Home / โรแมนติก / หนี้รักราชันสีเลือด / บทที่ 19 : จุดเริ่มต้นของหนี้รัก

Share

บทที่ 19 : จุดเริ่มต้นของหนี้รัก

Author: Luffy.g
last update Last Updated: 2024-11-28 00:48:50

บทที่ 19 : จุดเริ่มต้นของหนี้รัก

เมื่อหนิงซีโย่วได้ขึ้นนั่งเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ เขาเริ่มวางแผนแก้แค้นตระกูลชิง โดยมีชิงหยวนเปาเป็นเป้าหมายหลัก แม้ว่าหนิงซีโย่วจะเป็นฮ่องเต้ แต่เขารู้ดีว่ารากฐานอำนาจยังไม่ถูกถ่ายโอน ตระกูลชิงยังมีอำนาจบารมีล้นฟ้า ดังนั้นเขาจึงจำต้องวางแผนทำลายตระกูลชิงทีละน้อย ๆ จนกระทั่งตระกูลชิงต้องล่มสลายลงไปภายใต้เงื้อมมือของเขา

เป้าหมายแรกของเขาคือชิงอี้หราน หนิงซีโย่วถ่ายทอดราชโองการแต่งตั้งชิงอี้หรานเป็นฮองเฮา พร้อมจัดงานอภิเษกสมรสอย่างใหญ่โต สร้างความปลาบปลื้มแก่สกุลชิงไม่น้อย และยังทำให้สกุลชิงลดทอนความหวาดระแวงให้แก่หนิงซีโย่วอย่างมาก

คืนหนึ่ง หนิงซีโย่วเรียกหยางเจ้าซินเข้ามาในห้องบรรทม แสงจากโคมไฟส่องสว่างในห้องบรรทมใหญ่ เงาสะท้อนบนผนังห้องทำให้บรรยากาศดูน่าขนลุก หนิงซีโย่ว นั่งอยู่บนบัลลังก์ไม้สูง ผิวหน้าของเขาดูเคร่งขรึม และสายตาแฝงไปด้วยความเยือกเย็น

“ข้าต้องการให้เจ้าไปสืบข่าวในเรือนสกุลชิง” หนิงซีโย่วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นและเด็ดขาด

หยางเจ้าซินโค้งคำนับและเข้ามาใกล้ “หม่อมฉันจะปฏิบัติตามพระบัญชา”

หนิงซีโย่วหยิบกระดาษออ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 20 : ค่ำคืนแห่งปรารถนา

    บทที่ 20 : ค่ำคืนแห่งปรารถนาหลังงานอภิเษกสมรสจบสิ้น ภายในห้องบรรทมถูกจัดอย่างวิจิตรบรรจงและงดงาม ห้องขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันเต็มไปด้วยรายละเอียดที่สวยงาม ผนังห้องประดับด้วยผ้าไหมสีแดงเพลิงปักด้วยลายทองคำที่ละเอียดอ่อน เป็นลวดลายของดอกเหมยและมังกร แสงเทียนที่กะพริบอยู่รอบห้องถูกจัดวางอย่างประณีตบนเชิงเทียนทองคำและโคมไฟทองคำที่แขวนจากเพดาน แสงที่อบอุ่นและอ่อนโยนของเทียนสร้างบรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบ เงาสะท้อนที่เกิดจากแสงเทียนทำให้ลวดลายปักบนผนังและเพดานดูมีชีวิตชีวา เตียงบรรทมขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง เตียงถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนและหมอนที่ปักลายดอกเหมยและมังกรด้วยด้ายทองคำ เตียงนี้ถูกล้อมรอบด้วยผ้าม่านหนาแน่นที่ห้อยลงมาจากเพดาน ผ้าม่านสีแดงสดถูกปักด้วยลายทองคำละเอียดอ่อนอย่างมีเอกลักษณ์ชิงอี้หรานนั่งอยู่ในชุดเจ้าสาวสีแดงเพลิง ผ้าปักทอลายเส้นด้ายทองทั้งตัว เสื้อผ้าชุดนี้ยิ่งขับให้ร่างของหญิงสาวดูงดงามน่าตกตะลึง ใบหน้าของหญิงสาวถูกคลุมด้วยผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวบางเบา แสงเทียนที่กะพริบอยู่รอบห้องทำให้เกิดเงาสะท้อนบนใบหน้าของนางหนิงซีโย่วเดินเข้ามาในห้องบรรทมด้วยท่าทางที่มั่นคง เขา

