Home / โรแมนติก / หนี้รักราชันสีเลือด / บทที่ 12 : มิอาจห้ามรัก

Share

บทที่ 12 : มิอาจห้ามรัก

Author: Luffy.g
last update Last Updated: 2024-11-26 01:29:30

บทที่ 12 : มิอาจห้ามรัก

ชิงอี้หรานนั่งอยู่ในสวนดอกไม้ที่งดงาม ต้นไม้นานาชนิดที่กำลังออกดอกสวยงามทำให้หญิงสาวดูเหมือนเทพธิดาท่ามกลางบุปผางาม แต่ในใจของหญิงสาวกลับเต็มไปด้วยความขมขื่นและความกังวล สายตาเลื่อนลอยเหม่อมองไปบนท้องฟ้าอย่างหม่นหมอง หลายวันมานี้ ชิงอี้หรานกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทำให้ร่างกายซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวรู้ว่าความรักระหว่างนางกับหนิงซีโย่วเป็นสิ่งที่บิดาของตนไม่สามารถยอมรับได้ทำให้ชิงอี้หรานแทบหมดอาลัยตายอยาก

พี่ชายทั้งสามที่รู้เรื่องการทะเลาะกันของบิดาและน้องสาวได้แต่กลัดกลุ้ม แม้จะพอรู้ว่าบิดาตนหวงและห่วงน้องสาวมากเพียงนั้น แต่ก็ไม่คิดว่าบิดาจะถึงขั้นลงไม้ลงมือกับน้องสาวเช่นนั้น ทั้งสามเดินเข้ามาหาน้องสาว ชิงหลงยกมือลูบศีรษะน้องสาวอย่างแผ่วเบา

“อี้หราน เจ้ากินขนมหนิวโหย่วถาสักหน่อยเถิด พี่จำได้ว่าเป็นของโปรดเจ้า พี่ให้พ่อครัวทำมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลยนะ” ชิงเฟยยื่นขนมเค้กน้ำมันเนื้อวัวให้น้องสาว หวังให้หญิงสาวได้กินอะไรเข้าไปบ้าง

“ข้าไม่หิว ท่านนำกลับไปเถิด” ชิงอี้หรานปฏิเสธโดยไม่มองเสียด้วยซ้ำ กลิ่นขนมหอมกรุ่น แต่ไม่อาจทำให้หญิงสาวเกิดความอยากอาหารได้

“หากเจ้า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 13 : แผนการของหนิงซีโย่ว

    บทที่ 13 : แผนการของหนิงซีโย่วยามเช้าตรู่ ณ ตำหนักไทเฮาที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบและสง่างาม แสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าตรู่ส่องผ่านต้นไม้ใหญ่น้อยที่ล้อมรอบตำหนัก ส่องแสงทองสว่างไสวทั่วบริเวณ สวนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หายากกำลังเบ่งบาน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูก น้ำพุเล็ก ๆ ในสวนส่งเสียงไหลเย็นสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย นกกระจิบน้อยร้องเพลงประสานเสียงทำให้บรรยากาศยิ่งสดชื่นและรื่นรมย์ตำหนักไทเฮาที่ยิ่งใหญ่และสง่างาม หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีเหลืองทอง ประดับด้วยลวดลายมังกรและฟีนิกซ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจ ประตูใหญ่ของตำหนักทำจากไม้แกะสลักประณีต ประดับด้วยโคมไฟสีแดงที่ห้อยลงมาต้อนรับแขกผู้มาเยือนภายในตำหนักเต็มไปด้วยความหรูหราและความอลังการ ห้องโถงใหญ่ประดับด้วยพรมแดงที่ปูเต็มพื้น ผ้าม่านผ้าไหมที่มีลวดลายวิจิตรบรรจง โคมไฟทองเหลืองประดับประดาทั่วห้องสร้างบรรยากาศที่สว่างไสวและอบอุ่น บัลลังก์ของไทเฮาตั้งอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่ ทำจากไม้หอมแกะสลักประณีต ปูด้วยเบาะผ้าไหมสีแดงและทองหนิงซีโย่วก้าวเดินผ่านประตูใหญ่เข้าไป บันไดหินอ่อนที่ทอดยาวมุ่งสู่ทางเข้าหลักของตำหนัก ชายหน

    Last Updated : 2024-11-26
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 14 : แผนการที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

