สามวันที่ผ่านมาหนิงชิงกับพ่อวิ่งวุ่นไปดูสวนสมุนไพรช่วยหนิงกุ้ยและสั่งงานเอาไว้ให้คนสวนทั้งห้าคนให้ดูแลสวนดี ๆ เพราะพวกเขาเป็นห่วงหนิงกุ้ยจึงได้มาจัดการเรื่องราวที่สวนให้กับนางนั่นเอง
หลังออกจากสวนแล้วพวกเขาก็ไปสั่งงานที่ร้านของแปลกต่อเรื่องสินค้าที่จะต้องทำในช่วงสี่ห้าวันที่พวกเขาไม่อยู่ ส่วนต้าเจียงก็ถูกฝากให้ดูแลเรื่องที่นี่ช่วยหนิงกุ้ยด้วย อย่างไรเขาก็เป็นพ่อบ้านใหญ่ของนาง หนิงชิงจึงไม่เกรงใจเวลาที่สั่งงานต้าเจียง
ต้าเจียงรับปากคุณหนูใหญ่ว่าจะดูแลร้านทั้งสามช่วยคุณหนูหนิงกุ้ยให้ดีช่วงที่ทุกคนไม่อยู่ จากนั้นหนิงชิงกับพ่อก็ไปสั่งของที่ร้านประจำเพื่อให้มาส่งที่ร้านตามเมนูที่หนิงชิงจดเอาไว้ให้หนิงกุ้ยทำในแต่ละวันพร้อมทั้งจ่ายเงินค่าสินค้าเอาไว้เรียบร้อยเหมือนทุกครั้งที่พวกเขามาสั่งของ หลายปีมานี้พวกเขาไม่ต้องตื่นแต่เช้าไปตลาดเองอีกแล้วเพราะสนิทกับพ่อค้าแม่ค้าเจ้าประจำจึงตกลงเรื่องนี้กันได้ไม่ยาก เหล่าพ่อค้าแม่ค้
หลังอาหารเช้าวันรุ่งขึ้น หนิงกวานขับรถม้า ส่วนเสี่ยวชุ่ย หนิงชิงและหนิงหยางนั่งอยู่ภายในก็ออกเดินทางโดยมีบรรดาบ่าวไพร่พร้อมทั้งหนิงกุ้ยยืนส่งอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา พวกเขาไม่ได้ร่ำลาอันใดกันมากมายเพราะต้องรีบออกเดินทางจะได้ไปถึงเมืองสือไว ๆ เพื่อให้หนิงหยางได้พักผ่อนสักหนึ่งวันก่อนสอบ นี่เป็นหนิงหยางที่ยืนยันว่าจะไปก่อนวันสอบเพียงหนึ่งวันเท่านั้น คนอื่น ๆ จึงต้องตามใจเขา หนิงกุ้ยหลังจากส่งครอบครัวเดินทางแล้วนางก็บอกให้บ่าวไพร่กลับไปทำหน้าที่ของตนเอง ส่วนพวกนางก็รอลูกค้าที่จะเข้ามาทานอาหารเช้าในวันนี้กันอยู่ นี่เพราะหนิงชิงกลัวว่าจะไปถึงเมืองสือช้าเกินไป นางจึงรีบตื่นมาปลุกทุกคนไปกินข้าวที่นางตื่นมาทำตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ทุกคนเห็นนางเร่งรีบเช่นนี้จึงต้องเร่งรีบกันไปตาม ๆ กัน กระทั่งก่อนรุ่งสางจึงได้ออกเดินทางไป ความจริงหนิงกุ้ยก็อยากไปกับทุกคนด้วย น
เจียงเฉิงที่วันนี้ว่างพอดีเนื่องจากเขากรำงานหนักมาหลายวันจึงอยากเห็นหน้าหนิงชิงเพื่อเป็นกำลังใจให้ตนเอง เขาจึงได้มาร้านอาหารเช้าในตอนที่พวกหนิงชิงออกเดินทางกันแล้ว เจียงเฉิงแปลกใจที่เห็นหนิงกุ้ยแทนที่จะเป็นหนิงชิงที่ยืนอยู่หน้าร้านเหมือนทุกวัน เขาจึงได้สอบถามหาหนิงชิงกับนาง“แม่นางหนิงกุ้ย หนิงชิงไปไหนหรือ เหตุใดจึงเป็นเจ้าที่มาขายของหน้าร้านแทนเล่า”“พี่สาวกับคนอื่น ๆ เดินทางไปเมืองสือกันเจ้าค่ะ หนิงหยางจะสอบในอีกไม่กี่วันนี้แล้วพวกเขาจึงได้เร่งเดินทางไปกันเจ้าค่ะ”“อ้าว เหตุใดข้าไม่รู้เรื่องเล่า วันนี้ข้าอุตส่าห์รีบมาแล้วยังไม่ทันพวกเขาอีกหรือนี่ นี่พวกเขาออกไปกันตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ?”“ออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพจะกินอะไรดีเจ้าคะวันนี้” หนิงกุ้ยเองไม่ค่อยสนิทกับแม่ทัพใหญ่ว่าที่พี่เขยนัก นางจึงได้ตัดบทเขาก่อนที่เขาจะสอบถามนางเพิ่มเติมอีก เจียงเฉิ