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 21 : ความเฉยชาที่ไม่คาดคิด

    บทที่ 21 : ความเฉยชาที่ไม่คาดคิดแสงแรกของวันส่องผ่านหน้าต่างเข้าสู่ห้องนอนที่งดงาม ดอกไม้ในสวนส่งกลิ่นหอมกรุ่นเข้ามาผ่านม่านโปร่งสีขาว ชิงอี้หรานหันไปเรียกสาวใช้คนสนิท ซิวเอ๋อ"ซิวเอ๋อ แต่งตัวให้ข้าที ข้าจะไปถวายพระพรไทเฮา" ชิงอี้หรานกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลซิวเอ๋อรีบเร่งมือจัดการแต่งตัวให้ชิงอี้หราน ชุดของนางเป็นชุดที่ประณีตงดงาม เหมาะสมกับสถานะใหม่ของนางในฐานะฮองเฮา เสื้อผ้าทอด้วยผ้าไหมเนื้อดี ตกแต่งด้วยลายปักที่วิจิตรงดงาม ชิงอี้หรานยืนสง่างามราวกับภาพวาดในชุดที่สมบูรณ์แบบเมื่อทุกอย่างพร้อม ชิงอี้หรานก้าวออกจากห้องและมุ่งหน้าไปยังพระตำหนักของไทเฮา ระหว่างทาง สาวใช้และข้าราชบริพารต่างพากันนอบน้อมทำความเคารพนาง นางเดินไปด้วยท่าทางสง่างามและมั่นคงบรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบสงบ พระตำหนักของไทเฮาตั้งอยู่ในสวนหลวงที่งดงาม รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่และดอกไม้นานาพันธุ์ กลิ่นหอมของดอกเหมยที่เบ่งบานทั่วทั้งสวนทำให้อากาศยามเช้าช่างสดชื่นเมื่อถึงพระตำหนักของไทเฮา ชิงอี้หรานทำความเคารพอย่างนอบน้อม "หม่อมฉันชิงอี้หราน ขอถวายพระพรไทเฮา"ไทเฮาทอดมองชิงอี้หรานอย่างพิจารณา หญิงสาวที่หลานชายถึง

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 22 : การรอคอยที่มีเพียงความว่างเปล่า

    บทที่ 22 : การรอคอยที่มีเพียงความว่างเปล่าวันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน ตั้งแต่วันอภิเษกสมรส หนิงซีโย่วก็ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าชิงอี้หรานอีกเลย หญิงสาวเฝ้าชะเง้อคอยชายหนุ่มอยู่ในทุก ๆ วัน จากความคาดหวัง เปลี่ยนเป็นการรอคอย จากการรอคอยเปลี่ยนเป็นความผิดหวังเข้ามาแทนที่ ความรู้สึกปวดร้าวกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ชิงอี้หรานกลายเป็นคนเงียบเฉย และหม่นหมองลงไปอย่างมากในตำหนักที่เงียบสงบ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบงัน ความงามของตำหนักที่เคยเป็นที่ชื่นชมกลับกลายเป็นเพียงสิ่งที่ตอกย้ำความเงียบเหงา ชิงอี้หรานยังคงสั่งให้ซิวเอ๋อนำเครื่องเสวยที่หญิงสาวตั้งใจปรุงไปถวายฮ่องเต้ในทุกๆ วัน แต่กลับได้รับการบ่ายเบี่ยงและปฏิเสธไปในทุกครั้ง นานวันเข้าหญิงสาวก็เริ่มยอมแพ้และไม่เคยส่งเครื่องเสวยไปให้หนิงซีโย่วอีกเลย ข่าวของหนิงซีโย่วที่ไม่สนใจชิงอี้หราน ฮองเฮาที่คอยเฝ้าตำหนักเพียงเปล่าเปลี่ยว ก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วในวัง ทำให้หญิงสาวยิ่งรู้สึกอับอายและโดดเดี่ยวมากไปกว่าเดิมเสียอีกในแต่ละวันชิงอี้หรานได้แต่นั่งเหม่อลอยอยู่ภายในสวนดอกไม้หน้าตำหนัก แม้สวนดอกไม้จะบาน