    บทที่ 14 : แผนการที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างภายใต้ท้องฟ้าครามที่โอบล้อมด้วยความงามของพระราชวัง ฮ่องเต้ได้ลงนามในราชโองการพระราชทานสมรส และราชโองการนั้นถูกส่งไปยังจวนสกุลชิงอย่างรวดเร็ว ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงและความกังวลใจไปทั่วทุกมุมของจวนอัครเสนาบดีชิงหยวนเปา ภายหลังได้รับราชโองการ ชายชราก็นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ เขามองไปยังเอกสารที่มีตราประทับของฮ่องเต้ด้วยสายตาเคร่งเครียด ความคิดหลายประการผ่านเข้ามาในหัว "นี่มันเป็นไปไม่ได้! ฮ่องเต้ยอมให้สมรสระหว่างหนิงซีโย่วและอี้หรานจริงหรือ" เขาครุ่นคิดอย่างไม่สบายใจ ความสงสัยและความกังวลเพิ่มพูนขึ้นทันใดนั้น ขันทีในพระราชวังเข้ามาพร้อมกับประกาศ "ฮองเฮามีรับสั่งให้ท่านอัครเสนาบดีเข้าเฝ้าโดยด่วน" น้ำเสียงของขันทีแสดงถึงความเร่งด่วนชิงหยวนเปาพยักหน้ารับ ขมวดคิ้วเข้าหากัน "ข้าจะรีบเข้าเฝ้าทันที" ความรู้สึกหนักอึ้งเพิ่มขึ้นทุกก้าวที่เขาเดินไปยังตำหนักของฮองเฮาในพระตำหนักของฮองเฮา ความเงียบสงบถูกทำลายโดยเสียงฝีเท้าของขันทีที่เดินนำอัครเสนาบดีเข้ามา ฮองเฮายืนอยู่ตรงกลางห้องด้วยท่าทางที่แสดงถึงความเป็นผู้นำและความเคร่งขรึม "ใต้เท้าชิง ท่านรู้เรื่องนี้หร

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 15 : เค้าลางเริ่มเกิด

    บทที่ 15 : เค้าลางเริ่มเกิดณ ตำหนักฮองเฮา ความเงียบสงบถูกทำลายด้วยเสียงฝีเท้าของรัชทายาทหนิงหลานอิงที่เดินเข้ามา ภายใต้แสงเทียนที่ส่องสว่างพอประมาณ ฮองเฮายืนอยู่ตรงกลางห้อง ท่ามกลางความเคร่งขรึมและความคิดที่หนักหน่วง"เสด็จแม่" หนิงหลานอิงกล่าวขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "ข้าได้รับข่าวเรื่องการสมรสระหว่างหนิงซีโย่วและชิงอี้หราน ข้าไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร แล้วฝ่ายใต้เท้าชิงเล่าเหตุใดจึงเงียบเฉยไปเช่นนี้"ฮองเฮามองลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิด "ลูกข้า ข้าก็เองก็รู้สึกว่าเรื่องราวนี้ไม่ง่ายดายเช่นกัน ท่าทีที่ใต้เท้าชิงมี ข้าก็มิอาจหาประโยชน์แก่พวกเราได้ ข้าเกรงว่าพวกเราอาจจะอยู่เฉยเช่นนี้ไม่ได้แล้ว"หนิงหลานอิงขมวดคิ้ว พลางเดินเข้ามาใกล้ฮองเฮา "เสด็จแม่ หากข้าไม่ได้ครอบครอง ข้าเพียงหวังให้พวกมันย่อยยับ ข้าต้องการทำลายพวกมันให้สิ้น"ฮองเฮาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "เราต้องวางแผนการที่รอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดความสงสัย ข้าตัดสินใจจะวางยาฮ่องเต้ และบีบบังคับให้เขายอมมอบบัลลังก์ให้เจ้าซะก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป"หนิงหลานอิงหยุดคิดสักครู่ ก่อนจะกล่าวต่อไป "เรื่องนี้ ข้า..

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 16 : พายุก่อตัวฟ้าฝนตั้งเค้า

