หลังจากที่เธอจากไป ชายคนนั้นก็ค่อยๆ เดินออกมาจากด้านหลังเสาเห็นผู้หญิงจากไปกับตา หัวใจของเสิ่นหนานเฟิงเหมือนกับถูกมีดคมกริบกรีดเขารักเธอมากจริงๆ เขาลืมเธอไม่ได้จริง ๆแต่ตอนนี้เธอเกลียดเขา ไม่ยอมเจอหน้าเขาอีกเสิ่นหนานเฟิงไม่ยอมปล่อยมือ เขาตัดสินใจรอเธอกลับมาช่วงหนึ่งเดือนนี้ เสิ่นหนานเฟิงก็เปลี่ยนไปมากในที่สุดก็รอจนเจียงซือหยีกลับมา เสิ่นหนานเฟิงรีบไปสนามบินทันที แต่กลับไม่เจอเธอเดือนกว่าที่ไม่ได้เจอกัน เขาคิดถึงเธอมากเรื่องแรกที่เจียงซือหยีทำหลังจากลงจากเครื่อง ก็คือไปโรงพยาบาลหลังจากเสิ่นหนานเฟิงได้รับข่าว ระหว่างเขารีบขับรถไปโรงพยาบาล ก็เห็น เจียงซือหยีกับกู้เป่ยเฉิงกำลังเดินออกจากห้องทำงานของหมอกู้เป่ยเฉิงจับมือของเธอ กำชับกับเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรักว่า : "หมอบอกแล้วว่าต่อไปห้ามกินไอศกรีมมากเกินไป ได้ยินหรือยัง? ""รู้แล้วค่ะ! แค่กินไปสองสามอันเท่านั้น ดูทำคุณตกใจสิ"เจียงซือหยียิ้มแล้วเงยหน้ามองกู้เป่ยเฉิง แต่มือกลับลูบไปที่ท้อง"คุณว่า ต่อไปเมื่อลูกโตขึ้น เหมือนคุณหน่อยหรือเหมือนฉันหน่อยดีคะ? "ลูก!เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นหนานเฟิงก็ตัวแข็งทื่อในหัว
"พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อเคยบอกว่ามีคู่หมั้นที่มั่นหมายกับหนูมาตั้งแต่เด็กมาหาหนูใช่ไหม พ่อช่วยบอกเขาหน่อยว่า หนูจะแต่งงานในวันแรกของเดือนหน้า แต่ไม่มีเจ้าบ่าว ช่วยถามเขาหน่อยว่าจะมาไหม"คนที่อยู่ปลายสายนั้นก็ตกตะลึง "ลูกไม่ใช่ว่ายืนกรานที่จะแต่งงานกับเสิ่นหนานเฟิงและกำลังเตรียมเรื่องงานแต่งอยู่เหรอ ทำไม เขารังแกลูกเหรอ""พ่อ พ่อแค่ไปถามให้หน่อยก็พอแล้ว""ได้ แค่ลูกคิดดีแล้วก็ได้ พ่อแค่อยากให้ลูกมีความสุขนะ"เจียงซือหยีตอบกลับด้วยตาแดงก่ำ "แน่นอนค่ะ"ใช่ เดิมทีเธอรักเสิ่นหนานเฟิงอย่างบ้าคลั่ง และคิดว่าเขาเป็นคู่หูลิขิตของตัวเองวันแต่งงานของพวกเขาได้ตกลงเอาไว้แล้ว ส่วนเธอก็รอคอยที่จะเป็นจ้าวสาวด้วยความยินดี แต่เมื่อตะกี้ เธอต้องพบกับความตกใจครั้งใหญ่หนึ่งชั่วโมงที่แล้วเจียงซือหยียืนอยู่หน้ากระจกในชุดแต่งงานสีขาว เรือนร่างที่สง่างามของเธอดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งงาน"คุณเจียง ชุดแต่งงานที่คุณเสิ่นสั่งทำพิเศษให้คุณนั้นมันสวยมากจริงๆ พวกคุณจะต้องมีความสุขแน่ๆ"เมื่อฟังคำชมของพนักงานในร้าน ทว่าเจียงซือหยีก็ยิ้มไม่ออกเลยเธอมองไปรอบๆ จากนั้นก็เห็นเสิ่นหนานเฟิง ว่าที่เจ้าบ่าวของตั
