ตอนนั้นโทรศัพท์ของลู่สือเยี่ยนก็สั่นขึ้นมา เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นวิดีโอจากกล้องวงจรปิดซืออวี่หาคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดตอนเกิดเหตุได้แล้วลู่สือเยี่ยนเปิดดู พบว่าเป็นอย่างที่หลินเซียงพูด มีคนผลักรถเข็นของคุณย่าลู่จริงแต่เพราะมุมกล้อง เลยไม่เห็นว่าใครเป็นคนผลักรถเข็นรถเข็นไหลลงเนิน ถูกคนใช้ที่สวมหน้ากากอนามัยพุ่งเข้ามาหยุดไว้ คนใช้คนนั้นก้มหัวลง เห็นแค่ว่าเป็นผู้ชาย รูปร่างสูงใหญ่ แต่ไม่เห็นหน้าลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วเขาพิมพ์ข้อความแล้วส่งออกไปเขาเงยหน้าขึ้นมองหลินเซียง และถามว่า “เหนื่อยไหม?”หลินเซียงกัดริมฝีปากพูดว่า “ฉันอยากออกไปจากที่นี่”แต่ลู่สือเยี่ยนพูดว่า “เรื่องยังไม่จบ คุณออกไปไม่ได้”หลินเซียงมองเขา ขมวดคิ้วพูดว่า “หมายความว่ายังไง? คุณไม่เชื่อฉันเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนเห็นว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ จึงพูดว่า “ผมเชื่อคุณ แต่เรื่องยังหาที่ลงไม่ได้ ต้องเห็นผลลัพธ์ก่อนค่อยออกไป”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่สบายใจแต่พอคิดดู เขาคงไม่เชื่อเธอหรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมหย่าหลินเซียงรู้สึกเหนื่อยใจเวลาผ่านไปทีละน้อย แขกทยอยกันกลับ บ้านเก่าตระกูลลู่ก็เงียบสงบลงลู่เจิ้งหรงส่งแ
แรงที่มือของเขากำแน่นขึ้น หลินเซียงรู้สึกเจ็บ ขมวดคิ้วมองลู่สือเยี่ยน สายตาถามว่าทำไมดวงตาเรียวเล็กของลู่สือเยี่ยนเย็นชาลง พูดเสียงเรียบว่า “ผมขอแนะนำให้คุณอย่าคิดแบบนั้น ถ้าคุณทำร้ายคุณย่าเพื่อให้หย่าได้ง่ายขึ้น ผมไม่เพียงแต่จะไม่หย่ากับคุณ แต่ในทะเบียนบ้านของผม ก็จะมีคำว่า ‘โสด’ อยู่บนนั้นด้วย”หลินเซียง “…”พูดไม่ออกเลย!ทำไมเขาถึงรู้นะว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่?ผู้ชายคนนี้มีพลังจิตหรือเปล่า?ลู่สือเยี่ยนราวกับมองทะลุความคิดของเธอ พูดเรียบเฉยว่า “ความคิดที่อยากจะหย่าของคุณ เขียนอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา คิดว่าผมตาบอดมองไม่เห็นเหรอ?”หลินเซียง “…”เสียงของทั้งสองคนเบามาก ลู่สือเยี่ยนอยู่ใกล้ชิดหลินเซียง สำหรับคนนอก เหมือนว่าทั้งสองคนกำลังคุยเล่นหยอกล้อกันอยู่ลู่เจิ้งหรงเห็นฉากนี้ โกรธจนความดันโลหิตสูงขึ้น ตบโต๊ะเสียงดัง “ลู่สือเยี่ยน แกฟังที่ฉันพูดหรือเปล่า?”ลู่สือเยี่ยนมองเขา “ฟังอยู่ แต่ไม่หย่า”ใบหน้าของลู่เจิ้งหรงแย่มาก “ผู้หญิงคนนี้หวังเงินของแก ใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แกก็จะอยู่กับเธองั้นเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ มองหลินเซียง “คุณหวังเงินผมเหรอ?”หลินเซ
