บทที่ 1
...
“อ๊า! แรงอีก! แรงอีกค่ะคุณราชันย์ อ๊ะ!”
ป๊าบๆ ปึกๆ ป๊าบ ๆ
“เสียวจังเลยค่ะ อ๊ะ!”
กิจกรรมสุดเร่าร้อนของชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังบรรเลงไปอย่างออกรสออกชาติ ด้วยเพลิงโลกีย์หามีความรักใคร่ หญิงสาวตัวเล็กใต้ร่างของชายหนุ่มกำยำ หน้าท้องที่ประกอบด้วยลอนสวยน่าหลงใหล ร่างของเธอกำลังเคลื่อนไหวไปตามจังหวะที่ชายหนุ่มนั้นส่งให้ ร่างกายนุ่มนิ่มเริ่มกระตุกเกร็งด้วยความเสียวกระสันที่จุดสยิวกลางลำตัว ยิ่งเมื่อชายหนุ่มด้านบนขยับเร่งจังหวะในสนามรบ ทำให้ดวงตาหวานของเธอหลับพริ้ม ปากรูปกระจับเผยอเชิดขึ้นหวังจะได้รับรสจูบสุดเร่าร้อนจากชายหนุ่มด้านบน แต่แล้วเธอกลับต้องกัดปากรูปกระจับสีแดงสดของเธอลงไปเป็นการระบายอารมณ์ที่พร้อมจะพวยพุ่งของเหลวจากตัวเธอแทนเท่านั้น เมื่อไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มด้านบนของเธอจะจุมพิตเธอเลย ไม่ว่าเธอจะบรรเลงเพลงรักกับเขามากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ป๊าบ ป๊าบ!
“อ๊ะ! จะเสร็จแล้ว จะเสร็จแล้วคุณราชันย์ อื๊อ!!”
“อืม..”
น้ำกามสีขาวขุ่นได้พวยพุ่งออกมาจากแท่งเอ็นของเขา ที่มันกำลังกระตุกอยู่ในถ้ำสวาทของเธอสองสามครั้งก่อนจะแน่นิ่งอย่างสงบ ‘ราชันย์’ เหลือบมองหญิงสาวใต้ร่างเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ถอดถอนแท่งเอ็นออก เขาเอื้อมฝ่ามือผ่านหน้าของเธอไปหยิบทิชชูมาพันรอบแท่งเอ็นก่อนจะค่อย ๆ รูดถอดถุงยางออกอย่างช้า ๆ จัดการโยนมันทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี ชายหนุ่มก้าวขาลงจากเตียงหยิบกางเกงยีนที่เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วมันถูกถอดกองไว้ที่พื้นขึ้นมาสวมอย่างไม่รีบร้อน เสื้อเชิ้ตตัวแพงถูกหยิบขึ้นมาสวมทับร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาติดกระดุมช้า ๆ
“คุณราชันย์ขา จะไปแล้วหรอคะ”
หญิงสาวโผเข้ามาสวมกอดเขาจากทางด้านหลังอย่างออดอ้อนคล้ายลูกแมว ถูไถแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยเนินอกคู่โตขนาดหกร้อยซีซีไปมาอย่างยั่วยวนและเซ๊กซี่ สายตาหวานช้อนขึ้นมองชายหนุ่มจากทางด้านหลังเล็กน้อย
“ทำอะไร”
แต่แทนที่เธอจะได้เสียเหงื่อบรรเลงเพลงโลกีย์อีกครั้งตามที่ใจปรารถนา กลับกลายเป็นว่าเขานั้นรีบผละออกจากเธอราวกับว่าร่างกายของเขานั้นโดนของร้อนก็ไม่ปาน เขาหันไปจ้องมองเธอที่หน้าซีดเป็นไก่ต้มนั่งคอพับไร้ปราการใด ๆ ห่อหุ้มอยู่บนเตียงด้วยสายตาดุดันแทน
“อย่าโกรธมาหยาเลยนะคะ ก็มาหยาคิดถึงคุณมากแค่นั้นเอง”
เธอก้มหน้างุดตีหน้าเศร้าบีบน้ำตา ก่อนจะค่อย ๆ ช้อนสายตาขึ้นมามองผู้ชายด้านหน้าอีกครั้ง ส่งสายตาปริบ ๆ ให้อย่างออดอ้อนออเซาะราวกับว่าแมงมุมตัวใหญ่ที่สร้างใยเพื่อหลอกล่อแมลงให้มาติดกับก็ไม่ปาน
แต่มันก็ไร้ซึ่งเสียงตอบใด ๆ จากชายหนุ่มเบื้องหน้า เขาไม่ได้เพิ่งรู้จักผู้หญิงคนนี้มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร ราชันย์เอื้อมมือหนาไปหยิบกระเป๋าเงินก่อนจะเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบเงินปึกหนึ่งวางไว้ให้เธอบนโต๊ะ พร้อมกับหยิบกุญแจแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่ไยดีว่าหญิงสาวในห้องนั้นจะรู้สึกอย่างไร
_________
ตึกสูงเสียดฟ้าตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองหลวง มีผู้ชายวัยสามสิบสองปีเดินเข้ามาหาทันทีที่ราชันย์ก้าวเท้าเข้ามาที่บริษัท ราวกับว่ามีเรื่องใหญ่โตที่ต้องรีบแจ้งให้ผู้บริหารอย่างเขารับรู้ให้ได้
“ราชันย์ นายพลเบี้ยวนัดชำระหนี้อีกแล้ว คราวนี้แกจะให้กูจัดการเลยมั้ย”
“นายพล? เบี้ยวชำระหนี้มากี่รอบแล้ว”
“รอบนี้รอบที่สาม”
“งั้นมึงไปจัดการได้เลย กูฝากมึงด้วยแล้วกัน”
ธันวาเป็นเพื่อนสนิทและหุ้นส่วนที่ไว้ใจได้มากที่สุดของราชันย์ ทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่ ม.ต้น จนวันที่ราชันย์ขึ้นปี1 อยู่ ๆ ก็พูดกับธันวาว่าอยากเปิดกาสิโน และเรื่องกฎหมายไม่ต้องห่วงเพราะครอบครัวนั้นมีอิทธิพลระดับต้น ๆ ของประเทศอยู่แล้ว และธันวาก็เห็นดีเห็นงามด้วย ทั้งคู่จึงช่วยกันเริ่มก่อตั้งแรก ๆ ก็มีทุลักทุเลบ้างแต่อาจเพราะมีคนหนุนหลังเป็นพ่อที่เป็นมาเฟียอยู่แล้ว มันจึงทำให้ทุกอย่างดูง่ายดาย และทำให้ทั้งคู่รักกันเหมือนพี่น้องในครอบครัว
ธันวาเดินออกจากห้องทันทีที่ราชันย์พูดจบเพื่อไปจัดการตามล่าหาตัวนายพลซึ่งก่อนหน้านี้ลูกน้องแจ้งว่าหาตัวไม่พบคาดว่าไปกบดานที่อื่น ไม่มีลูกหนี้คนไหนที่เบี้ยวนัดแล้วมีชีวิตรอดกลับไปจากเงื้อมมือของผู้ชายที่ชื่อราชันย์ได้สักคนเพราะกฎก็คือกฎ คำพูดต้องเป็นคำพูด
โคร๊ม! ตุ๊บ! ตั๊บ! ปัง!!