หลังจากกลับถึงบ้าน เจียงซือหยีก็เริ่มเก็บข้าวของของตัวเองเก็บไปครึ่งทาง เสิ่นหนานเฟิงก็กลับมา"ซือหยี พอจัดการงานที่บริษัทเสร็จผมก็กลับมาแล้ว คิดถึงผมไหม? "เขาหยิบดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่ออกมาแล้วยื่นให้เธอ"ผมตั้งใจซื้อให้คุณเป็นพิเศษเลยนะครับ เมื่อกี้ในร้านชุดแต่งงานผมไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุณจนถึงตอนสุดท้าย ผมขอโทษจริงๆ นี่เพื่อเป็นการขอโทษสำหรับที่รักของผมนะครับ"มองดอกกุหลาบที่เหี่ยวเฉาเล็กน้อยเนื่องจากขาดน้ำ เจียงซือหยีก็โกรธจนแทบจะหัวเราะออกมานี่เห็นได้ชัดว่าเขาหยิบติดมือมาให้เธอจากสถานที่ที่เขาขอแต่งงานในใจเขา เธอก็คู่ควรกับเข้าของที่ใช้ในการขอแต่งงานที่ใช้ประโยชน์เสร็จแล้วก็โยนทิ้งใช่ไหม?"คุณหัวเราอะไรหรือ? "เมื่อเห็นเธอหัวเราะ เสิ่นหนานเฟิงก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย"ไม่มีอะไร"เจียงซือหยีรับช่อดอกไม้นั้นมา แต่หางตาของเธอกลับเหลือบเห็นรอยลิปสติกตรงปกเสื้อของเขารอยลิปสติกสีแดงสด ชัดเจนขนาดนั้นเธอยกมือขึ้น ชี้ไปที่ปกเสื้อของเขา"เสื้อผ้าสกปรกแล้ว"เสิ่นหนานเฟิงก้มหน้ามอง พบว่าเป็นร่องรอยที่สวีเหว่ยจูบเขาทิ้งไว้ หัวใจของเขาเต้นแรงทันที คิดจะอธิบาย"อ้อ อาจจ
หลังจากปลอบเธอจนดีขึ้นแล้ว เสิ่นหนานเฟิงก็อยากจะจูบมุมปากของเธอเหมือนกับปกติ แต่กลับถูกเจียงซือหยีผลักออกไปเขากระแอมออกมาด้วยความขัดเขิน จากนั้นก็ปล่อยเธอ แล้วยื่นมือออกมาถามขอของขวัญจากเธอ"ใช่แล้ว ของขวัญที่บอกว่าจะให้ผมละครับ? "เจียงซือหยีให้เขารอก่อน เธอกลับไปที่ห้อง และหยิบการ์ดแต่งงานที่เธอกับเสิ่นหนานเฟิงก่อนหน้านี้เลือกมาด้วยกันหยิบปากกาออกมา เขียนชื่อของเธอกับกู้เป่ยเฉิงบนชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้วก็เก็บใส่การ์ดแต่งงานลงในกล่องหลังจากลงไปชั้นล่างแล้วเธอก็ยื่นกล่องให้กับเขา"นี่คืออะไรเหรอครับ? "เสิ่นหนานเฟิงอยากรู้ เขาต้องการเปิดมันออก แต่กลับถูกเธอหยุดไว้"วันที่หนึ่งเดือนหน้าค่อยเปิดดูแล้วกัน"เมื่อได้ยินวันที่นี้ มือของเสิ่นหนานเฟิงก็สั่นทันทีนี่ไม่ใช่วันที่เขาจะแต่งงานกับสวีเหว่ยเหรอ?"ทำไมเหรอครับ? ""เพราะวันที่หนึ่งเดือนหน้า เป็นวันดีที่เราจะแต่งงานกันไง"เธอยิ้ม แล้วติดเทปไปกล่อง "ตอนนี้งานแต่งถูกเลื่อนออกไปแล้ว ฉันจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับคุณ ถึงตอนนั้นคุณจะต้องเซอร์ไพรส์แน่นอน""ครับ ผมชอบเซอร์ไพรส์ที่สุด"เขาแตะจมูกของเธอ และโอบเธอเข้ามาในอ้อมแขน
ในขณะที่เสิ่นหนานเฟิงกำลังลังเลอยู่ เจียงซือหยีก็เดินเข้ามาทันที "โทรศัพท์กับใครเหรอคะ? ""อ้อ ก็เป็นพวกของฉินห้าวนี่แหละ เรียกให้ผมออกไปดื่มสักหน่อย""เหรอคะ? ไม่ได้เจอพวกเขานานแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันไปด้วยนะคะ ฉันก็อยากดื่มสักหน่อย"เธอก็อยากเห็นเหมือนกัน ถ้าเธอปรากฏตัวขึ้น ภารกิจปิดบังความลับของพวกเขา