    บทที่ 16 : พายุก่อตัวฟ้าฝนตั้งเค้าข่าวการประชวรของฮ่องเต้สร้างความระส่ำระสายไปทั่วแคว้น ทั้งเมืองหลวงและต่างเมืองต่างเต็มไปด้วยข่าวลือและความไม่สงบ ฝ่ายขั้วอำนาจต่าง ๆ พากันเคลื่อนไหวทั้งเปิดเผยและคลื่นใต้น้ำ ความไม่แน่นอนในราชสำนักกระตุ้นให้เหล่าขุนนางและผู้นำตระกูลใหญ่ๆ ทั่วแคว้นต่างเร่งหาทางเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นภายในพระราชวัง ฮองเฮาตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่ ยึดอำนาจว่าราชการแทนองค์ฮ่องเต้ พระนางใช้โอกาสนี้เสริมสร้างอำนาจและอิทธิพลของรัชทายาทเพื่อให้เขาได้ครองบัลลังก์ การตัดสินใจของฮองเฮาทำให้เหล่าขุนนางบางส่วนรู้สึกไม่พอใจและหวาดระแวง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าต่อต้านอย่างเปิดเผย เนื่องจากเกรงกลัวอำนาจของพระนางฮองเฮาจัดประชุมเหล่าขุนนางในห้องโถงใหญ่ ความมืดของห้องถูกแทรกแซงด้วยแสงเทียนที่ส่องสว่างพอประมาณ ทำให้บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ขุนนางทั้งหลายต่างจับจ้องมาที่ฮองเฮาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล"ท่านทั้งหลาย" ฮองเฮากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งและเด็ดขาด "ในเวลานี้ องค์ฮ่องเต้ประชวรหนัก ไม่สามารถว่าราชการได้ ข้าและรัชทายาทจึงจำเป็นต้องเข้ามาดูแลและจ

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 17 : เมื่อทางเดินที่ต้องตัดสินใจเลือก

    บทที่ 17 : เมื่อทางเดินที่ต้องตัดสินใจเลือกภายในห้องทำงานของชิงหยวนเปา เสนาบดีผู้ทรงอิทธิพล ชายชราอันโดดเด่นด้วยบารมีและความเฉลียวฉลาด กำลังนั่งปรึกษากับบุตรชายทั้งสามของเขา ชิงหยาง ชิงเฟย และชิงหลง แต่ละคนต่างมีสีหน้าครุ่นคิดและเคร่งเครียด"เราจะทำเช่นไรดี ท่านพ่อ" ชิงหยางเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "สถานการณ์ในราชสำนักตอนนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ขณะนี้ฮองเฮาเข้าควบคุมราชสำนัก สกุลชิงยากจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าดังกล่าวได้"ชิงเฟย พยักหน้าเห็นด้วย "ข้ากังวลว่าแคว้นโย่วกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงซะแล้ว""แต่น้ำที่กำลังเชี่ยว หากพวกเราขวางเรือ ข้าไม่อาจคิดถึงผลลัพธ์นี้ไปได้เลย แล้วเรื่องของอี้หราน พวกเราควรทำเช่นใดกันดีเล่า" ชิงหลงเสริมชิงหยวนเปาถอนหายใจลึก เขามองหน้าลูกชายทั้งสามด้วยความหนักใจ "ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทั้งสามมีความกังวล ข้าเองก็กำลังหาทางออกเพื่อไม่ให้สกุลชิงต้องมีอันเป็นไปเช่นกัน"ชายชราหน้าตาหมองคล้ำ ทางที่ฮองเฮาเลือกเดินไม่อาจย้อนกลับได้ แต่หากเขาเข้าฝ่ายฮองเฮา แล้วอี้หรานบุตรสาวเขาเล่าจะทำเช่นไร แต่หากเลือกข้างหนิงซีโย่ว ไม่แน่ว่าภายภาคหน้าสกุลชิงคงต้องจบสิ้นกันเป็นแน่บ

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 18 : เรื่องราวได้แปรเปลี่ยนแล้วสิ้น

    บทที่ 18 : เรื่องราวได้แปรเปลี่ยนแล้วสิ้นณ ตำหนักฮองเฮา ฮองเฮามีท่าทีเคร่งขรึมในขณะที่หนิงหลานอิงกลับตื่นตระหนก เขาเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องด้วยความกระวนกระวายใจ พวกเขาระแวดระวังกับท่าทีของตระกูลชิงเป็นอันมาก และตระกูลชิงก็มีอิทธิพลมากพอจะเป็นภัยต่อแผนการของนาง"พวกตระกูลชิงจะต้องถูกกำจัด" ฮองเฮาประกาศเสียงดัง "พวกเขามีพลังและอิทธิพลมากเกินไป ข้าไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามีอำนาจอยู่ต่อไปได้"นางหันไปสั่งการทหารชั้นสูง "พวกเจ้าแบ่งกำลังพลเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเข้าปิดล้อมวังหลวง นอกนั้นส่งคนไปปิดล้อมครอบครัวสกุลชิง เราต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้"ทหารชั้นสูงพยักหน้าและรีบดำเนินการตามคำสั่ง ฮองเฮามีท่าทีแน่วแน่และมุ่งมั่นในการดำเนินแผนการของนางขณะเดียวกัน ในบ้านสกุลชิง ชิงหยวนเปาและบุตรชายทั้งสามกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังดำเนินไป"ฮองเฮาจะไม่มีทางอยู่เฉยเป็นแน่ พวกเจ้าคอยคุ้มครองอี้หรานให้ดี" ชิงหยวนเปาท่าทางเคร่งขรึมหันไปสั่งการกับบุตรชายทั้งสามชิงหยาง ชิงเฟย และชิงหลงพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาต่างเตรียมพร้อมทั้งด้านกำลังทหารและอาวุธ รวมถึงท

