บทที่12.เธอเป็นของฉัน!
หญิงสาวนอนหอบหายใจแรงๆ จนเนินอกอิ่มกระเพื่อมไหว เปลือกตาหลับพริ้มไม่ใช่เพราะหมดแรง แต่เพราะละอายใจเกินกว่าจะทนสู้สายตาวาววับของผู้ชายใจร้ายคนนั้นได้
แมทธิวพลิกตัว ทิ้งตัวลงนอนด้านข้าง เขานึกชอบใจความกว้างของโซฟาตัวนี้ ก็เวลานี้นั่นเอง
ชายหนุ่มสอดมือรองใต้ศีรษะ เขาพาดเรียวขาตนเองไว้บนร่างกายของหญิงสาว เนินนางชุ่มน้ำที่มองเห็น ทำให้เลือดในกายเริ่มเต้นพล่านอีกครั้ง หมอนใบอิงใหญ่แมทธิวจับโยน ปิดความเย้ายวนนั่น เพราะไม่อย่างนั้น เขาคงได้กลายร่างเป็นหมาป่าบ้ากามอีกครั้ง
“ออกไปค่ะ!” หญิงสาวกลั้นใจพูด ยกมือดันเรียวขาแข็งแรงที่มีเส้นขนยุบยับด้วยความรังเกียจ
“ก่อนหน้านี้ไม่เห็นไล่” ชายหนุ่มเกร็งตัว เขากดเรียวขา จนหล่อนไม่สามารถปัดออกไปได้
“หึ!” อลิชากระแทกเสียใส่ เธอยกมือกอดอกแน่น พลิกร่างกายตะแคงข้างให้ เมื่อทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะคนแรงเยอะกว่า กักการหนีทุกทาง
มือร้อนระอุไล้ช่วงโค้งของสะโพกผายเล่นแบบคนกำลังละเมอ...
แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้เด็กจนไม่รู้จักวิธีป้องกัน...มีหลายวิธีที่ช่วยไม่ให้ตนเองประสบปัญหาแบบเดิมซ้ำ ก่อนอื่น...เธอต้องไปจากตรงนี้...หญิงสาวกวาดตามองหาตัวช่วย เมื่อทั้งเนื้อทั้งตัวไร้อาภรณ์ปิดกาย...เสื้อเชิ้ตผู้ชายตัวใหญ่พอให้กันอุจาด แต่เธอจะหลบตาสายคนอื่นยังไงพ้น เมื่อกว่าจะไปถึงชั้นล่างได้ ต้องผ่านใครต่อใครอีกตั้งมากมาย อลิชาเม้มปาก ขบคิดหาทางรอด ขณะที่มือเร่งกลัดกระดุมเสื้อจนมือพันกัน“เธอจะสิงอยู่ในห้องน้ำหรือไงหะ?” เสียงคนด้านนอกตะโกนเร่งหญิงสาวพึมพำด่า ค้อนให้ชายหนุ่มประหลำประเหลือก“เธอด่าผมอยู่ล่ะสิ” แมทธิวกล่าวเหมือนเข้าไปนั่งอยู่กลางใจอลิชาริมฝีปากอิ่มบิดเบ้ “ชิ!” เสียงจิปากดังเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนกายออกมาจากด้านใน“ฮ่าๆ” ชายหนุ่มหงายหน้าหัวเราะลั่น อลิชาเดินออกมายืนกระมิดกระเมี้ยน หล่อยฉวยเสื้อเชิ้ตของเขามาสวมทับร่างกายเปลือยเปล่า เหมือนเด็กน้อยขโมยเสื้อผู้ปกครองมาใส่ยังไงยังงั้นเลย เมื่อขนาดตัวเสื้อ ผิดกับรูปร่างผู้สวม ชายเสื้อเลยถึงเข่า มันดูเซ็กซี่วายร้าย จนเขานึกอยากจ
หญิงสาวค้อมตัวลง ไม่ได้ปริปากพูด เพราะน้ำตาอาจจะรินไหลออกมาประจานความอ่อนแอของตนเอง เธอต้องการแบบนี้นี่ ต้องการให้เขาชิงชังรังเกียจ จากนี้ไป...แมทธิวคงไม่มาวุ่นวายซ้ำ สิ่งที่เธอควรทำ คือการไปจากที่นี่ ให้เร็วที่สุด ก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินแก้ ร่างบางขยับห่างไปอีกทาง แมทธิวเห็นหล่อนสวมเสื้อผ้าชุดนั้นมือไม้สั่น หล่อนจากไปเงียบๆ โดยไม่มีคำต่อว่า ไม่มีคำตัดพ้อ และไม่เรียกร้องอะไรเลย...ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่ง เขายกมือขึ้นคลึงข้างขมับ สิ่งที่ต้องการก็ได้มาแล้ว ไม่น่ามีอะไรติดค้างอีก เขาอยากลิ้มรสหล่อนซ้ำ อีกครั้ง ก็สมใจอยาก...แล้วทำไมล่ะ? ทำไม!!? ยังคอยพะวงถึงหล่อน มีอะไรที่เขายังไม่ได้จากหล่อนอีกเหรอ?บทที่13.หนี้เสน่หาหญิงสาวจัดการตัวเองจนดูไม่น่าเกลียดเกินไป แม้เสื้อผ้าที่ใส่อยู่จะยับย่น แต่คงไม่มีใครสังเกตเห็น อลิชาเดินหน้าเฉยไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง มีเพื่อนร่วมงานบางคนเงยหน้ามอง ก่อนจะหมดความสนใจ เมื่อหญิงสาวไม่มีพิรุธ เธอรีบฉวยกระเป๋าสะพายคล้องหัวไหล่ เอื้อมมือปิดคอมพิวเตอร์ส่วนตัว และเ
อลินดากระตุกมือมารดา หล่อนเห็นตัวอักษรย่อ BL บนชุดยูนิฟอร์มของหญิงสาวตรงหน้า บริษัทชั้นนำที่ใครต่อใครก็ปรารถนาอยากเป็นส่วนหนึ่ง ไม่คิดว่าคนที่ตนเองเสือกไสไปนั้น จะได้ดีขนาดนี้“มันไปอยู่ที่ไหนมา?” ฉลวยรำพึง...มองสำรวจเด็กในปกครองตั้งแต่หัวจรดเท้า ความเปลี่ยนแปลงที่เห็น มีแต่สิ่งดีๆ ส่งเสริมให้อลิชาดูสูงส่งขึ้น ไม่ใช่ลูกจ้างกระจอกๆ ในร้านอาหารริมทางเหมือนเมื่อก่อน“ไม่รู้สิคะ แต่มันเข้า BL ได้ยังไง ที่นั่นเขารับแต่วุฒิปริญญาตรีขึ้นนะแม่”อลินดาเปรยลอยๆ คิ้วโก่งขมวดเป็นปม เมื่อก่อนที่อลิชาจะจากไป หล่อนจบแค่ชั้นมัธยมปลาย ไม่มีวุฒิการศึกษาสูงขนาดนั้น“เข้าไปทักมันกันยัยอลิน” ฉลวยทนเก็บความกังขาไว้ไม่ไหว อยากรู้ว่าอลิชาจะทำหน้ายังไง หากพบเจอกันอีกครั้ง“ไงยะ! ... แม่อลิส ไปซุกหัวนอนอยู่ที่ไหน ได้ดีแล้วลืมคนให้ข้าวให้น้ำกินหรือไงยะ?”เสียงแหลมปรี๊ด! กับการปรากฏตัวของคนเคยรู้จัก อดีตเป็นผู้มีพระคุณ แต่บุญคุณนั่นเธอทดแทนด้วยความสาวของตัวเองไปแล้วสีหน้าอลิชาเผือดซีดลง เธอรีบเก็บอาการ ยกมือขึ้นปร
อลินดากล่าวเสียงกระฟัดกระเฟียด เขย่งปลายเท้ามองหาคู่อริ แต่หล่อนกลับหายไปท่ามกลางกลุ่มคน“ขืนด่ามันต่อ มันหลุดปากออกมาว่าเราทำระยำกับมันไว้ เรามิซวยหรือไงลูก”ฉลวยเอ็ดเบาๆ นางมองซ้ายมองขวา ป้องปากกระซิบกับบุตรสาว “แม่เห็นกฎหมายใหม่คุ้มครองผู้หญิงที่ถูกกระทำ หากอีอลิสมันโวย เราได้กินข้าวแดงในคุกแน่ๆ”กฎหมายยังคงความศักดิ์สิทธิ์...คนส่วนใหญ่สนับสนุนให้ใช้โทษสูงสุด สำหรับการลงโทษ...ฉลวยไม่ได้กลัวกฎหมาย แต่ฉลวยกลัวความลำบาก...หากนางถูกลงโทษ นางขอตายดีกว่า การเดินเข้าไปอยู่ในกลุ่มนักโทษรถเมล์สายเดิมวิ่งด้วยความเร็วคงที่ เมื่อการจราจรบนถนนยังคลาคล่ำไปด้วยยวดยาน...