“อ๊าก! อย่า ๆ อย่าทำผม ผมกลัวแล้ว อย่าทำผมเลย ผมขอร้อง”
เสียงร้องของผู้ชายวัยเกือบสิบห้าปีร้องของชีวิตทันทีที่เท้าทั้งห้าคู่ของลูกน้องที่มากับธันวาก็หยุดลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ธันวาเดินเข้าไปใกล้ ๆ ตะแคงคอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและน่ากลัวสำหรับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกหนี้แน่นอน
“ห้าล้านที่ยืมไปวันนี้กูต้องได้!”
“คุณธันวา ผมขอเวลาอีกสองวัน ผมจะเอาเงินไปให้คุณแน่นอน ผมสัญญา”
“เห็นทีจะไม่ได้นะครับคุณพล เพราะเรื่องนี้ถึงหูราชันย์แล้ว ผมเองคงช่วยอะไรคุณไม่ได้นอกจากผมต้องได้เงิน!”
หลังจากสิ้นเสียงของธันวาแล้วนั้นลูกน้องทั้งห้าคนที่ยืนรออยู่แล้วก็พร้อมใจกันยกกระบอกปืนพกเล็งไปที่หัวของนายพลทันทีอย่างพร้อมเพรียงกัน ขอแค่ลูกพี่อย่างธันวาสั่งเท่านั้นลูกกระสุนจากปลายกระบอกก็พร้อมจะออกจากปากกระบอกทันทีโดยพร้อมเพรียงกันแน่นอน
“อย่า อย่ายิงผม ผมมีข้อเสนอ!”
นายพลที่พยายามยื้อชีวิตตัวเองสุดกำลังขอยื่นข้อเสนอ ทำให้ธันวายืนมองหน้านายพลนิ่ง ๆ รอฟังจนจบ ก็เกิดอาการตกใจกับข้อเสนอที่นายพลยื่นมานั้นค่อนข้างไม่คาดคิดว่าจะออกมาจากปากของนายพล และก็ไม่รู้ว่าข้อเสนอนี้จะถูกใจไอ้ราชันย์หรือเปล่าด้วย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ยิงทิ้งไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ธันวาพยักหน้าตอบรับข้อเสนอของนายพล ก่อนจะหันไปสั่งให้ลูกน้องของเขาหิ้วปีกนายพลขึ้นรถเพื่อกลับไปยังบ้านของนายพลตามที่นายพลได้ยื่นข้อเสนอไว้
เมื่อรถตู้สีบรอนซ์คันใหญ่จอดเทียบที่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง นายพลก็ถูกโยนออกมาจากรถตู้อย่างไม่ไยดี โดยมีธันวาเดินลงตามหลังมาหยุดยืนอยู่ที่ประตูบ้าน สั่งให้ลูกน้องกดกริ่งหนึ่งครั้งก็มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เดินออกมาเปิดประตูบ้านให้ด้วยชุดนอนกระโปรงลายคิตตี้! เธอมีอาการตกใจเมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นพ่อ ที่นอนจมกองเลือดอยู่ด้านหน้า ร่างเล็ก ๆ ของเธอก็ปรี่หวังจะเข้าไปหาผู้เป็นพ่อทันที แต่ก็ถูกขวางไว้ด้วยผู้ชายร่างกายกำยำสองคน ที่ยืนคั่นกลางระหว่างเธอและพ่อเอาไว้
ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ปากเรียวเล็กสีชมพูดั่งกรีบกุหลาบ จมูกเล็ก ๆ ที่โด่งรับกับใบหน้าหวาน บัดนี้ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาไหลลื้นขึ้นมาทันทีที่เห็นเหตุการณ์ด้านหน้า
“พวกคุณเป็นใคร พวกคุณทำอะไรพ่อฉัน!”
เสียงตวาดเล็ก ๆ เหมือนแมวของเธอถูกพ่นออกมาอยากสงสัย แต่เมื่อธันวาได้ฟังเสียงเล็ก ๆ ของเธอแล้วกลับทำให้ธันวาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก เธอจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เรื่องหน้าตาสะสวยอย่างที่พ่อของเธอบอกไว้ไม่มีผิด แต่แววตาของเธอนั้นช่างไร้ประสีประสาและไม่รู้เรื่องรู้ราวเสียเหลือเกิน
“เธออายุเท่าไหร่?”
“คุณถามทำไม! ปล่อยพ่อฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
“ปล่อย? งั้นเธอเอาเงินที่พ่อเธอยืมไปมาคืนฉันสิ”
“เท่าไหร่! พ่อฉันยืมไปเท่าไหร่ทำไมต้องมาทำรุนแรงกับพ่อฉันด้วยละ”
“ห้าล้าน”
ธันวาตอบคำถามเธอเบา ๆ แต่คำตอบที่ได้ทำให้สาวน้อยถึงกับอ้าปากค้าง อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เธอหันไปมองหน้าคนเป็นพ่อที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น สลับกับหันไปมองหน้าธันวาไปมาอย่างไม่เข้าใจ และท่าทางที่แสดงออกมาว่าไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ถ้าให้เดาพ่อของเธอนั้นคงเป็นคนที่ดีที่สุดในสายตาเธอ เธอถึงได้แสดงอาการไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินแบบนั้นออกมาอย่างชัดเจน แต่คราวนี้เธอคงต้องผิดหวังแล้วละนะ
“ไม่จริง! คุณโกหกพ่อฉันจะเอาไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ! ไม่จริงใช่ไหมคะพ่อ”
“มันคือเรื่องจริง”
“พ่อ!”
“ผมขอพูดแบบไม่อ้อมค้อมเลยละกัน ผมจะไว้ชีวิตพ่อคุณ ก็ต่อเมื่อคุณไปกับผม”
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความอย่างที่คุณธันวาเขาพูดนั่นแหละ หรือแกอยากเห็นพ่อแกตายเหมือนหมาอยู่ตรงนี้ละ!”
