หลินเซียงไม่ได้พูดอะไร ความคิดแรกของเธอก็เรียบง่ายเพียงเท่านี้ซ่งซ่งพูดต่อว่า "ไม่ใช่แค่แย่งทุกสิ่งที่เธอให้ความสำคัญมา แต่ยังต้องให้เธอได้ลิ้มรสความสิ้นหวังในตอนนั้นด้วย อย่าลืมสิว่าในโลกนี้ไม่มีความเห็นอกเห็นใจอย่างจริงใจหรอกนะ ให้เธอได้สัมผัสความรู้สึกของคนใกล้ตายบ้าง จะได้รู้ว่าชีวิตมีค่าแค่ไหน"หลินเซียงกะพริบตา "สิ่งที่เธอพูดมีเหตุผล"ซ่งซ่งยิ้มอย่างมั่นใจ "สมองน้อย ๆ ของฉันบางครั้งก็คิดได้เร็วมากนะ"หลินเซียงครุ่นคิดแล้วพูดว่า "แต่ทำแบบนั้นจะผิดกฎหมายน่ะสิ"ซ่งซ่งถอนหายใจอย่างจนปัญญา "ตอนที่เซี่ยหว่านทำกับเธอ แม่นั่นเคยคิดถึงเรื่องกฎหมายบ้างหรือเปล่า?"ตอนนี้หลินเซียงเงียบสนิทฉินโหย่วหานบอกว่า "ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจจริง ๆ ควรสั่งสอนเธอสักหน่อย"ทันใดนั้นซ่งซ่งก็มองไปที่ฉินโหย่วหานด้วยดวงตาเป็นประกาย "พี่หาน ทำไมคุณถึงหล่อแบบนี้นะ? มีแฟนหรือยังคะ? ใครได้เป็นแฟนคุณคงจะรู้สึกปลอดภัยคงจะเต็มเปี่ยม!"เธอพูดพลางเหลือบมองหลินเซียงอย่างมีความหมายหลินเซียงยกเบียร์ขึ้นดื่ม ทำเป็นมองไม่เห็นบนใบหน้าหล่อเหลาอ่อนโยนของฉินโฟย่วหานมีรอยยิ้มจาง ๆ พลางจ้องมองหลินเซียงแล้วพูดว่า "
ไม่มีความจำเป็นต้องรับหลินเซียงวางโทรศัพท์ไว้ข้าง ๆ ดื่มน้ำอีกอึกหนึ่งแล้วกลับไปที่ห้องนอนเพื่ออาบน้ำและนอนหลับ…โรงพยาบาลภายในห้องพักผู้ป่วยสว่างไสวขณะมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของลู่สือเยี่ยนก็มืดครึ้มบรรยากาศที่มืดมิดและกดดันค่อย ๆ แผ่กระจายไปทั่วห้องทันใดนั้น ประตูห้องก็เปิดออกลู่สือเยี่ยนมองตามโดยสัญชาตญาณ เมื่อเห็นว่าเป็นฟู่จิ่นซิ่วที่เข้ามา เขาก็ขมวดคิ้วแล้วละสายตา"โอ้ พอเห็นว่าเป็นฉันเข้ามา ดูเหมือนว่านายจะผิดหวังมากเลยสินะ?" ฟู่จิ่นซิ่วเดินเข้ามา ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่ง เขายังมีกลิ่นเหล้าติดตัว เห็นได้ชัดว่าเพิ่งออกมาจากบาร์แห่งใดแห่งหนึ่งลู่สือเยี่ยนหลับตาลง สีหน้าของเขายังคงซีดเซียวบาดแผลจากแส้บนร่างกายได้รับการรักษาแล้ว ก่อนหน้านี้ที่หมดสติเป็นเพราะแผลติดเชื้อและมีไข้สูงฟู่จิ่นซิ่วพูดว่า "นายหย่ากับหลินเซียงแล้ว ทำไมยังหวังว่าเธอจะมาเยี่ยมอีก? ฉันดูท่าทางเธอแล้ว มีแต่อยากจะอยู่ให้ห่างจากนายสุดหล้าฟ้าเขียว"น้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนเย็นชาและแหบพร่า "ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็หุบปากไป"ฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะทันที "ฉันพูดแทงใจดำเลยโกรธเหรอ?"ลู่สื
