แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านเข้ามาในห้องผู้ป่วย กระทบกับผนังขาวสะอาดของห้องอย่างอ่อนโยนคุณย่าลู่นั่งอยู่บนเตียง เซี่ยหว่านนั่งอยู่ข้าง ๆ คอยป้อนผลไม้ให้หลินเซียงงยืนอยู่ในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกล เอ่ยทักทายขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณย่า”คุณย่าลู่ไม่แม้แต่จะมองเธอ หันไปพูดกับเซี่ยหว่านว่า “พอดีเลย ช่วยเข็นฉันออกไปเดินเล่นหน่อยได้ไหม?”เซี่ยหว่านพยักหน้า “ได้ค่ะ”เธอและพยาบาลช่วยกันพยุงคุณย่าลู่ลงจากเตียง นั่งบนรถเข็น จากนั้นก็เข็นออกจากห้องผู้ป่วยตอนที่เดินผ่านหลินเซียง เซี่ยหว่านมองเธอแวบหนึ่ง สายตาของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะหลินเซียงขมวดคิ้วเล็กน้อย หันหลังจะตามไป แต่ถูกบอดี้การ์ดที่หน้าประตูขวางไว้“คุณท่านสั่งไว้ ให้คุณรออยู่ที่นี่”ใจของหลินเซียงกระตุกอย่างแรง รู้สึกไม่ดีในใจเธอถอยหลังสองก้าว รอจนประตูห้องปิดลง หยิบโทรศัพท์ออกมาจะติดต่อคน แต่โทรศัพท์กลับไม่มีสัญญาณ!ห้องนี้ติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณไว้!สีหน้าของหลินเซียงเปลี่ยนไปทันที!คุณย่าลู่คิดจะทำอะไร?ทำไมต้องขังเธอไว้ที่นี่?เธอคิดไม่ออก!บอดี้การ์ดที่หน้าประตูไม่ให้เธอออกไปไหน เธอทำได้เพียงรออยู่ที่นี่ขณะนั่งอ
ยามค่ำคืนมาเยือนหลินเซียงลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย เธอยังคงอยู่ในห้องผู้ป่วย คุณย่าลู่ยังคงไม่กลับมาเธอลุกขึ้นเปิดไฟทันทีที่ยืนตรง ประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออก คิดว่าคุณย่าลู่กลับมาแล้วจึงหันไปมองโดยสัญชาตญาณ แต่กลับเห็นบอดี้การ์ดสองคนเดินเข้ามา พูดกับเธอว่า “คุณหลิน คุณท่านรอคุณอยู่ข้างนอก”ครั้งนี้หลินเซียงไม่เชื่อคำพูดของคุณย่าลู่ เธอนั่งลงบนโซฟา ถามว่า “ดึกขนาดนี้แล้ว คุณย่าไม่กลับมาพักผ่อนอีกเหรอ? ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ท่านอายุมาก ถ้าเป็นหวัดเข้าจะไม่ดีเอานะ”เมื่อบอดี้การ์ดเห็นว่าเธอไม่ยอมไปด้วยกันดี ๆ ทั้งสองจึงสบตากัน จากนั้นก็เดินเข้ามาหยิบสเปรย์จากกระเป๋า ฉีดเข้าที่หน้าของหลินเซียงหลินเซียงตกใจ พยายามเบี่ยงหลบ แต่ก็สายไปแล้ว!กลิ่นฉุนรุนแรงเข้าจมูก เธอรู้สึกวิงเวียน “พวก พวกแก…”พูดไม่ทันจบก็หมดสติไปเตียงถูกเข็นเข้าไปในลิฟต์ ออกจากประตูหลังของโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นตอนที่ฉินโหย่วหานพาคนขึ้นมา ในห้องผู้ป่วยไม่มีร่างของหลินเซียงแล้ว!ซ่งซ่งร้อนใจ “เซียงเซียงอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ? แล้วคนไปไหน?”ฉินโหย่วหานตรวจสอบรอบ ๆ จากนั้นก็หลับตาลง พูดว่า “มีกลิ่น
ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลถูกส่งไปยังโทรศัพท์ของลู่สือเยี่ยนอย่างรวดเร็วเขานั่งอยู่ในรถ ตรวจสอบอย่างละเอียดตั้งแต่หลินเซียงเข้าไปในห้องผู้ป่วย จนถึงตอนที่คุณย่าลู่และเซี่ยหว่านออกไปด้วยกัน เขาไม่ปล่อยผ่านแม้แต่รายละเอียดเดียวแต่ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงหลังจากนั้นหายไปช่วงหนึ่งลู่สือเยี่ยนกดหูฟังบลูทูธ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ซืออวี่ กล้องวงจรปิดตัวอื่นล่ะ?”ซืออวี่ “กำลังหาอยู่ กำลังหาอยู่ อย่าเร่งสิ”เธอพูดอย่างร้อนรน กังวลจนเหงื่อออกเต็มหน้าผาก!ถ้ารู้ว่าหลินเซียงขอลาออกไปตอนบ่ายแล้วจะเกิดเรื่อง เธอจะไม่ยอมให้ไปเด็ดขาด!“เร็วเข้า”น้ำเสียงของชายหนุ่มในหูฟังเย็นชาเป็นอย่างมากซืออวี่รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แล่นขึ้นมา เธอกลืนน้ำลาย เคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว เจาะเข้าระบบกล้องวงจรปิดรอบ ๆ โรงพยาบาลทีละตัวเพื่อหาร่างของหลินเซียง“หาเจอแล้ว!”อีกสองนาทีต่อมาเธอพูดขึ้น จากนั้นก็ดำเนินการบางอย่าง ส่งวิดีโอไปยังโทรศัพท์ของลู่สือเยี่ยนทันทีเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดตรงข้ามถนนด้านหลังโรงพยาบาล หลินเซียงถูกชายสองคนแบกขึ้นรถ รถขับออกไปอย่างรวดเร็วซืออวี่รายงานว่า “รถคันนี้เป็นรถส
ฟู่จิ่นซิ่วหรี่ตาลง สังเกตเห็นได้อย่างเฉียบคมว่าท่าทีของซ่งซ่งที่มีต่อตนนั้นผิดปกติมากเขาไม่ปล่อยมือ กลับมองซ่งซ่งและถามว่า “ทำไมคุณทำท่าทีแบบนี้กับผม?”ซ่งซ่ง “คิดว่าฉันสนิทกับคุณมากนักเหรอ?”“หึ!”ฟู่จิ่นซิ่วแค่นเสียงขำออกมาด้วยความโกรธ!ไม่สนิทเหรอ?พวกเขาผ่านเรื่องราวมากมายมาด้วยกัน เธอกลับบอกว่าไม่สนิท?กระทั่งขึ้นเตียงด้วยกันแล้ว เธอกลับบอกว่าไม่สนิท?ฟู่จิ่นซิ่วบีบนิ้วที่จับแขนของเธอแน่นขึ้น แต่เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาของเธอ เขาก็หัวเราะเยาะ ไม่พูดอะไร แล้วปล่อยมือออกในเมื่อเธอบอกว่าไม่สนิทก็ไม่สนิท!ใครเถียงกับเธอ คนนั้นได้เป็นประสาทตายพอดี!ซ่งซ่งขยับแขนตัวเอง จากนั้นก็มองไปที่ลู่สือเยี่ยน “นี่ พูดอะไรหน่อยสิ!”เมื่อกี้ยังตามหาหลินเซียงอยู่ ทำไมตอนนี้ถึงจะไปบ้านใหญ่ตระกูลลู่?ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างเย็นชา “ถ้ารอดี ๆ ไม่ได้ ก็ลงไปซะ!”หลินเซียงไม่อยู่ที่นี่ ไม่มีใครปกป้องเธอได้!“นาย!”เมื่อซ่งซ่งได้ยินก็แสดงสีหน้าเหลืออดทันที!นี่มันท่าทีแบบไหน?เซียงเซียงหายตัวไปเพราะใคร?ไม่ใช่เพราะคนตระกูลลู่ของเขาหรอกเหรอ?เขากลับทำตัวหยิ่งผยองแบบนี้!ซ่งซ่งหยิบโทรศัพท์
