หลินเซียงรีบทานข้าวสองสามคำ และลุกขึ้นไปที่บ้านของซ่งซ่งทันทีเมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนก็เห็นประตูห้องของซ่งซ่งเปิดอยู่ มีตำรวจสองนายยืนอยู่ที่หน้าประตูซ่งซ่งกำลังพูดคุยกับตำรวจอยู่"ซ่งซ่ง"หลินเซียงเดินเข้าไปเรียกเธอซ่งซ่งหันมามอง แล้วพูดขึ้นทันทีว่า "เซียงเซียง ตอนที่เธออยู่ที่นี่ เคยมีใครเข้ามาบ้างไหม? เธอได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?"ตำรวจทั้งสองนายต่างพากันหันมาจ้องมองเธอเช่นเดียวกันหลินเซียงตอบว่า "ตอนฉันอยู่ที่นี่ไม่มีใครเข้ามาเลยค่ะ"ซ่งซ่งพูดว่า "งั้นก็แสดงว่าพวกนั้นเข้ามาหลังจากที่เธอออกไปแล้ว"หลินเซียงพยักหน้า "น่าจะเป็นเมื่อคืนนี้ เพราะฉันเพิ่งกลับมาเก็บของออกไปเมื่อวานซืน"ตำรวจทั้งสองนายจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบบริเวณบ้าน แต่ก็ไม่พบผู้ต้องสงสัยสุดท้ายเรื่องนี้ก็เงียบหายไปซ่งซ่งดึงหลินเซียงเข้าไปในห้อง "ซวยจริง ๆ ดูเหมือนว่าฉันต้องย้ายบ้านแล้วล่ะ"หลินเซียงพูดว่า "ก่อนหน้านี้ฉันเช่าบ้านไว้ แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เธอย้ายไปอยู่ที่นั่นก็ได้"ซ่งซ่งถามด้วยความสงสัย "ทำไมเธอถึงไปเช่าบ้านล่ะ?"หลินเซียงจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังหลังจากฟังจบ ซ่งซ่งก็ลู
ท่าทีของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส ซ่งซ่งที่อารมณ์เดือดพล่านอยู่แล้วระเบิดออกทันที “ฉันจะซื้อหรือไม่ซื้อมันก็เรื่องของฉัน แต่ที่เธอแย่งของไปจากมือฉันแบบนี้ มันคืออะไร? หรือว่าเธอไม่มีมารยาทเลย?”เด็กสาวชะงักทันที แล้วมองผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าเยว่เยว่ด้วยสีหน้าเศร้าหมองฉู่เยว่เยว่กอดอกนั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองหลินเซียงผ่านแว่นกันแดด แล้วพูดว่า “ฉันจ่ายให้สองเท่า แต่ฉันจะเอาเสื้อตัวนี้”ซ่งซ่งเยาะเย้ย “มีเงินแล้วคิดว่าตัวเองทำอะไรก็ได้หรือไง เคยคิดถึงหัวอกพนักงานขายไหม การปั่นราคาที่เกินกว่าราคาสินค้าถือเป็นการก่อกวนตลาด ทำเป็นจะจ่ายให้สองเท่า ซื้อชีวิตตัวเองเหรอ?”ใบหน้าของฉู่เยว่เยว่ที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากเย็นชาลง“ตอนนี้เสื้ออยู่ในมือเรา เราเอามาแล้ว เธอจะทำยังไงล่ะ?”คำพูดที่โอหังมาก!อารมณ์ของซ่งซ่งยิ่งระเบิด “เจ้าเล่ห์มากนักใช่ไหม เธอเย่อหยิ่งขนาดนี้ ทำไมถึงต้องใส่หมวก ใส่หน้ากาก ใส่แว่นกันแดดด้วย หรือว่าทำเรื่องไม่ดีไม่งามเอาไว้แล้วกลัวคนอื่นจำได้ อ้อ แม่นั่นเรียกเธอว่าเยว่เยว่ใช่ไหม เธอคงเป็นดาราที่ชื่อฉู่เยว่เยว่สินะ มือที่สามในความรักของคนอื่นใช่ไหมล่ะ?”เด็กสาวที่อยู่ข้า