ฟู่จิ่นซิ่วรีบดึงเขาไว้ "สือเยี่ยน อย่าบ้าไปหน่อยเลย แผลนายยังไม่หาย แถมยังหย่ากับหลินเซียงแล้ว ในเมื่อตัดสินใจปล่อยมือแล้ว ก็มองไปข้างหน้าสิ!"ฟู่จิ่นซิ่วไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมลู่สือเยี่ยนถึงยึดติดกับหลินเซียงนักทั้งที่ตอนแรก ลู่สือเยี่ยนออกจะรังเกียจหลินเซียงมาก เพราะเธอได้เห็นด้านที่น่าอับอายที่สุดของเขาเธอได้เห็นเขาในตอนที่ความจำเสื่อม เป็นใบ้ หรือแม้กระทั่งเป็นคนปัญญาอ่อนนั่นคือสิ่งที่ลู่สือเยี่ยนไม่อยากหวนคิดถึงมากที่สุดหลังจากที่ฟื้นความทรงจำกลับมา!ดังนั้น ในตอนแรกเขาถึงได้ยืนกรานที่จะหย่ากับหลินเซียง!แต่ตอนนี้ เขากลับยืนกรานจะพัวพันกับเธอต่อไป!บ้าไปแล้ว!เส้นเลือดบนหน้าผากของลู่สือเยี่ยนปูดโปน เขาจ้องมองฟู่จิ่นซิ่วด้วยความโกรธถึงที่สุดแล้วพูดว่า "ฉันกับหลินเซียงไม่ได้หย่ากัน เธอยังเป็นภรรยาที่ถูกต้องของฉัน!"เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่จิ่นซิ่วก็ถึงกับอึ้งไป "นายว่า...อะไรนะ?"การดิ้นรนเมื่อครู่ทำให้แผลบนร่างกายของลู่สือเยี่ยนปริออก กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ฟุ้งกระจายในอากาศ เขาแสยะยิ้มแล้วพูดด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างที่สุดว่า "ถ้าฉันไม่ให้ใบหย่ากับเธอ เธอคงจะอาละวาดกับฉันไป
ซ่งซ่งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ปกติเธอเป็นคนตื่นง่ายมาก เสียงเคาะประตูดังขนาดนั้นกลับปลุกเธอไม่ได้?หรือเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์?ซ่งซ่งไม่คิดมากอีกต่อไป หาวแล้วเดินออกไปมองผ่านตาแมวที่ประตู เมื่อเห็นคนข้างนอก เธอก็หรี่ตาลงเล็กน้อยทำไมถึงเป็นเขา?"ปัง ปัง ปัง!"ในขณะที่กำลังคิดอยู่ คนข้างนอกก็เริ่มเคาะประตูอีกครั้งซ่งซ่งเปิดประตูทันที เห็นฟู่จิ่นซิ่วที่ยังคงยกมือขึ้น ทำท่าทางจะเคาะประตูต่อไปถ้าเธอเปิดประตูช้ากว่านี้สองวินาที ฝ่ามือของเขาอาจจะโดนตัวเธอแล้ว"ดึกดื่นป่านนี้ มาเคาะประตูทำซากอะไร? เป็นอะไรมากหรือเปล่า!"ซ่งซ่งพูดอย่างไม่พอใจฟู่จิ่นซิ่วลดมือลง มองเธอ "มีแค่คุณเหรอที่อยู่ที่นี่?"ซ่งซ่งหาว "ไม่ใช่ฉัน แล้วจะเป็นใคร?"เธอหรี่ตาลง เหมือนนึกอะไรออกแล้วพูดว่า "อ้อ แล้วก็มีฉินโหย่วหานอีกคน"ฟู่จิ่นซิ่วที่ถอนหายใจไปแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันที "คุณว่าฉินโหย่วหานนอนอยู่ที่นี่?"ซ่งซ่ง "เกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ?"ฟู่จิ่นซิ่วยกมือขึ้นนวดระหว่างคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องราวกำลังยุ่งยากมากถ้าฉินโหย่วหานมีความสัมพันธ์กับหลินเซียงจริง...ลู่สือเยี่ยนอาจจะอา
