ลู่สือเยี่ยนหยิบรีโมทมากดปุ่ม จากนั้นทีวีจอใหญ่ก็ค่อย ๆ ลดลงมาเป็นฉากเขาเปิดโทรศัพท์ทำการฉายภาพทันใดนั้น ทุกคนก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนมีคนผลักรถเข็นของคุณย่าลู่จริง หลินเซียงเห็นเหตุการณ์นี้จึงรีบวิ่งเข้ามา ภาพชัดเจนมากจนกระทั่งรถเข็นของคุณย่าลู่ถูกหยุดไว้ วิดีโอสั้นมาก แต่ก็บอกความจริงได้อย่างชัดเจนน้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนเย็นชาลง “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหลินเซียงเลย ส่วนใครเป็นคนผลักรถเข็นเพื่อใส่ร้ายเธอ ผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน หรือว่าจะออกมาสารภาพตอนนี้ ผมอาจจะไม่พูดอะไรมาก แต่ถ้าผมตรวจสอบเจอทีหลัง ห้องใต้ดินจะเป็นที่อยู่ของพวกคุณ”เสียงทุ้มต่ำและมีเสน่ห์ของเขาดังก้องอยู่ในห้องนั่งเล่น ทุกคนรู้สึกถึงความเย็นชาที่แผ่กระจายออกมา ทำให้ประสาทตึงเครียด!ลู่สือเยี่ยนมองลู่เจิ้งหรง “เห็นไหม? นี่ไงหลักฐาน”ใบหน้าของลู่เจิ้งหรงยิ่งแย่ลงเมื่อถูกตบหน้าต่อหน้าคนอื่น เขามองลู่สือเยี่ยนด้วยความรังเกียจมากขึ้นลู่สือเยี่ยนหัวเราะเยาะ แล้วก็มองไปยังคนใช้สองคนที่อยู่ข้างหลัง “พวกแกไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยตาตัวเอง ว่าหลินเซียงตั้งใจผลักรถเข็นหรอกเหรอ? เอาสิ พูดอีกที”คนใช้สองคนเห็นวิด
“เป็นเขาแน่ ๆ! จิ้นหนาน ฉันจำไม่ผิดแน่!”ลู่เจิ้งหรงจับมืออวิ๋นหลานด้วยความตื่นเต้น “จิ้นหนานยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ!”อวิ๋นหลานเอามือลูบหน้าอกเขาเบา ๆ พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เจิ้งหรง อย่าตื่นตูมไป ภาพนี้เบลอมาก เราต้องตรวจสอบให้ดี ถ้าเป็นจิ้นหนานจริง ๆ ก็ดี”ลู่เจิ้งหรงควบคุมอารมณ์ที่ตื่นเต้นไว้ไม่ได้ ดวงตาเป็นประกาย “ต้องเป็นจิ้นหนาน ฉันว่าฉันจำไม่ผิด”เขามองพ่อบ้าน และถามว่า “เอาข้อมูลพนักงานชั่วคราวที่จ้างเฉพาะวันนี้ทั้งหมดมา!”“ครับ!”พ่อบ้านพยักหน้า รู้สึกดีใจ!ถ้าคุณชายรองยังมีชีวิตอยู่ก็ถือเป็นข่าวดีมาก!ในตระกูลลู่ ไม่มีใครไม่ชอบคุณชายรอง!ไม่สิ ยกเว้นลู่สือเยี่ยน!ถึงแม้คุณชายรองจะรักและเอ็นดูน้องชายอย่างลู่สือเยี่ยนมาก แต่ลู่สือเยี่ยนก็ยังเกลียดลู่จิ้นหนาน ไม่ว่าลู่จิ้นหนานจะทำอะไร เขาก็จะต่อต้าน คัดค้านอยู่เสมอเหมือนกับตั้งใจจะขัดขวางเขา!บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเปลี่ยนจากตึงเครียดกลายเป็นคึกคักลู่สือเยี่ยนมองดูอย่างเย็นชา มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยหลินเซียงสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาอย่างรวดเร็วพูดเบา ๆ ว่า “พี่ชายคุณยังมีชีวิตอยู่ คุณไม่ดีใจเหรอ?”ลู่สือเยี่
