เขากลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยเซี่ยหว่านได้รับการให้น้ำเกลือแล้ว หลังจากที่เมื่อคืนเพิ่งถูกลักพาตัวไป สภาพจิตใจของเธอไม่ค่อยดีอยู่แล้ว วันนี้ยังมาเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก แค่หมดสติไปถือว่ายังเบาที่สุดแล้ว“ประธานลู่ครับ”ซือเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตูเรียกเขาลู่สือเยี่ยนยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ เมื่อได้ยินเสียงก็หันมามอง ดวงตาดำขลับยาวรีที่คมกริบ จ้องมองซือเยี่ยนอย่างเย็นชาซือเยี่ยนรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แผ่มาจากปลายเท้าไปจนถึงทั่วร่างกาย ซึมลึกไปจนถึงจิตวิญญาณลู่สือเยี่ยนเดินออกมา ปิดประตูห้องพักผู้ป่วย แล้วเข้าไปในห้องใต้บันไดซือเยี่ยนเดินตามเขาไปเงียบ ๆเมื่อเข้าไปในห้องใต้บันได เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ผมเห็นคุณหลินขึ้นรถไปกับฉินโหย่วหาน ประธานลู่ครับ คุณหลินไม่มีเจตนาบริสุทธิ์แน่นอน ฉินโหย่วหานเป็นหลานของ… และคุณหลินก็สนิทสนมกับเขาอย่างนี้ การที่คุณเซี่ยถูกจับตัวไป จะต้องเป็นเพราะ…”“ผัวะ!”แต่ยังพูดไม่จบ เขาก็โดนต่อยเข้าที่หน้าเต็มแรง!ซือเยี่ยนเซถอยหลังไปหลายก้าว แต่ไม่กล้าสู้กลับ ก้มหน้าลงทันทีลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาสองก้าว เตะเข้าที่หัวเข่าของเขาอีกครั้ง ซือเยี่ยนหน้าซีดด้วยความ
ฟู่จิ่นซิ่วตอบ “เป็นบัญชีม้าโอนจากต่างประเทศ”หลังจากนั้น เขาก็พูดต่อ “ซับซ้อนยุ่งยากขนาดนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนลงมือ หรือว่าต้องฆ่าเธอให้ตายซะก่อน ถึงจะยอมเลิกรา?”ลู่สือเยี่ยนวางแท็บเล็ตไว้ข้างตัว แล้วพูดขึ้นทันทีว่า “ส่งคนไปตามหลินเซียงที”คิ้วของฟู่จิ่นซิ่วขมวดเข้าหากัน “เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว นายยังจะปกป้องเธออยู่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หรือว่านายไม่รู้?”ฟู่จิ่นซิ่วขยับริมฝีปาก สักพักจึงถอนหายใจ “ก็ได้ แต่เรื่องที่เธอวางยานาย ฉันยังไม่ยอมจบง่าย ๆ หรอก ฉันยังสงสัยว่าเธอเป็นคนของคนคนนั้น”ลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไรเธอ… ทำจริงหรือเปล่า?ในหัว ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปีที่ผ่านมาปรากฏขึ้นมาทันทีถ้าเธอเป็นคนของคนคนนั้นจริง เธอก็มีโอกาสลงมือกับเขาหลายครั้งแต่เธอกลับไม่เคยทำดวงตาของเธอใสสะอาด รอยยิ้มแสนจะบริสุทธิ์ เขาไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ นานาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เขาไม่กล้าเชื่อใจใครง่าย ๆฟู่จิ่นซิ่วเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเขา จึงครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วถามว่า “นายจะแต่งงานกับเซี่ยหว่านจริง