"ฟู่จิ่นซิ่ว ทำอะไร? ปล่อยฉัน!"ซ่งซ่งดิ้นไม่หยุด เอื้อมมือไปข่วนหน้าฟู่จิ่นซิ่ว แต่ก็เอื้อมไม่ถึง!ฟู่จิ่นซิ่วหนีบเธอมาที่ชั้นล่าง จากนั้นก็มาที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง ใส่รหัสลายนิ้วมือ เปิดประตูแล้วเดินเข้าไป ก่อนจะโยนซ่งซ่งลงบนโซฟา!"อ๊ะ!"ซ่งซ่งอุทานออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ถูกเขากดลงกับเบาะ!เธอเบิกตาโต "ทำอะไร?"ฟู่จิ่นซิ่วมองเธอจากด้านบน "ครั้งหนึ่งก็แล้ว สองครั้งก็แล้ว นี่ครั้งที่สาม ซ่งซ่ง คิดว่าผมใจดีมากหรือไง?"ซ่งซ่งรู้สึกถึงอันตรายอย่างไม่มีเหตุผล กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่ดิ้นรนอีกต่อไป พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง และพยายามไม่ให้เขาอารมณ์เสียเพิ่ม"ฟู่จิ่นซิ่ว ฉันล้อเล่นเอง ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย?"ฟู่จิ่นซิ่วพูดอย่างเย็นชา "รู้ไหมว่าการล้อเล่นแบบนี้มีผลร้ายแรงแค่ไหน?"ซ่งซ่งเบะปาก "ถึงจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณมิทราบ? เซียงเซียงกับคนเลวอย่างลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้ว เธอจะอยู่กับใครมันก็เป็นอิสระของเธอ"ฟู่จิ่นซิ่วเกือบจะพูดออกไปว่าใบหย่าเป็นของปลอม แต่เมื่อคิดดูแล้ว เขาก็อดทนไว้ช่างเถอะหลอกได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นตอนนี้เขาต้องคิดบัญชีกับผู้หญ
ฟู่จิ่นซิวขบเม้มติ่งหูของเธอ "นี่ลงโทษที่คุณมายั่วโมโหผม"ซ่งซ่งกัดไหล่ของเขาทันที สิ่งที่ตามมาทำให้เธอถึงกับสบถด่าไม่ออกคนคนนี้มันร้ายกาจเกินไปแล้ว!…หลินเซียงนอนหลับสบายตลอดคืนอาจเป็นเพราะมีซ่งซ่งอยู่ข้าง ๆ เธอจึงรู้สึกสบายใจมากเธอลืมตาขึ้นแล้วพูดว่า "ซ่งซ่ง ตื่นได้แล้ว ฉันจะทำบะหมี่ให้กิน อยากกินบะหมี่อะไร?"เธอพูดพลางลุกขึ้น แต่เมื่อมองไปข้าง ๆ กลับไม่เห็นซ่งซ่งหายไปไหน?หลินเซียงตกใจ รีบใส่รองเท้าออกไปตามหาแต่ซ่งซ่งไม่อยู่ในห้องเธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรตาม แต่โทรศัพท์ของซ่งซ่งกลับดังอยู่ในห้องนอนสีหน้าของหลินเซียงดูไม่ดีทันที!เกิดอะไรขึ้น?ซ่งซ่งไปไหน?ทำไมไม่พกโทรศัพท์ไปด้วย?ในสังคมปัจจุบัน พรวดพราดออกจากบ้านโดยไม่เอาเงินสดไปยังได้ แต่ขาดโทรศัพท์ไม่ได้เด็ดขาดแล้วซ่งซ่งออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่?ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย?ขณะที่หลินเซียงกำลังคิดอยู่ จู่ ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหลินเซียงรีบไปเปิดประตู เห็นซ่งซ่งยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า ดูอ่อนแรงเหมือนถูกสูบพลังไปจนหมด"ซ่งซ่ง เธอไปไหนมา?" หลินเซียงจับมือเธอถามซ่งซ่งยกยิ้มแล้วพูดว่า "เม