คุณย่าลู่พูดอย่างเย็นชา “แกหย่ากับเธอแล้วไม่ใช่หรือไง? เธออยู่ที่ไหน ทำอะไร ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับแกแล้วนี่?”ลู่สือเยี่ยนก้มตัวลงเล็กน้อย วางมือทั้งสองข้างบนปลายเตียง มองเธอด้วยดวงตาเรียวคมที่เต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณย่า วิธีการเดิมกับตอนที่ใช้บีบบังคับให้ผมหย่า ตอนนั้นผมไม่ต่อต้าน แต่ถ้ามีครั้งที่สอง ผมคงไม่มีความอดทนขนาดนั้นแล้ว ในเมื่อตอนนั้นลู่จิ้นหนานตายต่อหน้าต่อตาผม ผมยังไม่เสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว คุณย่าคิดว่าผมจะสนใจชีวิตของคุณย่าได้นานแค่ไหน?”“แก!”เมื่อคุณย่าลู่ได้ยินคำพูดของเขา สีหน้าก็ยิ่งดูบิดเบี้ยวมากขึ้น มือที่สั่นระริกชี้ไปที่เขา “ลู่สือเยี่ยน แกมันหลานอกตัญญู!”ลู่สือเยี่ยนยกยิ้ม “ผมเป็นแบบนี้มาตลอด คุณย่าลืมไปแล้วเหรอ?”บนร่างกายของเขามีออร่าเย็นเยียบ ในดวงตาปรากฏความมืดมนและความบ้าคลั่ง ความโหดเหี้ยมเวลาที่ไม่บรรลุเป้าหมายปรากฏออกมาคุณย่าลู่นึกขึ้นได้ ลู่สือเยี่ยนเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก!เขาเป็นเหมือนลูกหมาป่าตัวน้อย!ใครเข้าใกล้ เขาก็พร้อมจะข่วนทุกคน!ตอนเด็ก ๆ เขาไม่เคยเป็นที่ชื่นชอบของใคร!มีเพียงลู่จิ้นหนานที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ แม้จะถูกเขาทำร้ายจนบ
“ปัง!”“ปัง ปัง!”ตู้คอนเทนเนอร์ถูกถีบจนเกิดเสียง พยายามให้เสียงนั้นกลายเป็นที่สนใจแต่บริเวณนี้เป็นชายหาดด้านในสุดของท่าเรือร้าง เปล่าเปลี่ยวไร้ผู้คนบนชายหาดเต็มไปด้วยขยะ ตู้คอนเทนเนอร์หลายตู้ตั้งตระหง่านอยู่บนชายหาด น้ำทะเลซัดเข้าหาฝั่งระลอกแล้วระลอกเล่า ค่อย ๆ ท่วมตู้คอนเทนเนอร์ห่างออกไปไฟหน้ารถสว่างจ้าบนถนนภายในรถเซี่ยหว่านถือกล้องส่องทางไกล มองดูตู้คอนเทนเนอร์ในความมืด บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มร้ายกาจ!รออีกสองชั่วโมง หลินเซียงก็จะจมน้ำตาย!ผู้หญิงใจร้ายคนนี้สมควรตายไปนานแล้ว!เป็นเพราะเธอที่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของลู่สือเยี่ยน ทำให้จิตใจของลู่สือเยี่ยนว้าวุ่น ถึงหย่ากันไม่สำเร็จสักที!ถ้าไม่มีผู้หญิงใจร้ายคนนี้เข้ามาแทรกแซง เธอกับลู่สือเยี่ยนคงแต่งงานกันไปนานแล้ว และเธอก็คงกลายเป็นคุณผู้หญิงสามของตระกูลลู่!เซี่ยหว่านเห็นน้ำทะเลหนุนสูง ก็ยกยิ้มอย่างพอใจ วางกล้องส่องทางไกลลง จากนั้นก็พูดกับคนขับรถว่า “ไปกันเถอะ”“ครับ คุณหนู”…น้ำใต้ร่างเริ่มเพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆแววตาของหลินเซียงปรากฏความหวาดกลัวเธอดิ้นรนอย่างสุดกำลัง พยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกที่มัดมือและเท้า
ลู่สือเยี่ยนเอื้อมมือไปดึงเทปที่ปิดปากของเธอออก“อื้อ!”หลินเซียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หายใจเข้าลึก จากนั้นก็พูดว่า “ลู่สือเยี่ยน ฉันคิดดูแล้ว เรื่องที่คุณเสนอ ฉันตกลง”ลู่สือเยี่ยนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ และถามว่า “ทำไมถึงคิดได้กะทันหันล่ะ?”หลินเซียงเม้มปาก กำลังจะพูดอะไรบางอย่างก็มีเสียงตะโกนดังมาจากระยะไกล“นี่!”“อย่าเพิ่งคุยกันตรงนั้นได้ไหม!”“น้ำกำลังขึ้นนะ เฮ้ย!”