“พ่อเอาเงินไปทำอะไรตั้งห้าล้าน! ทำไมพ่อไม่เคยบอกหญ้าเลยคะ”
“ถ้าไม่อยากเห็นหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก็ไปกับคุณธันวาซะเถอะถือว่าทำเพื่อพ่อนะ”
“แล้วทำไมหญ้าต้องไป นี่มันเรื่องอะไรคะพ่อ หญ้าไม่เข้าใจ”
“แกไปอยู่กับคุณราชันย์ แกจะได้ช่วยพ่อไงกอหญ้าแค่ไปทำงานตามที่คุณราชันย์สั่งนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ต้องกลัวนะ”
กอหญ้าเงียบนิ่งทันทีที่ได้ยินคำพูดจากคนเป็นพ่อ ในสมองตีรวนวุ่นวายตั้งคำถามมากมายขึ้นมาแต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบใด ๆ เธอไม่เคยรู้เลยว่าทำไมพ่อของเธอถึงมีหนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอเห็นทุกวันนี้พ่อแทบไม่ใช้เงินเลยด้วยซ้ำ ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนขัดสน มันยิ่งตอกย้ำให้เธอไม่เข้าใจเข้าไปอีก
“พ่อบอกกอหญ้าได้ไหม ว่าเงินตั้งห้าล้านพ่อเอาไปทำอะไรคะ ถ้าหญ้าต้องไปกับเขา หญ้าก็ควรรู้เหตุผลใช่ไหมคะ”
“พ่อขอโทษนะกอหญ้า พอเสียพนันแล้วไปกู้เงินคุณราชันย์ แต่สุดท้ายพ่อก็เสียหมดตัว”
“พ่อ..”
“คิดดี ๆ นะว่าอยากช่วยพ่อหรืออยากเห็นพ่อเธอตายที่นี่”
“ฉันไปก็ได้ .. แต่คุณต้องรับปากว่าจะไม่ทำอะไรพ่อฉัน”
“แน่นอนอยู่แล้ว ผมเป็นคนรักษาคำพูด .. งั้นก็ไปกันได้แล้ว ขึ้นรถเถอะ”
รถตู้สีดำสนิทเลี้ยวผ่านประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กินพื้นที่ไปกว่าสิบไร่ ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ พร้อมกันนั้นก็ผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งรีบจ้ำอ้าวมาเปิดประตูรถให้ผู้เป็นเจ้านายทันทีที่รู้ว่าคนในรถนั้นเป็นใคร เผยให้เห็นผู้ชายร่างใหญ่ที่มีส่วนสูงกว่าร้อยแปดสิบห้า ใบหน้าคมเข้มขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ก้าวลงมาจากรถ ก่อนจะยื่นกระเป๋าใบโตให้ป้าจันทร์
“วันนี้มีอะไรกินบ้างครับป้าจันทร์ ผมหิวมากเลย”
“วันนี้ลมอะไรหอบคุณหนูของป้ากลับมาบ้านได้คะเนี่ย นึกว่าจะลืมป้าแก่ ๆ คนนี้ไปซะแล้ว”
“โอ๋ ไม่น้อยใจกันสิครับ ผมจะลืมป้าจันทร์ได้ยังไง ผมให้เทพาโทรมาบอกแตงไทยแล้วนะครับ ว่าวันนี้จะมาทานข้าวฝีมือป้าจันทร์แตงไทยลืมบอกหรือเปล่าเนี่ย”
ป้าจันทร์นั้นเป็นแม่นมของราชันย์เลี้ยงราชันย์มาตั้งแต่แบเบาะ ปีนี้ก็อายุก็ย่างเข้าหกสิบห้าปีแล้ว แต่สุขภาพร่างกายนั้นแข็งแรงราวกับสาว ๆ วัยยี่สิบสามสิบ ใบหน้าที่มีแต่ความยิ้มแย้มแจ่มใสทำให้ราชันย์นั้นติดป้าจันทร์มากมาตั้งแต่เล็ก ๆ และอาจเป็นเพราะป้าจันทร์เองเป็นคนเดียวที่อยู่กับราชันย์ตลอดเวลาด้วย เพราะพ่อและแม่ของราชันย์นั้นทำแต่งานและเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมากทำให้แทบไม่มีเวลาให้ราชันย์เลยก็ว่าได้ แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนในสายตาป้าจันทร์นั้นราชันย์ก็ยังเป็นเด็กน้อยของแม่นมคนนี้เสมอและราชันย์ก็รักป้าจันทร์มากเหมือนเป็นแม่แท้ ๆ คนหนึ่ง
“ป้าก็แซวคุณหนูเล่นไปงั้นแหละ วันนี้ป้าทำข้าวผัดทะเลของโปรดคุณหนู แล้วก็มี ไข่พะโล้ ผัดผักบุ้ง และก็ต้มยำกุ้งน้ำข้น เมนูโปรดคุณหนูทั้งนั้นเลย เดี๋ยวป้าให้แตงไทยไปตั้งโต๊ะรอเลยนะคะ คุณหนูไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะได้ลงมาทานข้าววันนี้คุณท่านกับคุณนายไม่อยู่บ้านนะคะ”
ราชันย์พยักหน้าสองสามที แล้วก้มลงไปหอมแก้มแม่นมฟอดใหญ่ ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย
ตื๊ด ตื๊ด
‘ว่าไงไอ้ธัน มึงเจอตัวมันมั้ย’
‘จะเรียกว่าเจอมั้ย .. ก็เจอนะ แต่ว่าที่ได้มาไม่ใช่เงินว่ะ เป็นของขัดดอกที่นายพลให้มาแทน’
‘แล้ว’
‘ไว้กูจะเข้าไปหาละกัน จะได้อธิบายทีเดียว’
‘วันนี้กูกลับบ้าน’
‘งั้นกูเอาไปฝากไว้ที่คอนโดมึงก่อนได้ปะ กูไม่สะดวกเอากลับ’
‘ของเหี้ยไรวะ’
‘รหัสเดิมใช่มั้ย เดี๋ยวกูไปไว้ก่อนนะมึงใช้งานกูเยอะกูง่วงนอนละ อ่อ! ราชันย์กูว่านะวันนี้มึงกลับมานอนคอนโดก็ดีนะ เพราะของที่กูทิ้งไว้มันคือแมวน้อยตัวหนึ่ง ค่อนข้างพยศง่ายด้วยถ้าไม่อยากห้องพังมึงควรกลับมา’
‘ไอ้ธัน..’
ตืด ตืด
“คุณหนู ป้าให้แตงไทยตั้งโต๊ะเรียบแล้วนะคะ”
“ครับป้าจันทร์ เดี๋ยวผมลงไปนะครับ”
หลังจากทานอาหารเสร็จ ราชันย์ก็รีบขึ้นมาจัดการงานที่ค้างไว้ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไอ้ธันวาบอกว่าทิ้งแมวไว้ที่ห้อง ทั้ง ๆ ที่มันก็รู้ว่าราชันย์ไม่ค่อยชอบขนแมว สงสัยวันนี้ต้องรีบกลับไปจัดการลูกแมวที่ว่าก่อนที่ขนแมวจะปลิวไปทั่วห้องซะแล้ว แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปจัดการไอ้ธันวาต่ออีกที ราชันย์เก็บของอีกเล็กน้อยใส่กระเป๋าแต่งตัวแบบลวก ๆ ก่อนจะขับรถหรู Ferrari 296 GTB กลับคอนโด
กริ๊ก! ราชันย์เปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุด หายใจเข้าก่อนจะหายใจออกเบา ๆ พยายามนึกภาพสภาพห้องที่มีแมวรื้อของจนมันกระจุยกระจายในหัว ก่อนจะทำใจค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างช้า ๆ แต่เมื่อไฟถูกเปิดแล้วสภาพที่เห็นก็ยังปกติดีทุกอย่าง ยิ่งทำให้รู้สึกแปลก ๆ แบบบอกไม่ถูก หรือว่าแมวมันจะไม่รื้อของจนกระจุยกระจาย หรือว่าแมวไม่คุ้นที่อาจจะแค่เดินไปเดินมา?