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 19 : จุดเริ่มต้นของหนี้รัก

    บทที่ 19 : จุดเริ่มต้นของหนี้รักเมื่อหนิงซีโย่วได้ขึ้นนั่งเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ เขาเริ่มวางแผนแก้แค้นตระกูลชิง โดยมีชิงหยวนเปาเป็นเป้าหมายหลัก แม้ว่าหนิงซีโย่วจะเป็นฮ่องเต้ แต่เขารู้ดีว่ารากฐานอำนาจยังไม่ถูกถ่ายโอน ตระกูลชิงยังมีอำนาจบารมีล้นฟ้า ดังนั้นเขาจึงจำต้องวางแผนทำลายตระกูลชิงทีละน้อย ๆ จนกระทั่งตระกูลชิงต้องล่มสลายลงไปภายใต้เงื้อมมือของเขาเป้าหมายแรกของเขาคือชิงอี้หราน หนิงซีโย่วถ่ายทอดราชโองการแต่งตั้งชิงอี้หรานเป็นฮองเฮา พร้อมจัดงานอภิเษกสมรสอย่างใหญ่โต สร้างความปลาบปลื้มแก่สกุลชิงไม่น้อย และยังทำให้สกุลชิงลดทอนความหวาดระแวงให้แก่หนิงซีโย่วอย่างมากคืนหนึ่ง หนิงซีโย่วเรียกหยางเจ้าซินเข้ามาในห้องบรรทม แสงจากโคมไฟส่องสว่างในห้องบรรทมใหญ่ เงาสะท้อนบนผนังห้องทำให้บรรยากาศดูน่าขนลุก หนิงซีโย่ว นั่งอยู่บนบัลลังก์ไม้สูง ผิวหน้าของเขาดูเคร่งขรึม และสายตาแฝงไปด้วยความเยือกเย็น“ข้าต้องการให้เจ้าไปสืบข่าวในเรือนสกุลชิง” หนิงซีโย่วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นและเด็ดขาดหยางเจ้าซินโค้งคำนับและเข้ามาใกล้ “หม่อมฉันจะปฏิบัติตามพระบัญชา”หนิงซีโย่วหยิบกระดาษออ

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 20 : ค่ำคืนแห่งปรารถนา

    บทที่ 20 : ค่ำคืนแห่งปรารถนาหลังงานอภิเษกสมรสจบสิ้น ภายในห้องบรรทมถูกจัดอย่างวิจิตรบรรจงและงดงาม ห้องขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันเต็มไปด้วยรายละเอียดที่สวยงาม ผนังห้องประดับด้วยผ้าไหมสีแดงเพลิงปักด้วยลายทองคำที่ละเอียดอ่อน เป็นลวดลายของดอกเหมยและมังกร แสงเทียนที่กะพริบอยู่รอบห้องถูกจัดวางอย่างประณีตบนเชิงเทียนทองคำและโคมไฟทองคำที่แขวนจากเพดาน แสงที่อบอุ่นและอ่อนโยนของเทียนสร้างบรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบ เงาสะท้อนที่เกิดจากแสงเทียนทำให้ลวดลายปักบนผนังและเพดานดูมีชีวิตชีวา เตียงบรรทมขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง เตียงถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนและหมอนที่ปักลายดอกเหมยและมังกรด้วยด้ายทองคำ เตียงนี้ถูกล้อมรอบด้วยผ้าม่านหนาแน่นที่ห้อยลงมาจากเพดาน ผ้าม่านสีแดงสดถูกปักด้วยลายทองคำละเอียดอ่อนอย่างมีเอกลักษณ์ชิงอี้หรานนั่งอยู่ในชุดเจ้าสาวสีแดงเพลิง ผ้าปักทอลายเส้นด้ายทองทั้งตัว เสื้อผ้าชุดนี้ยิ่งขับให้ร่างของหญิงสาวดูงดงามน่าตกตะลึง ใบหน้าของหญิงสาวถูกคลุมด้วยผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวบางเบา แสงเทียนที่กะพริบอยู่รอบห้องทำให้เกิดเงาสะท้อนบนใบหน้าของนางหนิงซีโย่วเดินเข้ามาในห้องบรรทมด้วยท่าทางที่มั่นคง เขา

