หลังจากเร่งเดินทางเกือบหนึ่งเดือน ขบวนเดินทางก็มาถึงเมืองหลวงเสียที ระหว่างทางหนิงชิงกับแม่ยังช่วยพ่อครัวแม่ครัวทำอาหารให้ทุกคนกินอีกด้วย นี่เป็นเพราะหนิงชิงไม่ชอบรสชาติอาหารที่พวกเขาทำ นางคิดว่ามันมันเยิ้มเกินไป อีกทั้งยังหวานไปด้วย หนิงชิงจึงรับหน้าที่ปรุงอาหารกับแม่ของนาง อย่างไรเครื่องปรุงหนิงชิงก็แยกเอาไว้อีกไหหนึ่งสำหรับทำอาหารระหว่างเดินทางไว้แล้ว
บรรดาคนที่ได้กินอาหารที่หนิงชิงทำต่างชมว่าอร่อยกันทุกคน พวกเขาจึงไม่ห้ามฮูหยินแม่ทัพในเรื่องนี้ พวกเขาเพียงแต่คอยเป็นลูกมือให้นางในการทำอาหารเท่านั้น
เมื่อถึงเมืองหลวงแล้ว เจียงเฉิงก็ให้คนของเขาพาพ่อตาแม่ยายรวมทั้งบ่าวไพร่ของหนิงชิงไปที่จวนว่างของเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจวนแม่ทัพนักทันที ตอนนี้ทุกคนเหนื่อยล้ามากแล้วคงอยากพักผ่อน เจียงเฉิงจึงได้ทำเช่นนี้ เขายังบอกภรรยาว่าพรุ่งนี้ค่อยไปหาท่านพ่อท่านแม่ที่จวนใหม่กัน ทำให้หนิงชิงที่เตรียมเงินมาซ
หลังอาหารเช้าวันต่อมา หนิงชิงกับเจียงเฉิงเดินทางไปที่จวนท่านพ่อท่านแม่ของหนิงชิงด้วยกัน คนขับรถม้ารู้ดีว่าจวนแห่งนั้นอยู่ไม่ไกลนักจึงใช้เวลาไม่ถึงเค่อก็มาถึงหน้าจวนแห่งหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่าจวนแม่ทัพใหญ่ แต่ก็ยังถือว่าเป็นจวนที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อย“ท่านให้พ่อกับแม่ข้าพักที่นี่เหรอเจ้าคะ”“ใช่แล้วล่ะ จวนนี้ว่างอยู่และอยู่ไม่ไกลจากจวนของเราด้วย เจ้าคิดว่าดีหรือไม่เล่าภรรยา”“ดีเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมากที่ดูแลครอบครัวข้าเป็นอย่างดี”“เพ้ย!!! เจ้าจะมาขอบคุณข้าทำไมภรรยา ทุกอย่างที่ข้าทำก็ต้องทำเพื่อเจ้าอยู่แล้ว เจ้าเป็นภรรยาของข้า หากข้าไม่ดูแลเจ้าแล้วข้าจะไปดูแลใครเล่า” เจียงเฉิงพูดจบก็ลูบหัวภรรยาตัวน้อยพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู หนิงชิงได้แต่กลอกตาที่เขาเห็นนางเป็นเด็ก ๆ อีกแล้ว จากนั้นทั้งสองก็ลงจากรถม้าแล้วเข้าไปในจวนก็พบกับต้าเจียงที่ทำหน้าที่พ่อบ้านอยู่นั่นเอง“ต้า