เจ็บ!ความรู้สึกที่ปราศจากการเล้าโลม ทำให้หลินเซียงเจ็บมาก!ใบหน้าของเธอซีดเผือดทันที!เธอขัดขืนอย่างหนัก ไม่เอาแบบนี้!แต่ดวงตาของลู่สือเยี่ยนค่อย ๆ แดงก่ำขึ้น กดข้อมือเธอ จับเอวเธอยึดไว้ แล้วโยกสะโพกอย่างบ้าคลั่งหลินเซียงเจ็บจนตัวสั่น…น้ำตาของเธอไหลรินออกมา “ลู่สือเยี่ยน คุณมันเลว!”ลู่สือเยี่ยนก้มตัวลง เช็ดน้ำตาให้ แต่ท่าทางไม่มีความนุ่มนวลเลยสักนิดเหมือนกับเป็นคนละคนนานมาก…หลินเซียงร้องไห้จนตาบวม ลู่สือเยี่ยนถึงได้หยุด มองร่องรอยบนตัวเธอ โดยเฉพาะรอยนิ้วมือบนเอว ดวงตาของเขามืดมน ก่อนจะหันไปจุดบุหรี่หลินเซียงตัวสั่น หายใจหอบ เธอใช้เวลาพักอยู่นานกว่าจะลุกไปเข้าห้องน้ำแต่ตอนลุกขึ้นขาของเธอสั่นจนทรงตัวไม่ไหวลู่สือเยี่ยนจ้องมองอย่างเย็นชา รอจนเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถึงเห็นคราบเลือดบนผ้าปูที่นอนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำทันทีพอเปิดประตูก็เห็นหลินเซียงยืนอยู่ใต้ฝักบัว ใบหน้าซีดเซียวด้วยความเจ็บปวด“หลินเซียง!”ลู่สือเยี่ยนวิ่งเข้าไปกอดเธอ ร่างกายของเธออ่อนปวกเปียกสลบไปทันที!สีหน้าของลู่สือเยี่ยนตึงเครียด หัวใจเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขาร
หลินเซียงกัดริมฝีปากตัวเอง ดวงตาที่บวมแดงเต็มไปด้วยความโกรธ จ้องมองเขา กำผ้าปูที่นอนแน่น!ลู่สือเยี่ยนรู้สึกเจ็บแน่นหน่วงที่หน้าอก เขาถอดเสื้อโค้ตออก แล้วก้มตัวลงหลินเซียงยังคงขัดขืน แต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนหรือหลบหนีอย่างไร ลู่สือเยี่ยนก็ยังคงทำตามใจตัวเอง ความคิดของเธอไม่สำคัญเลย!คิดแบบนั้น หลินเซียงก็ยิ่งรู้สึกเศร้าใจ!เธอตกหลุมรักผู้ชายแบบไหนกันแน่?ยาถูกทาลงไปที่แผลฉีกขาด หลินเซียงเจ็บจนตัวสั่น สูดหายใจเข้าลึกริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากัน ทายาอย่างรวดเร็ว แล้วก็พูดว่า “ไม่โอเคต้องบอกผม”แต่หลินเซียงหันหน้าหนี ไม่ยอมมองเขาลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องน้ำแล้วล้างมือพอออกมา หลินเซียงก็ลุกขึ้นจากเตียง ตั้งท่าจะออกจากห้องนอน“จะไปไหน?”ลู่สือเยี่ยนเห็นดังนั้นจึงถามเสียงต่ำหลินเซียงหันหลังให้เขา พูดเสียงแหบพร่าว่า “ฉันจะไปนอนห้องอื่น ไม่อยากเจ็บตัวอีกแล้ว”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว อุ้มเธอวางลงบนเตียงอีกครั้ง เห็นเธอดิ้นเขาก็กดแขนเธอไว้ พูดเสียงต่ำว่า “ในสายตาคุณ ผมเป็นสัตว์เดรัจฉานขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงแม้คุณจะเจ็บก็ไม่สนใจ?”หลินเซียงหัวเราะเยาะ “ก็ยังรู้ตั