    Last Updated : 2024-11-28

Latest chapter

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 64 : จบบริบูรณ์

    บทที่ 64 : จบบริบูรณ์ หลังจากการต่อสู้และความวุ่นวายในราชสำนักได้สงบลง หนิงซีโย่วได้สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าขุนนางในราชสำนักด้วยการประกาศเรียกตัวครอบครัวสกุลชิงเข้าวัง ในท้องพระโรงที่ประดับประดาด้วยผ้าไหมสีทองและภาพจิตรกรรมที่งดงามบัดนี้เสียงดังเซ็งแซ่อย่างต่อเนื่อง เหล่าขุนนางต่างเฝ้ารอดูเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้ พวกเขาต่างพากันคาดเดาเหตุการณ์ต่าง ๆ บ้างมีสีหน้าดีใจ บ้างมีสีหน้าหนักใจปะปนกันไปเมื่อทุกคนพร้อมหน้าในท้องพระโรง ขันทีก็ออกประกาศราชโองการ “ด้วยฝ่าบาทมีพระกรุณาแต่งตั้งใต้เท้าชิงหยวนเปากลับคืนสู่ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี บุตรชายทั้งสามล้วนมากความสามารถ แต่งตั้งชิงหยางบุตรชายคนโตเป็นแม่ทัพบูรพา และชิงเฟยบุตรชายคนเล็กเป็นรองแม่ทัพดูแลกองทัพรักษาดินแดน แต่งตั้งชิงหลงบุตรชายคนรองเป็นที่ปรึกษาราชกิจ จบราชโองการ”เมื่อสิ้นเสียงราชโองการ ขุนนางทั้งหลายล้วนจับต้นชนปลายไม่ถูกเมื่อเรื่องราวกลับพลิกผันเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ หลายคนพยายามเหลือบมองหนิงซีโย่วด้วยไม่อาจคาดเดาความคิดของฮ่องเต้ผู้เอาแต่ใจคนนี้ได้ คงมีเพียงหลีซานที่ยังคงรักษาท่าทีสุขุม ชาย

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 63 : ข้ายินดีให้เจ้าลงโทษข้าทุกค่ำคืน

    บทที่ 63 : ข้ายินดีให้เจ้าลงโทษข้าทุกค่ำคืนในตำหนักบรรทมที่เงียบสงบ แสงจันทร์ส่องแสงอ่อนๆ ผ่านหน้าต่างทำให้ห้องดูมีมนต์ขลัง หนิงซีโย่วและชิงอี้หรานนั่งหันหน้าเข้าหากันบนเตียงผ้าไหมเนื้อนุ่ม สายลมยามค่ำคืนพัดเข้ามาทำให้ผ้าม่านปลิวไหว เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังชัดในความเงียบ สายตาทั้งคู่ประสานกันด้วยความโหยหา ความตึงเครียดต่าง ๆ ค่อย ๆ บรรเทาลงหนิงซีโย่วมองชิงอี้หรานด้วยความรู้สึกผสมผสานทั้งความรักและความรู้สึกผิด ในขณะที่เขากำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่างออกมา พลันทหารองครักษ์สามสี่นายก็ก้าวเข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ชิงอี้หรานทำหน้าตื่นตระหนก เธอสะดุ้งขึ้นอย่างแรง เบี่ยงตัวไปข้างหนึ่งและปกป้องหนิงซีโย่วไว้ข้างหลัง มือบางล้วงกริชสั้นชูขึ้นมา ดวงตาของเธอกวาดมองทหารเหล่านั้นด้วยความแข็งกร้าว ความหวาดระแวงทำให้หญิงสาวพลันกล่าวออกไปด้วยเสียงอันดัง "พวกเจ้าบังอาจนัก"องครักษ์คุกเข่าลง "หม่อมฉันได้ยินเสียงจากภายนอกจึงเข้ามาตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ"หนิงซีโย่วทำหน้าเคร่งครึม พลันตวาดไล่ทหารทั้งหมดให้ออกไป "พวกเจ้าถอยออกไปเสีย ไม่มีคำสั่งข้า ห้ามใครเข้ามารบกวนอีก" เหล่าองครักษ์รีบเร่งเดินจากไปอย่างหวาด

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 62 : เป็นเจ้าที่คิดถึงข้าหรือเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ากันแน่