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 23 : คัดเลือกพระสนม

    บทที่ 23 : คัดเลือกพระสนมบรรยากาศในพระราชวังเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคึกคัก การคัดเลือกพระสนมที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ พระตำหนักที่เคยเงียบสงบกลับเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและการขยับเขยื้อนของผู้คน บรรดาหญิงสาวที่ถูกส่งตัวมาจากครอบครัวขุนนางต่างพากันแต่งกายงดงามเพื่อหวังได้รับการคัดเลือก เหล่าสาวงามต่างคาดหวังว่าหากเพียงตนได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เช่นนั้นพวกนางก็คงดั่งนั่งพญาอินทรีขึ้นสู่เวหา ดังนั้นพวกนางมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการได้เป็นพระสนมเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิตและความมั่นคงของตระกูลนั่นเองชิงอี้หรานยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่ของพระตำหนัก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความอึดอัด จะมีหญิงใดในโลกเล่าที่ต้องการหาสาวงามมาปรนนิบัติสามีแทนที่ตน หน้าตาที่ดูหมองคล้ำ ทว่าท่าทีที่ชิงอี้หรานแสดงออกยังคงสง่างาม และหยิ่งทะนง ชิงอี้หรานนั่งอยู่บนบังลังก์เบื้องหน้า ทอดสายตามองเหล่าสาวงามน้อยใหญ่มากมายแสดงความสามารถตนการคัดเลือกพระสนมนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดาย หญิงสาวไม่เพียงแต่ต้องพิจารณาความงาม แต่ยังต้องพิจารณาคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เหมาะสมอีกด้วยห้องโถงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรพิสดารด้วยภาพวาดและแจกันดอกไม้ มี

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 24 : หนิงซีโย่ว ท่านเคยรักข้าหรือไม่

    บทที่ 24 : หนิงซีโย่ว ท่านเคยรักข้าหรือไม่เวลาผ่านไปไม่ทันพ้นเดือน ขณะที่ชิงอี้หรานที่กำลังนั่งปักเย็บถุงหอมอยู่ในตำหนักอยู่นั้น จู่ๆ ซิวเอ๋อก็เร่งรุดเดินเข้ามาหาหญิงสาวด้วยท่าทีร้อนรน“ฮองเฮา หม่อมฉันมีเรื่องจะกราบทูลเพคะ” ซิวเอ๋อกล่าวด้วยเสียงกระหืดกระหอบท่าทีเร่งรีบเช่นนั้นทำให้ชิงอี้หรานเงยหน้าขึ้นจากถุงหอมในมือมองซิวเอ๋ออย่างสงสัย “ข่าวอันใดรึ”“เอ่อ..ฮ่องเต้เพคะ…นางกำนัลในตำหนักในต่างลือกันให้ทั่วว่าฮ่องเต้ทรงเสด็จไปค้างแรมกับสนมเสิ่นแทบทุกราตรีเลยเพคะ”ชิงอี้หรานได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกคล้ายหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ พลันเข็มในมือก็แทงเข้าที่ปลายนิ้วหญิงสาวในทันที “โอ๊ย...” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เข็มแทงเข้าไปลึกจนปลายนิ้วมีเลือดซึมออกมาตามรอยเข็มที่ปักลงไปสีแดงฉาด“ฮองเฮา ทรงระวังพระวรกายด้วยเพคะ” ซิวเอ๋อร้องอย่างตกใจ พลันรีบแย่งหยิบเข็มและถุงหอมออกมาจากมือเรียวของชิงอี้หราน นางรีบหยิบผ้าขาวนำมาเช็ดห้ามเลือดให้นายหญิงของตนทันทีชิงอี้หรานพยายามข่มใจคงความสงบเอาไว้และถามต่อ “เจ้าได้ยินเรื่องเช่นใดมาบ้าง”ซิวเอ๋อมองหน้านายหญิงอย่างชั่งใจ นางเอาแต่ก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าจะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดอ

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 25 : ชิงอี้หรานเจ้าช่างน่าขันนัก

    บทที่ 25 : ชิงอี้หรานเจ้าช่างน่าขันนักในวันที่แสงอาทิตย์ส่องสว่างทั่วอุทยาน ชิงอี้หรานเดินเล่นอยู่ในสวนอุทยานเพื่อผ่อนคลายจิตใจ หญิงสาวสวมชุดผ้าไหมบางเบาสีฟ้าอ่อนที่ลายดอกไม้ปักลงบนเนื้อผ้าอย่างประณีต ผ้าคลุมไหล่สีขาวลอยละล่องตามลมที่พัดเบา ๆ เมื่อหญิงสาวเดินผ่าน สายลมที่พัดผ่านพาเอากลิ่นหอมของดอกไม้มาปะทะจมูก ทำให้บรรยากาศสงบและสดชื่นยิ่งนัก ทำให้หัวใจของชิงอี้หรานรู้สึกสงบสุขขึ้นมาได้บ้างชิงอี้หรานเดินต่อไปยังศาลาหลังเล็กที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำ ฉับพลันความเงียบสงบในสวนก็ถูกทำลายเมื่อเสียงการถกเถียงของชายสองคนดังขึ้นจากศาลาหลังเล็กนั่น เสียงที่คุ้นชินนั้นเสียงหนึ่งคือชิงหยวนเปา บิดาของนาง อีกเสียงหนึ่งคือ หนิงซีโย่ว สามีของนาง หญิงสาวใคร่รู้อย่างยิ่งจึงลอบเดินไปหลบด้านหลังต้นไม้ใหญ่ในทันที"หนิงซีโย่ว เจ้าทำเยี่ยงนี้ได้อย่างไร เจ้าละเลยบุตรสาวของข้าเช่นนี้ได้อย่างไร" เสียงดังเข้มของชิงหยวนเปาดังขึ้นด้วยความโมโห ชายชราโกรธจัดจนลืมฐานะของหนิงซีโย่ว เจ้าเด็กเมื่อวานซืนที่เขาผลักดันจนได้นั่งอยู่บังลังก์ตั่งทอง วันนี้กลับทำร้ายจิตใจบุตรสาวของเขาอย่างเลือดเย็น"เจ้าคงลืมไปแล้วหรือไม่ ว่าบัด