ผู้หญิงแบบนี้ยังกล้าทำตัวหยิ่งยโส ต้องมีคนมาจัดการ ไม่งั้นเธอก็จะทำอะไรตามใจชอบไปเรื่อย ๆ!“ฮัลโหล?”ซ่งจั่วกดรับสายผู้จัดการเล่าเรื่องของหลินเซียงอย่างเกินจริง แล้วพูดอย่างอ้อมค้อมว่า “คุณซ่ง หลินเซียงอาจจะถูกทางเฉิงต๋าทาบทาม วิสัยการทำงานเลยเปลี่ยนไป ผมเลยมาขอความช่วยเหลือจากคุณ คุณว่าควรจะทำยังไงดี?”ซ่งจั่วถามกลับ “เธอขอลาหยุดหรือเปล่า?”ผู้จัดการ “ลาครับ”ซ่งจั่ว “งั้นมีปัญหาอะไรอีก?”ฮะ?ผู้จัดการตกใจ แค่นี้เองเหรอ? ไม่ตำหนิ? ไม่พูดถึงการไล่หลินเซียงออก?นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ผู้จัดการไม่แน่ใจ “คุณซ่ง นี่…”ซ่งจั่วกล่าวว่า “เธอไม่ได้ทำผิดพลาดร้ายแรงถึงขั้นที่ทำให้บริษัทเสียหายอะไร การที่เธอลาหยุดแสดงว่ามีธุระ เรื่องแบบนี้แม้แต่คุณยังจัดการไม่ได้ งั้นคุณยังนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้เพื่ออะไรกัน?”ผู้จัดการตกใจ รีบพูดว่า “คุณซ่ง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะจัดการเอง ขอโทษที่รบกวนครับ!”พูดจบ เธอก็รีบวางสาย!เขาคิดว่าหลินเซียง ‘ตกกระป๋อง’ แล้วซะอีก คิดว่าซ่งจั่วคงสั่งลงโทษเธออย่างหนัก แต่กลับกลายเป็นว่าเขาถูกดุแทน!หรือว่าหลินเซียงจะยังไม่ ‘ตกกระป๋อง’ จริง ๆ?แล้วทำไมก่อนหน้านี้ซ่งจั่
หลินเซียงยิ้มให้เขาเล็กน้อย “เปล่าค่ะ ฉันแค่สังเกตดูว่าถ้าคุณมีอาการอะไร เราจะได้ไปโรงพยาบาลทันที”ฉินโหย่วหาน “ไม่ต้องหรอก”หลินเซียงหยิบตะเกียบขึ้นมาใหม่ “งั้นเรามากินข้าวกันก่อนเถอะ”พูดจบก็เริ่มกินก่อนจริง ๆ แล้วเธอไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่กินก็ไม่ได้ เธอยังมีเรื่องอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการอีกมากมายดวงตาสีพีชของฉินโหย่วหานมองเธออย่างลึกซึ้ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมหลังจากกินข้าวเสร็จ หลินเซียงไปจ่ายเงิน แต่พนักงานบอกว่าโต๊ะนี้มีคนจ่ายไปแล้วเธองงเล็กน้อย หันไปมองฉินโหย่วหาน “พี่หาน ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วว่ามื้อนี้ฉันเป็นคนเลี้ยงหรอกเหรอ?”ฉินโหย่วหานพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ออกไปกินข้าวกับพี่หานทั้งที จะให้คุณจ่ายได้ยังไง?”หลินเซียงกะพริบตาปริบ “งั้นต่อไปฉันมาขอให้คุณเลี้ยงข้าวบ่อย ๆ ได้ไหม?”มุมปากของฉินโหย่วหานกระตุกเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ได้สิ”หลินเซียงยิ้มจาง ๆ แล้วนั่งลงฉินโหย่วหานโชว์โทรศัพท์ให้เธอ “ส่งคลิปไปที่อีเมลคุณแล้ว”หลินเซียงเปิดดูทันที เมื่อเห็นผู้หญิงอีกคนที่มาชนเธอแอบทำอะไรบางอย่างกับวัตถุดิบที่ร่วงพื้น สีหน้าของเธอก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันทีมีค
เมื่อเห็นเธอ ใบหน้าของเจิ้งซินเอ้อร์ก็แสดงความโกรธออกมาทันที เธอเดินเข้ามาอย่างดุเดือด ยกมือขึ้นแล้วตบหน้าหลินเซียงอย่างแรง“นังผู้หญิงใจร้าย! กล้าส่งคนไปลักพาตัวหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างแกมันใจไม้ไส้ระกำ!”หลินเซียงเบืกตากว้างทันที รีบยกมือขึ้นมาขวาง แล้วก็ผลักออกไปอย่างแรง “เธอเป็นหมาหรือไง? เห็นคนแล้วก็บ้าคลั่ง? ไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าหน่อยไหม?”“นังหน้าด้าน!”เจิ้งซินเอ้อร์เสียหลัก หลังจากทรงตัวได้ก็จ้องมองหลินเซียงด้วยความโกรธแค้น ราวกับอยากจะกินเธอทั้งเป็น“เพราะแกไม่ยอมหย่ากับลู่สือเยี่ยน เป็นแค่เมียน้อย แต่กลับครอบครองตำแหน่งภรรยาตระกูลลู่ แกมันหน้าด้านหน้าทนจริง ๆ!”หลินเซียงโมโหเพราะลู่สือเยี่ยนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เจิ้งซินเอ้อร์มาทำให้เธอโมโหยิ่งขึ้นไปอีกเธอพูดเสียงเย็นชา “ฉันกับลู่สือเยี่ยนเป็นนสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย ใครเป็นเมียน้อย กฎหมายเป็นคนตัดสิน ถ้าเธอจะมาหาเรื่องฉันอีก ฉันก็ไม่กลัวที่จะทะเลาะกับเธอ ถ้าเธอรู้จักฉันดีก็ควรจะรู้ว่าคนอย่างฉันมันไม่มีอะไรจะเสีย ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”เธอแสดงท่าทีแข็งกร้าวอย่างดุเดือด ทำให้เจิ้งซินเอ้อร์ตกใจ พูดไม่ออกไปสักพ
หลินเซียงขมวดคิ้วเขาหมายความว่ายังไง?ทั้งสั่งบอดี้การ์ดมาขวาง ทั้งไม่ยอมรับโทรศัพท์ แต่ตอนนี้กลับเข้ามาเบียดกับเธอในลิฟต์?หลินเซียงหยุดนิ่ง ตั้งท่าจะเดินออกไป“ไปไหน?”เสียงทุ้มเย็นชาของลู่สือเยี่ยนดังขึ้นหลินเซียงพูด “ไม่อยากอยู่ในที่เดียวกันกับถังขยะ”ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วทันที บรรยากาศอันตรายเริ่มแผ่กระจายไปทั่วลิฟต์แคบ ๆ เขาเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดประตู ประตูลิฟต์ถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว หลินเซียงอยากจะออกไป แต่ก็สายไปแล้วหลินเซียงมองเขาอย่างไม่พอใจ ยืนอยู่ตรงมุมลิฟต์ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความห่างเหินและรังเกียจก่อนหน้านี้เป็นเขาที่ไม่อยากเจอเธอตอนนี้เป็นเธอที่ไม่อยากอยู่ใกล้เขาน่ารำคาญสิ้นดีลู่สือเยี่ยนเหลือบมองสีหน้าเธอ ดวงตาดำขลับลึกล้ำมืดมน ทำให้มองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่เขาพูดเสียงเรียบ “หลักฐานล่ะ?”หลินเซียงพูด “ฉันส่งให้แล้ว”ลู่สือเยี่ยน “ผมปิดเครื่อง”หลินเซียงหัวเราะเยาะ “งั้นไม่คิดจะเปิดเครื่องหน่อยหรือไง?”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ก่อนจะถามขึ้นมาทันที “ตอนนี้ถ้ายื่นมีดให้คุณสักเล่ม คุณจะฆ่าผมให้ตายไหม?”ความเย็นชาในดวงตาของเธอชัดเจนมากทำให้เข
หลินเซียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดีเลย ถ้าอวิ๋นหลานเป็นคนอัดเสียงจริง นี่คือโอกาสที่ดีที่จะสอบถามอีกฝ่าย “ได้ค่ะ”อวิ๋นหลานถามว่า “ตอนนี้เธออยู่ไหน? เดี๋ยวฉันไปรับ”หลินเซียงบอกที่อยู่ของเธอ หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที รถคันหนึ่งก็ค่อย ๆ ขับมา เมื่อกระจกรถเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างดีของอวิ๋นหลาน“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่”หลินเซียงยิ้มอย่างสุภาพอวิ๋นหลานบอก “ขึ้นรถเถอะ”หลินเซียงเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถอวิ๋นหลานถามทันที “ทำไมสีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีเลย? ช่วงนี้พักผ่อนไม่เพียงพอหรือเปล่า?”หลินเซียงกล่าวว่า “เรื่องที่ลู่สือเยี่ยนถูกวางยาค่อนข้างกดดันฉันมาก ฉันเลยนอนไม่หลับค่ะ”อวิ๋นหลานออกความเห็น “จริง ๆ แล้ว ฉันก็ไม่ค่อยเชื่อว่าเธอจะทำเรื่องแบบนี้ แต่อาหารพวกนั้นเธอก็เป็นคนปรุงเอง ไม่แปลกที่คนอื่นจะสงสัย เธอไปแจ้งความแล้วใช่ไหม? เชื่อเถอะว่าตำรวจต้องหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอได้แน่”“ค่ะ”หลินเซียงพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีกเมื่อถึงร้านเสริมสวย ทั้งสองคนเข้าไปในห้องส่วนตัวตามที่ช่างแนะนำ หลินเซียงและอวิ๋นหลานขึ้นไปนอนบนเตียงอวิ๋นหลานถาม “สองวันนี้เธอได้ไปหาสือ
อวิ๋นหลานออกจากร้านเสริมสวยไปแล้ว ช่วงไม่กี่วันมานี้หลินเซียงพักผ่อนน้อยมาก เธอนอนลงบนเตียง ปล่อยให้ช่างนวดศีรษะ ก่อนที่เธอจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวพอตื่นขึ้นมาอีกที ท้องฟ้าก็มืดแล้วหลินเซียงออกจากร้านเสริมสวย และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมพร้อมจะเรียกรถตอนที่มาเธอไม่ได้สังเกต ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าร้านเสริมสวยแห่งนี้อยู่แถวชานเมือง เรียกรถยากมากหลินเซียงยืนอยู่ข้างทาง รออยู่นาน จนกระทั่งเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งขับมาอย่างช้า ๆ“ไปไหนครับ?”หลังจากขึ้นรถแล้ว คนขับก็ถามหลินเซียงตอบว่า “เฟิงหลินหย่วน”พูดจบ เธอก็ดูข้อความในโทรศัพท์ ซ่งซ่งส่งข้อความมาบ่นเรื่องฟู่จิ่นซิ่วแต่ข้อความสุดท้าย ทำให้หลินเซียงเลิกคิ้วขึ้นซ่งซ่ง [ที่รัก เธอมีแอคเคาท์วีแชทที่ไม่ได้ใช้ไหม?]หลินเซียง [จะเอาไปทำอะไร?]ซ่งซ่ง [ไอ้เวรนี่มันรังแกฉันขนาดนี้ ถ้าฉันไม่แก้แค้นก็ไม่ใช่คนแซ่ซ่ง ถ้าได้แอคเคาท์วีแชทเมื่อไหร่นะ รอดูละครหลังข่าวได้เลย!]หลินเซียง [อย่าทำอะไรที่มันเกินเลยล่ะ ถ้าทำให้เขาโกรธ เธอก็จะเดือดร้อนซะเอง]ซ่งซ่ง [สบายใจได้ ฉันมีสติครบถ้วน]หลินเซียงตอบ “อืม” แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเธอส่งหลักฐานเรื