จะสามารถทำได้ดีสักแค่ไหนเชียวเสิ่นหนานเฟิงพยายามหาข้ออ้างตลอดทางก็ไม่สามารถห้ามเจียงซือหยีได้ ทำได้แต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์อย่างร้อนใจ แจ้งสถานการณ์ให้เพื่อนๆ ของเขารู้เมื่อมาถึงห้องส่วนตัวในบาร์ เจียงซือหยีก็เห็นเพื่อนๆ ของเสิ่นหนานเฟิงทันทีผู้ชายสี่คน ต่างกำลังนั่งตัวตรง ดื่มเหล้าอย่างสงบ แม้แต่เด็กนั่งดริ้งค์ก็ไม่เรียกมาด้วยซ้ำเมื่อเห็นเจียงซือหยี พวกเขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกันทันที"สวัสดีครับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้วางใจ คืนนี้ไม่มีคนอื่น มีแต่พวกเราผู้ชายสี่ห้าคนครับ"เจียงซือหยีเลิกคิ้ว "หมายความว่าผู้หญิงอย่างฉันไม่ควรมาเหรอ"พวกเขาตกตะลึงทันที เสิ่นหนานเฟิงรีบจับมือของเธอแน่นทันที"พวกเขาไม่ได้หมายความแบบนั้น แค่กลัวว่าคุณจะเบื่อ""ฉันก็ไม่ได้หมายความอย่างอื่น แค่ไม่เจอกันนานแล้ว
"รีบมาเร็วเข้า มีคนตกลงมาจากบันได!"ข้างหูมีเสียงตะโกนของคน ทันใดนั้น ก็มีผู้คนมากมายห้อมล้อมเข้ามาก่อนที่เธอจะหลับตาลง เธอก็เห็นเสิ่นหนานเฟิงกับเพื่อนๆ ของเขา เดินออกไปจากข้างๆ เธอทีละคนเมื่อเห็นความโกลาหลของผู้คน เพียงชำเลืองมองแวบหนึ่งเท่านั้นก็เดินจากไปพวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าคนที่ถูกฝูงชนห้อมล้อม ก็คือเจียงซือหยีที่กลับไปนานแล้ว?เมื่อเจียงซือหยีตื่นขึ้น เธอก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้วพยาบาลกำลังทำแผลให้เธอ "คุณตื่นแล้วเหรอคะ?""ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ""อ้อ คุณเป็นลมเพราะภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งพาคุณมาส่งโรงพยาบาล คนๆ นั้นได้กลับไปแล้ว เบอร์โทรศัพท์ของคนในครอบครัวคุณคืออะไร ฉันจะช่วยคุณโทรหาเขา""ไม่ต้องแล้วค่ะ"เจียงซือหยีส่ายหน้า ตอนนี้เธอนึกถึงชื่อเสิ่นหนานเฟิงสามคำนี้ก็ขยะแขยงเจียงซือหยีลากก้าวอันหนักหน่วงเดินไปจากห้องพักฟื้นเพื่อไปจ่ายเงินเดินออกไปไม่กี่ก้าว เธอก็ได้ยินเสียงพยาบาลพูดคุยกัน"เธอได้มาหรือยัง? ชายหญิงที่ส่งเข้ามาเมื่อคืนนี้ ได้ยินมาว่าตอนที่กำลังทำอะไรอย่างนั้นในบาร์ก็กลิ้งตกลงมาจากโซฟา กระแทกกับขวดเหล้าจนแตก บนตัวก็เต็มไปด้วยเศษแก้
เมื่อเห็นท่าทางตื่นตกใจของเขา เจียงซือหยีก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง ทำให้อารมณ์สงบลงแล้วพูดว่า :"ไม่มีอะไร ฉันแค่พูดเพ้อเจ้อ วันนั้นฉันไม่ว่าง"เธอหันหลังกลับจะเดินออกไป เสิ่นหนานเฟิงก็ขยับเท้าจะตามเธอไป เจียงซือหยีก็หยุดเขาไว้ "ในเมื่อมาหาหมอเป็นเพื่อนเพื่อน ทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียวก็ไม่ดี ฉันกลับเอง คุณไม่ต้องสนใจฉัน"เสิ่นหนานเฟิงหันกลับมา