    บทที่ 62 : เป็นเจ้าที่คิดถึงข้าหรือเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ากันแน่ท่ามกลางเงามืดและแสงจันทร์ที่สาดส่อง ชิงหยางและชิงเฟยใช้ประสบการณ์และความชำนาญในการหลบเลี่ยงการสังเกตของผู้คน ทั้งคู่พาชิงอี้หรานเคลื่อนที่ผ่านเงามืดและตรอกที่เล็กแคบและมืดมิดของพระราชวังอย่างเงียบกริบ ท้องฟ้ามืดมิดแสงจันทร์ที่แทรกซึมผ่านยอดไม้ใหญ่สร้างแสงสลัวบนทางเดินที่พวกเขาเคลื่อนที่ไปช่วยให้พวกเขาเห็นทางไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้ชัดเจนขึ้น เส้นทางที่พวกเขาเดินผ่านนั้นเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ชิงอี้หรานไม่อาจห้ามใจได้ที่จะรู้สึกแปลกใจกับความเงียบงันนี้ ไม่มีเสียงของทหารยาม ไม่มีเสียงขององค์รักษ์ ราวกับทุกอย่างถูกระงับเวลาไว้ท่ามกลางความมืดและความเงียบ ชิงหยางกระซิบถามชิงอี้หรานด้วยความเป็นห่วงที่แฝงไว้ในน้ำเสียงที่เบาและอ่อนโยน "อี้หราน เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขาแล้วใช่ไหม" เสียงของเขาเบาและอ่อนโยน พยายามลดความกังวลใจที่นางมีชิงอี้หรานเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าช้าๆ คำตอบของนางแทบจะไม่มีเสียง "ข้าพร้อม ข้าต้องเห็นเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม" คำพูดของหญิงสาวดูมั่นคงแต่ก็ประหนึ่งมีอะไรบางอย่างที

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 61 : ข้าจะห่วงหาเขาทำไมกัน

    บทที่ 61 : ข้าจะห่วงหาเขาทำไมกันหนึ่งวันก่อนการเดินทาง ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมจนสิ้น ชิงอี้หรานนั่งเหม่อลอยอยู่ที่สวนภายในบ้าน สวนที่เคยเต็มไปด้วยความสดใสและความงดงามของดอกไม้บัดนี้กลับดูเศร้าหมองตามความรู้สึกของนาง ใบหน้าของนางดูหม่นหมอง แววตาเศร้าสร้อยยิ่งนัก เสียงนกร้องขับกล่อม ลมที่พัดผ่านเบาๆ ทำให้บรรยากาศยิ่งเหงาหงอยชิงหยาง ชิงหลง ชิงเฟยต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขารับรู้เรื่องจากหลีซานเกี่ยวกับการที่หญิงสาวปฏิเสธชายหนุ่ม ทำให้พวกเขาต่างเข้าใจดีว่าภายในใจหญิงสาวมีใครที่แอบซ่อนไว้ ทั้งสามจึงได้แต่อดเป็นห่วงน้องสาวของตนชิงหลงมีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างรู้สึกเป็นห่วงน้องสาว เขาหยุดมองชิงอี้หรานอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันไปถามทั้งสองด้วยเสียงเคร่งเครียด "พวกเราปล่อยให้เป็นเช่นนี้จะดีหรือ"ชิงหยางได้แต่ส่ายหน้า เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล "อี้หรานแม้ภายนอกจะดูเรียบร้อยอ่อนโยน แต่พวกเจ้าก็รู้ดีว่านางดื้อรั้นมากเพียงใด"ชิงเฟยรีบถามกลับ "หรือเราควร...เอ่อ...ควรช่วยพวกเขากันดี"ชิงหยางได้ยินคำถามนี้ก็หันมองหน้าน้องชายด้วยสายตาโกรธขึ้ง "ชิงเฟย เจ้านี่นะ" เขาตำหนิด้วยเสียงเข้มชิงเฟยยกมือขึ้นลูบลำคอไปมา

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 60 : ไม่ว่าจะรักหรือแค้น ข้าก็มิอาจตอบรับผู้ใดได้อีก