‘เมี๊ยว เมี๊ยว’
ราชันย์ลองร้องเรียกแมวเบา ๆ เผื่อว่าจะอยู่แถว ๆ ในห้อง แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ ไม่มีเสียงร้องกลับ ราชันย์ค่อย ๆ เดินเอากรงแมวแบบพกพาที่แวะซื้อที่ร้านสัตว์เลี้ยงก่อนถึงคอนโดวางไว้ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหาแมวที่ธันวาพูดถึง แต่แล้วสายตาจะปะทะกับมนุษย์แมวสีชมพูที่นอนขดตัวอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับแขก ราชันย์ขมวดคิ้วอย่างไม่ถูกใจกับสิ่งที่เห็นนัก ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปที่โซฟาช้า ๆ เพื่อยืนยันสิ่งที่เห็นว่าไม่ได้ตาฝาด แต่ภาพตรงหน้าก็ยังเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ที่สวมชุดนอนคิตตี้นอนขดตัวอยู่ที่โซฟา กรอบหน้ามีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดหลายเม็ด คาดว่าน่าจะเพราะอากาศอบอ้าว เพราะในห้องไม่มีร่องรอยการเปิดเครื่องปรับอากาศ ราชันย์ยืนมองสักพักอย่างพิจารณา ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกง เพื่อควานหาโทรศัพท์เพื่อต่อสายหาธันวาทันที
ตื๊ด ตื๊ด
‘ว่าไง’
‘นี่มันเรื่องอะไร ไหนมึงว่าทิ้งแมวไว้ แล้วทำไมกลายเป็นเอาคนมาไว้ที่คอนโดกู’
‘ก็นั่นไงแมว’
‘แมวห่าอะไร มึงจะบอกว่าที่นอนอยู่นี่กลายร่างมาจากแมวว่างั้น’
‘เออ ๆ ลูกสาวนายพล’
‘แล้วมึงเอาลูกสาวมันมาทำไม’
‘ขัดดอก’
‘ห๊ะ!’
‘มึงได้ยินไม่ผิดหรอก นายพลส่งมาขัดดอก’
‘เป็นพ่อประสาอะไรวะ ส่งลูกมาขัดดอก .. แล้วกูก็ไม่เคยบอกว่ากูรับมนุษย์เป็นของขัดดอก’
‘กูนอนละ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันวันนี้มึงก็คิดสะว่ามีแมวไปนอนเป็นเพื่อนก่อนละกัน’
ตู๊ด ตู๊ด
ราชันย์ยืนมองร่างบาง ๆ ของเธอก่อนจะยัดมือถือใส่ลงไปในกระเป๋ากางเกงตามเดิม ค่อย ๆ ช้อนร่างของคนตัวเล็กขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วพาไปวางในห้องนอนอย่างเบามือ ห่มผ้าให้อย่างลวก ๆ เปิดเครื่องปรับอากาศก่อนจะปิดไฟ แล้วย้ายร่างตัวเองไปนอนอีกฝั่ง ข้าง ๆ ข่มตาให้นอนหลับ
ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากมาก ยิ่งปิดเปลือกตาลงมากเท่าไหร่ภาพของคนตัวเล็กที่แม้ว่าจะมองใบหน้าไม่ชัดก็ผุดขึ้นมาในหัวซ้ำ ๆ และราชันย์น้อยจะเริ่มจะออกอาการอยากจะคำรามขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ว่านะกฎของราชันย์ก็มีอยู่ และจะไม่ยอมทำอะไรคนที่ไม่ยินยอมเด็ดขาด
ถึงแม้จะถูกส่งมาขัดดอกแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าราชันย์จะต้องรับข้อเสนอนี้ ไว้ค่อยไปถามรายละเอียดกับธันวาอีกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
รุ่งเช้าของวันถัดมาเปลือกตาหนัก ๆ ของกอหญ้าค่อย ๆ เปิดขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้าคือหน้าอกของคน ใช่มันคือเนื้อหนังของคนที่กำลังนอน และเป็นภาพที่เธอเองนั้นกำลังนอนกอดกับบุคคลตรงหน้าอยู่ โดยที่คนคนนั้นไม่ได้สวมเสื้อด้วยซ้ำ ด้วยความตกใจเธอผละออกจากอกของเขาและลุกมานั่งอย่างอัตโนมัติ มองซ้ายมองขวา สำรวจร่างกายตัวเองก็เห็นว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติจากเมื่อคืน
นอกจากห้องที่นอนเพราะจำได้ว่าเมื่อวานผู้ชายคนนั้นพาเธอขึ้นมาแล้วบอกว่าให้อยู่ที่นี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีเจ้าหนี้ของพ่อมา เธอเลือกที่จะนั่งรอที่โซฟาแต่ลืมไปสนิทว่าเธอเป็นคนที่หัวถึงหมอนแล้วจะหลับได้ทันที และเป็นคนที่หลับลึกมากซะด้วย และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอไม่อยากไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหน แต่การมาครั้งนี้เป็นสิ่งที่เธอเลือกไม่ได้จะให้เธอปฏิเสธก็กลัวว่าพ่อของเธอจะเป็นอันตราย เธอไม่มีทางเลือกอะไรเลยสักทางได้แต่จำใจยอมรับกับสิ่งที่จะต้องเจอ แต่เธอก็ไม่คิดว่าเจ้าหนี้ที่ว่าจะกลับมาไวขนาดนี้
“ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ”
ราชันย์บ่นพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันหลังให้เธอ เขาคว่ำหน้าลงกับหมอนสีขาวใบโต ทิ้งให้หญิงสาวที่กำลังตกใจปนงุนงงนั่งนิ่ง ๆ ราวกับถูกแช่แข็งอยู่บนเตียง พอได้สติ สกุณา หันซ้ายหันขวาก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียงนอนขนาดคิงไซต์ ออกจากห้องมาสำรวจคอนโดชัด ๆ อีกครั้ง เธอเดินมานั่งนิ่ง ๆ บนโซฟาด้วยหน้าตาที่หมดอาลัยตายอยาก เธอเองก็ไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้ประสีประสาการที่พ่อให้เธอมาอยู่กับเจ้าหนี้คงไม่ได้ให้มาปัดกวาดเช็ดถูหรอก แต่ชีวิตของเธอรันทดถึงขั้นต้องมาเผชิญหน้ากับเรื่องบัดซบแบบนี้จริง ๆ หรอ
“ชื่ออะไร?”