ลู่สือเยี่ยนหยิบรีโมทมากดปุ่ม จากนั้นทีวีจอใหญ่ก็ค่อย ๆ ลดลงมาเป็นฉากเขาเปิดโทรศัพท์ทำการฉายภาพทันใดนั้น ทุกคนก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนมีคนผลักรถเข็นของคุณย่าลู่จริง หลินเซียงเห็นเหตุการณ์นี้จึงรีบวิ่งเข้ามา ภาพชัดเจนมากจนกระทั่งรถเข็นของคุณย่าลู่ถูกหยุดไว้ วิดีโอสั้นมาก แต่ก็บอกความจริงได้อย่างชัดเจนน้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนเย็นชาลง “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหลินเซียงเลย ส่วนใครเป็นคนผลักรถเข็นเพื่อใส่ร้ายเธอ ผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน หรือว่าจะออกมาสารภาพตอนนี้ ผมอาจจะไม่พูดอะไรมาก แต่ถ้าผมตรวจสอบเจอทีหลัง ห้องใต้ดินจะเป็นที่อยู่ของพวกคุณ”เสียงทุ้มต่ำและมีเสน่ห์ของเขาดังก้องอยู่ในห้องนั่งเล่น ทุกคนรู้สึกถึงความเย็นชาที่แผ่กระจายออกมา ทำให้ประสาทตึงเครียด!ลู่สือเยี่ยนมองลู่เจิ้งหรง “เห็นไหม? นี่ไงหลักฐาน”ใบหน้าของลู่เจิ้งหรงยิ่งแย่ลงเมื่อถูกตบหน้าต่อหน้าคนอื่น เขามองลู่สือเยี่ยนด้วยความรังเกียจมากขึ้นลู่สือเยี่ยนหัวเราะเยาะ แล้วก็มองไปยังคนใช้สองคนที่อยู่ข้างหลัง “พวกแกไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยตาตัวเอง ว่าหลินเซียงตั้งใจผลักรถเข็นหรอกเหรอ? เอาสิ พูดอีกที”คนใช้สองคนเห็นวิด
“เป็นเขาแน่ ๆ! จิ้นหนาน ฉันจำไม่ผิดแน่!”ลู่เจิ้งหรงจับมืออวิ๋นหลานด้วยความตื่นเต้น “จิ้นหนานยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ!”อวิ๋นหลานเอามือลูบหน้าอกเขาเบา ๆ พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เจิ้งหรง อย่าตื่นตูมไป ภาพนี้เบลอมาก เราต้องตรวจสอบให้ดี ถ้าเป็นจิ้นหนานจริง ๆ ก็ดี”ลู่เจิ้งหรงควบคุมอารมณ์ที่ตื่นเต้นไว้ไม่ได้ ดวงตาเป็นประกาย “ต้องเป็นจิ้นหนาน ฉันว่าฉันจำไม่ผิด”เขามองพ่อบ้าน และถามว่า “เอาข้อมูลพนักงานชั่วคราวที่จ้างเฉพาะวันนี้ทั้งหมดมา!”“ครับ!”พ่อบ้านพยักหน้า รู้สึกดีใจ!ถ้าคุณชายรองยังมีชีวิตอยู่ก็ถือเป็นข่าวดีมาก!ในตระกูลลู่ ไม่มีใครไม่ชอบคุณชายรอง!ไม่สิ ยกเว้นลู่สือเยี่ยน!ถึงแม้คุณชายรองจะรักและเอ็นดูน้องชายอย่างลู่สือเยี่ยนมาก แต่ลู่สือเยี่ยนก็ยังเกลียดลู่จิ้นหนาน ไม่ว่าลู่จิ้นหนานจะทำอะไร เขาก็จะต่อต้าน คัดค้านอยู่เสมอเหมือนกับตั้งใจจะขัดขวางเขา!บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเปลี่ยนจากตึงเครียดกลายเป็นคึกคักลู่สือเยี่ยนมองดูอย่างเย็นชา มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยหลินเซียงสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาอย่างรวดเร็วพูดเบา ๆ ว่า “พี่ชายคุณยังมีชีวิตอยู่ คุณไม่ดีใจเหรอ?”ลู่สือเยี่
