บทที่ 19...ธันวาที่อยู่ดูแลกอหญ้าตลอดสามเดือนที่ผ่าน เฝ้าดูพัฒนาการของหลานในท้องอย่างไม่ห่าง เมื่อสองเดือนก่อนปอร์เช่เองก็บินกลับไปเพราะทางบริษัทแจ้งมาว่าโปรเจ็คน้ำหอมตัวใหม่มีปัญหา และคาดว่าคงไม่ได้กลับมาเร็ว ๆ นี้ ทางด้านเขาและเว่ยเอินก็พอจะคุยกันลงรอยขึ้นมาบ้างนิดหน่อย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือครรภ์ของกอหญ้านั้นให้กว่าตัวของเธอมากทำให้เธอนั้นจะเดินเหินอะไรก็ไม่สะดวก“เว่ยเอิน”“ค่ะพี่หญ้า อยากได้อะไรคะ”“พี่เช็คของดูเหมือนจะขาดผ้าห่มเด็กอ่อนไป เว่ยเอินพาคุณธันไปซื้อให้พี่หน่อยได้ไหม”“เว่ยเอินไปคนเดียวก็ได้ ทำไมต้องเอาเขาไปด้วย”“เอาไปคุมเธอไง เดี๋ยวเธอก็เดินซื้อของเยอะเกินจำเป็นอีก จำได้ไหมพี่ให้ไปซื้อชุดเด็กอ่อนอีกสามสี่ชุด เธอดูนั่น กองเป็นยี่สิบสามสิบ จะใส่ทันได้ยังไง”“ก็ตัวไหนก็สวย ตัวไหนก็น่ารักอะ”“ไปเถอะ พี่เพลีย ๆ ว่าจะนอนสักหน่อย ไหน ๆ ก็ไปห้างแล้วซื้อผักกับเนื้อสัตว์มาทิ้งไว้ด้วยก็ดีนะ ให้คุณธันช่วยถือ”“งั้นเดี๋ยวรีบไปรับมานะคะ”เธอมองดูน้องสาวกับคุณธันวาออกนอกบ้านไป ก็เดินมาพับเสื้อผ้าข้าวของเตรียมคลอดใส่ตะกร้าเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะเอนตัวลงนอน เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่เธอเอ
เว่ยเอินพยักหน้ารับเบา ๆ ธันวาก็รีบจ้ำอ้าวเดินไปห้องน้ำทันที เว่ยเอินเดินวนไปมาหน้าห้องคลอดเพื่อรอข่าวดี แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครออกมาเลยสักคน เธอหยิบมือถือมาดูข้อความก็เห็นว่าปอร์เช่เองกำลังบินมาด้วยเครื่องบินส่วนตัว เธอจึงปิดจอมือถือแล้วเก็บลงกระเป๋าทันที“เป็นยังไงบ้าง ยังไม่ออกมาหรอ”“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ท้องแฝดยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบ2ชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งคู่เองก็สลับกับกลับไปนอน และนั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องคลอดยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ คนนี้เว่ย
บทที่ 20...เวลาผ่านไปสองวันที่กอหญ้านอนหลับพักผ่อน ลูกแฝดของเธอยังคงนอนอยู่ในตู้อบ โดยที่ทุกคนผลัดกันไปแอบดูอยู่ทุกวัน เธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นหญิงสาวศีรษะอินที่นั่งปอกผลไม้อยู่ข้าง ๆ อย่างตั้งใจ เธอขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงเรียกหญิงสาวที่เธอนั้นเห็นว่าเป็นน้องสาวไปแล้วด้วยน้ำเสียงที่บางเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน“เว่ยเอิน”“ตื่นแล้วหรอพี่หญ้า … หิวไหม พี่กินน้ำไหม”“อื้อ”“ค่อย ๆ นะ”“คนอื่นไปไหนกันหมดหรอ”“อ่อ สองคนนั้นกำลังถกเถียงกันเรื่องชื่อของเด็ก ๆ พอหาข้อสรุปกันไม่ได้ก็วิ่งแจ้นกันไปดูเด็ก ๆ ที่ห้องอบแล้วค่ะ”“เดี๋ยวสักพักพี่ต้องลงไปที่ฝ่ายทะเบียนใช่ไหม”“เรื่องนี้คุณราชันย์จัดการเรียบร้อยหมดแล้วค่ะ”“ปอร์เช่ยอมหรอ”“ทีแรกก็ไม่ยอม