“…”หลินเซียงชะงัก และพูดว่า “เราไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ”ลู่สือเยี่ยนก้าวขายาว ๆ อุ้มเธอเดินไปเข้าฝั่งเพิ่งวางเธอลงบนรถ ซ่งซ่งก็พุ่งเข้ามากอดเธอ ร้องไห้เสียงดัง “ฮือฮือฮือ เซียงเซียง เธอทำให้ฉันตกใจแทบตาย! ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว!”หลินเซียงถูกกอดจนเซไปด้านหลัง ไอสองสามครั้งพูดว่า “แค่ก ๆ อย่าทำแบบนี้ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”เสียงเย็นของฟู่จิ่นซิ่วดังขึ้น “ถ้าเอาแต่กอดเธอแบบนี้ อาจจะไม่ได้เจอเธอแล้วจริง ๆ ก็ได้”พูดจบเขาก็ขมวดคิ้ว เขาพูดกับเธอแบบนั้นได้ยังไงนะ?แต่ผู้หญิงคนนี้มักจะลืมคิดเสมอว่าอะไรควรไม่ควร…ซ่งซ่งไม่มีอารมณ์สนใจฟู่จิ่นซิ่ว รีบปล่อยหลินเซียงออกพลางสะอื้นไห้ “ขอโทษ ขอโทษ ฉัน
บนรถหลินเซียงคลึงข้อมือของตัวเอง การถูกมัดเป็นเวลานานทำให้ข้อมือของเธอบวมแดง ทุกครั้งที่สัมผัสก็รู้สึกเจ็บปวดสีหน้าของเธอซีดเผือด เสื้อผ้าเปียกโชกลู่สือเยี่ยนหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดหน้าและคอของเธอหลินเซียงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย รับผ้าขนหนูมา และพูดว่า “ฉันทำเองก็ได้”ลู่สือเยี่ยนกลับพูดว่า “คุณไม่ได้ตอบตกลงแล้วหรอกเหรอ? เริ่มปรับตัวตั้งแต่นี้ไปเถอะ”หลินเซียงชะงัก ก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “ทำแบบนี้จะได้ผลจริงเหรอ?”ลู่สือเยี่ยน “ผมก็ไม่กล้ารับประกัน แต่มีบางคนไม่อยากเห็นเราสองคนรักกัน งั้นเราก็ยิ่งต้องแสร้งทำเป็นรักกันให้มาก”หลินเซียงเม้มปาก ไม่พูดอะไรอีกลู่สือเยี่ยนเช็ดผมให้เธออย่างเบามือ รถขับกลับไปที่วิลล่าโดยตรงความรู้สึกเย็นและเหนอะหนะตามร่างกายทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว หลินเซียงพูดว่า “ฉันขอไปอาบน้ำก่อน เรื่องอื่นค่อยคุยกันทีหลัง”“อืม ไปเถอะ”ลู่สือเยี่ยนตอบรับ จากนั้นก็สั่งให้ห้องครัวต้มน้ำขิงแม้ว่าหลินเซียงจะไม่ได้จมน้ำทะเล แต่ก็อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์หลายชั่วโมง ลมทะเลเย็นมาก อาจเป็นหวัดได้ง่ายเมื่อหลินเซียงออกมาก็เห็นน้ำขิงวางอยู่บนโต๊ะลู่สือเยี่ยนถอดเสื้อนอกออกแล
“กรี๊ด!”หลินเซียงกรีดร้อง หันหลังวิ่งทันที!แม้ว่าเธอจะมีมีดอยู่ในมือก็ยังไม่กล้าปะทะกับชายคนนั้นโดยตรง ถ้าเขาแย่งมีดไปได้ แล้วจับเธอเป็นตัวประกันล่ะ?เธอวิ่งสุดชีวิต!วิ่งไปร้องขอความช่วยเหลือไป เสียงของเธอดังก้องไปทั่วทุกมุมของลานจอดรถใต้ดิน!เสียงฝีเท้าที่ไล่ตามมาติด ๆ นั้น ราวกับเหยียบลงบนหัวใจของเธอ ความหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับจะพุ่งออกมาจากลำคอ!เธอกำมีดแน่น ตัวสั่นเทาไปหมด!ในขณะนั้นเอง ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากด้านข้าง ผลักชายที่ตามเธอมาออกไป!ทั้งสองคนล้มลงกับพื้น!“หลินเซียง รีบหนีไป!”