แสงไฟข้างทางเริ่มส่องสว่างเมื่อแสงสุริยาที่ให้ความสว่างบนพื้นโลก เริ่มลาลับจากขอบฟ้า อลิชาถอนลมหายใจแรงๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลง ไม่คิดว่าโลกจะแคบขนาดนี้ ขนาดเธอระวังตัวอย่างดี ไม่เคยเฉียดเข้าไปใกล้ถิ่นที่อยู่ของครอบครัวฉัตรสุวรรณ แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่ง หลังผ่านไปหลายปี คนคุ้นเคยกลับโคจรมาเจอกันได้ โดยที่สองคนนั้น... กลับไม่สำนึกในส
ฉลวยแก้ตัวแบบขอไปที หล่อนเองก็จนปัญญา ไม่รู้จะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใครอื่นอีก เมื่อแต่ละคนที่ยืมมา นางก็ยังไม่เคยได้ชดใช้คืน ยืมมาโป๊ะดอกสายหยุดที่ไม่มีทีท่าจะลดลงเลย“เห็นจะไม่ได้ ยิ่งนานก็ยิ่งเป็นดินพอกหางหมู วันนี้ถ้าได้ไม่ครบ... แม่หลวยจะมาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะ” สายหยุดกล่าวเสียงกร้าว ดวงตายาวรีตวัดผ่านหน้าฉลวยไป จนเจ้าหล่อนสะดุ้ง!“ฉันวิ่งหาจนทั่ว ได้มาเท่านี้แหละ...เห็นใจฉันเถอะคุณนาย”ฉลวยคอตก แววตาอำมหิตนั่น ไม่ใช่สิ่งลวงตา สายหยุดเหี้ยมโหดจนลูกหนี้ขยาด นางพูดจริง ทำจริง...“ฉันเห็นใจแม่หลวยไง...แต่ว่า...มันก็ต้องเป็นไปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ แม่หลวยรับปากฉันแล้วทำไม่ได้อย่างที่พูด ฉันก็ต้องทำตามวิธีของฉัน”เจ้าหนี้ใจโหดกล่าวเสียงนิ่มๆ แต่ความหมายนั้น โหดเหี้ยมเกินพรรณนา“ฉันไม่มีอะไรให้คุณนายหรอก ที่เห็นนี่ก็ของปลอมทั้งนั้น”สร้อย แหวนที่สวมติดร่างกาย ไม่มีสักชิ้นที่เป็นของจริง เธอซื้อหามาเพื่อหน้าตาตนเอง จะให้คนนอกรู้ไม่ได้ว่าภายในกลวงโบ๋!“ฉันดูออกจ้ะ... ฉันไม่
บทที่14.ตกบันได เสร็จโจร!!แมทธิวสะดุ้งตื่นขึ้นมาเกือบเที่ยง ชายหนุ่มเหลียวมองด้านข้าง ที่ตรงนั้นมีใครบางคนนอนหลับสนิทอยู่ ใบหน้าหล่อนจมหายลงไปในหมอนนุ่มเกือบครึ่ง แต่โครงหน้านั้น ทำยังไงก็ไม่มีวันลืม มุมปากสีเข้มมีรอยยิ้ม เขาลดสายตาลงต่ำมองสำรวจตัวเอง ก่อนจะกระตุกยิ้ม!!ด้านบนของลำตัวของเขาไร้อาภรณ์ติดกาย โชคดีอยู่หน่อย ต่ำกว่าสะดือยังมีบ็อกเซอร์ลายสก็อตติดสะโพกอยู่ชายหนุ่มวาดปลายเท้า ก้าวลงจากเตียงนอนหนา เขากึ่งเดิน กึ่งย่อง ตรงไปยังประตูหน้าห้อง ลองขยับลูกบิดประตูดูล็อก!แมทธิวถอยหลังกลับมานอนเหยียดยาวที่เดิม เขาพลิ้มเปลือกตาหลุบลง พร้อมกับประตูที่ถูกล็อก ถูกดันให้เปิดออกพอดี...“ว้าย! อะไรกันนี่ คุณไทคะ มาดูอะไรนี่เร็ว!”เสียงน้ำอิงร้องตะโกนลั่น!! หล่อนส่งเสียงวี๊ดว้ายเรียกหาสามี ชายหนุ่มปรือตามอง เขารีบตวัดอลิชาเข้ามาอยู่ในวงแขน ซุกใบหน้าแนบทรวงอกอิ่ม พร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเสียงฝีเท้าวิ่งกรูตรงมาทางทิศนี้“อะไร! เกิดอะไ