หนิงชิงที่ได้ยินเสียงตัดพ้อต่อว่าอย่างเสแสร้งได้แต่กลอกตามองบน นี่นางยังไม่ได้ทำธุระอันใดเลย สามีน่าตายของนางกลับสร้างเรื่องให้นางเสียแล้ว หนิงชิงหันไปถลึงตาใส่เจียงเฉิงจนเขาได้แต่ร้อน ๆ หนาว ๆ ด้วยกลัวว่าภรรยาจะเข้าใจผิด“ท่านพี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันเจ้าคะ เหตุใดจึงได้มาทำตัวเหมือนกับว่ามีความสัมพันธ์กับท่านเล่า” หนิงชิงกัดฟันพูดสอบถามเจียงเฉิงก่อนที่นางจะโกรธมากไปกว่านี้ นางยิ่งรีบ ๆ อยากดูที่ทาง แต่กลับต้องมาเสียเวลาเช่นนี้“ข้าไม่รู้จักนางนะภรรยา นางมาทำตัวเช่นนี้กับข้าเอง ข้าไม่ได้ทำอันใดสักหน่อยเจ้าก็เห็น ภรรยาจ๋าอย่าโกรธ ๆ”“เหตุใดท่านแม่ทัพจึงพูดเช่นนี้เจ้าคะ หลัวหลัวเสียใจจริง ๆ ที่รอคอยท่านแม่ทัพมานานหลายปี ท่านก็ยังไปคว้าเอาผู้หญิงที่ใดก็ไม่รู้มาเป็นภรรยาเช่นนี้ ฮึก…”“อ้าว เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร การที่ข้ากับท่านพี่แต่งงานกันมันเกี่ยวอันใดกั
หลังจากดูพื้นที่ทั้งหมดแล้ว หนิงชิงพอใจมากกับร้านค้าแห่งนี้ นางบอกเจียงเฉิงว่าร้านนี้เหมาะสมที่จะเปิดร้านขายของแปลกของนาง เจียงเฉิงจึงให้กุญแจกับภรรยาทันที เขาบอกว่านางอยากทำสิ่งใดปรับปรุงสิ่งใดในร้านก็สามารถทำได้เลย ร้านนี้เขามอบให้นาง ส่วนโฉนดนั้นเขาจะให้พ่อบ้านเอามาให้นางทีหลัง หนิงชิงขอบคุณสามีของนางพร้อมรอยยิ้มหวาน ๆ ที่เจียงเฉิงชอบ ทำเอาเจียงเฉิงแทบทนไม่ไหวอยากหอมแก้มภรรยาตะหงิด ๆ แต่เขารู้ว่าอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมนัก จึงได้แต่ยิ้มตอบภรรยาและคิดในใจว่าฝากเอาไว้เสียก่อน คืนนี้เขาจะให้รางวัลนางหนัก ๆ เลยเชียว หนิงชิงที่ไม่รู้ว่ารอยยิ้มของนางทำให้เจียงเฉิงคลั่งรักขนาดไหนก็ยังยิ้มอย่างอารมณ์ดี ทั้งสองเดินทางกลับจวนหลังจากปิดประตูร้านเรียบร้อยแล้ว วันนี้หนิงชิงมีความสุขมาก นางคิดจะทำอาหารให้กับทุกคนในจวนกิน จึงได้สอบถามเจียงเฉิงว่านางทำอาหารได้หรือไม่ในมื้อเย็น เจียงเฉิงมีหรือจะปฏิเสธภรรย
เมื่อหนิงชิงบอกว่าต้องการปรับปรุงสิ่งใดบ้าง พี่ชายเจิ้งทั้งสามของนางก็พากันลงมือทำทันที หนิงชิงเองก็ช่วยด้วยเช่นเดียวกันเพื่อความรวดเร็ว ด้านฮวงจิ้งที่ได้ยินข่าวเรื่องฮูหยินแม่ทัพเข้าก็เกิดความสงสัย เขาไม่คิดว่าจะมีคนแซ่หนิงเช่นเขาเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เขาอยากพบนางไม่น้อยแต่ก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลอันใดในการขอเข้าพบ เขาทำงานเป็นขุนนางมาหลายปี แต่ตำแหน่งอยู่เพียงผู้ช่วยเสนาบดีเท่านั้น หลายปีที่ผ่านมาเขายังไม่สามารถสืบหาคนที่ฆ่าล้างตระกูลเขาได้เลยแม้แต่น้อย ทำให้เขาเองท้อแท้เป็นอย่างมาก ผลงานการออกแบบสิ่งของของเขานั้นก็ไม่ได้โดดเด่นอันใดนัก ทำให้ตำแหน่งของเขานั้นไม่ได้ปรับเปลี่ยนมานานนับสิบปีแล้ว ตอนนี้เขาเองก็อายุมากขึ้นทุกวัน ครั้นจะเอาเรื่องในอดีตมาให้ลูก ๆ สานต่อเขาก็ไม่อยากจะทำเช่นนั้น เขายังจำได้ว่าท่านปู่บอกเอาไว้ว่าไม่อยากให้เขาสืบหาเรื่องราวจนตนเองต้องเดือดร้อน ท่านปู่อยากให้เขาใช้ชีวิตให้ดีกับครอบครัวเท่านั้น ฮวงจิ
เมื่อหนิงชิงพาท่านปู่คนนี้มาที่ห้องส่วนตัวแล้ว นางก็ขอตัวไปนำน้ำชากับไปเรียกพ่อของนางที่หลังร้านมาพูดคุยกัน เพราะท่านพ่อนางน่าจะรู้เหตุผลหลายอย่างมากกว่านางว่าเหตุใดท่านปู่ของนางจึงได้เสียไปนานปีแล้ว ฮวงจิ้งนั่งรอไม่นาน เขาก็เห็นชายคนหนึ่งที่หน้าตาคลับคล้ายกับเขาเข้ามาในห้องพร้อมทั้งหนิงชิงที่ถือถาดน้ำชาเข้ามาด้วยกัน หนิงกวานเห็นท่าทีสงสัยของชายชราเบื้องหน้า เขาจึงได้แนะนำตัวว่าเป็นลูกชายของหนิงเจิ้งเอง ฮวงจิ้งพอรู้เข้าก็พยักหน้าให้อย่างเข้าใจ จากนั้นเขาจึงสอบถามเรื่องหนิงเจิ้งจากหนิงกวานหลายเรื่องไม่น้อย หนิงชิงที่วางน้ำชาให้ทุกคนแล้วก็นั่งฟังด้วยเช่นเดียวกัน นางไม่รู้ว่าท่านปู่นางเป็นคนอย่างไร รู้เพียงว่าเขาชอบสมุนไพรจึงได้สอนให้ท่านพ่อของนางทุกอย่างเรื่องสมุนไพร และตอนนี้ก็เป็นหนิงกุ้ยที่รับช่วงต่อการปลูกสมุนไพรต่อจากท่านปู่ของนาง  
ไม่นานนักหนิงชิงก็นำอาหารสี่อย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่างมาพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ นางให้พี่ชายเจิ้งช่วยยกเข้ามาด้วย เพราะมีหลายอย่างทำให้นางยกมาคนเดียวไม่ไหว หลังวางอาหารแล้ว เจิ้งหานก็กลับไปทานข้าวของตนเองเช่นกัน วันนี้คุณหนูใหญ่ลงครัวให้พวกเขา แน่นอนว่าอาหารต้องอร่อยแน่ ๆ ช่วงก่อนหน้านี้ที่ช่วยกันเตรียมเปิดร้านนั้น คุณหนูใหญ่ให้ต้าเจียงไปซื้ออาหารมากินกันแทนการทำอาหารเอง แต่วันนี้คุณหนูน่าจะมีแขกสำคัญ นางจึงได้ลงครัวเองเช่นนี้ ทำให้พวกเขาได้รับอาหารอร่อย ๆ ของนางเช่นเดียวกัน ทั้งสามคนนั่งทานอาหารไปคุยกันไปอย่างสบาย ๆ ฮวงจิ้งยังชมหนิงชิงว่าทำอาหารอร่อยมาก หากนางเปิดร้านอาหารล่ะก็คงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หนิงชิงได้แต่ยิ้มให้ท่านปู่และบอกว่านางเคยเปิดร้านอาหาร แต่ตอนนี้ให้น้องสาวกับท่านป้าทำแทนแล้ว เพราะนางชอบเรื่องงานด้านออกแบบสิ่งของมากกว่า นางจึงอยากทุ่มเทให้กับร้านขายของแปลกทั้งสามสาขาแทน