เว่ยเอินเลยไล่ไปทั้งคู่เลย”“ขอบคุณนะลำบากแย่เลย”“พี่กอหญ้าพักผ่อนให้มาก ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น ถึงสองคนนั้นจะดูพึ่งพาไม่ได้ทะเลาะกันตลอด แต่พอเป็นเรื่องของเด็ก ๆ เขาเข้าขากันดีมาก”“หมอได้บอกไหมว่าจะออกจากตู้อบเมื่อไหร่ พี่อยากไปหาลูก”“หมอแจ้งว่าเบื้องต้นคือหนึ่งสัปดาห์ ถ้าแข็งแรงดีก็กลับได้ แต่ถ้ายังไม่ดีพอก็ต้องอบต่ออีก”“งั้นเราก็ต้องตั้งชื่อเด็ก ๆ แล
ราชันย์ยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่เว่ยเอินเดินออกมาจากห้องพอดี เธอยืนมองราชันย์นิ่งเป็นเชิงสำรวจ ก่อนที่จะฉีกยิ้มจนตาหยีให้เขาก่อน“คุณราชันย์จะลงไปมินิมาร์ทใช่ไหมคะ ไปพร้อมเว่ยเอินไหม”“อ๋อ ได้สิ”หญิงสาวตัวเล็กพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินนำราชันย์เพื่อมารอลิฟต์ที่เธอเพิ่งกดเรียก เธอแอบมองราชันย์หลายครั้งก็เห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาเอาแต่หยิบมือถือขึ้นมาคุยแชตตลอดเวลา จนเมื่อลิฟต์มาถึงเขาเองก็ยังไม่แม้แต่จะขยับออกจากตรงนั้น หญิงสาวโผล่ใบหน้าออกมาจากในลิฟต์เล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปกระตุกแขนเสื้อของราชันย์เบา ๆ เป็นเชิงเรียก นั่นถึงทำให้เขาผละหน้าออกจากมือถือได้สักระยะ ก่อนที่เขาเองจะเดินตามเธอเข้ามายังในลิฟต์“คุณราชันย์มีงานด่วนหรือเปล่าคะ”“หืม?”“เว่ยเอินเห็นคุณราชันย์ทำสีหน้าเครียด ๆ มาสักระยะแล้ว ถ้ามีงานคุณราชันย์กลับไปจัดการก่อนได้นะคะ ส่วนพี่กอหญ้ากับเจ้าหนูแฝดไม่ต้องห่วง ยังมีเว่ยเอินกับพี่ปอร์เช่”“เธอก็ช่างสังเกตเหมือนกันนะ”“แน่นอนค่ะ เพราะเว่ยเอินต้องดูแลพี่หญ้า ปกติก็สังเกตพี่หญ้ามาตลอดเลยชินค่ะ”“ขอบใจนะ ที่ดูแลกอหญ้ามาอย่างดี”“ไม่ต้
บทที่ 21...ราชันย์เดินกลับเข้ามาข้างเตียงคนไข้ที่ในใบหน้าของหญิงสาวหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง เขานั่งลงบนเตียงเล็กน้อย มือหนาลูบไล้ใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน“กอหญ้า ผมต้องกลับไทยสักพักนะ คุณและลูกต้องดูแลตัวเองดี ๆ ระหว่างนี้ผมจะให้ธันวาบินกลับมาดูแลคุณ”เขาก้มลงจุมพิตที่ใบหน้ามนที่นอนอยู่บนเตียงเบา ๆ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เป็นเวลาเดียวกับที่เว่ยเอินเองก็เดินเข้ามาในห้องพอดี“ดูแลพี่สาวของเธอให้ดี ส่วนนี่เบอร์ติดต่อฉัน หากมีอะไรติดต่อฉันได้ตลอด”“คุณราชันย์ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่หญ้ากับเด็ก ๆ เว่ยเอินจะดูแลให้เป็นอย่างดี”“อื้อ”ราชันย์พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกไปทันที ขายาว ๆ ของเขาก้าวฉับ ๆ มายังห้องที่เด็กน้อยทั้งสองของเขานอนอยู่ ห่างกันแค่กระจกใสกั้น เขายืนมองเด็กน้อยในรถเข็นที่มีแสงไฟส่องทั้งสองคันของเขาอย่างโหยหา ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกของเขากำลังบั่นทอนให้จิตใจของเขาไม่อยากออกไปจากที่นี่เลยแม้แต่วินาทีตืด ตืด“ว่าไงธันวา”“เลขาคุณมาคัสแจ้งว่าจะเข้าไปที่โรงงานเอง กำลังบินมาไทย”“อืม ฉันกำลังจะกลับ .. ธันวา นายช่วยกลับมาดูแลกอหญ้าหน่อยได้ไหม”“ทำไมซื้อหวยไม่ถูกวะ ไม่ต้องห่วง เ