ไทธัชแอบอมยิ้ม ไอ้ที่แมทธิวยอมง่ายๆ เพราะกลัวเสียชื่อนั่นเอง เสือผู้หญิงนอนเป็นหุ่นปูนปั้น จับพลิกซ้ายพลิกขวายังไม่รู้สึก กับผู้หญิงที่อวบอัดไปทั้งตัว เขาทำได้แค่...นอนมอง...ใครรู้เขา ชื่อเสียงคงป่นปี้ แต่อะไรก็ตามที่ทำให้แมทธิวสมยอม ไทธัชภาวนา... พระเจ้าคงไม่ใจร้ายเกินไป เพราะอลิชาทนทุกข์มานาน ผู้หญิงน่าสงสารคนนั้น ควรมีความสุขสักที ในเมื่อแมทธิวเป็นคนป้ายรอยราคีไว้บนร่างกายอลิชา เขาควรต้องรับผิดชอบผลพวงในเหตุการณ์ครั้งนั้น รณฤทธิ์จะได้มีพร้อมทั้งพ่อและแม่“แต่...”“เอาไงก็ว่ามาเลยไอ้ไท อย่ามาโยก?”แมทธิวหันไปหาเพื่อนหนุ่มไม่ได้สนใจผู้หญิงข้างตัว เสียงพึมพำไม่ได้ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แมทธิวอยากรู้เหมือนกัน ไอ้ตัวเจ้าแผนการ มันจะทำยังไงต่อ...“ไม่อะไรหรอกไอ้คุณเพื่อน...แค่ขอให้คุณรับผิดชอบสิ่งที่ทำ...ตามประสาลูกผู้ชาย ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายนะแมท ผู้ชายทั้งแท่ง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ... ยังไงละก็เมตตาอลิสด้วยล่ะ...อย่าใจร้ายนักเลยว่ะ”มองตากันตามประสาผู้ชาย แมทธิวไม่ได้เป็นคนโหดร้าย เพียงแ
อลิชาไม่ได้ตอบในทันใด เธอเดินไปหย่อนบุตรชายไว้กลางเตียงนอน รณฤทธิ์ผวาเข้าหาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนนุ่มฟู เขาหมดความสนใจมารดา เมื่อมีของเล่นถูกใจ“เรื่องมันยาวค่ะป้า ว่าแต่ป้าไม่ได้อยู่บ้านฉัตรสุวรรณแล้วเหรอคะ?”หญิงสาวจูงมืออดีตคนในบ้านฉัตรสุวรรณ เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาปลายเตียง“ออกนานแล้วล่ะค่ะ...อีคุณนายมันไม่ยอมจ่ายค่าแรง...ค้างหลายเดือนจนทนไม่ไหว! ติ๋มต้องกินต้องใช้น่ะค่ะ เลยกระเสือกกระสนมาหางานทำ ได้มาทำงานที่นี่ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ คุณแมทเธอไม่จุกจิก...ทำงานตามหน้าที่ รับเงินเดือนเต็มร้อย...”“ลุงสบายดีมั้ยคะ?” อลิชาเลี่ยงที่จะถามถึงสมาชิกในบ้านฉัตรสุวรรณคนอื่น เมื่อความเจ็บปวดยังไม่จางหายไป“คุณภพเธอก็อยู่ตามอัตภาพ เธอไม่รู้หรอกว่าเมียกับลูก ทำระยำตำบอนยังไงบ้าง...พูดแล้วยังแค้นไม่หาย...ติ๋ม ลาออกมานี่ เงินซักแดงยังไม่ได้เลยค่ะ”อลิชานิ่วหน้า...ฐานะของฉลวยไม่ได้อัตคัดถึงขนาดเงินขาดมือ จนต้องค้างค่าแรงลูกจ้าง...เกิดอะไรกับสภาพคล่องทางการเงินของคนบ้านนั้น“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม แมทธิวเดินตรงมายังรถยนต์ประจำตำแหน่ง เขาปรายตามองสภาพรถยนต์คันเก่งด้วยความรู้สึกคันยิบๆ ในใจ ผีบ้าตนไหนเข้าสิงเขา ถึงได้บ้าดีเดือด ขับรถกลับบ้านในสภาพที่ไม่พร้อม แต่ก็ไม่ยักเป็นอันตราย“เอาไปให้ไกลๆ ตากูเลยนะ เห็นแล้วจี๊ด!”