หลินเซียงขัดขืนอย่างหนัก “ลู่สือเยี่ยน ปล่อย!”แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอมลุก เขาไม่ได้บังคับให้เธอใช้มือ แค่กอดเธอเอาไว้ ลมหายใจหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆใบหน้าของหลินเซียงแดงก่ำ เสียงหายใจเบา ๆ ดังอยู่ข้างหู กระตุ้นประสาทสัมผัสของเธอเธอหันไปกัดไหล่เขาลู่สือเยี่ยนครางเบา ๆ แต่ลมหายใจยิ่งขาดห้วงมากขึ้นเรื่อย ๆนานมาก…เขาอุ้มเธอไปที่ห้องน้ำ มองดูร่องรอยบนชุดนอนของเธอ แสงในดวงตามืดมน แต่ใบหน้าหล่อเหลากลับเรียบเฉยหลินเซียงพูดเสียงเย็น “ฉันไม่ได้พิการ อาบเองได้”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอ แล้วก็หันหลังเดินออกไปตอนปิดประตู หลินเซียงก็ถอดชุดนอนออก โยนลงถังขยะเธออาบน้ำ สวมเสื้อคลุมอาบน้ำ พอเดินออกมาแล้วเห็นว่าลู่สือเยี่ยนไม่อยู่ในห้องนอน เธอก็โล่งใจเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจึงเดินลงไปชั้นล่าง พ่อบ้านพูดว่า “คุณผู้หญิง อาหารเช้าพร้อมแล้วครับ”“ค่ะ”หลินเซียงตอบรับ เดินไปที่ห้องอาหารเพื่อกินข้าวลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามา เห็นว่าเธอกินเสร็จแล้ว กำลังจะถือกระเป๋าออกไปลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว “ร่างกายคุณยังไม่หายเลย ไม่ต้องไปทำงานหรอก”แต่หลินเซียงพูดเสียงเรียบว่า “ฉันไม่ได้กระดูกหัก ไม่ได้ไข้ขึ้นสู
ลู่สือเยี่ยน ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นมีดีอะไรกัน?ไม่ชอบหลินเซียง แต่ก็ไม่ยอมหย่าซ่งซ่งทุกครั้งที่นึกถึงเขาแล้วต้องสบถออกมาทุกที น่าโมโห!…15 นาทีต่อมาหลินเซียงปรากฏตัวที่หน้าร้านอาหารซ่งซ่งรีบเดินไป พาเธอไปที่โต๊ะ ชี้ไปที่ผู้ชายที่กำลังเสิร์ฟอาหาร แล้วพูดว่า “ดูสิ เขาอยู่ตรงนั้น”หลินเซียงมองไปก็เห็นสวี่ซิงเย่สวมชุดพนักงานเสิร์ฟ กำลังเดินเสิร์ฟอาหารซ่งซ่งยกมือขึ้น “น้องคะ!”สวี่ซิงเย่ตอบรับโดยไม่รู้ตัว “ครับ?”พอหันไปมองก็เห็นสายตายิ้มแย้มเป็นประกายของหลินเซียงสวี่ซิงเย่อึ้ง แล้วยิ้มออกมา ก่อนจะเดินเข้ามาถามว่า “คุณหลิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”หลินเซียง “เพิ่งมาน่ะ ทำไมนายมาเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่นี่?”ดวงตาของสวี่ซิงเย่กะพริบปริบ และพูดว่า “ผมโดนไล่ออกน่ะ เลยมาสมัครที่นี่แทน”หลินเซียงได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น?”ทำไมถึงถูกไล่ออก?ซ่งซ่งหัวเราะเยาะ “ต้องเป็นฝีมือลู่สือเยี่ยนแน่! เรื่องแบบนี้มันเคยทำมาแล้ว!”หลินเซียงขมวดคิ้ว ใบหน้าเคร่งขรึมลู่สือเยี่ยนจงใจกลั่นแกล้งสวี่ซิงเย่?ทำไม?หรือว่าเพราะว่าเธอทำตัวสนิทสนมกับสวี่ซิงเย่?แต่สวี่ซิงเย่เป็นคน
สวี่ซิงเย่ได้เริ่มงานพรุ่งนี้ก่อนกลับ หลินเซียงออกไปส่งเขาที่ลิฟต์ เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ขอแสดงความยินดีด้วย!”สวี่ซิงเย่ยิ้มเขินอาย “ต้องขอบคุณคุณด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมคงไม่ตัดสินใจทำอาชีพที่ชอบต่อ”หลินเซียงพูดว่า “ฉันแค่ให้โอกาสนายเลือก ผลจะเป็นยังไง ขึ้นอยู่ที่การเลือกของนายเอง ไม่ต้องขอบคุณฉัน”สวี่ซิงเย่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ผมขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อนได้ไหมครับ? ต่อไปเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน มีอะไรผมก็จะได้ติดต่อคุณได้ง่ายขึ้น”“ได้สิ”หลินเซียงพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้เขาสแกนคิวอาร์โค้ดทั้งสองคนเพิ่มเพื่อนกันเสร็จ ลิฟต์ก็มาถึงพอดี สวี่ซิงเย่เดินเข้าไป แล้วโบกมือลาเธอหลินเซียงกลับไปที่ออฟฟิศ ซืออวี่ยืนพิงอยู่ที่โต๊ะทำงานของเธอ มองเธออย่างขบขัน “เป็นไงบ้าง?”หลินเซียงมองเธออย่างสงสัย “เป็นไงอะไรคะ?”ซืออวี่พยักพเยิดคางไปทางประตู แสดงว่าหมายถึงสวี่ซิงเย่ “เธอกับเขา…?”หลินเซียงยิ้มอย่างหมดหนทาง “คุณคิดมากไปแล้ว เขาเป็นแค่เพื่อนน่ะค่ะ”ซืออวี่โล่งใจเล็กน้อย แล้วก็พูดว่า “พรสวรรค์ของเขาดีเลย ในเมื่อเป็นเพื่อนเธอ งั้นเธอก็รับผิดชอบดูแลเขาด้วยแล้วกันนะ”หลินเซียงพยักหน้า
หลินเซียงตกใจ เค้กชิ้นเล็กในมือหล่นลงบนพรมนุ่ม ๆ“ทำอะไร?”ร่างกายของเธอตึงเครียดขึ้นทันทีที่เขาเข้ามาใกล้ เธอรู้สึกเจ็บปวด! เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเธอมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเขาอย่างรุนแรง!ห้องนอนมืดมิด มองไม่เห็นหน้ากันและกันแต่หลินเซียงรู้สึกได้ถึงสายตาที่มืดมนของลู่สือเยี่ยนที่จ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา ลมหายใจร้อนผ่าวพัดมาที่ใบหน้าของเธอ อารมณ์ที่แข็งกร้าวปกคลุมอยู่หลินเซียงไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยความรู้สึกที่ถูกเขาควบคุมอย่างสมบูรณ์ ไม่มีช่องว่างให้หายใจ เธอรู้สึกอึดอัดอย่างมาก!“ลู่สือเยี่ยน ดึกดื่นขนาดนี้คุณเป็นบ้าอะไรอีก?” หลินเซียงถามอีกครั้งเมื่อเห็นเขาไม่พูดอะไรจู่ ๆ ลู่สือเยี่ยนก็จูบลงมาลมหายใจร้อน ๆ ปะปนกลิ่นบุหรี่ ครอบงำประสาทสัมผัสของหลินเซียงอย่างรุนแรง!หลินเซียงครางเบา ๆ พยายามดิ้นรน!แต่ลู่สือเยี่ยนเหมือนรู้ว่าเธอจะดิ้น จึงคว้าข้อมือทั้งสองข้างของเธอ บิดไปด้านหลัง แล้วดันเธอเข้าไปกอดจูบร้อนแรง ลมหายใจพันกันอย่างยุ่งเหยิง…ลู่สือเยี่ยนเหมือนสัตว์ป่าที่ไม่รู้จักพอ ทิ้งร่องรอยกลิ่นของตัวเองไว้บนตัวเธอ ทำให้ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นของเขา! เหมือนสัต
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?