สามวันต่อมามีคนจากจวนแม่ทัพนำจดหมายมาให้หนิงชิงที่ร้าน นางรีบเปิดอ่านจดหมายทั้งสองฉบับทันที ฉบับแรกเป็นของหนิงกุ้ยที่ส่งข่าวมาว่านางกำลังท้อง ช่วงนี้คงไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมพวกหนิงชิงได้ รวมทั้งเรื่องที่ร้านของหนิงกุ้ยกิจการดีวันดีคืนอีก ทำให้หนิงชิงยิ้มอย่างดีใจแทนน้องสาวที่พวกเขามีลูกเสียที หลังจากแต่งงานกันมานาน ส่วนนางนั้นยังไม่อยากรีบมีลูกมากนัก เพราะกิจการของนางเพิ่งเปิดตัว นางไม่อยากมีภาระเพิ่มเข้ามาจนทำให้การค้าของนางมีปัญหา ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็นของหนิงหยาง เขาบอกว่าเขาศึกษาจนจบทั้งหมดแล้ว และกำลังจะเดินทางมาที่เมืองหลวงพร้อมกับอาจารย์ของเขา หนิงชิงพอรู้ว่าน้องชายจะมานางก็ดีใจมาก นางเคยบอกน้องชายก่อนจะมาที่เมืองหลวงแล้วว่าให้ไปหานางที่ร้านขายของแปลกก่อน แล้วนางจะพากลับไปยังจวนท่านพ่อท่านแม่ ซึ่งที่จวนนั้นมีเรือนหลายเรือนให้น้องชายนางพักผ่อนและอ่านหนังสือได้อย่างสงบ เพราะตอนนี้พวกต้าเจียงย้ายมาอยู่ที่ร้านกันหมดแล้ว ที่จวนจึงมีเ
หนิงหยางเมื่อส่งจดหมายให้พี่สาวแล้วเขากับอาจารย์ก็เตรียมตัวเดินทางไปยังเมืองหลวง สัมภาระของหนิงหยางตลอดเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมายังคงมีเท่าเดิม ที่เพิ่มขึ้นคงมีแต่หนังสือกระมัง หนิงหยางหมั่นไปหาดูหนังสือใหม่ ๆ มาอ่านเพื่อเตรียมความรู้ในการสอบจอหงวนครั้งนี้หลายเล่ม ดีที่พี่สาวของเขาให้เงินเอาไว้ไม่น้อยก่อนไปเมืองหลวง ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนที่ต้องเข้าสอบแล้ว เขาจึงอยากไปเตรียมตัวก่อนการสอบที่เมืองหลวงเสียก่อน ไหนจะระยะเวลาเดินทางที่ต้องใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนหากไม่แวะพักที่ใดเลย หนิงหยางคาดว่าพวกเขาจะใช้เวลาเกือบยี่สิบวันในการเดินทางครั้งนี้ บัณฑิตคนอื่นก็ไปพร้อมกับอาจารย์ของตนเองเช่นเดียวกัน สำหรับหนิงหยางนั้นเอาจารย์เขามีเขาแค่คนเดียวที่เป็นศิษย์สายตรง หนิงหยางจึงไม่อยากทำให้อาจารย์ผิดหวังในการสอบครั้งนี้เช่นกัน อาจารย์ของหนิงหยางเช่ารถม้าเพื่อไปส่งพวกเขาที่เมืองหลวงในราคาปานกลาง