หลังจากออกจาก รพ. ทุกคนก็มารวมกันอยู่ที่บ้านกอหญ้าเองก็มีคนช่วยดูเด็ก ๆ โชคดีที่ลูกของเธอทั้งสองไม่งอแงเลย จะมีแค่ร้องเวลาหิวเท่านั้น หลังจากออก รพ. มากอหญ้าเองก็รู้สึกว่าตัวเองอารมณ์แปรปรวนเล็กน้อย เธอรู้สึกตัวว่าตัวเองไม่อยากอาหาร และง่วงนอนตลอดเวลาหลังมื้ออาหารผ่านไปกอหญ้าเข้าไปดูเด็ก ๆ ก็เห็นว่ากำลังนอนหลับตามประสาเด็กแรกเกิด เธอเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นว่าธันวากำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอไม่ได้อยากไร้มารยาทถ้าเธอไม่ได้ยินว่าธันวานั้นพูดคุยกับราชันย์‘ไม่ต้องห่วงกอหญ้า ตอนนี้กลับบ้านแล้วเด็ก ๆ ก็แข็งแรงดีมาก’‘ราชันย์มึงหยุดเป็นห่วงกอหญ้า แล้วหาเวลาพักผ่อนก่อนไหม ถ้าขืนมึงทำงานไม่หลับไม่นอนแบบนี้มันไม่คุ้ม’เมื่อเธอเห็นว่าธันวาวางสายแล้ว เธอเดินออกมายืนข้าง ๆ ธันวา เมื่อธันวาเห็นเธอสีหน้าจากที่เคร่งเครียดก็เปลี่ยนเป็นหันมายิ้มให้เธอทันที ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น กอหญ้ายิ้มให้ธันวาเล็กน้อย เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะเล็กข้าง ๆ“เกิดอะไรขึ้นหรอ ทำไมสีหน้าดูเครียดจัง”“อ่อ ไม่มีอะไรหรอก ที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อย”“อ๋อ แล้วคุณธันวาไม่ไปช่วยคุณราชันย์หรอ”“ไม่ต้องถึงมือผมหรอก
บทที่ 22...แดดอ่อน ๆ ลอดส่องเข้ามาตามช่องว่างของผ้าม่าน กระทบเปลือกตาที่หนักอึ้งของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า เปลือกตาของเธอค่อย ๆ ขยับเปิดขึ้นทันที เธอลุกขึ้นนั่งบิดไล่ความเมื่อยขบเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับเด็กน้อยที่นอนดิ้นดุ๊กดิ๊ก อยู่ข้าง ๆ“อรุณสวัสดิ์ลูกสาว ลูกชายของมี๊”เธอยิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กทั้งสองก่อนจะก้มลงหอมแก้มยุ้ย ๆ ที่โผล่พ้นออกมาจากผ้าห่อตัวเพียงเล็กน้อย ทั้งสองคนยังคงหลับอย่างสบายอารมณ์ตามประสาเด็กแรกเกิด กอหญ้ารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ลูกของเธอไม่ใช่เด็กที่เลี้ยงยากหรืองอแง เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยังนอนหลับเธอก็เตรียมจัดการทำธุระส่วนตัวทันทีอุแว๊!อุแว๊!แต่เหมือนเด็ก ๆ จะไม่คิดเช่นนั้น ยังไม่ทันที่เธอจะเดินก้าวขาเข้าห้องน้ำ เสียงเจ้าหนูก็ร้องขึ้นมาราวกับว่ากลัวแม่จะหายไปอย่างไรอย่างนั้น เธอเดินกลับมาอย่างไม่ต้องคิด อุ้มลูกชายที่ร้องไปอ้าปากงับผ้าไปมานั่งปลายเตียงก่อนจะเปิดเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง พร้อมกับอุ้มให้ลูกชายเข้าเต้า เด็กน้อยลืมตาขึ้นมามองหน้าเธอจ้องตาแป๋ว ถึงแม้จะฟังที่คุณหมอบอกมาบ้างแล้วว่าเด็กเพิ่งคลอดจะมองยังไม่ชัด แต่เธอรู้สึกได