ช่างน่าขันอะไรอย่างนี้?สิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้ วิธีการลงโทษคนอื่น สุดท้ายก็เหมือนกับการชกเข้ากับปุยนุ่นอ่อนปวกเปียก ไร้เรี่ยวแรงถูกแล้วแม้แต่ความโกรธของเธอก็ยังไร้เรี่ยวแรง เพราะคนที่เธอเผชิญหน้าคือลู่สือเยี่ยนเธอไม่สามารถต่อต้านเขาได้เลย!ตราบใดที่เขาต้องการ เขาสามารถปิดกั้นเส้นทางทั้งหมดของเธอได้จ้าวข่ายก่อนหน้าก็เป็นแบบนี้ เซี่ยหว่านในตอนนี้ก็ลงเอยแบบนี้เธอเข้าไปพัวพันกับคนแบบไหนมานานขนาดนี้กันนะ?สายตาของหลินเซียงเหม่อลอยไปเล็กน้อย มองไปยังความมืดด้านหน้าอย่างงุนงง ราวกับเหวลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุดกำลังค่อย ๆ ปกคลุมเธอเข้าไปฉินโหย่วหานจับมือเธอ “หลินเซียง ไม่เป็นไรนะ?”“ฉัน…ไม่เป็นไรค่ะ” หลินเซียงขยับริมฝีปากพูดเธอสบายดี เธอไม่เป็นอะไร แค่ล้มเหลวเท่านั้น ไม่เป็นไรน้ำตาที่เงียบงันไหลลงมาจากแก้ม รู้สึกเพียงแค่ความเย็นเยียบที่แก้ม พอยื่นมือไปสัมผัส มองลงไปก็เห็นคราบน้ำใสบนนิ้วร้องไห้ทำไม?มีอะไรให้ร้องกัน?ควรรู้ตัวตั้งนานแล้วต่างหาก!ความคิดของเขา เธอคาดเดาไม่ได้เลย!แต่เธอยังกล้าที่จะต่อสู้กับเขา?หึ ฮ่าฮ่าฮ่า!หลินเซียงหัวเราะเยาะตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไม น้ำต
ซือเยี่ยนค่อนข้างลนลาน “คุณเซี่ย อย่าร้องไห้เลย ไม่มีใครอยากให้คุณตาย อย่าร้องไห้…”เซี่ยหว่านมองเขาด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา “แต่นายมาช่วยฉัน ถ้านายมาไม่ทันล่ะ? ฉันคงตายไปแล้ว!”ซือเยี่ยน “อ่า…คือว่า”เซี่ยหว่านกำแขนเขาแน่น “นายช่วยฉันได้ไหม? ฉันไม่อยากตายจริง ๆ…”ซือเยี่ยนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณเซี่ย อยากให้ผมทำอะไรครับ?”แววแห่งความภาคภูมิใจฉายวาบในดวงตาของเซี่ยหว่าน จากนั้นก็พูดว่า “ช่วยปกป้องฉันได้ไหม?”ซือเยี่ยนขมวดคิ้ว “ไม่ได้ครับ ผมทำตามคำสั่งของท่านประธานลู่เท่านั้น”เซี่ยหว่านก้มหน้าลงด้วยความผิดหวัง “แต่ถ้านายไม่ปกป้องฉัน ฉันก็จะตาย เธอต้องฆ่าฉันแน่ ๆ เพราะฉันแย่งสือเยี่ยนไป…”ซือเยี่ยนขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คือ…ผมขอคิดดูก่อนได้ไหมครับ? แล้วก็คุณเซี่ย ที่นี่ไม่ปลอดภัย ผมส่งคุณกลับไปก่อนดีกว่า”เซี่ยหว่านพยักหน้า “ได้”รถแล่นออกไปในความมืด บนถนนเล็ก ๆนิ้วของฉินโหย่วหานวางอยู่บนพวงมาลัย มองไปที่หลินเซียงอย่างนึกสนใจ “คุณเห็นหมดแล้วใช่ไหม?”สีหน้าของหลินเซียงดูเหม่อลอยเล็กน้อย “เห็นแล้ว…”ฉินโหย่วหานพูดว่า
ดวงตาของซือเยี่ยนเป็นประกายขึ้นทันที รีบวิ่งไปที่ตู้คอนเทนเนอร์นั้น พลางตะโกนถาม “คุณเซี่ย ใช่คุณหรือเปล่า คุณเซี่ย?”“ปัง ๆ!”เสียงดังออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์นั้นอีกครั้ง ถือเป็นการตอบรับซือเยี่ยนดีใจมาก จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบกุญแจของตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์แถวนี้ถูกทิ้งร้าง กุญแจจึงไม่ใช่แบบพิเศษอะไร เขาหาหินมาทุบสิบกว่าครั้ง จนกุญแจพังเขาเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ก็เห็นเซี่ยหว่านถูกมัดมือมัดเท้านอนอยู่ข้างใน ตอนนี้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงหูของเซี่ยหว่านแล้วเมื่อเซี่ยหว่านเห็นซือเยี่ยนก็ร้องไห้ออกมาซือเยี่ยนเข้าไปพยุงเซี่ยหว่านขึ้น จากนั้นก็แกะเชือกที่มัดตัวเธอออก แล้วดึงเทปที่ปิดปากเธอออก“อ๊ะ…”เซี่ยหว่านอุทานออกมาสั้น ๆ จากนั้นก็พูดทั้งน้ำตาว่า “หลินเซียง! ต้องเป็นนังหลินเซียงแน่ ๆ ที่จงใจเล่นงานฉัน ต้องเป็นเธอที่ส่งคนมามัดฉันไว้ที่นี่!”ซือเยี่ยนชะงักไป “แต่ผมติดตามคุณหลินตลอด เธอไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นเลยนะครับ”เซี่ยหว่านจับแขนเขา “ซือเยี่ยน ฉันช่วยสือเยี่ยนไว้ แต่หลินเซียงกลับจะฆ่าฉัน นายต้องช่วยฉันแก้แค้นนะ!”ซือเยี่ยนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่ท
น้ำทะเลเริ่มหนุนแล้วตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ไกลออกไปดูเหมือนสัตว์ประหลาดที่ตั้งตระหง่านอยู่ในความมืด กลืนกินคนข้างในทีละเล็กทีละน้อยหลินเซียงจ้องมองไปทางนั้นอย่างใจเย็น แต่ความมืดที่อยู่ไกลทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นกระบวนการน้ำขึ้นได้อย่างชัดเจนภาพเหตุการณ์ที่เธอถูกขังอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ผุดขึ้นมาในหัว มือและเท้าถูกมัดไว้ ร่างกายเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและขอความช่วยเหลือเฝ้าดูความตายเข้ามาใกล้ แต่เธอทำอะไรไม่ได้เลยเซี่ยหว่าน ตอนนี้เธอคงรู้สึกแบบนี้ใช่ไหม?หลินเซียงหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่มองต่อในขณะนั้น โทรศัพท์มือถือก็ยื่นมาตรงหน้าเธอ“หืม?”หลินเซียงมองไปที่ฉินโหย่วหานด้วยความสงสัยรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของฉินโหย่วหาน “ผมติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้บนตู้คอนเทนเนอร์นั้นด้วย คุณจะได้เห็นท่าทีที่สิ้นหวังทั้งหมดของเซี่ยหว่าน”เขามองเข้าไปในดวงตาของหลินเซียง “อยากดูไหม?”หลินเซียงประหลาดใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ฉินโหย่วหานพูดว่า “ไม่ต้องแปลกใจ ผมแค่รู้สึกว่า ถ้าไม่ได้เห็นกับตาว่าคนที่เคยทำร้ายตัวเองได้รับโทษ แล้วโทษนั้นจะมีความหมายอะไร?”สายตาของเขาเหม่อลอยไปชั่วขณะ