สัปดาห์ต่อมาหลังจากเจียงเฉิงเริ่มจับทางเจ้าอ้วนน้อยทั้งสองได้แล้วว่าจะนอนตอนไหน แผนการเผด็จศึกภรรยาสุดที่รักก็เริ่มขึ้นทันที คืนนั้นเจียงเฉิงอาบน้ำให้ภรรยาพร้อมกับใส่ชุดให้นางแล้วอุ้มไปที่เตียงทันที หนิงชิงเองก็งงกับสามีตัวดีว่าจะทำอันใด ปกตินางก็เดินไปนอนเองอยู่แล้วหลังเขาใส่เสื้อผ้าให้ แต่วันนี้สามีนางมาแปลก เมื่อถึงเตียงแล้วเจียงเฉิงก็เริ่มปฏิบัติการเล้าโลมภรรยาตัวน้อยทันที หนิงชิงที่กว่าจะตั้งสติได้ก็ตอนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหมดแล้ว นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดสามีตัวดีจึงได้ทำตัวแปลก ๆ ที่แท้เขาก็กำลังคิดเรื่องบนเตียงอยู่นั่นเอง หนิงชิงได้แต่กลัวว่าลูกจะตื่นจึงได้บอกเขาทั้งที่นางเองก็พร้อมให้กับสามีที่กำลังเล้าโลมนางอยู่ไม่น้อย เจียงเฉิงกระซิบบอกภรรยาที่รักของเขาว่าลูก ๆ จะยังไม่ตื่นจนกว่าจะอีกหนึ่งชั่วยาม เขาที่จับตาดูลูกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์มั่นใจมาก หนิงชิงที่ได้ยินเช่นนั้นได้แต่บ่นสามีในใจว่าเขาถึงกับดูกิจวัตรประจำวันของเจ้าอ้วนน้อยทั้งสอ
กว่างานเลี้ยงจะเลิกก็เกือบเย็นแล้ว ครอบครัวเจียงเฉิงกับหนิงชิงพากันส่งแขกร่วมกันที่หน้าจวนจนกระทั่งแขกกลับกันหมดแล้ว หนิงกวานก่อนจะกลับจวนเช่นกันก็มอบของเล่นเอาไว้ให้หลาน ๆ เสียหลายอย่าง พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงได้แต่ขอบคุณท่านตาของหลานพวกเขาที่สละเวลาทำของเล่นออกมาเสียมากมาย หนิงกวานได้แต่หัวเราะและบอกว่าพวกเขาเป็นหลานชายตัวอ้วนที่พวกเขามี หากมีสิ่งใดดี ๆ เขาก็อยากมอบให้หลาน ๆ มากกว่าที่จะให้กับคนอื่น หลังจากร่ำลากันได้สักพักพวกหนิงกวานก็ขึ้นรถม้าจากไป ตอนนี้จวนแม่ทัพกลับมาเงียบสงบดังเดิมแล้ว บ่าวไพร่เองต่างก็ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อให้บริเวณงานเลี้ยงสะอาดสะอ้านเหมือนก่อนที่จะจัดงาน พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงที่เหนื่อยมาทั้งวันต่างชวนกันไปพักผ่อน วันนี้พวกเขาเสียเรี่ยวแรงไปมากจริง ๆ เอาไว้พรุ่งนี้พวกเขาค่อยไปเล่นกับหลาน ๆ ก็ยังไม่สาย อย่างไรหลานของพวกเขาก็อยู่ด้วยกันที่จวนอยู่แล้วด้วย ฟากฝ