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 26 : ร่างกายหรือจะเท่าใจที่บอบซ้ำ

    บทที่ 26 : ร่างกายหรือจะเท่าใจที่บอบซ้ำชิงอี้หรานตื่นขึ้นมาด้วยสภาพอิดโรย ความจริงที่ปรากฏตรงหน้านั้นยากที่หญิงสาวจะทำใจจะยอมรับได้ เรื่องราวที่ผ่านมาเสมือนความฝันที่มีแต่นางผู้เดียวที่เฝ้ารักและทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง แม้ต้องขัดแย้งกับครอบครัวก็ตามที แต่หนิงซีโย่วกลับเห็นนางเป็นเพียงกระดานหมากอำนาจตัวหนึ่งเท่านั้นความเจ็บปวดที่มากเกินกว่าจะรับนี้ทำให้หญิงสาวกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทุกค่ำคืนที่นอนหลับหญิงสาวได้แต่หวนคิดถึงคำพูดที่ได้ยินจากการสนทนาระหว่างบิดาและหนิงซีโย่ว ความทุกข์ทรมานจากการถูกหลอกลวงทำให้ชิงอี้หรานรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก"ซีโย่ว ทำไมเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ ข้ารักและเชื่อใจท่าน ข้าทุ่มเทเพื่อท่าน แต่ท่านกลับตอบแทนด้วยการหลอกลวงข้า" ชิงอี้หรานคิดในใจ น้ำตาไหลอาบแก้มจนไม่อาจหยุดได้ผ่านเวลาไม่เพียงไม่กี่วัน ชิงอี้หรานก็ประชวรหนักจนซิวเอ๋อต้องตามหมอหลวงมารักษา "ฮองเฮา ท่านไม่สบายมาก ข้าจะไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้"หมอหลวงมาถึงตำหนักและตรวจอาการของชิงอี้หราน "ฮองเฮามีอาการป่วยทางใจ ส่งผลทำให้ร่างกายอ่อนแออย่างหนัก ฮองเฮาโปรดพักผ่อนให้มาก ๆ ทำจิตใจให้สบาย หม่อมฉันจะจัดเทียบยาเพื่อฟื้น

    Last Updated : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 27 : หนิงซีโย่ว ท่านช่างใจร้ายกับข้ายิ่งนัก

    บทที่ 27 : หนิงซีโย่ว ท่านช่างใจร้ายกับข้ายิ่งนักชิงอี้หรานที่ป่วยนอนซมอยู่ในตำหนักเป็นเวลาหลายวัน เมื่อเริ่มอาการดีขึ้น ซิวเอ๋อก็เข้ามาชวนให้นายหญิงของตนออกไปเดินสูดอากาศภายนอกตำหนัก“ฮองเฮา เสด็จออกไปเดินเล่นบ้างเถอะเพคะ อากาศข้างนอกกำลังสดชื่นดี พระองค์จะได้ผ่อนคลายบ้าง” ซิวเอ๋อกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใยหลังจากรบเร้านางอยู่หลายต่อหลายครั้ง“ข้าเหนื่อยกับเจ้าเสียเหลือเกิน แต่ก็ช่างเถอะก็ได้ ข้าจะตามใจเจ้าสักครั้ง” ชิงอี้หรานยิ้มอ่อนมองหน้าสาวใช้คนสนิทด้วยความจนใจ หญิงสาวรู้ดีว่าซิวเอ๋อเป็นห่วงเป็นใยนางมากเพียงใด ชิงอี้หรานรู้สึกโชคดีที่อย่างน้อยยังมีสาวใช้ที่ภักดีกับตนเช่นนางซิวเอ๋อประคองร่างชิงอี้หรานเดินออกไปยังสวนอันงดงามของตำหนัก สวนนี้เต็มไปด้วยดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน สีสันสดใสและหอมกรุ่น ทั้งสองเดินผ่านต้นไม้ใหญ่และบ่อน้ำที่มีปลาว่ายเล่น ชิงอี้หรานรู้สึกถึงความสดชื่นของลมพัดผ่าน ใบหน้าที่เศร้าหมองเริ่มเปลี่ยนเป็นมีสีสันขึ้นมาบ้าง“ฮองเฮา สีหน้าท่านดูดีขึ้นมากนะเพคะ” ซิวเอ๋อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดีใจที่ชิงอี้หรานรู้สึกสดใสขึ้นชิงอี้หรานยังคงพยักหน้ามองสาวใช้ด้วยความเอ็นดูระหว่างเดินเ