เห็นเจียงซือหยีเดินออกไปแล้ว จู่ๆ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดมากเมื่อเห็นเขาเป็นห่วงเจียงซือหยี สวีเหว่ยก็นั่งยองลง "หนานเฟิง ฉันเจ็บมากเลย เจ็บไปทั้งตัว คุณกลับบ้านไปกับฉันได้ไหมคะ? "เสิ่นหนานเฟิงกำลังหงุดหงิดกับท่าทีของเจียงซือหยี ก็สะบัดมือของสวีเหว่ยออกไปทันที "ดูสถานะของตัวเองด้วย หยุดท้าทายเธอได้แล้ว"หลังจากเจียงซือหยีกลับมาถึงบ้านแล้วก็เก็บข้าวของต่อ ที่แห่งนี้ วินาทีเดียวเธอก็ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้แล้วโชคดีที่เข้าของไม่มากนัก ไม่นาน กระเป๋าเดินทางก็บรรจุข้าวของของเธอเต็มหลังจากเก็บของเสร็จ เธอก็ลากกระเป๋าเดินลงไปชั้นล่างเธอเดินไปที่โต๊ะ เห็นดอกกุหลาบที่เสิ่นหนานเฟิงมอบให้เธอเมื่อวาน เธอก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมา และหยิบออกมาโยนทิ้งถังข
เจียงซือหยีทนไม่ไหวแล้ว ตบหน้าเขาทันทีเสิ่นหนานเฟิงไม่ทันตั้งตัว แต่หัวใจที่เป็นกังวลของเขากลับสงบลง"ถ้าคุณไม่สบายใจก็ตบอีกสองสามครั้ง ผมไม่เป็นไร ขอเพียงคุณไม่โกรธก็พอ"มีความรักลึกซึ้งมาก แต่มันน่าขยะแขยงจากนั้นเจียงซือหยีก็ตบหน้าเขาอีกครั้ง นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ"หนานเฟิง คุณจำสิ่งที่ฉันเคยพูดได้ไหม อย่างอื่นฉันสามารถให้อภัยได้ แต่ถ้าคุณทรยศฉัน ฉันจะแต่งงานกับคนอื่นแน่นอน"สีหน้าของเสิ่นหนานเฟิงเปลี่ยนไปทันที"ซือหยี คุณกำลังพูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่เหรอ? ผู้หญิงที่ผมเสิ่นหนานเฟิงจะอยู่ด้วยไปจนแก่เฒ่าคือคุณ ผมจะรักคุณคนเดียวตลอดไป หัวใจของผมจะไม่มีวันเปลี่ยนไป ไม่มีทางเปลี่ยนตลอดไป! "รักเธอมากที่สุด ดังนั้นเลยไปมีความรักกับผู้หญิงคนอื่นจนเข้าโรงพยาบาลรักเธอที่สุด ดังนั้นจึงต้องเลื่อนงานแต่งออกไปเพื่อความปรารถนาของผู้หญิงคนอื่น ให้เธอรับของมือสองเจียงซือหยีเงยหน้ามองเขา ราวกับว่าจะมองเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจของเขา ดูว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่สุดท้ายเธอแค่พยักหน้า ไม่พูดอะไร"ฉันรู้แล้วค่ะ"เสิ่นหนานเฟิงกอดเธออีกครั้ง เจียงซือหยีผลักเขาออกไป เสิ่นหนานเฟิงถึงจะเห็นกระเป๋าเดินทา
หลังจากที่เธอจากไป ชายคนนั้นก็ค่อยๆ เดินออกมาจากด้านหลังเสาเห็นผู้หญิงจากไปกับตา หัวใจของเสิ่นหนานเฟิงเหมือนกับถูกมีดคมกริบกรีดเขารักเธอมากจริงๆ เขาลืมเธอไม่ได้จริง ๆแต่ตอนนี้เธอเกลียดเขา ไม่ยอมเจอหน้าเขาอีกเสิ่นหนานเฟิงไม่ยอมปล่อยมือ เขาตัดสินใจรอเธอกลับมาช่วงหนึ่งเดือนนี้ เสิ่นหนานเฟิงก็เปลี่ยนไปมากในที่สุดก็รอจนเจียงซือหยีกลับมา เสิ่นหนานเฟิงรีบไปสนามบินทันที แต่กลับไม่เจอเธอเดือนกว่าที่ไม่ได้เจอกัน