สิ่งของสำหรับเลือกในครั้งนี้มีทั้งอุปกรณ์การช่างที่หนิงชิงเป็นคนวาง ตำราที่ฮ่องเต้ให้ขันทีวางลงไป ก้อนเงินที่ฮองเฮาประทาน ส่วนของไทเฮานั้นเป็นกุญแจอายุยืนที่นางสั่งร้านเครื่องประดับทำขึ้นมา สิ่งของอื่น ๆ ก็ยังมีของเล่นที่หนิงกวานทำมา มีดไม้แกะสลักก็ยังมี ไหนจะดาบของเล่นที่เจียงเฉิงเป็นคนวางอีกเล่า ยังไม่รวมสิ่งของอื่น ๆ อีกนับสิบอย่างที่มีคนมาวางเอาไว้ให้คุณชายน้อยทั้งสองเลือกอีก เมื่อถึงเวลาเลือกของแล้ว หนิงชิงกับเจียงเฉิงก็วางลูกลงบนกองสิ่งของแล้วให้พวกเขาเลือกมาสักหนึ่งอย่าง ด้านโหย่วเฉียงและคงหมิงได้แต่มองกันตาปริบ ๆ พวกเขารู้เพียงว่าอยากได้สิ่งของมาเล่นเท่านั้น จึงทำให้ทั้งคู่คลานต้วมเตี้ยมวน ๆ หาดูว่าจะเอาสิ่งใดมาเล่นดี โหย่วเฉียงที่เห็นดาบของเล่นก็ชอบใจ เขาเลือกดาบและตำราโดยนำดาบมาฟันตำราเล่นเสียอย่างนั้น การกระทำของเขาทำเอาแขกทั้งหลายมีแต่เสียงหัวเราะเอ็นดูเด็กน้อยกันทั้งนั้น ส่วนคงหมิงนั้นเลือกก้อนเงินและอุปกรณ์แปลก ๆ ของหนิงชิง &nb
เมื่อหนิงชิงอยู่ไฟครบเดือนแล้ว เจียงเฉิงก็ออกอาการเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ ทำเอาหนิงชิงได้แต่ระอา หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนจะครบการอยู่ไฟ เป็นเจียงเฉิงที่พาลูก ๆ มากินนมกับนาง เขาได้แต่ถามว่านมอร่อยไหมอยู่นั่นแหละ แถมยังคิดจะชิมนมจากอกนางเสียอีก จนนางได้แต่บ่นว่าเขาว่าเป็นพ่อประสาอะไรจะมาแย่งลูกกินนม เจียงเฉิงจึงได้แต่ต้องสงบเสงี่ยมเพราะหนิงชิงขู่ว่าจะไม่ให้เขาพาลูกเข้ามาอีกหากยังเอาแต่พูดว่าจะกินนม วันต่อมา หนิงชิงออกไปทานอาหารร่วมกับพ่อแม่สามีดังเช่นปกติ ตอนนี้นางกินทุกอย่างได้เหมือนเดิมแล้ว หนิงชิงดีใจมาก นางเบื่อที่จะต้องกินแต่อาหารรสเปรี้ยวเสียเหลือเกิน ในเมื่อวันนี้เป็นวันแรกที่นางมาร่วมโต๊ะกับทุกคน หนิงชิงก็กินข้าวพร้อมรอยยิ้ม“หนิงชิงจะต้องเข้าร้านอีกหรือเปล่าลูก แม่ว่ารอให้เด็ก ๆ โตกันเสียก่อนดีหรือไม่ เจ้าค่อยเข้าร้าน”“ได้เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเองก็อยากเลี้ยงเขาด้วยตนเองอยู่เหมือนกัน หา
พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงพอได้ยินเช่นนี้ก็พากันดีใจที่หนิงชิงไม่กลัวว่าเต้านมจะบิดเบี้ยวหรือเสียรูปหากให้นมลูกเอง นางกลับยินดีที่จะให้นมเด็ก ๆ จากใจจริง ทำให้พวกเขาที่เป็นปู่กับย่ามือใหม่ได้แต่ยิ้มให้ลูกสะใภ้อย่างขอบคุณที่นางมอบหลานชายอ้วน ๆ ให้พวกเขาถึงสองคน ส่วนเจียงเฉิงที่รู้ว่าเขาต้องแยกห้องนอนกับภรรยาก็งอแงและยินดีจะมาอยู่ไฟเป็นเพื่อนภรรยา หนิงชิงจึงได้แต่เอ็ดสามีตัวดีว่านั่นจะได้อย่างไร นางก็แค่อยู่ไฟเดือนเดียว เขาก็นอนอยู่ห้องข้าง ๆ ไม่เห็นจะมีปัญหาอันใด หากเขาคิดถึงนางก็ไปเล่นกับลูกแทนนางที่ต้องอยู่ไฟเสียก็สิ้นเรื่อง เจียงเฉิงฟังภรรยารักเช่นนี้ก็ได้แต่คอตก เขาอดกอดภรรยาถึงหนึ่งเดือนเลยนะไม่ใช่หนึ่งวัน เจียงเฉิงโอดครวญในใจอย่างไม่ยินยอม แต่จะให้เขาทำอย่างไรได้ หากเขาแอบเข้าห้องภรรยายามค่ำคืนแล้วถูกจับได้ล่ะก็ เขาต้องถูกภรรยาโกรธเป็นแน่ เจียงเฉิงคิดแล้วไม่คุ้มกับการถูกภรรยารักโกรธเคือง
หลังจากเสียงร้องครั้งแรกดังออกไป เสียงร้องอีกครั้งก็ตามมาติด ๆ หนิงชิงอดทนไม่ไหวจริง ๆ กว่าที่จะคลอดเด็กอ้วนท้วนทั้งสองคนออกมาได้ นางรู้สึกโล่งท้องแปลก ๆ อาจเป็นเพราะเด็ก ๆ ทั้งสองอยู่ในท้องนางมานานจนนางเคยชินกระมัง หมอตำแยกับหมอหลวงต่างรีบให้นางกำนัลนำคุณชายน้อยทั้งสองไปทำความสะอาดเพื่อนำออกไปให้คนที่รออยู่ข้างนอกดู ส่วนนางกำนัลอีกส่วนหนึ่งก็ช่วยกันทำความสะอาดภายในห้อง หมอตำแยทั้งสองช่วยกันทำแผลให้กับหนิงชิงอย่างเบามือ หนิงชิงที่หมดสิ้นเรี่ยวแรงได้แต่หลับไปอย่างไม่รู้ตัว หมอหลวงเองก็เข้าไปตรวจว่านางเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อพบว่านางเพียงแต่อ่อนเพลียเท่านั้นเขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หมอตำแยทั้งสองยังคุยกันว่านางคลอดง่ายมากจริง ๆ แสดงว่านางดูแลร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นการคลอดลูกแฝดแบบนี้ต้องใช้เวลานานกว่าเด็กจะออกมาได้ หมอหลวงได้ยินเข้าก็ได้แต่นึกถึงสารพัดยาบำรุงครรภ์ที่ฮ่องเต้ทรง
เดือนที่สามของการทำงานให้ฮองเฮาของหนิงชิงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นางส่งงานครบแล้วจึงได้สบายใจเสียที ตอนนี้ท้องของนางยิ่งขยายใหญ่ขึ้นจนรู้สึกเหมือนลูกจะออกมาได้ทุกเมื่อ ไหนจะเจ้าตัวแสบทั้งสองยังชอบดิ้นกันเป็นชีวิตจิตใจจนนางเจ็บท้องไปหมด แต่เวลาอยู่กับเจียงเฉิงเมื่อไหร่ลูก ๆ ของนางมักจะดิ้นกันเบา ๆ เหมือนกลัวพ่อดุ หนิงชิงไม่รู้ว่าเจียงเฉิงคุยอันใดกับลูกบ้างตอนนางหลับ หนิงกวานที่เห็นว่าส่งงานให้ฮองเฮาครบแล้วจึงไม่ยอมให้ลูกสาวที่ท้องโย้มาที่ร้านอีกจนกว่าจะคลอด หนิงชิงจึงได้แต่หงอยเมื่อพ่อของนางทำหน้าจริงจัง นางเข้าใจว่าทุกคนเป็นห่วง แต่นางชอบอยู่ที่ร้านมากกว่านั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่เรือนนี่นา หนิงชิงคิดที่จะอ้าปากอ้อนพ่อของนางแต่กลับถูกเขาเบรกเสียหัวทิ่มว่าเรื่องนี้เป็นท่านแม่ที่ฝากท่านพ่อมาบอกนาง ตอนนี้หนิงชิงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องอยู่เรือนรอวันคลอดเท่านั้นแล้ว