เสียงร้อนรนดังมาจากด้านหลังหลินเซียงหันกลับไปก็เห็นสวี่ซิงเย่ต่อสู้กับชายคนนั้น ใบหน้าของเขามีรอยแผลชายคนนั้นหยิบมีดออกมา แทงไปที่หน้าอกของสวี่ซิงเย่“อย่า!”หลินเซียงร้องอุทาน รีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือ!สวี่ซิงเย่ใช้แขนบังการโจมตี เลือดไหลออกมาทันที ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือด!หลินเซียงใช้กระเป๋าของเธอฟาดไปที่ชายคนนั้น โซ่กระเป๋าของเธอฟาดไปที่ใบหน้าและลำคอของชายคนนั้น เกิดเป็นรอยเลือดขึ้นอย่างรวดเร็วสวี่ซิงเย่ออกแรงต้านทานชายคนนั้น
เขาหมุนข้อมือช้าๆ ด้วยท่าทางใจเย็น ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มและทรงเสน่ห์ว่า “แต่ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็จะเสียความพิเศษและหน้าที่ของมันไป มันทำอะไรได้หลายอย่างนะ”มองดูมือที่ถูกยกขึ้นมาอวดอยู่ตรงหน้า หลินเซียงเริ่มสงบใจลงใช่เธอแค่รู้สึกว่าลู่สือเยี่ยนแค่มาเสนอหน้าเพื่ออวดมือตัวเองเธอมองเขาด้วยแววตาซับซ้อน ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการทำอะไรกันแน่ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างใจเย็น แล้วถามขึ้นว่า “อยากลองดูไหมว่ามันทำอะไรได้บ้าง?”หลินเซียงระวังตัวทันที ผลักเขาออกและพูดว่า “ขอโทษที ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”พูดจบ เธอก็ออกจากห้องน้ำทันทีริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย เธอเข้าถึงบทบาทได้เร็วจริง ๆหลังจากกลับมาที่ห้องส่วนตัวฟู่จิ่นซิ่วเหลือบมองเขาและอุทานออกมา “สือเยี่ยน ตอนนี้นายไม่ไว้ตัวเลย เธอแค่ขยับตัวนิดหน่อยนายก็แจ้นไปหาแล้ว ภาพลักษณ์ของนายล่ะ? ก่อนหน้านี้นายไม่ได้ทำเป็นไม่สนใจเธอหรอกเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ตรงข้าม ไม่สนใจคำพูดของเขา พูดออกมาตรง ๆ ว่า “ยืนยันได้แล้วว่าคนที่อวิ๋นหลานไปเจอคือฉีเจี้ยนเย่ ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดา”ฟู่จิ่นซิ่วกล่าวว่า “ยังม
เซี่ยหว่านกระตือรือร้นที่จะแสดงความสามารถของตัวเอง หลังจากได้ที่ดินแปลงนี้มา ก็ทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่โครงการนี้ เงินทุนที่ลงทุนจำนวนมหาศาล ตราบใดที่การก่อสร้างที่นี่เสร็จสิ้น เมื่อรถไฟใต้ดินเปิดให้บริการ โครงการนี้จะนำผลกำไรมหาศาลมาสู่เธอตำแหน่งของเธอในตระกูลเซี่ยจะยิ่งมั่นคงมากขึ้นเซี่ยซือซือฟังแผนของหลินเซียง ดวงตาก็ฉายแววเป็นประกาย “สมแล้วที่เป็นคุณผู้หญิงลู่”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย “ถ้าคนไม่ทำร้ายฉันก่อน ฉันก็ไม่ทำร้ายใคร แต่ถ้าใครทำร้ายฉัน ฉันจะเอาคืนเป็นร้อยเท่า”เซี่ยซือซือ “ในเมื่อคุณตรงไปตรงมา ฉันก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เรื่องพวกนี้ยกให้ฉันจัดการได้เลย”เธอมือชี้ไปที่เนื้อหาบางส่วนในเอกสารหลินเซียงพยักหน้า “ดีค่ะ”ห้องส่วนตัวข้าง ๆฟู่จิ่นซิ่วเดินเข้ามา พลางจ้องมองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “ทายสิว่าฉันเจอใคร?”ลู่สือเยี่ยนพลิกดูข้อมูลในมือ สีหน้าเย็นชา “ใคร?”ฟู่จิ่นซิ่ว “ให้ทายไง”ลู่สือเยี่ยน “ไม่พูดก็หุบปากไป”ฟู่จิ่นซิ่วอุทาน “นายนี่น่าเบื่อไปหน่อยนะ ฉันเจอหลินเซียงแล้ว เธออยู่ห้องข้าง ๆ”เมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็วางเอกสารในมือลงทันทีเมื่อเห็นดังนั