ชายหนุ่มเปรยเสียงเคร่งกับการ์ดคู่ใจเขามุดเข้าไปนั่งตอนหลังรถยนต์ พยายามตีหน้านิ่งๆรถยนต์กำลังจะออก แต่ใครบางคนเดินตรงมาหาเสียก่อน“เดี๋ยว!” ชายหนุ่มตบเบาะให้สัญญาณ เขาเปิดประตูด้านข้าง ก้าวลงไปยืนรอคนที่พยายามเดินเข้ามาหา“ป้อๆ”รณฤทธิ์นั่นเอง เด็กชายส่งเสียงเรียก มือป้อมๆ โบกไปมา และยิ้มแฉ่ง จนคนรอบๆ พลอยยิ้มตามไปด้วย“ห้ามทำน้ำลายหกเลอะเสื้อฉันนะเว้ย!” แมทธิวออกตัว แต่ก็ยังช้อนอุ้มเด็กชายขึ้นมาจากพื้นอยู่ดี“ฮาร์ทไปล่วยๆ”สิ่งที่เด็กชายร้องขอ แมทธิวทำหน้ายุ่ง เขามองเลยไปทางด้านหลัง อลิชาเดินตามมาหางๆ ผิวแก้มหล่อนแดงก่ำ จนมองเห็นแต่ไกล แมทธิวอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง เขากดปลายจมูกกับแก้มยุ้ยๆ ของเด็กชายในอ้อมแขน แสร้
บทที่16.ยอมหรือไม่ยอมก็มีค่าเท่ากันแหละ...“ถามหน่อยเถอะ?” แมทธิวกล่าวเสียงหงุดหงิด เมื่อจบภารกิจฟิชเชอร์ริ่ง! อลิชามีทีท่าเศร้าสร้อย ประหนึ่งเธอโดนเขาข่มเหง ทั้งที่ช่วงเวลานั้นก็เข้าขากันดี “เธอจะยอมผมดีๆ ไม่ได้เหรอ ชอบซาดิสต์ไง? ถึงได้ต้องให้ออกแรงทุกที!”หญิงสาวตวัดตาใส่ เรียวปากเม้มแน่น ไม่ได้เอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่แววตัดพ้อที่ฉายผ่านดวงตาออกมา แมทธิวพอมองออก“บอกเลยนะ จำไว้ด้วยล่ะ เธอจะยอมหรือไม่ยอม มันก็มีค่าเท่ากัน อย่าลืมสิ เธอมาที่นี่เพราะอะไร?”ชายหนุ่มเปรยเสียงเฉยชา...สาเหตุที่อลิชาต้องมาพำนักที่นี่ ก็เพราะอุบัติเหตุบนเตียงที่เกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของคนทั้งบ้าน ในเมื่อไอ้เพื่อนยากอยากให้เขารับผิดชอบผู้หญิงคนนี้ แมทธิวเต็มใจรับ แต่ก็ขอใช้หล่อนให้คุ้มค่า เมื่ออิสระถูกพรากจากตัว ก็ต้องได้สิ่งที่สมน้ำสมเนื้อกลับคืนมาด้วย“อลิสยอมมาที่นี่ เพราะไม่อยากให้คุณไท กับคุณอิงลำบากใจ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมาข่มเหงอลิสได้นี่คะ”
อลิชาแอบอมยิ้ม เธอแสร้งหลับนิ่งไม่ไหวติง“นอนก็นอนวะ!” เสียงพึมพำดังเบาๆ ร่างใหญ่หนา เอนตัวลงนอน ไม่วายรั้งเธอเขาไปสวมกอดไว้หลวมๆ“เธอมันยัยแม่มดชัดๆ” เสียงบ่นงึมงำ แล้วก็ค่อยๆ เงียบลงหญิงสาวระบายลมหายใจแผ่วๆ รอจนแน่ใจว่าแมทธิวหลับสนิท นอนฟังเสียงลมหายใจของเขา จนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ จึงค่อยๆ ดึงมือที่พาดผ่านช่วงเอวออก กระถดตัวลงจากเตียงนอนช้าๆ รีบไปควานหาเสื้อผ้ามาสวมบนร่างกาย เธอทนนอนทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าไม่ไหวจริงๆ แม่ลูกหนึ่งเดินกลับมาอีกครั้ง หลังใส่ชุดนอนชุดใหม่บนร่างกายเรียบร้อย เธอเอนตัวลงนอนอีกฝั่ง รั้งบุตรชายมากอดไว้แนบอก เพื่อใช้เขาเป็นหลักประกัน แมทธิวจะได้ไม่ถือโอกาสลวนลามตอนเธอหลับ จนเผลอหลับไปในเวลาต่อมา...