หนิงชิงกับครอบครัวเดินทางมาถึงเมืองสือก็ใกล้ประตูเมืองปิดอีกแล้ว โชคดีที่ทหารหน้าประตูยังใจดีพอที่จะรอรถม้าของพวกนางวิ่งเข้าเมือง นางให้พ่อจอดให้สินน้ำใจนายทหารทั้งสองนายก่อนจะไปที่ร้านขายของแปลกของพวกเขา ระหว่างทางพวกเขากินแต่ขนมปังมากกว่าเสบียงกรังที่เตรียมมาเสียอีก ยิ่งหนิงหยางยิ่งอยากเอาเข้าไปสอบด้วย เพราะการสอบครั้งนี้ต้องใช้เวลาถึงสามวัน หนิงชิงบอกน้องชายแล้วว่านางจะห่อเอาไว้ให้เขาสักหลายอันเพราะนางซื้อมาเยอะมาก หากหนิงหยางอยากกินรสชาติใดก็บอกนางมานางจะได้เอาออกมาเตรียมไว้ให้ ครอบครัวหนิงเดินทางมาสองวันก็มาถึงเมืองสือแล้ว นับว่าเร็วกว่าที่คาดการเอาไว้ถึงหนึ่งวัน ทำให้หนิงหยางมีเวลาพักผ่อนบ้างก็ยังดี หนิงกวานบังคับรถม้าไปที่ร้านของพวกเขาทันที ไปถึงร้านกำลังจะปิดพอดี บ่าวไพร่พอรู้ว่านายท่านกับครอบครัวมาก็รีบออกมาต้อนรับและไปจัดเตรียมห้องพักให้พวกเขาทันที นี่เป็นเพราะว่าพวกเขามา
ก่อนค่ำพวกเจียงเฉิงก็มาถึงเมืองสือตามกำหนดการจริง ๆ พวกเขาสอบถามนายทหารหน้าประตูเมืองว่าร้านขายของแปลกอยู่ที่ใด เป็นเพราะเจียงเฉิงใจร้อนอยากพบหน้าหนิงชิงไว ๆ นั่นเอง เขาจึงไม่สนใจว่าเขาจะไปนอนโรงเตี๊ยมไหน ทั้งสามคนพอรู้สถานที่แล้วก็เร่งเดินทางต่อไปยังร้านขายของแปลก เมื่อไปถึงพวกเขาก็เห็นคนกำลังจะปิดร้านจึงได้รีบลงจากม้าและถามหาหนิงชิงกับครอบครัว ผู้จัดการร้านพอรู้ว่าคนที่แต่งตัวดีเช่นนี้มาตามหาคุณหนูก็คงจะเป็นคนรู้จักกันกระมัง เขาจึงเข้าไปตามหนิงชิงออกมาที่หน้าร้านเพื่อดูว่ารู้จักกันจริงหรือไม่ หนิงชิงนึกแปลกใจว่าใครมาหานางเวลานี้ ตอนนี้นางกำลังจะกินข้าวเย็นร่วมกับบ่าวไพร่เพราะเหนื่อยจากการไปซื้อของมาทั้งวันแล้ว หนิงกวานเองก็อยากรู้ว่าใครมาเขาจึงออกไปพร้อมกับหนิงชิง เมื่อไปถึงหน้าร้านหนิงชิงก็เห็็นแม่ทัพใหญ่เจียงเฉิงกับคนสนิททั้งสองยืนรออยู่ก็ได