เขาสวมชุดกีฬาสีเทา บริเวณหน้าอกเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผมสั้นแข็งกระด้างเปียกโชกไปหมด ดวงตาคมกริบยังคงเฉียบคมเช่นเดิมหลินเซียงมองเขาแวบเดียวก่อนจะละสายตา เดินเข้าไปในห้องอาหารและเริ่มกินข้าวทันทีลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้งเมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนมีสาวสวยอยู่ในอ้อมกอด แต่เขาทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าทำขึ้นมา เธอคงจะโกรธทันทีทุกวันนี้ เธอเปลี่ยนท่าทีเร็วเสียยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสืออีก!ถึงอย่างไรก็พาคนกลับมาได้แล้ว เขาต้องค่อยเป็นค่อยไปสักวันหนึ่ง เธอจะกลับมาสู่อ้อมกอดของเขาเอง!ลู่สือเยี่ยนเบนสายตาไปอีกทาง ก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำพอหลินเซียงใกล้จะกินข้าวเสร็จ ลู่สือเยี่ยนก็ลงมาแล้ว เขาอยู่ในชุดสูทสีเทาเงินที่เรียบหรูสง่างาม แผ่กลิ่นอายเยือกเย็นและน่าเกรงขาม ขณะเดินมาทางนี้ มือก็จัดปลายแขนเสื้อไปด้วยหลินเซียงมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะถามว่า “คุณมีรถที่ดูธรรมดากว่านี้ไหม?”ลู่สือเยี่ยนดึงเก้าอี้ออกมานั่ง และถามว่า “ธรรมดาแค่ไหน?”หลินเซียง “รถราคาไม่เกินห้าแสน”เมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หัวเราะเบา ๆ “นั่นเรียกว่ารถด้วยเหรอ?”หลินเซียง “…”แน่ล่ะสิพอมีเงินก็เห็นรถราคาถูกเป็นรถ
กลับมาถึงห้องนอนหลินเซียงปิดประตูและถอนหายใจ รู้สึกว่าลู่สือเยี่ยนเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ มากขึ้นอย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงของเขา เธอไม่สนใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดของเธอตอนนี้คือการวางแผนเรื่องหลังจากนี้หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอนอนบนเตียงและมองที่โทรศัพท์ จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำในขั้นตอนถัดไปครู่หนึ่ง เธอก็ปิดไฟนอนเพียงแต่ว่าในช่วงดึก ประตูห้องนอนถูกเปิดออก ในความมืด ร่างสูงใหญ่ของลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาเมื่อหลินเซียงเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “เข้ามาทำไม?”ลู่สือเยี่ยน “นี่ห้องนอนผม ผมไม่มาที่นี่ แล้วจะให้ไปที่ไหน?”เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเซียงก็ลุกขึ้นและพูดว่า “ถ้าคุณอยู่ในห้องนี้ ฉันจะไปนอนห้องอื่น”ข้อมือของเธอถูกชายหนุ่มจับไว้ “หลินเซียง รู้ไหมว่าอะไรเรียกว่าการแสดง? ผมไม่แน่ใจเลยว่าแม้แต่ในวิลล่าหลังนี้มีคนของเขาแฝงตัวอยู่หรือเปล่า ยิ่งไม่แน่ใจว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิดไหม ถ้าคุณออกไปแบบนี้ แล้วถูกคนจับได้ล่ะ?”ในความมืด หลินเซียงมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา แต่มองไม่เห็นแววตา น้ำเสียงของเธอกลับเย็นชา “ที่นี่คือบ้านของคุณ ดินแดนของคุณ ถ้าแม้แต่สิ่งเห
หลินเซียงเปลี่ยนรองเท้าและเดินเข้ามา สายตาเย็นชาของชายหนุ่มจับจ้องมาที่เธอทันทีเธอไม่พูดอะไร เดินไปดื่มน้ำก่อนด้านหลังมีเสียงฝีเท้าดังตามมาหลินเซียงเพิ่งวางแก้วลงบนโต๊ะ ไหล่ถูกจับไว้แน่น ลู่สือเยี่ยนหันเธอกลับมาโดยตรงร่างสูงใหญ่ของเขาทาบทับเธอ ดวงตาเรียวคมจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ถามเสียงต่ำว่า “สิ่งที่คุณพูดก่อนหน้านี้ หมายความว่ายังไง?”หลินเซียงผลักมือของเขาออก เดินห่างจากเขา รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย เพราะไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้เหมาะสมกับความใกล้ชิดแบบนั้นเธอพูดอย่างเฉยเมย “การเปิดเผยในตอนนี้ไม่เป็นผลดีต่อแผนการของฉัน”ลู่สือเยี่ยนไม่พอใจกับการหลบเลี่ยงของเธอ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด คิ้วเข้มก็เลิกขึ้น และถามว่า “แผนอะไร?”หลินเซียง “ความลับ”ลู่สือเยี่ยนกล่าวว่า “ถ้าคุณไม่ให้เหตุผลมาโน้มน้าว ทำไมผมต้องรับเงื่อนไขของคุณด้วย?”หลินเซียงยืนอยู่บนบันได มือข้างหนึ่งจับราวบันได ขณะหันไปมองเขา น้ำเสียงสงบนิ่ง “ถ้าคุณไม่ตกลงก็ได้ งั้นฉันก็ไม่ตกลงกับคุณเหมือนกัน”ท่าทีเย็นชา พูดจบก็ขึ้นบันไดไปลู่สือเยี่ยน “…”สีหน้าของเขาเย็นยะเยือกขึ้นทันทีผู้หญิงคนนี้กล้ามาก!กล้าขู่
ฟู่จิ่นซิ่วมองเขา “อย่าแก้ตัวสิ นายแค่ยังไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง รอให้นายรู้ตัวซะก่อน คราวนี้นายก็จะขาดเธอไม่ได้อีก เธอสั่งซ้ายนายก็ไม่กล้าไปขวา”ลู่สือเยี่ยนทำหน้าไม่เชื่อฟู่จิ่นซิ่วเปลี่ยนเรื่องพูด “เรื่องครั้งนี้ นายคิดว่าไง?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเฉยเมย “ปล่อยให้เธอจัดการเอง”ฟู่จิ่นซิ่วประหลาดใจ “เธอทำได้เหรอ?”ลู่สือเยี่ยน “ได้หรือไม่ได้ก็ต้องดู ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ยังมีฉันคอยหนุนหลัง”ฟู่จิ่นซิ่วพยักหน้า “ก็ได้ พวกนายสองคนเริ่มเหมือนกันมากขึ้นทุกที”ลู่สือเยี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง และถามว่า “มีอะไรอีกไหม?”ฟู่จิ่นซิ่วหยิบซองจดหมายออกมาวางตรงหน้าลู่สือเยี่ยน “ข้อมูลที่สืบมาได้ช่วงนี้ ลองดูสิ”ลู่สือเยี่ยนเปิดซองจดหมายก็เห็นภาพถ่าย เป็นภาพของอวิ๋นหลานและชายคนหนึ่งชายคนนั้นสวมหมวกและหน้ากาก ทำให้มองไม่เห็นใบหน้า ภาพถ่ายค่อนข้างเบลอ แต่สามารถบอกได้ว่าเพิ่งถ่ายไม่นานช่วงนี้อวิ๋นหลานนัดเจอกับชายคนนี้บ่อยเขาเป็นใคร?ลู่สือเยี่ยนมองฟู่จิ่นซิ่ว “สืบประวัติคนคนนี้ได้หรือเปล่า?”ฟู่จิ่นซิ่วกล่าวว่า “เขามีความสามารถในการต่อต้านการตามสืบที่ดีมาก ทุกครั้งที่ฉันส่งคนไปจับตาดูเขา เขาจะหล