    บทที่ 60 : ไม่ว่าจะรักหรือแค้น ข้าก็มิอาจตอบรับผู้ใดได้อีก ในระหว่างที่ครอบครัวสกุลชิงเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไกล แขกประจำบ้านสกุลชิงคงไม่พ้นหลีซาน ชายหนุ่มที่คอยแวะเวียนมาพูดคุย ถามไถ่ รวมถึงช่วยตระเตรียมข้าวของอยู่เสมอแรกเริ่มเมื่อหลีซานถูกกักตัวอยู่ที่จวนของเขา ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวสกุลชิงอย่างมาก แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักนอกจากสืบถามข่าวคราวจากคนใกล้ชิด แต่ข่าวที่ได้รับมามักน้อยนิดและไร้ประโยชน์จนทำให้เขาเครียดและวิตกกังวลกระทั่งราชโองการประกาศเรื่องการปลดชิงอี้หรานออกจากตำแหน่งฮองเฮา ในช่วงแรกที่ได้รับข่าวดังกล่าวหลีซานรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก ภาพความเป็นไปได้ที่ชิงอี้หรานอาจถูกทำร้ายหรือถูกกักขังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ความห่วงใยที่มีต่อหญิงสาวทำให้เขาไม่อาจนอนหลับได้อย่างสงบ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัด แม้ภายหลังจวนของเขาเองจะไม่ถูกทหารควบคุมเช่นเดิม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความกังวลในใจของเขาลดน้อยลงเลย เขาหวังว่าจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับชิงอี้หรานที่ปลอดภัย แต่ความเงียบงันอย่างผิดปกติยิ่งทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุขจนกระทั่งวันหนึ่ง ข่าวดีที่เขารอคอย

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 59 : เรื่องราวระหว่างท่านและข้าขอให้เป็นเพียงฝันชั่วข้ามคืนหนึ่งเถิด

    บทที่ 59 : เรื่องราวระหว่างท่านและข้าขอให้เป็นเพียงฝันชั่วข้ามคืนหนึ่งเถิด ภายในตำหนักที่เงียบสงบ ชิงอี้หรานพักฟื้นอยู่เกือบเดือน ตั้งแต่คืนนั้นหนิงซีโย่วก็ไม่เคยมาหาหญิงสาวอีกเลย ข่าวคราวเรื่องการกบฏถูกปิดเงียบไม่ปรากฏให้ผู้ใดได้รู้ เฉกเช่นไม่เคยเกิดเรื่องราวใดมาก่อน หลังจากนั้นไม่นานหนิงซีโย่วมีราชโองการปลดชิงอี้หรานออกจากตำแหน่งฮองเฮาชิงอี้หรานนั่งอยู่ที่หน้าต่างทอดสายตามองออกไปภายนอก รู้สึกเหมือนดวงตาของนางได้มองทะลุผ่านทุกสิ่ง หัวใจของนางเหมือนถูกดึงออกไปจากร่างกาย มีเพียงความเมินเฉยและความว่างเปล่าเพียงเท่านั้นซิวเอ๋อเดินเข้ามาหานายหญิงของตนด้วยความห่วงใย "คุณหนู ฝ่าบาทมิได้มาหาท่านตั้งแต่คืนนั้นอีกเลย ท่านยังคิดถึงฝ่าบาทอยู่หรือไม่"ชิงอี้หรานยังคงมองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย "ความคิดถึงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้น ข้ารู้ว่าทั้งตัวข้าและซีโย่ว ไม่ว่าจะรักหรือแค้นก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันอีก จากกันวันนี้ก็คงดีกว่าต้องประหัตประหารกันจนใครคนใดคนหนึ่งต้องตายจาก"ซิวเอ๋อมองหญิงสาวด้วยความสงสาร "คุณหนู โปรดทบทวนอีกสักคราเถิด บางทีท่านและฝ่าบาทอาจจะสามารถหาทางแก้ไขแล

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 58 : หนี้ระหว่างท่านและข้า ปล่อยให้มันพัวพันเช่นนี้ไปเถิด

    บทที่ 58 : หนี้ระหว่างท่านและข้า ปล่อยให้มันพัวพันเช่นนี้ไปเถิด ชิงอี้หรานยังคงหลับใหลไม่ได้สติ เสียงลมหายใจเบา ๆ ของนางเป็นเพียงเสียงเดียวที่ทำให้รู้ว่านางยังคงมีชีวิต หนิงซีโย่วที่ยังนั่งเฝ้าอาการหญิงสาวไม่ห่าง เขาไม่อาจละสายตาจากใบหน้าที่บัดนี้ยังคงซีดเซียว ใบหน้าที่เคยงดงามและเปล่งปลั่งกลับกลายเป็นภาพที่ทำให้เขารู้สึกปวดใจยิ่งนักตลอดชีวิตชายหนุ่มทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับมารดาของเขา ความแค้นที่ก่อตัวอยู่ในใจเขามาตลอด ทำให้เขามุ่งมั่นสู่เป้าหมายไม่ยอมถอย แต่ทว่าเวลานี้ที่เขาได้แก้แค้นสำเร็จ ใจเขากลับมิได้รู้สึกยินดีหรือโล่งใจ สิ่งที่เหลืออยู่ในใจของเขาก็มีเพียงความรู้สึกผิดและความสูญเสียที่ไม่มีวันหวนกลับ เขาต้องสูญเสียลูก เขาต้องสูญเสียหัวใจรักของชิงอี้หราน ความคิดมากมายวกวนในหัวจนหัวใจเขาปวดหนึบ หากเขามีโอกาสอีกสักครั้ง ขอเพียงอีกสักครั้งหนึ่ง ผลลัพธ์จะเป็นเฉกเช่นนี้หรือไม่น้ำตาของหนิงซีโย่วไหลรินอย่างเงียบงัน เขาหวังว่าชิงอี้หรานจะตื่นขึ้นมา สบตากับเขาและรับรู้ถึงความรักที่เขามีให้เธอ ถึงแม้จะเป็นไปไม่ได้ เขายังคงหวังว่าเสียงของเขา เสียงที

