เขากลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยเซี่ยหว่านได้รับการให้น้ำเกลือแล้ว หลังจากที่เมื่อคืนเพิ่งถูกลักพาตัวไป สภาพจิตใจของเธอไม่ค่อยดีอยู่แล้ว วันนี้ยังมาเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก แค่หมดสติไปถือว่ายังเบาที่สุดแล้ว“ประธานลู่ครับ”ซือเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตูเรียกเขาลู่สือเยี่ยนยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ เมื่อได้ยินเสียงก็หันมามอง ดวงตาดำขลับยาวรีที่คมกริบ จ้องมองซือเยี่ยนอย่างเย็นชาซือเยี่ยนรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แผ่มาจากปลายเท้าไปจนถึงทั่วร่างกาย ซึมลึกไปจนถึงจิตวิญญาณลู่สือเยี่ยนเดินออกมา ปิดประตูห้องพักผู้ป่วย แล้วเข้าไปในห้องใต้บันไดซือเยี่ยนเดินตามเขาไปเงียบ ๆเมื่อเข้าไปในห้องใต้บันได เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ผมเห็นคุณหลินขึ้นรถไปกับฉินโหย่วหาน ประธานลู่ครับ คุณหลินไม่มีเจตนาบริสุทธิ์แน่นอน ฉินโหย่วหานเป็นหลานของ… และคุณหลินก็สนิทสนมกับเขาอย่างนี้ การที่คุณเซี่ยถูกจับตัวไป จะต้องเป็นเพราะ…”“ผัวะ!”แต่ยังพูดไม่จบ เขาก็โดนต่อยเข้าที่หน้าเต็มแรง!ซือเยี่ยนเซถอยหลังไปหลายก้าว แต่ไม่กล้าสู้กลับ ก้มหน้าลงทันทีลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาสองก้าว เตะเข้าที่หัวเข่าของเขาอีกครั้ง ซือเยี่ยนหน้าซีดด้วยความ
ฟู่จิ่นซิ่วตอบ “เป็นบัญชีม้าโอนจากต่างประเทศ”หลังจากนั้น เขาก็พูดต่อ “ซับซ้อนยุ่งยากขนาดนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนลงมือ หรือว่าต้องฆ่าเธอให้ตายซะก่อน ถึงจะยอมเลิกรา?”ลู่สือเยี่ยนวางแท็บเล็ตไว้ข้างตัว แล้วพูดขึ้นทันทีว่า “ส่งคนไปตามหลินเซียงที”คิ้วของฟู่จิ่นซิ่วขมวดเข้าหากัน “เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว นายยังจะปกป้องเธออยู่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หรือว่านายไม่รู้?”ฟู่จิ่นซิ่วขยับริมฝีปาก สักพักจึงถอนหายใจ “ก็ได้ แต่เรื่องที่เธอวางยานาย ฉันยังไม่ยอมจบง่าย ๆ หรอก ฉันยังสงสัยว่าเธอเป็นคนของคนคนนั้น”ลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไรเธอ… ทำจริงหรือเปล่า?ในหัว ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปีที่ผ่านมาปรากฏขึ้นมาทันทีถ้าเธอเป็นคนของคนคนนั้นจริง เธอก็มีโอกาสลงมือกับเขาหลายครั้งแต่เธอกลับไม่เคยทำดวงตาของเธอใสสะอาด รอยยิ้มแสนจะบริสุทธิ์ เขาไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ นานาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เขาไม่กล้าเชื่อใจใครง่าย ๆฟู่จิ่นซิ่วเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเขา จึงครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วถามว่า “นายจะแต่งงานกับเซี่ยหว่านจริง