ก่อนที่หนิงชิงจะได้อ้าปากสอบถามพ่อของนาง เสี่ยวชุ่ยที่อดรนทนไม่ไหวก็พูดกับหนิงชิงพร้อมน้ำตาคลอเบ้า“ลูกเอ๋ย ยากนักที่จะหาผู้ชายเช่นท่านแม่ทัพใหญ่ แม่อยากให้เจ้ารับของหมั้นเอาไว้จะได้หรือไม่ลูก ถือว่าเห็นแก่แม่ที่อยากให้เจ้าสุขสบายเถอะนะ ฮึก…”“ท่านแม่อย่าร้องไห้ ตกลง ๆ ข้าจะรับของหมั้นของเขาเจ้าค่ะ แต่ว่าเขาเองก็จะต้องมั่นคงกับข้าเพียงคนเดียวนะเจ้าคะ หากเมื่อใดที่เขาคิดนอกลู่นอกทาง ข้าจะถอนหมั้น หรือไม่หากแต่งงานกันแล้วเขานอกลู่นอกทางอีกข้าก็จะหย่ากับเขา เรื่องนี้ท่านยอมรับหรือไม่เล่าท่านแม่ทัพ”“ข้ายอมรับเงื่อนไขของเจ้าได้ทุกอย่างหนิงชิง ขอเพียงเจ้าเชื่อใจข้าว่าข้าไม่คิดจะมีคนอื่นแน่นอน ฮ่องเต้ทรงให้พระราชโองการเลือกคู่เองกับข้ามาหลายปีแล้ว เรื่องที่ข้าจะมีคนอื่นนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ขอบใจเจ้ามากนะที่เห็นแก่ความรักของข้า” เจียงเฉิงยื่นหยกพกให้กับหนิงชิงและกำชับให้นางเ
ช่วงบ่าย หนิงชิงยังชวนเจียงเฉิงกับคนของเขาไปเดินเล่นร้านค้าอื่นที่นางเล็งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน นางเข้าไปที่ร้านหนังสือเพื่อดูว่ามีเล่มใดเหมาะกับหนิงหยางหรือไม่ เพราะหากเขาสอบผ่าน เขาจะมีตำแหน่งทางการทันที ซึ่งเขาเลือกได้ว่าจะเรียนต่อที่มณฑลหรือจะกลับไปอ่านหนังสือเองที่เมืองกัง นางจึงอยากได้หนังสือดี ๆ ไว้ให้เขา หนิงชิงยังให้เจียงเฉิงช่วยเลือกให้น้องชายนางด้วย เจียงเฉิงรู้ดีว่าการสอบเป็นอย่างไร เขาเลือกหนังสือดี ๆ เกือบสิบเล่มให้กับหนิงชิง นางรับมาพร้อมกับไปจ่ายเงินอย่างไม่คิดอันใด ในเมื่อนางไม่รู้ว่าแนวข้อสอบออกอย่างไร การสอบถามเจียงเฉิงนั้นจะดีที่สุดแน่นอน นางมั่นใจว่าเจียงเฉิงรู้แนวข้อสอบแน่ ๆ เพราะเขาดูเหมือนจะสนิทกับฮ่องเต้จนฝ่าบาทเร่งให้เขากลับเมืองหลวงไปเสียเฉย ๆ เมื่อได้หนังสือแล้วหนิงชิงยังแวะร้านขนม นางซื้อขนมไปฝากคนที่ร้านไม่น้อย ทำเอาคนสนิททั้งสองของเจียงเฉิงแทบจะถือของไม่ไหว หนิงชิงเห็นพ
เจียงเฉิงเดินทางอย่างไม่เร่งรีบตามที่หนิงชิงกำชับเขา เขาเห็นแล้วว่านางเองก็เป็นห่วงเขาเช่นเดียวกัน มันยิ่งทำให้เขากระชุ่มกระชวยมากขึ้นไปอีก ตอนนี้เขาได้นางเป็นคู่หมั้นแล้ว งานที่ค่ายทหารหากกลับไปแล้วพวกรองแม่ทัพทำตามที่เขาบอกเอาไว้เสร็จสิ้น คราวนี้เขาคงต้องเดินทางกลับเมืองหลวงจริง ๆ แล้ว ก่อนที่ฮ่องเต้จะโกรธที่เขาไม่ไปช่วยงาน หนิงหยางที่วันนี้ต้องเข้าห้องสอบก็ตรวจดูสิ่งของต่าง ๆ ที่ท่านแม่กับพี่สาวเตรียมเอาไว้ให้ เมื่อเห็นว่าไม่ลืมสิ่งใดแล้ว หนิงกวานก็ขับรถม้าพาทุกคนไปส่งหนิงหยางที่ที่ว่าการมณฑลซึ่งเป็นสนามสอบ ถึงแม้จะมีเวลาอีกนานกว่าจะถึงเวลาเข้าห้องสอบก็เถอะ แต่พวกเขาคิดว่าคนน่าจะเยอะจึงรีบไปกันก่อน และก็จริงอย่างที่พวกเขาคิด คนที่มาส่งและคนเข้าสอบเริ่มมากันจำนวนไม่น้อยแล้ว หนิงกวานจอดรถม้าเอาไว้ไม่ไกลจากประตูนัก เขาไม่ห่วงว่าจะออกไปลำบาก เขาอยากให้ลูกชายเดินใกล้ที่สุดเท่าน