ซ่งซ่งหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะเอามือขยี้ผมในขณะนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายจากประธานบริษัทซ่งซ่งสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ?”“ซ่งซ่ง ทางคุณฟู่แจ้งมาว่าแบบมีปัญหา แถมยังบอกว่าคุณไม่ยอมรับโทรศัพท์เขา เธออยากจะทำให้สตูดิโอของเราพังทั้งบริษัทเลยหรือไง? รีบโทรกลับหาคุณฟู่เดี๋ยวนี้เลย…”“ฉันจะลาออก”ซ่งซ่งพูดอย่างเรียบเฉยอีกฝ่ายชะงักไป “ว่าไงนะ? จะลาออก? ล้อเล่นหรือเปล่า? เธอคงรู้นะว่าการลาออกของเธอจะส่งผลอะไรบ้าง?”ซ่งซ่ง “อืม ฉันรู้ค่ะ แต่ผลที่ตามมาทั้งหมด ฉันจะรับผิดชอบเอง”อีกฝ่ายยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง? แค่ทำโปรเจกต์นี้เสร็จ รายได้ของเธอจะมหาศาลเลยนะ”ซ่งซ่งแสยะยิ้ม “แต่ถ้าทำไม่เสร็จล่ะคะ? ฟู่จิ่นซิ่วคอยหาเรื่องฉันอยู่ตลอด ฉันเหนื่อยแล้ว ไม่อยากเล่นกับเขาต่อแล้วค่ะ”“เธอ…” อีกฝ่ายคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็พูดอะไรไม่ออกซ่งซ่งพูดอย่างใจเย็น “แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ”พูดจบก็วางสายทันทีอยู่ไปก็ไม่มีความหมายไปดีกว่าออกจากเมืองอวิ๋นไปซะแต่เธอต้องคิดให้ดีว่าจะพูดเรื่องนี้กับหลินเซียงอย่างไรคนอย่างฟู่จิ่นซิ่ว เธอไม่กล้ามีเรื่อ
สีหน้าของสวีซินหรานดูไม่ดีขึ้นมาทันที “เธอหมายความว่ายังไง?”หลินเซียงหัวเราะเบา ๆ “ฟังไม่ออกเหรอ? ฉันกำลังเยาะเย้ยเธอไง เห็นเรื่องพวกนั้นแล้ว ที่เธอทำได้ก็แค่นั่งอยู่ในออฟฟิศแล้ววิจารณ์คนอื่น อย่างมากเข้าหน่อยก็เป็นนักเลงคีย์บอร์ดในอินเทอร์เน็ต เธอมีความสามารถอื่นอีกไหม?”สวีซินหรานลุกขึ้นยืนทันที สีหน้าของเธอดูแย่มาก “หลินเซียง เธอคิดว่าฉันกลัวเธอเหรอ? ตอนนี้เธอไม่มีที่พึ่งแล้ว!”“อ้อ แล้วไง?” สีหน้าของหลินเซียงยังคงเรียบเฉย “อยากจะฆ่าฉันเหรอ?”สวีซินหรานกัดฟัน รู้สึกโกรธมาก ผู้หญิงคนนี้เมื่อก่อนไม่เคยพูดอะไร แต่พักหลังมานี้ไม่รู้เป็นอะไร พอเธอเยาะเย้ย หลินเซียงก็ตอบโต้กลับทันที!แถมเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเซียงเลย!หลินเซียงเบนสายตา “เอาเวลาไปพัฒนาผลงานของตัวเองดีกว่า อิจฉาคนอื่นไม่ได้ทำให้เธอดีขึ้นหรอกนะ แต่มันจะทำให้เธออัปลักษณ์มากขึ้น”“เธอ!”สวีซินหรานอยากจะพุ่งเข้าไป แต่ถูกคนสองคนห้ามไว้ทันทีบรรยากาศในออฟฟิศตึงเครียดขึ้นทันทีแต่หลินเซียงกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ก่อนจะเริ่มทำงานของเธอต่อไปสวีซินหรานถูกกดให้นั่งลงบนเก้าอี้ มองหลินเซียงด้วยสายตาอาฆาต รอก่อนเถอะ สั