"จับตัวเธอไว้" ลู่สือเยี่ยนมองซ่งซ่งอย่างเย็นชา ก่อนจะสั่งการบอดี้การ์ดข้างกายบอดี้การ์ดสองคนรีบเข้าไปจับกุมซ่งซ่งอย่างรวดเร็ว และแย่งโทรศัพท์มือถือของเธอไปเมื่อเห็นดังนั้น ซ่งซ่งก็ดิ้นรนทันที "ทำอะไรน่ะ? ลู่สือเยี่ยน ไอ้สารเลว แกจะทำอะไร? ปล่อยฉันนะ!"บอดี้การ์ดส่งโทรศัพท์มือถือให้ลู่สือเยี่ยนอย่างนอบน้อมลู่สือเยี่ยนรับโทรศัพท์มา แล้วลบวิดีโอและรูปภาพที่ซ่งซ่งถ่ายไว้ทั้งหมดจากนั้นก็โยนโทรศัพท์คืนให้บอดี้การ์ดหลินเซียงเดินไปข้าง ๆ ซ่งซ่ง และมองไปที่บอดี้การ์ดสองคน "ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!"บอดี้การ์ดทั้งสองรู้จักฐานะของหลินเซียง แต่คำสั่งนี้มาจากลู่สือเยี่ยน พวกเขาจึงลังเล และตัดสินใจไม่ได้ ได้แต่มองไปที่ลู่สือเยี่ยนหลินเซียงมองไปที่ลู่สือเยี่ยนเช่นกัน ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คุณให้ฉันกลับมาเป็นภรรยาคุณ ก็เพื่อให้เป็นแค่หุ่นเชิดที่ไม่มีอำนาจอย่างนั้นเหรอ?"บรรยากาศในร้านเสื้อผ้าเย็นเยียบขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยสายตาเย็นเยียบ แล้วโบกมือบอดี้การ์ดทั้งสองจึงปล่อยซ่งซ่งทันทีที่เป็นอิสระ ซ่งซ่งก็พุ่งเข้าหาลู่สือเยี่ยน "ไอ้ผู้ชายสารเลวเอ๊ย แก...""ซ่งซ่ง!"หลินเซียง
ซ่งซ่งจับมือหลินเซียงไว้ "ไม่ต้องขอโทษ ฉันไม่ขอโทษคนเลว ๆ แบบนั้นหรอก จะจับก็จับไป ใช่จะกลัว!"หลินเซียงมองเธอด้วยความรู้สึกผิด หากตระกูลลู่เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ เรื่องคงไม่จบแค่การโดนคุมขัง 15 วันแน่ซ่งซ่งทำให้ลู่สือเยี่ยนโกรธขนาดนี้ ต่อไปเธอจะอยู่ในเมืองอวิ๋นเฉิงได้อย่างไร?หลินเซียงจับมือเธอ และพูดเบา ๆ ว่า "ซ่งซ่ง ฉันไม่อยากให้เธอโดนจับ"ซ่งซ่งขมวดคิ้ว "แต่..."หลินเซียงมองไปที่ลู่สือเยี่ยน น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย "ลู่สือเยี่ยน จริง ๆ แล้วคุณฉู่เป็นฝ่ายหาเรื่องเราก่อน จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ได้ ซ่งซ่งก็แค่ปกป้องฉัน คุณจะส่งเธอไปสถานีตำรวจ ไม่กลัวว่าต่อไปจะไม่มีใครปกป้องฉันเหรอ? งั้นคุณส่งฉันเข้าไปแทนเถอะ"ความเย็นชาบนใบหน้าของลู่สือเยี่ยนดูเหมือนจะแตกสลายไปเล็กน้อย เขามองเธอที่พูดอย่างอ่อนโยนด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด แต่ในใจก็ยังคงรู้สึกไม่พอใจอยู่ดีเขามองเธอด้วยสายตาเคร่งขรึม กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้น ฉู่เยว่เยว่ที่อยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นว่า "คุณลู่คะ ฉันไม่รู้ว่าไปทำให้ทั้งสองไม่พอใจตอนไหน ฉันแค่มาที่นี่เพื่อซื้อเสื้อผ้า แต่ผู้หญิงคนนี้กลับมาแย่งเสื้อผ้าของฉันไป แล้