ผู้หญิงแบบนี้ยังกล้าทำตัวหยิ่งยโส ต้องมีคนมาจัดการ ไม่งั้นเธอก็จะทำอะไรตามใจชอบไปเรื่อย ๆ!“ฮัลโหล?”ซ่งจั่วกดรับสายผู้จัดการเล่าเรื่องของหลินเซียงอย่างเกินจริง แล้วพูดอย่างอ้อมค้อมว่า “คุณซ่ง หลินเซียงอาจจะถูกทางเฉิงต๋าทาบทาม วิสัยการทำงานเลยเปลี่ยนไป ผมเลยมาขอความช่วยเหลือจากคุณ คุณว่าควรจะทำยังไงดี?”ซ่งจั่วถามกลับ “เธอขอลาหยุดหรือเปล่า?”ผู้จัดการ “ลาครับ”ซ่งจั่ว “งั้นมีปัญหาอะไรอีก?”ฮะ?ผู้จัดการตกใจ แค่นี้เองเหรอ? ไม่ตำหนิ? ไม่พูดถึงการไล่หลินเซียงออก?นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ผู้จัดการไม่แน่ใจ “คุณซ่ง นี่…”ซ่งจั่วกล่าวว่า “เธอไม่ได้ทำผิดพลาดร้ายแรงถึงขั้นที่ทำให้บริษัทเสียหายอะไร การที่เธอลาหยุดแสดงว่ามีธุระ เรื่องแบบนี้แม้แต่คุณยังจัดการไม่ได้ งั้นคุณยังนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้เพื่ออะไรกัน?”ผู้จัดการตกใจ รีบพูดว่า “คุณซ่ง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะจัดการเอง ขอโทษที่รบกวนครับ!”พูดจบ เธอก็รีบวางสาย!เขาคิดว่าหลินเซียง ‘ตกกระป๋อง’ แล้วซะอีก คิดว่าซ่งจั่วคงสั่งลงโทษเธออย่างหนัก แต่กลับกลายเป็นว่าเขาถูกดุแทน!หรือว่าหลินเซียงจะยังไม่ ‘ตกกระป๋อง’ จริง ๆ?แล้วทำไมก่อนหน้านี้ซ่งจั่
หลินเซียงยิ้มให้เขาเล็กน้อย “เปล่าค่ะ ฉันแค่สังเกตดูว่าถ้าคุณมีอาการอะไร เราจะได้ไปโรงพยาบาลทันที”ฉินโหย่วหาน “ไม่ต้องหรอก”หลินเซียงหยิบตะเกียบขึ้นมาใหม่ “งั้นเรามากินข้าวกันก่อนเถอะ”พูดจบก็เริ่มกินก่อนจริง ๆ แล้วเธอไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่กินก็ไม่ได้ เธอยังมีเรื่องอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการอีกมากมายดวงตาสีพีชของฉินโหย่วหานมองเธออย่างลึกซึ้ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมหลังจากกินข้าวเสร็จ หลินเซียงไปจ่ายเงิน แต่พนักงานบอกว่าโต๊ะนี้มีคนจ่ายไปแล้วเธองงเล็กน้อย หันไปมองฉินโหย่วหาน “พี่หาน ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วว่ามื้อนี้ฉันเป็นคนเลี้ยงหรอกเหรอ?”ฉินโหย่วหานพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ออกไปกินข้าวกับพี่หานทั้งที จะให้คุณจ่ายได้ยังไง?”หลินเซียงกะพริบตาปริบ “งั้นต่อไปฉันมาขอให้คุณเลี้ยงข้าวบ่อย ๆ ได้ไหม?”มุมปากของฉินโหย่วหานกระตุกเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ได้สิ”หลินเซียงยิ้มจาง ๆ แล้วนั่งลงฉินโหย่วหานโชว์โทรศัพท์ให้เธอ “ส่งคลิปไปที่อีเมลคุณแล้ว”หลินเซียงเปิดดูทันที เมื่อเห็นผู้หญิงอีกคนที่มาชนเธอแอบทำอะไรบางอย่างกับวัตถุดิบที่ร่วงพื้น สีหน้าของเธอก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันทีมีค
เมื่อเห็นเธอ ใบหน้าของเจิ้งซินเอ้อร์ก็แสดงความโกรธออกมาทันที เธอเดินเข้ามาอย่างดุเดือด ยกมือขึ้นแล้วตบหน้าหลินเซียงอย่างแรง“นังผู้หญิงใจร้าย! กล้าส่งคนไปลักพาตัวหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างแกมันใจไม้ไส้ระกำ!”หลินเซียงเบืกตากว้างทันที รีบยกมือขึ้นมาขวาง แล้วก็ผลักออกไปอย่างแรง “เธอเป็นหมาหรือไง? เห็นคนแล้วก็บ้าคลั่ง? ไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าหน่อยไหม?”“นังหน้าด้าน!”เจิ้งซินเอ้อร์เสียหลัก หลังจากทรงตัวได้ก็จ้องมองหลินเซียงด้วยความโกรธแค้น ราวกับอยากจะกินเธอทั้งเป็น“เพราะแกไม่ยอมหย่ากับลู่สือเยี่ยน เป็นแค่เมียน้อย แต่กลับครอบครองตำแหน่งภรรยาตระกูลลู่ แกมันหน้าด้านหน้าทนจริง ๆ!”หลินเซียงโมโหเพราะลู่สือเยี่ยนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เจิ้งซินเอ้อร์มาทำให้เธอโมโหยิ่งขึ้นไปอีกเธอพูดเสียงเย็นชา “ฉันกับลู่สือเยี่ยนเป็นนสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย ใครเป็นเมียน้อย กฎหมายเป็นคนตัดสิน ถ้าเธอจะมาหาเรื่องฉันอีก ฉันก็ไม่กลัวที่จะทะเลาะกับเธอ ถ้าเธอรู้จักฉันดีก็ควรจะรู้ว่าคนอย่างฉันมันไม่มีอะไรจะเสีย ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”เธอแสดงท่าทีแข็งกร้าวอย่างดุเดือด ทำให้เจิ้งซินเอ้อร์ตกใจ พูดไม่ออกไปสักพ
หลินเซียงขมวดคิ้วเขาหมายความว่ายังไง?ทั้งสั่งบอดี้การ์ดมาขวาง ทั้งไม่ยอมรับโทรศัพท์ แต่ตอนนี้กลับเข้ามาเบียดกับเธอในลิฟต์?หลินเซียงหยุดนิ่ง ตั้งท่าจะเดินออกไป“ไปไหน?”เสียงทุ้มเย็นชาของลู่สือเยี่ยนดังขึ้นหลินเซียงพูด “ไม่อยากอยู่ในที่เดียวกันกับถังขยะ”ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วทันที บรรยากาศอันตรายเริ่มแผ่กระจายไปทั่วลิฟต์แคบ ๆ เขาเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดประตู ประตูลิฟต์ถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว หลินเซียงอยากจะออกไป แต่ก็สายไปแล้วหลินเซียงมองเขาอย่างไม่พอใจ ยืนอยู่ตรงมุมลิฟต์ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความห่างเหินและรังเกียจก่อนหน้านี้เป็นเขาที่ไม่อยากเจอเธอตอนนี้เป็นเธอที่ไม่อยากอยู่ใกล้เขาน่ารำคาญสิ้นดีลู่สือเยี่ยนเหลือบมองสีหน้าเธอ ดวงตาดำขลับลึกล้ำมืดมน ทำให้มองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่เขาพูดเสียงเรียบ “หลักฐานล่ะ?”หลินเซียงพูด “ฉันส่งให้แล้ว”ลู่สือเยี่ยน “ผมปิดเครื่อง”หลินเซียงหัวเราะเยาะ “งั้นไม่คิดจะเปิดเครื่องหน่อยหรือไง?”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ก่อนจะถามขึ้นมาทันที “ตอนนี้ถ้ายื่นมีดให้คุณสักเล่ม คุณจะฆ่าผมให้ตายไหม?”ความเย็นชาในดวงตาของเธอชัดเจนมากทำให้เข
หลินเซียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดีเลย ถ้าอวิ๋นหลานเป็นคนอัดเสียงจริง นี่คือโอกาสที่ดีที่จะสอบถามอีกฝ่าย “ได้ค่ะ”อวิ๋นหลานถามว่า “ตอนนี้เธออยู่ไหน? เดี๋ยวฉันไปรับ”หลินเซียงบอกที่อยู่ของเธอ หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที รถคันหนึ่งก็ค่อย ๆ ขับมา เมื่อกระจกรถเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างดีของอวิ๋นหลาน“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่”หลินเซียงยิ้มอย่างสุภาพอวิ๋นหลานบอก “ขึ้นรถเถอะ”หลินเซียงเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถอวิ๋นหลานถามทันที “ทำไมสีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีเลย? ช่วงนี้พักผ่อนไม่เพียงพอหรือเปล่า?”หลินเซียงกล่าวว่า “เรื่องที่ลู่สือเยี่ยนถูกวางยาค่อนข้างกดดันฉันมาก ฉันเลยนอนไม่หลับค่ะ”อวิ๋นหลานออกความเห็น “จริง ๆ แล้ว ฉันก็ไม่ค่อยเชื่อว่าเธอจะทำเรื่องแบบนี้ แต่อาหารพวกนั้นเธอก็เป็นคนปรุงเอง ไม่แปลกที่คนอื่นจะสงสัย เธอไปแจ้งความแล้วใช่ไหม? เชื่อเถอะว่าตำรวจต้องหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอได้แน่”“ค่ะ”หลินเซียงพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีกเมื่อถึงร้านเสริมสวย ทั้งสองคนเข้าไปในห้องส่วนตัวตามที่ช่างแนะนำ หลินเซียงและอวิ๋นหลานขึ้นไปนอนบนเตียงอวิ๋นหลานถาม “สองวันนี้เธอได้ไปหาสือ
อวิ๋นหลานออกจากร้านเสริมสวยไปแล้ว ช่วงไม่กี่วันมานี้หลินเซียงพักผ่อนน้อยมาก เธอนอนลงบนเตียง ปล่อยให้ช่างนวดศีรษะ ก่อนที่เธอจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวพอตื่นขึ้นมาอีกที ท้องฟ้าก็มืดแล้วหลินเซียงออกจากร้านเสริมสวย และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมพร้อมจะเรียกรถตอนที่มาเธอไม่ได้สังเกต ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าร้านเสริมสวยแห่งนี้อยู่แถวชานเมือง เรียกรถยากมากหลินเซียงยืนอยู่ข้างทาง รออยู่นาน จนกระทั่งเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งขับมาอย่างช้า ๆ“ไปไหนครับ?”หลังจากขึ้นรถแล้ว คนขับก็ถามหลินเซียงตอบว่า “เฟิงหลินหย่วน”พูดจบ เธอก็ดูข้อความในโทรศัพท์ ซ่งซ่งส่งข้อความมาบ่นเรื่องฟู่จิ่นซิ่วแต่ข้อความสุดท้าย ทำให้หลินเซียงเลิกคิ้วขึ้นซ่งซ่ง [ที่รัก เธอมีแอคเคาท์วีแชทที่ไม่ได้ใช้ไหม?]หลินเซียง [จะเอาไปทำอะไร?]ซ่งซ่ง [ไอ้เวรนี่มันรังแกฉันขนาดนี้ ถ้าฉันไม่แก้แค้นก็ไม่ใช่คนแซ่ซ่ง ถ้าได้แอคเคาท์วีแชทเมื่อไหร่นะ รอดูละครหลังข่าวได้เลย!]หลินเซียง [อย่าทำอะไรที่มันเกินเลยล่ะ ถ้าทำให้เขาโกรธ เธอก็จะเดือดร้อนซะเอง]ซ่งซ่ง [สบายใจได้ ฉันมีสติครบถ้วน]หลินเซียงตอบ “อืม” แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเธอส่งหลักฐานเรื
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?