เว่ยเอินที่เห็นว่าราชันย์เองก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร ก็ได้แต่ยักไหล่แล้วเดินหยิบข้าวของไปจัดการให้เป็นที่ โดยที่มีธันวาเดินตามหลังมาเงียบ ๆ เธอจัดการเก็บข้าวของเรียบร้อยก่อนจะบิดซ้ายขวาไล่ความขบเมื่อย ก็ต้องตกใจที่เห็นธันวายกเก้าอี้ที่เธอจำได้ว่ามันเคยถูกวางที่หน้าบ้าน มานั่งไขว่ห้าง จิบน้ำชา จ้องเธอตาเขม็งโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่“ตกใจหมด นึกว่าผีหลอก”“ให้มันน้อย ๆ หน่อย ผีที่ไหนจะหล่อขนาดนี้”“โห คนอะไรชมตัวเองก็เป็น”“ไม่จริงตรงไหนเอาปากกามาวง”“ว่าแต่นายมานั่งทำมะเขือดองอะไรหน้าห้องครัวเนี่ย”“หิวข้าว”“หิวนายก็เข้ามาทำสิ”“อยากกินข้าวผัด”“แล้วนายมาบอกฉันทำไมละ ก็มาทำสิ”“...ทำไม่เป็น”“งั้นก็อดไปซะ เพราะฉันไม่มีทางทำให้นายแน่นอน”“สองร้อย จ้าง”“เงินไม่สามารถซื้อฉันได้นะ”“สามร้อยข้าวผัดจานนึง”“ไม่อะ อดตายไปซะ”“อัลบั้ม Black pink limited ล่าสุดพร้อมลายเซ็น”“จะกินข้าวผัดหมูหรือทะเล”“ทะเล”หลังจากนั้นสาวน้อยตัวกะเปี๊ยกก็อารมณ์ดีหันหลังไปจัดการกับอาหารที่ธันวาต้องการทันที ธันวาที่เห็นภาพความอารมณ์ดีของเธอก็ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ“แล้วจะไปหาที่ไหนให้ละทีนี้ เฮ้อ”ทางด้าน
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ
พิเศษ ตอนที่ 2 | เจ้าแฝดของป๊ามาเฟีย...ในฤดูหนาวของช่วงปลายปี อากาศยามเช้าที่สดชื่นเป็นพิเศษ หลังจากที่เมื่อคืนได้ผ่านพายุหิมะที่ถล่มจนแทบมองไม่เห็นพื้น ต้อนรับยามเช้าที่สดใสด้วยดอกกุหลาบ และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่หญิงสาวได้ลงมือลงแรงปลูกเองกับมือ กำลังบานสะพรั่งต้อนรับแสงตะวัน แม้กลีบดอก กลีบใบบางส่วนจะยังคงถูกปกคลุมด้วยเกล็ดหิมะบางจุดอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็มิสามารถปกปิดความงามของดอกไม้ไว้ได้ลมจากทะเลสาบที่ขยันจะพัดโชยตลอดเวลา กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของทะเลลอยเข้ามาแตะจมูก สร้างความสดชื่นให้กับผู้คนที่อยู่ละแวกนั้น ในห้องนอนของหญิงสาวที่อายุครรภ์ใกล้ครบกำหนดคลอดเข้ามาทุกที กำลังนั่งพับเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เตรียมคลอด พร้อมกับทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างมองดอกไม้ที่อยู่ด้านนอกอย่างสบายอารมณ์ ความสวยงามของธรรมชาติที่เธอบรรจงสร้างขึ้น ถือเป็นความสบายใจของเธอเป็นอย่างมาก ทางด้านของธันวาเองก็ยังคงรายงานสถานการณ์ให้กับราชันย์ทราบอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ราวกับว่าราชันย์เองยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วยอย่างไรอย่างนั้น ทางด้านของเด็กสาวอารมณ์ดีอย่างเว่ยเอินก็นั่งนับนอนนับวันรอแล้วรอเล่า ตั