ซ่งซ่งโกรธจนหน้าแดงก่ำหลินเซียงตัวสั่นเทา มองใบหน้าหล่อเหลาของลู่สือเยี่ยน ใบหน้าที่คุ้นเคยกลับดูแปลกตาในตอนนี้ที่ผ่านมามีความหมายอะไรกัน?ทันใดนั้นเธอก็หัวเราะเยาะออกมา แล้วเดินตรงไปที่ฉู่เยว่เยว่ ยกมือขึ้นตบหน้าเธอฉาดใหญ่เสียงตบดังก้องไปทั่วร้าน ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัดหลินเซียงหันไปมองลู่สือเยี่ยน "นี่ไง ฉันเป็นคนตบเอง เธอหาเรื่องก่อน แล้วยังมาฟ้องผิดกลับขาวเป็นดำ ฉันตบสั่งสอนเธอแค่ทีเดียว คิดว่าขึ้นเตียงกับเขาแล้ว ฉันจะไม่กล้าทำอะไรเธอหรือไง?"เธอมองฉู่เยว่เยว่ด้วยสายตาเย็นชา ฝ่ามือสั่นเล็กน้อย "เก็บความคิดสกปรกของเธอกลับไปซะ อย่ามาสร้างเรื่องอีก ไม่งั้นฉันจะไม่เกรงใจ ตบเธอซ้ำอีกหลายทีแน่!"พูดจบ เธอก็ไม่สนใจสีหน้าถมึงทึงของฉู่เยว่เยว่ หันไปมองลู่สือเยี่ยน "เราไม่ขอโทษ ลู่สือเยี่ยน และฉันจะหย่ากับคุณ"พูดจบ เธอก็ดึงมือซ่งซ่งเดินจากไปบอดี้การ์ดขวางประตูไว้ หลินเซียงมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอมีออร่าที่น่าเกรงขามเหมือนลู่สือเยี่ยน แม้จะเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่บอดี้การ์ดหลายคนกลับไม่กล้ามองหน้าเธอหลินเซียงดึงมือซ่งซ่งเดินออกไปทันทีบร
หลินเซียงมองเขาด้วยความโกรธ “คุณจะพาซ่งซ่งไปไหน ลู่สือเยี่ยน เรื่องระหว่างเราสองคน อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องได้ไหม”ลู่สือเยี่ยนเยาะเย้ย “ในเมื่อเป็นเรื่องของเราสองคน แล้วเธอเป็นใคร ถึงได้เข้ามาเกี่ยวข้อง”หลินเซียงโกรธจนตัวสั่น!แต่ลู่สือเยี่ยนไม่อยากมีปากเสียงกับเธอต่อหน้าสาธารณชน จึงดึงเธอออกจากห้าง แล้วผลักเธอเข้าไปในรถอย่างรุนแรงหลินเซียงดิ้นรน “ลู่สือเยี่ยน ปล่อยซ่งซ่งเลยนะ!”ลู่สือเยี่ยนกดไหล่ของเธอไว้ พูดเสียงเย็น “ถ้าอยากให้ผมปล่อยเธอ คุณก็อย่าดื้อ ทำให้ผมพอใจ แล้วผมจะปล่อย”หลินเซียงมองเขา รู้สึกไม่เข้าใจเลย!ลู่สือเยี่ยนขึ้นรถ ปิดกั้นสายตาที่สอดส่องจากภายนอก สีหน้าของเขาทั้งเย็นชาและน่ากลัวหลินเซียงพยายามสงบสติอารมณ์ เธอพูดว่า “ลู่สือเยี่ยน เรื่องวันนี้เป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรตบหน้าฉู่เยว่เยว่ และไม่ควรพูดแบบนั้น ทีนี้คุณปล่อยซ่งซ่งได้หรือยัง?”เธอยอมอ่อนลงอย่างรวดเร็ว แต่ลู่สือเยี่ยนฟังแล้วกลับยังรู้สึกไม่สบอารมณ์ขณะจ้องมองเธอ เขาถามว่า “ในใจคุณมีแต่ความคิดเรื่องหย่าสินะ?”ขนตาของหลินเซียงกระพริบเล็กน้อย เธอไม่ได้ตอบออกมา เพราะรู้ดีว่าคำตอบนั้นจะทำให้เ
