เซี่ยหว่านกระตือรือร้นที่จะแสดงความสามารถของตัวเอง หลังจากได้ที่ดินแปลงนี้มา ก็ทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่โครงการนี้ เงินทุนที่ลงทุนจำนวนมหาศาล ตราบใดที่การก่อสร้างที่นี่เสร็จสิ้น เมื่อรถไฟใต้ดินเปิดให้บริการ โครงการนี้จะนำผลกำไรมหาศาลมาสู่เธอตำแหน่งของเธอในตระกูลเซี่ยจะยิ่งมั่นคงมากขึ้นเซี่ยซือซือฟังแผนของหลินเซียง ดวงตาก็ฉายแววเป็นประกาย “สมแล้วที่เป็นคุณผู้หญิงลู่”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย “ถ้าคนไม่ทำร้ายฉันก่อน ฉันก็ไม่ทำร้ายใคร แต่ถ้าใครทำร้ายฉัน ฉันจะเอาคืนเป็นร้อยเท่า”เซี่ยซือซือ “ในเมื่อคุณตรงไปตรงมา ฉันก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เรื่องพวกนี้ยกให้ฉันจัดการได้เลย”เธอมือชี้ไปที่เนื้อหาบางส่วนในเอกสารหลินเซียงพยักหน้า “ดีค่ะ”ห้องส่วนตัวข้าง ๆฟู่จิ่นซิ่วเดินเข้ามา พลางจ้องมองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “ทายสิว่าฉันเจอใคร?”ลู่สือเยี่ยนพลิกดูข้อมูลในมือ สีหน้าเย็นชา “ใคร?”ฟู่จิ่นซิ่ว “ให้ทายไง”ลู่สือเยี่ยน “ไม่พูดก็หุบปากไป”ฟู่จิ่นซิ่วอุทาน “นายนี่น่าเบื่อไปหน่อยนะ ฉันเจอหลินเซียงแล้ว เธออยู่ห้องข้าง ๆ”เมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็วางเอกสารในมือลงทันทีเมื่อเห็นดังนั
เขาหมุนข้อมือช้าๆ ด้วยท่าทางใจเย็น ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มและทรงเสน่ห์ว่า “แต่ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็จะเสียความพิเศษและหน้าที่ของมันไป มันทำอะไรได้หลายอย่างนะ”มองดูมือที่ถูกยกขึ้นมาอวดอยู่ตรงหน้า หลินเซียงเริ่มสงบใจลงใช่เธอแค่รู้สึกว่าลู่สือเยี่ยนแค่มาเสนอหน้าเพื่ออวดมือตัวเองเธอมองเขาด้วยแววตาซับซ้อน ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการทำอะไรกันแน่ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างใจเย็น แล้วถามขึ้นว่า “อยากลองดูไหมว่ามันทำอะไรได้บ้าง?”หลินเซียงระวังตัวทันที ผลักเขาออกและพูดว่า “ขอโทษที ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”พูดจบ เธอก็ออกจากห้องน้ำทันทีริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย เธอเข้าถึงบทบาทได้เร็วจริง ๆหลังจากกลับมาที่ห้องส่วนตัวฟู่จิ่นซิ่วเหลือบมองเขาและอุทานออกมา “สือเยี่ยน ตอนนี้นายไม่ไว้ตัวเลย เธอแค่ขยับตัวนิดหน่อยนายก็แจ้นไปหาแล้ว ภาพลักษณ์ของนายล่ะ? ก่อนหน้านี้นายไม่ได้ทำเป็นไม่สนใจเธอหรอกเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ตรงข้าม ไม่สนใจคำพูดของเขา พูดออกมาตรง ๆ ว่า “ยืนยันได้แล้วว่าคนที่อวิ๋นหลานไปเจอคือฉีเจี้ยนเย่ ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดา”ฟู่จิ่นซิ่วกล่าวว่า “ยังม
“กรี๊ด!”หลินเซียงกรีดร้อง หันหลังวิ่งทันที!แม้ว่าเธอจะมีมีดอยู่ในมือก็ยังไม่กล้าปะทะกับชายคนนั้นโดยตรง ถ้าเขาแย่งมีดไปได้ แล้วจับเธอเป็นตัวประกันล่ะ?เธอวิ่งสุดชีวิต!วิ่งไปร้องขอความช่วยเหลือไป เสียงของเธอดังก้องไปทั่วทุกมุมของลานจอดรถใต้ดิน!เสียงฝีเท้าที่ไล่ตามมาติด ๆ นั้น ราวกับเหยียบลงบนหัวใจของเธอ ความหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับจะพุ่งออกมาจากลำคอ!เธอกำมีดแน่น ตัวสั่นเทาไปหมด!ในขณะนั้นเอง ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากด้านข้าง ผลักชายที่ตามเธอมาออกไป!ทั้งสองคนล้มลงกับพื้น!“หลินเซียง รีบหนีไป!”เสียงร้อนรนดังมาจากด้านหลังหลินเซียงหันกลับไปก็เห็นสวี่ซิงเย่ต่อสู้กับชายคนนั้น ใบหน้าของเขามีรอยแผลชายคนนั้นหยิบมีดออกมา แทงไปที่หน้าอกของสวี่ซิงเย่“อย่า!”หลินเซียงร้องอุทาน รีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือ!สวี่ซิงเย่ใช้แขนบังการโจมตี เลือดไหลออกมาทันที ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือด!หลินเซียงใช้กระเป๋าของเธอฟาดไปที่ชายคนนั้น โซ่กระเป๋าของเธอฟาดไปที่ใบหน้าและลำคอของชายคนนั้น เกิดเป็นรอยเลือดขึ้นอย่างรวดเร็วสวี่ซิงเย่ออกแรงต้านทานชายคนนั้น
คิ้วของสวี่ซิงเย่ขมวดเข้าหากัน กล่าวว่า “เรื่องสำคัญแค่ไหนจะสำคัญไปกว่าชีวิตของภรรยาตัวเองอีกเหรอ?”หลินเซียงไม่อยากพูดเรื่องเหล่านี้มากนัก จึงเปลี่ยนเรื่อง “แผลนายโดนน้ำไม่ได้ กลับถึงบ้านแล้วพยายามกินอาหารรสจืด จะได้ลดการติดเชื้อ”สวี่ซิงเย่มองเธออย่างลึกซึ้ง รู้ว่าเธอกำลังเปลี่ยนเรื่อง เขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีกรถมาถึงหน้าเฟิงหลินหย่วนอย่างรวดเร็ว หลังลงจากรถ สวี่ซิงเย่ก็เดินตามหลินเซียงเข้าไปข้างในหลินเซียงพูดว่า “ส่งถึงตรงนี้ก็พอแล้ว นายกลับไปเถอะ”สวี่ซิงเย่พูดว่า “ไม่ได้ ผมต้องไปส่งคุณถึงหน้าบ้านถึงจะสบายใจ”ความกังวลบนใบหน้าของเขาชัดเจนมาก หลินเซียงใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธทำได้เพียงพยักหน้า หันหลังเดินเข้าไปข้างในหลังออกมาจากลิฟต์ หลินเซียงบอกว่า “ขอบคุณที่มาส่งนะ เข้าไปดื่มชาในบ้านก่อนไหม?”ในเมื่อเขามาส่งถึงหน้าประตูแล้ว เธอก็ควรจะชวนตามมารยาทสวี่ซิงเย่ส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกครับ ผมสบายใจแล้วที่เห็นคุณถึงบ้าน กลับก่อนนะ”หลินเซียงยืนอยู่ที่หน้าลิฟต์ “วันนี้ขอบคุณมากจริง ๆ วันหลังฉันค่อยเลี้ยงข้าวนายแล้วกันนะ”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ครับ”ในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง ใ
สวี่ซิงเย่กล่าวว่า “ดูจากหน้าตาก็น่ากินแล้ว”พอหยิบตะเกียบคีบขึ้นมากินคำหนึ่ง ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายทันที “อร่อย!”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย “ทุกคนเวลากินอาหารที่ฉันทำก็พูดแบบนี้กันทั้งนั้น”ไม่ใช่ว่าเธออยากจะอวด แต่เป็นเพราะใครกินก็บอกว่าอร่อยสวี่ซิงเย่บอกว่า “ฝีมือคุณดีขนาดนี้ เปิดร้านอาหารได้เลย รับรองขายดีแน่”หลินเซียงพยักหน้า “ได้สิ รอฉันเกษียณก่อน ฉันจะเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ อยากเปิดก็เปิด ไม่อยากเปิดก็ไม่เปิด เอาแบบตามใจตัวเอง”สวี่ซิงเย่หัวเราะออกมาทั้งสองทานอาหารกันอย่างเงียบ ๆ บรรยากาศค่อนข้างสบายเพียงแต่สวี่ซิงเย่บาดเจ็บที่มือขวา ทำให้ทานอาหารไม่สะดวกนัก ทำได้แค่กินช้า ๆหลินเซียงตักซุปให้เขา วางไว้ข้าง ๆ มือ “ลองชิมนี่ดู”“ครับ”สวี่ซิงเย่รับคำแต่เขาจับไม่ถนัด ถ้วยซุปหกเลอะตัวเขา เสื้อผ้าและกางเกงของเขาเปื้อนไปด้วยน้ำซุป!หลินเซียงตกใจ “โดนลวกหรือเปล่า?”สวี่ซิงเย่กล่าวว่า “ไม่ ไม่เป็นไรครับ แต่ผมคงต้องขอยืมใช้ห้องน้ำหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า “รีบไปดูซิว่าโดนลวกหรือเปล่า”สวี่ซิงเย่เข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานก็ได้ยินเสียงน้ำไหลหลินเซียงเก็บกวาดฃ้าวของในห้องอาหาร
บรรยากาศที่เย็นเยียบหายไป สิ่งที่ตามมาคือความหนาวเหน็บถึงขั้วกระดูก!ลู่สือเยี่ยนและหลินเซียงหันไปมองพร้อมกัน เห็นสวี่ซิงเย่พันผ้าเช็ดตัวไว้รอบเอวเดินออกมา ผมสั้นเปียกปอน รูปร่างผอมบาง แต่ปกคลุมไปด้วยกล้ามเนื้อบาง ๆ ดูยังหนุ่มยังแน่นแต่ก็แข็งแรงข้อมือของหลินเซียงถูกบีบอย่างแรง เธอถูกดึงไปข้างหน้าด้วยแรงมหาศาล เสียงเย็นยะเยือกของเขาดังขึ้น “หลินเซียง ทำบ้าอะไร? หืม? ซ่อนผู้ชายไว้ในบ้านหรือ?”ตอนนี้ลู่สือเยี่ยนแผ่รังสีอันตรายไปทั่วร่าง ดวงตาจ้องหลินเซียงอย่างไม่วางตา ราวกับว่าเขาต้องการจะเจาะลึกไปในตัวเธอด้วยสายตา!ความโกรธอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแผ่ซ่านไปทั่วอก!เธอพาผู้ชายคนอื่นเข้ามาในบ้าน!โชคดีที่เขามาทันเวลา ถ้าคืนนี้เขาไม่มาหาเธอ พวกเขาคงจะขึ้นเตียงกันแล้วใช่ไหม?แถมยังทำอาหารมากมายอย่างเอาใจใส่!หึ!เขารู้สึกว่าเขาตามใจเธอมากเกินไปจริง ๆ!หลินเซียงรู้สึกเจ็บปวด ใบหน้าซีดลงเล็กน้อย พยายามดิ้นให้ข้อมือหลุด แต่แรงของลู่สือเยี่ยนมากเกินไป บีบจนเธอเจ็บมากกว่าเดิม!“ทำบ้าอะไรเนี่ย? วันนี้เขาช่วยชีวิตฉัน ฉัน…”ลู่สือเยี่ยนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ทำไมเขาถึงช่วย? เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?