ครบกำหนดวันสอบของหนิงหยาง หนิงชิงกับพ่อแม่พากันไปรอรับหนิงหยางแต่เช้า พวกเขากลัวว่าคนจะเยอะเหมือนวันมาส่งอีกจึงได้ไปแต่เช้าตรู่ พวกเขาเห็นรถม้าหลายคันเริ่มมาจอดกันแล้วเช่นกัน โชคดีที่พวกเขาได้ที่จอดเป็นที่เดิมที่พวกเขามาส่งหนิงหยางจริง ๆ ตอนนี้เพียงแค่รอให้หนิงหยางออกมาเท่านั้น หนิงชิงยังนำขนมปังมาไว้กินรองท้องมื้อเที่ยงกับพ่อแม่เผื่อว่าหนิงหยางยังไม่ออกมาก่อนตอนเที่ยง พวกเขาไม่รู้ว่าด้านในเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่คุมสอบคุมเข้มมาก คนอื่นที่มารอรับคนของตนเองต่างออกไปยืนรอที่ด้านนอกหลายคน ส่วนพวกหนิงชิงยังคงอยู่ในรถม้า อย่างไรรถม้าพวกเขาก็แตกต่างจากของคนอื่น หนิงหยางจดจำได้ดีอยู่แล้ว ครอบครัวหนิงหยางรอกันอยู่เกือบสองชั่วยามจึงได้เห็นหนิงหยางเดินออกมานอกประตู หนิงชิงโบกมือเรียกน้องชายเสียงดังด้วยกลัวว่าคนเยอะแล้วหนิงหยางจะมองไม่เห็น เมื่อนางเห็นว่าน้องชายหันมามองแล้วจึงได้ลดมือลงแล้วนั่งรอกันที่รถม้าพร้อมรอย
สองปีผ่านไป หนิงชิงตอนนี้ขยายสาขาเพิ่มอีกหนึ่งมณฑลแล้ว กิจการที่นั่นดำเนินไปได้ด้วยดี หนิงชิงแนะนำเทคนิคการวางขายสินค้าทั่วไปเสียก่อนที่จะวางขายสินค้าสั่งทำ เนื่องจากของใช้ทั่วไปคนธรรมดาเองก็สามารถซื้อได้ มันจะทำให้รายได้ของร้านคงที่ได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว ต้าเจียงเองก็ทำหน้าที่พ่อบ้านใหญ่ได้ดีสมกับที่หนิงชิงหวังเอาไว้เช่นเดียวกัน ไม่ว่างานที่จวนหรือที่ร้านเขาก็เป็นผู้ดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ลูก ๆ ของหนิงชิงก็อายุครบสามขวบแล้ว ยิ่งโตพวกเขายิ่งผอมลง ไม่เหมือนตอนเด็กที่อ้วนท้วนกันใหญ่ ฮ่องเต้เองก็มักเรียกหาเหลน ๆ ทั้งสองเข้าวังไปเล่นด้วยอยู่บ่อย ๆ หลัง ๆ มานี้หนิงชิงก็ให้แม่นมพาทั้งสองไปหาเสด็จปู่ของพวกเขาแทนที่นางจะไปเอง เพราะหนิงชิงกลับไปดูงานที่ร้านอีกครั้งแล้ว เมื่อปีก่อนน้องสาวนางก็พาหล
วันนี้กว่าที่พ่อกับแม่ของหนิงชิงจะกลับก็เป็นตอนที่ลูกทั้งสองของนางเข้านอนตอนบ่ายแล้วนั่นเอง พวกท่านยังบอกให้นางดูแลหลานของพวกเขาให้ดี แล้วว่าง ๆ พวกเขาจะมาเยี่ยมใหม่ หลังจากร่ำลากันแล้ว พ่อแม่ของเจียงเฉิงและหนิงชิงก็ส่งพวกเขาขึ้นรถม้าแล้วออกจากจวนไป พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงยังเยินยอพ่อแม่ของหนิงชิงเสียมากมายให้นางฟัง ก่อนที่พวกท่านจะไปพักผ่อนยามบ่ายกันตามปกติ ส่วนหนิงชิงที่วันนี้เหน็ดเหนื่อยกับการจับเจ้าลูกชายที่เพิ่งจะเดินได้มากขึ้นก็อยากกลับไปนอนพักผ่อนเช่นเดียวกัน แม่นมทั้งสองเองก็คอยดูแลคุณชายน้อยทั้งสองเป็นอย่างดี หนิงชิงจึงไม่ได้ห่วงอันใดพวกเขานัก สองวันต่อมา ต้าเจียงนำสมุดบัญชีมาให้หนิงชิงหลังจากที่ต้าเจินลูกชายของเขาเดินทางไปตรวจสอบบัญชีที่ร้านสาขาทั้งสองกลับมาเมื่อวานนี้ เขายังนำตั๋วแลกเงินจำนวนนับหลายหมื่นตำลึงกลับมาให้หนิงชิงด้วย ต