สกุณาสะดุ้งตัวโยนทันทีที่ได้ยินเสียงจากบุคคลด้านหน้า เมื่อเห็นใบหน้าชัด ๆ ของเขาแล้ว ใบหน้าคมคายของบุคคลตรงหน้า ความสูงประมาณร้อยแปดสิบห้าเห็นจะได้ เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ที่ถูกสวมลวก ๆ กางเกงนอนสีเทาตัวโต กับทรงผมที่มองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าเพิ่งตื่น แต่พอทุกอย่างประทับอยู่บนร่างกายของผู้ชายคนนี้ กลับทำให้ดูดีอย่างไร้ที่ติ มันยิ่งทำให้สกุณาละสายตาไม่ได้เลยจริง ๆ
“นี่! ได้ยินที่ฉันถามไหมเนี่ย”
พอได้สติเธอก็ลุกพรวดออกจากโซฟามายืนข้าง ๆ ทันที ก่อนจะก้มหน้าตอบเบา ๆ
“สกุณา”
“ก็ไม่ได้เป็นใบ้นี่นา นึกว่าพ่อของเธอจะส่งคนใบ้มาให้ฉันซะละ”
สกุณาได้แต่ยืนนิ่ง ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอะไรจากตรงไหน เดิมทีจะออกมาทำความสะอาดห้อง แต่ทุกอย่างถูกทำความสะอาดจนเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้แต่ฝุ่นสักเม็ดยังไม่มี จะทำอาหารก็เห็นแต่ในตู้เย็นมีแต่อาหารสำเร็จรูป ที่เอาเข้าไมโครเวฟห้านาทีก็ทานได้ มันเลยทำให้เธอไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้แต่เดินมานั่งทำใจที่โซฟากลางห้อง
“รู้ใช่ไหมว่ามาที่นี่ทำไม?”
“ค่ะ”
“แล้วเธอจะเริ่มใช้หนี้แทนพ่อของเธอเมื่อไหร่”
“เอ่อ..”
“เริ่มเลยไหม ตอนเช้า ๆ มังกรของฉันกำลังตื่นได้ที่”
“คือ..”
“เธอจะ เอ่อ ๆ คือ ๆ อีกนานไหม! หรือพ่อเธอส่งเธอมากวนประสาทฉันเล่น ๆ ฉันจะได้ส่งคนไปเก็บกวาด ลีลามากมันรำคาญ!”
“เปล่านะคะ เอ่อ คุณชื่ออะไรคะ?”
“ราชันย์ จำชื่อฉันไว้ให้ดี เวลาครางใต้ร่างฉันอย่าให้มีชื่อคนอื่นเข้ามาเด็ดขาด ฉันไม่ชอบ!”
ราชันย์ที่เริ่มหมดความอดทนกับบุคคลตรงหน้า เพราะเธอเอาแต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เขาจึงเลือกที่จะใช้น้ำเสียงดุดันกับสกุณาแทน สายตาที่มองเธออย่างเหยียดหยาม ผู้หญิงที่กล้าสวมชุดนอนออกมาจากบ้าน คงจะผ่านสนามรบมาอย่างนับไม่ถ้วน แสร้งทำสีหน้าท่าทางเหมือนหวาดกลัว นี่คงจะเป็นมารยาหญิงแบบที่ราชันย์เคยเจอมาแบบนับไม่ถ้วนสินะ
แต่ด้วยรูปร่าง หน้าตา ทรวดทรงองค์เอว เธอนั้นจัดอยู่ในประเภทที่สวยเลยทีเดียว และยิ่งตอกย้ำให้ราชันย์มั่นใจขึ้นเป็นไหน ๆ ว่าเธอไม่น่ารอดมาจนถึงทุกวันนี้แน่ ๆ มารยาดี ตีเนียน มาคอยดูกันว่าจะแสร้งทำไปได้อีกนานแค่ไหน
“รูปร่างแบบนี้คงผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชนแล้วสินะ งั้นเรามาคุยกันเรื่องเงื่อนไขดีกว่า เงื่อนไขฉันง่ายมาก ภายในสามเดือนนี้ เธอต้องทำให้ฉันพอใจในทุก ๆ ด้าน ฉันถึงจะยกหนี้ทั้งหมดให้พ่อเธอ และเธอคงรู้ใช่ไหมว่าจำนวนเงินไม่ไช่น้อย ๆ จะให้แค่มานอนเป็นนางบำเรอบนเตียงสามเดือนแล้วหมดหนี้ก็คงไม่ได้ เตรียมใจไว้ด้วยล่ะและถ้าถึงกำหนดฉันจะคืนอิสระให้เธอ แต่! ภายในสามเดือนนี้เธอห้ามไปมั่วสุมกับคนอื่นเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาชีวิตพ่อเธอแทน”
“งั้น .. ฉันขอทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรได้ไหมคะ”
“หึ! ฉลาดดีนี่ ได้สิ! ฉันไม่มีปัญหา"
“ปล่อย? งั้นเธอเอาเงินที่พ่อเธอยืมไปมาคืนฉันสิ”“เท่าไหร่! พ่อฉันยืมไปเท่าไหร่ทำไมต้องมาทำรุนแรงกับพ่อฉันด้วยละ”“ห้าล้าน”ธันวาตอบคำถามเธอเบา ๆ แต่คำตอบที่ได้ทำให้สาวน้อยถึงกับอ้าปากค้าง อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เธอหันไปมองหน้าคนเป็นพ่อที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น สลับกับหันไปมองหน้าธันวาไปมาอย่างไม่เข้าใจ และท่าทางที่แสดงออกมาว่าไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ถ้าให้เดาพ่อของเธอนั้นคงเป็นคนที่ดีที่สุดในสายตาเธอ เธอถึงได้แสดงอาการไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินแบบนั้นออกมาอย่างชัดเจน แต่คราวนี้เธอคงต้องผิดหวังแล้วละนะ“ไม่จริง! คุณโกหกพ่อฉันจะเอาไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ! ไม่จริงใช่ไหมคะพ่อ”“มันคือเรื่องจริง”“พ่อ!”“ผมขอพูดแบบไม่อ้อมค้อมเลยละกัน ผมจะไว้ชีวิตพ่อคุณ ก็ต่อเมื่อคุณไปกับผม”“หมายความว่าไง”“ก็หมายความอย่างที่คุณธันวาเขาพูดนั่นแหละ หรือแกอยากเห็นพ่อแกตายเหมือนหมาอยู่ตรงนี้ละ!”“พ่อเอาเงินไปทำอะไรตั้งห้าล้าน! ทำไมพ่อไม่เคยบอกหญ้าเลยคะ”“ถ้าไม่อยากเห็นหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก็ไปกับคุณธันวาซะเถอะถือว่าทำเพื่อพ่อนะ”“แล้วทำไมหญ้าต้องไป นี่มันเรื่องอะไรคะพ่อ หญ้าไม่เข้าใจ”“แกไปอยู่กับคุณราชันย์ แก
หลังจากทานอาหารเสร็จ ราชันย์ก็รีบขึ้นมาจัดการงานที่ค้างไว้ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไอ้ธันวาบอกว่าทิ้งแมวไว้ที่ห้อง ทั้ง ๆ ที่มันก็รู้ว่าราชันย์ไม่ค่อยชอบขนแมว สงสัยวันนี้ต้องรีบกลับไปจัดการลูกแมวที่ว่าก่อนที่ขนแมวจะปลิวไปทั่วห้องซะแล้ว แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปจัดการไอ้ธันวาต่ออีกที ราชันย์เก็บของอีกเล็กน้อยใส่กระเป๋าแต่งตัวแบบลวก ๆ ก่อนจะขับรถหรู Ferrari 296 GTB กลับคอนโดกริ๊ก! ราชันย์เปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุด หายใจเข้าก่อนจะหายใจออกเบา ๆ พยายามนึกภาพสภาพห้องที่มีแมวรื้อของจนมันกระจุยกระจายในหัว ก่อนจะทำใจค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างช้า ๆ แต่เมื่อไฟถูกเปิดแล้วสภาพที่เห็นก็ยังปกติดีทุกอย่าง ยิ่งทำให้รู้สึกแปลก ๆ แบบบอกไม่ถูก หรือว่าแมวมันจะไม่รื้อของจนกระจุยกระจาย หรือว่าแมวไม่คุ้นที่อาจจะแค่เดินไปเดินมา?‘เมี๊ยว เมี๊ยว’ราชันย์ลองร้องเรียกแมวเบา ๆ เผื่อว่าจะอยู่แถว ๆ ในห้อง แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ ไม่มีเสียงร้องกลับ ราชันย์ค่อย ๆ เดินเอากรงแมวแบบพกพาที่แวะซื้อที่ร้านสัตว์เลี้ยงก่อนถึงคอนโดวางไว้ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหาแมวที่ธันวาพูดถึง แต่แล้วสายตาจะปะทะกับมนุษย์แมวสีชมพูที่นอนขดตัวอยู่ที่โซฟาตัว
บทที่ 2...ราชันย์พูดจบ มือหนาของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือขึ้นมาส่งไลน์หาธันวาทันที ให้จัดการจัดแจงเรื่องหนังสือสัญญาตามที่คุยกับเธอไปเมื่อสักครู่ และลงรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วน ก่อนจะหันหน้าจอไปให้สกุณาดูว่าเขาทำจริง ราชันย์วางมือถือลงบนโซฟาข้าง ๆ หยิบสวิตช์มากดปิดผ้าม่านกันแสงสกุณาที่จ้องหน้าของราชันย์อยู่แล้วก็เห็นแววตาหื่นกระหายแสดงออกมาอย่างชัดเจน เขาตบไปที่ตักตัวเองเบา ๆ เป็นเชิงชวนให้เธอเดินมานั่งอย่างไม่มีผิด สกุณาที่เห็นเช่นนั้นได้แต่ยืนกำมือน้อย ๆ ของเธอแน่นริมฝีปากล่างถูกฟันที่เรียงตัวสวยกัดจนรู้สึกว่าแสบนิด ๆ และได้กลิ่นเลือดคละคลุ้งอยู่ในปากนิดหน่อย รสชาติหวานปะแล่ม ๆ ของเลือดที่ซึมออกมาทำให้เธอได้แต่กลืนมันลงคอไปทันทีขาน้อย ๆ ก้าวเข้าไปหาบุคคลตรงหน้าทีละนิด ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าขอบตาของเธอนั้นเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา เธอพยายามเป็นอย่างมากที่จะสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาต่อหน้าบุคคลด้านหน้านี้ ในสมองคิดแค่ว่าอดทนแค่สามเดือน หลังจากนั้นเธอก็จะเป็นอิสระอยู่ในสถานะนางบำเรอแค่สามเดือนเท่านั้นร่างกายบอบบางของเธอเดินมาหยุดตรงหน้าของราชันย์ ใบหน
ราชันย์ไม่ปล่อยให้สกุณาต้องรอนานเขาเอื้อมมือเพื่อโน้มใบหน้าของเธอลงมาประกบจูบ สัมผัสแรกที่เขาได้รับมันช่าง “หอมหวาน” ความรู้สึกเหมือนเขาที่กำลังลิ้มรสของลูกอมคาราเมลสูตรพรีเมี่ยม ที่มันช่างทั้งหอมทั้งหวานจนไม่อยากละออกมาสักวินาทีเดียว เรียวลิ้นหนาควานไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กอย่างบ้าคลั่ง รับรู้ได้ว่าเรียวลิ้นของเธอนั้นกำลังหนีลิ้นหนาของเขา ราชันย์กระหน่ำจูบสกุณาอย่างบ้าคลั่งดั่งคนกระหายน้ำอยู่พักใหญ่ ๆ จนเขาได้ยินเสียงคล้ายคนที่กำลังสำลักจากบุคคลด้านบนราชันย์ถึงได้ค่อย ๆ ผละใบหน้าออกมาและหยุดการกระทำทุกอย่างทันที“หยุด .. อ๊ะ! .. หยุดทำไมคะ”“อยากให้ต่อหรอ”“ค่ะ..คุณราชันย์..ช่วยกอหญ้าด้วย กอหญ้าไม่ไหวแล้ว”“กอหญ้า?”เธอเองไม่ได้ตอบอะไรกลับมาได้แต่ส่งสายตาหวานอย่างอ้อนวอนให้ผู้ชายด้านล่างของเธอ ร่างกายที่ร้อนรุ่มดั่งโดนไฟเผาของเธอมันกำลังจะปะทุออกมาให้ได้ เธอมีความต้องการ ต้องการสัมผัสของราชันย์เพื่อมากลบความร้อนรุ่มนั้น ราชันย์กระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะดึงชุดนอนของเธอออกทางด้านบน เหลือแต่ร่างขาว ๆ ที่เปล่าเปลือยกับบราเซียตัวจิ๋วที่ถูกดันขึ้นไปเหนืออกอวบอิ่ม ราชันย์ตวัดตะขอด้านหลังด้วยความ
“อืม..ไม่ไหว หยุดไม่ไหว ตอดแน่นเหลือเกินกอหญ้า ตอดแน่นขนาดนี้จะให้หยุดไหวได้ไง อืม..”“เสียว..มันเสียว คุณราชันย์”ราชันย์ที่ได้ยินเสียงครางกระเส่าของเธอก็ยิ่งเร่งจังหวะเข้าไปอีกรัว ๆ ดั่งเขากำลังยิงปืนกลก็ไม่ปาน คนตัวเล็กใต้ร่างบิดเอวไปมาตามความเสียวซ่าน บ้างก็แอ่นสะโพกเพื่อรับแรงกระแทกจากราชันย์เป็นบางครั้งอย่างลืมความเจ็บปวด ช่องทางรักกระตุกเกร็งและตอดรัดท่อนเอ็นของเขาแรงขึ้น ก่อนจะกระตุกเกร็งแรง ๆ สองสามครั้ง“อื้อ!!”“รอด้วยสิ จะเสร็จแล้ว อืมม..”แก่นกายของเขากระตุกสามสี่ครั้งในโพรงร่องสวาท ก่อนที่มันจะสงบแน่นิ่ง ร่างบางที่อ่อนปวกเปียกของกอหญ้าบัดนี้พร้อมจะหลับได้ทุกเมื่อ เธอปรือตาขึ้นมามองราชันย์ที่ยังอยู่ในท่าเดิม ไม่แม้แต่จะถอดถอนแก่นกายนั้นออกจากโพรงสวาทเธอด้วยซ้ำ เขาเหลือบตามองเห็นหน้าของสกุณาที่กำลังปรือตามองเขาอย่างเซ็กซี่ ท่อนเอ็นที่น่าจะหลับแล้วก็กลับผงาดขึ้นมาอีกครั้งในโพรงช่อบุปผาของเธออีกครั้ง สกุณาที่สัมผัสได้ถึงความใหญ่โตในช่องทางรักของตัวเองนั้นทำให้ดวงตาเบิกโพลงทันทีราชันย์ไม่รอช้าเพื่อดับกระหายกิเลสเขาขยับเล็กน้อยและยกสกุณาให้ปลิวหวือขึ้นมาทันที ก่อนที่เขาจะลุกข
บทที่ 3...“ไร่มังกรมีปัญหาหรอวะ”“ไอ้มังกรไปไต้หวัน แล้ววันนี้มีทัวร์มาลงที่ไร่ กูเลยจะเข้าไปดูความเรียบร้อยสักหน่อย”ธันวาพยักหน้าสองสามทีก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป ทิ้งให้ราชันย์ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อย่างสบายอารมณ์ พ่นควันสีขาวช้า ๆ สลับกับอัดควันลงปอดอย่างหนักไปมาจนหมดมวน“กอหญ้า”เมื่อสมองว่างเปล่าภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คือภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตาจิ้มลิ้มหลับตาพริ้มครวญครางอยู่ใต้ร่าง แค่เห็นใบหน้าที่เซ็กซี่ของเธอก็ทำให้อารมณ์ดีแบบบอกไม่ถูก คิดถึงรสสัมผัสจากริมฝีปากรสชาติแห่งความสุขก็ยิ่งทำให้อารมณ์ขึ้นเป็นอีกเท่าตัว หลังจากที่ราชันย์จัดการทุกอย่างที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของครอบครัว ที่นี่เป็นบริษัทส่งออกอะไหล่รถสุดหรูอันดับหนึ่งของประเทศถูกดูแลโดยราชันย์ ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลที่มีชื่อเสียงติดTopระดับประเทศซึ่งราชันย์ต้องดูแลเรียบร้อยแล้ว ราชันย์ก็ขับรถสปอร์ตคู่ใจเดินทางไปไร่มังกรทันทีไร่มังกรจัดอยู่ในธุรกิจครอบครัวอีกธุรกิจหนึ่ง คนดูแลคือมังกรพี่ชายของตระกูล รายได้ที่เข้ามาไม่แพ้ธุรกิจส่งออกอะไหล่รถสปอร์ตที่ราชันย์ดูแลเลยทีเดียว รถสปอร์ตคันหรูขับมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ที่ล้อ
และไม่มีคำตอบอะไรจากปากของพราวฟ้า มีแต่นัยน์ตาที่เริ่มมีน้ำตาคลอเบ้ากับความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบ ทั้งคู่มองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาเลย พราวฟ้าคือผู้หญิงที่ราชันย์หลงรักมาก มีแพลนจะขอแต่งงานทันทีที่เรียนจบ แต่ก็มีเหตุให้ต้องแยกกันเพราะพราวฟ้าต้องย้ายไปเรียนต่างประเทศ และวันนั้นก่อนที่พราวฟ้าจะไปพราวฟ้ารับปากกับราชันย์ไว้ว่า ถ้าเจอกันอีกครั้งต่างคนต่างไม่มีใคร วันนั้นพราวฟ้าจะยอมรับรักราชันย์ และราชันย์ก็เชื่อมั่นและรอคอยมาตลอด เพราะหวังว่าสักวันพราวฟ้าจะหันมารักตัวเองและสมหวังในความรักกับคนที่แอบชอบมาหลายปี“คุณพราวฟ้าเป็นยังไงบ้างคะ”“ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะป้านงค์ ไม่ต้องบอกเฮียนะคะ เดี๋ยวเฮียเป็นห่วง”“ไม่ทันแล้วค่ะ คุณมังกรกำลังกลับมาแล้วค่ะคุณพราว”“พราวขอคุยกับราชันย์ เป็นการส่วนตัวสักพักนะคะป้านงค์”“ได้ค่ะ คุณราชันย์วันนี้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยเลยไหมคะ ป้าจะได้ให้น้ำมนต์ทำอาหารเผื่อ”“ไม่ละครับป้านงค์ เดี๋ยวผมจะกลับแล้วครับ งานที่ไร่เรียบร้อยพอดี”หลังจากได้ยินราชันย์ตอบ ป้านงค์ก็เดินออกไปเตรียมอาหารทันที ทำให้บรรยากาศในห้องโถงนี้ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง“ราชันย์ พราว
บทที่ 4...ราชันย์ไม่พูดเปล่า พร้อมกับเลิกเสื้อยืดสีขาวตัวโตขึ้นเผยให้เห็นเต้าอวบอิ่มสองเต้าปะทะสายตาเด่นชัด ผิวขาว ๆ ของเธอที่ปะทะกับแสงไฟมันช่างขาวผ่องอย่างหาที่ติไม่ได้ ราชันย์ไม่รอช้าใช้อุ้งปากงับยอดปทุมถันที่บัดนี้ชี้แข็งเป็นไตต้อนรับหายกระหายของเขา เขาดูดเม้มอย่างเมามันทำให้คนใต้ร่างสยิววาบหวามเป็นระยะ มือหนาก็ไม่อยู่นิ่งค่อย ๆ เลื่อนจากสองเต้าอวบอิ่มลงมาที่ช่อบุปผาแสนงามที่บัดนี้ได้เฉอะแฉะไปด้วยน้ำหวานนิ้วแกร่งกรีดผ่านตามรอยแยกช้า ๆ เน้น ๆ ยิ่งทำให้เธอตัวเกร็งเป็นระยะ นิ้วแกร่งค่อย ๆ เข้าไปในช่อบุปผาทีละน้อย ก่อนจะกดเข้าไปในร่องสวาทนั้นจนมิดนิ้วสร้างความเสียวกระสัน ก่อนจะค่อย ๆ ผลุบเข้า ผลุบออกช้า ๆ เนิบ ๆ เรียกเสียงครางจากเธอได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากผละออกจากยอดปทุมถันพร้อมกับดึงเสื้อตัวโตทิ้งออกไปอย่างไม่ไยดี ริมฝีปากหนาบรรจงไล่จูบก่อนจะเลื่อนไล้ไปตามร่างกายของเธอสลับกับดูดดึงขบเม้มจนเกิดรอยสีกุหลาบเป็นทางตั้งแต่หน้าอกคู่โต ไล่ลงมาจนถึงช่อบุปผาสวยของเธอ เขาเหลือบมองร่างบางก็เห็นว่าเธอหลับตาพริ้มลิ้นสากของเขาจึงค่อย ๆ แตะไปที่กลีบบุปผาเบา ๆ ทำให้ร่างกายของเธอสะดุ้งโยนอย่างที่
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ
พิเศษ ตอนที่ 2 | เจ้าแฝดของป๊ามาเฟีย...ในฤดูหนาวของช่วงปลายปี อากาศยามเช้าที่สดชื่นเป็นพิเศษ หลังจากที่เมื่อคืนได้ผ่านพายุหิมะที่ถล่มจนแทบมองไม่เห็นพื้น ต้อนรับยามเช้าที่สดใสด้วยดอกกุหลาบ และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่หญิงสาวได้ลงมือลงแรงปลูกเองกับมือ กำลังบานสะพรั่งต้อนรับแสงตะวัน แม้กลีบดอก กลีบใบบางส่วนจะยังคงถูกปกคลุมด้วยเกล็ดหิมะบางจุดอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็มิสามารถปกปิดความงามของดอกไม้ไว้ได้ลมจากทะเลสาบที่ขยันจะพัดโชยตลอดเวลา กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของทะเลลอยเข้ามาแตะจมูก สร้างความสดชื่นให้กับผู้คนที่อยู่ละแวกนั้น ในห้องนอนของหญิงสาวที่อายุครรภ์ใกล้ครบกำหนดคลอดเข้ามาทุกที กำลังนั่งพับเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เตรียมคลอด พร้อมกับทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างมองดอกไม้ที่อยู่ด้านนอกอย่างสบายอารมณ์ ความสวยงามของธรรมชาติที่เธอบรรจงสร้างขึ้น ถือเป็นความสบายใจของเธอเป็นอย่างมาก ทางด้านของธันวาเองก็ยังคงรายงานสถานการณ์ให้กับราชันย์ทราบอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ราวกับว่าราชันย์เองยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วยอย่างไรอย่างนั้น ทางด้านของเด็กสาวอารมณ์ดีอย่างเว่ยเอินก็นั่งนับนอนนับวันรอแล้วรอเล่า ตั
“...”“คุณราชันย์ขา เรามาต่อกันดีกว่าค่ะ อย่าแกล้งมาหยาแบบนี้สิคะ”“ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คะ?”“ฉันบอกว่าให้ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คุณจะมาทำแบบนี้กับมาหยาไม่ได้นะคะ!!”กริ๊ก!ราชันย์ที่ได้ยินเสียงประตูหน้าห้องด้านนอกถูกเปิดออก และคนที่จะมาคงไม่พ้นผู้หญิงที่ทำให้เขาหงุดหงิดจนถึงตอนนี้ เขามองสภาพห้องนอนที่บัดนี้มีเสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่วห้อง“ใส่เสื้อผ้าซะ”ราชันย์ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่น้ำเสียงแสดงออกได้ถึงความหงุดหงิด มาหยาที่ยังมึนงงกับการกระทำของเขาและถูกราชันย์ทิ้งกลางอากาศก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด แต่ก็ยอมไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมอย่างลวก ๆ“พี่พราว”“…..”“พี่พราวหรือเปล่าคะ”“…..”เธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเรียกชื่อใครสักคนที่ไม่เคยได้ยิน เธอหันมาค้อนตามองราชันย์อย่างขอความเห็นว่าเธอควรทำอะไร แต่ราชันย์เองก็ไม่ได้สะทกสะท้านหรือมีท่าทีจะสนใจทั้งตัวเธอหรือเสียงด้านนอก เธอจึงสวมเสื้อผ้าที่เก็บมาสวมอย่างลวก ๆ กระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไปอย่างไม่สบอารมณ์“แกเป็นใคร เข้ามาในห้องราชันย์ได้ยังไง”“คุณต่างหาก เป็นใครคะ”“แกก็ถามแปลก ฉันเดินออกมาจากห้องนอนราชันย์ ก็ต้องเป็นแฟนราชันย์อยู่แ
เธองัดมารยาหญิงที่มีออกมาสุดฤทธิ์เพื่อที่จะปลุกอารมณ์ของผู้ชายเบื้องหน้า เขาเองก็ไม่ให้เธอต้องรอนาน ราชันย์เดินตรงมาหาเธอที่นอนแผ่หลารออยู่บนเตียงอย่างไม่รีบร้อนร่างกายที่กำยำของเขาค่อย ๆ โน้มลงไปคร่อมเธอเอาไว้ ผ้าเช็ดตัวผืนน้อยที่จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่ ถูกนิ้วมือของเธอกระตุกเพียงแค่ครั้งเดียว ก็หลุดออกตามแรงกระชากของเธอมาโดยง่าย เผยให้เห็นจ้าวโลกที่ลุกขึ้นมาชี้หน้าเธออย่างเดือดดาล พร้อมที่จะกระโจนลงถ้ำอย่างไม่ต้องร้องขอเขายังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหน นั่นยิ่งปลุกให้อารมณ์สวาทที่กำลังมาของเธอยิ่งพลุ่งพล่านเข้าไปอีก มาหยาไม่รอให้ราชันย์ได้คิดนาน เธอตวัดเรียวแขนโอบกอดรอบคอของเขา ก่อนจะดันให้ร่างที่เปลือยเปล่าของราชันย์นั้นล้มลงไปนอนแผ่หลาโชว์จ้าวโลกที่เตียงคิงไซต์แทนเธอใช้ความรวดเร็วเข้าประชิดเขาด้วยความช่ำชอง เผลอแค่พริบตาเดียว เธอนั้นก็ได้พาร่างเล็กขึ้นไปนั่งคร่อมทับบดขยี้บนแก่นกายของราชันย์เรียบร้อยแล้ว ชุดเดรสรัดติ้วสีดำที่เธอสวมมา จากที่ว่าสั้นเสมอหูอยู่แล้ว บัดนี้มันถูกเรียวขาที่อ้าออกคร่อมราชันย์ไว้รั้งร่นไปกองอยู่ที่สะโพกของเธออย่างช่วยไม่ได้ เผยให้เห็นชั้นในลายลูกไม้ตัวจิ๋วสีดำที่