เขาคิดถึงเธอมากเรื่องแรกที่เจียงซือหยีทำหลังจากลงจากเครื่อง ก็คือไปโรงพยาบาลหลังจากเสิ่นหนานเฟิงได้รับข่าว ระหว่างเขารีบขับรถไปโรงพยาบาล ก็เห็น เจียงซือหยีกับกู้เป่ยเฉิงกำลังเดินออกจากห้องทำงานของหมอกู้เป่ยเฉิงจับมือของเธอ กำชับกับเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรักว่า : "หมอบอกแล้วว่าต่อไปห้ามกินไอศกรีมมากเกินไป ได้ยินหรือยัง? ""รู้แล้วค่ะ! แค่กินไปสองสามอันเท่านั้น ดูทำคุณตกใจสิ"เจียงซือหยียิ้มแล้วเงยหน้ามองกู้เป่ยเฉิง แต่มือกลับลูบไปที่ท้อง"คุณว่า ต่อไปเมื่อลูกโตขึ้น เหมือนคุณหน่อยหรือเหมือนฉันหน่อยดีคะ? "ลูก!เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นหนานเฟิงก็ตัวแข็งทื่อในหัว
"ฉันต้องการให้เธอออกมาพบฉัน ฉันต้องการให้เธอกลับบ้านไปกับฉัน""เป็นไปไม่ได้"กู้เป่ยเฉิงหยิบโทรศัพท์ออกมา "ถ้ายังไม่ไป ฉันจะแจ้งตำรวจแล้ว""นายแจ้งตำรวจเลย! แจ้งสิ! ซือหยีไม่มีทางมองฉันเข้าไปในสถานีตำรวจแล้วไม่สนใจฉัน เธอไม่มีทางแน่นอน! ""ได้สิ ถ้าอย่างนั้นก็มาดูกัน"กู้เป่ยเฉิงโทรไปเรียกคนมาอย่างไม่ลังเล ตอนที่ตำรวจลากตัวเสิ่นหนานเฟิงออกไป เสิ่นหนานเฟิงก็ยังคงเรียกชื่อเจียงซือหยีแต่เจียงซือหยีไม่ได้ยินด้วยซ้ำ เธอนั่งบนโซฟาดูทีวีกับแม่ของกู้เป่ยเฉิง สองคนกำลังพูดคุยละครรักน้ำเน่ากันอย่างมีความสุขทันใดนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น สถานีตำรวจโทรมา"คุณเจียง ไม่ทราบว่าคุณรู้จักคุณเสิ่นหนานเฟิงไหมครับ? เขาเมา กำลังก่อเรื่องตลอดเวลา รบกวนคุณมาหน่อยนะครับ"เจียงซือหยีเงยหน้าขึ้น มองไปทางกู้เป่ยเฉิงเธอรู้ว่ากู้เป่ยเฉิงเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ"ขอโทษนะคะคุณตำรวจ ฉันไม่รู้จักค่ะ"เธอวางสายด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พูดคุยกับแม่ของกู้เป่ยเฉิงต่อที่สถานีตำรวจ เสิ่นหนานเฟิงไม่เชื่อว่าเจียงซือหยีจะไม่สนใจเขา"เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่เธอจะไม่สนใจฉัน คุณไปเรียกเธอมา ฉันต้องการเจอเธอ ฉันต้องการเจ
แต่เขาควบคุมตัวเองไว้ ขับรถไปจอดที่หน้าร้านขายยาแห่งหนึ่งไม่นาน เขาก็ออกมาจากร้านขายยา เปิดประตูเบาะข้างคนขับ และถอดถุงเท้าของเจียงซือหยีเจียงซือหยีมองเขาอย่างไม่เข้าใจ "คุณทำอะไรคะ? ""ผมดูเท้าของคุณหน่อย เท้าแพลงไม่ใช่เหรอ? ถ้ามันบวมแดงขึ้นมาก็จะแย่เอา""ขอบคุณค่ะ"เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวอันอ่อนโยนของผู้ชาย เจียงซือหยีก็หวั่นไหว ก้มหน้าจูบแก้มของเขาแต่จูบที่หายวับไปอย่างรวดเร็วนี้ กลับทำให้หน้าของกู้เป่ยเฉิงแดงไปถึงใบหูเขายั่วยวนเธอมาตลอด แต่ตอนที่ถูกเธอจูบจริงๆ เขาก็ยังตื่นตกใจ ทำอะไรไม่ถูกมองหน้าตาน่ารักของเขา เจียงซือหยีก็หัวเราะเบา ๆ"ที่แท้ผู้บัญชาการกู้ก็หน้าแดงเป็นด้วยเหรอคะ? ""ใครหน้าแดงกัน? "กู้เป่ยเฉิงนวดข้อเท้าให้กับเธอ เจียงซือหยีร้องออกมาเบาๆ คำหนึ่ง"โอ๊ย! "กู้เป่ยเฉิงตกใจจนรีบปล่อยมือทันที "เจ็บไหมครับ? ""ไม่เจ็บค่ะ"เธอส่ายหน้า แต่ในหัวของเธอปรากฏภาพของเสิ่นหนานเฟิงขึ้นเมื่อก่อนเมื่อเธอเท้าแพลง เสิ่นหนานเฟิงก็จะซื้อยาแล้วนวดให้เธอเมื่อเธอเจ็บจนทนไม่ไหว เสิ่นหนานเฟิงก็จะปล่อยมือออกด้วยความตื่นตกใจ แล้วถามเธอว่าเจ็บไหมภาพในอดีตยังคงชัดเจนอยู
เมื่อเห็นฉากนี้ หน้าอกของเสิ่นหนานเฟิงก็แทบจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธ"กู้เป่ยเฉิง นายปล่อยเธอเดี๋ยวนี้! ฉันไม่อนุญาตให้นายแตะต้องเธอ! "เขารีบวิ่งเข้าไป พยายามแยกทั้งสองออกจากกันกู้เป่ยเฉิงเพียงหลบเล็กน้อย เสิ่นหนานเฟิงก็ยืนไม่มั่นคง ล้มลงกับพื้นทันทีเขากลิ้งหลายตลบถึงจะหยุดลง สภาพไม่น่ามองมากผู้คนรอบๆ กำลังดูเรื่องสนุก ชี้แสดงความคิดเห็นไปที่เสิ่นหนานเฟิง"มันก็สมควรจริงๆ ตัวเองทำเรื่องผิดกับคนอื่น ตอนนี้เสียใจ มันสายไปแล้ว""ความรักที่เพิ่งรู้สึกตัวภายหลัง มันก็ไร้ค่ายิ่งกว่าหญ้า! ถ้ารู้ว่าจะมีวันนี้ จะทำทำไมตั้งแต่แรก! "กู้เป่ยเฉิงมองเขา หัวเราะเยาะเย้ย "คุณเสิ่น ผมขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย อย่ามารบกวนผมกับซือหยีอีก ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของผม ชาตินี้ก็จะเป็นภรรยาของผม! คุณแย่งไปไม่ได้! "เสิ่นหนานเฟิงพยายามลุกยืนขึ้นจากพื้น "แต่งงานแล้วก็สามารถหย่าได้! กู้เป่ยเฉิง อย่าภูมิใจไป ซือหยีรักฉัน! ""คุณไม่รู้เหรอว่าการแต่งงานของทหารได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย"กู้เป่ยเฉิงครุ่นคิด "พฤติกรรมของคุณตอนนี้ถือว่าเป็นการทำลายการแต่งงานของทหาร ต้องติดคุก รู้ไหม? "เจียงซือหยีมองผู้ชา
อากาศในสนามม้าดีมาก ทัศนวิสัยในการมองเห็นโดยรอบก็กว้างขวาง อารมณ์ของเจียงซือหยีก็ดีขึ้นมาก"เข้ามา"ชายที่อยู่ไม่ไกลโบกมือให้เธอ เจียงซือหยีก็รู้สึกมึนงงอยู่ครู่หนึ่งชายหนุ่มหล่อเหลาคนนี้ ทุกการเคลื่อนไหวก็เต็มไปด้วยความสง่างามเขาสวมชุดขี่ม้า ในมือจูงม้าตัวหนึ่ง มุมปากมีรอยยิ้ม ทำให้สาวน้อยข้างๆ เคลิบเคลิ้มพวกเขาพากันหยิบโทรศัพท์ออกมา ถ่ายรูปกู้เป่ยเฉิงไม่หยุดถึงขนาดมีคนเข้าไป ขอเบอร์โทรศัพท์ขอเพิ่มวีแชตกับเขาเจียงซือหยีขมวดคิ้ว สีหน้าไม่น่ามองในทันทีเธอรีบเดินเข้าไป รับโทรศัพท์จากคนๆ นั้น แล้วกดหมายเลขชุดหนึ่งลงไป"เบอร์โทร""ขอบคุณค่ะ! "คนๆ นั้นเหมือนได้รับของล้ำค่า วิ่งออกไปอย่างมีความสุขกู้เป่ยเฉิงถามขึ้นอย่างสงสัยว่า "คุณให้เธอแล้วจริงๆ เหรอ? ""ใช่ ฉันให้แล้ว ให้เบอร์ฉัน" เจียงซือหยีเลิกคิ้ว "ทำไมเหรอคะ? คุณอยากให้? ""เฮอะๆ คุณหึงแล้วเหรอ? "กู้เป่ยเฉิงพอใจกับปฏิกิริยาของเจียงซือหยีมาก เขามองอย่างรักและเอ็นดู จากนั้นก็ชี้ไปที่ม้าข้าง ๆ"ชอบไหม? ""ชอบค่ะ? "เจียงซือหยีลูบแผงคอม้า ม้ารู้สึกสบายส่ายหัวไปมา"ตั้งชื่อให้มันหน่อยเถอะ""ไม่ดีมั้งคะ? "ม้าใ
เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ก็ถูกเข็นไปยังห้องพักฟื้นทั่วไปแล้วท้องแบนราบ ไม่เหลืออะไรแล้วเสิ่นหนานเฟิงส่งคนมา โยนบัตรเอทีเอ็มใบหนึ่งให้เธอ"ในนี้มีห้าล้าน คุณเสิ่นให้เราเอาให้คุณ"มองดูบัตรใบนั้น สวีเหว่ยก็รู้สึกว่าก้นบึ้งของหัวใจเย็นเยือกห้าล้าน? ก่อนหน้านี้ยังหนึ่งล้าน หลังจากทำแท้ง มูลค่าของเธอก็พุ่งสูงขึ้นเลย"แล้วก็ คุณเสิ่นได้ซื้อตั๋วเครื่องบินใบหนึ่งให้คุณ บินบ่ายวันนี้""บ่ายวันนี้? "สวีเหว่ยหัวเราะเยาะ เธอไม่คาดคิดว่า เสิ่นหนานเฟิงจะเกลียดเธอมากขนาดนี้เธอเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ เขาก็ต้องการให้เธอหายไปจากเขาอย่างสิ้นเชิง"ฉันต้องการเจอเขา""ขอโทษด้วยครับ คุณเสิ่นบอกแล้วว่า ไม่มีวันพบคุณ"พูดจบ ชายคนนั้นก็ล็อกประตูห้องพักฟื้น "เมื่อถึงเวลา ผมจะส่งคุณไปสนามบิน"สวีเหว่ยหยิบบัตรใบนั้น จู่ๆ ก็หัวเราะเสียงดังออกมาแต่หัวเราะไปหัวเราะมา เธอก็ร้องไห้"ฉันไม่ควรกลับมา! ฉันไม่ควรกลับมา! "หลังจากจัดการกับเรื่องของสวีเหว่ยเสร็จแล้ว เสิ่นหนานเฟิงก็ลากร่างที่เจ็บปวดกลับไปยังบ้านของเขากับเจียงซือหยีบ้านว่างเปล่า เย็นเฉียบเจียงซือหยีไม่อยู่แล้ว ของทุกอย่างของเธอก็ไม่เห็นแล้วหัว
"หนานเฟิง คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่! เด็กในท้องของฉันคือลูกของคุณ! เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ แต่คุณกลับบอกฉันว่าต้องการให้ฉันเอาออกเหรอคะ? "เสิ่นหนานเฟิงเงยหน้าขึ้นอย่างไร้ความรู้สึก เลือดเย็นราวกับเครื่องจักรที่ไม่มีความรู้สึก"พูดให้ตรงๆ คือเขายังไม่ถือว่าเป็นเด็ก ยังไม่ถึงเดือน เป็นเพียงเซลล์เท่านั้น"ริมฝีปากบางๆ แต่สิ่งที่พูดออกมากลับเป็นคำพูดที่โหดร้ายอย่างยิ่ง"เซลล์? "ไม่คิดว่าเขาจะพูดคำที่โหดร้ายแบบนี้ออกมา สวีเหว่ยส่ายหน้า ถอยไปข้างหลังไปทีละก้าว "หนานเฟิง นั่นคือลูกของคุณ คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง? ""ลูก? ลูกอะไร? "เพื่อนๆ ของเสิ่นหนานเฟิงมาเยี่ยมเขา เมื่อเข้ามาก็เห็นสวีเหว่ยร้องไห้เสียใจ พวกเขาก็เข้าใจบางอย่างทันที"หนานเฟิง นายกับสวีเหว่ยก็มีลูกด้วยกันแล้วเหรอ? ""พวกคุณช่วยฉันด้วย"สวีเหว่ยหมดหนทางแล้ว ไม่รู้ว่ะจะไปขอร้องใคร จึงทำได้เพียงจับมือเพื่อนคนหนึ่งของเขา และคุกเข่าลงทุกคนเห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็ตกใจมาก" พี่สะใภ้ ลุกขึ้นก่อน อย่าคุกเข่าให้ผม! ""หนานเฟิงต้องการให้ทำแท้งลูกของเรา! "สวีเหว่ยร้องไห้อย่างน่าสงสาร "ขอร้องพวกคุณล่ะ ช่วยฉันพูดกับ