“...”“คุณราชันย์ขา เรามาต่อกันดีกว่าค่ะ อย่าแกล้งมาหยาแบบนี้สิคะ”“ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คะ?”“ฉันบอกว่าให้ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คุณจะมาทำแบบนี้กับมาหยาไม่ได้นะคะ!!”กริ๊ก!ราชันย์ที่ได้ยินเสียงประตูหน้าห้องด้านนอกถูกเปิดออก และคนที่จะมาคงไม่พ้นผู้หญิงที่ทำให้เขาหงุดหงิดจนถึงตอนนี้ เขามองสภาพห้องนอนที่บัดนี้มีเสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่วห้อง“ใส่เสื้อผ้าซะ”ราชันย์ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่น้ำเสียงแสดงออกได้ถึงความหงุดหงิด มาหยาที่ยังมึนงงกับการกระทำของเขาและถูกราชันย์ทิ้งกลางอากาศก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด แต่ก็ยอมไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมอย่างลวก ๆ“พี่พราว”“…..”“พี่พราวหรือเปล่าคะ”“…..”เธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเรียกชื่อใครสักคนที่ไม่เคยได้ยิน เธอหันมาค้อนตามองราชันย์อย่างขอความเห็นว่าเธอควรทำอะไร แต่ราชันย์เองก็ไม่ได้สะทกสะท้านหรือมีท่าทีจะสนใจทั้งตัวเธอหรือเสียงด้านนอก เธอจึงสวมเสื้อผ้าที่เก็บมาสวมอย่างลวก ๆ กระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไปอย่างไม่สบอารมณ์“แกเป็นใคร เข้ามาในห้องราชันย์ได้ยังไง”“คุณต่างหาก เป็นใครคะ”“แกก็ถามแปลก ฉันเดินออกมาจากห้องนอนราชันย์ ก็ต้องเป็นแฟนราชันย์อยู่แ
เธองัดมารยาหญิงที่มีออกมาสุดฤทธิ์เพื่อที่จะปลุกอารมณ์ของผู้ชายเบื้องหน้า เขาเองก็ไม่ให้เธอต้องรอนาน ราชันย์เดินตรงมาหาเธอที่นอนแผ่หลารออยู่บนเตียงอย่างไม่รีบร้อนร่างกายที่กำยำของเขาค่อย ๆ โน้มลงไปคร่อมเธอเอาไว้ ผ้าเช็ดตัวผืนน้อยที่จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่ ถูกนิ้วมือของเธอกระตุกเพียงแค่ครั้งเดียว ก็หลุดออกตามแรงกระชากของเธอมาโดยง่าย เผยให้เห็นจ้าวโลกที่ลุกขึ้นมาชี้หน้าเธออย่างเดือดดาล พร้อมที่จะกระโจนลงถ้ำอย่างไม่ต้องร้องขอเขายังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหน นั่นยิ่งปลุกให้อารมณ์สวาทที่กำลังมาของเธอยิ่งพลุ่งพล่านเข้าไปอีก มาหยาไม่รอให้ราชันย์ได้คิดนาน เธอตวัดเรียวแขนโอบกอดรอบคอของเขา ก่อนจะดันให้ร่างที่เปลือยเปล่าของราชันย์นั้นล้มลงไปนอนแผ่หลาโชว์จ้าวโลกที่เตียงคิงไซต์แทนเธอใช้ความรวดเร็วเข้าประชิดเขาด้วยความช่ำชอง เผลอแค่พริบตาเดียว เธอนั้นก็ได้พาร่างเล็กขึ้นไปนั่งคร่อมทับบดขยี้บนแก่นกายของราชันย์เรียบร้อยแล้ว ชุดเดรสรัดติ้วสีดำที่เธอสวมมา จากที่ว่าสั้นเสมอหูอยู่แล้ว บัดนี้มันถูกเรียวขาที่อ้าออกคร่อมราชันย์ไว้รั้งร่นไปกองอยู่ที่สะโพกของเธออย่างช่วยไม่ได้ เผยให้เห็นชั้นในลายลูกไม้ตัวจิ๋วสีดำที่