เสียงนกร้องจุ๊บจิ๊บอยู่ที่หน้าต่างหัวเตียง...อลิชาหยีตา แสงแดดส่องต้องใบหน้า เธอตื่นสายโด่งเป็นครั้งแรก...ร่างบางทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง รีบมองหาบุตรชาย แต่บนเตียงว่างเปล่า ไร้บุตรชายที่เป็นยอดดวงใจ“ฮาร์ทๆ ฮาร์ทอยู่ไหนลูก?”เธอป้องปากร้องเรียกหา...ก
แมทธิวกลั้นความต้องการอันมากล้นของตนเองไว้ในอก เขาแช่ตัวนิ่งๆ ขยับร่างกายทีละน้อยๆ ทั้งๆ ที่อยากถาโถมเข้าใส่แบบสุดแรงเกิดอลิชาสูดลมหายใจลึกๆ เธอผ่อนคลายความตึงเครียด พยายามไม่ใส่ใจสิ่งแปลกปลอมที่คืบคลานเข้ามาในร่างกาย เปลือกตาพลิ้มหลับลง กัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยใจไปกับกระแสธารที่เชี่ยวกราก ไม่พยายามฝืน เพราะนั่นจะทำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิมริมฝีปากหนาอ้าครอบเม็ดทับทิมสีระเรื่อ เขาดูดดื่มทรวงงามแรงๆ จนหญิงสาวครางลั่น กลไกธรรมชาติปรับตัวแบบอัตโนมัติ น้ำหวานฉ่ำเยิ้มถูกกลั่นออกมาจากซอกลึกลับ หล่อชโลมแก่นกายขึงขังจนชุ่มโชก แมทธิวทดลองเคลื่อนกายช้าๆ ความคับแน่นไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป เมื่อส่วนนั้นชุ่มโชกไปด้วยละอองปรารถนาชายหนุ่มเริ่มโถมเข้าใส่ มือแข็งแรงรั้งเอวคอดกิ่ว กระแทกอัดกับตัวตนแรงๆพรึ่บ! พรึ่บ!เสียงผิวกายเปียกเหงื่อกระแทกใส่กันดังก้องห้องนอนกว้าง เสียงครางคร่ำแผ่วพร่า ที่ระดับความดังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แมทธิวสูดปาก ครางเสียงแหบห้าว เขาเร่งความเร็วมากขึ้น พอๆ กับเพิ่มแรงโยกจนเรือนกายอวบอิ่มกระเพื่อมไหวทั้งลำตัว ชายหนุ่มโ
โหนกแก้มแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ยืนยังยืนไม่อยู่ แต่ก็ยังมีแรงบีบบังคับเธอจนได้“อลิสไม่เลือก...ขออยู่ห่างๆ คุณสะดวกใจกว่า”หญิงสาวเชิดหน้าตอบ“เสียใจอลิชา...เธอเลือกไม่ได้ ไม่ว่าจะเมีย หรือนางบำเรอ หน้าที่ของเธอ คือการนอนกับผม!”ชายหนุ่มตะคอกกลับ เขาเดินเอียงไปเอียงมา ก่อนจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาว จนล้มกลิ้งไปด้วยกันทั้งคู่ บนที่นอนหนาและกระเพื่อมเหมือนระลอกคลื่น“อืม...” เสียงทุ้มต่ำครางในลำคอ ปลายจมูกซุกอยู่ตรงแอ่งชีพจร กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ระเหยออกมาจากผิวกายนวลเนียน ทำให้แมทธิว หมดความยับยั้งชั่งใจปลายลิ้นสากและร้อน แลบออกมาเลาะเล็มผิวเนื้อชื้นเหงื่อ เขาตวัดปลายลิ้นเบาๆ จนคนใต้ร่างสะดุ้ง! มือของเธอพยายามดันลำตัวหนาหนักที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮออล์ออกไปให้พ้น แต่แมทธิวเกร็งตัวไว้ เขาจูบดะไปทั่ว เร่งปลุกกระแสความกระสัน ก่อนที่ตนเองจะหมดแรงความเสียวซ่านก่อตัวทีละน้อย เป็นเหมือนคลื่นลมเบาๆ ที่พัดเข้าหาฝั่ง ก่อนจะทวีอานุภาพความแรงขึ้น จนแม้แต่หาดทรายเรียบกริบ ยังแทบจะล่มสลาย