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 57 : ความสูญเสีย

    บทที่ 57 : ความสูญเสียในระหว่างที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น ชิงหยวนเปาก็ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยมีชิงหลงประคองร่างที่แทบจะไร้เรี่ยวแรงของเขา ชายชราเห็นภาพตรงหน้าเขาเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในทันที ชิงหยวนเปารีบปรี่เข้ามาคุกเข่าต่อหน้าหนิงซีโย่ว “ฝ่าบาท โปรดไว้ชีวิตบุตรชายของข้าด้วย ทั้งหมดเป็นข้าที่ผิดเอง ทั้งหมดเป็นหนี้ที่ข้าต้องชดใช้”หนิงซีโย่วมองหน้าชิงหยวนเปาด้วยสายตาเคียดแค้น ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ความโกรธแค้นพลุ่งพล่านในใจเขา“ท่านพ่อ ท่านจะไปขอร้องคนอย่างมันทำไมกันเล่า ข้ายอมตายดีกว่าจะต้องทนอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้” ชิงหยางร้องออกมา“หุบปากของเจ้าซะ” ชิงหยวนเปาหันมาตวาดใส่ลูกชายคนโต เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง“ฝ่าบาท เป็นเพราะหม่อมฉันเอง เป็นหม่อมฉันที่ปิดบังความผิดของตน บุตรชายบุตรสาวของข้าจึงได้กระทำเรื่องราวที่โง่เขลาเช่นนี้ออกไป ฝ่าบาท หม่อมฉันขอร้องสักครั้งเถิด ได้โปรดละเว้นบุตรชายของข้าด้วย” ชิงหยวนเปากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาคุกเข่าลงต่ำกว่าที่เคย โขกศีรษะครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมทิ้งศักดิ์ศรีและความมีเกียรติทั้งหมดเพื่อขอความเมตตาหนิงซีโย่วมองด้วยแวว

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 56 : จุดพลิกผันของแผนการ

    บทที่ 56 : จุดพลิกผันของแผนการ ขณะเดียวกันในวังหลวง ชิงหยางและชิงเฟยนำกำลังทหารมุ่งตรงไปยังตำหนักของหนิงซีโย่ว เสียงฝีเท้าของทหารดังก้องไปทั่วบริเวณ บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกังวล องครักษ์ต่างมองหน้ากันพากันรู้สึกหวาดระแวง แต่เมื่อชิงหยางชูป้ายคำสั่งของชิงอี้หรานขึ้นแสดง องครักษ์ต่างพากันนิ่งงัน ไม่มีใครกล้าแตะต้องหรือขัดขืนพวกเขา“พวกเรามาที่นี่ตามคำสั่งของฮองเฮาเพื่อปกป้องฝ่าบาท” ชิงหยางกล่าวเสียงแข็ง พยายามสร้างความน่าเชื่อถือในคำพูดของตนองครักษ์หลายคนลังเล แต่ด้วยป้ายคำสั่งที่พวกเขาชูอยู่นั้น ทำให้พวกเขาจึงเลือกเปิดทางให้ชิงหยางและชิงเฟยนำทหารเข้าไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้สำเร็จ ทั้งสองบุกเข้าไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้สำเร็จ ทหารฝั่งสกุลชิงบางส่วนต่างกรูกันเข้ามาในห้องนอนของหนิงซีโย่ว บางส่วนปิดล้อมตำหนักของหนิงซีโย่วไว้จากด้านนอกเมื่อเข้าไปในห้องนอนของหนิงซีโย่ว ชิงหยางและชิงเฟยมองเห็นหนิงซีโย่วนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวและมีผ้าพันแผลที่หน้าอก พวกเขายิ้มเยาะกันในใจ คิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่พวกเขาสามารถล้างแค้นและทวงศักดิ์ศรีของสกุลชิงกลับมา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status