ใครจะต้านทานการออดอ้อนของสาวงามได้?อย่างไรก็ตาม หลินเซียงทำไม่ได้ภายใต้การโจมตีด้วยความงามของซืออวี่ หลินเซียงยอมจำนน “ไปก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ฉันต้องเคลียร์งานก่อนนะ เจ้าของกิจการแบบคุณไม่ต้องกังวลเรื่องกินเรื่องใช้ แต่พนักงานอย่างฉันยังต้องทำงานหาเงินกินข้าวนะ!”ซืออวี่ยิ้ม “โอเค งั้นเธอทำงานไปเถอะ ฉันไม่รบกวนแล้ว”“ค่ะ ๆ!”ซืออวี่หันหลังกลับไป ตอนจะปิดประตูก็ยังมองหลินเซียงแวบหนึ่ง เห็นว่าเธออยู่ในสภาพที่ดี จิตใจเบิกบาน ก็รู้สึกโล่งใจเยี่ยม!เธอทำสำเร็จอีกแล้ว!ขออั่งเปาจากหัวหน้าได้แล้ว!…หลินเซียงพลิกดูข้อมูลของตระกูลเซี่ย ในอวิ๋นเฉิง เมืองที่เต็มไปด้วยตระกูลร่ำรวย ตระกูลเซี่ยถือว่าไม่สูงส่งมากมาย แต่ก็อยู่ระดับกลางธุรกิจหลักคืออสังหาริมทรัพย์ ตระกูลเซี่ยมีลูกชายสองคน ลูกสาวสองคน เซี่ยหว่านเป็นหนึ่งในนั้นเนื่องจากความสัมพันธ์กับลู่สือเยี่ยนในช่วงสองปีที่ผ่านมา สถานะของเซี่ยหว่านในตระกูลเซี่ยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลเซี่ยอย่างเซี่ยซือซือ มีชีวิตที่ยากลำบากเซี่ยหว่านอยู่ในตระกูลเซี่ย ทำตัววางอำนาจ รังแกเซี่ยซือซืออยู่เสมอทำราวกับว่าตัวเองเป็นลู
สายตาเย็นเยียบของลู่สือเยี่ยนจับจ้องไปที่เธอ ราวกับจะมองทะลุโทรศัพท์ของเธอไปมองฉินโหย่วหานสายตาที่แฝงไปด้วยแรงกดดันของเขา ทำให้หลินเซียงรู้สึกไม่สบายใจ เธอเหลือบมองเขาอย่างไม่พอใจแค่รับโทรศัพท์ก็ไม่ได้หรือไง?ลู่สือเยี่ยน “…”เขากำตะเกียบในมือแน่น ราวกับบีบคอของหลินเซียง!เสียงของฉินโหย่วหานดังมาจากปลายสาย “หลินเซียง ซ่งซ่งเป็นอะไรไป? เมื่อกี้ผมติดต่อเธอ อารมณ์ของเธอดูไม่ดีเลย”หลินเซียงหายใจติดขัด จากนั้นก็พูดว่า “ฉันทำให้เธอโกรธค่ะ แต่เดี๋ยวฉันค่อยไปง้อเอง”ฉินโหย่วหานตอบรับ จากนั้นก็ถามว่า “แล้วคุณเป็นไงบ้าง?”หลินเซียงอึ้ง “อะไรนะ?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “บาดเจ็บหรือเปล่า? จริง ๆ แล้วเมื่อวาน ผมก็ไปที่นั่นเหมือนกัน แต่ช้าไปก้าวหนึ่ง”เมื่อเขาพูดจบก็หัวเราะเยาะตัวเองหลินเซียงไม่คิดว่าเขาจะไปด้วย ในดวงตาปรากฏความซาบซึ้ง “ขอบคุณค่ะ ฉันไม่เป็นอะไรมาก ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย”ฉินโหย่วหาน “อืม ก็ดีแล้ว”บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะหลินเซียงกำลังคิดว่าจะวางสายหรือไม่ ฉินโหย่วหานก็ถามขึ้นว่า “หลินเซียง คุณ กับลู่สือเยี่ยน…”ขนตายาวของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย และพูดว่า “พี่ห