    Last Updated : 2024-11-28

Latest chapter

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 64 : จบบริบูรณ์

    บทที่ 64 : จบบริบูรณ์ หลังจากการต่อสู้และความวุ่นวายในราชสำนักได้สงบลง หนิงซีโย่วได้สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าขุนนางในราชสำนักด้วยการประกาศเรียกตัวครอบครัวสกุลชิงเข้าวัง ในท้องพระโรงที่ประดับประดาด้วยผ้าไหมสีทองและภาพจิตรกรรมที่งดงามบัดนี้เสียงดังเซ็งแซ่อย่างต่อเนื่อง เหล่าขุนนางต่างเฝ้ารอดูเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้ พวกเขาต่างพากันคาดเดาเหตุการณ์ต่าง ๆ บ้างมีสีหน้าดีใจ บ้างมีสีหน้าหนักใจปะปนกันไปเมื่อทุกคนพร้อมหน้าในท้องพระโรง ขันทีก็ออกประกาศราชโองการ “ด้วยฝ่าบาทมีพระกรุณาแต่งตั้งใต้เท้าชิงหยวนเปากลับคืนสู่ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี บุตรชายทั้งสามล้วนมากความสามารถ แต่งตั้งชิงหยางบุตรชายคนโตเป็นแม่ทัพบูรพา และชิงเฟยบุตรชายคนเล็กเป็นรองแม่ทัพดูแลกองทัพรักษาดินแดน แต่งตั้งชิงหลงบุตรชายคนรองเป็นที่ปรึกษาราชกิจ จบราชโองการ”เมื่อสิ้นเสียงราชโองการ ขุนนางทั้งหลายล้วนจับต้นชนปลายไม่ถูกเมื่อเรื่องราวกลับพลิกผันเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ หลายคนพยายามเหลือบมองหนิงซีโย่วด้วยไม่อาจคาดเดาความคิดของฮ่องเต้ผู้เอาแต่ใจคนนี้ได้ คงมีเพียงหลีซานที่ยังคงรักษาท่าทีสุขุม ชาย

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 63 : ข้ายินดีให้เจ้าลงโทษข้าทุกค่ำคืน

    บทที่ 63 : ข้ายินดีให้เจ้าลงโทษข้าทุกค่ำคืนในตำหนักบรรทมที่เงียบสงบ แสงจันทร์ส่องแสงอ่อนๆ ผ่านหน้าต่างทำให้ห้องดูมีมนต์ขลัง หนิงซีโย่วและชิงอี้หรานนั่งหันหน้าเข้าหากันบนเตียงผ้าไหมเนื้อนุ่ม สายลมยามค่ำคืนพัดเข้ามาทำให้ผ้าม่านปลิวไหว เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังชัดในความเงียบ สายตาทั้งคู่ประสานกันด้วยความโหยหา ความตึงเครียดต่าง ๆ ค่อย ๆ บรรเทาลงหนิงซีโย่วมองชิงอี้หรานด้วยความรู้สึกผสมผสานทั้งความรักและความรู้สึกผิด ในขณะที่เขากำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่างออกมา พลันทหารองครักษ์สามสี่นายก็ก้าวเข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ชิงอี้หรานทำหน้าตื่นตระหนก เธอสะดุ้งขึ้นอย่างแรง เบี่ยงตัวไปข้างหนึ่งและปกป้องหนิงซีโย่วไว้ข้างหลัง มือบางล้วงกริชสั้นชูขึ้นมา ดวงตาของเธอกวาดมองทหารเหล่านั้นด้วยความแข็งกร้าว ความหวาดระแวงทำให้หญิงสาวพลันกล่าวออกไปด้วยเสียงอันดัง "พวกเจ้าบังอาจนัก"องครักษ์คุกเข่าลง "หม่อมฉันได้ยินเสียงจากภายนอกจึงเข้ามาตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ"หนิงซีโย่วทำหน้าเคร่งครึม พลันตวาดไล่ทหารทั้งหมดให้ออกไป "พวกเจ้าถอยออกไปเสีย ไม่มีคำสั่งข้า ห้ามใครเข้ามารบกวนอีก" เหล่าองครักษ์รีบเร่งเดินจากไปอย่างหวาด

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 62 : เป็นเจ้าที่คิดถึงข้าหรือเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ากันแน่

    บทที่ 62 : เป็นเจ้าที่คิดถึงข้าหรือเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ากันแน่ท่ามกลางเงามืดและแสงจันทร์ที่สาดส่อง ชิงหยางและชิงเฟยใช้ประสบการณ์และความชำนาญในการหลบเลี่ยงการสังเกตของผู้คน ทั้งคู่พาชิงอี้หรานเคลื่อนที่ผ่านเงามืดและตรอกที่เล็กแคบและมืดมิดของพระราชวังอย่างเงียบกริบ ท้องฟ้ามืดมิดแสงจันทร์ที่แทรกซึมผ่านยอดไม้ใหญ่สร้างแสงสลัวบนทางเดินที่พวกเขาเคลื่อนที่ไปช่วยให้พวกเขาเห็นทางไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้ชัดเจนขึ้น เส้นทางที่พวกเขาเดินผ่านนั้นเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ชิงอี้หรานไม่อาจห้ามใจได้ที่จะรู้สึกแปลกใจกับความเงียบงันนี้ ไม่มีเสียงของทหารยาม ไม่มีเสียงขององค์รักษ์ ราวกับทุกอย่างถูกระงับเวลาไว้ท่ามกลางความมืดและความเงียบ ชิงหยางกระซิบถามชิงอี้หรานด้วยความเป็นห่วงที่แฝงไว้ในน้ำเสียงที่เบาและอ่อนโยน "อี้หราน เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขาแล้วใช่ไหม" เสียงของเขาเบาและอ่อนโยน พยายามลดความกังวลใจที่นางมีชิงอี้หรานเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าช้าๆ คำตอบของนางแทบจะไม่มีเสียง "ข้าพร้อม ข้าต้องเห็นเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม" คำพูดของหญิงสาวดูมั่นคงแต่ก็ประหนึ่งมีอะไรบางอย่างที

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 61 : ข้าจะห่วงหาเขาทำไมกัน

    บทที่ 61 : ข้าจะห่วงหาเขาทำไมกันหนึ่งวันก่อนการเดินทาง ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมจนสิ้น ชิงอี้หรานนั่งเหม่อลอยอยู่ที่สวนภายในบ้าน สวนที่เคยเต็มไปด้วยความสดใสและความงดงามของดอกไม้บัดนี้กลับดูเศร้าหมองตามความรู้สึกของนาง ใบหน้าของนางดูหม่นหมอง แววตาเศร้าสร้อยยิ่งนัก เสียงนกร้องขับกล่อม ลมที่พัดผ่านเบาๆ ทำให้บรรยากาศยิ่งเหงาหงอยชิงหยาง ชิงหลง ชิงเฟยต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขารับรู้เรื่องจากหลีซานเกี่ยวกับการที่หญิงสาวปฏิเสธชายหนุ่ม ทำให้พวกเขาต่างเข้าใจดีว่าภายในใจหญิงสาวมีใครที่แอบซ่อนไว้ ทั้งสามจึงได้แต่อดเป็นห่วงน้องสาวของตนชิงหลงมีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างรู้สึกเป็นห่วงน้องสาว เขาหยุดมองชิงอี้หรานอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันไปถามทั้งสองด้วยเสียงเคร่งเครียด "พวกเราปล่อยให้เป็นเช่นนี้จะดีหรือ"ชิงหยางได้แต่ส่ายหน้า เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล "อี้หรานแม้ภายนอกจะดูเรียบร้อยอ่อนโยน แต่พวกเจ้าก็รู้ดีว่านางดื้อรั้นมากเพียงใด"ชิงเฟยรีบถามกลับ "หรือเราควร...เอ่อ...ควรช่วยพวกเขากันดี"ชิงหยางได้ยินคำถามนี้ก็หันมองหน้าน้องชายด้วยสายตาโกรธขึ้ง "ชิงเฟย เจ้านี่นะ" เขาตำหนิด้วยเสียงเข้มชิงเฟยยกมือขึ้นลูบลำคอไปมา

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 60 : ไม่ว่าจะรักหรือแค้น ข้าก็มิอาจตอบรับผู้ใดได้อีก