หนิงชิงคุมงานที่ร้านได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ระหว่างสัปดาห์นางก็ให้คนไปส่งสินค้าให้ฮองเฮาที่พระราชวัง โดยขันทีประจำพระองค์จะเป็นคนนำทางให้คนของนางนำสินค้าไปจัดวางให้ลูกค้า ตอนนี้สินค้าของฮองเฮาผลิตออกมาจะเป็นสินค้าชิ้นใหญ่สามชิ้นที่นางเพิ่งส่งไป ยังเหลือสินค้าอื่นอีกห้ารายการที่คนของนางจะต้องสร้างขึ้นมา ซึ่งหนิงชิงให้พวกเขาทำสิ่งที่ง่ายและใหญ่ก่อนที่จะทำงานที่ปราณีตชิ้นเล็กชิ้นอื่น เจียงเฉิงที่เห็นหนิงชิงกลับบ้านตรงเวลาก็เบาใจมากขึ้น เขากลัวว่านางจะกลับดึกดื่นอีกเหมือนเมื่อก่อนทั้งที่ยังท้องอยู่ วันนี้เขามีข่าวจากราชสำนักเรื่องปู่ของนางมาบอกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องเครื่องจักรที่นางไปช่วยแก้ไขนั่นแหละ เจียงเฉิงคิดว่าหนิงชิงน่าจะอยากรู้ว่าฝ่าบาทพอใจหรือไม่ ระหว่างทานอาหาร เจียงเฉิงเล่าให้หนิงชิงฟังถึงความดีความชอบของท่านปู่นางว่าได้รับเลื่อนขั้นอีกครึ่งขั้นจนเกือบได้เป็นเสนาบดีกรมก
หนิงชิงยังอธิบายรายละเอียดของสินค้าแต่ละชิ้นว่านางต้องการให้เจิ้งหานพิถีพิถันแค่ไหน เนื่องจากสินค้าพวกนี้จะถูกนำไปใช้ในวังหลัง ลวดลายต่าง ๆ จึงต้องทำออกมาให้แตกต่างกันเพื่อที่ฮองเฮาจะได้พึงพอใจ จากปกติที่ร้านจะรับสลักเฉพาะลูกค้าที่สั่งจำเพาะเจาะจงเท่านั้น แต่หนิงชิงพิจารณาแล้วว่าสินค้าล็อตนี้จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุด ถึงจะส่งช้าก็ไม่เป็นไร ขอแค่มีความปราณีตเพิ่มขึ้นมากกว่างานที่เคยทำมาก็พอ ซึ่งเจิ้งหานก็รับปากคุณหนูใหญ่ว่าเขาจะทำตามที่นางสั่งทุกอย่าง ขอให้นางอย่ากังวล หนิงชิงฟังเจิ้งหานแล้วก็ค่อยคลายใจลงหน่อย งานนี้นางคงต้องมาคุมงานเองเสียแล้ว ติดที่ว่าสามีนางจะว่าอย่างไรหรือไม่หากนางมานั่งคุมงานทุกวันที่ร้าน แต่หนิงชิงคิดว่าเจียงเฉิงน่าจะไม่ว่าอันใด ในเมื่อนางแค่นั่งดูเฉย ๆ ไม่ได้ลงมือทำงานด้วยตนเองอย่างที่เขากังวล เจิ้งหานรับใบสั่งงานจากหนิงชิงและเริ่มทำงานชิ้นแรกทันทีที่ได้