หลังจากเจียงซือหยีกลับไปแล้ว เสิ่นหนานเฟิงก็เหมือนตายทั้งเป็นเขากำลังจะลุกจากเตียง แต่พยาบาลหยุดเขาไว้"คุณเสิ่น อาการบาดเจ็บของคุณยังไม่หาย และร่างกายของคุณก็ยังฟื้นกลับมา ก็นอนพักอยู่บนเตียงดีกว่าค่ะ""ผมจะไปหาซือหยี ผมจะไปหาเขา คุณอย่าห้ามผม! ""คุณหมายถึงผู้หญิงที่มาเฝ้าคุณเมื่อคืนนี้เหรอคะ? เธอได้ขับออกไปกับสามีของเธอแล้วค่ะ"ประโยคหนึ่งของพยาบาล ทำให้เสิ่นหนานเฟิงมีสติทันทีสามี?สามีของเธอ?เจียงซือหยีแต่งงานแล้ว เธอแต่งงานแล้วจริง ๆเธอแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นแล้ว!ไม่ ขอเพียงยังไม่จดทะเบียน พวกเขาก็ไม่ถือว่าแต่งงาน!"เขาไม่ใช่สามีของเธอ ผมต่างหาก! ผมต่างหากที่เป็นสามีของซือหยี! "อารมณ์ของเขารุนแรงมาก พยาบาลก็หมดหนทางกับเขาในเวลานี้สวีเหว่ยก็เดินเข้ามาอย่างตื่นเต้น"หนานเฟิง ฉันท้องแล้ว! "ราวกับว่าถูกฟ้าผ่าอย่างนั้น เสิ่นหนานเฟิงลุกนั่งบนเตียง ไม่สามารถขยับได้เขามองไปที่สวีเหว่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ "เธอพูดอะไรนะ? ""ฉันท้องแล้ว ฉันท้องลูกของเรา! "สวีเหว่ยดีใจจนพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเสิ่นหนานเฟิง เธอรอมานานมาก ในที่สุดก็รอจนถึงวันนี้!"เป็นไปไม่ได้! ฉันให้เ
เมื่อเห็นกู้เป่ยเฉิง สีหน้าของเสิ่นหนานเฟิงก็บูดบึ้งทันที"กู้เป่ยเฉิง นายมาทำอะไรที่นี่? ""มองไม่ออกเหรอ? "กู้เป่ยเฉิงกอดอก จ้องมองผู้ชายตรงหน้าอย่างเย็นชา"เสิ่นหนานเฟิงใช่ไหม? เจียงซือหยีก็คือปฏิเสธการสู่ขอของตระกูลกู้ครั้งแล้วครั่งเล่าเพื่อนาย? ""ซือหยีปฏิเสธการสู่ขอของตระกูลกู้เพื่อฉันเหรอ? "ความรู้สึกผิดในใจของเสิ่นหนานเฟิงลึกมากยิ่งขึ้น เขาคิดมาตลอดว่า หลายปีที่ผ่านมาข้างกายของเจียงซือหยีไม่เคยมีเพศตรงข้ามปรากฏตัวขึ้นเลย เขาคิดว่านอกจากตัวเขาแล้ว ก็ไม่มีใครต้องการเจียงซือหยีอีกแต่เขากลับไม่เคยคิดเลยว่า เธอได้หมั้นหมายมานานแล้ว และอีกฝ่ายก็เป็นทหารที่ยอดเยี่ยมกว่าเขาวินาทีนี้ เขาจะรู้ว่าเขาผิดมากแค่ไหนหากให้โอกาสเขาอีกครั้ง เขาจะไม่มีวันรับปากสวีเหว่ย แต่งงานกับเธอ"พอได้แล้ว นายก็ตื่นแล้ว ฉันกับภรรยาของฉันก็จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว"กู้เป่ยเฉิงขี้เกียจจะพูดจาไร้สาระกับเขา เมื่อเห็นเจียงซือหยีออกมาจากห้องน้ำ ก็จับมือของเธอ และพูดขึ้นอย่างเผด็จการว่า : "ไปกันเถอะ กลับบ้าน ผมเหนื่อยแล้ว"เจียงซือหยีก็ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป เตรียมจะออกไปกับกู้เป่ยเฉิง"ไม่ ซ