สวี่ซิงเย่กลับดึงเธอไว้ มองลู่สือเยี่ยนอย่างระแวดระวัง กล่าวอย่างจริงจังว่า “คุณลู่ ผมกับหลินเซียงไม่มีอะไรเกินเลยกัน คุณอย่าทำร้ายเธอ!”เขาแสดงท่าทีอยากจะปกป้อง แต่สีหน้าซีดเผือดมาก บางครั้งก็ไอสองสามครั้ง ก็เอามือกุมท้องตรงที่ถูกลู่สือเยี่ยนเตะเมื่อกี้หลินเซียงมองเขาด้วยความเป็นห่วงมากขึ้น ไม่อาจปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่ต่อไปได้ เธอหันหลังเดินไปที่ห้องน้ำ หยิบเสื้อผ้าที่แห้งครึ่งหนึ่งออกมา“สวี่ซิงเย่ ใส่เสื้อผ้าแล้วรีบไปเถอะ!”หลินเซียงยืนอยู่ระหว่างสวี่ซิงเย่และลู่สือเยี่ยน หันหลังให้ลู่สือเยี่ยน และส่งสายตาให้สวี่ซิงเย่รีบไป!ถ้าเขายังอยู่ที่นี่จะไม่ดีต่อใครทั้งนั้น!หากลู่สือเยี่ยนโกรธขึ้นมา พวกเขาจะเดือดร้อน!สวี่ซิงเย่เห็นสีหน้ากระวนกระวายของเธอ จึงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ครับ”เขาสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วกล่าวว่า “อีกหนึ่งชั่วโมงผมจะส่งข้อความหาคุณ ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะแจ้งตำรวจ”หลินเซียง “ฉันไม่เป็นไรหรอก นายรีบไปเถอะ!”สีหน้าของลู่สือเยี่ยนแย่ลงเรื่อย ๆ!ถ้ายังอ้อยอิ่งอยู่อาจจะเกิดเรื่องร้ายแรงได้!สวี่ซิงเย่จากไป ทันทีที่ประตูห้องปิดลง หลินเซียงก็ถอนหายใจอย่างโล่
สายตาของลู่สือเยี่ยนฉายแววดุร้าย แผ่ความเย็นยะเยือกถึงกระดูกไปทั่วร่าง การกระทำหยาบคาย รุนแรง ไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย!หลินเซียงมีความรู้สึกว่าตัวเองต้องตายคาเตียงแน่ตายแน่ในช่วงแรกเธอยังพอทนได้ แต่ต่อมาเธอทนไม่ไหวอีกแล้ว เจ็บจนร้องไห้ออกมา“ลู่สือเยี่ยน ปล่อยฉัน เจ็บมาก เจ็บไม่ไหวแล้ว…”เธอดิ้นรนเล็กน้อย เพราะไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลือลู่สือเยี่ยนกลับจูบซับน้ำตาของเธอโดยไม่มีความสงสารแม้แต่น้อยหลินเซียงนอนคว่ำอยู่บนเตียง ผ้าปูที่นอนมีรอยเลือด เธอเจ็บจนตัวสั่น นิ้วมือจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น“เจ็บ…เจ็บมาก…”เธอครางอย่างเลื่อนลอยลู่สือเยี่ยนมองดูเธอ สภาพเหมือนตุ๊กตาผ้าขี้ริ้ว ร่างกายขาวผ่องเต็มไปด้วยร่องรอยของเขาเขาก้มลงอุ้มเธอขึ้นมา แล้วพาเข้าไปในห้องน้ำเมื่อเขาแตะต้อง หลินเซียงก็ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้!เป็นความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจ!ลู่สือเยี่ยนสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเธอ สีหน้าเขาเริ่มไม่สู้ดี ขบกรามแน่น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรงในขณะนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเธอตกใจ!สวี่ซิงเย่ส่งข้อความมาหาเธอจริงเหรอ?ลู่สือเยี่ยนมองปฏิกิริยาของเธอแ
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?