เจ็บ!ความรู้สึกที่ปราศจากการเล้าโลม ทำให้หลินเซียงเจ็บมาก!ใบหน้าของเธอซีดเผือดทันที!เธอขัดขืนอย่างหนัก ไม่เอาแบบนี้!แต่ดวงตาของลู่สือเยี่ยนค่อย ๆ แดงก่ำขึ้น กดข้อมือเธอ จับเอวเธอยึดไว้ แล้วโยกสะโพกอย่างบ้าคลั่งหลินเซียงเจ็บจนตัวสั่น…น้ำตาของเธอไหลรินออกมา “ลู่สือเยี่ยน คุณมันเลว!”ลู่สือเยี่ยนก้มตัวลง เช็ดน้ำตาให้ แต่ท่าทางไม่มีความนุ่มนวลเลยสักนิดเหมือนกับเป็นคนละคนนานมาก…หลินเซียงร้องไห้จนตาบวม ลู่สือเยี่ยนถึงได้หยุด มองร่องรอยบนตัวเธอ โดยเฉพาะรอยนิ้วมือบนเอว ดวงตาของเขามืดมน ก่อนจะหันไปจุดบุหรี่หลินเซียงตัวสั่น หายใจหอบ เธอใช้เวลาพักอยู่นานกว่าจะลุกไปเข้าห้องน้ำแต่ตอนลุกขึ้นขาของเธอสั่นจนทรงตัวไม่ไหวลู่สือเยี่ยนจ้องมองอย่างเย็นชา รอจนเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถึงเห็นคราบเลือดบนผ้าปูที่นอนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำทันทีพอเปิดประตูก็เห็นหลินเซียงยืนอยู่ใต้ฝักบัว ใบหน้าซีดเซียวด้วยความเจ็บปวด“หลินเซียง!”ลู่สือเยี่ยนวิ่งเข้าไปกอดเธอ ร่างกายของเธออ่อนปวกเปียกสลบไปทันที!สีหน้าของลู่สือเยี่ยนตึงเครียด หัวใจเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขาร
หลินเซียงกัดริมฝีปากตัวเอง ดวงตาที่บวมแดงเต็มไปด้วยความโกรธ จ้องมองเขา กำผ้าปูที่นอนแน่น!ลู่สือเยี่ยนรู้สึกเจ็บแน่นหน่วงที่หน้าอก เขาถอดเสื้อโค้ตออก แล้วก้มตัวลงหลินเซียงยังคงขัดขืน แต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนหรือหลบหนีอย่างไร ลู่สือเยี่ยนก็ยังคงทำตามใจตัวเอง ความคิดของเธอไม่สำคัญเลย!คิดแบบนั้น หลินเซียงก็ยิ่งรู้สึกเศร้าใจ!เธอตกหลุมรักผู้ชายแบบไหนกันแน่?ยาถูกทาลงไปที่แผลฉีกขาด หลินเซียงเจ็บจนตัวสั่น สูดหายใจเข้าลึกริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากัน ทายาอย่างรวดเร็ว แล้วก็พูดว่า “ไม่โอเคต้องบอกผม”แต่หลินเซียงหันหน้าหนี ไม่ยอมมองเขาลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องน้ำแล้วล้างมือพอออกมา หลินเซียงก็ลุกขึ้นจากเตียง ตั้งท่าจะออกจากห้องนอน“จะไปไหน?”ลู่สือเยี่ยนเห็นดังนั้นจึงถามเสียงต่ำหลินเซียงหันหลังให้เขา พูดเสียงแหบพร่าว่า “ฉันจะไปนอนห้องอื่น ไม่อยากเจ็บตัวอีกแล้ว”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว อุ้มเธอวางลงบนเตียงอีกครั้ง เห็นเธอดิ้นเขาก็กดแขนเธอไว้ พูดเสียงต่ำว่า “ในสายตาคุณ ผมเป็นสัตว์เดรัจฉานขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงแม้คุณจะเจ็บก็ไม่สนใจ?”หลินเซียงหัวเราะเยาะ “ก็ยังรู้ตั