    บทที่ 60 : ไม่ว่าจะรักหรือแค้น ข้าก็มิอาจตอบรับผู้ใดได้อีก ในระหว่างที่ครอบครัวสกุลชิงเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไกล แขกประจำบ้านสกุลชิงคงไม่พ้นหลีซาน ชายหนุ่มที่คอยแวะเวียนมาพูดคุย ถามไถ่ รวมถึงช่วยตระเตรียมข้าวของอยู่เสมอแรกเริ่มเมื่อหลีซานถูกกักตัวอยู่ที่จวนของเขา ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวสกุลชิงอย่างมาก แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักนอกจากสืบถามข่าวคราวจากคนใกล้ชิด แต่ข่าวที่ได้รับมามักน้อยนิดและไร้ประโยชน์จนทำให้เขาเครียดและวิตกกังวลกระทั่งราชโองการประกาศเรื่องการปลดชิงอี้หรานออกจากตำแหน่งฮองเฮา ในช่วงแรกที่ได้รับข่าวดังกล่าวหลีซานรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก ภาพความเป็นไปได้ที่ชิงอี้หรานอาจถูกทำร้ายหรือถูกกักขังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ความห่วงใยที่มีต่อหญิงสาวทำให้เขาไม่อาจนอนหลับได้อย่างสงบ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัด แม้ภายหลังจวนของเขาเองจะไม่ถูกทหารควบคุมเช่นเดิม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความกังวลในใจของเขาลดน้อยลงเลย เขาหวังว่าจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับชิงอี้หรานที่ปลอดภัย แต่ความเงียบงันอย่างผิดปกติยิ่งทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุขจนกระทั่งวันหนึ่ง ข่าวดีที่เขารอคอย

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 59 : เรื่องราวระหว่างท่านและข้าขอให้เป็นเพียงฝันชั่วข้ามคืนหนึ่งเถิด

    บทที่ 59 : เรื่องราวระหว่างท่านและข้าขอให้เป็นเพียงฝันชั่วข้ามคืนหนึ่งเถิด ภายในตำหนักที่เงียบสงบ ชิงอี้หรานพักฟื้นอยู่เกือบเดือน ตั้งแต่คืนนั้นหนิงซีโย่วก็ไม่เคยมาหาหญิงสาวอีกเลย ข่าวคราวเรื่องการกบฏถูกปิดเงียบไม่ปรากฏให้ผู้ใดได้รู้ เฉกเช่นไม่เคยเกิดเรื่องราวใดมาก่อน หลังจากนั้นไม่นานหนิงซีโย่วมีราชโองการปลดชิงอี้หรานออกจากตำแหน่งฮองเฮาชิงอี้หรานนั่งอยู่ที่หน้าต่างทอดสายตามองออกไปภายนอก รู้สึกเหมือนดวงตาของนางได้มองทะลุผ่านทุกสิ่ง หัวใจของนางเหมือนถูกดึงออกไปจากร่างกาย มีเพียงความเมินเฉยและความว่างเปล่าเพียงเท่านั้นซิวเอ๋อเดินเข้ามาหานายหญิงของตนด้วยความห่วงใย "คุณหนู ฝ่าบาทมิได้มาหาท่านตั้งแต่คืนนั้นอีกเลย ท่านยังคิดถึงฝ่าบาทอยู่หรือไม่"ชิงอี้หรานยังคงมองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย "ความคิดถึงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้น ข้ารู้ว่าทั้งตัวข้าและซีโย่ว ไม่ว่าจะรักหรือแค้นก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันอีก จากกันวันนี้ก็คงดีกว่าต้องประหัตประหารกันจนใครคนใดคนหนึ่งต้องตายจาก"ซิวเอ๋อมองหญิงสาวด้วยความสงสาร "คุณหนู โปรดทบทวนอีกสักคราเถิด บางทีท่านและฝ่าบาทอาจจะสามารถหาทางแก้ไขแล

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 58 : หนี้ระหว่างท่านและข้า ปล่อยให้มันพัวพันเช่นนี้ไปเถิด

    บทที่ 58 : หนี้ระหว่างท่านและข้า ปล่อยให้มันพัวพันเช่นนี้ไปเถิด ชิงอี้หรานยังคงหลับใหลไม่ได้สติ เสียงลมหายใจเบา ๆ ของนางเป็นเพียงเสียงเดียวที่ทำให้รู้ว่านางยังคงมีชีวิต หนิงซีโย่วที่ยังนั่งเฝ้าอาการหญิงสาวไม่ห่าง เขาไม่อาจละสายตาจากใบหน้าที่บัดนี้ยังคงซีดเซียว ใบหน้าที่เคยงดงามและเปล่งปลั่งกลับกลายเป็นภาพที่ทำให้เขารู้สึกปวดใจยิ่งนักตลอดชีวิตชายหนุ่มทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับมารดาของเขา ความแค้นที่ก่อตัวอยู่ในใจเขามาตลอด ทำให้เขามุ่งมั่นสู่เป้าหมายไม่ยอมถอย แต่ทว่าเวลานี้ที่เขาได้แก้แค้นสำเร็จ ใจเขากลับมิได้รู้สึกยินดีหรือโล่งใจ สิ่งที่เหลืออยู่ในใจของเขาก็มีเพียงความรู้สึกผิดและความสูญเสียที่ไม่มีวันหวนกลับ เขาต้องสูญเสียลูก เขาต้องสูญเสียหัวใจรักของชิงอี้หราน ความคิดมากมายวกวนในหัวจนหัวใจเขาปวดหนึบ หากเขามีโอกาสอีกสักครั้ง ขอเพียงอีกสักครั้งหนึ่ง ผลลัพธ์จะเป็นเฉกเช่นนี้หรือไม่น้ำตาของหนิงซีโย่วไหลรินอย่างเงียบงัน เขาหวังว่าชิงอี้หรานจะตื่นขึ้นมา สบตากับเขาและรับรู้ถึงความรักที่เขามีให้เธอ ถึงแม้จะเป็นไปไม่ได้ เขายังคงหวังว่าเสียงของเขา เสียงที

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 57 : ความสูญเสีย

    บทที่ 57 : ความสูญเสียในระหว่างที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น ชิงหยวนเปาก็ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยมีชิงหลงประคองร่างที่แทบจะไร้เรี่ยวแรงของเขา ชายชราเห็นภาพตรงหน้าเขาเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในทันที ชิงหยวนเปารีบปรี่เข้ามาคุกเข่าต่อหน้าหนิงซีโย่ว “ฝ่าบาท โปรดไว้ชีวิตบุตรชายของข้าด้วย ทั้งหมดเป็นข้าที่ผิดเอง ทั้งหมดเป็นหนี้ที่ข้าต้องชดใช้”หนิงซีโย่วมองหน้าชิงหยวนเปาด้วยสายตาเคียดแค้น ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ความโกรธแค้นพลุ่งพล่านในใจเขา“ท่านพ่อ ท่านจะไปขอร้องคนอย่างมันทำไมกันเล่า ข้ายอมตายดีกว่าจะต้องทนอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้” ชิงหยางร้องออกมา“หุบปากของเจ้าซะ” ชิงหยวนเปาหันมาตวาดใส่ลูกชายคนโต เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง“ฝ่าบาท เป็นเพราะหม่อมฉันเอง เป็นหม่อมฉันที่ปิดบังความผิดของตน บุตรชายบุตรสาวของข้าจึงได้กระทำเรื่องราวที่โง่เขลาเช่นนี้ออกไป ฝ่าบาท หม่อมฉันขอร้องสักครั้งเถิด ได้โปรดละเว้นบุตรชายของข้าด้วย” ชิงหยวนเปากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาคุกเข่าลงต่ำกว่าที่เคย โขกศีรษะครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมทิ้งศักดิ์ศรีและความมีเกียรติทั้งหมดเพื่อขอความเมตตาหนิงซีโย่วมองด้วยแวว

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 56 : จุดพลิกผันของแผนการ

    บทที่ 56 : จุดพลิกผันของแผนการ ขณะเดียวกันในวังหลวง ชิงหยางและชิงเฟยนำกำลังทหารมุ่งตรงไปยังตำหนักของหนิงซีโย่ว เสียงฝีเท้าของทหารดังก้องไปทั่วบริเวณ บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกังวล องครักษ์ต่างมองหน้ากันพากันรู้สึกหวาดระแวง แต่เมื่อชิงหยางชูป้ายคำสั่งของชิงอี้หรานขึ้นแสดง องครักษ์ต่างพากันนิ่งงัน ไม่มีใครกล้าแตะต้องหรือขัดขืนพวกเขา“พวกเรามาที่นี่ตามคำสั่งของฮองเฮาเพื่อปกป้องฝ่าบาท” ชิงหยางกล่าวเสียงแข็ง พยายามสร้างความน่าเชื่อถือในคำพูดของตนองครักษ์หลายคนลังเล แต่ด้วยป้ายคำสั่งที่พวกเขาชูอยู่นั้น ทำให้พวกเขาจึงเลือกเปิดทางให้ชิงหยางและชิงเฟยนำทหารเข้าไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้สำเร็จ ทั้งสองบุกเข้าไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้สำเร็จ ทหารฝั่งสกุลชิงบางส่วนต่างกรูกันเข้ามาในห้องนอนของหนิงซีโย่ว บางส่วนปิดล้อมตำหนักของหนิงซีโย่วไว้จากด้านนอกเมื่อเข้าไปในห้องนอนของหนิงซีโย่ว ชิงหยางและชิงเฟยมองเห็นหนิงซีโย่วนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวและมีผ้าพันแผลที่หน้าอก พวกเขายิ้มเยาะกันในใจ คิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่พวกเขาสามารถล้างแค้นและทวงศักดิ์ศรีของสกุลชิงกลับมา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status