พอเอาเข้าจริงๆ อุตส่าห์ยกเลิกการประชุม ยกเลิกนัดกับลูกค้า ยกเลิกนัดกับสาวโสภาที่กำลังคั่ว! แมทธิวกลับไม่กล้ากลับไปที่คฤหาสน์ไบเล่ย์ เขาหาข้ออ้างให้ตัวเองไม่ได้ และกลัวว่าอลิชาจะวางตัวไม่ถูกชายหนุ่มมาหมกตัวอยู่ที่ผับชั้นสูงแห่งหนึ่ง เขาดื่มบรั่นดีย้อมใจ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่กล้า...สามชั่วโมงที่ทนกระวนกระวาย จนแอลกอฮอลล์ เข้าไปแทนที่เลือดเกือบทุกพื้นที่ มันคงเต็มที่จนความกลัวหายไปจนหมด“เช็กบิลด้วยไอ้น้อง!” เสียงอ้อแอ้ร้องสั่งบริกรที่เดินผ่านไปมา บัตรเครดิตสีดำถูกยื่นส่งให้ ก่อนจะกระดกบรั่นดีแก้วสุดท้าย สาดหายไปในลำคอ ชายหนุ่มเดินโงนเงน คลำทางไปจนถึงรถยนต์คันหรู พาหนะยี่ห้อหรู และมีได้เฉพาะคนกระเป๋าหนักเท่านั้นชายหนุ่มถอยรถยนต์ ขับเคลื่อนออกจากที่ ด้วยสติที่ไม่เต็มร้อย ความมึนเมาทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ ชายหนุ่มเสยกระจังหน้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง แต่ก็ยังพาพาหนะสุดหรู กลับมาถึงคฤหาสน์หลังงาม โดยที่คนขับไม่ถูกรถบรรทุกเสยเอาไปกินเสียก่อนแต่...กระถางต้นไม้ราคาแพง ที่ตั้งอยู่ตามสองข้างทางถูกเสยเรียบ...คนงานส่ายศีรษะ
บทที่15.อยากเป็นอะไรล่ะ เมีย หรือ นางบำเรอ?ในขณะที่อลิชากำลังปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ เจ้าของบ้านหลังมหึมากลับกำลังคร่ำเคร่งกับงานมากมายที่กองท่วมหัว เขาหงุดหงิดเป็นครั้งแรก! นับตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่แทนบิดา ชายหนุ่มเริ่มเบื่อที่งานมีมากมายก่ายกองจนทำแทบไม่ทัน แฟ้มเอกสารกองจนเกือบล้นโต๊ะ เอกสารด่วนที่เมื่อก่อนแมทธิวชอบตรวจทาน เวลานี้ชายหนุ่มนึกอยากจะโยนงานเหล่านี้ ให้คนอื่นๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเองบ้าง เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับใครบางคน“อันนี้ผมต้องดูด้วยเหรอ? หัวหน้าแผนกนั้นไม่มีหรือไง?”เสียงเข้มๆ ตวาดลั่น แฟ้มงานสีดำหนาเตอะถูกเหวี่ยงจนกระเด็น ตามด้วยแฟ้มงานอีกหลายแฟ้มที่ CEO หนุ่มโยนตามมาติดๆ“เออ...” สุเมธการ์ดหนุ่มกึ่งเลขานุการ ทำหน้าพิกล...เขามองเจ้านายหนุ่ม สลับกับแฟ้มเอกสารในมือ...ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะโครงการเล็ก หรือใหญ่ แมทธิวขอมีเอี่ยวด้วยตลอด เขาอยากเห็นความคืบหน้า แต่เวลานี้เจ้านายกลับรำคาญ“ต่อไปนี้ อะไรที่ไม่สำคัญ ให้เขาตัดสินใจกัน