"สวัสดีครับคุณหลิน ผมชื่อเฉินลู่""ผมชื่อเฉินเจียง"เมื่อทั้งสองพูดจบ บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบงันอย่างน่าประหลาดหลินเซียง "หมดแล้วเหรอ?"เฉินลู่และเฉินเจียงมองหน้ากัน เฉินลู่พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ว่า "หมดแล้วครับ"หลินเซียงหัวเราะออกมา แล้วถามว่า "พวกคุณถนัดอะไรบ้าง? ต้องการค่าจ้างเท่าไหร่?"เฉินลู่และเฉินเจียงมองหน้ากันอีกครั้ง แล้วมองไปที่ฉินโหย่วหานพร้อมกันฉินโหย่วหานยกมือนวดหน้าผากอย่างจนปัญญาแล้วพูดว่า "พวกนายนั่งลงก่อน"เฉินลู่และเฉินเจียงนั่งลงทันทีฉินโหย่วหานจึงแนะนำสถานการณ์ของพวกเขาอย่างง่าย ๆ แล้วพูดในที่สุดว่า "เรื่องค่าจ้าง เธอจะให้เท่าไหร่ก็ได้"หลินเซียงส่ายหน้าแล้วพูดว่า "ให้เท่าไหร่ก็ได้ไม่ได้ พวกเขาต้องคุ้มครองความปลอดภัยของฉัน แต่รอบตัวฉันไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ นี่ถือเป็นงานที่อันตรายมาก คุณจ่ายค่าจ้างให้พวกเขาเท่าไหร่ล่ะ ฉันจะให้สองเท่า"ฉินโหย่วหานเลิกคิ้ว "ใจป้ำขนาดนี้เลยเหรอ? งั้นผมขอสมัครเป็นบอดี้การ์ดให้คุณด้วยได้ไหม?"เฉินลู่และเฉินเจียงรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีไม่จริงน่า?พี่หานจะมาแย่งงานพวกเขาหรือ?อย่างนั้นไม่ได้!ถ้าหลินเซียงจ้างพวกเขา
"อืม ค่ะ"หลินเซียงพยักหน้า เดินไปที่ลิฟต์โดยตรงเพื่อรอซืออวี่กลับมาเธอก้มลงมองโทรศัพท์ และในขณะนั้นเอง ประตูลิฟต์ก็เปิดออก พร้อมกับเสียงประหลาดใจที่ดังขึ้น"คุณผู้หญิง?"หลินเซียงเงยหน้าขึ้น เห็นซ่งจั่วเดินออกมาจากลิฟต์ บนใบหน้ามีร่องรอยของความดีใจ "คุณมาเยี่ยมท่านประธานลู่เหรอครับ?"สีหน้าของหลินเซียงเรียบเฉย ก่อนจะส่ายหน้า "เปล่าค่ะ"ซ่งจั่วชะงัก เอื้อมมือลูบจมูกตัวเอง เห็นได้ชัดว่าหลินเซียงมีท่าทีเย็นชา เขายิ้มอย่างอึดอัด แล้วพูดกับตัวเองว่า "ท่านประธานลู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส พักอยู่ชั้นนี้เหมือนกัน คุณผู้หญิงจะไม่เข้าไปเยี่ยมหน่อยเหรอครับ?"หลินเซียงมองเขาอย่างใจเย็นแล้วพูดว่า "ซ่งจั่ว ฉันกับลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วนะคะ""หือ?" ซ่งจั่วชะงัก แล้วก็เข้าใจความหมายของเธอ ยิ้มอย่างรู้สึกผิด "ขอโทษครับ คุณหลิน"สีหน้าของหลินเซียงจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อยแต่ซ่งจั่วก็ยังไม่ยอมไปไหน ยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ เธอหลินเซียงถามว่า "มีอะไรอีกหรือเปล่า?"ซ่งจั่วกัดฟันแล้วพูดว่า "คุณหลินครับ อย่างน้อยพวกคุณก็เคยเป็นสามีภรรยากัน ท่านประธานลู่ได้รับบาดเจ็บ คุณจะไม่เข้าไปดูหน่อยเหรอ?"คิ้วที่สวยงา
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?