ข่าวที่หนิงชิงได้รับแต่งตั้งเป็นฮูหยินอันดับหนึ่งดังไปทั่วเมืองหลวงในเวลาไม่นาน มีบรรดาฮูหยินขุนนางมากหน้าหลายตาเข้ามาส่งของขวัญแสดงความยินดีกับหนิงชิงมากมายในช่วงเวลาเกือบสองสัปดาห์ที่นางต้องปั้นยิ้มรับของที่ไม่อยากได้เข้าจวน กระทั่งเหล่าฮูหยินมอบของขวัญครบทุกคนแล้วนั่นแหละ หนิงชิงจึงได้ถอนหายใจได้เสียที นางเบื่อการเข้าสังคมจอมปลอมเช่นนี้ที่สุด หากให้นางต้องไปนั่งดื่มชานินทาชาวบ้านล่ะก็นางคงทำไม่ได้ การได้รับความโปรดปรานใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสียหน่อย ข้อเสียก็คือจะมีคนมารบกวนเรามากขึ้นเหมือนที่ผ่านมาอย่างไรเล่า อาหารเย็นวันนี้แม่ของเจียงเฉิงได้สอบถามหนิงชิงว่านางรู้สึกอย่างไรที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในเหล่าฮูหยินขุนนางแล้ว หนิงชิงได้แต่ยิ้มแหยตอบกลับไป“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่เคยคิดหวังที่จะได้รับตำแหน่งนี้มาก่อน ทุกอย่างที่ข้าทำเพื่อเลี้ยงลูกก็เป็นจิตสำนึกของข้าเอง ข้ารู้ว่าฝ่าบ
สามวันต่อมา ราชโองการลงโทษจวนอดีตเสนาบดีกรมพิธีการสั่งการให้คนที่กระทำความผิดถูกประหารรวมทั้งบ่าวไพร่ที่ร่วมมือด้วยก็เช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้เนรเทศไปชายแดนเหนือและห้ามเข้ารับราชการอีกตลอดชีวิต เสนาบดีกรมอาญาน้อมรับราชโองการและแจ้งวันประหารในอีกสามวันถัดไป เพราะพวกเขาต้องคัดคนที่จะถูกเนรเทศออกไปก่อนจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะแยกออกได้ เจียงเฉิงที่ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วก็กลับไปทำงานที่ค่ายทหารเช่นเคย หนิงชิงยังเคยบอกเจียงเฉิงว่าดีที่ตอนนี้ไม่มีศึกสงคราม ทำให้แคว้นพัฒนาไปได้มาก อีกทั้งนางยังไม่ต้องแยกจากสามีด้วยสี่เดือนต่อมา ฮ่องเต้ที่คิดถึงเหลนชายตัวอ้วนก็มีรับสั่งให้คนในจวนแม่ทัพเข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษ วันนี้เจียงเฉิงพอได้รับข่าวก็รีบมาจากค่ายทหารแล้วพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในวัง แ
ไม่ถึงสามวัน คนที่เจียงเฉิงส่งไปสืบเรื่องราวก็รู้ว่าเป็นฮูหยินกับบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการที่ทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เจียงเฉิงพอรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเสนาบดีกรมพิธีการก็ยิ่งแค้นนัก เขาหรือก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เสนาบดีกรมพิธีการกระทำมาก่อน ตอนนี้เขากลับกล้ามาแตะเกล็ดย้อนของเขา คนพวกนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขารักภรรยามากจึงได้ทำเช่นนี้ เจียงเฉิงนั่งคิดอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาจึงให้คนของเขาไปหาหลักฐานการทุจริตหรือการทำชั่วต่าง ๆ ที่คนในจวนเสนาบดีเคยทำมาให้หมด ในเมื่อเป็นเสนาบดีดีดีไม่ชอบ เจียงเฉิงก็จะให้เขากลายเป็นนักโทษไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำเช่นนี้อีก หลังรับคำสั่งแล้วคนของเจียงเฉิงมากกว่ายี่สิบคนก็แยกกันออกไปตามหาเบาะแสเรื่องของเสนาบดีกรมพิธีการทันที พวกเขารู้ดีว่านายน้อยใจร้อนมากเพียงใด หากพวกเขามัวแต่ชักช้า นายน้อยคงสั่งลงโท
คืนนี้หนิงชิงจึงได้นอนหลับอย่างสบายโดยที่สามีไม่ก่อกวนนางจริง ๆ เจียงเฉิงที่ได้แต่กอดภรรยานอน เขาอดหมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กไม่ได้ จึงแอบหอมแก้มนางฟอดใหญ่ก่อนจะหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียเช่นกัน จวนแม่ทัพเลี้ยงดูเด็ก ๆ ได้เกือบห้าเดือนแล้ว ช่วงนี้กลับมีข่าวลือว่าแม่ทัพใหญ่ไปติดพันลูกสาวเสนาบดีกรมพิธีการเสียได้ หนิงชิงไม่รู้ว่าข่าวนี้ใครเป็นคนปล่อย แต่สามีนางน่าจะรู้เรื่องนี้แล้วกระมัง ขนาดนางที่อยู่แต่ในจวนยังรู้เลย เขาที่ไปทำงานทุกวันจะไม่รู้ได้อย่างไร อีกทั้งข่าวลือยังบอกอีกว่าฮ่องเต้สนับสนุนให้แม่ทัพใหญ่มีฮูหยินรองเพื่อจะได้มีทายาทสืบทอดเพิ่มขึ้นอีก ทั้งสัปดาห์มีแต่ข่าวลือเรื่องนี้ ด้านเจียงเฉิงได้แต่โกรธแค้นว่าใครกันเป็นคนปล่อยข่าวบ้า ๆ นี่ออกมา เขาที่ทำงานที่ค่ายทหารงก ๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปยุ่งกับหญิงอื่น อีกทั้งเขายังรักภรรยาคนเดียวด้วย จะมีหญิงใดที่เขาชายตามองในเมืองหลวงบ้างเ
สัปดาห์ต่อมาหลังจากเจียงเฉิงเริ่มจับทางเจ้าอ้วนน้อยทั้งสองได้แล้วว่าจะนอนตอนไหน แผนการเผด็จศึกภรรยาสุดที่รักก็เริ่มขึ้นทันที คืนนั้นเจียงเฉิงอาบน้ำให้ภรรยาพร้อมกับใส่ชุดให้นางแล้วอุ้มไปที่เตียงทันที หนิงชิงเองก็งงกับสามีตัวดีว่าจะทำอันใด ปกตินางก็เดินไปนอนเองอยู่แล้วหลังเขาใส่เสื้อผ้าให้ แต่วันนี้สามีนางมาแปลก เมื่อถึงเตียงแล้วเจียงเฉิงก็เริ่มปฏิบัติการเล้าโลมภรรยาตัวน้อยทันที หนิงชิงที่กว่าจะตั้งสติได้ก็ตอนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหมดแล้ว นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดสามีตัวดีจึงได้ทำตัวแปลก ๆ ที่แท้เขาก็กำลังคิดเรื่องบนเตียงอยู่นั่นเอง หนิงชิงได้แต่กลัวว่าลูกจะตื่นจึงได้บอกเขาทั้งที่นางเองก็พร้อมให้กับสามีที่กำลังเล้าโลมนางอยู่ไม่น้อย เจียงเฉิงกระซิบบอกภรรยาที่รักของเขาว่าลูก ๆ จะยังไม่ตื่นจนกว่าจะอีกหนึ่งชั่วยาม เขาที่จับตาดูลูกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์มั่นใจมาก หนิงชิงที่ได้ยินเช่นนั้นได้แต่บ่นสามีในใจว่าเขาถึงกับดูกิจวัตรประจำวันของเจ้าอ้วนน้อยทั้งสอ
กว่างานเลี้ยงจะเลิกก็เกือบเย็นแล้ว ครอบครัวเจียงเฉิงกับหนิงชิงพากันส่งแขกร่วมกันที่หน้าจวนจนกระทั่งแขกกลับกันหมดแล้ว หนิงกวานก่อนจะกลับจวนเช่นกันก็มอบของเล่นเอาไว้ให้หลาน ๆ เสียหลายอย่าง พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงได้แต่ขอบคุณท่านตาของหลานพวกเขาที่สละเวลาทำของเล่นออกมาเสียมากมาย หนิงกวานได้แต่หัวเราะและบอกว่าพวกเขาเป็นหลานชายตัวอ้วนที่พวกเขามี หากมีสิ่งใดดี ๆ เขาก็อยากมอบให้หลาน ๆ มากกว่าที่จะให้กับคนอื่น หลังจากร่ำลากันได้สักพักพวกหนิงกวานก็ขึ้นรถม้าจากไป ตอนนี้จวนแม่ทัพกลับมาเงียบสงบดังเดิมแล้ว บ่าวไพร่เองต่างก็ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อให้บริเวณงานเลี้ยงสะอาดสะอ้านเหมือนก่อนที่จะจัดงาน พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงที่เหนื่อยมาทั้งวันต่างชวนกันไปพักผ่อน วันนี้พวกเขาเสียเรี่ยวแรงไปมากจริง ๆ เอาไว้พรุ่งนี้พวกเขาค่อยไปเล่นกับหลาน ๆ ก็ยังไม่สาย อย่างไรหลานของพวกเขาก็อยู่ด้วยกันที่จวนอยู่แล้วด้วย ฟากฝ
สิ่งของสำหรับเลือกในครั้งนี้มีทั้งอุปกรณ์การช่างที่หนิงชิงเป็นคนวาง ตำราที่ฮ่องเต้ให้ขันทีวางลงไป ก้อนเงินที่ฮองเฮาประทาน ส่วนของไทเฮานั้นเป็นกุญแจอายุยืนที่นางสั่งร้านเครื่องประดับทำขึ้นมา สิ่งของอื่น ๆ ก็ยังมีของเล่นที่หนิงกวานทำมา มีดไม้แกะสลักก็ยังมี ไหนจะดาบของเล่นที่เจียงเฉิงเป็นคนวางอีกเล่า ยังไม่รวมสิ่งของอื่น ๆ อีกนับสิบอย่างที่มีคนมาวางเอาไว้ให้คุณชายน้อยทั้งสองเลือกอีก เมื่อถึงเวลาเลือกของแล้ว หนิงชิงกับเจียงเฉิงก็วางลูกลงบนกองสิ่งของแล้วให้พวกเขาเลือกมาสักหนึ่งอย่าง ด้านโหย่วเฉียงและคงหมิงได้แต่มองกันตาปริบ ๆ พวกเขารู้เพียงว่าอยากได้สิ่งของมาเล่นเท่านั้น จึงทำให้ทั้งคู่คลานต้วมเตี้ยมวน ๆ หาดูว่าจะเอาสิ่งใดมาเล่นดี โหย่วเฉียงที่เห็นดาบของเล่นก็ชอบใจ เขาเลือกดาบและตำราโดยนำดาบมาฟันตำราเล่นเสียอย่างนั้น การกระทำของเขาทำเอาแขกทั้งหลายมีแต่เสียงหัวเราะเอ็นดูเด็กน้อยกันทั้งนั้น ส่วนคงหมิงนั้นเลือกก้อนเงินและอุปกรณ์แปลก ๆ ของหนิงชิง &nb