อลิชาไม่ได้ตอบในทันใด เธอเดินไปหย่อนบุตรชายไว้กลางเตียงนอน รณฤทธิ์ผวาเข้าหาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขนนุ่มฟู เขาหมดความสนใจมารดา เมื่อมีของเล่นถูกใจ“เรื่องมันยาวค่ะป้า ว่าแต่ป้าไม่ได้อยู่บ้านฉัตรสุวรรณแล้วเหรอคะ?”หญิงสาวจูงมืออดีตคนในบ้านฉัตรสุวรรณ เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาปลายเตียง“ออกนานแล้วล่ะค่ะ...อีคุณนายมันไม่ยอมจ่ายค่าแรง...ค้างหลายเดือนจนทนไม่ไหว! ติ๋มต้องกินต้องใช้น่ะค่ะ เลยกระเสือกกระสนมาหางานทำ ได้มาทำงานที่นี่ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์ คุณแมทเธอไม่จุกจิก...ทำงานตามหน้าที่ รับเงินเดือนเต็มร้อย...”“ลุงสบายดีมั้ยคะ?” อลิชาเลี่ยงที่จะถามถึงสมาชิกในบ้านฉัตรสุวรรณคนอื่น เมื่อความเจ็บปวดยังไม่จางหายไป“คุณภพเธอก็อยู่ตามอัตภาพ เธอไม่รู้หรอกว่าเมียกับลูก ทำระยำตำบอนยังไงบ้าง...พูดแล้วยังแค้นไม่หาย...ติ๋ม ลาออกมานี่ เงินซักแดงยังไม่ได้เลยค่ะ”อลิชานิ่วหน้า...ฐานะของฉลวยไม่ได้อัตคัดถึงขนาดเงินขาดมือ จนต้องค้างค่าแรงลูกจ้าง...เกิดอะไรกับสภาพคล่องทางการเงินของคนบ้านนั้น“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ไทธัชแอบอมยิ้ม ไอ้ที่แมทธิวยอมง่ายๆ เพราะกลัวเสียชื่อนั่นเอง เสือผู้หญิงนอนเป็นหุ่นปูนปั้น จับพลิกซ้ายพลิกขวายังไม่รู้สึก กับผู้หญิงที่อวบอัดไปทั้งตัว เขาทำได้แค่...นอนมอง...ใครรู้เขา ชื่อเสียงคงป่นปี้ แต่อะไรก็ตามที่ทำให้แมทธิวสมยอม ไทธัชภาวนา... พระเจ้าคงไม่ใจร้ายเกินไป เพราะอลิชาทนทุกข์มานาน ผู้หญิงน่าสงสารคนนั้น ควรมีความสุขสักที ในเมื่อแมทธิวเป็นคนป้ายรอยราคีไว้บนร่างกายอลิชา เขาควรต้องรับผิดชอบผลพวงในเหตุการณ์ครั้งนั้น รณฤทธิ์จะได้มีพร้อมทั้งพ่อและแม่“แต่...”“เอาไงก็ว่ามาเลยไอ้ไท อย่ามาโยก?”แมทธิวหันไปหาเพื่อนหนุ่มไม่ได้สนใจผู้หญิงข้างตัว เสียงพึมพำไม่ได้ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แมทธิวอยากรู้เหมือนกัน ไอ้ตัวเจ้าแผนการ มันจะทำยังไงต่อ...“ไม่อะไรหรอกไอ้คุณเพื่อน...แค่ขอให้คุณรับผิดชอบสิ่งที่ทำ...ตามประสาลูกผู้ชาย ผมเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายนะแมท ผู้ชายทั้งแท่ง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ... ยังไงละก็เมตตาอลิสด้วยล่ะ...อย่าใจร้ายนักเลยว่ะ”มองตากันตามประสาผู้ชาย แมทธิวไม่ได้เป็นคนโหดร้าย เพียงแ