หลินเซียงขัดขืนอย่างหนัก “ลู่สือเยี่ยน ปล่อย!”แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอมลุก เขาไม่ได้บังคับให้เธอใช้มือ แค่กอดเธอเอาไว้ ลมหายใจหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆใบหน้าของหลินเซียงแดงก่ำ เสียงหายใจเบา ๆ ดังอยู่ข้างหู กระตุ้นประสาทสัมผัสของเธอเธอหันไปกัดไหล่เขาลู่สือเยี่ยนครางเบา ๆ แต่ลมหายใจยิ่งขาดห้วงมากขึ้นเรื่อย ๆนานมาก…เขาอุ้มเธอไปที่ห้องน้ำ มองดูร่องรอยบนชุดนอนของเธอ แสงในดวงตามืดมน แต่ใบหน้าหล่อเหลากลับเรียบเฉยหลินเซียงพูดเสียงเย็น “ฉันไม่ได้พิการ อาบเองได้”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอ แล้วก็หันหลังเดินออกไปตอนปิดประตู หลินเซียงก็ถอดชุดนอนออก โยนลงถังขยะเธออาบน้ำ สวมเสื้อคลุมอาบน้ำ พอเดินออกมาแล้วเห็นว่าลู่สือเยี่ยนไม่อยู่ในห้องนอน เธอก็โล่งใจเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจึงเดินลงไปชั้นล่าง พ่อบ้านพูดว่า “คุณผู้หญิง อาหารเช้าพร้อมแล้วครับ”“ค่ะ”หลินเซียงตอบรับ เดินไปที่ห้องอาหารเพื่อกินข้าวลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามา เห็นว่าเธอกินเสร็จแล้ว กำลังจะถือกระเป๋าออกไปลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว “ร่างกายคุณยังไม่หายเลย ไม่ต้องไปทำงานหรอก”แต่หลินเซียงพูดเสียงเรียบว่า “ฉันไม่ได้กระดูกหัก ไม่ได้ไข้ขึ้นสู
ลู่สือเยี่ยน ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นมีดีอะไรกัน?ไม่ชอบหลินเซียง แต่ก็ไม่ยอมหย่าซ่งซ่งทุกครั้งที่นึกถึงเขาแล้วต้องสบถออกมาทุกที น่าโมโห!…15 นาทีต่อมาหลินเซียงปรากฏตัวที่หน้าร้านอาหารซ่งซ่งรีบเดินไป พาเธอไปที่โต๊ะ ชี้ไปที่ผู้ชายที่กำลังเสิร์ฟอาหาร แล้วพูดว่า “ดูสิ เขาอยู่ตรงนั้น”หลินเซียงมองไปก็เห็นสวี่ซิงเย่สวมชุดพนักงานเสิร์ฟ กำลังเดินเสิร์ฟอาหารซ่งซ่งยกมือขึ้น “น้องคะ!”สวี่ซิงเย่ตอบรับโดยไม่รู้ตัว “ครับ?”พอหันไปมองก็เห็นสายตายิ้มแย้มเป็นประกายของหลินเซียงสวี่ซิงเย่อึ้ง แล้วยิ้มออกมา ก่อนจะเดินเข้ามาถามว่า “คุณหลิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”หลินเซียง “เพิ่งมาน่ะ ทำไมนายมาเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่นี่?”ดวงตาของสวี่ซิงเย่กะพริบปริบ และพูดว่า “ผมโดนไล่ออกน่ะ เลยมาสมัครที่นี่แทน”หลินเซียงได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น?”ทำไมถึงถูกไล่ออก?ซ่งซ่งหัวเราะเยาะ “ต้องเป็นฝีมือลู่สือเยี่ยนแน่! เรื่องแบบนี้มันเคยทำมาแล้ว!”หลินเซียงขมวดคิ้ว ใบหน้าเคร่งขรึมลู่สือเยี่ยนจงใจกลั่นแกล้งสวี่ซิงเย่?ทำไม?หรือว่าเพราะว่าเธอทำตัวสนิทสนมกับสวี่ซิงเย่?แต่สวี่ซิงเย่เป็นคน
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด
เสียงของคุณย่าลู่ดังขึ้น ทุกคนในห้องนั่งเล่นต่างก็ตกตะลึง!สีหน้าของลู่สือเยี่ยนตึงเครียดขึ้น เขาคุกเข่าครึ่งตัวอยู่ข้างหน้าคุณย่าลู่แล้วถามว่า “คุณย่าครับ ตอนนี้คุณย่าจำอะไรได้แล้วเหรอครับ?”คุณย่าลู่เอามือลูบหัวเขา “ย่าต้องจำได้อยู่แล้วสิ ย่ายังไม่แก่จนความจำเลอะเลือนซะหน่อย ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่าน แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่พาเธอมาด้วย?”ลู่สือเยี่ยนรู้สึกถึงความผิดปกติอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่หลินเซียงแล้วถามว่า “แล้วคุณย่าจำเธอได้ไหมครับ?”คุณย่าลู่มองตามนิ้วมือของเขาไป แล้วส่ายหัว “ไม่รู้จัก เธอเป็นใคร? คนใช้ใหม่ของบ้านเราเหรอ?”หลินเซียงได้ยินคำพูดของเธอ เหมือนกับถูกตบหน้าอย่างแรง ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณย่าลู่ความจำเสื่อม เธอมักจะคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนใช้ของบ้านตระกูลลู่ และยังดีกับหลินเซียงเป็นพิเศษแต่ตอนนี้กลับกัน!ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมจะพาคุณย่าไปโรงพยาบาลครับ”คุณย่าลู่ขมวดคิ้ว ใบหน้าที่แก่ชราเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “ไปโรงพยาบาลทำไม? ย่ารู้สึกว่าย่าสบายดีนะ”ลู่สือเยี่ยน “ตรวจร่างกายคุณย่านิดหน่อย เชื่อผมเถอะครับ”คุณย่าลู่ก็ยังไม่ค่อยเต็มใจ
หลังจากที่ลู่สือเยี่ยนพูดจบ เขาก็ไม่ได้วางสาย ได้ยินเสียงเขาเปิดประตูรถลงจากรถ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบหลินเซียงกำโทรศัพท์แน่น ยื่นมือไปกดปุ่มปิดประตูอีกครั้งครั้งนี้ประตูลิฟต์ปิดลง หัวใจที่สั่นไหวก็ค่อยผ่อนคลายลงอย่างเฉียบพลัน"ประตูลิฟต์ปิดแล้ว" หลินเซียงพูด ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าขาของตัวเองอ่อนแรงแค่ไหน!ลู่สือเยี่ยนพูดว่า "อย่าออกจากลิฟต์ก่อนถึงชั้นหนึ่งนะ""อืม"หลินเซียงตอบ ยังไม่วางสายโชคดีที่ลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่มีใครทำงานล่วงเวลาในตึกแล้วเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก หลินเซียงก็เห็นลู่สือเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตู เธอวิ่งออกไปทันที!ลู่สือเยี่ยนกอดเธอไว้พลางปลอบเบา ๆ "ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน"ด้วยกลิ่นอายที่สดชื่นของเขา หลินเซียงจึงผ่อนคลายลง ตามมาด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง!จมูกของเธอรู้สึกแสบร้อน น้ำตาเกือบไหล แต่เธอก็อดทนไว้!ลู่สือเยี่ยนประกองกอดเธอแล้วออกจากอาคารพอก้าวขึ้นรถ ความอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนทำให้ร่างกายที่เย็นเยือกเริ่มอุ่นขึ้นลู่สือเยี่ยนจับมือเธอ ถามว่า "คุณเห็นใครหรือเปล่า?"หลินเซียงส่ายหัว "ไม่มีนะ"แล้วถา