ร่างของหลินเซียงสั่นสะท้าน!ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความขมขื่นใช่แล้วทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขา คนอยู่ในกำมือเขา หากเขาต้องการกลั่นแกล้งเธอ เธอก็ไม่มีทางสู้นิ้วมือของหลินเซียงกำแน่นก่อนจะค่อยๆ คลายออก เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเขา มือเอื้อมไปที่เข็มขัดของเขาดวงตาของลู่สือเยี่ยนหดแคบลงทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่เธอทำ เขามองเธอ จับจ้องใบหน้าที่ซีดเซียวลงทุกขณะทันใดนั้นเขาก็หมดอารมณ์เขาคว้าข้อมือของเธอไว้ ดึงให้เธอลุกขึ้นนั่งข้างๆ พร้อมพูดเสียงเย็นชา "ท่าทางไม่เต็มใจแบบนี้ ผมเห็นแล้วหมดอารมณ์พอดี"หลินเซียงไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าของเธอยิ่งซีดลงไปอีกรถยนต์เริ่มเคลื่อนตัวไปบนถนนอย่างมั่นคงหลังจากปรับอารมณ์ตัวเองสักพัก หลินเซียงจึงถามเบาๆ “แล้วคุณจะปล่อยซ่งซ่งเมื่อไหร่?”ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "รอให้เธอรู้จักสำนึกผิดก่อน ผมถึงจะปล่อย"หลินเซียง "..."คงเป็นไปไม่ได้หรอกซ่งซ่งไม่ชอบหน้าเขาเป็นที่สุดหากเป็นเขาในอดีตที่ยังไม่มีความทรงจำกลับมา อาจจะยังพอคุยกันดี ๆ ได้แต่กับเขาในตอนนี้ แค่เห็นหน้าซ่งซ่งก็อยากจะหั่นเขาเป็นชิ้น ๆ มากกว่าหลินเซียงถอนหายใจ “คุ
ซ่งซ่งมองเธอ แล้วส่ายหน้า "เซียงเซียง เธอพยายามอธิบายมาตั้งนาน อยากจะสื่ออะไรกันแน่?"หลินเซียง "อย่าไปด่าเขาอีกเลย เธอเอาชนะเขาไม่ได้หรอก"ซ่งซ่ง "..."ถึงไม่อยากยอมรับ แต่ก็เป็นเรื่องจริงเมืองอวิ๋นเฉิงเป็นฐานที่มั่นของตระกูลลู่ เธอสร้างปัญหาอะไรไม่ได้จริง ๆ ถ้าลู่สือเยี่ยนไม่พอใจซะอย่าง การจะทำให้เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอยก็ง่ายมากหลินเซียงพูดว่า "ซ่งซ่ง เรื่องของฉันกับเขา ฉันจะหาทางแก้ไขเอง ฉันไม่อยากให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่อยากให้เธอกลายเป็นจุดอ่อนของฉัน"ซ่งซ่งกอดเธอ "แต่เซียงเซียง ถ้าฉันไม่อยู่ข้างเธอ เธอก็ต้องสู้คนเดียวน่ะสิ ผู้ชายเลว ๆ คนนั้นต้องรังแกเธอแน่"ดวงตาของหลินเซียงร้อนผ่าว เธอสูดน้ำมูก พูดว่า "ไม่เป็นไรหรอก รอฉันหย่ากับเขาได้ซะก่อน ต่อให้เขามาคุกเข่าขอร้อง ฉันก็จะไม่มองเขาแม้แต่หางตา""งั้นก็ดีแล้ว!"ซ่งซ่งตบมือทั้งสองคนเดินเล่นในสวน เล่าเรื่องราวสนุก ๆ ในอดีตเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วหลินเซียงเงยหน้าขึ้นก็เห็นร่างสูงโปร่งของผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่บนระเบียงชั้นสอง เขากำลังมองเธออยู่ถึงแม้จะอยู่ไกลขนาดนี้ เธอก็ยังรู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดของเขาเธอหลุบตา
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด