรับถึงรถ
“คุณนายส้มใช่ไหมครับ เชิญทางนี้ครับ อาจารย์กำลังนั่งทำสมาธิอยู่ครับ”
คุณนายส้มพยักหน้าให้ไอ้หล่อ แล้วเดินตามเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้คนขับรถเฝ้ารถไว้
เปิดประตูเข้ามา ภายในห้องเป็นห้องโถงใหญ่สำหรับทำพิธี.. อาจารย์เรืองนั่งหลับตานิ่ง ด้านหลังมีโต๊ะหมู่บูชาเครื่องรางของขลังต่างๆ วางเป็นระเบียบ ดูแล้วน่าเลื่อมใส มีไอ้อ้วนนั่งพับเพียบรอรับใช้อยู่ไม่ห่างนัก
“อาจารย์ครับ คุณนายส้มมาแล้วครับ”
“อืมม์.. ข้ารู้.. ข้าเห็นแล้ว คุณนายเข้ามานั่งตรงหน้าข้า.. ข้าจะเพ่งดูอะไรบางอย่าง”
อาจารย์เรืองพูดทั้งหลับตา คุณนายส้มทำหน้างง ไอ้หล่อต้องบอกและพาเธอไปนั่งตรงหน้าอาจารย์เรือง
“ตามผมมาครับคุณนายส้ม มานั่งตรงนี้ อาจารย์จะทำพิธีเพ่งกระแสจิตดูดวงชะตาคุณนายครับ”
คุณนายส้มทำตามที่บอก มานั่งพับเพียบที่พื้นตรงหน้าอาจารย์เรืองซึ่งนั่งบนเบาะสูงประมาณ 6 นิ้ว
“คุณนายนั่งนิ่งๆ อย่าขยับตัว ข้าอยากจะรู้ว่าปัญหาของคุณนายแก้ไขได้หรือเปล่า”
อาจารย์เรืองบอก เขายังไม่ลืมตา แล้วนั่งสวด ทำปากขมุบขมิบ แต่ไม่ส่งเสียง.. คุณนายส้มนั่งมองอาจารย์เรืองนิ่ง
สัญชาตญาณผู้หญิง เจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็ต้องสังเกตละเอียดหน่อย ยิ่งคุณนายส้มมาเป็นครั้งแรก จึงต้องระวังตัว เพราะกลัวถูกหลอก
ดูแล้วอาจารย์เรืองวัยน่าจะประมาณ 40 กว่า หน้าตาหล่อเหลา ผิวกึ่งขาวกึ่งคล้ำ รูปร่างกำยำล่ำสัน มีรอยสักตามคอตามแขนพอประมาณ ดูแล้วก็น่าเชื่อถือไม่น้อย.. คุณนายส้มคิด
“ข้ารู้แล้ว.. ตอนนี้คุณนายกำลังมีเคราะห์ ดวงคุณนายเจอเจ้ากรรมนายเวรเล่นงาน ทำให้จิตใจคุณนายเป็นทุกข์ การแก้ไขทำได้ไม่ยาก”
เสียงอาจารย์เรืองราบเรียบ คุณนายสัมเอียงหน้าถาม
“ถ้าอาจารย์แก้ไขปัญหาให้ฉันได้ ฉันยอมทุกอย่าง อาจารย์รู้ใช่ไหมคะว่าฉันมีปัญหาอะไร”
“รู้.. ข้ารู้.. ตอนนี้ผัวคุณนายกำลังโดนของจากผู้หญิง ทำให้เขาลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ถ้าไม่รีบแก้ คุณนายเสียผัวอย่างไม่มีวันกลับแน่นอน”
“จริงหรือคะ.. โอย.. ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันอับอายเขาแย่เลย.. อาจารย์ช่วยฉันด้วยนะคะ จ่ายเท่าไหร่ฉันก็ยอม”