หลินเซียงรู้สึกใจสั่นระรัวเสียงน้ำไหลในห้องน้ำดังขึ้น หลินเซียงจึงโล่งใจเล็กน้อยเธอค่อย ๆ ผ่อนคลายและกอดตัวเองขณะกำลังจะหลับ เตียงข้าง ๆ ก็ยุบลงไป ร่างกายของลู่สือเยี่ยนที่ยังเปียกชื้นจากน้ำ เข้ามากอดเธอแน่น หลินเซียงไม่ขยับหรือดิ้นรน ลู่สือเยี่ยนจูบที่ไหล่เธอเบา ๆ "ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก"ขนตาของหลินเซียงกระตุกเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ตอบสนองอะไร…วันรุ่งขึ้น หลินเซียงไปทำงานก็พบว่าสวี่ซิงเย่มาถึงแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ดูสดใสและมีเสน่ห์ เป็นหนุ่มน้อยที่สดใสสวี่ซินหรานกำลังคุยกับเขาอยู่และสวี่ซิงเย่ก็ตอบด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นเธอมาถึง สวี่ซิงเย่รีบลุกขึ้นยืนและเดินมาหาเธอ "คุณหลิน อรุณสวัสดิ์ครับ!"หลินเซียงยิ้มบาง "ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว นายเรียกฉันว่าหลินเซียงก็ได้"สวี่ซิงเย่เกาจมูกด้วยความเขินอายเล็กน้อย "หลินเซียง""อืม อรุณสวัสดิ์ค่ะ" หลินเซียงพยักหน้าเล็กน้อยสวี่ซินหรานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ถ้าไม่รู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว ฉันนึกว่าพวกเธอเป็นแฟนกันซะอีก"เมื่อได้ยินแบบนั้น สวี่ซิงเย่ขมวดคิ้ว พูดว่า "อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ผมกั
“ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรมากไหม?”หลินเซียงรู้สึกงงกับเขา!เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เขากลับจะยัดเยียดให้เธอไปเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่น?เขาเป็นบ้าหรือเปล่า?ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “หลินเซียง ห้ามรับของจากผู้ชายคนอื่น และห้ามชอบผู้ชายคนอื่นด้วย ถ้าผมรู้ คุณอาจไม่ตาย แต่ผู้ชายคนนั้นต้องตายแน่!”เขาเตือนอย่างจริงจังด้วยความเคร่งขรึม ดวงตาของเขาแสดงความต้องการครอบครองเธออย่างไม่มีปิดบังหลินเซียงกัดริมฝีปาก มองเขาด้วยสายตาซับซ้อนถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาแสดงออกแบบนี้เธอคงดีใจมาก!แต่หลังจากผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาแล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอกลับไม่รู้สึกอะไร!เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้ฉันไปอาบน้ำได้แล้วใช่ไหม? ทำงานมาทั้งวัน เหนื่อยมากจริง ๆ”ลู่สือเยี่ยนมองเธออีกสักพัก แล้วปล่อยเธอไปหลินเซียงเดินไปที่ห้องน้ำลู่สือเยี่ยนเรียกคนใช้มาเก็บเค้กเมื่อหลินเซียงออกมา เธอก็เห็นเขานั่งอยู่บนโซฟา บนโต๊ะมีขี้ผึ้งวางอยู่“ทายา”เมื่อเห็นเธอหันมามอง เขาพูดเสียงต่ำหลินเซียงกัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันทาเองได้”พูดจบ เธอก็เดินไปหยิบขี้ผึ้งแต่ลู่สือเยี่ยนมือไวกว่